Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook Review

Review – Acer Nitro 7 Gaming Notebook พรีเมียมโลหะทั้งตัว สเปก Core i7-9750H + GTX 1660Ti

Acer Nitro 7 (AN715-51) ที่มาพร้อมสเปก Core i7-9750H + GTX 1660Ti ดีไซน์ใหม่ขอบจอบางเฉียบ วัสดุเป็นอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ทั้งฝาหลัง ด้านนอก ด้านใน

Acer Nitro 7 (AN715-51) ที่มาพร้อมสเปก Core i7-9750H + GTX 1660Ti  ดีไซน์ใหม่ขอบจอบางเฉียบ วัสดุเป็นอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ทั้งฝาหลัง ด้านนอก ด้านใน ใต้เครื่อง การออกแบบก็สวยล้ำกว่าเดิม มาพร้อมหน้าจอ 15.6″ Full HD IPS ใช้ชื่อว่า Acer Nitro 7 เน้นความพรีเมียม โดยรวมแล้วดูดีกว่า Acer Nitro 5 อย่างเห็นได้ชัดเจน แต่ก็ยังมีรูปแบบที่คล้ายกันอยู่ อารมณ์แบบแฝดพี่แฝดน้องก็ว่าได้ สำหรับรีวิว Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ปี 2019 ดูรีวิวได้ ที่นี่ เพื่อที่จะได้ชมประกอบกัน

Acer Nitro 7 เริ่มต้นที่ 37,990 บาท แบ่งออกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ที่ใกล้เคียงกัน ต่างกันแค่ส่วนของ SSD และ HDD เรียกได้ว่าแรงและคุ้มค่าไม่แพ้ Nitro 5 แต่เหนือกว่าตรงที่แทบทุกรุ่นมาพร้อมกับ SSD ความเร็วสูงและหน้าจอ IPS 144Hz !!! จัดเต็มกันไปเลยจริงๆ รองรับเป็นแบบ NVMe 2 ช่อง ที่เราสามารถต่อ Raid ได้ด้วย พร้อม HDD 2.5″ ปกติก็ยังมีติดตั้งให้อยู่ แน่นอนว่าทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน หรือส่งศูนย์เองก็ซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงด้วย

Advertisement

VDO Preview

Specification

Acer Aspire Nitro 7 AN715 51 71HA

Acer Nitro 7 เพราะมาพร้อมกับสเปกใหม่ล่าสุดด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 ​อย่าง i7-9750H ที่สำคัญได้การ์ดจอรุ่นใหม่มาเสริมทัพอัพเดทอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti ที่เป็นรุ่นใหม่ของ GTX เน้นความแรงและคุ้มค่าเป็นหลัก มีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ซึ่งตัวที่แอดมินโป้งได้มาทดสอบ เป็นตัวรุ่น Acer Nitro 7 ราคาถูกที่สุด

สเปก i7-9750H + GTX 1660 Ti ราคา 37,990 บาท ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-9750H (2.60 – 4.50 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพไว้ใจได้ แรงกว่า i7-8750H พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) รุ่นใหม่ มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB 5400 รอบ พร้อมติดตั้ง SSD แบบ  M.2 PCIe จำนวน 2 ช่องอีกด้วย ใส่มาแล้ว 256GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8 GB แบบ DDR 4 Bus 2666 สามารถอัพเกรดได้สูงสุด 32 GB

นอกจากนี้ Acer Nitro 7 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6″ ที่ความละเอียด Full HD ความละเอียด 1920 x 1080 พาเนล IPS แบบ 60Hz ให้สีสันที่สวยงามทุกมุมมอง และในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ 2.0 ให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจกว่ารุ่นเดิม ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง Wave MaxxAudio ทำให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขั้นไปอีก ส่วนน้ำหนักจะอยู่ที่ 2.5 กิโลกรัมถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″

ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 2.0 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi Intel Dual Band MU-Mimo มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac แถมมีประกัน On-site Service ถึง 3 ปีเต็ม ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่น่าสนใจที่สุด ณ เวลานี้อีกรุ่นเลยทีเดียว

เห็นได้ 3 รุ่นนี้หลักๆ แล้วต่างกันอยู่ 3 อย่างคือ SSD / HDD และหน้าจอ 144Hz ซึ่งส่วนตัวแนะนำเป็นรุ่นราคา 39,990 บาท SSD 512GB น่าจะตอบโจทย์ที่สุด ส่วนฮาร์ดดิสก์ 2.5″ เราค่อยไปอัพเองทีหลังได้ หรือจะใส่ SSD M.2 NVMe อีกตัวก็ว่ากันไปอีกที

Hardware / Design

Acer Nitro 7 Review NBS 98

เรื่องของการดีไซน์ออกแบบ หลักๆ Acer Nitro 7 ยังมีทรงคล้ายๆ กับ Acer Nitro 5 แต่มีการปรับให้ตัวเครื่องมีความเล็กกระชับลงอีก ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความบางเบากว่าเดิมแน่นอน ซึ่งจากการที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมทำให้ดูแข็งแรงทนทานและหรูหรากว่า Acer Nitro 5 อย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น อย่าง Acer Nitro 7 รุ่นใหม่ (AN715-51-70TG) หน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS ก็มีขนาดตัวเครื่องพอๆ กับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่เป็นขอบหนาๆ นั่นเอง โดยมีรุ่นหน้าจอ Refresh 60Hz และ 144Hz ให้เลือกกันอีกที

สำหรับสีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีดำแซมด้วยสีแดงเอาไว้อยู่ อย่างโดดเด่นและสวยงาม โดยฝาหลังของ Acer Nitro 7 จะเป็นขีดลายขวาง 3 เส้นเว้นระยะกัน รวมไปถึงขอบตัวเครื่องบริเวณฝาพับ Acer Nitro 7 จะเป็นสีดำสีเดียวกับตัวเครื่องพร้อมมีคำว่า Nitro อยู่ แต่สำหรับฝาหลังของ Acer Nitro 5 จะเป็นลวดลายผิวไม่เรียบบริเวณด้านข้างซ้ายและขวา ส่วนขอบตัวเครื่องบริเวณฝาพับ Acer Nitro 5 จะเป็นสีแดง นั่นทำให้ Acer Nitro 5 และ Acer Nitro 7 มีความแตกต่างที่ชัดเจนกันอยู่ นอกเหนือจากเรื่องของขนาดมิติตัวเครื่องไม่แน่นอนว่าไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

