HP ENVY x360 นั้นถือเป็น 2-in-1 Notebook ที่ได้ความบางเบาหรูหรา ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ล่าสุด HP ได้นำเสนอ HP ENVY x360 ปี 2019 รุ่นใหม่ในราคาคุ้มค่าเหมือนเดิม อีกทั้งยังแถมปากกา Stylus ใช้วาดรูปมาให้ในกล่องอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่าเป็น 2-in-1 Notebook ที่คาดว่าจะขายดีเช่นเดิม จากดีไซน์ที่สวยงามหรูหรา พกพาสะดวก พร้อมสเปกและฟีเจอร์ที่เกินราคา กว่า 2-in-1 Notebook ทั่วไป ในราคาเริ่มต้นเพียง 29,990 บาท สำหรับชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3500U + VEGA 8 + RAM 8GB + SSD 256GB
ส่วน HP ENVY x360 ปี 2019 ที่ได้รับมารีวิวนี้เป็นสเปคเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3700U ที่เป็นสถาปัตยกรรมใหม่ล่าสุดที่การผลิต 12 นาโนเมตร มาพร้อมความเร็ว 2.3 – 4.0 GHz ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด โดยมีค่าการกินไฟ TDP ที่ 15 Watt เท่านั้น การ์ดจอออนบอร์ดเป็น Radeon VEGA 10 ประสิทธิภาพใช้ได้ดี ควบคู่กับแรมขนาด 8 GB และ SSD m.2 512 GB PCIe NVMe ส่วนหน้าจอเป็นแบบจอกระจกสัมผัส 13.3 นิ้ว รองรับสัมผัสมัลติทัชและปากกา Stylus รองรับแรงกดได้หลายระดับ พาเนลจอเป็น IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล 120Hz พร้อมกับ Windows 10 แท้ในตัว มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 33,990 บาท ประกัน 2 ปี On-Site
VDO Review
Specification
HP ENVY x360 ปี 2019 รุ่นที่แอดมินโป้ง NBS ได้รับมารีวิวจากทาง AMD ประเทศไทยนั้นเป็นรุ่นราคา 33,990 บาท ใช้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดตัวอย่างประพลังงานอย่าง AMD Ryzen 7 3700U (2.3 – 4.0 GHz) ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread โดยมี APU หรือการ์ดจอบนชิปเป็น Radeon VEGA 10 ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ พร้อมแรมขนาด 8 GB DDR4 หน่วยความจำสำรองเลือกใช้ SSD m.2 ความจุ 512 GB PCIe NVMeง
ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบมัลติทัชขนาด 13.3 นิ้ว รองรับสัมผัสมัลติทัชและปากกา Stylus รองรับแรงกดได้หลายระดับ พาเนลจอเป็น IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล(Full HD) มีกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลในตัว แถมตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit สีขาวมาให้ด้วย ที่สำคัญตัวเครื่องยังบางเฉียบ และมีน้ำหนักเบาเพียง 1.30 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมพับปรับได้ 360 องศา
พอร์ตการเชื่อมต่อมีมาตามนี้คือ 2 x USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, Micro SD Card Reader และ Headset 3.5 mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi มาตรฐานใหม่ 802.11a/b/g/n/ac 2×2 ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ในตัว ประกัน On-Site 2 ปีเต็ม พร้อมบันเดิลปากกา Stylus อย่าง HP Active Pen มาให้เลยในกล่องเลย
โดย HP ENVY x360 ปี 2019 แบ่งเป็น 2 สเปกหลักๆ ต่อไปนี้
- AMD Ryzen 7 3700U/ VEGA 10 / RAM 8GB / SSD 512GB ราคา 33,990 บาท
- AMD Ryzen 5 3500U/ VEGA 10 / RAM 8GB / SSD 256GB ราคา 29,990 บาท
Hardware / Design
HP ENVY x360 ปี 2019 มาพร้อมกับดีไซน์พรีเมียม หรูหรา มองเผินๆ เหมือนโน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ที่มีราคาหลายหมื่นบาท ซึ่ง HP ตั้งใจที่จะออกมาให้เป็นแบบนั้นจริงๆ สังเกตได้จากโลโก้ HP ที่เป็นตัวอักษรแบบใหม่เหมือนตัว Spectre ที่เป็นรุ่นท็อป งานประกอบก็ถือว่าแข็งแรงสอบผ่านได้สบายๆ เรียกได้ว่าสาวๆ หนุ่มๆ หลายคนเห็นแล้วคงชอบอยากได้เครื่องนี้ไว้ทำงานแน่นอน โดยสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานโน๊ตบุ๊คทั่วไป
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้บอดี้จะเป็น Aluminum ทั้งหมด สี Nightfall Black ดีไซน์แบบมินิมอลและพื้นผิวขัดลายเพิ่มความหรูหราอย่างมีระดับ พร้อมกับโลโก้ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ส่วนด้านในเครื่องบริเวณหน้าจอกระจกขอบบางเฉียบที่เป็น Corning Gorilla Glass ทั้งบาน ซึ่งเล่นสีกับขอบจอด้านในเป็นสีดำดูเข้ากันดี ตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit สีขาวมาให้ด้วย ที่สำคัญตัวเครื่องยังบางเฉียบ พกพาได้สะดวก พร้อมพับปรับได้ 360 องศา เพื่อใช้งานมัลติโหมด และขาดไม่ได้เลยสำหรับสแกนลายนิ้วมือผ่านทาง Windows Hello
ลำโพงจะอยู่ที่ด้านในเหนือคีย์บอร์ดและด้านใต้ตัวเครื่องแบบ Quad Speakers ซึ่งเป็นของ Bang & Olufsen ให้เสียงที่ดีมีมิติ ปุ่ม Power จะถูกออกแบบให้อยู่ที่ด้านซ้ายตัวเครื่อง พร้องช่องระบายความร้อนหนึ่งช่อง ส่วนด้านขวาจะมีปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงปกติ ทำให้สะดวกและคล่องตัวมากๆ รวมถึงตัวเครื่องสามารถพับได้ 360 องศาและมีความบางเพียง 14.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งโดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของเรียกได้ว่า HP ได้ก้าวไปอีกขั้นกับโน๊ตบุ๊คราคานี้สเปคแบบนี้
นอกเหนือจากนี้ปุ่ม Power (Wake Up / Sleep) ยังได้ถูกออกแบบเอาไว้ขอบจอด้านนอกรวมไปถึงปุ่มปรับระดับเสียงด้วย ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่คุ้นตาเหมือนกับโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ แต่เมื่อใช้งานจริงแล้วพบว่าสามารถใช้งานได้คล่องตัวและสะดวกมากๆ จากการที่มันเป็น 2-in-1 Notebook พับได้ 360 องศานั่นเอง รวมไปถึงอีกด้านยังมีสวิตช์ Webcam Kill ปุ่มเลื่อนไปมาสำหรับเปิดปิดการใช้งานกล้องเว็บแคม ที่ช่วยเราให้เรื่องของความปลอดภัย ไม่ต้องหากระดาษมาแปะที่กล้องเว็บแคมโดยตรงอีกต่อไปเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
ด้านล่างตัวเครื่องของ HP ENVY x360 ปี 2019 จะเห็นว่ายางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ 2 เส้นยาวเพื่อยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นและเวลาใช้งานจะแน่นหนากับพื้นที่วาง พร้อมช่องดูดลมเย็นขนาดใหญ่ สำหรับส่วนของน็อตก็เป็นแบบพิเศษ แน่นอนว่าตรงนี้จะมีโลโก้ Windows 10 นอกจากนี้ตรงส่วนขอบด้านหน้าที่ใช้ยกฝาจอเพื่อเปิดเครื่องใช้งานก็จะมีการทำเป็นเว้าร่องลงไปเพื่อช่วยในการเปิดเครื่องที่ง่ายขึ้น
