ในงาน Computex 2019 รอบนี้ ทีมงาน NotebookSPEC เราก็ได้รับเชิญจากทาง MSI ให้เข้ามาเยี่ยมชม และพรีวิวโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่กันถึงที่ MSI สำนักงานใหญ่ด้วยครับ โดยทั้งสองรุ่นที่ว่านั้นก็คือ MSI GT76 Titan และ MSI GE65 Raider สองรุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวกันไปหมาด ๆ เลยทีเดียว
สำนักงานใหญ่ของ MSI ก็ใหญ่สมชื่อทีเดียวครับ แต่ส่วนที่เราได้รับอนุญาตให้เข้าไปก็จะมีแค่ส่วนของสำนักงานเท่านั้น
เข้ามาก็จะเจอเจ้ามังกรแดงตั้งไว้ให้ถ่ายรูปกันตั้งแต่ด้านนอกเลย
ทีนี้มาเข้าสู่ช่วงของการพรีวิวโน๊ตบุ๊คทั้งสองรุ่นกันดีกว่าครับ
เริ่มต้นกันด้วย MSI GT76 Titan 9sG ที่เป็นรุ่นใหญ่สุดประจำรอบนี้กันเลย สำหรับสเปคคร่าว ๆ ก็จะประมาณนี้ครับ
- ชิปประมวลผลสูงสุดที่ Intel Core i9-9900K
- การ์ดจอสูงสุดที่ NVIDIA GeForce RTX 2080 แรมการ์ดจอ GDDR6 8 GB
- รองรับแรมได้ 4 ช่อง โดยในเครื่องที่โชว์จะใส่เอาไว้ที่ 64 GB
- หน้าจอขนาด 17.3″ มีให้เลือกทั้งรุ่นจอ FHD 144Hz IPS และ 4K 100% AdobeRGB IPS
- มาพร้อม Windows 10
- ระบบระบายความร้อนแบบใหม่ MSI Cooler Boost Titan ที่มีพัดลมถึง 4 ตัว และฮีตไปป์ 11 เส้น
- คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมระบบปรับไฟ RGB ได้รายปุ่ม และไฟ Mystic Light ที่ตัวเครื่อง
- ระบบเสียง Dynaaudio รองรับ Hi-Res
- Killer Wi-Fi 6
- ระบบแลน Killer DoubleShot Pro
- มีช่อง Thunderbolt 3
- มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่
- ซอฟต์แวร์ MSI App Player สำหรับการเล่นเกมมือถือบนเครื่องได้อย่างไหลลื่นมากขึ้น สูงสุดที่ 144Hz ตามจอ
เรียกว่าสเปคนี้จัดเต็มสุด ๆ เลยสำหรับ MSI GT76 Titan 9sG และจุดที่เป็นไฮไลท์ก็คือระบบระบายความร้อนครับ ซึ่งจะมีพูดถึงกันแบบเต็ม ๆ อีกทีนึงนะ
คีย์บอร์ดของ MSI GT76 Titan 9sG ก็ยังคงเป็นคีย์บอร์ดจาก SteelSeries ที่ให้สัมผัสในการใช้งานที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเล่นเกมอยู่เช่นเคย ไฟ RGB สามารถปรับแต่งสีแยกปุ่มได้อย่างอิสระ แถมรอบนี้ยังมีไฟที่ด้านข้างตัวเครื่อง เพื่อช่วยเสริมรูปลักษณ์การเป็นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งขึ้นไปอีก
ตรงแถบปุ่มเปิดเครื่องด้านบน จะมีปุ่มที่น่าสนใจอยู่ก็คือปุ่มทางซ้ายที่ใช้สำหรับเปิดโหมด Turbo ของฟังก์ชัน Cooler Boost ให้พัดลมทำงานด้วยรอบสูงขึ้น เพื่อการระบายความร้อนได้ดีที่สุด
ด้านข้างของ MSI GT76 Titan 9sG ก็จัดเต็มเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อมาก ๆ ฝั่งขวามีทั้ง HDMI, Mini DisplayPort, USB-C, USB 3.0 ส่วนช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำจะใช้เป็นช่อง microSD นะครับ และจากด้านข้างนี้ก็จะเห็นตำแหน่งของไฟ Mystic Light และช่องระบายอากาศขนาดใหญ่อีกด้วย
ส่วนอีกฝั่งก็จะมีทั้งพอร์ตสำหรับเสียบสายชาร์จ พอร์ตแลน พอร์ต USB-C พอร์ต USB 3.0 และก็ช่องเสียบแจ็คขนาด 3.5 มม. ของทั้งไมค์และหูฟังแบบแยกช่องกัน
MSI GT76 Titan 9sG จำเป็นต้องใช้การชาร์จไฟจากอะแดปเตอร์ 230W ถึง 2 ตัว โดยให้ต่ออะแดปเตอร์เข้ากับฮับตัวนี้ก่อน แล้วค่อยใช้สายจากฮับมาต่อกับตัวเครื่องอีกทีครับ
ส่วนด้านหลังของ MSI GT76 Titan 9sG ก็จะมีพื้นที่สำหรับระบายความร้อนทั้งแผงเลย พร้อมทั้งมีไฟ LED สีแดงกระพริบอยู่ตรงขอบด้วย
โลโก้ MSI ที่ฝาหลังอลูมิเนียมของ MSI GT76 Titan 9sG ก็จะเป็นโลโก้แบบลิมิเต็ดครับ ลักษณะจะเป็นเหมือนตราอลูมิเนียมที่ให้ความรู้สึกดูพรีเมียมกว่าปกติ
