ASUS TUF Gaming FX505DV มาแล้ว เป็นรุ่นท็อปล่าสุดของตระกูล ASUS TUF Gaming FX505 ทั้ง DD / DT / DU รวมไปถึง DY ที่ประสบความเร็จเป็นอย่างดี บทความนี้แอดมินโป้ง NBS ได้มีโอกาสรีวิว Gaming Notebook สเปก AMD Ryzen 5 3550H + NVIDIA GeForce RTX 2060 ขอบหน้าจอบาง โดยไปทำการตีบวกยัดสเปคจัดเต็ม ฟีเจอร์แน่นๆ ในราคาสุดคุ้มเหมือนเดิม นับว่าเป็น Gaming Notebook จอ 15.6″ ที่คุ้มค่าที่สุดในงบประมาณสามหมื่นบาทกลางๆ อีกรุ่นที่น่าสนใจจริงๆ
โดย ASUS TUF Gaming FX505DV เครื่องที่เราได้รับมารีวิวนั้นเป็นสเปกขายจริงแล้ว โดยมีหน่วยความจำแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 2666 และมี SSD m. 512GB PCIe มาให้ด้วย ส่วนหน้าจอก็ขนาด 15.6″ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับที่ 120 Hz พร้อม Windows 10 ในราคาเพียง 34,990 บาท ได้ประกัน 2 ปี และประอุบัติเหตุในปีแรก ซึ่งจะมี ASUS TUF Gaming FX505DV อีกรุ่นที่ใช้การ์ดจอเป็น RTX 2060 และส่วนอื่นๆ เหมือนกันหมด แต่ต่างกันตรงที่ชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 7 3750H ที่ราคา 36,990 บาท
VDO Review
Specification
สเปกของ ASUS TUF Gaming FX505DV รุ่นที่นำมารีวิว ใช้ชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 5 3550H ทำงานแบบ 4 Core/8 Thread ด้วยความเร็ว 2.1 – 3.7 GHz สถาปัตยกรรม 12 นาโนเมตร ประสิทธิภาพแรง พร้อมฟีเจอร์มากมาย เช่น SenseMI คอยจัดการให้เหมาะสมกับการใช้งานอย่างที่ไม่มีใน Intel ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 8 ส่วนการ์ดจอก็แรงระดับ RTX 2060 (6GB GDDR6) ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า GTX รุ่นใหม่ทั้งหมด นับได้ว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ ทีเดียว หาได้ยากใน Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ
ส่วนสเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ได้หน้าจอที่ 120Hz แบบ NanoEdge ขอบจอบาง ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขนาด 15.6″ ส่วนแรมขนาด 16GB 1 แถว DDR4 2666MHz (สูงสุดที่ 32GB) รวมไปถึงที่เก็บข้อมูลให้มาเลยคือ SSD NVME PCIe ความจุ 512GB เป็นมาตรฐานพร้อมรองรับการอัพเกรด HDD 2.5″ ได้อีก 1 ตัว อีกทั้งการเชื่อมต่อก็ครบถ้วนด้วยมาตรฐาน Wi-Fi AC และ Bluetooth 5.0 พร้อมกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว
ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาให้พอตัวทั้ง HDMI, 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 2.0, Kensington lock slot, LAN RJ-45, รูหูฟังกับไมค์แบบ Combo ซึ่งพอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมดจะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่อง พร้อมระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้มาให้ในตัว การรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม
- AMD Ryzen 5 3550H + RTX 2060 + RAM 16GB + SSD 512GB ราคา 34,990 บาท
- AMD Ryzen 5 3750H + RTX 2060 + RAM 16GB + SSD 512GB ราคา 36,990 บาท
Hardware / Design
ที่ผ่านมาในปี 2019 สำหรับ ASUS TUF Gaming FX505 นับว่าเป็น Gaming Notebook ที่ดีมากๆ ได้ทั้งความคุ้มค่า ประสิทธิภาพความแรง แบบที่หลายๆ อย่างยกมาจากรุ่นพี่ ROG เลย แต่มาในราคาที่ไม่แพง สามารถจับต้องได้ง่าย โดยที่ผ่านมาเราเห็นกันมาแล้ว อย่าง ASUS TUF Gaming FX505DD / DT / DU ที่เป็นรุ่นใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3550H / AMD Ryzen 7 3750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 10 Series รุ่นใหม่รวมไปถึง ASUS TUF Gaming FX505DY ที่ได้สเปกเป็น AMD Ryzen 5 3550H กับการ์ดจอ Radeon RX560X ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในงบ 20,000 – 30,000 บาท แทบไม่มี Gaming Notebook รุ่นไหนสู้ได้ทีเดียว
ASUS TUF Gaming FX505DV ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้รุ่นอื่นๆ อย่างในเรื่องของขอบหน้าจอบาง นั่นก็ทำให้ตัวเครื่องมิติโดยรวมมีความเล็กกระทัดรัดลง แม้เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แต่ก็มีความใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ แบบสมัยก่อนๆ มาก ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็น Notebook ที่สเปกแรงมากๆ แต่น้ำหนักเบาๆ พกพาสะดวก มีความทนทานระดับ Military Grade ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้
ดีไซน์การออกแบบของ ASUS TUF Gaming FX505DV เรียกได้ว่าถอดรูปแบบมาจาก FX505 รุ่นก่อนหน้านี้มาแบบเต็มๆ แล้วจับมาเปลี่ยนโทนสีเป็นโทนสีดำคล้ายกับรุ่น FX505 ตัวก่อนๆ โดยบอดี้ตัวเครื่องก็จะมีลักษณะที่เน้นเรื่องความโฉบเฉี่ยว ดุดัน โดยจะเปลี่ยนลายฝาหลังวัสดุจะเป็นพลาสติกสีดำ ทำเป็นลายขีดเส้นตัว X ผิวเรียบลายปัดเสี้ยน ตรงกลางฝาหลังมีโลโก้ ASUS สีเงินสะท้อนแสงสวยงาม สไตล์ Gaming Notebook ที่เรียบๆ โดย ASUS ให้ชื่อกับสีสันนี้ว่า Stealth Black
ส่วนด้านในจะเป็นพลาสติกแบบมีลวดลายคล้ายโลหะปัดเสี้ยนให้สัมผัสผิวไม่เรียบ ที่นอกสายสวยงามแล้วคือเป็นลายนิ้วมือได้ยาก นับว่าเป็รอะไรที่น่าประทับใจมากๆ ทั้งภายนอกและภายใน ที่ดูแล้วลงตัวกว่ารุ่นก่อนหน้าไปอีกขั้น ทางด้านพับตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้เป็นแบบบานพับคู่วัสดุเป็นพลาสติกแข็งแรง พร้อมมีการตัดช่องเป็น V-Sharp ช่วงให้อากาศไหลผ่านได้ดีขึ้น และมีช่องระบายอากาศด้านบนคีย์บอร์ดเพิ่มเข้ามา ส่วนด้านหลังตัวเครื่องออกแบบให้มีช่องระบายความร้อนสองช่องขนาดใหญ่ ฟินระบายความร้อนเป็นสีแดงเข้ม
นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของระบบระบายความร้อนก็ใช้ระบบ Hyper Cool สามารถปรับเร่งรับได้ ฟินระบายความร้อนสีแดง พร้อมมี Anti-Dust Tunnel สำหรับเป่าฝุ่นออกมาให้อีกด้วย จัดเต็มจริงๆ ให้มาครบไม่มีกั๊ก ส่วนของคีย์บอร์ดจะให้ไฟ RGB แบบ All Zone ปุ่ม WASD ทำไฮไลท์ไว้ สามารถรองรับการกดได้ 20 ล้านครั้ง Travel Key 1.8 mm การวางเลเอาท์จะเหมือนกับคีย์บอร์ดแยกจริงๆ
ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องวัสดุพลาสติกที่แข็งแรงพร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นใต้เครื่อง อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย
อีกหนึ่งความโดดเด่นของ ASUS TUF Gaming FX505DV คือมิติตัวเครื่องค่อนข้างเล็ก พกพาหรือหยิบใส่กระเป๋าได้สบายๆ โดยสามารถใช้กระเป๋าโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วได้เลย รวมถึงปุ่มคีย์บอร์ดที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ ทำการทำไฮไลท์ปุ่ม WASD ใหม่เป็นสีขาวใส มีไฟ RGB สามารถปรับได้ 3 ระดับ พร้อมปุ่ม Spacebar ด้านมุมล่างซ้ายก็ทำแหว่งออกมานิดหนึ่งเพื่อให้ใช้นิ้วโป้งซ้ายกดง่ายขึ้นด้วย
สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ ASUS TUF Gaming ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ ที่ไม่ใช่แค่แรง แต่แข็งแรงทนทาน ระบบระบายความร้อนดี ขอบจอต้องบางเฉียบ ยกให้เป็น Gaming Notebook การ์ดจอ RTX ราคาคุ้มค่าที่สุดของปี 2019 ไปเลย
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ ASUS TUF Gaming FX505DV มาพร้อมไฟ RGB Auraโดยเป็นแบบ All Zone ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ ได้หลากหลายรูปแบบ นับได้ว่าเป็นครั้งแรกของตระกูล ASUS TUF Gaming ที่คีย์บอร์ดมีไฟ RGB เหมือนกับรุ่นพี่ ROG คีย์บอร์ดที่แฝงไว้ด้วยคาแรคเตอร์ของความเป็น Gaming ด้วย 4 ปุ่ม WASD ที่เกมเมอร์คุ้นเคย
เสริมความโดดเด่นสวยงาม สามารถสังเกตได้ง่าย จากการที่ปุ่มมีความขาวใส โดยวางนิ้วบนปุ่มได้อย่างรวดเร็ว ตัวปุ่มกดแบบ Chiclet Switches ที่มีระยะห่างระหว่างปุ่ม 1.8 มม. ปุ่มโค้ง 0.25 มม. รองรับ N-key Rollover และแยกปุ่มลูกศรชัดเจน รวมถึง Numpad ก็มีมาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งานได้แบบแป้นพิมพ์ Full Size ด้วยเช่นกัน
ส่วนของทัชแพดที่มีขนาดพอเหมาะพอดีกับตัวเครื่อง ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบซ่อนปุ่มเพื่อความสวยงาม และทำไฮไลท์เส้นแบ่งโซน เข้ากับตัวเครื่องโดยรวมได้เป็นอย่างดี พื้นผิวมีลักษณะเรียบลื่น แต่อาจจจะเป็นคราบรอยนิ้วมือง่ายสักหน่อยและยวบไปนิดนึง
Screen / Speaker
ASUS TUF Gaming FX505DV มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบเพียง 6.5 มิลลิเมตรทั้งขอบด้านข้างและด้านบน ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ 120Hz ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไปที่แค่ 60Hz รวมๆ แล้ว ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2019 ทั่วไปมากทีเดียว
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS TUF Gaming FX505DV ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูงกว่า TN จึงได้ทำการทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 62% และ AdobeRGB 46% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีเขียวและสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับกลางๆ ค่อนไปทางดี ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพหน่อยก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องมุมซ้ายบนเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่ 220 cd/m2 แต่สำหรับช่องกลางด้านซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 17% ที่ถือว่าค่อนข้างเยอะ ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง DTS Headphone: X ทำให้มีเสียงดังฟังชัด มีน้ำหนัก ถือว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีในระดับหนึ่งตามสไลต์เสียงจากลำโพงโน๊ตบุ๊ค ช่องลำโพงถูกออกแบบมาอย่างแนบเนียน อยู่ด้านข้างตัวเครื่องซ้ายขวา พร้อมทำสีสันเป็นสีแดง ช่วยแก้ปัญหาสำหรับบางคนที่เวลาพิมพ์งานข้อมืออาจจะไปปิดช่องลำโพงทำให้เสียงออกไม่เต็มที่ได้
Connector / Thin And Weight
มาดูทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS TUF Gaming FX505DV กันบ้าง ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว โดยตัวพอร์ตจะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่องทั้งหมด มีทั้ง USB 3.1 Type-A (Gen 1) จำนวน 2 พอร์ต, USB 2.0 จำนวน 1 พอร์ต พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, Lan และ HDMI ส่วน Kensington จะอยู่ที่ด้านขวา โดยตัวเครื่องจะไม่มี SD Card Reader และ USB 3.1 Type-C
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.0 และ Wireless แบบ 802.11b/g/n/ac หรือเรียกว่ามาตราฐาน Wi-Fi 5 (2×2)ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น ส่วนขนาดของตัวเครื่อง 360.4 x 262.0 x 25.8 ~26.8 มม. น้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างเบาเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่มักจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 กิโลกรัมขึ้นไป และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 230 W เข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.8 กิโลกรัมเท่านั้น พอแบกพกพาไปไหนมาไหนได้อยู่ไม่หนักมาก
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง ASUS TUF Gaming FX505DV เพื่อทำการอัพเกรดนั้นทำง่ายมากเพียงแกะน็อตออกทุกตัวแล้วใช้บัตรแข็งๆ ค่อยๆ แงะจากด้านหลังตรงแกนฝาพับตัวเครื่องแล้วค่อยๆ รูดไปตามแนวฝาหลัง และแกะแผ่นออกมาทั้งหมด เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีพัดลมขนาดใหญ่ HyperCool พร้อมระบายความร้อนที่มี Anti-Dust Tunnels ที่อยู่ในชุดฟินสีแดง หมดกังวลเรื่องฝุ่นที่ติดตรงครีบระบายความร้อนจุดสังเกตที่เปลี่ยนไปคือตัวเครื่องเลือกใช้ฮีทไปป์ 3 เส้นขนาดใหญ่ เรียกได้ว่าเอาอยู่กับสเปกแบบนี้แล้ว (ดีกว่ารุ่น DD / DT / DU)