Acer Nitro 7 Review NBS 3

ด้วยขอบหน้าจอที่บางเฉียบที่ 7.48 มิลลิเมตร พื้นที่แสดงผลเป็น 78% ส่งผลให้มิติโดยรวมตัวเครื่องทั้งหมดมีขนาดที่เล็กกระชับ ฝาหลังที่เป็นอะลูมิเนียมดูสวยงามดุดัน โดยมีความบางที่ 19.9 มิลลิเมตรเท่านั้น นับว่ามีความบางเบากว่ารุ่นก่อนมาก รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น กับน้ำหนักเบาเพียง 2.5 กิโลกรัม  โดยติดตั้งลำโพง Waves MaxxAudio และ  Killer Ethernet E2500 RJ-45 อีกเช่นกัน ให้ประสบการณ์การใช้งานเล่นเกมที่เยี่ยมของเกมเมอร์ทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนคู่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ (ตามที่ Acer เคลมไว้) พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย

Acer Nitro 7 Review NBS 102

ด้านในตัวเครื่องงานดีไซน์ก็เหมือนกับ Acer Nitro 5 แต่วัสดุทั้งหมดเป็นอลูมิเนียมที่ดูพรีเมียมสัมผัสดีกว่า โดยมีพื้นผิวคล้ายกับด้านนอก ที่มีการติดตั้งปุ่ม Power ไว้มุมขวาบนสุดของชุดคีย์บอร์ด รวมไปถึงยังมีการติดตั้งปุ่ม NitroSense ไว้เหนือแป้นตัวเลขด้วย กดใช้งานได้สะดวกดี นอกจากนั้นก็เป็นสติกเกอร์ต่างๆ ติดเอาไว้ไม่ว่าจะเป็น

ส่วนการอัพเกรดแรมและ SSD ในอนาคตนั้น แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องถอดฝาล่างของตัวเครื่องออกมา โดยวัสดุของฝาหลังนี้ก็เป็นอลูมิเนียมเกรดดี พื้นผิวเป็นแบบเรียบๆ แต่ติดมือ ทำให้หยิบจำแล้วไม่ลื่นไหล พร้อมยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ 4 จุดด้วยกัน ซึ่งมีความมั่นคงดี ซึ่งเมื่อมองไปที่ช่องด้านล่างก็จะพบกับช่องดูดลมเย็นพร้อมกับพัดลม 2 ตัว ที่กรณีที่เราเปิดเครื่องก็จะเห็นไฟสีแดงจากคีย์บอร์ดติดอยู่ด้วย ดูแล้วก็สวยงามไปอีกแบบ ที่เดี๋ยวเราจะพาไปแกะชมข้างในกันอีกที

Acer Nitro 7 Review NBS 27

สรุปแล้วสำหรับหน้าตาการออกแบบ Acer Nitro 7 และดีไซน์เครื่องโดยรวม เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีกว่า Acer Nitro 5 แม้จะมีรูปทรงที่ใกล้กันแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่า ทั้งมิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดทำให้พกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้เล็กมากจนเกินไปเหมือน Gaming Notebook บางรุ่นที่เน้นความบางเบา (จนบางครั้งก็บางเกิน ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดีนัก)

กับน้ำหนักตัวเครื่อง 2.5 กิโลกรัม (หนักกว่า Acer Nitro 5 ที่ 200 กรัม เข้าใจว่าวัสดุเป็นโลหะทั้งตัวไม่ใช่พลาสติก) รวมกับอแดปเตอร์แล้วก็ถือว่าพกพาไปไหนมาได้อยู่ที่ประมาณ 2.8 กิโลกรัม คาดว่าน่าจะถูกใจใครหลายๆ คน กับการมาของ Acer Nitro 7  รุ่นใหม่ปี 2019 ไม่มากก็น้อย

 

Keyboard / Touchpad

Acer Nitro 7 Review NBS 74

Acer Nitro 7 มีตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6”ขอบหน้าจอบางก็จริง แต่ก็ยังสามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ ที่มาพร้อมปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีแดง รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง รวมถึงปุ่ม NitroSense จะมีขอบเป็นสีแดงเด่นออกมา

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ Backlit สีแดง (ปรับแสงได้ 5 ระดับ) ที่ให้ความสว่างพอสมควรดูเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความนุ่มติดมือ รู้สึกได้เลยว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน

ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา มีขอบเป็นสีแดง ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด

Screen / Speaker

Acer Nitro 7 Review NBS 73

Acer Nitro 7 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แบบ Screen-to-Body เป็น 78% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.48 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง ซึ่งในรุ่นที่เรานำมาทดสอบนั้นจะเป็นรุ่นหน้าจอ Refresh Rate 60Hz แต่ในรุ่นรองท็อปและท็อปจะเป็น 144Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก ซึ่งดูรวมๆ แล้งทั้งสีสันและความคมชัดจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Nitro 7 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS เกรดดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

s3 8

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 96% และ Adobe RGB ที่ 72% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอ เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างกว่าหน้าจอ Gaming Notebook รุ่นอื่น ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว

สรุปสุดท้ายด้วยคะแนนรวมทั้งหมดโดยตัวเครื่อง Acer Nitro 7 ก็ได้คะแนนไป 4 คะแนน ซึ่งเมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว เทียบกับ Acer Nitro 5 รุ่นปี 2019 ให้ค่าขอบเขตสีที่ดีกว่า รวมไปถึงคะแนนรวมก็ดีกกว่าด้วย แต่ในส่วนของการใช้งานทั่วไปไม่มีผลแต่อย่างใด

ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer Nitro 7 นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Waves MaxxAudio ที่ผสานกับ Acer TrueHarmony เพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบส เสียงสนทนา และระดับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งและจากการใช้งานรู้สึกว่าดีกว่ารุ่นเก่าด้วย

Connector / Thin And Weight

Acer Nitro 7 Review NBS 101

Acer Nitro 7 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″  ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-C, 1 x USB 2.0 Type-A , HDMI, RJ45 (Killer E2500) และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน พูดตรงๆ ก็คือ เหมือนกันกับ Acer Nitro 5 เลยล่ะ ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่มีส่วนของช่อง SD(XC/HC) Card reader

ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac รูปแบบมาตราฐาน Gigabit Wi-Fi 5 ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครันและทางด้านการพกพา Acer Nitro 7  ทำได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ที่มีดีไซน์ขอบจอบาง ด้วยมิติตัวเครื่องกระชับเทียบเท่าหน้าจอ 14″ แบบก่อนๆ รวมถึงน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.5 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.8 กิโลกรัม นับได้ว่าพกพาสะดวกอยู่เวลาใช้งานนอกสถานที่

