Review – OMEN 15 Laptop by HP สุดยอด Gaming Notebook แรงลื่น ครบเครื่อง ด้วย i7 + RTX 2070 Max-Q

OMEN 15 Laptop by HP มีดีไซน์โดยรวมที่เปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว ซึ่งด้านแนวทางการออกแบบจัดได้ว่าไปในทิศทางเดียวกับรุ่นพี่ตัวใหม่อย่าง OMEN X 2S 15 ซึ่งถ้าเทียบ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ รุ่นก่อนๆ คงเป็นเรื่องของมิติตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกระชับ ขอบจอบาง ที่สำคัญคือตัวเครื่องบางลงไปอีกที่ 20 มิลลิเมตร ลดลง 20% จากรุ่นก่อนหน้า ส่วนสีสันก็เป็นดำแดงที่ดูแล้วดุดันตามสไตล์ของ Gaming ที่เชื่อได้ว่าแฟนๆ ของ OMEN ต้องถูกใจกับรุ่นใหม่นี้อย่างแน่นอน

โดยสเปก OMEN 15 Laptop by HP มีหลักๆ ด้วยกัน 2 สเปก ซึ่งมีให้เลือกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H การ์ดจอเป็น GeForce RTX 2060 หรือ 2070 Max-Q ให้เลือก ส่วนแรมได้มาขนาด 8GB และ SSD M.2 NVMe ให้มาความจุ 512GB ทำงานร่วมกับฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ พร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที ที่สำคัญได้หน้าจอ 15.6″ Full HD IPS ที่ 144Hz กับระบบระบายความร้อน OMEN Tempest Cooling และมี OMEN Command Center ปรับแต่งการใช้งาน ส่วนประกันแบบ On-site 2 ปีตามมาตรฐานของ HP สนนราคาที่ 49,990 – 55,990 บาท

VDO Review

Coming Soon

Specification

สำหรับสเปก OMEN 15 Laptop by HP รุ่นที่แอดมินโป้งได้รับมารีวิว มาพร้อมมาตรฐาน Gaming Notebook ระดับสูง ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ตัวแรงยอดนิยม ส่วนการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q ที่แรงเทียบเท่ากับ GTX 1080 รุ่นก่อนใส่แรมมาแล้ว 8GB DDR4 ที่ 1 แถว (รองรับการใส่เพิ่มได้อีก 1 แถว) หน่วยความจำสำรองเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB และมีฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ ที่ 1TB มาให้ด้วย

หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่ Refresh Rate 144 Hz ลื่นไหลกว่า 60Hz ปกติจอเป็นแบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวใช้งาน Video Call ได้อย่างลื่นไหล พร้อมติดตั้ง Windows 10 แท้พร้อมใช้งานได้ทันที

พอร์ตการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันทั้ง USB 3.1 Type A x 3, USB 3.1 Type C (Thunderbolt 3), HDMI, mini Display Port, Kensington lock slot, ช่องเสียบหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ และช่องเสียบไมค์แยกก็มีมาให้ด้วย ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi ชิป Intel Wireless-AC 9560 (2×2) น้ำหนัก 2.46 กิโลกรัม ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก โดยสนนราคาที่ 55,990 บาท การรับประกัน 2 ปี Onsite Service จัดเต็ม

• i7-9750H + RTX 2060 + RAM 8GB + SSD 512GB + HDD 1TB + Win10 ราคา 49,990 บาท
• i7-9750H + RTX 2070 Max-Q + RAM 8GB + SSD 512GB + HDD 1TB + Win10 ราคา 55,990 บาท

Hardware / Design

ดีไซน์รวมๆ ของ OMEN 15 Laptop by HP ถือว่าน่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดยด้านหลังได้มีการวางตำแหน่งช่องระบายความร้อนแบบคู่แยกซ้ายขวาออกจากกันที่มีฟินสีดำสนิทติดตั้งอยู่ชัดเจน ซึ่งมีการออกแบบที่ Gaming มากๆ ซึ่งทาง HP เคลมว่าช่องใหญ่ขึ้น พร้อมใช้พัดลม 12V พร้อมเพิ่มช่องระบายความร้อนด้านขวาอีก

และด้วยเทคโนโลยี OMEN Tempest Cooling ส่งผลให้ช่วยจัดการความร้อนดีขึ้นด้วย อีกทั้งใต้ตัวเครื่องก็มีการดีไซน์ใส่ใจรายละเอียดที่สวยงามไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ช่องดูดลมเย็นก็ขนาดใหญ่ รวมไปถึงยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ที่ดูแล้วมั่นคง วัสดุใช้เป็นอลูมิเนียมด้วยเช่นกัน

ด้านในตัวเครื่องมาพร้อมสีสันที่โดดเด่นดำแดงดุดัน วัสดุจะเป็นอะลูมิเนียมแบบขัดลายสวยงามให้ความรู้สึกที่แข็งแรง ตัดด้วยไฟสี RGB พร้อมไฮไลน์ปุ่ม WASD ที่ช่วยเสริมความสวยงามได้ดี อีกทั้งยังมีคำว่า OMEN อยู่มุมซ้ายล่างแป้นคีย์บอร์ด

ส่วนด้านซ้ายบนจะเป็นปุ่ม Power มีไฟเมื่อเปิดใช้งาน ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำขอบสีแดง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นสีแดงพร้อมฟอนต์ที่ดูเข้ากับตัวเครื่อง ขนาด Full Size มาตรฐานปกติมี Numpad มาให้ด้านขวา

นอกจากนี้ยังมี Hotkey เรียกซอฟต์แวร์ OMEN เพื่อปรับแต่งไฟหรือประสิทธิภาพเพิ่มเติมได้ โดยปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านบนซ้ายมีไฟสีแดงแสดงสถานะสวยงามชัดเจนดี ทัชแพดมีขนาดที่กลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งการสัมผัสจะมีความหนืดเล็กน้อย ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบปุ่มแยกซ้ายขวา ทำให้ความรู้สึกในการกดดีกว่าแบบซ่อนปุ่ม ที่สามารถเด้งรับกับนิ้วเป็นอย่างดี การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

ด้านขวาบนจะเป็น BANG & OLUFSEN การันตีด้านคุณภาพเสียง รวมถึงมีการใช้บานพับแบบแกนคู่ขนาดใหญ่ช่วยยกตัว ที่ดูแข็งแรงทนทานสวยงามเข้ากับเครื่องได้ดีมากๆ ที่เชื่อได้ว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องบานพับในระยะยาวของการใช้งานแต่อย่างใด พร้อมยกหน้าจอให้ระดับสูงกว่าเดิม ทำให้มุมมองการใช้งานดียิ่งขึ้น