ซึ่งหลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดคือมีช่องใส่ SSD หรือ HDD 2.5″ ธรรมดาก็ได้แล้วจะเรา กรณีที่อยากได้ความจุเพิ่ม โดยตัวเครื่องได้ให้น็อตมาให้ 4 ตัวในกล่องสำหรับถาด HDD ส่วน Ram ใส่มาแล้วเป็น 8GB x 2 แถว โดยรองรับการอัพเกรดได้สูงสุดที่ 32 GB แต่ยังไงเดิมๆ ให้มา 16GB แล้ว และ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ก็ติดตั้งมาแล้ว เพียงพอต่อการใช้งานของเราแน่นอน ส่วนตัวไม่จำเป็นต้องอัพเพิ่มเติมแต่อย่างใด
Performance / Software
ASUS TUF Gaming FX505DV ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3550H สถาปัตยกรรม Zen+ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 12 nm ความเร็ว 2.1 – 3.7 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread ร้อนน้อยกว่า ราคาต้นทุนถูกกว่า พร้อมฟีเจอร์มากมาย เช่น SenseMI คอยจัดการให้เหมาะสมกับการใช้งานอย่างที่ไม่มีใน Intel ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 10 ส่วนการ์ดจอก็ดีกว่า GTX 16 Series จากการที่เป็น RTX 2060 (6GB GDDR6) ส่วนแรมขนาด 8GB x 2 แถว รวมเป็น 16GB และให้ SSD NVMe PCIe ความจุ 512GB เป็นมาตรฐาน
สำหรับ AMD Ryzen 5 3550H แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่าชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen ตระกูล U พอตัว มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 แบบ 2 แถว Bus 2666MHz ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ อัพเกรดได้สูงสุดที่ 32GB กรณีในอนาคตถ้าอยากจะจัดเพิ่ม แต่จริงๆ แล้ว 16GB ก็เพียงพอต่อการใช้งานที่หลากหลายของเราแล้ว
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon RX Vega 8 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2060 ที่ต้องบอกว่าแรงกว่า GTX 1070 ประมาณนึง แต่ร้อนน้อยกว่า เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล Intel Core i5 ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ของ Intel ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1826MB/s และเขียนที่ 963MB/s แม้อาจจะไม่ได้เร็วที่สุดจัดว่าอยู่ในระดับกลางๆ แต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐาน SATA 3 แบบเดิมๆ แล้ว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,388 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยกระดับ RTX 2060 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป แต่เอาจริงๆ ก็ใกล้เคียงกับสเปกของ DU เหมือนกัน
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3550H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce RTX 2060 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ ให้เฟรมเรทเฉลี่ยแล้วสูงกว่า 60 ทั้งหทด เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้
เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 80 – 90 – 120 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 80 บ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่
ที่สำคัญด้วยหน้าจอพาเนล IPS แบบ Refresh Rate ที่ 120Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 120Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่
นอกเหนือจากนี้ทาง ASUS ยังมี Armory Crate ซอฟต์แวร์ Utility ที่ยกมาจาก ROG โดยเป็นลักษณะของแอพพลิเคชั่นที่ช่วยเอื้ออำนวยในการปรับแต่งเพื่อการเล่นหรือทำงานโดยเฉพาะ อย่าง TUF Aura ที่เราสามารถปรับแต่งไฟคีย์บอร์ด RGB All Zone ได้ ในหลายๆ แบบ หลายๆ สไตล์ ตามพรีเซ็ทต่างๆ รวมไปถึงการปรับไฟขณะเปิดหรือปิดเครื่องได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อย่าง โหมดการใช้งานพร้อมแสดงสถานะแบบชัดเจน ที่สำคัญคือใช้งานง่าย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS TUF Gaming FX505DV ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 4000mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 6 – 7 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS TUF Gaming FX505DV เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 40 – 50 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 35 – 45 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมด Turbo
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 90 – 92 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 75 – 80 องศาเซลเซียสโดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดีมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า Gaming Notebook ในสเปกเดียวกัน สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยซอฟต์แวร์จากปกติที่จะเป็นแบบ Balance ก็สามารถทำได้
Conclusion / Award
จาการที่สัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ ASUS TUF Gaming FX505DV ทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า ASUS ทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ล้ำหน้า ขอบจอบาง น้ำหนักเบา มีไฟคีย์บอร์ด RGB งานประกอบและวัสดุที่เยี่ยมยอด ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น รวมไปถึงระบบระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น สเปคประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือได้หน้าจอพาเนล IPS 120Hz และมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานด้วย