Inside / Upgrade

Acer Nitro 7 Review NBS 82

การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer Nitro 7 ปี 2019 นั้นสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จะมีน็อตแค่ตัวเดียวที่มีสติกเกอร์แปะอยู่ เราสามารถเจาะทะลุไปได้เลย จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง โดยเวลาทำห้ามใจร้อนเด็ดขาด ไม่งั้นเกลียวใต้ฝาอาจจะหักได้ แล้วค่อยๆ แงะฝาขึ้นมาอีกที งานประกอบการจัดวางตำแหน่งคล้ายกับรุ่นเดิมมีฮีท์ไปป์สองเส้นพาดผ่าน CPU และ GPU โดยมีพัดลมสองตัวติดกัน ช่องระบายความร้อนแถวยาวช่องเดียว

Acer Nitro 7 Review NBS 91

ซึ่งแรมกับฮาร์ดดิสก์จะแยกส่วนกันอย่างชัดเจน ที่เห็นได้ถึงแรมสามารถติดตั้งได้ 2 แถว โดยติดตั้ง 8GB มาแล้ว 1 แถว สามารถอัพเกรดเพิ่มได้อีกแถวทันที โดยรองรับสูงสุดที่ 32GB ส่วน SSD M.2 NVMe รองรับการติดตั้ง 2 สล็อตด้วยกัน พร้อมมีน็อตมาให้ด้วย ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นฮาร์ดดิสก์แบบ 2.5″ ที่ให้มาอยู่แล้วเป็นมาตรฐาน อย่างไรก็ตามการแกะฝาล่างนั้นไม่ทำให้หลุดประกันแต่บริษัทจะไม่รับผิดชอบหากแกะเองแล้วเกิดความเสียหาย สรุปแล้วถือได้ว่า Acer ทำการบ้านมาได้ดีกว่าเดิม การแกะตัวเครื่องเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายและก็สะดวกทีเดียว

Performance / Software

Acer Nitro 7 Review NBS 20

โดย Acer Nitro 7 รุ่นที่ได้รับมารีวิวมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-9750H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 8GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

c1 8   c2 8

ยกระดับประสิทธิภาพ จากการที่ Acer Nitro 7 มีการนำชิปประมวลผล หรือ CPU รุ่นล่าสุดจาก Intel Core i Gen 9 มาใส่ไว้ใน Gaming Notebook ตัวใหม่นี้ด้วย ทำให้การประมวลผลการทำงานหรือการเล่นเกมของ Gaming Notebook รุ่นใหม่นี้ ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยทำได้มาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 45% มีผลอย่างมากต่อการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลของ CPU หนักๆ เช่น การต่อต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์งาน 3D เป็นต้น

g1 9   g2 5

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti รุ่นใหม่มีแรมขนาด 6GB แบบ GDDR6 ที่ต้องบอกว่าทาง NVIDIA ตั้งใจเอามาแทนที่ของเดิมอย่าง GTX 1060 โดยมีความแรงมากกว่า แต่ร้อนน้อยกว่า เทียบรุ่นที่แรงกว่านี้ก็จะเป็น RTX 2060 แล้ว

cine 9

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าอย่าง Core i7-8750H ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงในระดับนึง เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับ GTX ที่เน้นการทำงานหรือเล่นเกมเป็นหลัก

ssd 8

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB แบบ M.2 NVMe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1624MB/s และเขียนที่ 816MB/s ส่วนตัวถ้าอัพเกรดเพิ่ม คงต้องเป็น SSD NVMe ที่เร็วระดับ 3xxx MB/s แล้วล่ะ

hdd 2

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 5400 ที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune Pro แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่เป็น 53.4 MB/s และสูงสุดที่ 252.5 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 215.4 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 3.3 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของฮาร์ดดิสก์จานหมุนทั่วไป จากการที่เป็น WD BLUE 5400RPM SATA3 (WD10SPZX) ที่มี Buffer ที่ 128MB

pc 9

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,806 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป

game nitro 7

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจประมาณนึง โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 30 – 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 166o Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 และ SSD NVMe 256GB ก็ถือว่าไม่คอขวด

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V / FarCry 5 / BF V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ สำคัญคือเกมอย่าง BF V จำเป็นต้องติดตั้งใน SSD ด้วย ไม่อย่างงั้นก็จะกระตุกได้ เพราะฮาร์ดดิสก์ปกติโหลดเกมโหลดฉากไม่ทัน

เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 40 – 60 – 90 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง รวมไปถึงอาจจะมีอาการโหลดฉากช้าบ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นพอได้อยู่

ni copy 1

Acer Nitro 7 มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ NitroSense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า CoolBoots เร่งรอบพัดลมให้สุดที่ 6000 รอบทั้ง 2 ตัว ที่ใช้ระบายความร้อน CPU/GPU เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงการปรับโหมดการใช้งาน เช่นประหยัดพลังงานใช้แบตเตอรี่ก็ต้องเป็น Power Saver และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน NitroSense เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว

acer 2

นอกจากนี้ทาง Acer Nitro 7 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย

Battery / Heat / Noise

batt2

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Acer Nitro 7 ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 3750mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 6 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานปกติกับการที่เป็น Gaming Notebook จอ 15.6″ รุ่นพี่ของ Acer Nitro 5

ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น Acer Nitro 7 เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ  38 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมดพัดลมระดับสูงสุดด้วยารปรับเป็น CoolBoots เพื่อให้พัดลมทำงาน 100%

temp2 2

ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ไม่เกิน 90 – 96 องศาเซลเซียส นับว่าไม่ได้ร้อนจนเกินไปนัก ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 75 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมากับขนาดตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดพกพาง่ายกว่าเดิม สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยโหมด CoolBoots นั่นเอง

Conclusion / Award

Acer Nitro 7 Review NBS 100

สมการรอคอยสำหรับการมาของ Gaming Notebook อย่าง Acer Nitro 7 กันไหม ด้วยการเปลี่ยนแปลงของดีไซน์ใหม่ ได้ขอบจอบางลงกว่ารุ่นก่อน หน้าจอเทพมากๆ sRGB ใกล้เคียง 100% จริงๆ มิติตัวเครื่องเล็กลงกว่ารุ่นก่อนๆ การประกอบก็แน่นอนไว้ใจได้ ถอดอัพเกรดก็ง่ายขึ้น เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ น่าจะถูกใจกันไม่น้อย (รองรับการใส่ SSD M.2 NVMe แบบ 2 สล็อต) อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วก็เป็นการต่อยอดจาก Acer Nitro 5 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบใหม่ทั้งหมดเสียทีเดียว แต่วัสดุพรีเมียมให้ความต่างแบบรู้สึกได้

