สำหรับ Gaming Notebook อย่าง Acer Nitro 7 และ Predator Helios 300 จัดได้ว่ามีความน่าสนใจมากๆ เพราะเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่มาพร้อมสเปกแรงและใหม่ล่าสุด ด้วยชิปประมวล Intel Core i Gen 9 อย่าง i7-9750H รวมไปถึงใช้การ์ดจอรุ่นใหม่ที่เป็น GTX 16 Series และ RTX 20 Series อย่าง GTX 1660Ti / RTX 2060 / RTX 2070 ในราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงจนเกินไป อีกทั้งยังได้ความพรีเมียมมากกว่า Gaming Notebook ที่เน้นคุ้มค่าเพียงอย่างเดียวอีกด้วย
มาในตอนนี้ Acer ได้พร้อมที่จะเปิดสเปกและราคาขายจริงของ Acer Nitro 7 และ Predator Helios 300 เริ่มต้นที่ 37,990 บาท จนไปถึง 66,990 บาท เรียกได้ว่า แรงและคุ้มค่าเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสเปกใหม่ ที่แทบทุกรุ่นมาพร้อมกับ SSD ความเร็วสูงและหน้าจอ IPS 144Hz !!! จัดเต็มกันไปเลยจริงๆ แน่นอนว่าทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน หรือส่งศูนย์เองก็ซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงด้วย
ราคาและสเปกของ Acer Nitro 7 (AN715-51)
Acer Nitro 7 (AN715-51) ที่มาพร้อมสเปก Core i7-9750H + GTX 1660Ti ดีไซน์ใหม่ขอบจอบางเฉียบ วัสดุเป็นอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ทั้งฝาหลัง ด้านนอก ด้านใน ใต้เครื่อง การออกแบบก็สวยล้ำกว่าเดิม มาพร้อมหน้าจอ 15.6″ Full HD IPS ใช้ชื่อว่า Acer Nitro 7 เน้นความพรีเมียม โดยรวมแล้วดูดีกว่า Acer Nitro 5 อย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งแบ่งสเปกหลักๆ ออกมาเป็นดังต่อไปนี้
- i7-9750H / RAM 8GB / SSD 256GB+HDD 1TB / GTX1660Ti / 15.6″ 60Hz / Win10 ราคา 37,990
- i7-9750H / RAM 8GB / SSD 256GB+HDD 1TB / GTX1660Ti / 15.6″ 144Hz / Win10 ราคา 39,990
- i7-9750H / RAM 8GB / SSD 512GB / GTX1660Ti / 15.6″ 144Hz / Win10 ราคา 39,990
เรื่องของการดีไซน์ออกแบบ หลักๆ ยังมีทรงคล้ายๆ กับ Acer Nitro 5 แต่มีการปรับให้ตัวเครื่องมีความเล็กกระชับลงอีก ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความบางเบากว่าเดิมแน่นอน ซึ่งจากการที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมทำให้ดูแข็งแรงทนทานและหรูหรากว่า Acer Nitro 5 อย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น อย่าง Acer Nitro 7 รุ่นใหม่ (AN715-51-70TG) หน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS ก็มีขนาดตัวเครื่องพอๆ กับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่เป็นขอบหนาๆ นั่นเอง โดยมีรุ่นหน้าจอ Refresh 60Hz และ 144Hz ให้เลือกกันอีกที
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนคู่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ (ตามที่ Acer เคลมไว้) พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย
ด้วยขอบหน้าจอที่บางเฉียบที่ 7.48 มิลลิเมตร พื้นที่แสดงผลเป็น 78% ส่งผลให้มิติโดยรวมตัวเครื่องทั้งหมดมีขนาดที่เล็กกระชับ ฝาหลังที่เป็นอะลูมิเนียมดูสวยงามดุดัน โดยมีความบางที่ 19.9 มิลลิเมตรเท่านั้น นับว่ามีความบางเบากว่ารุ่นก่อนมาก รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น กับน้ำหนักเบาเพียง 2.5 กิโลกรัม โดยติดตั้งลำโพง Waves MaxxAudio และ Killer Ethernet E2500 RJ-45 อีกเช่นกัน ให้ประสบการณ์การใช้งานเล่นเกมที่เยี่ยมของเกมเมอร์ทีเดียว
Acer Nitro 7 มีตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6”ขอบหน้าจอบางก็จริง แต่ก็ยังสามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ ที่มาพร้อมปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีแดง รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง รวมถึงปุ่ม NitroSense จะมีขอบเป็นสีแดงเด่นออกมา
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ Backlit สีแดง (ปรับแสงได้ 5 ระดับ) ที่ให้ความสว่างพอสมควรดูเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความนุ่มติดมือ รู้สึกได้เลยว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา มีขอบเป็นสีแดง ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
สรุปราคาและสเปกขายจริงของ Acer Nitro 7 (AN715-51) ถือได้ว่าเป็น Gaming Notebook ที่ตั้งใจทำตลาดในกลุ่มบนกว่า Acer Nitro 5 แต่ก็ยังเป็นรองในส่วนของ Predator Helios 300 อยู่ ราคาถือว่ามีความเหมาะที่ไม่เกิน 40,000 บาท แน่นอนว่าถ้าให้แนะนำที่ดูแล้วน่าซื้อที่สุดคงจะเป็น Acer Nitro 7 รุ่นที่มาพร้อมกับ SSD 512GB M.2 NVMe เพราะได้ความจุที่สูงความเร็วที่สูง ส่วนถ้าใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ เพิ่มเติม หรือจะใส่ SSD M.2 NVMe อีกตัวค่อยว่ากันก็ได้ (Acer Nitro 7 รองรับการใส่ SSD M.2 NVMe 2 ช่องพร้อมกัน) อีกทั้งได้หน้าจอ 144Hz ของต้องมีจริงๆ !!!