ที่สำคัญสำหรับโลโก้บนตัวเครื่องของ HP ENVY x360 ปี 2019 ยังเป็นดีไซน์แบบใหม่ที่ดูมีมุมมีองศาทำให้เหมาะสมกับความหรูหราของตัวเครื่อง ที่ต้องบอกว่ามีความพิเศษจริงๆ เพราะ HP จะเลือกใช้โลโก้นี้เฉพาะผลิตภัณฑ์รุ่นที่เป็นไฮเอนด์เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่ามันอยู่บน HP SPECTRE รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ระดับบนอื่นๆ ฉะนั้น HP ENVY x360 ปี 2019 ก็สามารถการันตีความพรีเมียมได้เลย ในราคาเบากว่าเยอะ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดและทัชแพดของ HP ENVY x360 ปี 2019 ก็เรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมที่ดีอยู่ เพิ่มเติมคือเพิ่มฟังก์ชันบางอย่างเข้าไปอย่าง HP Sure View ที่ F1 ซึ่งปุ่มกดมีมีขนาดใหญ่และมีความเหมาะสมกับขนาดตัวเครื่องส่วน Layout คีย์บอร์ดยังคงเป็น 4 แถวขนาด Full Size ด้วยคีย์บอร์ดไซต์มาตรฐานแบบ island-style ซึ่งตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ที่สำคัญยังมีไฟคีย์บอร์ดส่องสว่าง ไว้ใช้งานในที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้เป็นอย่างดี หรือจะปิดไว้ก็สามารถทำได้ (เปิดปิดได้เท่านั้นปรับระดับไม่ได้)
ทัชแพดเป็นแบบซ่อนปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวามีขนาดที่พอดีเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง โดยวัสดุตรงนี้จะเป็นแผ่นอะลูมิเนียม ตัดขอบเงินเข้มๆ เข้ากับตัวเครื่อง สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ สามารถตอบสนองการใข้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งในการใช้งานแบบปกติหรือใช้งานฟังก์ชันการทำงานแบบ Multi-Touch Gesture ใน Windows 10 อย่างเต็มที่
Screen / Speaker
จอภาพ HP ENVY x360 ปี 2019 ถือเป็นอีกจุดขายก็ว่าได้ด้วยจอภาพขนาด 13.3 นิ้ว ที่มีขอบบางมากถึง 3 ด้านด้วยกัน ซึ่งเป็นแบบจอกระจก Corning Gorilla Glass อาจจะมีการสะท้อนภาพบ้างเวลาใช้งานกลางแจ้งหรือที่มีแสงจัดๆ โดยตัวจอรองรับการทัชสกรีนจำนวน 10 จุด ทั้งการใช้งานทั้งนิ้วมือแบบมัลติทัชและปากกา HP Active Pen ไม่แค่นั้นตัวเรื่องยังสามารถรองรับแรงกดได้หลายระดับ อีกทั้งยังสามารถพับปรับจอได้ 360 องศาอีกด้วย ตัวจอเป็นพาเนล IPS ทำให้สีสันคมชัดสมจริงไม่ว่ามองมุมไหน ความละเอียด 1920 x 1080 (Full HD) ซึ่งถือได้ว่าคมชัดเป็นอย่างมาก แถมยังเป็น 120Hz ที่แสดงผลได้ลื่นไหลกว่า 60Hz แบบจอทั่วไป
ที่สำคัญคือ HP ENVY x360 ปี 2019 รองรับ HP Sure View ฟังก์ชันกันคนแอบมอง โดยกดปุ่ม F1 ซึ่งปกติจะมีเฉพาะรุ่นท็อปๆ เท่านั้น สำหรับฟีเจอร์ Privacy Screen นี้กับคุณสมบัติลดมุมมองหน้าจอลง เพื่อไม่ให้คนอื่นมาส่องมาเผือกได้เวลาที่ใช้งานนอกสถานที่ ที่ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อฟิล์มมาติดเพิ่ม ไม่ต้องลอกออกไปมา เพราะเราสามารถกดปุ่มปิดเปิดได้ตามความต้องการ ที่ปุ่ม F1 เรียกได้ว่าตอบโจทย์การทำงานสายมืออาชีพที่ต้องการความปลอดภัยขั้นสุดอีกด้วย ดูภาพเปรียบเทียบได้เลย
ทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ HP ENVY x360 ปี 2019 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูง แต่สูงแค่ไหนดีแค่ไหนต้องทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรตหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด นอกจากนี้เรายังทำการ Display Analysis ดูประสิทธิภาพการแสดงผลแบบละเอียด อย่างที่ดูด้วยตาเปล่าไม่สามารถบอกได้ จึงต้องใช้เครื่องมือช่วย
โดยขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 88% และ AdobeRGB ที่ 69% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันในระดับที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปรวมไปถึงมืออาชีพ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างที่ดีมากๆ ของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือรองรับการใช้งานที่กลางแจ้งได้สบายๆ อย่างไรก็ตามถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นสีตรงกับอุปกรณ์เกี่ยวพ่วงก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางด้านบนที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องมุมซ้ายด้านล่างจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 20% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0
ระบบเสียง HP ENVY x360 ปี 2019 เลือกใช้ของ Bang & Olufsen พร้อมฟีเจอร์ HP Audio Boost ซึ่งวางส่วนของลำโพงไว้ด้านบนตัวเครื่อง 2 ตัว และด้านล่างอีก 2 ตัว แบบ Quad Speakers ทำให้เสียงที่ออกมากระจายกว้างไม่มีอะไรปิดกั้น ซึ่งให้เสียงที่ดีและดังพอสมควร จนไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องใช้งานในที่เสียงดัง สามารถตอบสนองเรื่องความบันเทิง การฟังเพลงสำหรับคนที่ชอบทำงานได้โอเคเลย ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้มีเสียงเบสมาก และเสียงจะค่อนไปทางเสียงกลาง เสียงแหลมมากกว่าก็ตาม แต่ก็จัดว่าดีกว่าอัลตร้าบุ๊คทั่วไปๆ แบบรู้สึกได้
Connector / Thin And Weight
HP ENVY x360 ปี 2019 มาด้วยตัวเครื่องที่ค่อนข้างบางเฉียบก็จริง แต่ก็มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครับระดับหนึ่งไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type -A จำนวน 2 พอร์ต, USB 3.1 type C จำนวน 1 พอร์ต, Micro SD Card-Reader และช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ซึ่งแนะนำว่าควรหาซื้อ HUB ไว้เพิ่มเผื่อต่อ USB อย่างอื่น, SD Card, Lan หรือ HDMI ไว้ต่อจอภาพจะดีมากครับ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายรองรับทั้ง Bluetooth 4.2 และ Wifi 802.11a/b/g/n/ac มาตราฐานใหม่ 2×2
มิติขนาดของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 306 x 212 x 14.7 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 13.3 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ซึ่งมีน้ำหนักตัวเครื่องเปล่าเพียง 1.30 กิโลกรัมเท่านั้น แถมอแดปเตอร์ก็อันเล็กนิดเดียว และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วยก็จะมีน้ำหนักประมาณ 1.50 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เบามาก ตอบสนองทั้งการทำงานและการพกพาได้เป็นอย่างดีมากๆ รุ่นหนึ่งเลยทีเดียว หรือจริงๆ จะไม่พกอแดปเตอร์ก็ยังพอได้อยู่ เพราะแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานเหมือนกัน
Using Experience
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า HP ENVY x360 ปี 2019 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู YouTube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
อย่างไรก็ตามสำหรับ HP ENVY x360 ปี 2019 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง แข็งแรงสามารถหมุนเปิดปิดได้เป็นพันๆ หมื่นๆ ครั้ง อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน
สำหรับปากกาสไตลัส HP Active Pen ทาง HP ได้ร่วมกับ Wacom ในการผลิต โดยตัวสไตลัสจะมีความสามารถเหมือนกันกับสไตลัสของ Surface Pro 4 ทุกอย่าง เช่นจะมาพร้อมกับความสามารถในการใช้งานแบบ N-Trig, มีปุ่มบนตัวสไตลัสจำนวน 2 ปุ่มทางด้านข้างและทางด้านบน (ซึ่งปุ่มทางด้านบนจะเอาไว้ใช้สำหรับการรันโปรแกรม OneNote)
และที่สำคัญสไตลัสนี้ยังรองรับระดับแรงกดได้มากถึง 2,048 ระดับเลยทีเดียวอันนี้การันตีได้จากผู้ใช้งานนักวาดการ์ตูนหลายคนทีเดียว หรือจะใช้ไว้จดงานเขียนหนังสือก็สามารถทำได้สบายๆ ส่วนท้ายด้ามของ HP Active Pen ก็ใช้งานเป็นยางลบเสมือนจริงได้อีกด้วย เรียกได้ว่าจะลืมการใช้กระดาษแบบเดิมๆ ไปเลย
ซึ่งบอกได้เลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาไม่แพง และมีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปคก็ถือว่าค่อนข้างโอเคมากๆ ได้ SSD m.2 PCIe แรงๆ การทำงานไม่ว่าจะเป็นในเรื่องงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ HP ENVY x360 ปี 2019 ก็สามารถทำได้ดีและเป็นหนึ่งใน 2-in-1 Notebook ที่เป็นตัวเลือกน่าซื้ออันดับต้นๆ เลยทีเดียว
Performance / Software
HP ENVY x360 ปี 2019 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก AMD Ryzen 7 3700U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำแต่แรง โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.3 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.0 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core/ 8 Thread ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมก็ให้มาเป็นแบบ 8 GB DDR4 ประเภทฝังบอร์ดที่ไม่สามารถอัพเกรดได้ แต่จริงๆ ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะ
านของการ์ดจอที่ติดตั้งมาให้มีเพียงการ์ดจอออนบอร์ดที่อยู่ในชิปประมวลผล AMD ซึ่งเป็น Radeon RX VEGA 10 สำหรับประมวลผลทั่วไปเช่นดูหนังหรือฟังเพลง สามารถรองรับการประมวลผลกราฟิกระดับ 2 มิติสบายๆ ส่วน 3 มิติก็พอได้ ทั้งในส่วนของการตัดต่อวิดีโอหรือจะเล่นเกมสามารทำได้ดีในระดับหนึ่ง
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจตามมาตรฐานของ AMD Ryzen 7 3700U เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล Intel Core i5 ตระกูล U ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ในส่วนของตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพตอบโจทย์ในส่วนของงานทั่วไปได้อย่างลงตัว
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD แบบ M.2 NVMe PCIeก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB โดยเป็นของแบรนด์ชั้นนำกับความเร็วระดับ Read: 2680 MB/s – Write: 1369 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือ SSD มาตรฐาน SATA 3 แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,546 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานพีซีทั่วไปนั่นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอก็พอทำได้ดีในระดับหนึ่งเลย
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 2 เกมที่ได้ทดสอบมีน่าสนใจมากเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่มีกราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นพอสมควร ทั้งในส่วนของ DOTA 2 และ Overwatch ที่มีค่า FPS เฉลี่ยที่ประมาณ 30 ขึ้นไปสามารถเล่นได้ไหลลื่นสบายๆ
HP ENVY x360 ปี 2019 นำมาซึ่งประสิทธิภาพและความเอนกประสงค์ในการสร้างและทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยทุกที่ ทุกเวลา สามารถกำหนดปรับแต่งค่าการใช้งานของเครื่องด้วยตนเองจาก HP Command Center มีระบบควบคุมความร้อนดีเยี่ยมด้วยเทคโนโลยี HP CoolSense คอยปรับความเร็วของพัดลมเพื่อช่วยให้โน๊ตบุ๊คเย็นอยู่ตลอด เวลาโดยอัตโนมัติ ไร้ปัญหาการสตรีมมิ่งสำหรับดูหนังฟังเพลง หรือเล่นเกมให้ลื่นไหล
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP ENVY x360 ปี 2019 รวมไปถึงโน๊ตบุ๊ค HP ทุกรุ่น ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ HP ENVY x360 ปี 2019 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปีปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาดประมาณ 3000 mAh ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้เกือบๆ 10 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ว่าเปิดโปรแกรมอะไร อย่างถ้าใช้ Microsoft Edge ก็จะใช้งานได้ยาวนานกว่า Chrome จากการที่ใช้ AMD Ryzen 7 3700U ที่มีคุณสมบัติประหยัดพลังงานพิเศษ ส่วนช่องระบายความร้อนของ HP ENVY x360 มีเพียงช่องเล็กๆ พร้อมพัดลมตัวเดียว ซ่อนอยู่ใต้หน้าจอ
อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 40 + องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุด 96 องศาเซลเซียส จากการใช้โปรแกรมรีดประสิทธิภาพ นับว่าระบบระบายความร้อนของ HP ENVY x360 ปี 2019 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีกว่าในระดับนึงที่เคยทำการรีวิวมาพอควร เพราะความร้อนทั่วไปจะอยู่ที่เพียง 40 องศาเซลเซียสตอนทำงานปกติ ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนที่ดีของ HP รวมไปถึงชิปประมวลผล AMD รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลง ที่ 12 นาโนเมตร (Intel ยังใช้ 14 นาโนเมตรอยู่เลย) แม้ว่าอาจจะดูร้อน แต่จริงๆ แล้วอย่าลืมด้วยว่าเครื่องมีความบางและมีพัดลมเพียงตัวเดียวเท่านั้น ระดับประมาณนี้ถือว่าดีมากแล้ว
Conclusion / Award