ส่วนสเปกก็ได้รับการอัพเกรดให้เป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ตัวแรง สำหรับการ์ดจอก็เป็นตัวใหม่ GTX 1660 Ti โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 37,990 บาท จนไปถึง 39,990 บาท ได้ประกัน On-site Service 3 ปีในทุกรุ่น โดยมี SSD M.2 ความเร็วสูงมาให้อยู่แล้วเป็นมาตรฐาน ทำให้ไม่มีอาการค้าง ช้า หน่วงอยู่ดี ทั้งใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม อย่างที่เกิดขึ้นใน Acer Nitro 5 ที่มีแต่ฮาร์ดดิสก์ปกติเพียงอย่างเดียว

Acer Nitro 7 Review NBS 1

ผลทดสอบของหน้าจอก็จะเห็นว่ามีค่าขอบเขตสีที่ดีกว่า Acer Nitro 5 สำหรับคนที่เอาไปทำงานด้านสีที่จริงจังสบายใจได้ ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็ครบครันกว่าเดิมด้วย USB 3.1 Type-A จำนวน 2 ช่อง แต่ก็ยังมี USB 2.0 Type-A อีกช่องอยู่ไว้เชื่อมต่อเมาส์เป็นหลัก พร้อมกับ LAN เป็น Killer Ethernet E2500 ทำให้เมื่อต่อสาย RJ45 ก็จะช่วยการเล่นเกมที่ลื่นไหลได้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็นมาตรฐานที่ดีมีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เหนือชั้นกว่า Gaming Notebook ทั่วไปที่ไม่มีตรงนี้

สำหรับการระบายความร้อนก็นับว่าทำได้ดีตามาตรฐานอยู่ คือ ไม่ได้ร้อนเกินไปนัก จนกระทบการทำงานของเครื่อง เข้าใจว่าทาง Acer ออกแบบมาได้ดีขึ้น แต่ชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ก็แรงและร้อนขึ้นเช่นกัน ฉะนั้นถ้าดูจากผลทดสอบอุณหภูมิก็นับว่าทำได้ดีตามเกณฑ์แล้ว ส่วนการ์ดจอรุ่นที่ได้รับมาทดสอบก็เป็น GTX 1660 Ti ที่เป็นรุ่นใหม่ สมกับการ์ดจอ Gaming ที่ทาง NVIDIA วางไว้จริงๆ แทนที่ GTX 1060

Acer Nitro 7 Review NBS 97

เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ เน้นให้ประสิทธิภาพต่อราคาคุ้มค่าล่ะก็ Acer Nitro 7 น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว กับ 3 รุ่น 3 สเปกให้เลือก โดยรวมแล้วถือว่ามีความคุ้มค่าพอสมควร ด้วยไม้เด็ดก็คือ On-Site Service 3 ปี และส่งซ่อมศูนย์ด่วนแบบรับภายใน 3 ชั่วโมงจัดเต็มเหมือนเดิม เรียกได้ว่าครบครันเสร็จสรรพในเครื่องเดียวโคตรคุ้ม

อย่างไรก็ตามทุกอย่างเหมือนจะดูดีไปหมด แต่จากการทดสอบใช้งานจริงต้องบอกว่าใช้งานได้ประมาณ 6 ชั่วโมง เทียบแล้วน้อยกว่า Acer Nitro 5 ใช้งานได้นานกว่าที่ 7 ชั่วโมงเล็กน้อย ทั้งที่ใช้ปัจจัยในการทดสอบเหมือนกันหมด ไว้ยังไงมีโอกาสเราจะมาทดสอบอีกหลายรอบอีกที ไม่แน่ใจว่าอาจจะเป็นเพราะซอฟต์แวร์บางอย่างก็เป็นไปได้

ข้อดี

  • การออกแบบเล็กกระชับ น้ำหนักเบา งานประกอบแน่นหนา วัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
  • การแกะอัพเกรดทำได้ง่ายกว่าเดิม รองรับ SSD M.2 สองสล็อต
  • แรมขนาด 8GB 1 แถว DDR4 เพียงพอต่อการใช้งาน อัพได้สูงสุด 32 GB
  • สเปคคุ้มราคาได้ทั้ง Core i7-9750H + GeForce GTX 1660 Ti
  • มีโปรแกรม Nitrosense ปรับรอบพัดลมติดตั้งมาให้ในเครื่องเลย
  • หน้าจอ 15.6 นิ้ว IPS คุณภาพดีเยี่ยม Full HD ขอบหน้าจอบางเฉียบ
  • พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, HDMI
  • LAN รองรับ Killer Ethernet E2500 ช่วยลด Ping เวลาเล่นเกมออนไลน์
  • คีย์บอร์ดมีไฟ Backlit สีแดงตามสไตล์เกมมิ่ง
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 6 ชั่วโมง
  • ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 แท้
  • มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน

ข้อสังเกต

  • ไม่มี SD(XC/HC) Card reader มาให้ในตัว
  • หนักกว่า Acer Nitro 5 ที่ 200 กรัม

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Nitro 7 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer Nitro โน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Acer Nitro 7 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง แม้หน้าจอ 15.6″ ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แม้จะมีน้ำหนักที่ 2.5 กิโลกรัม แต่ก็รับได้อยู่ เพราะเข้าใจว่าวัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดเป็นโลหะอลูเมียมเกรดสูง สัมผัสดีเยี่ยม

JCVSeJpA

Best Value

Acer Nitro 7 มีตัวเลือกสเปกมากมายไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผล i7-9750H และการ์ดจอ GTX 1660Ti ราคาเริ่ม 37,990 บาท ทุกรุ่นได้ SSD มาเลย แถมบางรุ่นได้จอ 144Hz ด้วย เรียกได้ว่าสมการรอคอยการมาของ Gaming Notebook อีกหนึ่งรุ่นที่ทุกคนให้ความสนใจ จากสเปกที่ดี ราคาคุ้มค่า  ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 สเปกด้วยกัน กับช่วงราคา 37,990 – 39,990 บาท  เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ที่มีวัสดุพรีเมียมแบบนี้

tGhIF2rA

Best Performance

ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7 Gen 9 ตระกูล H ตัวล่าสุด และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 8GB แบบ DDR4 รวมไปถึง SSD M.2 ความเร็วสูง ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ฮาร์ดแวร์ต่างๆ เข้ากันเป็นอย่างดี ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ

award new performance

VDO Preview

Specification

Acer Aspire Nitro 7 AN715 51 71HA

Acer Nitro 7 เพราะมาพร้อมกับสเปกใหม่ล่าสุดด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 ​อย่าง i7-9750H ที่สำคัญได้การ์ดจอรุ่นใหม่มาเสริมทัพอัพเดทอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti ที่เป็นรุ่นใหม่ของ GTX เน้นความแรงและคุ้มค่าเป็นหลัก มีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ซึ่งตัวที่แอดมินโป้งได้มาทดสอบ เป็นตัวรุ่น Acer Nitro 7 ราคาถูกที่สุด

