คงต้องยอมรับกันจริงๆ ครับว่าตอนนี้ทาง AMD เริ่มกลับมาเรียกความสนใจในตลาดได้อีกครั้งไม่ว่าจะเป็นตลาดหน่วยประมวลผลหรือกราฟิกการ์ดและจุดที่เหนือไปกว่านั้นก็คือแม้แต่ Intel เองก็ประทับใจกับความก้าวหน้าในครั้งนี้ของทาง AMD ด้วยเช่นเดียวกัน ล่าสุดนั้นทาง TechPowerUp ได้รับบันทึกที่ใช้ติดต่อกันภายในบริษัท Intel เองซึ่งบันทึกดังกล่าวนั้นจะถูกส่งให้เฉพาะพนักงานของทาง Intel เท่านั้น(มีชื่อเรียกกันใน Intel ว่า “Circuit News”) เราลองมาดูกันดีกว่าครับว่าบันทึกดังกล่าวนั้นจะกล่าวถึงทาง AMD ไว้ว่าอย่างไรบ้าง
ก่อนอื่นนั้นมาดูกันก่อนครับว่าต้นกำเนิดการแข่งขันระหว่าง Intel กับ AMD นั้นเริ่มมาตั้งแต่ตอนไหน สำหรับ Intel นั้นก่อตั้งบริษัทขึ้นมาตั้งแต่ในปี 1968 ส่วน AMD นั้นก่อตั้งบริษัทมาตั้งแต่ในปี 1969 นั่นเลยทำให้ทาง Intel กับ AMD นั้นเป็นขู่แข่งกันมาอย่างยาวนานมากกว่า 50 ปีแล้วครับ
ในช่วง 5 ทศวรรษที่ผ่านมานั้นทาง Intel สามารถที่จะขยายขนาดของธุรกิจได้มากกว่าทาง AMD ถึง 10 เท่าตัวเลยครับ โดยหากดูจากรายงานการประกอบการล่าสุดนั้นจะพบว่าทาง Intel สามารถที่จะทำรายได้ไปถึง $70.1 billion หรือประมาณ 2,141,660,150,000 บาท ส่วนทาง AMD นั้นสามารถที่จะทำรายได้อยู่ที่ $6.48 billion หรือประมาณ 197,973,720,000 บาท
ทว่าถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่ทาง Intel ก็ไม่เคยที่จะดูแคลน AMD แม้แต่น้อยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่ทาง Intel และ AMD นั้นมีส่วนของผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันกันในหลายตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีที่ผ่านมานั้น AMD ถือได้ว่าเป็นคู่แข่งที่มีความน่ากลัวมากขึ้นสำหรับทาง Intel ครับ โดยจะเห็นได้จากงาน Computex 2019 และ E3 2019 ที่ผ่านมานั้นทาง AMD ประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่าพร้อมที่จะทำการรุกอย่างเต็มที่ด้วยการผสานงานร่วมกับ TSMC ซึ่งก็เป็นบริษัทที่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวกับทาง Intel เช่นเดียวกันครับ
เหตุผลที่ทาง AMD เริ่มกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของทาง Intel
จุดที่น่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ ของทาง AMD ในช่วงนี้นั้นก็คือการที่ AMD นั้นเติบโตขึ้นมากขึ้นทุกวันครับ ดูได้จากผลประกอบการของทาง AMD ไตรมาสล่าสุดที่ผ่านมานั้นจะพบว่าทาง AMD นั้นมีรายได้สู้งมากขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกันกับไตรมาสก่อนหน้าซึ่งนั่นทำให้เห็นได้ว่าทาง AMD นั้นมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งรายได้ที่เพิ่มเข้ามาของทาง AMD นั้นก็มาจากหน่วยประมวลผล Ryzen สำหรับผู้ใช้ทั่วไปและ EPYC สำหรับผู้ใช้ในระดับองค์กรที่เคยเป็นตลาดที่ทาง Intel ยึดครองมานานครับ(แถมด้วยราคาหุ้นของทาง AMD เองนั้นก็สูงขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมาครับ)
ในปัจจุบันนี้นั้นถือได้ว่าทาง AMD รุก Intel อย่างเต็มรูปแบบครับ โดยในตลาดระดับบนนั้นทาง Intel ได้มองในส่วนต่างๆ แยกออกมาดังต่อไปนี้ครับ
- AMD เริ่มทำการส่งหน่วยประมวลผลที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่หน่วยประมวลผลนั้นมาพร้อมกับจำนวนแกนการประมวลผลที่มากกว่าทาง Intel ไม่ว่าจะเป็นในส่วนธุรกิจ core client และ datacenter อย่างไรก็ตามแล้วทาง Intel เองนั้นก็หาได้กลัวไม่เพราะทาง Intel ก็ตอบกลับในการจู่โจมดังกล่าวด้วยการประกาศเปิดตัวชิปกราฟิกระดับบนสำหรับการใช้งานใน datacenter ออกมาเช่นกันทว่าก็ต้องแข่งกันทั้งกับ AMD และ NVIDIA ด้วยครับ