ASUS TUF Gaming FX505DV ได้สเปกที่เหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยการรวมตัวของชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3550H ที่มีความแรงที่ดี ไม่แพ้ฝั่ง Intel Core i ตระกูล H ที่สำคัญความร้อนมีไม่มาก พร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6) และแรม DDR4 ขนาด 16GB อีกทั้งยังมี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB แบบความเร็วสูง มาให้พร้อมใช้งาน ครบครันกับการใช้งาน สมกับเป็น Gaming Notebook มีความเป็น TUF Gaming ที่ไม่ใช่แค่สวยงามดุดัน แต่เน้นประสิทธิภาพต่อราคาที่คุ้มค่าด้วย อย่างที่แบรนด์อื่นๆ ไม่สามารถให้ได้
เรื่องของการออกแบบที่ ASUS TUF Gaming FX505DV ทำได้ดีมาก ฉีกรูปแบบเดิมๆ ออกไป ด้วยดีไซน์สไตล์ TUG Gaming ที่เป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ แต่มีมิติตัวเครื่องเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 14″ แบบเดิมๆ ที่ดูดุดันจริงจังเกินราคา บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟแบบพิเศษ ด้วยปุ่ม WASD เป็นแบบโปร่งแสงโดดเด่น ระบบเสียงคุณภาพดี แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 7 ชั่วโมง
ที่สำคัญเครื่องนี้มีระบบป้องกันฝุ่น Anti-Dust Cooling (ADC) พร้อมระบบระบายความร้อน HyperCool เหมาะกับกับ Gamer สายพันธุ์ eSport ของแท้ เพื่อการใช้งานที่ยาวนานและต่อเนื่องระดับมืออาชีพ ใกล้เคียงกับตระกูล ROG เข้าไปอีกขั้น ที่แม้ว่าไม่มีพอร์ต USB 3.1 Type-C และ SD Card Reader ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ก็ยังเป็นอะไรที่รับได้อยู่ เพราะสามารถซื้ออุปกรณ์มาทดแทนได้ เมื่อเทียบประสิทธิภาพต่อราคา
สรุปแล้ว ASUS TUF Gaming FX505DV ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่คุ้มที่สุดในงบประมาณช่วงสามหมื่นบาทกลางๆ เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงทั้งด้วยชิปประมวลผลและกราฟิกการ์ดที่แรงเพียงพอกับทุกเกมในตลาด แทบไม่ต้องอัพเกรดอะไรแล้ว ไม่ร้อนจนเกินไปแถมมีความทนทานระดับ Military Grade ยกระดับ Gaming Notebook ปี 2019 ในตลาดออกไปอีกขั้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จจาก ASUS TUF Gaming FX505DY / DD / DT / DU ไปแล้ว ที่เน้นใช้ชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 3000 Series ตระกูล H ที่ทั้งแรงและทำราคาได้คุ้มค่ากว่า
โดยการมาของ ASUS TUF Gaming FX505DV ที่มาพร้อมการ์ดจอที่แรงกว่าอย่าง RTX 2060 เรียกได้ว่ายิ่งพวกตัวเลือกในตลาด Gaming Notebook เข้าไปอีก หลังจากที่ผ่านมามีแต่สเปกที่เป็น Intel + NVIDIA GeFroce RTX ตอนนี้ AMD + NVIDIA GeFroce RTX ก็เริ่มมีมาแล้ว กับความคุ้มค่าต่อราคาที่มากกว่า ที่สำคัญมีเพียง ASUS TUF Gaming FX Series เท่านั้นที่ทำตลาดเพียงเจ้าเดียว จัดว่าเป็นอาวุธลับของทาง ASUS ที่ทำให้แบรนด์ Gaming Notebook อื่นๆ ทำตามได้ยากทีเดียว
ปิดท้ายเทียบกับ ASUS TUF Gaming FX505DV (34,900 บาท) เทียบกับ ASUS TUF Gaming FX505DU (29,900 บาท) ในราคาที่ต่างกัน 5,000 บาท แม้ว่าได้ชิปประมวลผลที่แรงน้อยกว่าหน่อย แต่ได้การ์ดจอที่แรงขึ้นด้วย RTX 2060 เล่นเกมได้ลื่นกว่าแล้ว รวมไปถึงได้แรมจัดเต็มมาเลย 16GB ความร้อนก็ไม่ต่างกันมาก รวมไปถึงแบตเตอรี่และเรื่องอื่นๆ ก็ไม่ต่างกันมากนัก ยังไงถ้าใครต้องการ Gaming Notebook การ์ดจอ RTX 2060 ที่ถูกที่สุด ก็จัดได้เลย หรือครอยากจบๆ ไปซื้อรุ่นราคา 36,900 บาทเลย สเปกเป็น AMD Ryzen 7 3750H ก็ได้ตามงบประมาณ
สเปก ASUS TUF Gaming FX505DV ราคา 34,990 บาท
- CPU : AMD Ryzen 5 3550H
- GPU : NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6)
- RAM : 16GB DDR4
- Storage : SSD PCIe 512GB
- Display : 15.6″ Full HD IPS 120Hz
- OS : Windows 10
สเปก ASUS TUF Gaming FX505DV ราคา 36,990 บาท
- CPU : AMD Ryzen 7 3750H
- GPU : NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6)
- RAM : 16GB DDR4
- Storage : SSD PCIe 512GB
- Display : 15.6″ Full HD IPS 120Hz
- OS : Windows 10
จุดเด่น
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจตามสไตล์ TUF Gaming งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ขอบหน้าจอบางพิเศษ มิติเทียบเท่ารุ่น 14″ ตัวเครื่องเบา 2.2 กิโลกรัม
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H การ์ดจอ RTX 2060
- แรมขนาด 8GB 1 แถว เพียงพอต่อการใช้งาน อัพได้สูงสุด 32GB
- ติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB พร้อมอัพเกรดฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ได้
- ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพดี พร้อมรองรับ 120 Hz
- คีย์บอร์ดมีไฟ RGB All Zone พร้อมมีซอฟต์แวร์มาช่วยปรับแต่ง
- อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าไม่ร้อนจนเกินไป
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 7 ชั่วโมง
- มีความทนทานระดับ Military Grade น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
- ประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม ประทับใจมาก เมื่อเทียบกับราคา
- ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 และมีประกันอุบติเหตุ 1 ปี
ข้อสังเกต
- ไม่มีพอร์ต USB 3.1 Type-C และ SD Card Reader
- ทัชแพดยวบไปนิดนึง แต่ก็ไม่มีผลต่อการใช้งานเท่าไร
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS TUF Gaming FX505DV ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ TUF Gaming โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS TUF Gaming FX505DV ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แถมน้ำหนักเบาแค่ 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น
Best Durability
ASUS TUF Gaming FX505DV มีความทนทานระดับ Military Grade ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาเราจะหาความทนทานระดับ Military Grade ได้ก็พวก Ultrabook ราคาแพงเท่านั้น แต่สิ่งนี้ ASUS จัดเต็มมาให้เลย
Best Value
ASUS TUF Gaming FX505DV สเปคเป็น AMD Ryzen 5 3550H + NVIDIA GeForce RTX 2060 + จอ IPS 120Hz ขอบหน้าจอบาง + Ram 8 GB + SSD m.2 512GB PCIe + มี Windows 10 แท้ แถมได้การรับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกอีกด้วย ในราคาเพียง 34,900 บาท เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แบบนี้
*** บทความนี้ใช้ภาพและเนื้อจากบทความรีวิว ASUS TUF Gaming FX505DU บางส่วน เพราะหลายอย่างเหมือนกันกับ ASUS TUF Gaming FX505DV แจ้งเพื่อทราบ
VDO Review
Specification
สเปกของ ASUS TUF Gaming FX505DV รุ่นที่นำมารีวิว ใช้ชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 5 3550H ทำงานแบบ 4 Core/8 Thread ด้วยความเร็ว 2.1 – 3.7 GHz สถาปัตยกรรม 12 นาโนเมตร ประสิทธิภาพแรง พร้อมฟีเจอร์มากมาย เช่น SenseMI คอยจัดการให้เหมาะสมกับการใช้งานอย่างที่ไม่มีใน Intel ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 8 ส่วนการ์ดจอก็แรงระดับ RTX 2060 (6GB GDDR6) ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า GTX รุ่นใหม่ทั้งหมด นับได้ว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ ทีเดียว หาได้ยากใน Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ
ส่วนสเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ได้หน้าจอที่ 120Hz แบบ NanoEdge ขอบจอบาง ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขนาด 15.6″ ส่วนแรมขนาด 16GB 1 แถว DDR4 2666MHz (สูงสุดที่ 32GB) รวมไปถึงที่เก็บข้อมูลให้มาเลยคือ SSD NVME PCIe ความจุ 512GB เป็นมาตรฐานพร้อมรองรับการอัพเกรด HDD 2.5″ ได้อีก 1 ตัว อีกทั้งการเชื่อมต่อก็ครบถ้วนด้วยมาตรฐาน Wi-Fi AC และ Bluetooth 5.0 พร้อมกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว
ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาให้พอตัวทั้ง HDMI, 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 2.0, Kensington lock slot, LAN RJ-45, รูหูฟังกับไมค์แบบ Combo ซึ่งพอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมดจะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่อง พร้อมระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้มาให้ในตัว การรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม
- AMD Ryzen 5 3550H + RTX 2060 + RAM 16GB + SSD 512GB ราคา 34,990 บาท
- AMD Ryzen 5 3750H + RTX 2060 + RAM 16GB + SSD 512GB ราคา 36,990 บาท
Hardware / Design
ที่ผ่านมาในปี 2019 สำหรับ ASUS TUF Gaming FX505 นับว่าเป็น Gaming Notebook ที่ดีมากๆ ได้ทั้งความคุ้มค่า ประสิทธิภาพความแรง แบบที่หลายๆ อย่างยกมาจากรุ่นพี่ ROG เลย แต่มาในราคาที่ไม่แพง สามารถจับต้องได้ง่าย โดยที่ผ่านมาเราเห็นกันมาแล้ว อย่าง ASUS TUF Gaming FX505DD / DT / DU ที่เป็นรุ่นใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3550H / AMD Ryzen 7 3750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 10 Series รุ่นใหม่รวมไปถึง ASUS TUF Gaming FX505DY ที่ได้สเปกเป็น AMD Ryzen 5 3550H กับการ์ดจอ Radeon RX560X ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในงบ 20,000 – 30,000 บาท แทบไม่มี Gaming Notebook รุ่นไหนสู้ได้ทีเดียว
ASUS TUF Gaming FX505DV ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้รุ่นอื่นๆ อย่างในเรื่องของขอบหน้าจอบาง นั่นก็ทำให้ตัวเครื่องมิติโดยรวมมีความเล็กกระทัดรัดลง แม้เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แต่ก็มีความใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ แบบสมัยก่อนๆ มาก ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็น Notebook ที่สเปกแรงมากๆ แต่น้ำหนักเบาๆ พกพาสะดวก มีความทนทานระดับ Military Grade ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้
ดีไซน์การออกแบบของ ASUS TUF Gaming FX505DV เรียกได้ว่าถอดรูปแบบมาจาก FX505 รุ่นก่อนหน้านี้มาแบบเต็มๆ แล้วจับมาเปลี่ยนโทนสีเป็นโทนสีดำคล้ายกับรุ่น FX505 ตัวก่อนๆ โดยบอดี้ตัวเครื่องก็จะมีลักษณะที่เน้นเรื่องความโฉบเฉี่ยว ดุดัน โดยจะเปลี่ยนลายฝาหลังวัสดุจะเป็นพลาสติกสีดำ ทำเป็นลายขีดเส้นตัว X ผิวเรียบลายปัดเสี้ยน ตรงกลางฝาหลังมีโลโก้ ASUS สีเงินสะท้อนแสงสวยงาม สไตล์ Gaming Notebook ที่เรียบๆ โดย ASUS ให้ชื่อกับสีสันนี้ว่า Stealth Black
ส่วนด้านในจะเป็นพลาสติกแบบมีลวดลายคล้ายโลหะปัดเสี้ยนให้สัมผัสผิวไม่เรียบ ที่นอกสายสวยงามแล้วคือเป็นลายนิ้วมือได้ยาก นับว่าเป็รอะไรที่น่าประทับใจมากๆ ทั้งภายนอกและภายใน ที่ดูแล้วลงตัวกว่ารุ่นก่อนหน้าไปอีกขั้น ทางด้านพับตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้เป็นแบบบานพับคู่วัสดุเป็นพลาสติกแข็งแรง พร้อมมีการตัดช่องเป็น V-Sharp ช่วงให้อากาศไหลผ่านได้ดีขึ้น และมีช่องระบายอากาศด้านบนคีย์บอร์ดเพิ่มเข้ามา ส่วนด้านหลังตัวเครื่องออกแบบให้มีช่องระบายความร้อนสองช่องขนาดใหญ่ ฟินระบายความร้อนเป็นสีแดงเข้ม
นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของระบบระบายความร้อนก็ใช้ระบบ Hyper Cool สามารถปรับเร่งรับได้ ฟินระบายความร้อนสีแดง พร้อมมี Anti-Dust Tunnel สำหรับเป่าฝุ่นออกมาให้อีกด้วย จัดเต็มจริงๆ ให้มาครบไม่มีกั๊ก ส่วนของคีย์บอร์ดจะให้ไฟ RGB แบบ All Zone ปุ่ม WASD ทำไฮไลท์ไว้ สามารถรองรับการกดได้ 20 ล้านครั้ง Travel Key 1.8 mm การวางเลเอาท์จะเหมือนกับคีย์บอร์ดแยกจริงๆ
ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องวัสดุพลาสติกที่แข็งแรงพร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นใต้เครื่อง อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย
อีกหนึ่งความโดดเด่นของ ASUS TUF Gaming FX505DV คือมิติตัวเครื่องค่อนข้างเล็ก พกพาหรือหยิบใส่กระเป๋าได้สบายๆ โดยสามารถใช้กระเป๋าโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วได้เลย รวมถึงปุ่มคีย์บอร์ดที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ ทำการทำไฮไลท์ปุ่ม WASD ใหม่เป็นสีขาวใส มีไฟ RGB สามารถปรับได้ 3 ระดับ พร้อมปุ่ม Spacebar ด้านมุมล่างซ้ายก็ทำแหว่งออกมานิดหนึ่งเพื่อให้ใช้นิ้วโป้งซ้ายกดง่ายขึ้นด้วย
สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ ASUS TUF Gaming ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ ที่ไม่ใช่แค่แรง แต่แข็งแรงทนทาน ระบบระบายความร้อนดี ขอบจอต้องบางเฉียบ ยกให้เป็น Gaming Notebook การ์ดจอ RTX ราคาคุ้มค่าที่สุดของปี 2019 ไปเลย
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ ASUS TUF Gaming FX505DV มาพร้อมไฟ RGB Auraโดยเป็นแบบ All Zone ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ ได้หลากหลายรูปแบบ นับได้ว่าเป็นครั้งแรกของตระกูล ASUS TUF Gaming ที่คีย์บอร์ดมีไฟ RGB เหมือนกับรุ่นพี่ ROG คีย์บอร์ดที่แฝงไว้ด้วยคาแรคเตอร์ของความเป็น Gaming ด้วย 4 ปุ่ม WASD ที่เกมเมอร์คุ้นเคย
เสริมความโดดเด่นสวยงาม สามารถสังเกตได้ง่าย จากการที่ปุ่มมีความขาวใส โดยวางนิ้วบนปุ่มได้อย่างรวดเร็ว ตัวปุ่มกดแบบ Chiclet Switches ที่มีระยะห่างระหว่างปุ่ม 1.8 มม. ปุ่มโค้ง 0.25 มม. รองรับ N-key Rollover และแยกปุ่มลูกศรชัดเจน รวมถึง Numpad ก็มีมาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งานได้แบบแป้นพิมพ์ Full Size ด้วยเช่นกัน
ส่วนของทัชแพดที่มีขนาดพอเหมาะพอดีกับตัวเครื่อง ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบซ่อนปุ่มเพื่อความสวยงาม และทำไฮไลท์เส้นแบ่งโซน เข้ากับตัวเครื่องโดยรวมได้เป็นอย่างดี พื้นผิวมีลักษณะเรียบลื่น แต่อาจจจะเป็นคราบรอยนิ้วมือง่ายสักหน่อยและยวบไปนิดนึง
Screen / Speaker
ASUS TUF Gaming FX505DV มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบเพียง 6.5 มิลลิเมตรทั้งขอบด้านข้างและด้านบน ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ 120Hz ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไปที่แค่ 60Hz รวมๆ แล้ว ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2019 ทั่วไปมากทีเดียว
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS TUF Gaming FX505DV ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูงกว่า TN จึงได้ทำการทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 62% และ AdobeRGB 46% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีเขียวและสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับกลางๆ ค่อนไปทางดี ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพหน่อยก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องมุมซ้ายบนเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่ 220 cd/m2 แต่สำหรับช่องกลางด้านซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 17% ที่ถือว่าค่อนข้างเยอะ ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง DTS Headphone: X ทำให้มีเสียงดังฟังชัด มีน้ำหนัก ถือว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีในระดับหนึ่งตามสไลต์เสียงจากลำโพงโน๊ตบุ๊ค ช่องลำโพงถูกออกแบบมาอย่างแนบเนียน อยู่ด้านข้างตัวเครื่องซ้ายขวา พร้อมทำสีสันเป็นสีแดง ช่วยแก้ปัญหาสำหรับบางคนที่เวลาพิมพ์งานข้อมืออาจจะไปปิดช่องลำโพงทำให้เสียงออกไม่เต็มที่ได้
Connector / Thin And Weight
มาดูทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS TUF Gaming FX505DV กันบ้าง ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว โดยตัวพอร์ตจะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่องทั้งหมด มีทั้ง USB 3.1 Type-A (Gen 1) จำนวน 2 พอร์ต, USB 2.0 จำนวน 1 พอร์ต พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, Lan และ HDMI ส่วน Kensington จะอยู่ที่ด้านขวา โดยตัวเครื่องจะไม่มี SD Card Reader และ USB 3.1 Type-C
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.0 และ Wireless แบบ 802.11b/g/n/ac หรือเรียกว่ามาตราฐาน Wi-Fi 5 (2×2)ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น ส่วนขนาดของตัวเครื่อง 360.4 x 262.0 x 25.8 ~26.8 มม. น้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างเบาเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่มักจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 กิโลกรัมขึ้นไป และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 230 W เข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.8 กิโลกรัมเท่านั้น พอแบกพกพาไปไหนมาไหนได้อยู่ไม่หนักมาก
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง ASUS TUF Gaming FX505DV เพื่อทำการอัพเกรดนั้นทำง่ายมากเพียงแกะน็อตออกทุกตัวแล้วใช้บัตรแข็งๆ ค่อยๆ แงะจากด้านหลังตรงแกนฝาพับตัวเครื่องแล้วค่อยๆ รูดไปตามแนวฝาหลัง และแกะแผ่นออกมาทั้งหมด เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีพัดลมขนาดใหญ่ HyperCool พร้อมระบายความร้อนที่มี Anti-Dust Tunnels ที่อยู่ในชุดฟินสีแดง หมดกังวลเรื่องฝุ่นที่ติดตรงครีบระบายความร้อนจุดสังเกตที่เปลี่ยนไปคือตัวเครื่องเลือกใช้ฮีทไปป์ 3 เส้นขนาดใหญ่ เรียกได้ว่าเอาอยู่กับสเปกแบบนี้แล้ว (ดีกว่ารุ่น DD / DT / DU)
ซึ่งหลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดคือมีช่องใส่ SSD หรือ HDD 2.5″ ธรรมดาก็ได้แล้วจะเรา กรณีที่อยากได้ความจุเพิ่ม โดยตัวเครื่องได้ให้น็อตมาให้ 4 ตัวในกล่องสำหรับถาด HDD ส่วน Ram ใส่มาแล้วเป็น 8GB x 2 แถว โดยรองรับการอัพเกรดได้สูงสุดที่ 32 GB แต่ยังไงเดิมๆ ให้มา 16GB แล้ว และ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ก็ติดตั้งมาแล้ว เพียงพอต่อการใช้งานของเราแน่นอน ส่วนตัวไม่จำเป็นต้องอัพเพิ่มเติมแต่อย่างใด
Performance / Software
ASUS TUF Gaming FX505DV ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3550H สถาปัตยกรรม Zen+ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 12 nm ความเร็ว 2.1 – 3.7 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread ร้อนน้อยกว่า ราคาต้นทุนถูกกว่า พร้อมฟีเจอร์มากมาย เช่น SenseMI คอยจัดการให้เหมาะสมกับการใช้งานอย่างที่ไม่มีใน Intel ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 10 ส่วนการ์ดจอก็ดีกว่า GTX 16 Series จากการที่เป็น RTX 2060 (6GB GDDR6) ส่วนแรมขนาด 8GB x 2 แถว รวมเป็น 16GB และให้ SSD NVMe PCIe ความจุ 512GB เป็นมาตรฐาน
สำหรับ AMD Ryzen 5 3550H แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่าชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen ตระกูล U พอตัว มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 แบบ 2 แถว Bus 2666MHz ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ อัพเกรดได้สูงสุดที่ 32GB กรณีในอนาคตถ้าอยากจะจัดเพิ่ม แต่จริงๆ แล้ว 16GB ก็เพียงพอต่อการใช้งานที่หลากหลายของเราแล้ว
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon RX Vega 8 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2060 ที่ต้องบอกว่าแรงกว่า GTX 1070 ประมาณนึง แต่ร้อนน้อยกว่า เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล Intel Core i5 ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ของ Intel ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1826MB/s และเขียนที่ 963MB/s แม้อาจจะไม่ได้เร็วที่สุดจัดว่าอยู่ในระดับกลางๆ แต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐาน SATA 3 แบบเดิมๆ แล้ว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,388 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยกระดับ RTX 2060 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป แต่เอาจริงๆ ก็ใกล้เคียงกับสเปกของ DU เหมือนกัน
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3550H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce RTX 2060 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ ให้เฟรมเรทเฉลี่ยแล้วสูงกว่า 60 ทั้งหทด เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้
เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 80 – 90 – 120 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 80 บ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่
ที่สำคัญด้วยหน้าจอพาเนล IPS แบบ Refresh Rate ที่ 120Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 120Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่
นอกเหนือจากนี้ทาง ASUS ยังมี Armory Crate ซอฟต์แวร์ Utility ที่ยกมาจาก ROG โดยเป็นลักษณะของแอพพลิเคชั่นที่ช่วยเอื้ออำนวยในการปรับแต่งเพื่อการเล่นหรือทำงานโดยเฉพาะ อย่าง TUF Aura ที่เราสามารถปรับแต่งไฟคีย์บอร์ด RGB All Zone ได้ ในหลายๆ แบบ หลายๆ สไตล์ ตามพรีเซ็ทต่างๆ รวมไปถึงการปรับไฟขณะเปิดหรือปิดเครื่องได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อย่าง โหมดการใช้งานพร้อมแสดงสถานะแบบชัดเจน ที่สำคัญคือใช้งานง่าย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS TUF Gaming FX505DV ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 4000mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 6 – 7 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS TUF Gaming FX505DV เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 40 – 50 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 35 – 45 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมด Turbo
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 90 – 92 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 75 – 80 องศาเซลเซียสโดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดีมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า Gaming Notebook ในสเปกเดียวกัน สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยซอฟต์แวร์จากปกติที่จะเป็นแบบ Balance ก็สามารถทำได้
Conclusion / Award
จาการที่สัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ ASUS TUF Gaming FX505DV ทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า ASUS ทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ล้ำหน้า ขอบจอบาง น้ำหนักเบา มีไฟคีย์บอร์ด RGB งานประกอบและวัสดุที่เยี่ยมยอด ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น รวมไปถึงระบบระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น สเปคประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือได้หน้าจอพาเนล IPS 120Hz และมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานด้วย
ASUS TUF Gaming FX505DV ได้สเปกที่เหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยการรวมตัวของชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3550H ที่มีความแรงที่ดี ไม่แพ้ฝั่ง Intel Core i ตระกูล H ที่สำคัญความร้อนมีไม่มาก พร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6) และแรม DDR4 ขนาด 16GB อีกทั้งยังมี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB แบบความเร็วสูง มาให้พร้อมใช้งาน ครบครันกับการใช้งาน สมกับเป็น Gaming Notebook มีความเป็น TUF Gaming ที่ไม่ใช่แค่สวยงามดุดัน แต่เน้นประสิทธิภาพต่อราคาที่คุ้มค่าด้วย อย่างที่แบรนด์อื่นๆ ไม่สามารถให้ได้
เรื่องของการออกแบบที่ ASUS TUF Gaming FX505DV ทำได้ดีมาก ฉีกรูปแบบเดิมๆ ออกไป ด้วยดีไซน์สไตล์ TUG Gaming ที่เป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ แต่มีมิติตัวเครื่องเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 14″ แบบเดิมๆ ที่ดูดุดันจริงจังเกินราคา บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟแบบพิเศษ ด้วยปุ่ม WASD เป็นแบบโปร่งแสงโดดเด่น ระบบเสียงคุณภาพดี แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 7 ชั่วโมง
ที่สำคัญเครื่องนี้มีระบบป้องกันฝุ่น Anti-Dust Cooling (ADC) พร้อมระบบระบายความร้อน HyperCool เหมาะกับกับ Gamer สายพันธุ์ eSport ของแท้ เพื่อการใช้งานที่ยาวนานและต่อเนื่องระดับมืออาชีพ ใกล้เคียงกับตระกูล ROG เข้าไปอีกขั้น ที่แม้ว่าไม่มีพอร์ต USB 3.1 Type-C และ SD Card Reader ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ก็ยังเป็นอะไรที่รับได้อยู่ เพราะสามารถซื้ออุปกรณ์มาทดแทนได้ เมื่อเทียบประสิทธิภาพต่อราคา
สรุปแล้ว ASUS TUF Gaming FX505DV ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่คุ้มที่สุดในงบประมาณช่วงสามหมื่นบาทกลางๆ เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงทั้งด้วยชิปประมวลผลและกราฟิกการ์ดที่แรงเพียงพอกับทุกเกมในตลาด แทบไม่ต้องอัพเกรดอะไรแล้ว ไม่ร้อนจนเกินไปแถมมีความทนทานระดับ Military Grade ยกระดับ Gaming Notebook ปี 2019 ในตลาดออกไปอีกขั้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จจาก ASUS TUF Gaming FX505DY / DD / DT / DU ไปแล้ว ที่เน้นใช้ชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 3000 Series ตระกูล H ที่ทั้งแรงและทำราคาได้คุ้มค่ากว่า
โดยการมาของ ASUS TUF Gaming FX505DV ที่มาพร้อมการ์ดจอที่แรงกว่าอย่าง RTX 2060 เรียกได้ว่ายิ่งพวกตัวเลือกในตลาด Gaming Notebook เข้าไปอีก หลังจากที่ผ่านมามีแต่สเปกที่เป็น Intel + NVIDIA GeFroce RTX ตอนนี้ AMD + NVIDIA GeFroce RTX ก็เริ่มมีมาแล้ว กับความคุ้มค่าต่อราคาที่มากกว่า ที่สำคัญมีเพียง ASUS TUF Gaming FX Series เท่านั้นที่ทำตลาดเพียงเจ้าเดียว จัดว่าเป็นอาวุธลับของทาง ASUS ที่ทำให้แบรนด์ Gaming Notebook อื่นๆ ทำตามได้ยากทีเดียว
ปิดท้ายเทียบกับ ASUS TUF Gaming FX505DV (34,900 บาท) เทียบกับ ASUS TUF Gaming FX505DU (29,900 บาท) ในราคาที่ต่างกัน 5,000 บาท แม้ว่าได้ชิปประมวลผลที่แรงน้อยกว่าหน่อย แต่ได้การ์ดจอที่แรงขึ้นด้วย RTX 2060 เล่นเกมได้ลื่นกว่าแล้ว รวมไปถึงได้แรมจัดเต็มมาเลย 16GB ความร้อนก็ไม่ต่างกันมาก รวมไปถึงแบตเตอรี่และเรื่องอื่นๆ ก็ไม่ต่างกันมากนัก ยังไงถ้าใครต้องการ Gaming Notebook การ์ดจอ RTX 2060 ที่ถูกที่สุด ก็จัดได้เลย หรือครอยากจบๆ ไปซื้อรุ่นราคา 36,900 บาทเลย สเปกเป็น AMD Ryzen 7 3750H ก็ได้ตามงบประมาณ
สเปก ASUS TUF Gaming FX505DV ราคา 34,990 บาท
- CPU : AMD Ryzen 5 3550H
- GPU : NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6)
- RAM : 16GB DDR4
- Storage : SSD PCIe 512GB
- Display : 15.6″ Full HD IPS 120Hz
- OS : Windows 10
สเปก ASUS TUF Gaming FX505DV ราคา 36,990 บาท
- CPU : AMD Ryzen 7 3750H
- GPU : NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6)
- RAM : 16GB DDR4
- Storage : SSD PCIe 512GB
- Display : 15.6″ Full HD IPS 120Hz
- OS : Windows 10
จุดเด่น
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจตามสไตล์ TUF Gaming งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ขอบหน้าจอบางพิเศษ มิติเทียบเท่ารุ่น 14″ ตัวเครื่องเบา 2.2 กิโลกรัม
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H การ์ดจอ RTX 2060
- แรมขนาด 8GB 1 แถว เพียงพอต่อการใช้งาน อัพได้สูงสุด 32GB
- ติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB พร้อมอัพเกรดฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ได้
- ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพดี พร้อมรองรับ 120 Hz
- คีย์บอร์ดมีไฟ RGB All Zone พร้อมมีซอฟต์แวร์มาช่วยปรับแต่ง
- อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าไม่ร้อนจนเกินไป
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 7 ชั่วโมง
- มีความทนทานระดับ Military Grade น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
- ประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม ประทับใจมาก เมื่อเทียบกับราคา
- ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 และมีประกันอุบติเหตุ 1 ปี
ข้อสังเกต
- ไม่มีพอร์ต USB 3.1 Type-C และ SD Card Reader
- ทัชแพดยวบไปนิดนึง แต่ก็ไม่มีผลต่อการใช้งานเท่าไร
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS TUF Gaming FX505DV ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ TUF Gaming โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS TUF Gaming FX505DV ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แถมน้ำหนักเบาแค่ 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น
Best Durability
ASUS TUF Gaming FX505DV มีความทนทานระดับ Military Grade ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาเราจะหาความทนทานระดับ Military Grade ได้ก็พวก Ultrabook ราคาแพงเท่านั้น แต่สิ่งนี้ ASUS จัดเต็มมาให้เลย
Best Value
ASUS TUF Gaming FX505DV สเปคเป็น AMD Ryzen 5 3550H + NVIDIA GeForce RTX 2060 + จอ IPS 120Hz ขอบหน้าจอบาง + Ram 8 GB + SSD m.2 512GB PCIe + มี Windows 10 แท้ แถมได้การรับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกอีกด้วย ในราคาเพียง 34,900 บาท เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แบบนี้
*** บทความนี้ใช้ภาพและเนื้อจากบทความรีวิว ASUS TUF Gaming FX505DU บางส่วน เพราะหลายอย่างเหมือนกันกับ ASUS TUF Gaming FX505DV แจ้งเพื่อทราบ