สเปก i7-9750H + GTX 1660 Ti ราคา 37,990 บาท ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-9750H (2.60 – 4.50 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพไว้ใจได้ แรงกว่า i7-8750H พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) รุ่นใหม่ มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB 5400 รอบ พร้อมติดตั้ง SSD แบบ  M.2 PCIe จำนวน 2 ช่องอีกด้วย ใส่มาแล้ว 256GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8 GB แบบ DDR 4 Bus 2666 สามารถอัพเกรดได้สูงสุด 32 GB

นอกจากนี้ Acer Nitro 7 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6″ ที่ความละเอียด Full HD ความละเอียด 1920 x 1080 พาเนล IPS แบบ 60Hz ให้สีสันที่สวยงามทุกมุมมอง และในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ 2.0 ให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจกว่ารุ่นเดิม ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง Wave MaxxAudio ทำให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขั้นไปอีก ส่วนน้ำหนักจะอยู่ที่ 2.5 กิโลกรัมถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″

ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 2.0 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi Intel Dual Band MU-Mimo มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac แถมมีประกัน On-site Service ถึง 3 ปีเต็ม ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่น่าสนใจที่สุด ณ เวลานี้อีกรุ่นเลยทีเดียว

เห็นได้ 3 รุ่นนี้หลักๆ แล้วต่างกันอยู่ 3 อย่างคือ SSD / HDD และหน้าจอ 144Hz ซึ่งส่วนตัวแนะนำเป็นรุ่นราคา 39,990 บาท SSD 512GB น่าจะตอบโจทย์ที่สุด ส่วนฮาร์ดดิสก์ 2.5″ เราค่อยไปอัพเองทีหลังได้ หรือจะใส่ SSD M.2 NVMe อีกตัวก็ว่ากันไปอีกที

Hardware / Design

Acer Nitro 7 Review NBS 98

เรื่องของการดีไซน์ออกแบบ หลักๆ Acer Nitro 7 ยังมีทรงคล้ายๆ กับ Acer Nitro 5 แต่มีการปรับให้ตัวเครื่องมีความเล็กกระชับลงอีก ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความบางเบากว่าเดิมแน่นอน ซึ่งจากการที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมทำให้ดูแข็งแรงทนทานและหรูหรากว่า Acer Nitro 5 อย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น อย่าง Acer Nitro 7 รุ่นใหม่ (AN715-51-70TG) หน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS ก็มีขนาดตัวเครื่องพอๆ กับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่เป็นขอบหนาๆ นั่นเอง โดยมีรุ่นหน้าจอ Refresh 60Hz และ 144Hz ให้เลือกกันอีกที

สำหรับสีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีดำแซมด้วยสีแดงเอาไว้อยู่ อย่างโดดเด่นและสวยงาม โดยฝาหลังของ Acer Nitro 7 จะเป็นขีดลายขวาง 3 เส้นเว้นระยะกัน รวมไปถึงขอบตัวเครื่องบริเวณฝาพับ Acer Nitro 7 จะเป็นสีดำสีเดียวกับตัวเครื่องพร้อมมีคำว่า Nitro อยู่ แต่สำหรับฝาหลังของ Acer Nitro 5 จะเป็นลวดลายผิวไม่เรียบบริเวณด้านข้างซ้ายและขวา ส่วนขอบตัวเครื่องบริเวณฝาพับ Acer Nitro 5 จะเป็นสีแดง นั่นทำให้ Acer Nitro 5 และ Acer Nitro 7 มีความแตกต่างที่ชัดเจนกันอยู่ นอกเหนือจากเรื่องของขนาดมิติตัวเครื่องไม่แน่นอนว่าไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

Acer Nitro 7 Review NBS 3

ด้วยขอบหน้าจอที่บางเฉียบที่ 7.48 มิลลิเมตร พื้นที่แสดงผลเป็น 78% ส่งผลให้มิติโดยรวมตัวเครื่องทั้งหมดมีขนาดที่เล็กกระชับ ฝาหลังที่เป็นอะลูมิเนียมดูสวยงามดุดัน โดยมีความบางที่ 19.9 มิลลิเมตรเท่านั้น นับว่ามีความบางเบากว่ารุ่นก่อนมาก รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น กับน้ำหนักเบาเพียง 2.5 กิโลกรัม  โดยติดตั้งลำโพง Waves MaxxAudio และ  Killer Ethernet E2500 RJ-45 อีกเช่นกัน ให้ประสบการณ์การใช้งานเล่นเกมที่เยี่ยมของเกมเมอร์ทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนคู่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ (ตามที่ Acer เคลมไว้) พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย

Acer Nitro 7 Review NBS 102

ด้านในตัวเครื่องงานดีไซน์ก็เหมือนกับ Acer Nitro 5 แต่วัสดุทั้งหมดเป็นอลูมิเนียมที่ดูพรีเมียมสัมผัสดีกว่า โดยมีพื้นผิวคล้ายกับด้านนอก ที่มีการติดตั้งปุ่ม Power ไว้มุมขวาบนสุดของชุดคีย์บอร์ด รวมไปถึงยังมีการติดตั้งปุ่ม NitroSense ไว้เหนือแป้นตัวเลขด้วย กดใช้งานได้สะดวกดี นอกจากนั้นก็เป็นสติกเกอร์ต่างๆ ติดเอาไว้ไม่ว่าจะเป็น

ส่วนการอัพเกรดแรมและ SSD ในอนาคตนั้น แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องถอดฝาล่างของตัวเครื่องออกมา โดยวัสดุของฝาหลังนี้ก็เป็นอลูมิเนียมเกรดดี พื้นผิวเป็นแบบเรียบๆ แต่ติดมือ ทำให้หยิบจำแล้วไม่ลื่นไหล พร้อมยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ 4 จุดด้วยกัน ซึ่งมีความมั่นคงดี ซึ่งเมื่อมองไปที่ช่องด้านล่างก็จะพบกับช่องดูดลมเย็นพร้อมกับพัดลม 2 ตัว ที่กรณีที่เราเปิดเครื่องก็จะเห็นไฟสีแดงจากคีย์บอร์ดติดอยู่ด้วย ดูแล้วก็สวยงามไปอีกแบบ ที่เดี๋ยวเราจะพาไปแกะชมข้างในกันอีกที

Acer Nitro 7 Review NBS 27

สรุปแล้วสำหรับหน้าตาการออกแบบ Acer Nitro 7 และดีไซน์เครื่องโดยรวม เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีกว่า Acer Nitro 5 แม้จะมีรูปทรงที่ใกล้กันแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่า ทั้งมิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดทำให้พกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้เล็กมากจนเกินไปเหมือน Gaming Notebook บางรุ่นที่เน้นความบางเบา (จนบางครั้งก็บางเกิน ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดีนัก)

