ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 เป็น Gaming Notebook สเปกชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ประสิทธิภาพสูง ทำงานร่วมกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti รุ่นใหม่ที่ความแรงจัดเต็ม มารวมตัวกันใน Gaming Notebook เน้นความบางเบาพกพาสะดวก ที่อยู่ในซีรีส์พรีเมียมของ ROG ZEPHYRUS จากที่ก่อนหน้านี้ได้เห็นกันมาบ้างกับ ROG ZEPHYRUS G ที่เน้นความคุ้มค่าใช้สเปกเป็น AMD Ryzen และ ROG ZEPHYRUS S ที่เป็นตัวท็อปสุดใช้สเปกแรงจัดเต็มด้วยการ์ดจอ RTX 2070
สำหรับ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 สนนราคาอยู่ที่ 49,990 บาท โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.9 กิโลกรัม และตัวเครื่องบางเพียง 18.9 มิลลิเมตร ส่วนสเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มาพร้อมกับแรมขนาด 8GB แบบออนบอร์ด ที่สามารถติดตั้งเพิ่มได้อีก 1 แถว อีกทั้งได้ที่เก็บข้อมูลมาเป็นแบบ SSD M.2 PCIe NVMe ความจุ 512GB พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้ได้ทันที ที่สำคัญประกันก็เป็น 2 ปีตามาตรฐาน ASUS ที่สามารถเคลมผ่านทางร้าน 7-11 ได้ และประกันอุบัติเหตุในปีแรกด้วย นับได้ว่าเป็น Gaming Notebook ปี 2019 ที่น่าสนใจมากๆ รุ่นนึง
Specification
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 มีอยู่เพียงรุ่นเดียวสเปกเดียว มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H รุ่นยอดนิยม ทำงานความเร็ว 2.6 – 4.5 GHz แบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด แตกต่างกันที่การติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) ให้ความแรงที่พอเพียงเหลือเฟือในการเล่นเกมทุกเกมบนโลกแบบลื่นไหล ส่วนของแรมมีขนาด 8GB DDR4 Bus 2666MHz มีที่เก็บข้อมูลแบบ M.2 NVMe PCIE 3.0 ความจุ 512GB หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS รองรับ 240Hz 3ms ทำงานมืออาชีพ เล่นเกมตอบสนอง
ความหนาของตัวเครื่อง 18.9 มิลลิเมตร และหนักเพียง 1.9 กิโลกรัม ถ้าลองย้อนเวลากลับไปเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว ใครจะเชื่อละว่าจะมี Gaming Notebook ที่เบาและบางขนาดนี้ออกมาให้เราได้เห็นกัน โดยพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, Mini DisplayPort, HDMI พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 ac 2×2 (Wi-Fi 5) สนนราคา ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 อยู่ที่ 49,990 บาท (ถูกกว่ารุ่นเดิม) ประกัน 2 ปี สามารถเคลมฝากผ่านร้าน 7-11 ได้ และประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรก เพียงแค่ลงทะเบียนในเว็บไซต์เท่านั้น
Hardware / Design
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 เป็นซีรีส์ ROG ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่เน้นความบาง โดยตัวเครื่องบางแค่ 18.9 มิลลิเมตร มาพร้อมน้ำหนักเบาที่ 1.9 กิโลกรัม รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า Gaming Notebook ทั่วไปกับขนาดหน้าจอขอบบางที่ 6.2 มิลลิเมตร ขนาด 15.6″ สัดส่วนเป็น 81% ของพื้นที่หน้าจอทั้งหมด
ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับที่ 240Hz ดีไซน์โดยรวมเน้นความดุดัน แข็งแกร่งสไตล์ ROG ด้วยวัสดุเป็นโลหะพร้อมลวดลายแบบปัดเสี้ยนคล้ายกับ ROG ในหลายๆ รุ่น แต่ดูแล้วมีความสดใหม่กว่า เรียกได้ว่าดูเป็น Gamer สายจริงจังยิ่งขึ้นไปอีกกว่าพวก TUF Gaming FX505 Series
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 เลือกใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะส่วนของชิ้นฝาหลัง ส่วนด้านในเป็นพลาสติกคุณภาพสูง มีความแข็งแรงทนทานประมาณนึง โดยยังคงไว้ซึ่งการออกแบบที่สวยงาม ด้วยเส้นสายที่ทันสมัยและการตกแต่งเสริมความพรีเมียม ระบบระบายความร้อนที่มีความล้ำหน้าทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมของทุกชิ้นส่วน ด้วยการออกแบบและวิศวกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพของ Zephyrus series
ตัวเครื่อง ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 นั้นเป็นทรงแบบเหลี่ยมมุมตลอดทั้งตัวเครื่อง เรียกได้ว่าแทบไม่มีความโค้งเว้าใดๆ ซึ่งดูแล้วมีความสมมาตรลงตัว มาพร้อมกับวัสดุผสมระหว่างอลูมิเนียมและพลาสติกเกรดสูงพร้อมโครงสร้างภายในแบบรังผึงที่แข็งแรงทนทาน มาในโทนดำตัดกับสีเทาเข้ม (Armor Titanium) ขอบของตัวเครื่องรวมไปถึงขอบด้านหลังนั้นถูกออกแบบมุมมาเป็นอย่างดีมีคำว่า ZEPHYRUS
ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องวัสดุพลาสติกที่แข็งแรงงานประกอบเรียบร้อย พร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นอีก 3 ช่องด้านล่างใต้เครื่อง อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก ติดตั้งด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ 4 ช่อง 2 สองพัดลมขนาดใหญ่
พร้อมช่องไล่ฝุ่น Anti-Dust Cooling ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสมขึ้นในอนาคต ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตไม่กี่ตัวจากนั้นค่อยๆ ดึงขึ้น รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของตระกูล ROG ที่เน้นสายเกมเมอร์เป็นหลักด้วยการ์ดจอ GeForce GTX 1660Ti ที่ทรงประสิทธิภาพ แต่ใครจะเอาไปทำงานเบาๆ หรือทำงานหนักๆ รวมไปถึงพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด ทั้งจากฟีเจอร์ ดีไซน์และสเปกแรงล้ำกว่า GTX 10 Series ที่เคยมีมาทั้งหมด