HP ENVY x360 ปี 2019 เป็นอีก 2-in-1 Notebook ที่น่าสนใจมากๆ ทั้งจากราคาที่คุ้มค่าเริ่มต้นเพียง 29,990 บาท แต่ได้โน๊ตบุ๊คระดับสูงของทาง HP ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความพรีเมียมหรูหรา โดดเด่น และมีสไตล์มากๆ จนคิดว่าราคาค่าตัวจะสูงหลายหมื่นบาทเหมือนกับซีรีส์ของ SPECTRE ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะทาง HP เลือกใช้ชิปประมวลผลของ AMD อย่าง Ryzen 3500U และ Ryzen 3700U ที่ไม่ใช่ให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีเยี่ยม จากสถาปัตยกรรม Zen + เทคโนโลยีการผลิตที่ 12 นาโนเมตร ยังได้เรื่องของต้นทุนที่ถูกลงกว่าอีกค่าย ทำให้ HP สามารถทำราคาได้ไม่แพง ส่งผลให้ผู้ใช้งานอย่างเราๆ ตัดสินใจซื้อกันได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย
สเปกภายในโดยรวมอื่นๆ ก็ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแรมมาขนาด 8GB ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่มีอาการคอขวดแน่นอน อีกทั้งยังใส่ SSD m.2 มาตรฐานความเร็วสูง NVMe PCIe ที่ความจุ 256GB / 512GB แรงๆ ก็เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไป หรืองานหนักๆ ก็สบายๆ รวมถึงหน้าจอก็เป็นพาเนล IPS คุณภาพดี มีความละเอียด Full HD แบบ 120Hz ที่แสดงผลได้อย่างลื่นไหล ที่สำคัญเป็นระบบสัมผัสที่รองรับการใช้งานมัลติทัชแถมลื่นเสมือนใช้สมาร์ทโฟนและยังรองรับการใช้ปากกา Stylus ที่ใช้สำหรับงานวาดรูป รองรับแรงกดได้หลายระดับเสมือนวาดบนกระดาษเลยจริงๆ เลยทีเดียว
การออกแบบดีไซน์ของ HP ENVY x360 ปี 2019 ที่ดูแล้วเรียบหรูและใช้วัสดุคุณภาพอย่างอะลูมิเนียมแม็กนีเซียมอัลลอยด์เกรดสูงตลอดทั้งตัวเครื่อง งานประกอบก็เรียบร้อย มิติตัวเครื่องก็เล็กกระชับบางเบา พกพาสะดวก แบตใช้งานได้ยาวนานเกือบ 10 ชั่วโมง รวมไปถึงมีประกันถึง 2 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ทำให้ HP ENVY x360 ปี 2019 เป็น 2-in-1 Notebook สไตล์บางเบา ที่มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งหลายๆ ตัวในตลาด สนนราคารุ่นสเปก AMD Ryzen 7 3700U ที่นำมารีวิวอยู่ที่ 33,990 บาท
นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่ยี่ห้ออื่นไม่มีคือ HP Sure View ฟีเจอร์กันคนแอบมองจอที่สามารถกดเปิดปิดได้ในปุ่มเดียว และสวิตช์ Webcam Kill ป้องกันเพื่อความปลอดภัย อย่างที่หาไม่ได้ในโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นๆ แน่นอน โดดเด่นด้วยลำโพงแบบ Quad Speakers ของ Bang & Olufen ที่หาได้ยากมากในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ พร้อมบันเดิลปากกา HP Active Pen มาให้ในตัวไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม ซึ่งถือได้ว่า HP ENVY x360 ปี 2019 จัดมาเต็ม คุ้มค่าครบเครื่องจริงๆ
อย่างไรก็ตาม HP ENVY x360 ปี 2019 ก็ยังมีพอสังเกตอยู่บ้างคือเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อที่อาจจะไม่เพียงพอเมื่อจำเป็นต้องใช้งานหลากหลาย แต่ก็เข้าใจได้เพราะเครื่องบางเบาขนาดนี้ หรือจำเป็นต่อจอแยก ซึ่งก็สามารถแก้ไขปัญหาด้วยการซื้อฮับ USB 3.1 Type-C มาเพิ่มได้ และการแกะอัปเกรดที่ทำได้ไม่สะดวก โดยอัพเกรดได้เฉพาะ SSD m.2 เท่านั้น ไม่สามารถแกะอัปเกรดเปลี่ยนแรมเป็น 16 GB ได้นั่นเอง เพราะแรมเป็นแบบฝังบอร์ดมา ซึ่งตามจริงถ้าใช้งานทั่วๆ ไปแรม 8GB ก็เพียงพอมากๆ แล้ว ซึ่งถ้าใครมองข้ามเรื่องพวกนี้ได้ใครงบถึงต้องจัดสักเครื่องละครับ เน้นพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ ตามออฟฟิศ ร้านกาแฟ โรง มหาวิทยาลัยได้สะดวกสุดๆ !!!
ข้อดี
- สเปกแรงคุ้มประสิทธิภาพดีด้วย AMD Ryzen 7 3700 + RAM 8GB + SSD 512GB
- เล่นเกม 3 มิติ หรือตัดต่อวีดีโอพอได้ ใช้งานทั่วไปลื่นไหลสบายมาก
- วัสดุทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- น้ำหนักเบา 1.3 กิโลกรัม ขอบจอบาง เหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- หน้าจอสัมผัสมัลติทัชลื่นมาก รองรับแรงกดได้หลายระดับ พร้อม Stylus สามารถใช้วาดรูปได้ดี
- เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีคุณสมบัติ 2-in-1 Notebook ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
- รองรับการใช้งานกับปากกาสไตลัส HP Active Pen บันเดิลมาให้เลย
- หน้าจอ IPS Full HD IPS 120Hz ทัชกรีนได้
- ลำโพง Bang & Olufsenแบบ Quad Speakers พร้อมฟีเจอร์ HP Audio Boost
- มีไฟ Backlit Keyboard สวยงาม รวมถึงใช้งานได้เป็นอย่างดี
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเกือบ 10 ชั่วโมง
- ตัวเครื่องสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายโหมด กางหน้าจอได้ 360 องศา
- มีระบบสแกนนิ้วมือใช้กับ Windows Hello รักษาความปลอดภัยได้ดี
- HP Sure View ป้องกันคนแอบมองจากด้านข้าง ด้วยการลดมุมมองหน้าจอลง
- สวิตช์ Webcam Kill ปิดกล้องเว็บแคมได้เพื่อความปลอดภัย
- มี Windows 10 แท้ในตัวเครื่อง พร้อมซอฟต์แวร์ที่ดี
- ระกัน 2 ปี แบบ On-site Service
ข้อสังเกต
- การแกะอัพเกรดทำได้ยาก ทำได้แต่ SSD
- จอกระจกทำให้เวลาใช้งานกลางแจ้งเจอแสงสะท้อน
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับกลุ่ม 2-in-1 Notebook ด้วยกัน ซึ่ง HP ENVY x360 ปี 2019 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
ดีไซน์โดยรวมของ HP ENVY x360 ปี 2019 มีความโดดเด่นเรื่องความพรีเมียมพรูหรา รวมถึงหน้าจอขอบบางแบบบางพิเศษ ที่ทำให้สามารถใช้งานจอขนาด 13.3″ ภายในตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้จอขนาดเดียวกัน ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง HP ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
Best Value
ถึงแม้ HP ENVY x360 ปี 2019 จะไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่มีสเปคที่ดีที่สุด แต่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาประมาณสามหมื่นบาท ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 29,990 – 33,990 บาท ที่มาพร้อมสเปคอย่าง AMD Ryzen 5 3500U / 7 3700U รวมถึงมีแรม 8GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD PCIe ความจุ 256GB / 512GB แถมมีสแกนลายนิ้วมือและฟีเจอร์อื่นๆ จัดเต็ม เป็น 2-in-1 Notebook เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นหลากหลายพับหน้าจอไปมาได้ เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ที่สำคัญประกันยังมีระยะถึง 2 ปี On-site Service เราจึงมอบรางวัล Best Value ไปให้เลยอย่างไม่ต้องสงสัย
