รีวิวนี้จะเป็น Acer Nitro 5 รุ่นปี 2019 ได้สเปกเป็น Intel Core i5-8300H + NVIDIA GeForce GTX 1050 พร้อมได้ RAM 8GB + SSD 512GB ราคาเพียง 19,990 บาท สเปกแรงพอตัว เล่นเกมลื่นไหล นับว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจสำหรับการเลือกซื้อ Gaming Notebook แม้การออกแบบดีไซน์จะเป็นแบบรุ่นก่อนหน้า รวมไปถึงสเปกก็ไม่ได้ใหม่ล่าสุด แต่โดยรวมแล้วถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาไม่ถึง 20,000 บาท สมกับที่ได้ Best Value Gaming Notebook ในช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมา ที่สำคัญยังได้ประกันเทพๆ แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน 3 ปี พร้อมซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมง รวมถึงมีเครื่องสำรองใช้งานระหว่างซ้อมอีกด้วย
สำหรับ Acer Nitro 5 รุ่นนี้ (Acer Nitro 5 AN515-52) ได้สเปกเป็นชิปประมวลผลอย่าง Intel Core i5-8300H ความแรงที่ได้ใกล้เคียงกับ Core i5-9300H รุ่นปัจจุบัน จับคู่มากับการ์ดจอรุ่นยอดนิมยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5 ) ซึ่งดีกว่ารุ่นล่าสุดในแง่ของแรมภายใน เน้นความแรงและคุ้มค่าเป็นหลัก สเปกอื่นๆ อย่างหน่วยความจำแรมได้มาเลยที่ 8GB DDR4 ส่วนที่เก็บข้อมูลก็ติดตั้งมาเลยแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB พร้อมอัพเกรดเพิ่ม HDD 2.5″ ได้ภายหลังด้วย
VDO Review
Specification
Acer Nitro 5 AN515-52 มาพร้อมความคุ้มค่าสุด ด้วยสเปกที่ไม่ได้ล่าสุดแต่ประสิทธิภาพและราคาได้ !!! ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-8300H (2.30 – 4.00 GHz) ทำงานแบบ 4 Core/8 Thread ประสิทธิภาพไว้ใจได้ แรงน้อยกว่า i5-9300H เล็กน้อย พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 PCIe ความจุ 512GB พร้อมรองรับการอัพเกรดใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ SATA 3 เพิ่มอีกด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8 GB แบบ DDR 4 Bus 2666 จำนวน 1 แถว สามารถอัพเกรดได้สูงสุด 32 GB
นอกจากนี้ Acer Nitro 5 AN515-52 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD ความละเอียด 1920 x 1080 พาเนล IPS ให้สีสันที่สวยงามทุกมุมมอง และในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ 2.0 ให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจกว่ารุ่นเดิม ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง DOLBY AUDIO ทำให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขั้นไปอีก ส่วนน้ำหนักจะอยู่ที่ 2.70 กิโลกรัมถือว่าค่อนข้างหนักเลยทีเดียว ถ้าเทียบกับ Gaming Notebook รุ่นใหม่ๆ
ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 1 x USB 3.0, 1 x USB 3.1 Type-C, 2 x USB 2.0, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi Intel Dual Band MU-Mimo มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac แถมมีประกัน On-site Service ถึง 3 ปีเต็ม ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่คุ้มค่าที่สุด ณ เวลานี้อีกรุ่นเลยทีเดียว ด้วยราคาเพียง 19,990 บาทเท่านั้น
Hardware / Design
ดีไซน์ของตัวเครื่อง Acer Nitro 5 รุ่นที่นำมารีวิว ต้องบอกว่าเป็นโครงสร้างบอดี้เหมือนกับตัว Acer Nitro 5 รุ่นก่อนปัจจุบัน ที่เน้นรูปทรงภายนอกดูสมัยที่ดูคล้ายยานอวกาศ วัสดุหลักทั้งตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นฝาหลังหรือตัวตรงฐานคีย์บอร์ดวัสดุจะเป็นพลาสติกเกรดดีสีดำลายคาร์บอนไฟเบอร์ งานประกอบเนี้ยบ ดูดีจริงๆ เน้นเรียบง่าย โดยสีสันจะเป็นโทนดำตัดกับสีแดงตามสไตล์ Gaming ดุดัน ซึ่งฝาบนจะโลโก้คำว่า Acer สีดำคมเข้มไม่ธรรมดา ผิวฝาบนก็มีสีดำทำลายคาร์บอร์นไฟเบอร์ ผิวสากๆ ไม่เรียบ เวลาจับฝาบนจะได้ไม่เป็นรอยนิ้วมือ
ทางด้านหลังตัวเครื่องก็จะมีช่องระบายความร้อน 1 ช่องขนาดใหญ่ทางซ้ายเห็นเป็นลักษณะของฟินสีดำสนิท ส่วนช่องทางขวาจะเป็นช่องที่ดีไซน์คล้ายกันเป็นตะแกรงสีดำ แต่ไม่มีพัดลมติดตั้งอยู่ พร้อมแกนฝาพับจะเป็นสีแดง พร้อมมีตัวอักษรเขียนไว้ว่า Nitro แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ซึ่งดูสวยงามโดดเด่นมากเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนคู่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ (ตามที่ Acer เคลมไว้) พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย
รวมไปถึง Acer Nitro 5 เครื่องนี้นั้นพร้อมกับฝาใต้เครื่องที่สามารถจะแกะอัพเกรดตัวเครื่องออกมาได้สะดวก ทั้งอัพเกรด HDD หรือ Ram ก็ทำได้ง่าย เพียงไขน็อตตัวเดียวแล้วแกะออกก็สามารถทำการอัพเกรดได้แล้ว แต่ถ้าหากจะอัพเกรด SSD คงจะยากสักหน่อยเพราะต้องแกะฝาหลังเครื่องออกทั้งหมดเลยนั่นเอง ถ้าคนไม่เชี่ยวชาญคงต้องให้ทางร้านให้ช่างทำให้แล้วละครับ
ส่วนการอัพเกรดแรมและฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ในอนาคตนั้น Acer Nitro 5 รุ่นนี้เราไม่จำเป็นต้องถอดฝาล่างของตัวเครื่องออกมาทั้งหมด แต่แกะเพียงฝาของแรมและฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ที่แยกอิสระต่อกันได้เลย วัสดุของฝาหลังนี้ก็เป็นพลาสติกเกรดดี พื้นผิวเป็นแบบสากๆ ทำให้หยิบจำแล้วไม่ลื่นไหล พร้อมยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ 4 จุดด้วยกัน ซึ่งมีความมั่นคงดี ซึ่งเมื่อมองไปที่ช่องด้านล่างก็จะพบกับช่องดูดลมเย็นพร้อมกับพัดลม 2 ตัว ส
รุปแล้วสำหรับเรื่องขนาดของ Acer Nitro 5 รวมไปถึงดีไซน์การออกแบบ เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน ซึ่งยังมีการทรงรูปลักษณ์เดิมไว้ เปลี่ยนไปเล็กน้อยเรื่องของลวดลายฝาหลัง รวมไปถึงมิติตัวเครื่องลดลง ทำให้พกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้เล็กมากจนเกินไปเหมือน Gaming Notebook บางรุ่นที่เน้นความบางเบา (จนบางครั้งก็บางเกิน ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดีนัก) กับน้ำหนักตัวเครื่อง 2.7 กิโลกรัม รวมกับอแดปเตอร์แล้วก็ถือว่าพกพาไปไหนมาได้อยู่ เทียบกับราคาคุ้มค่าก็ถือว่ารับได้อยู่
Keyboard / Touchpad
ตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6 นิ้วนั้นทำให้ทาง Acer Nitro 5 สามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ ที่มาพร้อมปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีแดง รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD จะมีขอบเป็นสีแดงเด่นดูโดดเด่รออกมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ Backlit สีแดง (เปิดปิดได้เท่านั้น ปรับระดับแสงไม่ได้) ที่ให้ความสว่างพอสมควรดูเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความนุ่มติดมือ ปุ่มมีลักษณะโค้งเล็กน้อย รู้สึกได้เลยว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน
ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
Screen / Speaker
Acer Nitro 5 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ซึ่งต้องยอมรับว่ายังเป็นดีไซน์แบบเก่าเห็นถึงขอบจอที่หนาชีดเจนอยู่ โดยบนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง ซึ่งในรุ่นที่เรานำมาทดสอบนั้นจะเป็นรุ่นหน้าจอ Refresh Rate 60Hz โดยไม่มีรุ่น 144Hz ให้เลือกแต่อย่างใด โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก ซึ่งดูรวมๆ แล้งทั้งสีสันและความคมชัดจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Nitro 5 ที่เป็น Gaming Notebook ที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 59% และ Adobe RGB ที่ 44% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอ เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 230 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างกว่าหน้าจอเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว
สรุปสุดท้ายด้วยคะแนนรวมทั้งหมดโดยตัวเครื่อง Acer Nitro 5 รุ่นที่เราได้รีวิวนี้ ก็ได้คะแนนไป 3.0 คะแนน ซึ่งเมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว เทียบกับ Acer Nitro 5 รุ่นเก่าปี 2018 ให้ค่าขอบเขตสีที่น้อยกว่า รวมไปถึงคะแนนรวมก็น้อยกกว่าด้วย แต่ในส่วนของการใช้งานทั่วไปไม่มีผลแต่อย่างใด ถ้าใครไม่ได้นำไปใช้งานระดับมืออาชีพไม่จริงจังมากก็สบายใจอยู่
ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer Nitro 5 นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Waves MaxxAudio ที่ผสานกับ Acer TrueHarmony เพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบส เสียงสนทนา และระดับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งและจากการใช้งานรู้สึกว่าดีกว่ารุ่นเก่าด้วย
Connector / Thin And Weight
Acer Nitro 5 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 1 x USB 3.0 Type-A (เป็นแบบชาร์จเจอร์รองรับการชาร์จไฟไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย), 1 x USB 3.1 Type-C, 2 x USB 2.0, HDMI, SD(XC/HC) Card reader, RJ45 (Gigabit Ethernet) และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามสำหรับ USB 2.0 ที่ให้มา 2 พอร์ตนั้น ถ้าเปลี่ยนเป็น USB 3.0 ไปเลยจะดีมากๆ ตรงนี้ยังเป็นข้อสังเกตุอยู่เหมือนเดิม ไม่ต่างจากรุ่นปีก่อนๆ แต่ถ้าใครไม่ได้คิอะไรมากตรงจุดนี้ก็มองข้ามไปได้อยู่ เพราะจริงๆ ก็มี USB 3.0 Type-A และ USB 3.1 Type-C ให้ใช้งานอยู่
ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ต Wi-Fi ไร้สายมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac รูปแบบมาตราฐานใหม่ที่รองรับสัญญานแบบ 5 GHz และทางด้านการพกพา Acer Nitro 5 ทำได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่อาจะหนาและหนักกว่า Gaming Notebook ประจำปี 2019 รุ่นอื่นๆ นิดหน่อย ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องประมาณ 2.7 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 3.0 กิโลกรัม นับว่าพอที่จะพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อยู่บ้าง
Inside / Upgrade
การแกะงัดอัพเกรดให้กับ Acer Nitro 5 เราจำเป็นต้องแกะฝากล่างของครื่องเสียก่อน ขั้นตอนก็สามารถทำได้ง่าย ซึ่งถ้าเป็นในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์ปกติเพียงแค่ไขน็อตตัวเดียวแล้วแกะฝาออกก็ทำได้แล้ว เพราะเป็นแบบฝาแยกแบบคนละชิ้นไปเลย ซึ่งแรมติดตั้งมาแล้ว 8GB 1 แถว รองรับการใส่เพิ่มอีกแถวทันที กับฮาร์ดดิสก์ 2.5″ SATA 3 ที่อัพเกรดได้เพราะว่างไว้อยู่แล้ว จะใส่เป็น HDD หรือ SSD ก็ได้
ส่วนหากจะแกะเพื่ออัพเกรด SSD M.2 จะทำได้ค่อนข้างยากสักหน่อย (จริงๆ คือใส่มาแล้ว 512GB ไม่ต้องอัพเกรดก็ได้นะ) เพราะต้องทำการถอดฝาล่างทั้งหมด ด้วยการไขน็อตออกทุกตัว น็อตเยอะมาก บวกกับงานประกอบค่อนข้างแน่น ต้องใช้ฝีมือและความใจเย็นในการแกะสักนิดหนึ่งถ้าไม่ชำนาญไม่แนะนำให้แกะเอง สามารถส่งศูนย์บริการพนักงาน Acer จะจัดการให้ฟรีๆ ซึ่งแกะเองไม่หลุดประกัน แต่บริษัทจะไม่รับผิดชอบหากแกะเองแล้วทำพัง ที่สำคัญนอกจากนี้ที่ศูนย์ Acer ยังมีบริการเปลี่ยนซิลิโคนให้ฟรีอีกด้วยนะ สำหรับคนที่ต้องการ
*** ใช้รูปจากอีกบทความ เพราะไม่ได้แกะเครื่องนี้จริงๆ ***
Performance / Software
โดย Acer Nitro 5 รุ่นที่ได้รับมารีวิวมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 8 อย่าง Intel Core i5-8300H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงปี 2018 – ต้นปี 2019 ซึ่งเป็น CPU ที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.3 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.0 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 Buss 2400MHz แบบ 8GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 รุ่นเก่าที่มีแรมขนาด 4 GB แบบ GDDR5 ดีกว่ารุ่นใหม่อย่าง GTX 1050 (3GB DRR5) ที่โดนปรับลดแรมการ์ดจอลงมา
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง Core i5-9300H ก็ทำได้คะแนนน้อยกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงในระดับนึง เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับ GTX 1050 ที่เน้นการทำงานหรือเล่นเกมเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1696 MB/s และเขียนที่ 1443 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,394 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เทียบเคียงกับสเปก Core i5-8300H + GTX 1050 ของ Acer Nitro 5 เองอยู่
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจประมาณนึง โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยประมาณ 30 – 50 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i5-8300H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 ออกมาได้อย่างเต็มที่และเหมาะสม ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 ก็ถือว่าพอได้อยู่ รวมไปถึงติดตั้ง SSD M.2 NMVe มาให้เป็นมาตรฐาน
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้
เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 40 – 60 – 80 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นพอได้อยู่
Acer Nitro 5 มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ NitroSense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า CoolBoots เร่งรอบพัดลมให้สุดที่ 6000 รอบทั้ง 2 ตัว ที่ใช้ระบายความร้อน CPU/GPU เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงการปรับโหมดการใช้งาน เช่นประหยัดพลังงานใช้แบตเตอรี่ก็ต้องเป็น Power Saver และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน NitroSense เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว
นอกจากนี้ทาง Acer Nitro 5 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Acer Nitro 5 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 3750mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 5 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น Acer Nitro 5 เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 60 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมดพัดลมระดับสูงสุดด้วยารปรับเป็น CoolBoots เพื่อให้พัดลมทำงาน 100%