ราคาและสเปกของ Predator Helios 300 (PH315-52)
Predator Helios 300 (PH315-52) ปี 2019 นี้เป็นการต่อยอดมาจาก Gaming Notebook เน้นความพรีเมียมคุ้มค่ากว่ารุ่นก่อนๆ พร้อมแนวทางการออกแบบคล้ายรุ่นพี่อย่าง Acer Predator Helios 500 เสริมด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่อย่าง GeForce GTX 1660Ti / RTX 2060 ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพกับความสมจริงกว่าที่เคยมีมา เพราะสามารถ Overclock เพิ่มได้ ท็อปสุดเป็น GeForce RTX 2070
โดยทำงานประสานกับชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่แรงเข้ากันลงตัว ทำให้สิทธิภาพตัวเครื่องเทียบกับ Deskto PC สบายๆ มาพร้อมขนาดหน้าจอทั้ง 15.6″ และ 17.3″ ให้เลือกกัน ที่ 144Hz โดยเน้นความแรงประสิทธิภาพในการเล่นเกมเป็นหลัก แบบไม่เน้นความบางเบามากหนักตามสไตล์ของ Predator Helios Series สนนราคาราคาขายในไทยจริงๆ เริ่มต้นที่ 46,990 บาท
- i7-9750H / RAM 8GB / SSD 512GB / GTX1660Ti / 15.6″ 144Hz / Win10 ราคา 46,990
- i7-9750H / RAM 8GB x 2 / SSD 512GB / GTX1660Ti / 15.6″ 144Hz / Win10 ราคา 49,990
- i7-9750H / RAM 8GB x 2 / SSD 512GB / GTX1660Ti / 17.3″ 144Hz / Win10 ราคา 49,990
- i7-9750H / RAM 8GB / SSD 512GB / RTX2060 / 15.6″ 144Hz / Win10 ราคา 49,990
- i7-9750H / RAM 8GB x 2 / SSD 512GB / RTX2060 / 15.6″ 144Hz / Win10 ราคา 51,990
- i7-9750H / RAM 8GB x 2 / SSD 512GB x 2 / RTX2060 / 15.6″ 144Hz / Win10 ราคา 54,990
- i7-9750H / RAM 8GB x 2 / SSD 512GB / RTX 2070 / 17.3″ 144Hz / Win10 ราคา 66,990
Predator Helios 300 (PH315-52) ที่จำหน่ายประเทศไทยมาพร้อมกับหลากหลายสเปกและราคา โดยเริ่มต้นเป็นชิปประมวลผลเป็น Core i7-9750H การ์ดจอเริ่มต้นเป็น NVIDIA GeForce GTX 160Ti (6GB GDDR6)/ RTX 2060 (6GB GDDR6) จนไปถึง RTX 2070 (8GB GDDR6) พร้อม Ram 8 – 16GB DDR4 Bus 2666 (8GB x 2) ที่ฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ SSD m.2 แบบ NVMe ที่ความจุ 512GB – 1TB (512GB x 2) รวมถึงยังใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ได้อยู่ จัดว่าให้สเปกมาเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไปมากๆ แต่เหมาะสำหรับการเล่นเกมแบบสุดๆ
เป็น Gaming Notebook ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ที่ 15.6″ และ 17.3″ แต่กลับมีความเล็กลงจากมิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดจากการที่ขอบจอบาง ผนวกกับหน้าจอ IPS และอัตรารีเฟรชเรทที่สูงถึง 144Hz จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญในการมอบประสบการณ์ใหม่ๆในการเล่นเกมแบบเต็มประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้งานได้อย่างแน่นอน ในส่วนของดีไซน์ภายนอกก็ดูเรียบหรู วัสดุเป็นอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่องแซมด้วยสีฟ้า Predator ที่โดดเด่น เป็น DNA ของ Gaming Notebook จากทาง Acer Predator ปี 2019 นี้ก็ว่าได้