กับน้ำหนักตัวเครื่อง 2.5 กิโลกรัม (หนักกว่า Acer Nitro 5 ที่ 200 กรัม เข้าใจว่าวัสดุเป็นโลหะทั้งตัวไม่ใช่พลาสติก) รวมกับอแดปเตอร์แล้วก็ถือว่าพกพาไปไหนมาได้อยู่ที่ประมาณ 2.8 กิโลกรัม คาดว่าน่าจะถูกใจใครหลายๆ คน กับการมาของ Acer Nitro 7  รุ่นใหม่ปี 2019 ไม่มากก็น้อย

 

Keyboard / Touchpad

Acer Nitro 7 Review NBS 74

Acer Nitro 7 มีตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6”ขอบหน้าจอบางก็จริง แต่ก็ยังสามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ ที่มาพร้อมปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีแดง รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง รวมถึงปุ่ม NitroSense จะมีขอบเป็นสีแดงเด่นออกมา

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ Backlit สีแดง (ปรับแสงได้ 5 ระดับ) ที่ให้ความสว่างพอสมควรดูเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความนุ่มติดมือ รู้สึกได้เลยว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน

ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา มีขอบเป็นสีแดง ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด

Screen / Speaker

Acer Nitro 7 Review NBS 73

Acer Nitro 7 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แบบ Screen-to-Body เป็น 78% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.48 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง ซึ่งในรุ่นที่เรานำมาทดสอบนั้นจะเป็นรุ่นหน้าจอ Refresh Rate 60Hz แต่ในรุ่นรองท็อปและท็อปจะเป็น 144Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก ซึ่งดูรวมๆ แล้งทั้งสีสันและความคมชัดจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Nitro 7 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS เกรดดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

s3 8

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 96% และ Adobe RGB ที่ 72% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอ เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างกว่าหน้าจอ Gaming Notebook รุ่นอื่น ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว

สรุปสุดท้ายด้วยคะแนนรวมทั้งหมดโดยตัวเครื่อง Acer Nitro 7 ก็ได้คะแนนไป 4 คะแนน ซึ่งเมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว เทียบกับ Acer Nitro 5 รุ่นปี 2019 ให้ค่าขอบเขตสีที่ดีกว่า รวมไปถึงคะแนนรวมก็ดีกกว่าด้วย แต่ในส่วนของการใช้งานทั่วไปไม่มีผลแต่อย่างใด

ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer Nitro 7 นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Waves MaxxAudio ที่ผสานกับ Acer TrueHarmony เพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบส เสียงสนทนา และระดับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งและจากการใช้งานรู้สึกว่าดีกว่ารุ่นเก่าด้วย

Connector / Thin And Weight

Acer Nitro 7 Review NBS 101

Acer Nitro 7 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″  ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-C, 1 x USB 2.0 Type-A , HDMI, RJ45 (Killer E2500) และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน พูดตรงๆ ก็คือ เหมือนกันกับ Acer Nitro 5 เลยล่ะ ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่มีส่วนของช่อง SD(XC/HC) Card reader

ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac รูปแบบมาตราฐาน Gigabit Wi-Fi 5 ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครันและทางด้านการพกพา Acer Nitro 7  ทำได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ที่มีดีไซน์ขอบจอบาง ด้วยมิติตัวเครื่องกระชับเทียบเท่าหน้าจอ 14″ แบบก่อนๆ รวมถึงน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.5 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.8 กิโลกรัม นับได้ว่าพกพาสะดวกอยู่เวลาใช้งานนอกสถานที่

Inside / Upgrade

Acer Nitro 7 Review NBS 82

การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer Nitro 7 ปี 2019 นั้นสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จะมีน็อตแค่ตัวเดียวที่มีสติกเกอร์แปะอยู่ เราสามารถเจาะทะลุไปได้เลย จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง โดยเวลาทำห้ามใจร้อนเด็ดขาด ไม่งั้นเกลียวใต้ฝาอาจจะหักได้ แล้วค่อยๆ แงะฝาขึ้นมาอีกที งานประกอบการจัดวางตำแหน่งคล้ายกับรุ่นเดิมมีฮีท์ไปป์สองเส้นพาดผ่าน CPU และ GPU โดยมีพัดลมสองตัวติดกัน ช่องระบายความร้อนแถวยาวช่องเดียว

Acer Nitro 7 Review NBS 91

ซึ่งแรมกับฮาร์ดดิสก์จะแยกส่วนกันอย่างชัดเจน ที่เห็นได้ถึงแรมสามารถติดตั้งได้ 2 แถว โดยติดตั้ง 8GB มาแล้ว 1 แถว สามารถอัพเกรดเพิ่มได้อีกแถวทันที โดยรองรับสูงสุดที่ 32GB ส่วน SSD M.2 NVMe รองรับการติดตั้ง 2 สล็อตด้วยกัน พร้อมมีน็อตมาให้ด้วย ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นฮาร์ดดิสก์แบบ 2.5″ ที่ให้มาอยู่แล้วเป็นมาตรฐาน อย่างไรก็ตามการแกะฝาล่างนั้นไม่ทำให้หลุดประกันแต่บริษัทจะไม่รับผิดชอบหากแกะเองแล้วเกิดความเสียหาย สรุปแล้วถือได้ว่า Acer ทำการบ้านมาได้ดีกว่าเดิม การแกะตัวเครื่องเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายและก็สะดวกทีเดียว

Performance / Software

Acer Nitro 7 Review NBS 20

โดย Acer Nitro 7 รุ่นที่ได้รับมารีวิวมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-9750H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 8GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

c1 8   c2 8

ยกระดับประสิทธิภาพ จากการที่ Acer Nitro 7 มีการนำชิปประมวลผล หรือ CPU รุ่นล่าสุดจาก Intel Core i Gen 9 มาใส่ไว้ใน Gaming Notebook ตัวใหม่นี้ด้วย ทำให้การประมวลผลการทำงานหรือการเล่นเกมของ Gaming Notebook รุ่นใหม่นี้ ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยทำได้มาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 45% มีผลอย่างมากต่อการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลของ CPU หนักๆ เช่น การต่อต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์งาน 3D เป็นต้น

g1 9   g2 5

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti รุ่นใหม่มีแรมขนาด 6GB แบบ GDDR6 ที่ต้องบอกว่าทาง NVIDIA ตั้งใจเอามาแทนที่ของเดิมอย่าง GTX 1060 โดยมีความแรงมากกว่า แต่ร้อนน้อยกว่า เทียบรุ่นที่แรงกว่านี้ก็จะเป็น RTX 2060 แล้ว