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ไม่เกิน 98 องศาเซลเซียส นับว่าไม่ได้ร้อนจนเกินไปนัก ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 80 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมากับขนาดตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดพกพาง่ายกว่าเดิม สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยโหมด CoolBoots นั่นเอง
Conclusion / Award
เป็นอะไรที่น่าประหลาดใจจริงๆ สำหรับการมาของ Acer Nitro 5 AN515-52 ที่ทาง Acer ประเทศไทยได้ปลุก (Summon) ขึ้นมาจากอดีต ทั้งในส่วนของดีไซน์และสเปก แต่มีการเพิ่ม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB เป็นมาตรฐาน กับราคาที่ตั้งมาได้คุ้มค่าเพียง 19,990 บาท ด้วยชิปประมวลผลอย่าง Intel Core i5-8300H ความแรงที่ได้ใกล้เคียงกับ Core i5-9300H รุ่นปัจจุบัน จับคู่มากับการ์ดจอรุ่นยอดนิมยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5 ) ซึ่งดีกว่ารุ่นล่าสุดในแง่ของแรมภายใน
เน้นความแรงและคุ้มค่าเป็นหลัก สเปกอื่นๆ อย่างหน่วยความจำแรมได้มาเลยที่ 8GB DDR4 ทำให้เปิดเครื่องมาครั้งแรกกับ Windows 10 ก็ลื่นไหลไม่รำคาญใจ พร้อมที่จะติดตั้งและเล่นเกมในทันที รวมไปถึงได้ประกัน On-site Service 3 ปี อย่างที่ Acer Nitro 5 ทุกรุ่นได้ด้วย แม้เป็นรุ่นราคาถูกสุดก็ตามที ซึ่งการเลือกติดตั้ง SSD มาเลย ทำให้ไม่มีอาการค้าง ช้า หน่วง อย่างที่เกิดขึ้นใน Acer Nitro 5 บางรุ่นที่มีเพียงฮาร์ดดิสก์ปกติธรรมดา เพราะถ้าไม่มี SSD ต่อให้สเปกแรงแค่ไหน ประสบการณ์ใช้งานก็แย่อยู่ดี
ผลทดสอบของหน้าจอก็จะเห็นว่ามีค่าขอบเขตสีที่ดีแบบกลางๆ อีกทั้งขอบจอก็หนากว่ารุ่นปัจจุบัน ซึ่งอาจจะไม่มีผลต่อการใช้งานทั่วไปใดๆ แต่คาดว่าคงเป็นหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อของเพื่อนๆ เหมือนกัน สำหรับคนที่เอาไปทำงานด้านสีที่จริงจัง ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็เหมือนเดิมๆ ที่ USB 3.0 Type-A มีแค่ 1 ช่อง ส่วน USB 2.0 Type-A ก็มีที่ 2 ช่อง เข้าใจว่าด้วยรูปแบบดีไซน์เดิมๆ คงต้องคงไว้แบบนี้
สำหรับการระบายความร้อนก็นับว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน Gaming Notebook อยู่ คือ ไม่ได้ร้อนเกินไปกว่า 100 องศาเลย ส่วนการ์ดจอก็แค่ 80 องศา เข้าใจว่าทาง Acer ออกแบบมาได้ดีประมาณนึง รองรับกับชิปประมวลผล Intel Core i5-8300H ส่วนการ์ดจอรุ่น GTX 1050 ที่จับคู่กันมา ก็ถือว่าน่าประทับใจ คือได้ทั้งประสิทธิภาพความแรงที่ขับเกมได้ลื่นไหล แน่นอนว่าเพราะมี SSD M.2 NVMe เป็นตัวช่วยที่ดี ทำให้ใช้งานได้แบบสบายๆ ไร้กังวลเลย
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ เน้นให้ประสิทธิภาพต่อราคาคุ้มค่างบประมาณไม่เกิน 20,000 บาท ล่ะก็ Acer Nitro 5 รุ่นนี้ น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว โดยรวมแล้วถือว่ามีความคุ้มค่าพอสมควร เทียบกับ Acer Nitro 5 : AMD Ryzen 5 ที่มีราคาสูงกว่า 2,000 บาท จะเห็นว่าประสิทธิภาพดีกว่าเล็กน้อยในเรื่องของการเล่นเกม (แต่คุณภาพหน้าจอกับความร้อนเป็นรองนะ) พิจารณากันดูอีกทีก็แล้วกัน
ปิดท้ายด้วยไม้เด็ดของทาง Acer ก็คือ On-Site Service 3 ปี และส่งซ่อมศูนย์ด่วนแบบรับภายใน 3 ชั่วโมงจัดเต็มเหมือนเดิม พร้อมมีเครื่องสำรองระหว่างซ่อมด้วย โดดเด่นกว่าทุกแบรนด์จริงๆ เรื่องของบริการหลังการขาย เรียกได้ว่าครบครันเสร็จสรรพในเครื่องเดียวโคตรคุ้ม ยังไงลองให้เป็นตัวเลือก Gaming Notebook ช่วงราคาคุ้มๆ อีกทีก็แล้วกัน แต่โดยส่วนตัวถ้างบถึง Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ปี 2019 ก็จัดตัวใหม่ดีกว่านะ
ข้อดี
- สเปคคุ้มราคาได้ทั้ง Core i5-8300H + GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5)
- แรมขนาด 8GB 1 แถว DDR4 พร้อม SSD M.2 NVMe 512GB
- ประสิทธิภาพต่อราคาีความคุ้มค่า งบประมาณไม่เกิน 20,000 บาท
- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 แท้ ใช้งานได้ทันที
- มีโปรแกรม Nitrosense ปรับรอบพัดลมติดตั้งมาให้ในเครื่องเลย
- ระบบระบายความร้อนทำได้ดีประมาณหนึ่ง
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด Full HD
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.0, USB 3.1 Type-C, HDMI
- คีย์บอร์ดมีไฟ Backlit สีแดงตามสไตล์เกมมิ่ง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 5 ชั่วโมง
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
ข้อสังเกต
- คุณภาพหน้าจอให้ค่าขอบเขตสีที่ระดับกลางๆ ของมาตรฐานพาเนล IPS
- ดีไซน์รุ่นก่อน ขอบจอยังหนา ตัวเครื่องยังหนัก พอร์ต USB 2.0 มี 2 ช่อง
- อุณหภูมิชิปประมวลผลร้อนไปหน่อย แต่ไม่มีผลต่อการใช้งาน
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Nitro 5 ปี 2019 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Value