หน้าจอขนาด 15.6″ – 17.3″ แบบด้าน ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพ IPS ตอบสนองที่ 144Hz 3ms แถมตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.0 ชาแนล บนซอฟแวร์เสียง Waves Maxx Audio ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-C จำนวน 1 ช่อง, USB 3.1 Type-A จำนวน 3 ช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, ช่องเสียบหูฟังไมค์ขนาด 3.5 มิลลิเมตร พร้อมด้วยช่องสาย Lan RJ45 พร้อม E2500 Ethernet Controller
และการเชื่อมต่อ Wi-Fi แบบ Wireless-AC 1550 และ Killer Control Center 2.0 ของ Killer ที่ช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ให้มีเสถียรภาพและสมูทขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 เป็นมาตรฐาน แน่นอนว่า Acer Predator Helios 300 (2019) รุ่นที่ขายในไทยต้องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้พร้อมใช้งานทันที มีประกัน 3 ปี On-site Service หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมง ตามมาตรฐานของ Acer Predator ที่เป็น Gaming Notebook ระดับกลางค่อนสูง
สำหรับ Predator Helios 300 (PH315-52) รุ่นหน้าจอ 15.6″ ใช้พื้นฐานเดียวกันมาจาก Acer Predator Triton 700 และ Acer Predator Helios 500 โดยถือว่าเป็น Gaming Notebook มาตรฐานใหม่ที่มีความเบาบางกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ขอบจอบางที่ 7.9 มิลลิเมตร (17.3 จะเป็น 9 มิลลิเมตร) มีพื้นที่การแสดงผลที่ 79% ได้ความแรงไม่แพ้ Gaming Notebook เครื่องหนักๆ หนาๆ แบบแต่ก่อน โดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ที่พกพาได้สะดวก รักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ถือมือเดียวได้ หรือหยิบใส่กระเป๋าแบบสบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
โดย Predator Helios 300 (PH315-52) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ Gaming Notebook ที่แรง คุ้มค่า ฟีเจอร์เยอะ สามารถเร่งความเร็วได้ วัสดุพรีเมียม มีไฟ RGB คีย์บอร์ด ซึ่งราคาขายจริงพร้อมสเปกที่ออกมานั้น จัดได้ว่ามีตัวเลือกมากมาย เน้นใช้ชิป Core i7-9750H เพียงรุ่นเดียว แต่แยกการ์ดจอเป็น 3 รุ่น ตามความต้องการทั้ง GTX 1660Ti / RTX 2060 / RTX 2070 รวมไปถึงมีขนาดหน้าจอให้เลือก ซึ่งถ้าแนะนำให้งบไม่เกิน 50,000 บาท รุ่น 49,990 บาท หน้าจอ 15.6″ ที่ได้การ์ดจอ RTX 2060 น่าจะโดนใจที่สุด เพราะแรมและ SSD ราคาสามารถซื้อได้ภายหลัง
สรุปคือ เครื่องเดียวจบครบในตัวเดียว ทั้ง Acer Nitro 7 และ Predator Helios 300 ประสิทธิภาพแรงลื่น จอสวยเทพ 144Hz บางเบา ตัวเครื่องดีไซน์วัสดุพรีเมียม ทั้งทำงานและเล่นเกมตอบโจทย์ได้ลงตัว ถ้าให้ซื้อ Gaming Notebook อย่าง Predator Helios 300 (PH315-52) คือคำตอบที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง ได้ประสบการณ์ใช้งานระดับ Desktop ตัวเทพ ที่สามารถพกพาไปใช้งานที่ไหนก็ได้ ซึ่งก็ได้การ์ดจอที่สามารถ Overclock ได้มาแทน เทียบราคาต่อสเปกอาจจะดูสูงกว่าพวก Acer Nitro 5 หรือ Nitro 7 แต่ประสิทธิภาพ ฟีเจอร์ การออกแบบนั้น ได้ประสบการณ์ที่ดีแน่นอน
ปิดท้ายกันจริงๆ บอกเลยว่ารอชมรีวิวทั้ง Acer Nitro 7 และ Predator Helios 300 จากแอดมินโป้งอีกไม่นานเกินรอแน่นอน ตอนนี้เครื่องจริงๆ อยู่ในมือแล้ว กำลังทำการทดสอบอยู่ เรียกได้ว่าน่าตื่นเต้นจริงๆ เพราะมันเป็น Gaming Notebook งานดีที่ Acer ใส่ใจมากๆ เชื่อได้ว่าหลายคนต้องชื่นชอบและซื้อมันอย่างแน่นอน !!!