Best Thin & Light
ความบางเบาคือจุดเด่น ด้วยมิติที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดมากๆ ขอบจอบางเฉียบทั้ง 3 ด้าน ตัวเครื่องบางแค่ 14.7 มิลลิเมตร เบาเพียง 1.3 กิโลกรัม ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และนอกจากความบางเบา ยังมีความแข็งแกร่งอีกด้วย จากการใช้วัสดุอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง รวมไปถึงแบตเตอรี่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานเกือบ 10 ชั่วโมง เรียกได้ว่าไม่ต้องพกอแดปเตอร์ไปมาก็ยังได้ ทำให้เป็น 2-in-1 Notebook ที่ลงตัวมาก ๆ สำหรับผู้ที่มองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักเครื่องมาใช้งานในระดับจริงจัง
VDO Review
Specification
HP ENVY x360 ปี 2019 รุ่นที่แอดมินโป้ง NBS ได้รับมารีวิวจากทาง AMD ประเทศไทยนั้นเป็นรุ่นราคา 33,990 บาท ใช้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดตัวอย่างประพลังงานอย่าง AMD Ryzen 7 3700U (2.3 – 4.0 GHz) ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread โดยมี APU หรือการ์ดจอบนชิปเป็น Radeon VEGA 10 ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ พร้อมแรมขนาด 8 GB DDR4 หน่วยความจำสำรองเลือกใช้ SSD m.2 ความจุ 512 GB PCIe NVMeง
ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบมัลติทัชขนาด 13.3 นิ้ว รองรับสัมผัสมัลติทัชและปากกา Stylus รองรับแรงกดได้หลายระดับ พาเนลจอเป็น IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล(Full HD) มีกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลในตัว แถมตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit สีขาวมาให้ด้วย ที่สำคัญตัวเครื่องยังบางเฉียบ และมีน้ำหนักเบาเพียง 1.30 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมพับปรับได้ 360 องศา
พอร์ตการเชื่อมต่อมีมาตามนี้คือ 2 x USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, Micro SD Card Reader และ Headset 3.5 mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi มาตรฐานใหม่ 802.11a/b/g/n/ac 2×2 ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ในตัว ประกัน On-Site 2 ปีเต็ม พร้อมบันเดิลปากกา Stylus อย่าง HP Active Pen มาให้เลยในกล่องเลย
โดย HP ENVY x360 ปี 2019 แบ่งเป็น 2 สเปกหลักๆ ต่อไปนี้
- AMD Ryzen 7 3700U/ VEGA 10 / RAM 8GB / SSD 512GB ราคา 33,990 บาท
- AMD Ryzen 5 3500U/ VEGA 10 / RAM 8GB / SSD 256GB ราคา 29,990 บาท
Hardware / Design
HP ENVY x360 ปี 2019 มาพร้อมกับดีไซน์พรีเมียม หรูหรา มองเผินๆ เหมือนโน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ที่มีราคาหลายหมื่นบาท ซึ่ง HP ตั้งใจที่จะออกมาให้เป็นแบบนั้นจริงๆ สังเกตได้จากโลโก้ HP ที่เป็นตัวอักษรแบบใหม่เหมือนตัว Spectre ที่เป็นรุ่นท็อป งานประกอบก็ถือว่าแข็งแรงสอบผ่านได้สบายๆ เรียกได้ว่าสาวๆ หนุ่มๆ หลายคนเห็นแล้วคงชอบอยากได้เครื่องนี้ไว้ทำงานแน่นอน โดยสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานโน๊ตบุ๊คทั่วไป
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้บอดี้จะเป็น Aluminum ทั้งหมด สี Nightfall Black ดีไซน์แบบมินิมอลและพื้นผิวขัดลายเพิ่มความหรูหราอย่างมีระดับ พร้อมกับโลโก้ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ส่วนด้านในเครื่องบริเวณหน้าจอกระจกขอบบางเฉียบที่เป็น Corning Gorilla Glass ทั้งบาน ซึ่งเล่นสีกับขอบจอด้านในเป็นสีดำดูเข้ากันดี ตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit สีขาวมาให้ด้วย ที่สำคัญตัวเครื่องยังบางเฉียบ พกพาได้สะดวก พร้อมพับปรับได้ 360 องศา เพื่อใช้งานมัลติโหมด และขาดไม่ได้เลยสำหรับสแกนลายนิ้วมือผ่านทาง Windows Hello
ลำโพงจะอยู่ที่ด้านในเหนือคีย์บอร์ดและด้านใต้ตัวเครื่องแบบ Quad Speakers ซึ่งเป็นของ Bang & Olufsen ให้เสียงที่ดีมีมิติ ปุ่ม Power จะถูกออกแบบให้อยู่ที่ด้านซ้ายตัวเครื่อง พร้องช่องระบายความร้อนหนึ่งช่อง ส่วนด้านขวาจะมีปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงปกติ ทำให้สะดวกและคล่องตัวมากๆ รวมถึงตัวเครื่องสามารถพับได้ 360 องศาและมีความบางเพียง 14.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งโดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของเรียกได้ว่า HP ได้ก้าวไปอีกขั้นกับโน๊ตบุ๊คราคานี้สเปคแบบนี้
นอกเหนือจากนี้ปุ่ม Power (Wake Up / Sleep) ยังได้ถูกออกแบบเอาไว้ขอบจอด้านนอกรวมไปถึงปุ่มปรับระดับเสียงด้วย ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่คุ้นตาเหมือนกับโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ แต่เมื่อใช้งานจริงแล้วพบว่าสามารถใช้งานได้คล่องตัวและสะดวกมากๆ จากการที่มันเป็น 2-in-1 Notebook พับได้ 360 องศานั่นเอง รวมไปถึงอีกด้านยังมีสวิตช์ Webcam Kill ปุ่มเลื่อนไปมาสำหรับเปิดปิดการใช้งานกล้องเว็บแคม ที่ช่วยเราให้เรื่องของความปลอดภัย ไม่ต้องหากระดาษมาแปะที่กล้องเว็บแคมโดยตรงอีกต่อไปเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
ด้านล่างตัวเครื่องของ HP ENVY x360 ปี 2019 จะเห็นว่ายางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ 2 เส้นยาวเพื่อยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นและเวลาใช้งานจะแน่นหนากับพื้นที่วาง พร้อมช่องดูดลมเย็นขนาดใหญ่ สำหรับส่วนของน็อตก็เป็นแบบพิเศษ แน่นอนว่าตรงนี้จะมีโลโก้ Windows 10 นอกจากนี้ตรงส่วนขอบด้านหน้าที่ใช้ยกฝาจอเพื่อเปิดเครื่องใช้งานก็จะมีการทำเป็นเว้าร่องลงไปเพื่อช่วยในการเปิดเครื่องที่ง่ายขึ้น
ที่สำคัญสำหรับโลโก้บนตัวเครื่องของ HP ENVY x360 ปี 2019 ยังเป็นดีไซน์แบบใหม่ที่ดูมีมุมมีองศาทำให้เหมาะสมกับความหรูหราของตัวเครื่อง ที่ต้องบอกว่ามีความพิเศษจริงๆ เพราะ HP จะเลือกใช้โลโก้นี้เฉพาะผลิตภัณฑ์รุ่นที่เป็นไฮเอนด์เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่ามันอยู่บน HP SPECTRE รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ระดับบนอื่นๆ ฉะนั้น HP ENVY x360 ปี 2019 ก็สามารถการันตีความพรีเมียมได้เลย ในราคาเบากว่าเยอะ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดและทัชแพดของ HP ENVY x360 ปี 2019 ก็เรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมที่ดีอยู่ เพิ่มเติมคือเพิ่มฟังก์ชันบางอย่างเข้าไปอย่าง HP Sure View ที่ F1 ซึ่งปุ่มกดมีมีขนาดใหญ่และมีความเหมาะสมกับขนาดตัวเครื่องส่วน Layout คีย์บอร์ดยังคงเป็น 4 แถวขนาด Full Size ด้วยคีย์บอร์ดไซต์มาตรฐานแบบ island-style ซึ่งตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ที่สำคัญยังมีไฟคีย์บอร์ดส่องสว่าง ไว้ใช้งานในที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้เป็นอย่างดี หรือจะปิดไว้ก็สามารถทำได้ (เปิดปิดได้เท่านั้นปรับระดับไม่ได้)