Acer Nitro 5 รุ่นนี้ (Acer Nitro 5 AN515-52) ได้สเปกเป็นชิปประมวลผลอย่าง Intel Core i5-8300H ความแรงที่ได้ใกล้เคียงกับ Core i5-9300H รุ่นปัจจุบัน จับคู่มากับการ์ดจอรุ่นยอดนิมยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5 ) ซึ่งดีกว่ารุ่นล่าสุดในแง่ของแรมภายใน เน้นความแรงและคุ้มค่าเป็นหลัก สเปกอื่นๆ อย่างหน่วยความจำแรมได้มาเลยที่ 8GB DDR4 ส่วนที่เห็บข้อมูลก็ติดตั้งมาเลยแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB พร้อมอัพเกรดเพิ่ม HDD 2.5″ ได้ภายหลังด้วย กับราคา 19,990 บาท ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ แล้วล่ะ
VDO Review
Specification
Acer Nitro 5 AN515-52 มาพร้อมความคุ้มค่าสุด ด้วยสเปกที่ไม่ได้ล่าสุดแต่ประสิทธิภาพและราคาได้ !!! ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-8300H (2.30 – 4.00 GHz) ทำงานแบบ 4 Core/8 Thread ประสิทธิภาพไว้ใจได้ แรงน้อยกว่า i5-9300H เล็กน้อย พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 PCIe ความจุ 512GB พร้อมรองรับการอัพเกรดใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ SATA 3 เพิ่มอีกด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8 GB แบบ DDR 4 Bus 2666 จำนวน 1 แถว สามารถอัพเกรดได้สูงสุด 32 GB
นอกจากนี้ Acer Nitro 5 AN515-52 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD ความละเอียด 1920 x 1080 พาเนล IPS ให้สีสันที่สวยงามทุกมุมมอง และในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ 2.0 ให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจกว่ารุ่นเดิม ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง DOLBY AUDIO ทำให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขั้นไปอีก ส่วนน้ำหนักจะอยู่ที่ 2.70 กิโลกรัมถือว่าค่อนข้างหนักเลยทีเดียว ถ้าเทียบกับ Gaming Notebook รุ่นใหม่ๆ
ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 1 x USB 3.0, 1 x USB 3.1 Type-C, 2 x USB 2.0, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi Intel Dual Band MU-Mimo มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac แถมมีประกัน On-site Service ถึง 3 ปีเต็ม ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่คุ้มค่าที่สุด ณ เวลานี้อีกรุ่นเลยทีเดียว ด้วยราคาเพียง 19,990 บาทเท่านั้น
Hardware / Design
ดีไซน์ของตัวเครื่อง Acer Nitro 5 รุ่นที่นำมารีวิว ต้องบอกว่าเป็นโครงสร้างบอดี้เหมือนกับตัว Acer Nitro 5 รุ่นก่อนปัจจุบัน ที่เน้นรูปทรงภายนอกดูสมัยที่ดูคล้ายยานอวกาศ วัสดุหลักทั้งตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นฝาหลังหรือตัวตรงฐานคีย์บอร์ดวัสดุจะเป็นพลาสติกเกรดดีสีดำลายคาร์บอนไฟเบอร์ งานประกอบเนี้ยบ ดูดีจริงๆ เน้นเรียบง่าย โดยสีสันจะเป็นโทนดำตัดกับสีแดงตามสไตล์ Gaming ดุดัน ซึ่งฝาบนจะโลโก้คำว่า Acer สีดำคมเข้มไม่ธรรมดา ผิวฝาบนก็มีสีดำทำลายคาร์บอร์นไฟเบอร์ ผิวสากๆ ไม่เรียบ เวลาจับฝาบนจะได้ไม่เป็นรอยนิ้วมือ
ทางด้านหลังตัวเครื่องก็จะมีช่องระบายความร้อน 1 ช่องขนาดใหญ่ทางซ้ายเห็นเป็นลักษณะของฟินสีดำสนิท ส่วนช่องทางขวาจะเป็นช่องที่ดีไซน์คล้ายกันเป็นตะแกรงสีดำ แต่ไม่มีพัดลมติดตั้งอยู่ พร้อมแกนฝาพับจะเป็นสีแดง พร้อมมีตัวอักษรเขียนไว้ว่า Nitro แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ซึ่งดูสวยงามโดดเด่นมากเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนคู่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ (ตามที่ Acer เคลมไว้) พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย
รวมไปถึง Acer Nitro 5 เครื่องนี้นั้นพร้อมกับฝาใต้เครื่องที่สามารถจะแกะอัพเกรดตัวเครื่องออกมาได้สะดวก ทั้งอัพเกรด HDD หรือ Ram ก็ทำได้ง่าย เพียงไขน็อตตัวเดียวแล้วแกะออกก็สามารถทำการอัพเกรดได้แล้ว แต่ถ้าหากจะอัพเกรด SSD คงจะยากสักหน่อยเพราะต้องแกะฝาหลังเครื่องออกทั้งหมดเลยนั่นเอง ถ้าคนไม่เชี่ยวชาญคงต้องให้ทางร้านให้ช่างทำให้แล้วละครับ
ส่วนการอัพเกรดแรมและฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ในอนาคตนั้น Acer Nitro 5 รุ่นนี้เราไม่จำเป็นต้องถอดฝาล่างของตัวเครื่องออกมาทั้งหมด แต่แกะเพียงฝาของแรมและฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ที่แยกอิสระต่อกันได้เลย วัสดุของฝาหลังนี้ก็เป็นพลาสติกเกรดดี พื้นผิวเป็นแบบสากๆ ทำให้หยิบจำแล้วไม่ลื่นไหล พร้อมยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ 4 จุดด้วยกัน ซึ่งมีความมั่นคงดี ซึ่งเมื่อมองไปที่ช่องด้านล่างก็จะพบกับช่องดูดลมเย็นพร้อมกับพัดลม 2 ตัว ส