cine 9

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าอย่าง Core i7-8750H ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงในระดับนึง เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับ GTX ที่เน้นการทำงานหรือเล่นเกมเป็นหลัก

ssd 8

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB แบบ M.2 NVMe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1624MB/s และเขียนที่ 816MB/s ส่วนตัวถ้าอัพเกรดเพิ่ม คงต้องเป็น SSD NVMe ที่เร็วระดับ 3xxx MB/s แล้วล่ะ

hdd 2

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 5400 ที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune Pro แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่เป็น 53.4 MB/s และสูงสุดที่ 252.5 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 215.4 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 3.3 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของฮาร์ดดิสก์จานหมุนทั่วไป จากการที่เป็น WD BLUE 5400RPM SATA3 (WD10SPZX) ที่มี Buffer ที่ 128MB

pc 9

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,806 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป

game nitro 7

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจประมาณนึง โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 30 – 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 166o Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 และ SSD NVMe 256GB ก็ถือว่าไม่คอขวด

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V / FarCry 5 / BF V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ สำคัญคือเกมอย่าง BF V จำเป็นต้องติดตั้งใน SSD ด้วย ไม่อย่างงั้นก็จะกระตุกได้ เพราะฮาร์ดดิสก์ปกติโหลดเกมโหลดฉากไม่ทัน

เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 40 – 60 – 90 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง รวมไปถึงอาจจะมีอาการโหลดฉากช้าบ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นพอได้อยู่

ni copy 1

Acer Nitro 7 มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ NitroSense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า CoolBoots เร่งรอบพัดลมให้สุดที่ 6000 รอบทั้ง 2 ตัว ที่ใช้ระบายความร้อน CPU/GPU เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงการปรับโหมดการใช้งาน เช่นประหยัดพลังงานใช้แบตเตอรี่ก็ต้องเป็น Power Saver และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน NitroSense เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว

acer 2

นอกจากนี้ทาง Acer Nitro 7 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย

Battery / Heat / Noise

batt2

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Acer Nitro 7 ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 3750mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 6 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานปกติกับการที่เป็น Gaming Notebook จอ 15.6″ รุ่นพี่ของ Acer Nitro 5

ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น Acer Nitro 7 เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ  38 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมดพัดลมระดับสูงสุดด้วยารปรับเป็น CoolBoots เพื่อให้พัดลมทำงาน 100%

temp2 2

ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ไม่เกิน 90 – 96 องศาเซลเซียส นับว่าไม่ได้ร้อนจนเกินไปนัก ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 75 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมากับขนาดตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดพกพาง่ายกว่าเดิม สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยโหมด CoolBoots นั่นเอง

Conclusion / Award

Acer Nitro 7 Review NBS 100

สมการรอคอยสำหรับการมาของ Gaming Notebook อย่าง Acer Nitro 7 กันไหม ด้วยการเปลี่ยนแปลงของดีไซน์ใหม่ ได้ขอบจอบางลงกว่ารุ่นก่อน หน้าจอเทพมากๆ sRGB ใกล้เคียง 100% จริงๆ มิติตัวเครื่องเล็กลงกว่ารุ่นก่อนๆ การประกอบก็แน่นอนไว้ใจได้ ถอดอัพเกรดก็ง่ายขึ้น เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ น่าจะถูกใจกันไม่น้อย (รองรับการใส่ SSD M.2 NVMe แบบ 2 สล็อต) อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วก็เป็นการต่อยอดจาก Acer Nitro 5 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบใหม่ทั้งหมดเสียทีเดียว แต่วัสดุพรีเมียมให้ความต่างแบบรู้สึกได้

ส่วนสเปกก็ได้รับการอัพเกรดให้เป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ตัวแรง สำหรับการ์ดจอก็เป็นตัวใหม่ GTX 1660 Ti โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 37,990 บาท จนไปถึง 39,990 บาท ได้ประกัน On-site Service 3 ปีในทุกรุ่น โดยมี SSD M.2 ความเร็วสูงมาให้อยู่แล้วเป็นมาตรฐาน ทำให้ไม่มีอาการค้าง ช้า หน่วงอยู่ดี ทั้งใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม อย่างที่เกิดขึ้นใน Acer Nitro 5 ที่มีแต่ฮาร์ดดิสก์ปกติเพียงอย่างเดียว

Acer Nitro 7 Review NBS 1

ผลทดสอบของหน้าจอก็จะเห็นว่ามีค่าขอบเขตสีที่ดีกว่า Acer Nitro 5 สำหรับคนที่เอาไปทำงานด้านสีที่จริงจังสบายใจได้ ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็ครบครันกว่าเดิมด้วย USB 3.1 Type-A จำนวน 2 ช่อง แต่ก็ยังมี USB 2.0 Type-A อีกช่องอยู่ไว้เชื่อมต่อเมาส์เป็นหลัก พร้อมกับ LAN เป็น Killer Ethernet E2500 ทำให้เมื่อต่อสาย RJ45 ก็จะช่วยการเล่นเกมที่ลื่นไหลได้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็นมาตรฐานที่ดีมีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เหนือชั้นกว่า Gaming Notebook ทั่วไปที่ไม่มีตรงนี้

สำหรับการระบายความร้อนก็นับว่าทำได้ดีตามาตรฐานอยู่ คือ ไม่ได้ร้อนเกินไปนัก จนกระทบการทำงานของเครื่อง เข้าใจว่าทาง Acer ออกแบบมาได้ดีขึ้น แต่ชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ก็แรงและร้อนขึ้นเช่นกัน ฉะนั้นถ้าดูจากผลทดสอบอุณหภูมิก็นับว่าทำได้ดีตามเกณฑ์แล้ว ส่วนการ์ดจอรุ่นที่ได้รับมาทดสอบก็เป็น GTX 1660 Ti ที่เป็นรุ่นใหม่ สมกับการ์ดจอ Gaming ที่ทาง NVIDIA วางไว้จริงๆ แทนที่ GTX 1060

Acer Nitro 7 Review NBS 97

เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ เน้นให้ประสิทธิภาพต่อราคาคุ้มค่าล่ะก็ Acer Nitro 7 น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว กับ 3 รุ่น 3 สเปกให้เลือก โดยรวมแล้วถือว่ามีความคุ้มค่าพอสมควร ด้วยไม้เด็ดก็คือ On-Site Service 3 ปี และส่งซ่อมศูนย์ด่วนแบบรับภายใน 3 ชั่วโมงจัดเต็มเหมือนเดิม เรียกได้ว่าครบครันเสร็จสรรพในเครื่องเดียวโคตรคุ้ม