รวมไปถึงหน้าจอก็ใหญ่ที่ 15.6″ แต่ตัวเครื่องเทียบเท่า 14″ ทำให้ใช้งานได้เต็มตามากขึ้น ที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือ มีสติ๊กเกอร์ในส่วนของ Intel Core i Gen 9 และ NVIDIA GeForce ติดมาคู่กันในตำแหน่งใต้คีย์บอร์ดด้านขวาด้วย นับว่าเป็น CPU / GPU ที่จับคู่กันได้ดีเยี่ยม
สรุปสั้นๆ สำหรับการดีไซน์และออกแบบตัวเครื่องของ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ต้องบอกว่า ASUS ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและสวยงามน่าประทับใจ ประกอบกับการดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ที่ต้องการ Gaming Notebook บางเบาได้อย่างลงตัว
ส่งผลให้เสริมประสบการณ์ใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก จากแต่ก่อนแทบเป็นไปไม่ได้ที่ความแรงระดับนี้ จะอยู่บนโน๊ตบุ๊คเล่นเกมตัวเครื่องที่บางและเบาแบบนี้ แต่ตอนนี้ทาง ASUS ทำออกมาได้แล้ว ในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าเดิม หรือถ้าเน้นถูกกว่าก็ลองดูเป็น ZEPHYRUS G ได้
Keyboard / Touchpad
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502ใช้ Per-Key RGB Gaming Keyboard สามารถเปลี่ยนสีทีละปุ่ม ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ และยังปรับแต่ง Macrokeys บนคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในเกมหรือซอฟแวร์ต่างๆ พร้อมแป้นที่ใหญ่พิเศษ โดยพัฒนาและออกแบบมาให้ ASUS ROG โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กันแต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปสุดๆ โดยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร พร้อมเทคโนโลยี OverStroke เพื่อการกดรัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยปุ่ม N-key rollover & anti-ghosting และอายุคีย์บอร์ดที่สามารถกดได้ 20 ล้านครั้ง
ทัชแพดเองขนาดใหญ่แบบซ้อนปุ่ม ซึ่งการใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย ปุ่มนุ่มกดง่าย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก ที่สำคัญมีในส่วนของปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดอย่าง F5 ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับเปลี่ยนโหมดการใช้งานระหว่าง Turbo mode สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับสูงสุด, Silent mode สำหรับเสียงรบกวนที่น้อยที่สุด, และ Balanced mode / Windows เพื่อความสมดุลในการใช้งาน รวมไปถึงมี Manual ก็สามารถปรับตั้งค่าเองได้อีกด้วย
Screen / Speaker
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบเพียง 6.2 มิลลิเมตรทั้งขอบด้านข้างและด้านบนทำให้ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ 240Hz ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไปที่แค่ 60Hz หรือ 120Hz รวมๆ แล้ว ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2019 ทั่วไปมากทีเดียว
ทดสอบหน้าจอของ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ที่แม้จะเป็นพาเนล IPS แต่ก็มีหลายเกรด ฉะนั้นการดูประสิทธิภาพต่างๆ นแต่ละด้านก็สำคัญ ซึ่งด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด จะวัดผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างแม่นยำและเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสัน Gamut เทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 90% และ AdobeRGB 70% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับค่อนข้างไปทางดีทีเดียว มีความแม่นยำและเที่ยงตรงใกล้เคียงกับ sRGB 100% ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพก็สามารถทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องซ้ายแถวกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ 250 cd/m2 แต่สำหรับช่องมุมขวาบนจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 8% ที่ถือว่าค่อนข้างเยอะ ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่อยู่ขอบตัวเครื่องข้างๆ ซ้ายขวา คุณภาพสูง พร้อม Smart Amp เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ระบบเสียงชั้นยอดอีกด้วย ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ให้ขอบเขตเสียงที่กว้าง จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะมีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ก็ตาม ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีมากๆ ทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง ซึ่งหากว่าเพื่อนๆ เป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้
Connector / Thin And Weight
มาดูทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 กันบ้าง ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว โดยตัวพอร์ตจะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่องทั้งหมด มีทั้ง USB 3.1 Type-A (Gen 1) จำนวน 3 พอร์ต, USB 3.1 Gen2 Type-C with DisplayPort 1.4 (รองรับ USB-PD) พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, LAN RJ45 และ HDMI ส่วน Kensington จะอยู่ที่ด้านขวา
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.0 และ Wireless แบบ 802.11 ac (2×2) หรือเรียกว่ามาตราฐาน Wi-Fi 5 ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น ส่วนขนาดของตัวเครื่อง 360 x 252 x 18.0 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.9 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างเบาเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 230 W เข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 2.4 กิโลกรัมเท่านั้น พอแบกพกพาไปไหนมาไหนได้อยู่ไม่หนักมาก ถือมือเดียวก็สบายๆ หยิบจับไปไหนก็สะดวกทีเดียว
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 เพื่อทำการอัพเกรดนั้นทำง่ายมากเพียงแกะน็อตออกทุกตัวแล้วใช้บัตรแข็งๆ ค่อยๆ แงะจากด้านหลังตรงแกนฝาพับตัวเครื่องแล้วค่อยๆ รูดไปตามแนวฝาหลังและแกะแผ่นออกมาทั้งหมด เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีพัดลมขนาดใหญ่ HyperCool พร้อมระบายความร้อนที่มี Anti-Dust Tunnels ที่อยู่ในชุดฟินสีดำ หมดกังวลเรื่องฝุ่นที่ติดตรงครีบระบายความร้อนจุดสังเกตที่เปลี่ยนไปคือตัวเครื่องเลือกใช้ฮีทไปป์ 5 เส้น เรียกได้ว่าเอาอยู่กับสเปกแบบนี้แล้ว
ซึ่งหลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดคือมีช่องใส่ SSD M.2 NVMe มาให้อีก 1 ช่อง โดยเดิมๆ ให้มาแล้ว 1 สล็อตอยู่แล้ว ที่ความจุ 512GB (รวมเป็น 2) ส่วนแรมสามารถอัพเพิ่มได้อีก 1 ช่อง และได้ใส่ได้รวมกันสูงสุด 24 GB (คือใส่ไปอีก 16GB) เพราะแรม 8GB ติดเครื่องมาเป็นแบบฝั่งบอร์ดจากที่เป็น Gaming Notebook บางเบานั่นเอง อีกทั้งไม่รองรับการใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5″ เหมือนกับตัว FX505 อีกด้วย ซึ่งก็เป็นปกติและเป็นอะไรที่รับได้
Performance / Software
โดย ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 อย่าง Intel Core i7-9750H (ว่าที่รุ่นยอดนิยมประจำปี 2019) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.60 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.50 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Thread มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 8GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 มีการนำชิปประมวลผล หรือ CPU รุ่นล่าสุดจาก Intel Core i Gen 9 มาใส่ไว้ใน Gaming Notebook ตัวใหม่นี้ด้วย ทำให้การประมวลผลการทำงานหรือการเล่นเกมของ Gaming Notebook รุ่นใหม่นี้ ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยทำได้มาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 45% มีผลอย่างมากต่อการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลของ CPU หนักๆ เช่น การต่อต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์งาน 3D เป็นต้น
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกตัวแรงระดับรองท็อปอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660Ti ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 1060 แบบรู้สึกได้จากการที่สามารถขับเฟรมเรทได้ลื่นไหล โดยเป็นรอง RTX 2060 และไม่มีฟีเจอร์อย่างที่ใน RTX Series มี แต่ก็ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล Intel Core i5 ก็ทำได้ดีกว่าพอตัว รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ของ Intel ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1368MB/s และเขียนที่ 966MB/s แม้อาจจะไม่ได้เร็วมาก แต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐาน SATA 3 แบบเดิมๆ แล้ว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,613 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้
เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 80 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่
ที่สำคัญด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 240Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 240Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่
นอกเหนือจากนี้ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ยังมี Armory Crate ซอฟต์แวร์ Utility ที่ยกมาจาก ROG รุ่นอื่นๆ ซึ่งรวบรวมเอาฮาร์ดแวร์ต่างๆของ ROG มาไว้บนยูทิลิตี้เดียว ทำให้สามารถเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่าต่างๆ ของระบบ อาทิ ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆตามความชอบเป็นรูปแบบได้หลายโปรไฟล์ ซึ่งการตั้งค่าต่างๆ จะถูกเรียกใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดเกมที่ได้เลือกไว้ Armoury Crate ยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริม Mobile Dashboard สำหรับ Android และ iOS รวมไปถึงความสามารถอื่นๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นจากการอัพเดทในอนาคต
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 4800mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 10 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้
ที่สำคัญยังเป็น Gaming Notebook ที่รองรับ USB Power Delivery (พอร์ตทางขวาของตัวเครื่อง ฟอร์มคือ USB-C) ทำให้ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 สามาถชาร์จไฟจากอุปกรณ์สำรองไฟภายนอกได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องปลั๊กไฟอีกต่อไป รองรับระบบชาร์จเร็วที่สามารถชาร์จไฟกลับให้กับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นได้โดยมีกำลังไฟสูงสุดถึง 3A และยังสามารถพกพาไปทำงานได้ทุกวันด้วยอแดปเตอร์ 65W ขนาดเล็ก ที่เบาและสะดวกสบายยิ่งกว่า หรือแม้แต่ใช้ Power Bank ที่รองรับในการใช้ USB Power Delivery ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 40 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 40 – 45 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมด Turbo
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 89 – 95 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 72 – 80 องศาเซลเซียสโดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดีมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า Gaming Notebook ในสเปกเดียวกัน สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยซอฟต์แวร์จากปกติที่จะเป็นแบบ Balance ก็สามารถทำได้
Conclusion / Award
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ปี 2019 นั้นถือว่าเป็น Gaming Notebook สำหรับการเล่นเกมเน้นความบางเบา พร้อมรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ด้วยการพกพาที่สะดวกสบาย ต่อยอดมาจากรุ่นปี 2019 โดยมีน้ำหนักแค่ 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น อีกทั้งยังมีความบางตัวเครื่องเพียง 18.9 มิลลิเมตร ที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถที่จะใช้งานได้ในระยะยาวโดยน่าจะรองรับกับเกมใหม่ๆ 2 – 3 ปีนี้ได้อย่างสบาย โดยเรื่องดีไซน์ก็มีข้อสังเกตุเล็กๆ น้อยๆ จากการที่ขอบหน้าจอบางมากๆ ทำให้ทาง ASUS เลือกตัดกล้องเว็บแคมออกไปเลย ถ้าใครจะใช้งานต้องหาซื้อมาเชื่อมต่อเอง
การมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่เป็น Core i Gen 9 Coffee Lake บนแรม DDR4 ที่ 8GB และการ์ดจอตัวแรงที่สุดของ GTX อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti สำคัญคือควบคุมความร้อนได้แบบมีเสถียรภาพผ่านชุดระบายความร้อนที่ดีพร้อมช่องไล่ฝุ่น Anti-Dust Cooling ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสมขึ้นในอนาคต ทำให้แม้สเปกจะจัดเต็มเหมือน Gaming Notebook เครื่องหนาๆ หนักๆ ก็สามารถจัดการควบคุมอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี พร้อมใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างน่าประทับใจ ที่ยาวนานกว่า 8 ชั่วโมงในการใช้งานทั่วไป เรียกได้ว่าเล่นเกมก็ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม ส่วนเอาไปใช้งานพกพานอกสถานที่ก็ตอบสนองเป็นอย่างดี
สำหรับ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502คุ้มค่าไม่แพ้ ASUS TUF Gaming FX505 Series ในส่วนของ Gaming Notebook ของ ASUS ตระกูล ROG ที่มีราคาคุ้มค่าเน้นการใช้งานที่หลากหลาย จากการรวมตัวของ Intel และ NVIDIA ผ่านทาง ASUS ที่แบรนด์อื่นสามารถทำตามได้ยาก แม้ตอนนี้ Gaming Notebook ในตลาดที่เป็น AMD + NVIDIA มีเพียง ASUS แบรนด์เดียวเท่านั้น แต่ถ้าใครต้องการโน๊ตบุ๊คเล่นเกมหรือทำงานแรงๆ ในส่วนของชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H นั้นเหนือชั้นกว่า AMD Ryzen 7 3750H อยู่พอตัวทีเดียว (แต่ก็ร้อนกว่านะ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้อยู่ ไม่ได้มีผลต่อการใช้งานอะไร)
จุดเด่นของ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ก็คือ ได้ความเป็น ROG ที่พรีเมียม ตัวเครื่องบางเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน ประสิทธิภาพดีลื่นไหล พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน อย่างที่หาใน Gaming Notebook ราคาถูกอย่าง TUF Gaming ไม่ได้ (รวมไปถึง ZEPHYRUS M ด้วย) ในส่วนของประสิทธิภาพการเล่นเกมก็ดีเยี่ยม เมื่อเทียบกับประสบการณ์การใช้งานที่พกพาไปไหนมาไหนได้ง่ายและสะดวกกว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องหนาๆ แบบสมัยก่อน อย่างไรก็ตามในส่วนของข้อสังเกตุก็มีอยู่ คือในส่วนของ SSD M.2 NVMe มีความเร็วที่น้อยไปหน่อย น่าจะได้ความเร็วระดับ 2xxx MB/s แล้ว รวมไปถึงไม่มีช่อง SD Card Reader เผื่อกรณีคนที่ต้องการใช้งานก็ต้องรับให้ได้ด้วย
จุดเด่น
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจตามสไตล์ ROG งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ขอบหน้าจอบางพิเศษ มิติเทียบเท่ารุ่น 14″ ตัวเครื่องเบา 1.9 กิโลกรัม
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H แรงกว่า AMD Ryzen 7 3750H
- การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti พร้อม OC มาจาก ASUS เล็กน้อย
- แรมขนาด 8GB 1 แถว DDR4 เพียงพอต่อการใช้งาน อัพได้สูงสุด 24 GB
- ติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB
- ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพดีเยี่ยม พร้อมรองรับ 240 Hz
- อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าเย็น ไม่ร้อนจนเกินไป
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง
- มีซอฟต์แวร์ Armory Crate มาช่วยปรับแต่งการใช้งาน
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
- ประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม ประทับใจมาก เมื่อเทียบกับราคา
- ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 และมีประกันอุบติเหตุ 1 ปี
ข้อสังเกต
- SSD M.2 NVMe ที่ติดตั้งมาให้ ความเร็วน้อยไปหน่อย
- ไม่มี SD Card Reader
- แรม 8GB ที่ให้มาเป็นแบบฝังบอร์ด อัพเกรดได้แค่ 1 แถว
- เน้นคุ้มค่าต่อราคา ASUS ROG Strix G531 จ่ายถูกกว่า แต่เครื่องหนากว่า
- ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ROG โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แถมน้ำหนักเบาแค่ 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น โดยตัวเครื่องบางเพียง 18.9 มิลลิเมตรเท่านั้น พกพาได้สะดวกมากๆ
Best Performance
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 สเปคเป็น Intel Core i7-9750H + NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti + จอ IPS 240Hz ขอบหน้าจอบาง + Ram 8 GB + SSD m.2 512GB PCIe + มี Windows 10 แท้ แถมได้การรับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกอีกด้วย ในราคาเพียง 49,900 บาท ที่สำคัญได้ความเป็น ROG Zephyrus ที่พรีเมียม บางเบา เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แบบนี้ รวมไปถึงหน้าจอ IPS พร้อม Refresh Rate 240 Hz แสดงผลภาพดีมาก ทั้งทำงานหรือเล่นเกมก็สมบูรณ์แบบ
Best Mobility
ปัจจัยสำคัญของด้าน Mobility ก็คือขนาดที่กะทัดรัด แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่า 10 ชั่วโมง และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ครอบคลุม ซึ่ง ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ตอบโจทย์ทั้งสามด้านได้อย่างครบถ้วนครับ กับตัวเครื่องบางเบา และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับทั้ง WiFi 802.11ac (2×2) ทั้ง 2.4 และ 5 GHz รวมถึง Bluetooth 5.0 หรือหากต้องการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม ตัวเครื่องก็ยังมีพอร์ตที่ครบครันสำหรับการใช้งานทั่วไปด้วยเช่นกัน
Specification
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 มีอยู่เพียงรุ่นเดียวสเปกเดียว มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H รุ่นยอดนิยม ทำงานความเร็ว 2.6 – 4.5 GHz แบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด แตกต่างกันที่การติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) ให้ความแรงที่พอเพียงเหลือเฟือในการเล่นเกมทุกเกมบนโลกแบบลื่นไหล ส่วนของแรมมีขนาด 8GB DDR4 Bus 2666MHz มีที่เก็บข้อมูลแบบ M.2 NVMe PCIE 3.0 ความจุ 512GB หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS รองรับ 240Hz 3ms ทำงานมืออาชีพ เล่นเกมตอบสนอง
ความหนาของตัวเครื่อง 18.9 มิลลิเมตร และหนักเพียง 1.9 กิโลกรัม ถ้าลองย้อนเวลากลับไปเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว ใครจะเชื่อละว่าจะมี Gaming Notebook ที่เบาและบางขนาดนี้ออกมาให้เราได้เห็นกัน โดยพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, Mini DisplayPort, HDMI พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 ac 2×2 (Wi-Fi 5) สนนราคา ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 อยู่ที่ 49,990 บาท (ถูกกว่ารุ่นเดิม) ประกัน 2 ปี สามารถเคลมฝากผ่านร้าน 7-11 ได้ และประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรก เพียงแค่ลงทะเบียนในเว็บไซต์เท่านั้น
Hardware / Design
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 เป็นซีรีส์ ROG ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่เน้นความบาง โดยตัวเครื่องบางแค่ 18.9 มิลลิเมตร มาพร้อมน้ำหนักเบาที่ 1.9 กิโลกรัม รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า Gaming Notebook ทั่วไปกับขนาดหน้าจอขอบบางที่ 6.2 มิลลิเมตร ขนาด 15.6″ สัดส่วนเป็น 81% ของพื้นที่หน้าจอทั้งหมด
ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับที่ 240Hz ดีไซน์โดยรวมเน้นความดุดัน แข็งแกร่งสไตล์ ROG ด้วยวัสดุเป็นโลหะพร้อมลวดลายแบบปัดเสี้ยนคล้ายกับ ROG ในหลายๆ รุ่น แต่ดูแล้วมีความสดใหม่กว่า เรียกได้ว่าดูเป็น Gamer สายจริงจังยิ่งขึ้นไปอีกกว่าพวก TUF Gaming FX505 Series
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 เลือกใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะส่วนของชิ้นฝาหลัง ส่วนด้านในเป็นพลาสติกคุณภาพสูง มีความแข็งแรงทนทานประมาณนึง โดยยังคงไว้ซึ่งการออกแบบที่สวยงาม ด้วยเส้นสายที่ทันสมัยและการตกแต่งเสริมความพรีเมียม ระบบระบายความร้อนที่มีความล้ำหน้าทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมของทุกชิ้นส่วน ด้วยการออกแบบและวิศวกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพของ Zephyrus series
ตัวเครื่อง ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 นั้นเป็นทรงแบบเหลี่ยมมุมตลอดทั้งตัวเครื่อง เรียกได้ว่าแทบไม่มีความโค้งเว้าใดๆ ซึ่งดูแล้วมีความสมมาตรลงตัว มาพร้อมกับวัสดุผสมระหว่างอลูมิเนียมและพลาสติกเกรดสูงพร้อมโครงสร้างภายในแบบรังผึงที่แข็งแรงทนทาน มาในโทนดำตัดกับสีเทาเข้ม (Armor Titanium) ขอบของตัวเครื่องรวมไปถึงขอบด้านหลังนั้นถูกออกแบบมุมมาเป็นอย่างดีมีคำว่า ZEPHYRUS
ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องวัสดุพลาสติกที่แข็งแรงงานประกอบเรียบร้อย พร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นอีก 3 ช่องด้านล่างใต้เครื่อง อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก ติดตั้งด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ 4 ช่อง 2 สองพัดลมขนาดใหญ่
พร้อมช่องไล่ฝุ่น Anti-Dust Cooling ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสมขึ้นในอนาคต ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตไม่กี่ตัวจากนั้นค่อยๆ ดึงขึ้น รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของตระกูล ROG ที่เน้นสายเกมเมอร์เป็นหลักด้วยการ์ดจอ GeForce GTX 1660Ti ที่ทรงประสิทธิภาพ แต่ใครจะเอาไปทำงานเบาๆ หรือทำงานหนักๆ รวมไปถึงพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด ทั้งจากฟีเจอร์ ดีไซน์และสเปกแรงล้ำกว่า GTX 10 Series ที่เคยมีมาทั้งหมด
รวมไปถึงหน้าจอก็ใหญ่ที่ 15.6″ แต่ตัวเครื่องเทียบเท่า 14″ ทำให้ใช้งานได้เต็มตามากขึ้น ที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือ มีสติ๊กเกอร์ในส่วนของ Intel Core i Gen 9 และ NVIDIA GeForce ติดมาคู่กันในตำแหน่งใต้คีย์บอร์ดด้านขวาด้วย นับว่าเป็น CPU / GPU ที่จับคู่กันได้ดีเยี่ยม
สรุปสั้นๆ สำหรับการดีไซน์และออกแบบตัวเครื่องของ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ต้องบอกว่า ASUS ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและสวยงามน่าประทับใจ ประกอบกับการดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ที่ต้องการ Gaming Notebook บางเบาได้อย่างลงตัว
ส่งผลให้เสริมประสบการณ์ใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก จากแต่ก่อนแทบเป็นไปไม่ได้ที่ความแรงระดับนี้ จะอยู่บนโน๊ตบุ๊คเล่นเกมตัวเครื่องที่บางและเบาแบบนี้ แต่ตอนนี้ทาง ASUS ทำออกมาได้แล้ว ในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าเดิม หรือถ้าเน้นถูกกว่าก็ลองดูเป็น ZEPHYRUS G ได้
Keyboard / Touchpad
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502ใช้ Per-Key RGB Gaming Keyboard สามารถเปลี่ยนสีทีละปุ่ม ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ และยังปรับแต่ง Macrokeys บนคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในเกมหรือซอฟแวร์ต่างๆ พร้อมแป้นที่ใหญ่พิเศษ โดยพัฒนาและออกแบบมาให้ ASUS ROG โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กันแต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปสุดๆ โดยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร พร้อมเทคโนโลยี OverStroke เพื่อการกดรัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยปุ่ม N-key rollover & anti-ghosting และอายุคีย์บอร์ดที่สามารถกดได้ 20 ล้านครั้ง
ทัชแพดเองขนาดใหญ่แบบซ้อนปุ่ม ซึ่งการใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย ปุ่มนุ่มกดง่าย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก ที่สำคัญมีในส่วนของปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดอย่าง F5 ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับเปลี่ยนโหมดการใช้งานระหว่าง Turbo mode สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับสูงสุด, Silent mode สำหรับเสียงรบกวนที่น้อยที่สุด, และ Balanced mode / Windows เพื่อความสมดุลในการใช้งาน รวมไปถึงมี Manual ก็สามารถปรับตั้งค่าเองได้อีกด้วย
Screen / Speaker
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบเพียง 6.2 มิลลิเมตรทั้งขอบด้านข้างและด้านบนทำให้ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ 240Hz ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไปที่แค่ 60Hz หรือ 120Hz รวมๆ แล้ว ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2019 ทั่วไปมากทีเดียว
ทดสอบหน้าจอของ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ที่แม้จะเป็นพาเนล IPS แต่ก็มีหลายเกรด ฉะนั้นการดูประสิทธิภาพต่างๆ นแต่ละด้านก็สำคัญ ซึ่งด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด จะวัดผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างแม่นยำและเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสัน Gamut เทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 90% และ AdobeRGB 70% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับค่อนข้างไปทางดีทีเดียว มีความแม่นยำและเที่ยงตรงใกล้เคียงกับ sRGB 100% ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพก็สามารถทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องซ้ายแถวกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ 250 cd/m2 แต่สำหรับช่องมุมขวาบนจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 8% ที่ถือว่าค่อนข้างเยอะ ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่อยู่ขอบตัวเครื่องข้างๆ ซ้ายขวา คุณภาพสูง พร้อม Smart Amp เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ระบบเสียงชั้นยอดอีกด้วย ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ให้ขอบเขตเสียงที่กว้าง จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะมีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ก็ตาม ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีมากๆ ทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง ซึ่งหากว่าเพื่อนๆ เป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้
Connector / Thin And Weight
มาดูทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 กันบ้าง ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว โดยตัวพอร์ตจะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่องทั้งหมด มีทั้ง USB 3.1 Type-A (Gen 1) จำนวน 3 พอร์ต, USB 3.1 Gen2 Type-C with DisplayPort 1.4 (รองรับ USB-PD) พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, LAN RJ45 และ HDMI ส่วน Kensington จะอยู่ที่ด้านขวา
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.0 และ Wireless แบบ 802.11 ac (2×2) หรือเรียกว่ามาตราฐาน Wi-Fi 5 ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น ส่วนขนาดของตัวเครื่อง 360 x 252 x 18.0 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.9 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างเบาเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 230 W เข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 2.4 กิโลกรัมเท่านั้น พอแบกพกพาไปไหนมาไหนได้อยู่ไม่หนักมาก ถือมือเดียวก็สบายๆ หยิบจับไปไหนก็สะดวกทีเดียว
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 เพื่อทำการอัพเกรดนั้นทำง่ายมากเพียงแกะน็อตออกทุกตัวแล้วใช้บัตรแข็งๆ ค่อยๆ แงะจากด้านหลังตรงแกนฝาพับตัวเครื่องแล้วค่อยๆ รูดไปตามแนวฝาหลังและแกะแผ่นออกมาทั้งหมด เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีพัดลมขนาดใหญ่ HyperCool พร้อมระบายความร้อนที่มี Anti-Dust Tunnels ที่อยู่ในชุดฟินสีดำ หมดกังวลเรื่องฝุ่นที่ติดตรงครีบระบายความร้อนจุดสังเกตที่เปลี่ยนไปคือตัวเครื่องเลือกใช้ฮีทไปป์ 5 เส้น เรียกได้ว่าเอาอยู่กับสเปกแบบนี้แล้ว
ซึ่งหลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดคือมีช่องใส่ SSD M.2 NVMe มาให้อีก 1 ช่อง โดยเดิมๆ ให้มาแล้ว 1 สล็อตอยู่แล้ว ที่ความจุ 512GB (รวมเป็น 2) ส่วนแรมสามารถอัพเพิ่มได้อีก 1 ช่อง และได้ใส่ได้รวมกันสูงสุด 24 GB (คือใส่ไปอีก 16GB) เพราะแรม 8GB ติดเครื่องมาเป็นแบบฝั่งบอร์ดจากที่เป็น Gaming Notebook บางเบานั่นเอง อีกทั้งไม่รองรับการใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5″ เหมือนกับตัว FX505 อีกด้วย ซึ่งก็เป็นปกติและเป็นอะไรที่รับได้
Performance / Software
โดย ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 อย่าง Intel Core i7-9750H (ว่าที่รุ่นยอดนิยมประจำปี 2019) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.60 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.50 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Thread มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 8GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 มีการนำชิปประมวลผล หรือ CPU รุ่นล่าสุดจาก Intel Core i Gen 9 มาใส่ไว้ใน Gaming Notebook ตัวใหม่นี้ด้วย ทำให้การประมวลผลการทำงานหรือการเล่นเกมของ Gaming Notebook รุ่นใหม่นี้ ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยทำได้มาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 45% มีผลอย่างมากต่อการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลของ CPU หนักๆ เช่น การต่อต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์งาน 3D เป็นต้น
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกตัวแรงระดับรองท็อปอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660Ti ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 1060 แบบรู้สึกได้จากการที่สามารถขับเฟรมเรทได้ลื่นไหล โดยเป็นรอง RTX 2060 และไม่มีฟีเจอร์อย่างที่ใน RTX Series มี แต่ก็ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล Intel Core i5 ก็ทำได้ดีกว่าพอตัว รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ของ Intel ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1368MB/s และเขียนที่ 966MB/s แม้อาจจะไม่ได้เร็วมาก แต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐาน SATA 3 แบบเดิมๆ แล้ว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,613 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้
เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 80 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่
ที่สำคัญด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 240Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 240Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่
นอกเหนือจากนี้ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ยังมี Armory Crate ซอฟต์แวร์ Utility ที่ยกมาจาก ROG รุ่นอื่นๆ ซึ่งรวบรวมเอาฮาร์ดแวร์ต่างๆของ ROG มาไว้บนยูทิลิตี้เดียว ทำให้สามารถเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่าต่างๆ ของระบบ อาทิ ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆตามความชอบเป็นรูปแบบได้หลายโปรไฟล์ ซึ่งการตั้งค่าต่างๆ จะถูกเรียกใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดเกมที่ได้เลือกไว้ Armoury Crate ยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริม Mobile Dashboard สำหรับ Android และ iOS รวมไปถึงความสามารถอื่นๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นจากการอัพเดทในอนาคต
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 4800mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 10 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้
ที่สำคัญยังเป็น Gaming Notebook ที่รองรับ USB Power Delivery (พอร์ตทางขวาของตัวเครื่อง ฟอร์มคือ USB-C) ทำให้ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 สามาถชาร์จไฟจากอุปกรณ์สำรองไฟภายนอกได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องปลั๊กไฟอีกต่อไป รองรับระบบชาร์จเร็วที่สามารถชาร์จไฟกลับให้กับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นได้โดยมีกำลังไฟสูงสุดถึง 3A และยังสามารถพกพาไปทำงานได้ทุกวันด้วยอแดปเตอร์ 65W ขนาดเล็ก ที่เบาและสะดวกสบายยิ่งกว่า หรือแม้แต่ใช้ Power Bank ที่รองรับในการใช้ USB Power Delivery ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 40 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 40 – 45 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมด Turbo
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 89 – 95 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 72 – 80 องศาเซลเซียสโดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดีมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า Gaming Notebook ในสเปกเดียวกัน สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยซอฟต์แวร์จากปกติที่จะเป็นแบบ Balance ก็สามารถทำได้
Conclusion / Award
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ปี 2019 นั้นถือว่าเป็น Gaming Notebook สำหรับการเล่นเกมเน้นความบางเบา พร้อมรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ด้วยการพกพาที่สะดวกสบาย ต่อยอดมาจากรุ่นปี 2019 โดยมีน้ำหนักแค่ 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น อีกทั้งยังมีความบางตัวเครื่องเพียง 18.9 มิลลิเมตร ที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถที่จะใช้งานได้ในระยะยาวโดยน่าจะรองรับกับเกมใหม่ๆ 2 – 3 ปีนี้ได้อย่างสบาย โดยเรื่องดีไซน์ก็มีข้อสังเกตุเล็กๆ น้อยๆ จากการที่ขอบหน้าจอบางมากๆ ทำให้ทาง ASUS เลือกตัดกล้องเว็บแคมออกไปเลย ถ้าใครจะใช้งานต้องหาซื้อมาเชื่อมต่อเอง
การมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่เป็น Core i Gen 9 Coffee Lake บนแรม DDR4 ที่ 8GB และการ์ดจอตัวแรงที่สุดของ GTX อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti สำคัญคือควบคุมความร้อนได้แบบมีเสถียรภาพผ่านชุดระบายความร้อนที่ดีพร้อมช่องไล่ฝุ่น Anti-Dust Cooling ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสมขึ้นในอนาคต ทำให้แม้สเปกจะจัดเต็มเหมือน Gaming Notebook เครื่องหนาๆ หนักๆ ก็สามารถจัดการควบคุมอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี พร้อมใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างน่าประทับใจ ที่ยาวนานกว่า 8 ชั่วโมงในการใช้งานทั่วไป เรียกได้ว่าเล่นเกมก็ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม ส่วนเอาไปใช้งานพกพานอกสถานที่ก็ตอบสนองเป็นอย่างดี
สำหรับ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502คุ้มค่าไม่แพ้ ASUS TUF Gaming FX505 Series ในส่วนของ Gaming Notebook ของ ASUS ตระกูล ROG ที่มีราคาคุ้มค่าเน้นการใช้งานที่หลากหลาย จากการรวมตัวของ Intel และ NVIDIA ผ่านทาง ASUS ที่แบรนด์อื่นสามารถทำตามได้ยาก แม้ตอนนี้ Gaming Notebook ในตลาดที่เป็น AMD + NVIDIA มีเพียง ASUS แบรนด์เดียวเท่านั้น แต่ถ้าใครต้องการโน๊ตบุ๊คเล่นเกมหรือทำงานแรงๆ ในส่วนของชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H นั้นเหนือชั้นกว่า AMD Ryzen 7 3750H อยู่พอตัวทีเดียว (แต่ก็ร้อนกว่านะ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้อยู่ ไม่ได้มีผลต่อการใช้งานอะไร)
จุดเด่นของ ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ก็คือ ได้ความเป็น ROG ที่พรีเมียม ตัวเครื่องบางเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน ประสิทธิภาพดีลื่นไหล พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน อย่างที่หาใน Gaming Notebook ราคาถูกอย่าง TUF Gaming ไม่ได้ (รวมไปถึง ZEPHYRUS M ด้วย) ในส่วนของประสิทธิภาพการเล่นเกมก็ดีเยี่ยม เมื่อเทียบกับประสบการณ์การใช้งานที่พกพาไปไหนมาไหนได้ง่ายและสะดวกกว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องหนาๆ แบบสมัยก่อน อย่างไรก็ตามในส่วนของข้อสังเกตุก็มีอยู่ คือในส่วนของ SSD M.2 NVMe มีความเร็วที่น้อยไปหน่อย น่าจะได้ความเร็วระดับ 2xxx MB/s แล้ว รวมไปถึงไม่มีช่อง SD Card Reader เผื่อกรณีคนที่ต้องการใช้งานก็ต้องรับให้ได้ด้วย
จุดเด่น
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจตามสไตล์ ROG งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ขอบหน้าจอบางพิเศษ มิติเทียบเท่ารุ่น 14″ ตัวเครื่องเบา 1.9 กิโลกรัม
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H แรงกว่า AMD Ryzen 7 3750H
- การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti พร้อม OC มาจาก ASUS เล็กน้อย
- แรมขนาด 8GB 1 แถว DDR4 เพียงพอต่อการใช้งาน อัพได้สูงสุด 24 GB
- ติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB
- ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพดีเยี่ยม พร้อมรองรับ 240 Hz
- อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าเย็น ไม่ร้อนจนเกินไป
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง
- มีซอฟต์แวร์ Armory Crate มาช่วยปรับแต่งการใช้งาน
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
- ประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม ประทับใจมาก เมื่อเทียบกับราคา
- ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 และมีประกันอุบติเหตุ 1 ปี
ข้อสังเกต
- SSD M.2 NVMe ที่ติดตั้งมาให้ ความเร็วน้อยไปหน่อย
- ไม่มี SD Card Reader
- แรม 8GB ที่ให้มาเป็นแบบฝังบอร์ด อัพเกรดได้แค่ 1 แถว
- เน้นคุ้มค่าต่อราคา ASUS ROG Strix G531 จ่ายถูกกว่า แต่เครื่องหนากว่า
- ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ROG โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แถมน้ำหนักเบาแค่ 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น โดยตัวเครื่องบางเพียง 18.9 มิลลิเมตรเท่านั้น พกพาได้สะดวกมากๆ
Best Performance
ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 สเปคเป็น Intel Core i7-9750H + NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti + จอ IPS 240Hz ขอบหน้าจอบาง + Ram 8 GB + SSD m.2 512GB PCIe + มี Windows 10 แท้ แถมได้การรับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกอีกด้วย ในราคาเพียง 49,900 บาท ที่สำคัญได้ความเป็น ROG Zephyrus ที่พรีเมียม บางเบา เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แบบนี้ รวมไปถึงหน้าจอ IPS พร้อม Refresh Rate 240 Hz แสดงผลภาพดีมาก ทั้งทำงานหรือเล่นเกมก็สมบูรณ์แบบ
Best Mobility
ปัจจัยสำคัญของด้าน Mobility ก็คือขนาดที่กะทัดรัด แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่า 10 ชั่วโมง และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ครอบคลุม ซึ่ง ASUS ROG ZEPHYRUS M GU502 ตอบโจทย์ทั้งสามด้านได้อย่างครบถ้วนครับ กับตัวเครื่องบางเบา และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับทั้ง WiFi 802.11ac (2×2) ทั้ง 2.4 และ 5 GHz รวมถึง Bluetooth 5.0 หรือหากต้องการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม ตัวเครื่องก็ยังมีพอร์ตที่ครบครันสำหรับการใช้งานทั่วไปด้วยเช่นกัน