แน่นอนว่า OMEN 15 Laptop by HP ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดงที่เป็นในส่วนของไฟคีย์บอร์ดหลัก (RGB เปลี่ยนสีได้) โดยฝาหลังของตัวเครื่องเป็นสัญลักษณ์รูปตัว X แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ที่มีโลโก้ OMEN เป็นเอกลักษณ์สีแดงสะดุดตาด้านบน ประกอบกับพื้นผิวลวยลายสีดำแบบโลหะขัดมันปัดเสี้ยนและแบบด้านเรียบๆ ที่ให้ความรู้สึกเป็น Gaming ที่ดี ส่วนด้านล่างจะมีคำว่า OMEN อยู่ วัสดุส่วนนี้เป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์ทั้งหมด

ส่วนดีไซน์อื่นๆ ของ HP OMEN 15 ปี 2019 ก็ถือว่าน่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดยด้านหลังได้มีการวางตำแหน่งช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่กว่าเดิม ซึ่งเป็นแบบคู่แยกซ้ายขวาออกจากกันที่มีฟินสีดำสนิทติดตั้งอยู่ชัดเจน พร้อมเพิ่มช่องระบายความร้อนทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง ซึ่งมีการออกแบบที่ Gaming มากๆ

อีกทั้งใต้ตัวเครื่องก็มีการดีไซน์ใส่ใจรายละเอียดที่สวยงามไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ด้วยโลโก้ OMEN ช่องดูดลมเย็นที่เป็นตระแกรงขนาดใหญ่ รวมไปถึงยางรองตัวเครื่องซึ่งช่วยยกตัวให้สูงยิ่งขึ้นที่ดูแล้วมั่นคง รวมไปถึงฝาล่างสามารถถอดมาอัพเกรดหรือทำความสะอาดง่ายขึ้นอีกด้วย เพียงไขน๊อต 10 ตัวและค่อยๆ ดึงขึ้นเท่านั้น สำหรับของวัสดุในส่วนนี้ก็เป็นอลูมิเมียมทั้งหมดเช่นเดียวกันกับตัวเครื่องอื่นๆ ที่ให้ความหรูหราและแข็งแรงทนทาน

สรุปเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ OMEN 15 Laptop by HP ต้องบอกว่าเป็น Gaming Notebook รูปลักษณ์สวยงามกว่ารุ่นทั่วๆ ไป เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งเน้นความพรีเมียมให้ความโดดเด่นเวลานำไปใช้งาน รวมไปถึงงานประมวลผลหนักๆ หรือจะเอาไปทำงานเล่นอินเตอร์เน็ตก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญดีไซน์การออกแบบยังก้าวล้ำด้วยความดุดันและจริงจัง Gaming ซึ่งน่าจะถูกใจคอ Gamer ไม่น้อยเลย

Keyboard / Touchpad

ส่วนของคีย์บอร์ด OMEN 15 Laptop by HP นั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นสีขาวพร้อมฟอนต์ที่ดูเข้ากับตัวเครื่อง ขนาด Full Size มาตรฐานปกติมี Numpad มาให้ด้านขวา พร้อมกับสีไฟคีย์บอร์ดที่เป็นแบบ RGB ปรับได้ 3 โซนสวยงาม โดยปุ่ม WASD มีการทำไฮไลน์เป็นขอบสีขาวพร้อมสามารถปรับไฟแยกได้ต่างหากด้วย นอกจากนี้ยังมี Hotkey เรียกซอฟต์แวร์ OMEN เพื่อปรับแต่งไฟหรือประสิทธิภาพเพิ่มเติมได้ โดยปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านบนซ้ายมีไฟสีแดงแสดงสถานะสวยงามชัดเจนดี

ทัชแพดมีขนาดที่กลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งการสัมผัสจะมีความหนืดเล็กน้อย ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบปุ่มแยกซ้ายขวา ทำให้ความรู้สึกในการกดดีกว่าแบบซ่อนปุ่ม ที่สามารถเด้งรับกับนิ้วเป็นอย่างดี การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ใช้งานมัลติทัชลื่ไหน แถมมีตัวซอฟต์แวร์ควบคุมที่ช่วยจัดการได้ดี โดยเมื่อมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ จะช่วยให้เคอร์เซอร์เมาส์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำข้อมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

หน้าจอ OMEN 15 Laptop by HP จะใช้ขนาด 15.6 นิ้ว ผิวจอด้านแบบ Anti-Glare ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD มีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 144Hz ที่แสดงผลได้ลื่นไหล ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ที่ดีปี 2019 พาเนลเป็นแบบ IPS เกรดดี เรื่องของมุมมองที่สามารถมองได้ชัดเจนทุกมุมมอง ซึ่งสีสันที่ได้ก็สวยงามตามท้องเรื่อง ที่สำคัญตัวเครื่องให้ยางรองหน้าจอเป็นแบบเต็มพื้นที่เหมือนอัลตร้าบุ๊คแรงๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้าจอเป็นรอยเป็นเวลาพับเก็บ ส่วนกล้อง Webcam ตัวเครื่องให้มาเป็นแบบความละเอียด HD พร้อมกับไมค์ตัดเสียงสองตัวใช้งาน Video Call สบายๆ

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ OMEN 15 Laptop by HP ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 96% และ AdobeRGB ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่กว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook ทั่วไป ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป หรือถ้าจะนำไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งโปรเซสภาพที่เน้นความเที่ยงตรงสีมากๆ แล้ว ก็ถือว่าตอบสนองเรื่องของสีสันได้ดีทีเดียว

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องตรงกลางซ้ายและล่างซ้ายมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องจอตรงด้านมุมขวาบนจะมีแสงสว่างที่ลดลงที่ 9% นับได้ว่ามีความคลาดเคลื่อนประมาณนึงแต่ก็ไม่มากเท่าไร อย่างไรก็ตามเพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite

ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง BANG & OLUFSEN ทำให้มีเสียงมีน้ำหนักหนักแน่นกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นๆ ซึ่งถือได้ว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีเลยทีเดียวครับ อีกทั้งยังให้เสียงดังพอสมควร โดยช่องลำโพงถูกออกแบบมาอยู่ด้านใต้ตัวเครื่องซ้ายขวาทำให้การกระจายเสียงได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

Connector / Thin And Weight

สำหรับ OMEN 15 Laptop by HP แม้จะเป็น Gaming Notebook ที่มีความกระทัดรัด ก็ยังให้พอร์ตการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันมากกว่า Gaming Notebook รุ่นปกติทั่วไป ทั้ง USB 3.1 Type A x 3, USB 3.1 Type C (Thunderbolt 3), HDMI, SD Card Reader, LAN, ช่องเสียบหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ และช่องเสียบไมค์แยกก็มีมาให้ด้วย ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fiชิป Intel Wireless-AC 9560 (2×2) ตอบสนองการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหรือเล่นเกมได้ยอดเยี่ยม

ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้ว ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร จากการที่ขอบจอบางและตัวเครื่องก็ไม่หนาเหมือน Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 2.46 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้ระดับ 200Watt เข้าไปด้วย ก็จะมีน้ำหนักที่ประมาณ 2.9 กิโลกรัม ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไปนัก ตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างดีเลยทีเดียว

Inside / Upgrade

การเปิดตัวเครื่องจากฝาด้านล่างของ OMEN 15 Laptop by HP เพื่อที่จะทำการอัพเกรดหรือทำความสะอาดภายในตัวเครื่องนั้นถือว่าสามารถทำได้ค่อนข้างง่ายกว่า การแกะฝาใต้ตัวเครื่องสามารถทำได้ไม่ยากเพียงไขน็อตจำนวน 10 ตัวออก จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงตัวล็อคฝาจากบริเวณขอบตัวเครื่องด้านหน้าแล้วไล่ไปยังบานพับ โดยการใช้การ์ดพลาสติกบางๆ ช่วยรูด ไล่มาจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายก็ได้ อย่างไรก็ตามต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะตัวเครื่องนั้นเป็นโลหะตลอดทั้งตัวเครื่อง อาจจะเกิดความเสียหายได้

โดยเมื่อแกะฝาครอบด้านหลังเครื่องออกแล้วเราก็จะเห็นฮาร์ดแวร์ต่างๆ กระจายตัวกันไป พร้อมแผ่นพลาสติกบางๆ กั้นเอาไว้ ซึ่งในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่เราสามารถทำการอัพเกรดได้เองนั้นก็จะมีหน่วยความจำแรม ที่ใส่มาแล้วขนาด 8GB จำนวน 1 แถว ที่ Bus 2666 MHz สามารถใส่เพิ่มได้อีกแถวทันที สูงสุดรองรับที่ 32GB รวมไปถึงเห็นแหล่งเก็บข้อมูลทั้งฮาร์ดดิสก์ SATA 2.5 ที่ให้มาแล้วความจุ 1TB และ SSD M.2 NVMe ที่ใส่มาแล้วความจุ 512GB  นอกเหนือจากนี้ก็จะเห็นในส่วนของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และชุดระบายความร้อนด้วยพัดลมสองตัวพร้อมฮีต์ไปป์จำนวน 3 เส้นสีดำพาดผ่าน CPU/GPU อยู่อย่างชัดเจน

Performance / Software

  

OMEN 15 Laptop by HP มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-9750H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 8GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ แต่ถ้าได้เป็น 8GB x 2 จะดีกว่านี้อีก

กราฟิกการ์ดจอแยกตัวแรงระดับบนอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 1080 รุ่นก่อนแบบรู้สึกได้จากการที่สามารถขับเฟรมเรทได้ลื่นไหล โดยเป็นรอง RTX 2070 รุ่นปกติอีกที พร้อมมีฟีเจอร์อย่างที่ใน RTX Series มี ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว รวมถึงทำงานร่วมกับ G-Sync ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย

สำหรับเทคโนโลยี“ Ray Tracing” ซึ่งมีบนการ์ดจอ RTX 2070 Max-Q ที่สามารถแสดงผลการติดตามแสงของวัตถุ และสภาพแวดล้อมในแบบเรียลไทม์ ระหว่างกระบวนการเรนเดอร์กราฟิกสามารถคำนวณการสะท้อน และหักเหแสงได้อย่างถูกต้อง ครอบคลุมทั้งแสง และเงาทางกายภาพ ทำให้เกมนั้นสมจริงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe โดยเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2893 MB/s และเขียนที่ 2032 MB/s ซึ่งทำงานร่วมกับฮาร์ดดิสก์ปกติ 7200 รอบ ที่ให้มาความจุ 1TB ถือว่าทำให้ตัวเครื่องโดยรวมได้ทั้งความเร็วที่ดีและความจุที่ใหญ่ในตัวเดียวอีกด้วย

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,809 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยกอย่าง RTX 2070 Max-Q ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากพอสมควร ระดับเทียบเท่า Desktop สบายๆ

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 – 80 – 100+ FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce RTX 2070 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ระดับสูงก็ส่งผลช่วยด้วย

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว พร้อมรองรับฟีเจอร์ DLSS / Ray Tracing อย่าง RTX Series ก็ให้ภาพสวยงาม แต่ก็ต้องแลกกับการกินทรัพยากรเครื่องเพิ่มเติมด้วย (ในการทดสอบได้ทำการปิดฟีเจอร์เหล่านี้)

เกมออนไลน์กินสเปกน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล

และด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน โดยทำงานร่วมกับ G-Sync ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย อย่างไรก็ตามถ้าอยากให้เฟรมเรทวิ่งที่ 144 fps เพื่อใช้งานกับหน้าจอ 144Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมากลางๆ ก็ได้

นอกเหนือจากนั้นยังมีโปรแกรม OMEN Command Center ที่ช่วยแจ้งสถานะการทำงานของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของชิปประมวลผลและการ์ดจอ รวมไปถึงแรมว่าใช้งานขณะนี้ใช้ไปกี่เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญคือบอกส่วนของอุณหภูมิเครื่องด้วยว่าร้อนเย็นแค่ไหน ที่สำคัญเรายังสามารถเลือกโหมดการใช้งานได้ด้วย แน่นอนว่าถ้าเล่นเกมต้องเลือกเป็น Performance เพื่อบังคับให้ทำเครื่อทำงาน 100% โดยอีกส่วนจะเป็นการแจ้งสถานะการเชื่อมต่อต่อินเตอร์เน็ต และตัว Network Booster ที่ช่วยในการดาวน์โหลดอัพโหลดแต่ละโปรแกรมยิ่งขึ้น รวมเรายังสามารถปรับไฟ RGB คีย์บอร์ดจากส่วนนี้ได้อีกด้วย

Battery / Heat / Noise

OMEN 15 Laptop by HP นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่ประมาณนึง โดยเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าโอเคเลย (ปรับเป็นโหมด Power Saver) โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บหรือชมวีดีโอ Youtube ได้ยาวนานประมาณเกือบๆ 3 ชั่วโมง ซึ่งเทียบแล้วสามารถที่จะทำเวลาได้น้อยกว่า Gaming Notebook ทั่วไป จากการที่ตัวเครื่องใช้เพียงการ์ดจอแยกอย่าง RTX 2070 Max-Q เท่านั้น (BIOS เดิมๆ บังคับปิดการ์ดจอออน CPU ไป)

ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้นชิปประมวลผลและการ์ดจอเข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาแบบรู้สึกได้ แต่จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่บริเวณขอบตัวเครื่องด้านบนตรงคำว่า OMEN (เหนือแป้นคีย์บอร์ด) ซึ่งติดตั้งชุดระบายความร้อนอยู่