- สำหรับตลาด high performance computing นั้นทาง AMD ก็เริ่มที่จะสามารถครองตลาดได้ครับเนื่องจากว่าตลาดนี้นั้นต้องการหน่วยประมวลผลที่มีแกนการประมวลผลจำนวนมาก พร้อมทั้งตัวหน่วยความจำนั้นก็จะต้องมีแบนด์วิดธ์ในระดับที่สูงด้วยครับ(ต้องมี memory channels จำนวนมาก)
- หน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Zen นั้นน่ากลัวกว่าที่คิด โดย Intel นั้นมองไปถึงหน่วยประมวลผล 2 รุ่นคือ Rome สำหรับเครื่อง Server และ Matisse สำหรับผู้ใช้ทั่วไปซึ่งในงาน ซึ่งในงาน Computex 2019 ที่ผ่านมานั้นทาง AMD ก็ได้ทำการเปิดตัวหน่วยประมวลผล Matisse แล้วในชื่อสำหรับการวางจำหน่ายก็คือ Ryzen 3000 ซีรีย์ แถมจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 กรกฎาคมที่จะถึงนี้แล้วครับ
- การร่วมงานกับ TSMC ของทาง AMD ในการผลิตชิปที่กระบวนการผลิตระดับ 7 nm นั้นถือได้ว่าเป็นก้าวที่ทาง AMD เลือกได้ดีเป็นอย่างมากเนื่องจากชิปต่างๆ ของทาง AMD นั้นจะเห็นได้ชัดเจนว่ามีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมากผิดไปจากตอนที่ทาง AMD ผลิตชิปที่ Global Foundries(ที่เป็นบริษัทลูกของทาง AMD เอง) ทว่าหลังจากที่ทาง Intel เปิดตัวหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Ice Lake ที่งาน Computex 2019 นั้นตัวหน่วยประมวลผลของทาง Intel เองก็ได้รับการกล่าวถึงไปในทิศทางที่ดีเช่นเดียวกัน
- สำหรับตลาดโน๊ตบุ๊คนั้นทาง Intel ยังคงมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมครับ โดยทาง Intel เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ของตนนั้นสามารถที่จะทำการตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ดีกว่าทาง AMD เป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของประสิทธิภาพหรือว่าอัตราการประหยัดพลังงาน ซึง ณ จุดนี้นั้นทาง Intel ก็ยังคงเบาใจอยู่ครับว่าทาง AMD คงไม่สามารถที่จะเข้ามาสู้ในตลาดนี้ได้ครับ
ช่วงเวลาแห่งการแข่งขัน
งานนี้นั้นทาง Intel เองถือว่าเป็นการท้าดวลที่สมควรค่าต่อการต่อสู้ครับ โดยทาง Intel เองก็เตรียมที่จะตอบกลับการท้าดวลในครั้งนี้ดังต่อไปนี้ครับ
- สำหรับหน่วยประมวลผล Ryzen 3000 ซีรีย์นั้น ทาง Intel มองว่าหน่วยประมวลผลในรุ่นที่ 9 ของทาง Intel ยังสามารถที่จะเอาอยู่ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการต่อสู้ในการประมวลผลแบบ productivity benchmarks และ gaming benchmarks นั้นหน่วยประมวลผลของทาง Intel เองสามารถที่จะเอาชนะได้ไม่ยาก ทว่าในส่วนของการประมวลผลแบบ multi-threaded workloads นั้นทาง AMD จะได้เปรียบมากกว่าเพราะหน่วยประมวลผลของทาง AMD นั้นมาพร้อมกับแกนการประมวลผลที่มากกว่าครับ
- อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นทาง Intel ยังมองอีกครับว่าการต่อสู้นั้นจะขึ้นอยู่กับโปรแกรม Benchmark ที่ใช้ อย่างเช่นที่ผ่านมานั้นทาง AMD ได้ใช้โปรแกรม Cinebench เป้นหลักเนื่องจากโปรแกรมดังกล่าวนั้นจะใช้การประมวลผลในรูปแบบ multi-threaded workloads ที่หน่วยประมวลผลของทาง AMD ได้เปรียบมากกว่า ทว่าทาง Intel นั้นมองว่าโปรแกรม Cinebench ไม่ใช่โปรแกรมทดสอบที่ดีเนื่องจากว่าลักษณะของการทดสอบนั้นมีรูปแบบเดียวเท่านั้น ซึ่งในการใช้งานจริงนั้นมันมีอะไรมากมายมากกว่าการทดสอบของโปรแกรม Cinebench มากครับ
- สำหรับหน่วยประมวลผลสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ในระดับสูงนั้นทาง Intel มองว่า Rome ของทาง AMD มีการพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมากจาก EPYC อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้น Xeon ของทาง Intel นั้นก็ยังคงมีข้อดีมากกว่าในส่วนของ cache และ memory latency ซึ่งนั่นจะทำให้หน่วยประมวลผล Xeon นั้นสามารถที่จะทำการประมวลผลโปรแกรมที่ต้องการความเร็วในการตอบสนองได้มากกว่าหน่วยประมวลผลของทาง AMD ตัวอย่างเช่นโปรแกรมจำพวก database, analytics และ web serving เป็นต้นครับ
ไม้เด็ดของทาง Intel
สำหรับไม้เด็ดของทาง Intel นั้นไม่ได้มีเพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้น ทว่ามันประกอบขึ้นมาจากส่วนร่วมด้วยกันทั้งหมด 6 อย่างครับ ส่วนร่วมดังกล่าวนั้นประกอบไปด้วย process, architecture, memory, interconnect, security และ software ซึ่งส่วนร่วมทั้ง 6 ดังกล่าวนี้นั้นทาง Intel เองได้ทำการพัฒนามาโดยตลอดเวลาครับ
สิ่งหนึ่งที่ทาง Intel มั่นใจเป็นอย่างมากก็คือในส่วนของ Software ครับ โดยทาง Intel ได้บอกเอาไว้ว่าด้วยสินทรัพย์ทางด้านซอฟต์แวร์และจำนวนผู้ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาซอฟต์แวร์ของทาง Intel ที่มีจำนวนมากกว่า 15,000 คนนั้น(มากกว่าพนักงานทั้งบริษัทของทาง AMD) สามารถที่จะตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้มากกว่าตั้งแต่ Linux kernel ไปจนถึง Adobe Lightroom ซึ่งซอฟต์แวร์หรือชุดคำสั่งที่มีประโยชน์ในการใช้งานจริงนั้นจะถูกรวมาเอาไว้บนหน่วยประมวลผลทุกสถาปัตยกรรมอยู่แล้ว ที่สำคัญกว่านั้นก็คือในหน่วยประมวลผลทุกๆ สถาปัตยกรรมของทาง Intel จะได้รับการอัพเดทชุดคำสั่งใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อการใช้งานของผู้ใช้อยู่ตลอดเวลาครับ
อีกจุดหนึ่งที่ทาง Intel มั่นใจว่าทาง AMD เองนั้นจะไม่สามารถตาม Intel ได้ทันอย่างแน่นอนก็คือจุดแข็งทางด้านแพลตฟอร์มการใช้งานร่วมกับตัวหน่วยประมวลผลที่ทาง Intel ได้ทำการนำเสนอต่อผู้ใช้งานครับ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ Optane memory, WiFi, Thunderbolt, Turbo Boost 2.0 และเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมาย แถมที่สำคัญแล้วก็คือทาง Intel นั้นมีองค์ความรู้ในทุกๆ ด้านสำหรับตอบรับการใช้งานของผู้ใช้ในทุกๆ ตลาดตั้งแต่ผู้ใช้ในระดับมืออาชีพยันนักเล่นเกมครับ
สรุป
อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นเชื่อว่าจดหมายวนดังกล่าวของทาง Intel นี้มีจุดประสงค์เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนรวมไปถึงการให้กำลังใจต่อพนักงานในบริษัทครับ(ดังนั้นแฟนๆ AMD เองก็อย่าคิดมากนะครับว่าทำไม Intel ถึงมั่นใจขนาดนี้เพราะนี่เป็นจดหมายจากทาง Intel ครับ)
แน่นอนครับว่า ณ ปัจจุบันนั้นทาง Intel ก็ยังคงเป็นผู้นำในตลาดหน่วยประมวลผล ทว่าจากที่เราได้เห็นนั้นจะเห็นได้ว่าทาง Intel เองนั้นก็เริ่มที่จะมองว่า AMD เองก็เป็นคู่แข่งที่ต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกันในปัจจุบันหลังจากที่ทาง Intel นั้นทิ้ง AMD ให้เป็นผู้ตามอยู่นานแสนนาน จะว่าไปแล้วนั้นสิ่งหนึ่งที่ทาง AMD ยกมาสู้กับทาง Intel(รวมไปถึง NVIDIA) ด้วยนั้นก็คือเรื่องของราคาที่สามารถเข้าถึงได้ โดยตรงจุดนี้นั้นทาง Intel เองก็ได้กล่าวเอาไว้ครับว่าราคาผลิตภัณฑ์ของทาง Intel นั้นมาจากประสิทธิภาพที่แท้จริงที่ทางผู้ใช้จะได้รับ
งานนี้นั้นคงต้องดูกันต่อไปยาวๆ ครับว่าการกลับมาอีกครั้งของทาง AMD นั้นจะสามารถต่อสู้กับทาง Intel ได้มากน้อยขนาดไหนเพราะหากจะพูดไปแล้วนั้นในอดีตทาง Intel เองก็เคยแพ้ให้กับทาง AMD เช่นเดียวกัน ทว่าทุกครั้ังที่ทาง Intel เป็นฝ่ายแพ้นั้นกลับกลายเป็นว่าทาง AMD ก็สะดุดขาตัวเองล้มซะเองจนทำให้ทาง Intel กลับมาก้าวน้ำ AMD ได้ทุกครั้งไปครับ
ที่มา : techpowerup