รุปแล้วสำหรับเรื่องขนาดของ Acer Nitro 5 รวมไปถึงดีไซน์การออกแบบ เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน ซึ่งยังมีการทรงรูปลักษณ์เดิมไว้ เปลี่ยนไปเล็กน้อยเรื่องของลวดลายฝาหลัง รวมไปถึงมิติตัวเครื่องลดลง ทำให้พกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้เล็กมากจนเกินไปเหมือน Gaming Notebook บางรุ่นที่เน้นความบางเบา (จนบางครั้งก็บางเกิน ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดีนัก) กับน้ำหนักตัวเครื่อง 2.7 กิโลกรัม รวมกับอแดปเตอร์แล้วก็ถือว่าพกพาไปไหนมาได้อยู่ เทียบกับราคาคุ้มค่าก็ถือว่ารับได้อยู่
Keyboard / Touchpad
ตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6 นิ้วนั้นทำให้ทาง Acer Nitro 5 สามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ ที่มาพร้อมปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีแดง รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD จะมีขอบเป็นสีแดงเด่นดูโดดเด่รออกมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ Backlit สีแดง (เปิดปิดได้เท่านั้น ปรับระดับแสงไม่ได้) ที่ให้ความสว่างพอสมควรดูเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความนุ่มติดมือ ปุ่มมีลักษณะโค้งเล็กน้อย รู้สึกได้เลยว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน
ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
Screen / Speaker
Acer Nitro 5 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ซึ่งต้องยอมรับว่ายังเป็นดีไซน์แบบเก่าเห็นถึงขอบจอที่หนาชีดเจนอยู่ โดยบนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง ซึ่งในรุ่นที่เรานำมาทดสอบนั้นจะเป็นรุ่นหน้าจอ Refresh Rate 60Hz โดยไม่มีรุ่น 144Hz ให้เลือกแต่อย่างใด โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก ซึ่งดูรวมๆ แล้งทั้งสีสันและความคมชัดจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Nitro 5 ที่เป็น Gaming Notebook ที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 59% และ Adobe RGB ที่ 44% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอ เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 230 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างกว่าหน้าจอเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว
สรุปสุดท้ายด้วยคะแนนรวมทั้งหมดโดยตัวเครื่อง Acer Nitro 5 รุ่นที่เราได้รีวิวนี้ ก็ได้คะแนนไป 3.0 คะแนน ซึ่งเมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว เทียบกับ Acer Nitro 5 รุ่นเก่าปี 2018 ให้ค่าขอบเขตสีที่น้อยกว่า รวมไปถึงคะแนนรวมก็น้อยกกว่าด้วย แต่ในส่วนของการใช้งานทั่วไปไม่มีผลแต่อย่างใด ถ้าใครไม่ได้นำไปใช้งานระดับมืออาชีพไม่จริงจังมากก็สบายใจอยู่
ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer Nitro 5 นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Waves MaxxAudio ที่ผสานกับ Acer TrueHarmony เพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบส เสียงสนทนา และระดับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งและจากการใช้งานรู้สึกว่าดีกว่ารุ่นเก่าด้วย
Connector / Thin And Weight
Acer Nitro 5 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 1 x USB 3.0 Type-A (เป็นแบบชาร์จเจอร์รองรับการชาร์จไฟไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย), 1 x USB 3.1 Type-C, 2 x USB 2.0, HDMI, SD(XC/HC) Card reader, RJ45 (Gigabit Ethernet) และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามสำหรับ USB 2.0 ที่ให้มา 2 พอร์ตนั้น ถ้าเปลี่ยนเป็น USB 3.0 ไปเลยจะดีมากๆ ตรงนี้ยังเป็นข้อสังเกตุอยู่เหมือนเดิม ไม่ต่างจากรุ่นปีก่อนๆ แต่ถ้าใครไม่ได้คิอะไรมากตรงจุดนี้ก็มองข้ามไปได้อยู่ เพราะจริงๆ ก็มี USB 3.0 Type-A และ USB 3.1 Type-C ให้ใช้งานอยู่
ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ต Wi-Fi ไร้สายมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac รูปแบบมาตราฐานใหม่ที่รองรับสัญญานแบบ 5 GHz และทางด้านการพกพา Acer Nitro 5 ทำได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่อาจะหนาและหนักกว่า Gaming Notebook ประจำปี 2019 รุ่นอื่นๆ นิดหน่อย ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องประมาณ 2.7 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 3.0 กิโลกรัม นับว่าพอที่จะพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อยู่บ้าง
Inside / Upgrade
การแกะงัดอัพเกรดให้กับ Acer Nitro 5 เราจำเป็นต้องแกะฝากล่างของครื่องเสียก่อน ขั้นตอนก็สามารถทำได้ง่าย ซึ่งถ้าเป็นในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์ปกติเพียงแค่ไขน็อตตัวเดียวแล้วแกะฝาออกก็ทำได้แล้ว เพราะเป็นแบบฝาแยกแบบคนละชิ้นไปเลย ซึ่งแรมติดตั้งมาแล้ว 8GB 1 แถว รองรับการใส่เพิ่มอีกแถวทันที กับฮาร์ดดิสก์ 2.5″ SATA 3 ที่อัพเกรดได้เพราะว่างไว้อยู่แล้ว จะใส่เป็น HDD หรือ SSD ก็ได้
ส่วนหากจะแกะเพื่ออัพเกรด SSD M.2 จะทำได้ค่อนข้างยากสักหน่อย (จริงๆ คือใส่มาแล้ว 512GB ไม่ต้องอัพเกรดก็ได้นะ) เพราะต้องทำการถอดฝาล่างทั้งหมด ด้วยการไขน็อตออกทุกตัว น็อตเยอะมาก บวกกับงานประกอบค่อนข้างแน่น ต้องใช้ฝีมือและความใจเย็นในการแกะสักนิดหนึ่งถ้าไม่ชำนาญไม่แนะนำให้แกะเอง สามารถส่งศูนย์บริการพนักงาน Acer จะจัดการให้ฟรีๆ ซึ่งแกะเองไม่หลุดประกัน แต่บริษัทจะไม่รับผิดชอบหากแกะเองแล้วทำพัง ที่สำคัญนอกจากนี้ที่ศูนย์ Acer ยังมีบริการเปลี่ยนซิลิโคนให้ฟรีอีกด้วยนะ สำหรับคนที่ต้องการ
*** ใช้รูปจากอีกบทความ เพราะไม่ได้แกะเครื่องนี้จริงๆ ***
Performance / Software
โดย Acer Nitro 5 รุ่นที่ได้รับมารีวิวมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 8 อย่าง Intel Core i5-8300H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงปี 2018 – ต้นปี 2019 ซึ่งเป็น CPU ที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.3 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.0 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 Buss 2400MHz แบบ 8GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 รุ่นเก่าที่มีแรมขนาด 4 GB แบบ GDDR5 ดีกว่ารุ่นใหม่อย่าง GTX 1050 (3GB DRR5) ที่โดนปรับลดแรมการ์ดจอลงมา
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง Core i5-9300H ก็ทำได้คะแนนน้อยกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงในระดับนึง เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับ GTX 1050 ที่เน้นการทำงานหรือเล่นเกมเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1696 MB/s และเขียนที่ 1443 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,394 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เทียบเคียงกับสเปก Core i5-8300H + GTX 1050 ของ Acer Nitro 5 เองอยู่
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจประมาณนึง โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยประมาณ 30 – 50 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i5-8300H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 ออกมาได้อย่างเต็มที่และเหมาะสม ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 ก็ถือว่าพอได้อยู่ รวมไปถึงติดตั้ง SSD M.2 NMVe มาให้เป็นมาตรฐาน
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้
เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 40 – 60 – 80 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นพอได้อยู่
Acer Nitro 5 มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ NitroSense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า CoolBoots เร่งรอบพัดลมให้สุดที่ 6000 รอบทั้ง 2 ตัว ที่ใช้ระบายความร้อน CPU/GPU เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงการปรับโหมดการใช้งาน เช่นประหยัดพลังงานใช้แบตเตอรี่ก็ต้องเป็น Power Saver และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน NitroSense เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว
นอกจากนี้ทาง Acer Nitro 5 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Acer Nitro 5 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 3750mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 5 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น Acer Nitro 5 เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 60 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมดพัดลมระดับสูงสุดด้วยารปรับเป็น CoolBoots เพื่อให้พัดลมทำงาน 100%
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ไม่เกิน 98 องศาเซลเซียส นับว่าไม่ได้ร้อนจนเกินไปนัก ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 80 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมากับขนาดตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดพกพาง่ายกว่าเดิม สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยโหมด CoolBoots นั่นเอง
Conclusion / Award
เป็นอะไรที่น่าประหลาดใจจริงๆ สำหรับการมาของ Acer Nitro 5 AN515-52 ที่ทาง Acer ประเทศไทยได้ปลุก (Summon) ขึ้นมาจากอดีต ทั้งในส่วนของดีไซน์และสเปก แต่มีการเพิ่ม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB เป็นมาตรฐาน กับราคาที่ตั้งมาได้คุ้มค่าเพียง 19,990 บาท ด้วยชิปประมวลผลอย่าง Intel Core i5-8300H ความแรงที่ได้ใกล้เคียงกับ Core i5-9300H รุ่นปัจจุบัน จับคู่มากับการ์ดจอรุ่นยอดนิมยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5 ) ซึ่งดีกว่ารุ่นล่าสุดในแง่ของแรมภายใน
เน้นความแรงและคุ้มค่าเป็นหลัก สเปกอื่นๆ อย่างหน่วยความจำแรมได้มาเลยที่ 8GB DDR4 ทำให้เปิดเครื่องมาครั้งแรกกับ Windows 10 ก็ลื่นไหลไม่รำคาญใจ พร้อมที่จะติดตั้งและเล่นเกมในทันที รวมไปถึงได้ประกัน On-site Service 3 ปี อย่างที่ Acer Nitro 5 ทุกรุ่นได้ด้วย แม้เป็นรุ่นราคาถูกสุดก็ตามที ซึ่งการเลือกติดตั้ง SSD มาเลย ทำให้ไม่มีอาการค้าง ช้า หน่วง อย่างที่เกิดขึ้นใน Acer Nitro 5 บางรุ่นที่มีเพียงฮาร์ดดิสก์ปกติธรรมดา เพราะถ้าไม่มี SSD ต่อให้สเปกแรงแค่ไหน ประสบการณ์ใช้งานก็แย่อยู่ดี
ผลทดสอบของหน้าจอก็จะเห็นว่ามีค่าขอบเขตสีที่ดีแบบกลางๆ อีกทั้งขอบจอก็หนากว่ารุ่นปัจจุบัน ซึ่งอาจจะไม่มีผลต่อการใช้งานทั่วไปใดๆ แต่คาดว่าคงเป็นหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อของเพื่อนๆ เหมือนกัน สำหรับคนที่เอาไปทำงานด้านสีที่จริงจัง ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็เหมือนเดิมๆ ที่ USB 3.0 Type-A มีแค่ 1 ช่อง ส่วน USB 2.0 Type-A ก็มีที่ 2 ช่อง เข้าใจว่าด้วยรูปแบบดีไซน์เดิมๆ คงต้องคงไว้แบบนี้
สำหรับการระบายความร้อนก็นับว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน Gaming Notebook อยู่ คือ ไม่ได้ร้อนเกินไปกว่า 100 องศาเลย ส่วนการ์ดจอก็แค่ 80 องศา เข้าใจว่าทาง Acer ออกแบบมาได้ดีประมาณนึง รองรับกับชิปประมวลผล Intel Core i5-8300H ส่วนการ์ดจอรุ่น GTX 1050 ที่จับคู่กันมา ก็ถือว่าน่าประทับใจ คือได้ทั้งประสิทธิภาพความแรงที่ขับเกมได้ลื่นไหล แน่นอนว่าเพราะมี SSD M.2 NVMe เป็นตัวช่วยที่ดี ทำให้ใช้งานได้แบบสบายๆ ไร้กังวลเลย
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ เน้นให้ประสิทธิภาพต่อราคาคุ้มค่างบประมาณไม่เกิน 20,000 บาท ล่ะก็ Acer Nitro 5 รุ่นนี้ น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว โดยรวมแล้วถือว่ามีความคุ้มค่าพอสมควร เทียบกับ Acer Nitro 5 : AMD Ryzen 5 ที่มีราคาสูงกว่า 2,000 บาท จะเห็นว่าประสิทธิภาพดีกว่าเล็กน้อยในเรื่องของการเล่นเกม (แต่คุณภาพหน้าจอกับความร้อนเป็นรองนะ) พิจารณากันดูอีกทีก็แล้วกัน
ปิดท้ายด้วยไม้เด็ดของทาง Acer ก็คือ On-Site Service 3 ปี และส่งซ่อมศูนย์ด่วนแบบรับภายใน 3 ชั่วโมงจัดเต็มเหมือนเดิม พร้อมมีเครื่องสำรองระหว่างซ่อมด้วย โดดเด่นกว่าทุกแบรนด์จริงๆ เรื่องของบริการหลังการขาย เรียกได้ว่าครบครันเสร็จสรรพในเครื่องเดียวโคตรคุ้ม ยังไงลองให้เป็นตัวเลือก Gaming Notebook ช่วงราคาคุ้มๆ อีกทีก็แล้วกัน แต่โดยส่วนตัวถ้างบถึง Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ปี 2019 ก็จัดตัวใหม่ดีกว่านะ
ข้อดี
- สเปคคุ้มราคาได้ทั้ง Core i5-8300H + GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5)
- แรมขนาด 8GB 1 แถว DDR4 พร้อม SSD M.2 NVMe 512GB
- ประสิทธิภาพต่อราคาีความคุ้มค่า งบประมาณไม่เกิน 20,000 บาท
- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 แท้ ใช้งานได้ทันที
- มีโปรแกรม Nitrosense ปรับรอบพัดลมติดตั้งมาให้ในเครื่องเลย
- ระบบระบายความร้อนทำได้ดีประมาณหนึ่ง
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด Full HD
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.0, USB 3.1 Type-C, HDMI
- คีย์บอร์ดมีไฟ Backlit สีแดงตามสไตล์เกมมิ่ง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 5 ชั่วโมง
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
ข้อสังเกต
- คุณภาพหน้าจอให้ค่าขอบเขตสีที่ระดับกลางๆ ของมาตรฐานพาเนล IPS
- ดีไซน์รุ่นก่อน ขอบจอยังหนา ตัวเครื่องยังหนัก พอร์ต USB 2.0 มี 2 ช่อง
- อุณหภูมิชิปประมวลผลร้อนไปหน่อย แต่ไม่มีผลต่อการใช้งาน
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Nitro 5 ปี 2019 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Value
Acer Nitro 5 รุ่นนี้ (Acer Nitro 5 AN515-52) ได้สเปกเป็นชิปประมวลผลอย่าง Intel Core i5-8300H ความแรงที่ได้ใกล้เคียงกับ Core i5-9300H รุ่นปัจจุบัน จับคู่มากับการ์ดจอรุ่นยอดนิมยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5 ) ซึ่งดีกว่ารุ่นล่าสุดในแง่ของแรมภายใน เน้นความแรงและคุ้มค่าเป็นหลัก สเปกอื่นๆ อย่างหน่วยความจำแรมได้มาเลยที่ 8GB DDR4 ส่วนที่เห็บข้อมูลก็ติดตั้งมาเลยแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB พร้อมอัพเกรดเพิ่ม HDD 2.5″ ได้ภายหลังด้วย กับราคา 19,990 บาท ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ แล้วล่ะ