อย่างไรก็ตามทุกอย่างเหมือนจะดูดีไปหมด แต่จากการทดสอบใช้งานจริงต้องบอกว่าใช้งานได้ประมาณ 6 ชั่วโมง เทียบแล้วน้อยกว่า Acer Nitro 5 ใช้งานได้นานกว่าที่ 7 ชั่วโมงเล็กน้อย ทั้งที่ใช้ปัจจัยในการทดสอบเหมือนกันหมด ไว้ยังไงมีโอกาสเราจะมาทดสอบอีกหลายรอบอีกที ไม่แน่ใจว่าอาจจะเป็นเพราะซอฟต์แวร์บางอย่างก็เป็นไปได้

ข้อดี

  • การออกแบบเล็กกระชับ น้ำหนักเบา งานประกอบแน่นหนา วัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
  • การแกะอัพเกรดทำได้ง่ายกว่าเดิม รองรับ SSD M.2 สองสล็อต
  • แรมขนาด 8GB 1 แถว DDR4 เพียงพอต่อการใช้งาน อัพได้สูงสุด 32 GB
  • สเปคคุ้มราคาได้ทั้ง Core i7-9750H + GeForce GTX 1660 Ti
  • มีโปรแกรม Nitrosense ปรับรอบพัดลมติดตั้งมาให้ในเครื่องเลย
  • หน้าจอ 15.6 นิ้ว IPS คุณภาพดีเยี่ยม Full HD ขอบหน้าจอบางเฉียบ
  • พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, HDMI
  • LAN รองรับ Killer Ethernet E2500 ช่วยลด Ping เวลาเล่นเกมออนไลน์
  • คีย์บอร์ดมีไฟ Backlit สีแดงตามสไตล์เกมมิ่ง
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 6 ชั่วโมง
  • ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 แท้
  • มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน

ข้อสังเกต

  • ไม่มี SD(XC/HC) Card reader มาให้ในตัว
  • หนักกว่า Acer Nitro 5 ที่ 200 กรัม

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Nitro 7 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer Nitro โน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Acer Nitro 7 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง แม้หน้าจอ 15.6″ ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แม้จะมีน้ำหนักที่ 2.5 กิโลกรัม แต่ก็รับได้อยู่ เพราะเข้าใจว่าวัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดเป็นโลหะอลูเมียมเกรดสูง สัมผัสดีเยี่ยม

JCVSeJpA

Best Value

Acer Nitro 7 มีตัวเลือกสเปกมากมายไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผล i7-9750H และการ์ดจอ GTX 1660Ti ราคาเริ่ม 37,990 บาท ทุกรุ่นได้ SSD มาเลย แถมบางรุ่นได้จอ 144Hz ด้วย เรียกได้ว่าสมการรอคอยการมาของ Gaming Notebook อีกหนึ่งรุ่นที่ทุกคนให้ความสนใจ จากสเปกที่ดี ราคาคุ้มค่า  ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 สเปกด้วยกัน กับช่วงราคา 37,990 – 39,990 บาท  เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ที่มีวัสดุพรีเมียมแบบนี้

tGhIF2rA

Best Performance

ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7 Gen 9 ตระกูล H ตัวล่าสุด และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 8GB แบบ DDR4 รวมไปถึง SSD M.2 ความเร็วสูง ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ฮาร์ดแวร์ต่างๆ เข้ากันเป็นอย่างดี ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ

award new performance

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมรุ่นใหม่ก็มา รุ่นเก่าสเปคเด็ดก็มี ถ้าใครอยากเปลี่ยนเครื่องอยู่นาทีนี้มีรุ่นน่าโดนให้เลือกเพียบ! จะปี 2024 นี้หรือปีไหนโน๊ตบุ๊คเล่นเกมก็ยังคงเป็นตัวเลือกขวัญใจใครหลายคนเพราะประสิทธิภาพดี ทรงพลังเหลือเฟือไม่ว่าจะงานเบาๆ ทำเอกสารไปจนตัดต่อคลิปและงาน 3D ก็ไหว เล่นเกมก็ได้สบายๆ ยิ่ง 2~3 ปีมานี้ พอเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น ซีพียูกับจีพียู็ยิ่งทรงพลังก็ทำให้เกมเมอร์และครีเอเตอร์ที่ไม่อยากเสียเวลาประกอบพีซีให้วุ่นวายเลือกตัดปัญหาทั้งหมดโดยซื้อโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสเปคแรงมาใช้แทน แถมได้เปรียบว่าพกพาสะดวกหยิบไปทำงานได้ กลับบ้านต่อหน้าจอแยกก็เล่นเกมชั้นนำได้ดีพอตัว นอกจากสเปคแล้ว ในปี 2024 ที่ปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น หลายแบรนด์ก็เสริม AI...

CONTENT

AMD Ryzen 8040 series ซีพียูรุ่นใหม่ เอาใจคอเกม เล่นเกมไหลลื่น พร้อมมี AI ในตัว AMD Ryzen 8040 series เป็นซีพียูโน๊ตบุ๊คในซีรีส์ล่าสุดของทาง AMD ออกแบบมาเพื่อการทำงาน สร้างงานครีเอทีฟ ไปจนถึงการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการเล่นเกม โดยจุดเด่นอยู่ที่การใช้พลังงานน้อย ความร้อนน้อย จึงเหมาะกับผู้ใช้โน๊ตบุ๊ค ที่ต้องการทั้งศักยภาพในการทำงาน...

Buyer's Guide

เครื่องเก่าไม่แรง เล่นเกมไม่ลื่นแล้วต้องไปงาน COMMART ซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค 2024 เครื่องใหม่แล้ว! วันที่ 7~10 มีนาคม พ.ศ. 2567 นี้ก็ถึงเวลาอีเว้นท์ใหญ่อย่าง COMMART COMTECH รวมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มาให้เลือกซื้อ รวมถึงเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค 2024 หลากหลายรุ่นซึ่งได้ซีพียูกับจีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งประสิทธิภาพดีขึ้นมาก นอกจากใช้ทำงานกราฟิคได้ดีแล้วยังเล่นเกมได้ดี เริ่มจาก NVIDIA GeForce RTX 4050...

PR-News

คนรักแมวห้ามพลาด COLORFIRE MEOW Gaming Laptops มาถึงแล้ว!! 27 กุมภาพันธ์ 2567 กรุงเทพฯ ประเทศไทย – บริษัท Colorful Technology จำกัด แบรนด์ชั้นนำในด้านส่วนประกอบพีซี แล็ปท็อปสำหรับเล่นเกม และผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงไฮไฟ ภูมิใจนำเสนอแล็ปท็อปเกมมิ่ง COLORFIRE MEOW R15 และ...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก