เมื่อไม่นานมานี้ทาง Intel ได้ออกมาเผยรายงานผลการประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 ที่ผ่านมาครับ โดยรวมแล้วนั้นพบว่ารายได้รวมของทาง Intel ทั้งหมดนั้นยังคงลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ซึ่งรายได้ที่ลดลงนั้นคิดเป็น 3% เมื่อเทียบกับรายได้ในไตรมาสเดียวกันของปี 2018 ที่ผ่านมา ทว่าถึงแม้รายได้ของทาง Intel จะลดลงนั้นแต่โดยรวมแล้วมันยังมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์เอาไว้ ผลที่ได้หลังจากการรายงานครั้งนี้นั้นก็คือราคาหุ้นของทาง Intel เพิ่มขึ้น 7% หลังมีการรายงานผลการประกอบการดังกล่าวออกไปครับ
ในการรายงานผลประกอบการดังกล่าวนี้นั้นทาง Intel ยอมรับครับว่าส่วนที่ทำให้รายได้ของทาง Intel ลดลงนั้นก็มาจากจำนวนยอดการจำหน่ายหน่วยประมวลผลที่ลดลง(แน่นอนว่าถึง Intel จะไม่ได้พูดถึงว่ารายได้หายไปที่ไหนแต่เชื่อว่าหลายๆ ท่านก็คงจะทราบได้ว่ามันไปอยู่กับทาง AMD แล้วนั่นเองครับ) สำหรับรายได้ในส่วนของหน่วยประมวลผลของทาง Intel นั้นเมื่อรวมทั้งหน่วยประมวลผลของเครื่อง PC และโน๊ตบุ๊คจะอยู่ที่ $8.84 billion หรือประมาณ 272,382,500,000 บาทครับ สำหรับรายได้รวมทั้งหมดของทาง Intel ในไตรมาสที่ผ่านมานั้นจะอยู่ที่ $16.51 billion หรือประมาณ 508,714,375,000 บาทครับ
ทั้งนี้ทาง CEO ของทาง Intel อย่างคุณ Bob Swan นั้นได้ออกมาบอกเอาไว้ครับว่าทุกอย่างในตอนนี้นั้นเป็นไปตามกำหนดการของทาง Intel แล้ว โดยในไตรมาสที่ผ่านมานั้นทาง Intel ได้ส่งมอบหน่วยประมวลผลรุ่นที่ 10 หรือสถาปัตยกรรม Ice Lake ให้กับทางผู้ผลิตไปแล้ว นอกไปจากนั้นแล้วการถอนตัวจากธุรกิจโมเด็มสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่นั้นยังทำให้ทาง Intel สามารถที่จะโฟกัสการออกแบบโมเด็มสำหรับอุปกรณ์ PC ได้เป็นอย่างดีอีกด้วยซึ่งรายได้ในส่วนนี้นั้นถือว่าเพิ่มขึ้นดีมากเลยทีเดียวโดยเฉพาะกับอุปกรณ์จำพวก IoT ที่มียอดสูงมากขึ้งถึง 23% ครับ
ที่น่าสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการระบุถึงอนาคตของหน่วยประมวลผลที่ทางคุณ Bob นั้นออกมายืนยันอย่างแน่นอนครับว่าในปี 2021 นั้น Intel จะเริ่มจำหน่ายหน่วยประมวลผลที่ใช้กระบวนการผลิตที่ระดับ 7 nm ออกสู่ตลาดได้อย่างแน่นอนและเมื่อถึงตอนนั้นแล้วทาง Intel เองก็จะสามารถที่จะทำการพัฒนาหน่วยประมวลผลให้เป็นไปตามกฎของมัวร์อีกครั้งได้(หรือ Tick Tock ที่เราๆ รู้กัน) ทั้งนี้ก็ถือว่า Intel ยังโชคดีที่สามารถกลับเข้ามาในเกมได้ทันครับ แต่ว่าจะดีจริงไหมนั้นต้องรอดูกันต่อไปครับ
ที่มา : cnbc