ส่วนของอุณหภูมิภายในของ OMEN 15 Laptop by HP อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 41 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 89 – 100 องศาเซลเซียส สำหรับชิปประมวล ส่วนการ์ดจอสูงสุดอยู่ที่ 71 องศาเซลเซียส ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง ยังไงกรณีนี้ก็ไม่แนะนำให้ใช้เป็นเวลานานๆ หรือจำเป็นจริงๆ ก็ควรมี Cooling Pad คอยช่วยซะหน่อย การะบบระบายความร้อนของ OMEN 15 Laptop by HP เครื่องนี้จัดว่ามีความร้อนค่อนข้างสูงกว่า Gaming N0tebook ที่สเปกใกล้เคียงกันอยู่ประมาณนึง

ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย งานนี้ทาง HP ทำการบ้านมาดีมาก ทำงานได้ค่อนข้างเบาและเงียบทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อไรก็ตามที่เราต้องใช้การทำงานหนัก อย่างการเล่นเกมหรือเรนเดอร์ไฟล์ เรื่องของเสียงนั้นจะเปลี่ยนไปเพราะพัดลมนั้นจะดังขึ้นมา ทว่ามันก็จะเกิดขึ้นเพียงแค่เฉพาะตอนใช้งานหนักๆ เท่านั้น ถ้าเลิกใช้งานเมื่อไรแป๊บเดียวก็หายไปเแล้ว ซึ่งเหมือนเร่งเครื่องพัดลมให้ทำเครื่องได้ระบายความร้อนอย่างเต็มที่เท่านั้น

Conclusion / Award

สรุปจาการที่สัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ OMEN 15 Laptop by HP ทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า HP ทำออกมาได้ดีทีเดียว ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น การอัพเกรดที่ง่าย รวมไปถึงประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงาน  กับราคา 55,990 บาท เราจะได้ Gamimg Notebook ที่มีสเปคประสิทธิภาพสูงกับระบบระบายความร้อน OMEN Tempest Cooling และมี OMEN Command Center ปรับแต่งการใช้งาน

การออกแบบดีไซน์ของ OMEN 15 Laptop by HP ต้องยอมรับเลยว่าเป็น Gaming Notebook อีกหนึ่งรุ่นในตลาด ที่มาพร้อมรูปลักษณ์สวยงามกว่ารุ่นทั่วๆ ไป เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งเน้นความพรีเมียมให้ความโดดเด่นเวลานำไปใช้งาน รวมไปถึงงานประมวลผลหนักๆ หรือจะเอาไปทำงานเล่นอินเตอร์เน็ตก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ให้ความก้าวล้ำด้วยความดุดันและจริงจัง Gaming ซึ่งน่าจะถูกใจคอ Gamer ไม่น้อยเลย

เน้นเลยก็คือสเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H พร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce RTX 2070 Max-Q (GDDR6 8GB) และแรม DDR4 ที่ 8GB (แรมอาจจะให้มาน้อยไปหน่อยในการเล่นเกม แต่ก็อัพเกรดได้ไม่ยาก) อีกทั้งยังติดตั้งแหล่งเกมข้อมูลแบบ SSD แบบ M.2 NVMe และฮาร์ดดิสก์ปกติมาให้ นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแสดงผล 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS แบบ 144Hz ที่ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง ครบครันกับการใช้งาน สมกับเป็น Gaming Notebook ที่หลายคนให้ความสนใจ

บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟ RGB แบบ 3 โซน โดยWASD แยกต่างหากอีก ​ระบบเสียง Bang & Olufsen คุณภาพดี รวมไปถึงพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน มี Thunderbolt มาให้เป็นมาตรฐาน และการรับประกันอย่าง HP On-site Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี เรียกได้ว่าทำให้เราใช้งานได้อย่างสบายใจหายห่วง

อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อสังเกตก็มีในส่วนการควบคุมความร้อนที่ยังไม่สามารถจัดการได้ดีเท่าที่ควร เพราะในส่วนของชิปประมวลผล มีอุณหภูมิสูงสุดที่ 100 องศาเซลเซียส ถือว่ามีอุณหภูมิที่สูงกว่า Gaming Notebook ในสเปกใกล้เคียงกัน แต่สำหรับการ์ดจอ GPU  ถือว่าเย็นๆ ไม่ร้อยเลย โดยตัวเครื่องเองก็มีความร้อนที่บริเวณเหนือชุดแป้นคีย์บอร์ดเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพตัวเครื่องก็ยังสมบูรณ์อยู่ ไม่มีผลต่อการใช้งานใดๆ อีกเรื่องคงเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้น้อยไปหน่อย นั่นคงเป็นเพราะตัดการใช้งานการ์ดจอบน CPU ออกไป เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง ปิดท้ายกับแรมติดเครื่องน่าจะให้มา 16GB ไปเลย น่าจะทำให้ประสิทธิภาพไปได้ดีกว่านี้ ยังไงใครรับกับข้อสังเกตนี้ได้ ก็ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่น่าสนใจรุ่นนึงกับสเปก i7-9750H + RTX 2070

ข้อดี

• ดีไซน์สวยดุดัน วัสดุดีอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง สวยงามตามาสไตล์ OMEN by HP
• งานประกอบดีเรียบร้อย ถอดฝาหลังอัพเกรดและทำความสะอาดได้ง่าย
• สเปคสูงด้วย Intel Core i7-9750H + NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q
• หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับที่ 144Hz สวยงามลื่นไหล
• มี G-Sync ทำให้เกมที่มีฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุก
• คีย์บอร์ดใช้งานดีมีไฟ RGB 3 โซน ส่วนของ WASD เป็นไฟ RGB ที่ปรับแยกต่างหากได้
• ระบบเสียงดีทีเดียวอย่าง BANG & OLUFSEN
• มีพอร์ต Thunderbolt  (USB 3.1 Type-C) มาให้พร้อมใช้งาน
• ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ มาพร้อมใช้งานทันที
• มีซอฟต์แวร์ OMEN COMMAND CENTER ใช้ปรับแต่งตั้งค่าต่างๆ ของตัวเครื่องได้
• HP On site Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี +  Smart Friend 1 ปี

ข้อสังเกต

• อุณหภูมิร้อนสูงของชิปประมวลผลค่อนข้างสูง เมื่อใช้งานเต็มที่ 100%
• แบตเตอรี่ใช้งานได้น้อยไปหน่อย ควพกอแดปเตอร์ติดตัวไปด้วย
• แรมให้มาเป็น 8GB จำนวน 1 แถว ถ้าให้มาเป็น 8GB x 2 แถวน่าจะดีกว่านี้

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง OMEN 15 Laptop by HP ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ OMEN by HP มาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ แล้ว ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน OMEN 15 Laptop by HP จากการที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ยิ่งกว่าเดิม วัสดุเป็นโลหะตลอดทั้งตัวเครื่องด้านนอกด้านใน ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คเกมเมอร์รุ่นใหม่ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

Best Multimedia

ระบบเสียง BANG & OLUFSEN อีกกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปบนหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD IPS 144Hz แถมมาพร้อมด้วยสเปคของระบบที่สดใหม่และเร็วแรง สามารถตอบสนองความบันเทิงได้ในทุกๆ รูปแบบไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็ทำได้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ OMEN 15 Laptop by HP จะได้รางวัลนี้ไป

Best Performance

OMEN 15 Laptop by HP มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-9750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q พร้อมแรมขนาด 8GB รองรับการอัพเกรดอีก 1 แถว  และ SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB และฮาร์ดดิสก์ 1TB แบบ 7200 รอบ ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว พร้อมความจุที่สูงไปพร้อมๆ กัน รองรับการทำงานต่างๆ ได้อย่างไม่ติดขัด รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล จากการทดสอบให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมหรือทำงานที่ดีมากๆ หน้าจอก็เป็น IPS เกรดสูงที่ 144Hz อีกด้วย

VDO Review

Coming Soon

Specification

สำหรับสเปก OMEN 15 Laptop by HP รุ่นที่แอดมินโป้งได้รับมารีวิว มาพร้อมมาตรฐาน Gaming Notebook ระดับสูง ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ตัวแรงยอดนิยม ส่วนการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q ที่แรงเทียบเท่ากับ GTX 1080 รุ่นก่อนใส่แรมมาแล้ว 8GB DDR4 ที่ 1 แถว (รองรับการใส่เพิ่มได้อีก 1 แถว) หน่วยความจำสำรองเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB และมีฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ ที่ 1TB มาให้ด้วย

หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่ Refresh Rate 144 Hz ลื่นไหลกว่า 60Hz ปกติจอเป็นแบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวใช้งาน Video Call ได้อย่างลื่นไหล พร้อมติดตั้ง Windows 10 แท้พร้อมใช้งานได้ทันที

พอร์ตการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันทั้ง USB 3.1 Type A x 3, USB 3.1 Type C (Thunderbolt 3), HDMI, mini Display Port, Kensington lock slot, ช่องเสียบหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ และช่องเสียบไมค์แยกก็มีมาให้ด้วย ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi ชิป Intel Wireless-AC 9560 (2×2) น้ำหนัก 2.46 กิโลกรัม ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก โดยสนนราคาที่ 55,990 บาท การรับประกัน 2 ปี Onsite Service จัดเต็ม

• i7-9750H + RTX 2060 + RAM 8GB + SSD 512GB + HDD 1TB + Win10 ราคา 49,990 บาท
• i7-9750H + RTX 2070 Max-Q + RAM 8GB + SSD 512GB + HDD 1TB + Win10 ราคา 55,990 บาท

Hardware / Design

ดีไซน์รวมๆ ของ OMEN 15 Laptop by HP ถือว่าน่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดยด้านหลังได้มีการวางตำแหน่งช่องระบายความร้อนแบบคู่แยกซ้ายขวาออกจากกันที่มีฟินสีดำสนิทติดตั้งอยู่ชัดเจน ซึ่งมีการออกแบบที่ Gaming มากๆ ซึ่งทาง HP เคลมว่าช่องใหญ่ขึ้น พร้อมใช้พัดลม 12V พร้อมเพิ่มช่องระบายความร้อนด้านขวาอีก

และด้วยเทคโนโลยี OMEN Tempest Cooling ส่งผลให้ช่วยจัดการความร้อนดีขึ้นด้วย อีกทั้งใต้ตัวเครื่องก็มีการดีไซน์ใส่ใจรายละเอียดที่สวยงามไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ช่องดูดลมเย็นก็ขนาดใหญ่ รวมไปถึงยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ที่ดูแล้วมั่นคง วัสดุใช้เป็นอลูมิเนียมด้วยเช่นกัน

ด้านในตัวเครื่องมาพร้อมสีสันที่โดดเด่นดำแดงดุดัน วัสดุจะเป็นอะลูมิเนียมแบบขัดลายสวยงามให้ความรู้สึกที่แข็งแรง ตัดด้วยไฟสี RGB พร้อมไฮไลน์ปุ่ม WASD ที่ช่วยเสริมความสวยงามได้ดี อีกทั้งยังมีคำว่า OMEN อยู่มุมซ้ายล่างแป้นคีย์บอร์ด

ส่วนด้านซ้ายบนจะเป็นปุ่ม Power มีไฟเมื่อเปิดใช้งาน ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำขอบสีแดง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นสีแดงพร้อมฟอนต์ที่ดูเข้ากับตัวเครื่อง ขนาด Full Size มาตรฐานปกติมี Numpad มาให้ด้านขวา

นอกจากนี้ยังมี Hotkey เรียกซอฟต์แวร์ OMEN เพื่อปรับแต่งไฟหรือประสิทธิภาพเพิ่มเติมได้ โดยปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านบนซ้ายมีไฟสีแดงแสดงสถานะสวยงามชัดเจนดี ทัชแพดมีขนาดที่กลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งการสัมผัสจะมีความหนืดเล็กน้อย ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบปุ่มแยกซ้ายขวา ทำให้ความรู้สึกในการกดดีกว่าแบบซ่อนปุ่ม ที่สามารถเด้งรับกับนิ้วเป็นอย่างดี การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

ด้านขวาบนจะเป็น BANG & OLUFSEN การันตีด้านคุณภาพเสียง รวมถึงมีการใช้บานพับแบบแกนคู่ขนาดใหญ่ช่วยยกตัว ที่ดูแข็งแรงทนทานสวยงามเข้ากับเครื่องได้ดีมากๆ ที่เชื่อได้ว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องบานพับในระยะยาวของการใช้งานแต่อย่างใด พร้อมยกหน้าจอให้ระดับสูงกว่าเดิม ทำให้มุมมองการใช้งานดียิ่งขึ้น

แน่นอนว่า OMEN 15 Laptop by HP ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดงที่เป็นในส่วนของไฟคีย์บอร์ดหลัก (RGB เปลี่ยนสีได้) โดยฝาหลังของตัวเครื่องเป็นสัญลักษณ์รูปตัว X แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ที่มีโลโก้ OMEN เป็นเอกลักษณ์สีแดงสะดุดตาด้านบน ประกอบกับพื้นผิวลวยลายสีดำแบบโลหะขัดมันปัดเสี้ยนและแบบด้านเรียบๆ ที่ให้ความรู้สึกเป็น Gaming ที่ดี ส่วนด้านล่างจะมีคำว่า OMEN อยู่ วัสดุส่วนนี้เป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์ทั้งหมด

ส่วนดีไซน์อื่นๆ ของ HP OMEN 15 ปี 2019 ก็ถือว่าน่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดยด้านหลังได้มีการวางตำแหน่งช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่กว่าเดิม ซึ่งเป็นแบบคู่แยกซ้ายขวาออกจากกันที่มีฟินสีดำสนิทติดตั้งอยู่ชัดเจน พร้อมเพิ่มช่องระบายความร้อนทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง ซึ่งมีการออกแบบที่ Gaming มากๆ

อีกทั้งใต้ตัวเครื่องก็มีการดีไซน์ใส่ใจรายละเอียดที่สวยงามไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ด้วยโลโก้ OMEN ช่องดูดลมเย็นที่เป็นตระแกรงขนาดใหญ่ รวมไปถึงยางรองตัวเครื่องซึ่งช่วยยกตัวให้สูงยิ่งขึ้นที่ดูแล้วมั่นคง รวมไปถึงฝาล่างสามารถถอดมาอัพเกรดหรือทำความสะอาดง่ายขึ้นอีกด้วย เพียงไขน๊อต 10 ตัวและค่อยๆ ดึงขึ้นเท่านั้น สำหรับของวัสดุในส่วนนี้ก็เป็นอลูมิเมียมทั้งหมดเช่นเดียวกันกับตัวเครื่องอื่นๆ ที่ให้ความหรูหราและแข็งแรงทนทาน

สรุปเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ OMEN 15 Laptop by HP ต้องบอกว่าเป็น Gaming Notebook รูปลักษณ์สวยงามกว่ารุ่นทั่วๆ ไป เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งเน้นความพรีเมียมให้ความโดดเด่นเวลานำไปใช้งาน รวมไปถึงงานประมวลผลหนักๆ หรือจะเอาไปทำงานเล่นอินเตอร์เน็ตก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญดีไซน์การออกแบบยังก้าวล้ำด้วยความดุดันและจริงจัง Gaming ซึ่งน่าจะถูกใจคอ Gamer ไม่น้อยเลย

Keyboard / Touchpad

ส่วนของคีย์บอร์ด OMEN 15 Laptop by HP นั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นสีขาวพร้อมฟอนต์ที่ดูเข้ากับตัวเครื่อง ขนาด Full Size มาตรฐานปกติมี Numpad มาให้ด้านขวา พร้อมกับสีไฟคีย์บอร์ดที่เป็นแบบ RGB ปรับได้ 3 โซนสวยงาม โดยปุ่ม WASD มีการทำไฮไลน์เป็นขอบสีขาวพร้อมสามารถปรับไฟแยกได้ต่างหากด้วย นอกจากนี้ยังมี Hotkey เรียกซอฟต์แวร์ OMEN เพื่อปรับแต่งไฟหรือประสิทธิภาพเพิ่มเติมได้ โดยปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านบนซ้ายมีไฟสีแดงแสดงสถานะสวยงามชัดเจนดี

ทัชแพดมีขนาดที่กลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งการสัมผัสจะมีความหนืดเล็กน้อย ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบปุ่มแยกซ้ายขวา ทำให้ความรู้สึกในการกดดีกว่าแบบซ่อนปุ่ม ที่สามารถเด้งรับกับนิ้วเป็นอย่างดี การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ใช้งานมัลติทัชลื่ไหน แถมมีตัวซอฟต์แวร์ควบคุมที่ช่วยจัดการได้ดี โดยเมื่อมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ จะช่วยให้เคอร์เซอร์เมาส์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำข้อมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

หน้าจอ OMEN 15 Laptop by HP จะใช้ขนาด 15.6 นิ้ว ผิวจอด้านแบบ Anti-Glare ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD มีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 144Hz ที่แสดงผลได้ลื่นไหล ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ที่ดีปี 2019 พาเนลเป็นแบบ IPS เกรดดี เรื่องของมุมมองที่สามารถมองได้ชัดเจนทุกมุมมอง ซึ่งสีสันที่ได้ก็สวยงามตามท้องเรื่อง ที่สำคัญตัวเครื่องให้ยางรองหน้าจอเป็นแบบเต็มพื้นที่เหมือนอัลตร้าบุ๊คแรงๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้าจอเป็นรอยเป็นเวลาพับเก็บ ส่วนกล้อง Webcam ตัวเครื่องให้มาเป็นแบบความละเอียด HD พร้อมกับไมค์ตัดเสียงสองตัวใช้งาน Video Call สบายๆ

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ OMEN 15 Laptop by HP ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 96% และ AdobeRGB ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่กว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook ทั่วไป ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป หรือถ้าจะนำไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งโปรเซสภาพที่เน้นความเที่ยงตรงสีมากๆ แล้ว ก็ถือว่าตอบสนองเรื่องของสีสันได้ดีทีเดียว

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องตรงกลางซ้ายและล่างซ้ายมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องจอตรงด้านมุมขวาบนจะมีแสงสว่างที่ลดลงที่ 9% นับได้ว่ามีความคลาดเคลื่อนประมาณนึงแต่ก็ไม่มากเท่าไร อย่างไรก็ตามเพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite

ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง BANG & OLUFSEN ทำให้มีเสียงมีน้ำหนักหนักแน่นกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นๆ ซึ่งถือได้ว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีเลยทีเดียวครับ อีกทั้งยังให้เสียงดังพอสมควร โดยช่องลำโพงถูกออกแบบมาอยู่ด้านใต้ตัวเครื่องซ้ายขวาทำให้การกระจายเสียงได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

Connector / Thin And Weight

สำหรับ OMEN 15 Laptop by HP แม้จะเป็น Gaming Notebook ที่มีความกระทัดรัด ก็ยังให้พอร์ตการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันมากกว่า Gaming Notebook รุ่นปกติทั่วไป ทั้ง USB 3.1 Type A x 3, USB 3.1 Type C (Thunderbolt 3), HDMI, SD Card Reader, LAN, ช่องเสียบหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ และช่องเสียบไมค์แยกก็มีมาให้ด้วย ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fiชิป Intel Wireless-AC 9560 (2×2) ตอบสนองการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหรือเล่นเกมได้ยอดเยี่ยม

ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้ว ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร จากการที่ขอบจอบางและตัวเครื่องก็ไม่หนาเหมือน Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 2.46 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้ระดับ 200Watt เข้าไปด้วย ก็จะมีน้ำหนักที่ประมาณ 2.9 กิโลกรัม ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไปนัก ตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างดีเลยทีเดียว

Inside / Upgrade

การเปิดตัวเครื่องจากฝาด้านล่างของ OMEN 15 Laptop by HP เพื่อที่จะทำการอัพเกรดหรือทำความสะอาดภายในตัวเครื่องนั้นถือว่าสามารถทำได้ค่อนข้างง่ายกว่า การแกะฝาใต้ตัวเครื่องสามารถทำได้ไม่ยากเพียงไขน็อตจำนวน 10 ตัวออก จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงตัวล็อคฝาจากบริเวณขอบตัวเครื่องด้านหน้าแล้วไล่ไปยังบานพับ โดยการใช้การ์ดพลาสติกบางๆ ช่วยรูด ไล่มาจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายก็ได้ อย่างไรก็ตามต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะตัวเครื่องนั้นเป็นโลหะตลอดทั้งตัวเครื่อง อาจจะเกิดความเสียหายได้

โดยเมื่อแกะฝาครอบด้านหลังเครื่องออกแล้วเราก็จะเห็นฮาร์ดแวร์ต่างๆ กระจายตัวกันไป พร้อมแผ่นพลาสติกบางๆ กั้นเอาไว้ ซึ่งในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่เราสามารถทำการอัพเกรดได้เองนั้นก็จะมีหน่วยความจำแรม ที่ใส่มาแล้วขนาด 8GB จำนวน 1 แถว ที่ Bus 2666 MHz สามารถใส่เพิ่มได้อีกแถวทันที สูงสุดรองรับที่ 32GB รวมไปถึงเห็นแหล่งเก็บข้อมูลทั้งฮาร์ดดิสก์ SATA 2.5 ที่ให้มาแล้วความจุ 1TB และ SSD M.2 NVMe ที่ใส่มาแล้วความจุ 512GB  นอกเหนือจากนี้ก็จะเห็นในส่วนของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และชุดระบายความร้อนด้วยพัดลมสองตัวพร้อมฮีต์ไปป์จำนวน 3 เส้นสีดำพาดผ่าน CPU/GPU อยู่อย่างชัดเจน

Performance / Software

  

OMEN 15 Laptop by HP มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-9750H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 8GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ แต่ถ้าได้เป็น 8GB x 2 จะดีกว่านี้อีก

กราฟิกการ์ดจอแยกตัวแรงระดับบนอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 1080 รุ่นก่อนแบบรู้สึกได้จากการที่สามารถขับเฟรมเรทได้ลื่นไหล โดยเป็นรอง RTX 2070 รุ่นปกติอีกที พร้อมมีฟีเจอร์อย่างที่ใน RTX Series มี ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว รวมถึงทำงานร่วมกับ G-Sync ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย

สำหรับเทคโนโลยี“ Ray Tracing” ซึ่งมีบนการ์ดจอ RTX 2070 Max-Q ที่สามารถแสดงผลการติดตามแสงของวัตถุ และสภาพแวดล้อมในแบบเรียลไทม์ ระหว่างกระบวนการเรนเดอร์กราฟิกสามารถคำนวณการสะท้อน และหักเหแสงได้อย่างถูกต้อง ครอบคลุมทั้งแสง และเงาทางกายภาพ ทำให้เกมนั้นสมจริงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe โดยเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2893 MB/s และเขียนที่ 2032 MB/s ซึ่งทำงานร่วมกับฮาร์ดดิสก์ปกติ 7200 รอบ ที่ให้มาความจุ 1TB ถือว่าทำให้ตัวเครื่องโดยรวมได้ทั้งความเร็วที่ดีและความจุที่ใหญ่ในตัวเดียวอีกด้วย

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,809 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยกอย่าง RTX 2070 Max-Q ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากพอสมควร ระดับเทียบเท่า Desktop สบายๆ

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 – 80 – 100+ FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce RTX 2070 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ระดับสูงก็ส่งผลช่วยด้วย

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว พร้อมรองรับฟีเจอร์ DLSS / Ray Tracing อย่าง RTX Series ก็ให้ภาพสวยงาม แต่ก็ต้องแลกกับการกินทรัพยากรเครื่องเพิ่มเติมด้วย (ในการทดสอบได้ทำการปิดฟีเจอร์เหล่านี้)

เกมออนไลน์กินสเปกน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล

และด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน โดยทำงานร่วมกับ G-Sync ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย อย่างไรก็ตามถ้าอยากให้เฟรมเรทวิ่งที่ 144 fps เพื่อใช้งานกับหน้าจอ 144Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมากลางๆ ก็ได้

นอกเหนือจากนั้นยังมีโปรแกรม OMEN Command Center ที่ช่วยแจ้งสถานะการทำงานของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของชิปประมวลผลและการ์ดจอ รวมไปถึงแรมว่าใช้งานขณะนี้ใช้ไปกี่เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญคือบอกส่วนของอุณหภูมิเครื่องด้วยว่าร้อนเย็นแค่ไหน ที่สำคัญเรายังสามารถเลือกโหมดการใช้งานได้ด้วย แน่นอนว่าถ้าเล่นเกมต้องเลือกเป็น Performance เพื่อบังคับให้ทำเครื่อทำงาน 100% โดยอีกส่วนจะเป็นการแจ้งสถานะการเชื่อมต่อต่อินเตอร์เน็ต และตัว Network Booster ที่ช่วยในการดาวน์โหลดอัพโหลดแต่ละโปรแกรมยิ่งขึ้น รวมเรายังสามารถปรับไฟ RGB คีย์บอร์ดจากส่วนนี้ได้อีกด้วย

Battery / Heat / Noise

OMEN 15 Laptop by HP นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่ประมาณนึง โดยเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าโอเคเลย (ปรับเป็นโหมด Power Saver) โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บหรือชมวีดีโอ Youtube ได้ยาวนานประมาณเกือบๆ 3 ชั่วโมง ซึ่งเทียบแล้วสามารถที่จะทำเวลาได้น้อยกว่า Gaming Notebook ทั่วไป จากการที่ตัวเครื่องใช้เพียงการ์ดจอแยกอย่าง RTX 2070 Max-Q เท่านั้น (BIOS เดิมๆ บังคับปิดการ์ดจอออน CPU ไป)

ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้นชิปประมวลผลและการ์ดจอเข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาแบบรู้สึกได้ แต่จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่บริเวณขอบตัวเครื่องด้านบนตรงคำว่า OMEN (เหนือแป้นคีย์บอร์ด) ซึ่งติดตั้งชุดระบายความร้อนอยู่

ส่วนของอุณหภูมิภายในของ OMEN 15 Laptop by HP อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 41 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 89 – 100 องศาเซลเซียส สำหรับชิปประมวล ส่วนการ์ดจอสูงสุดอยู่ที่ 71 องศาเซลเซียส ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง ยังไงกรณีนี้ก็ไม่แนะนำให้ใช้เป็นเวลานานๆ หรือจำเป็นจริงๆ ก็ควรมี Cooling Pad คอยช่วยซะหน่อย การะบบระบายความร้อนของ OMEN 15 Laptop by HP เครื่องนี้จัดว่ามีความร้อนค่อนข้างสูงกว่า Gaming N0tebook ที่สเปกใกล้เคียงกันอยู่ประมาณนึง

ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย งานนี้ทาง HP ทำการบ้านมาดีมาก ทำงานได้ค่อนข้างเบาและเงียบทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อไรก็ตามที่เราต้องใช้การทำงานหนัก อย่างการเล่นเกมหรือเรนเดอร์ไฟล์ เรื่องของเสียงนั้นจะเปลี่ยนไปเพราะพัดลมนั้นจะดังขึ้นมา ทว่ามันก็จะเกิดขึ้นเพียงแค่เฉพาะตอนใช้งานหนักๆ เท่านั้น ถ้าเลิกใช้งานเมื่อไรแป๊บเดียวก็หายไปเแล้ว ซึ่งเหมือนเร่งเครื่องพัดลมให้ทำเครื่องได้ระบายความร้อนอย่างเต็มที่เท่านั้น

Conclusion / Award

สรุปจาการที่สัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ OMEN 15 Laptop by HP ทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า HP ทำออกมาได้ดีทีเดียว ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น การอัพเกรดที่ง่าย รวมไปถึงประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงาน  กับราคา 55,990 บาท เราจะได้ Gamimg Notebook ที่มีสเปคประสิทธิภาพสูงกับระบบระบายความร้อน OMEN Tempest Cooling และมี OMEN Command Center ปรับแต่งการใช้งาน

การออกแบบดีไซน์ของ OMEN 15 Laptop by HP ต้องยอมรับเลยว่าเป็น Gaming Notebook อีกหนึ่งรุ่นในตลาด ที่มาพร้อมรูปลักษณ์สวยงามกว่ารุ่นทั่วๆ ไป เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งเน้นความพรีเมียมให้ความโดดเด่นเวลานำไปใช้งาน รวมไปถึงงานประมวลผลหนักๆ หรือจะเอาไปทำงานเล่นอินเตอร์เน็ตก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ให้ความก้าวล้ำด้วยความดุดันและจริงจัง Gaming ซึ่งน่าจะถูกใจคอ Gamer ไม่น้อยเลย

เน้นเลยก็คือสเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H พร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce RTX 2070 Max-Q (GDDR6 8GB) และแรม DDR4 ที่ 8GB (แรมอาจจะให้มาน้อยไปหน่อยในการเล่นเกม แต่ก็อัพเกรดได้ไม่ยาก) อีกทั้งยังติดตั้งแหล่งเกมข้อมูลแบบ SSD แบบ M.2 NVMe และฮาร์ดดิสก์ปกติมาให้ นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแสดงผล 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS แบบ 144Hz ที่ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง ครบครันกับการใช้งาน สมกับเป็น Gaming Notebook ที่หลายคนให้ความสนใจ

บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟ RGB แบบ 3 โซน โดยWASD แยกต่างหากอีก ​ระบบเสียง Bang & Olufsen คุณภาพดี รวมไปถึงพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน มี Thunderbolt มาให้เป็นมาตรฐาน และการรับประกันอย่าง HP On-site Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี เรียกได้ว่าทำให้เราใช้งานได้อย่างสบายใจหายห่วง

อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อสังเกตก็มีในส่วนการควบคุมความร้อนที่ยังไม่สามารถจัดการได้ดีเท่าที่ควร เพราะในส่วนของชิปประมวลผล มีอุณหภูมิสูงสุดที่ 100 องศาเซลเซียส ถือว่ามีอุณหภูมิที่สูงกว่า Gaming Notebook ในสเปกใกล้เคียงกัน แต่สำหรับการ์ดจอ GPU  ถือว่าเย็นๆ ไม่ร้อยเลย โดยตัวเครื่องเองก็มีความร้อนที่บริเวณเหนือชุดแป้นคีย์บอร์ดเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพตัวเครื่องก็ยังสมบูรณ์อยู่ ไม่มีผลต่อการใช้งานใดๆ อีกเรื่องคงเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้น้อยไปหน่อย นั่นคงเป็นเพราะตัดการใช้งานการ์ดจอบน CPU ออกไป เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง ปิดท้ายกับแรมติดเครื่องน่าจะให้มา 16GB ไปเลย น่าจะทำให้ประสิทธิภาพไปได้ดีกว่านี้ ยังไงใครรับกับข้อสังเกตนี้ได้ ก็ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่น่าสนใจรุ่นนึงกับสเปก i7-9750H + RTX 2070

ข้อดี

• ดีไซน์สวยดุดัน วัสดุดีอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง สวยงามตามาสไตล์ OMEN by HP
• งานประกอบดีเรียบร้อย ถอดฝาหลังอัพเกรดและทำความสะอาดได้ง่าย
• สเปคสูงด้วย Intel Core i7-9750H + NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q
• หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับที่ 144Hz สวยงามลื่นไหล
• มี G-Sync ทำให้เกมที่มีฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุก
• คีย์บอร์ดใช้งานดีมีไฟ RGB 3 โซน ส่วนของ WASD เป็นไฟ RGB ที่ปรับแยกต่างหากได้
• ระบบเสียงดีทีเดียวอย่าง BANG & OLUFSEN
• มีพอร์ต Thunderbolt  (USB 3.1 Type-C) มาให้พร้อมใช้งาน
• ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ มาพร้อมใช้งานทันที
• มีซอฟต์แวร์ OMEN COMMAND CENTER ใช้ปรับแต่งตั้งค่าต่างๆ ของตัวเครื่องได้
• HP On site Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี +  Smart Friend 1 ปี

ข้อสังเกต

• อุณหภูมิร้อนสูงของชิปประมวลผลค่อนข้างสูง เมื่อใช้งานเต็มที่ 100%
• แบตเตอรี่ใช้งานได้น้อยไปหน่อย ควพกอแดปเตอร์ติดตัวไปด้วย
• แรมให้มาเป็น 8GB จำนวน 1 แถว ถ้าให้มาเป็น 8GB x 2 แถวน่าจะดีกว่านี้

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง OMEN 15 Laptop by HP ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ OMEN by HP มาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ แล้ว ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน OMEN 15 Laptop by HP จากการที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ยิ่งกว่าเดิม วัสดุเป็นโลหะตลอดทั้งตัวเครื่องด้านนอกด้านใน ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คเกมเมอร์รุ่นใหม่ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

Best Multimedia

ระบบเสียง BANG & OLUFSEN อีกกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปบนหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD IPS 144Hz แถมมาพร้อมด้วยสเปคของระบบที่สดใหม่และเร็วแรง สามารถตอบสนองความบันเทิงได้ในทุกๆ รูปแบบไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็ทำได้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ OMEN 15 Laptop by HP จะได้รางวัลนี้ไป

Best Performance

OMEN 15 Laptop by HP มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-9750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q พร้อมแรมขนาด 8GB รองรับการอัพเกรดอีก 1 แถว  และ SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB และฮาร์ดดิสก์ 1TB แบบ 7200 รอบ ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว พร้อมความจุที่สูงไปพร้อมๆ กัน รองรับการทำงานต่างๆ ได้อย่างไม่ติดขัด รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล จากการทดสอบให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมหรือทำงานที่ดีมากๆ หน้าจอก็เป็น IPS เกรดสูงที่ 144Hz อีกด้วย