ทัชแพดเป็นแบบซ่อนปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวามีขนาดที่พอดีเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง โดยวัสดุตรงนี้จะเป็นแผ่นอะลูมิเนียม ตัดขอบเงินเข้มๆ เข้ากับตัวเครื่อง สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ สามารถตอบสนองการใข้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งในการใช้งานแบบปกติหรือใช้งานฟังก์ชันการทำงานแบบ Multi-Touch Gesture ใน Windows 10 อย่างเต็มที่
Screen / Speaker
จอภาพ HP ENVY x360 ปี 2019 ถือเป็นอีกจุดขายก็ว่าได้ด้วยจอภาพขนาด 13.3 นิ้ว ที่มีขอบบางมากถึง 3 ด้านด้วยกัน ซึ่งเป็นแบบจอกระจก Corning Gorilla Glass อาจจะมีการสะท้อนภาพบ้างเวลาใช้งานกลางแจ้งหรือที่มีแสงจัดๆ โดยตัวจอรองรับการทัชสกรีนจำนวน 10 จุด ทั้งการใช้งานทั้งนิ้วมือแบบมัลติทัชและปากกา HP Active Pen ไม่แค่นั้นตัวเรื่องยังสามารถรองรับแรงกดได้หลายระดับ อีกทั้งยังสามารถพับปรับจอได้ 360 องศาอีกด้วย ตัวจอเป็นพาเนล IPS ทำให้สีสันคมชัดสมจริงไม่ว่ามองมุมไหน ความละเอียด 1920 x 1080 (Full HD) ซึ่งถือได้ว่าคมชัดเป็นอย่างมาก แถมยังเป็น 120Hz ที่แสดงผลได้ลื่นไหลกว่า 60Hz แบบจอทั่วไป
ที่สำคัญคือ HP ENVY x360 ปี 2019 รองรับ HP Sure View ฟังก์ชันกันคนแอบมอง โดยกดปุ่ม F1 ซึ่งปกติจะมีเฉพาะรุ่นท็อปๆ เท่านั้น สำหรับฟีเจอร์ Privacy Screen นี้กับคุณสมบัติลดมุมมองหน้าจอลง เพื่อไม่ให้คนอื่นมาส่องมาเผือกได้เวลาที่ใช้งานนอกสถานที่ ที่ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อฟิล์มมาติดเพิ่ม ไม่ต้องลอกออกไปมา เพราะเราสามารถกดปุ่มปิดเปิดได้ตามความต้องการ ที่ปุ่ม F1 เรียกได้ว่าตอบโจทย์การทำงานสายมืออาชีพที่ต้องการความปลอดภัยขั้นสุดอีกด้วย ดูภาพเปรียบเทียบได้เลย
ทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ HP ENVY x360 ปี 2019 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูง แต่สูงแค่ไหนดีแค่ไหนต้องทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรตหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด นอกจากนี้เรายังทำการ Display Analysis ดูประสิทธิภาพการแสดงผลแบบละเอียด อย่างที่ดูด้วยตาเปล่าไม่สามารถบอกได้ จึงต้องใช้เครื่องมือช่วย
โดยขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 88% และ AdobeRGB ที่ 69% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันในระดับที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปรวมไปถึงมืออาชีพ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างที่ดีมากๆ ของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือรองรับการใช้งานที่กลางแจ้งได้สบายๆ อย่างไรก็ตามถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นสีตรงกับอุปกรณ์เกี่ยวพ่วงก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางด้านบนที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องมุมซ้ายด้านล่างจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 20% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0
ระบบเสียง HP ENVY x360 ปี 2019 เลือกใช้ของ Bang & Olufsen พร้อมฟีเจอร์ HP Audio Boost ซึ่งวางส่วนของลำโพงไว้ด้านบนตัวเครื่อง 2 ตัว และด้านล่างอีก 2 ตัว แบบ Quad Speakers ทำให้เสียงที่ออกมากระจายกว้างไม่มีอะไรปิดกั้น ซึ่งให้เสียงที่ดีและดังพอสมควร จนไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องใช้งานในที่เสียงดัง สามารถตอบสนองเรื่องความบันเทิง การฟังเพลงสำหรับคนที่ชอบทำงานได้โอเคเลย ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้มีเสียงเบสมาก และเสียงจะค่อนไปทางเสียงกลาง เสียงแหลมมากกว่าก็ตาม แต่ก็จัดว่าดีกว่าอัลตร้าบุ๊คทั่วไปๆ แบบรู้สึกได้
Connector / Thin And Weight
HP ENVY x360 ปี 2019 มาด้วยตัวเครื่องที่ค่อนข้างบางเฉียบก็จริง แต่ก็มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครับระดับหนึ่งไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type -A จำนวน 2 พอร์ต, USB 3.1 type C จำนวน 1 พอร์ต, Micro SD Card-Reader และช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ซึ่งแนะนำว่าควรหาซื้อ HUB ไว้เพิ่มเผื่อต่อ USB อย่างอื่น, SD Card, Lan หรือ HDMI ไว้ต่อจอภาพจะดีมากครับ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายรองรับทั้ง Bluetooth 4.2 และ Wifi 802.11a/b/g/n/ac มาตราฐานใหม่ 2×2
มิติขนาดของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 306 x 212 x 14.7 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 13.3 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ซึ่งมีน้ำหนักตัวเครื่องเปล่าเพียง 1.30 กิโลกรัมเท่านั้น แถมอแดปเตอร์ก็อันเล็กนิดเดียว และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วยก็จะมีน้ำหนักประมาณ 1.50 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เบามาก ตอบสนองทั้งการทำงานและการพกพาได้เป็นอย่างดีมากๆ รุ่นหนึ่งเลยทีเดียว หรือจริงๆ จะไม่พกอแดปเตอร์ก็ยังพอได้อยู่ เพราะแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานเหมือนกัน
Using Experience
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า HP ENVY x360 ปี 2019 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู YouTube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
อย่างไรก็ตามสำหรับ HP ENVY x360 ปี 2019 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง แข็งแรงสามารถหมุนเปิดปิดได้เป็นพันๆ หมื่นๆ ครั้ง อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน
สำหรับปากกาสไตลัส HP Active Pen ทาง HP ได้ร่วมกับ Wacom ในการผลิต โดยตัวสไตลัสจะมีความสามารถเหมือนกันกับสไตลัสของ Surface Pro 4 ทุกอย่าง เช่นจะมาพร้อมกับความสามารถในการใช้งานแบบ N-Trig, มีปุ่มบนตัวสไตลัสจำนวน 2 ปุ่มทางด้านข้างและทางด้านบน (ซึ่งปุ่มทางด้านบนจะเอาไว้ใช้สำหรับการรันโปรแกรม OneNote)
และที่สำคัญสไตลัสนี้ยังรองรับระดับแรงกดได้มากถึง 2,048 ระดับเลยทีเดียวอันนี้การันตีได้จากผู้ใช้งานนักวาดการ์ตูนหลายคนทีเดียว หรือจะใช้ไว้จดงานเขียนหนังสือก็สามารถทำได้สบายๆ ส่วนท้ายด้ามของ HP Active Pen ก็ใช้งานเป็นยางลบเสมือนจริงได้อีกด้วย เรียกได้ว่าจะลืมการใช้กระดาษแบบเดิมๆ ไปเลย
ซึ่งบอกได้เลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาไม่แพง และมีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปคก็ถือว่าค่อนข้างโอเคมากๆ ได้ SSD m.2 PCIe แรงๆ การทำงานไม่ว่าจะเป็นในเรื่องงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ HP ENVY x360 ปี 2019 ก็สามารถทำได้ดีและเป็นหนึ่งใน 2-in-1 Notebook ที่เป็นตัวเลือกน่าซื้ออันดับต้นๆ เลยทีเดียว
Performance / Software
HP ENVY x360 ปี 2019 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก AMD Ryzen 7 3700U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำแต่แรง โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.3 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.0 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core/ 8 Thread ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมก็ให้มาเป็นแบบ 8 GB DDR4 ประเภทฝังบอร์ดที่ไม่สามารถอัพเกรดได้ แต่จริงๆ ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะ
านของการ์ดจอที่ติดตั้งมาให้มีเพียงการ์ดจอออนบอร์ดที่อยู่ในชิปประมวลผล AMD ซึ่งเป็น Radeon RX VEGA 10 สำหรับประมวลผลทั่วไปเช่นดูหนังหรือฟังเพลง สามารถรองรับการประมวลผลกราฟิกระดับ 2 มิติสบายๆ ส่วน 3 มิติก็พอได้ ทั้งในส่วนของการตัดต่อวิดีโอหรือจะเล่นเกมสามารทำได้ดีในระดับหนึ่ง
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจตามมาตรฐานของ AMD Ryzen 7 3700U เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล Intel Core i5 ตระกูล U ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ในส่วนของตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพตอบโจทย์ในส่วนของงานทั่วไปได้อย่างลงตัว
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD แบบ M.2 NVMe PCIeก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB โดยเป็นของแบรนด์ชั้นนำกับความเร็วระดับ Read: 2680 MB/s – Write: 1369 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือ SSD มาตรฐาน SATA 3 แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,546 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานพีซีทั่วไปนั่นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอก็พอทำได้ดีในระดับหนึ่งเลย
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 2 เกมที่ได้ทดสอบมีน่าสนใจมากเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่มีกราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นพอสมควร ทั้งในส่วนของ DOTA 2 และ Overwatch ที่มีค่า FPS เฉลี่ยที่ประมาณ 30 ขึ้นไปสามารถเล่นได้ไหลลื่นสบายๆ
HP ENVY x360 ปี 2019 นำมาซึ่งประสิทธิภาพและความเอนกประสงค์ในการสร้างและทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยทุกที่ ทุกเวลา สามารถกำหนดปรับแต่งค่าการใช้งานของเครื่องด้วยตนเองจาก HP Command Center มีระบบควบคุมความร้อนดีเยี่ยมด้วยเทคโนโลยี HP CoolSense คอยปรับความเร็วของพัดลมเพื่อช่วยให้โน๊ตบุ๊คเย็นอยู่ตลอด เวลาโดยอัตโนมัติ ไร้ปัญหาการสตรีมมิ่งสำหรับดูหนังฟังเพลง หรือเล่นเกมให้ลื่นไหล
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP ENVY x360 ปี 2019 รวมไปถึงโน๊ตบุ๊ค HP ทุกรุ่น ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ HP ENVY x360 ปี 2019 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปีปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาดประมาณ 3000 mAh ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้เกือบๆ 10 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ว่าเปิดโปรแกรมอะไร อย่างถ้าใช้ Microsoft Edge ก็จะใช้งานได้ยาวนานกว่า Chrome จากการที่ใช้ AMD Ryzen 7 3700U ที่มีคุณสมบัติประหยัดพลังงานพิเศษ ส่วนช่องระบายความร้อนของ HP ENVY x360 มีเพียงช่องเล็กๆ พร้อมพัดลมตัวเดียว ซ่อนอยู่ใต้หน้าจอ
อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 40 + องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุด 96 องศาเซลเซียส จากการใช้โปรแกรมรีดประสิทธิภาพ นับว่าระบบระบายความร้อนของ HP ENVY x360 ปี 2019 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีกว่าในระดับนึงที่เคยทำการรีวิวมาพอควร เพราะความร้อนทั่วไปจะอยู่ที่เพียง 40 องศาเซลเซียสตอนทำงานปกติ ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนที่ดีของ HP รวมไปถึงชิปประมวลผล AMD รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลง ที่ 12 นาโนเมตร (Intel ยังใช้ 14 นาโนเมตรอยู่เลย) แม้ว่าอาจจะดูร้อน แต่จริงๆ แล้วอย่าลืมด้วยว่าเครื่องมีความบางและมีพัดลมเพียงตัวเดียวเท่านั้น ระดับประมาณนี้ถือว่าดีมากแล้ว
Conclusion / Award
HP ENVY x360 ปี 2019 เป็นอีก 2-in-1 Notebook ที่น่าสนใจมากๆ ทั้งจากราคาที่คุ้มค่าเริ่มต้นเพียง 29,990 บาท แต่ได้โน๊ตบุ๊คระดับสูงของทาง HP ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความพรีเมียมหรูหรา โดดเด่น และมีสไตล์มากๆ จนคิดว่าราคาค่าตัวจะสูงหลายหมื่นบาทเหมือนกับซีรีส์ของ SPECTRE ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะทาง HP เลือกใช้ชิปประมวลผลของ AMD อย่าง Ryzen 3500U และ Ryzen 3700U ที่ไม่ใช่ให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีเยี่ยม จากสถาปัตยกรรม Zen + เทคโนโลยีการผลิตที่ 12 นาโนเมตร ยังได้เรื่องของต้นทุนที่ถูกลงกว่าอีกค่าย ทำให้ HP สามารถทำราคาได้ไม่แพง ส่งผลให้ผู้ใช้งานอย่างเราๆ ตัดสินใจซื้อกันได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย
สเปกภายในโดยรวมอื่นๆ ก็ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแรมมาขนาด 8GB ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่มีอาการคอขวดแน่นอน อีกทั้งยังใส่ SSD m.2 มาตรฐานความเร็วสูง NVMe PCIe ที่ความจุ 256GB / 512GB แรงๆ ก็เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไป หรืองานหนักๆ ก็สบายๆ รวมถึงหน้าจอก็เป็นพาเนล IPS คุณภาพดี มีความละเอียด Full HD แบบ 120Hz ที่แสดงผลได้อย่างลื่นไหล ที่สำคัญเป็นระบบสัมผัสที่รองรับการใช้งานมัลติทัชแถมลื่นเสมือนใช้สมาร์ทโฟนและยังรองรับการใช้ปากกา Stylus ที่ใช้สำหรับงานวาดรูป รองรับแรงกดได้หลายระดับเสมือนวาดบนกระดาษเลยจริงๆ เลยทีเดียว
การออกแบบดีไซน์ของ HP ENVY x360 ปี 2019 ที่ดูแล้วเรียบหรูและใช้วัสดุคุณภาพอย่างอะลูมิเนียมแม็กนีเซียมอัลลอยด์เกรดสูงตลอดทั้งตัวเครื่อง งานประกอบก็เรียบร้อย มิติตัวเครื่องก็เล็กกระชับบางเบา พกพาสะดวก แบตใช้งานได้ยาวนานเกือบ 10 ชั่วโมง รวมไปถึงมีประกันถึง 2 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ทำให้ HP ENVY x360 ปี 2019 เป็น 2-in-1 Notebook สไตล์บางเบา ที่มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งหลายๆ ตัวในตลาด สนนราคารุ่นสเปก AMD Ryzen 7 3700U ที่นำมารีวิวอยู่ที่ 33,990 บาท
นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่ยี่ห้ออื่นไม่มีคือ HP Sure View ฟีเจอร์กันคนแอบมองจอที่สามารถกดเปิดปิดได้ในปุ่มเดียว และสวิตช์ Webcam Kill ป้องกันเพื่อความปลอดภัย อย่างที่หาไม่ได้ในโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นๆ แน่นอน โดดเด่นด้วยลำโพงแบบ Quad Speakers ของ Bang & Olufen ที่หาได้ยากมากในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ พร้อมบันเดิลปากกา HP Active Pen มาให้ในตัวไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม ซึ่งถือได้ว่า HP ENVY x360 ปี 2019 จัดมาเต็ม คุ้มค่าครบเครื่องจริงๆ
อย่างไรก็ตาม HP ENVY x360 ปี 2019 ก็ยังมีพอสังเกตอยู่บ้างคือเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อที่อาจจะไม่เพียงพอเมื่อจำเป็นต้องใช้งานหลากหลาย แต่ก็เข้าใจได้เพราะเครื่องบางเบาขนาดนี้ หรือจำเป็นต่อจอแยก ซึ่งก็สามารถแก้ไขปัญหาด้วยการซื้อฮับ USB 3.1 Type-C มาเพิ่มได้ และการแกะอัปเกรดที่ทำได้ไม่สะดวก โดยอัพเกรดได้เฉพาะ SSD m.2 เท่านั้น ไม่สามารถแกะอัปเกรดเปลี่ยนแรมเป็น 16 GB ได้นั่นเอง เพราะแรมเป็นแบบฝังบอร์ดมา ซึ่งตามจริงถ้าใช้งานทั่วๆ ไปแรม 8GB ก็เพียงพอมากๆ แล้ว ซึ่งถ้าใครมองข้ามเรื่องพวกนี้ได้ใครงบถึงต้องจัดสักเครื่องละครับ เน้นพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ ตามออฟฟิศ ร้านกาแฟ โรง มหาวิทยาลัยได้สะดวกสุดๆ !!!
ข้อดี
- สเปกแรงคุ้มประสิทธิภาพดีด้วย AMD Ryzen 7 3700 + RAM 8GB + SSD 512GB
- เล่นเกม 3 มิติ หรือตัดต่อวีดีโอพอได้ ใช้งานทั่วไปลื่นไหลสบายมาก
- วัสดุทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- น้ำหนักเบา 1.3 กิโลกรัม ขอบจอบาง เหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- หน้าจอสัมผัสมัลติทัชลื่นมาก รองรับแรงกดได้หลายระดับ พร้อม Stylus สามารถใช้วาดรูปได้ดี
- เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีคุณสมบัติ 2-in-1 Notebook ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
- รองรับการใช้งานกับปากกาสไตลัส HP Active Pen บันเดิลมาให้เลย
- หน้าจอ IPS Full HD IPS 120Hz ทัชกรีนได้
- ลำโพง Bang & Olufsenแบบ Quad Speakers พร้อมฟีเจอร์ HP Audio Boost
- มีไฟ Backlit Keyboard สวยงาม รวมถึงใช้งานได้เป็นอย่างดี
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเกือบ 10 ชั่วโมง
- ตัวเครื่องสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายโหมด กางหน้าจอได้ 360 องศา
- มีระบบสแกนนิ้วมือใช้กับ Windows Hello รักษาความปลอดภัยได้ดี
- HP Sure View ป้องกันคนแอบมองจากด้านข้าง ด้วยการลดมุมมองหน้าจอลง
- สวิตช์ Webcam Kill ปิดกล้องเว็บแคมได้เพื่อความปลอดภัย
- มี Windows 10 แท้ในตัวเครื่อง พร้อมซอฟต์แวร์ที่ดี
- ระกัน 2 ปี แบบ On-site Service
ข้อสังเกต
- การแกะอัพเกรดทำได้ยาก ทำได้แต่ SSD
- จอกระจกทำให้เวลาใช้งานกลางแจ้งเจอแสงสะท้อน
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับกลุ่ม 2-in-1 Notebook ด้วยกัน ซึ่ง HP ENVY x360 ปี 2019 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
ดีไซน์โดยรวมของ HP ENVY x360 ปี 2019 มีความโดดเด่นเรื่องความพรีเมียมพรูหรา รวมถึงหน้าจอขอบบางแบบบางพิเศษ ที่ทำให้สามารถใช้งานจอขนาด 13.3″ ภายในตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้จอขนาดเดียวกัน ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง HP ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
Best Value
ถึงแม้ HP ENVY x360 ปี 2019 จะไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่มีสเปคที่ดีที่สุด แต่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาประมาณสามหมื่นบาท ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 29,990 – 33,990 บาท ที่มาพร้อมสเปคอย่าง AMD Ryzen 5 3500U / 7 3700U รวมถึงมีแรม 8GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD PCIe ความจุ 256GB / 512GB แถมมีสแกนลายนิ้วมือและฟีเจอร์อื่นๆ จัดเต็ม เป็น 2-in-1 Notebook เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นหลากหลายพับหน้าจอไปมาได้ เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ที่สำคัญประกันยังมีระยะถึง 2 ปี On-site Service เราจึงมอบรางวัล Best Value ไปให้เลยอย่างไม่ต้องสงสัย
Best Thin & Light
ความบางเบาคือจุดเด่น ด้วยมิติที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดมากๆ ขอบจอบางเฉียบทั้ง 3 ด้าน ตัวเครื่องบางแค่ 14.7 มิลลิเมตร เบาเพียง 1.3 กิโลกรัม ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และนอกจากความบางเบา ยังมีความแข็งแกร่งอีกด้วย จากการใช้วัสดุอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง รวมไปถึงแบตเตอรี่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานเกือบ 10 ชั่วโมง เรียกได้ว่าไม่ต้องพกอแดปเตอร์ไปมาก็ยังได้ ทำให้เป็น 2-in-1 Notebook ที่ลงตัวมาก ๆ สำหรับผู้ที่มองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักเครื่องมาใช้งานในระดับจริงจัง