ด้านหน้าของ MSI GT76 Titan 9sG ก็จะมีเพียงไฟ LED สำหรับแสดงสถานะการทำงานของตัวเครื่อง การชาร์จแบต เป็นต้น
ทีนี้มาถึงอีกจุดที่เป็นไฮไลท์ของ MSI GT76 Titan 9sG ก็คือระบบระบายความร้อน เริ่มจากฝาใต้ตัวเครื่องที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดให้มีช่องตะแกรงมากขึ้น ช่วยให้สามารถดูดลมเย็นจากภายนอกเข้าไปได้มากกว่าเดิม ระบายความร้อนได้ดีขึ้น ตกแต่งด้วยลายเคฟลาร์ ซึ่งดีไซน์ฝาแบบนี้ ถือว่าเป็นดีไซน์ใหม่สำหรับโน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ของ MSI ประจำปีนี้ด้วยครับ
ส่วนด้านล่างถัดลงมาเล็กน้อยก็จะเป็นตำแหน่งของซับวูฟเฟอร์
MSI เองก็มีการนำเสนอระบบระบายความร้อนแบบใหม่อย่าง Cooler Boost Titan ที่นำมาใช้เป็นครั้งแรกใน MSI GT76 Titan ด้วย โดยเป็นการยกมาเฉพาะส่วนของฮีตซิงค์ของแต่ละจุด ฮีตไปป์ทองแดง 11 เส้น และพัดลมระบายอากาศที่มีมาถึง 4 ตัว ที่ใช้ระบายความร้อนจากทั้ง CPU และ GPU
ซึ่งทาง MSI ระบุว่าระบบระบายความร้อน Cooler Boost Titan นี้ จะมีการระบายลมที่ดีขึ้นกว่าระบบระบายความร้อนแบบอื่น ๆ ถึง 2.5 เท่า
นอกเหนือจากพัดลมและฮีตไปป์ที่เยอะกว่าปกติแล้ว ส่วนของทองแดงที่เป็นหน้าสัมผัสกับ CPU และ GPU ก็ได้รับการปรับปรุงด้วยเช่นกัน โดยจะเลือกใช้แผ่นทองแดงที่ผ่านกระบวนการขัดผิวแบบ CNC (ซ้าย) ที่ทำให้พื้นผิวเรียบกว่าแผ่นหน้าสัมผัสทองแดงทั่วไป (ขวา) ซึ่งถ้าดูจากในภาพอาจจะดูเหมือนมันสลับกัน แต่ถ้าลองใช้นิ้วลูบดูจริง ๆ ก็จะสัมผัสถึงความแตกต่างได้เลยว่าแผ่นซ้ายมันผิวเรียบกว่าจริง
ซึ่งการที่ผิวทองแดงเรียบเนียนกว่า ก็จะช่วยให้การถ่ายเทความร้อนจากตัวชิปมายังระบบระบายความร้อนเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนภาพนี้ก็จะเป็นอีกฝั่งของระบบระบายความร้อน Cooler Boost Titan ที่มีพัดลมตัวเล็กกว่าอีก 2 ตัว ใช้ส่งความร้อนออกทางตรงกลางด้านหลัง
ความหนาของตัวฮีตซิงค์ก็จัดว่าไม่เบาเลยทีเดียว ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการระบายความร้อนให้สามารถเป่าออกจากตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว
ซอฟต์แวร์ Dragon Center ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ มาพร้อมการปรับแต่งที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น อย่างในหน้าแรกก็จะเป็นการดูสถานะโดยรวมของตัวเครื่อง พร้อมทั้งบอกสเปคคร่าว ๆ ด้วย อย่างในเครื่องเดโมเครื่องนี้ก็เป็น Intel Core i9-9900K การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2080 และแรม 64 GB พื้นที่เก็บข้อมูลมีทั้ง SSD 512 GB และ HDD อีก 1 TB
ส่วนของเมนู System Tuner ก็จะใช้สำหรับปรับแต่งโปรไฟล์เครื่องให้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งสามารถสร้างโปรไฟล์ที่เหมาะสมได้เอง ส่วนรายละเอียดของการปรับแต่งก็จะเป็นพวกระดับประสิทธิภาพของเครื่อง ความเร็วรอบพัดลม ระบบเสียง และรูปแบบของสีสันหน้าจอ เป็นต้น
ในส่วนของความเร็วรอบพัดลม ก็สามารถเข้ามาตั้งค่าให้หมุนตามความร้อนของ CPU และ GPU ได้ด้วย เรียกได้ว่าทำออกมาได้ยืดหยุ่นพอตัวเลย
MSI GE65 Raider
ต่อมาก็เป็น MSI GE65 Raider กันบ้างครับ สเปคที่น่าสนใจก็ตามนี้เลย
- ชิปประมวลผลสูงสุด Intel Core i9 gen 9 (i9-9880H)
- การ์ดจอรองรับได้สูงสุด NVIDIA GeForce RTX 2070 8 GB GDDR6
- มีช่องใส่แรม 2 ช่อง รองรับได้สูงสุด 64 GB DDR4-2666
- หน้าจอ 15.6″ FHD IPS พร้อมรีเฟรชเรตสูงถึง 240 Hz
- มีทั้งช่อง 2.5″ และ NVMe M.2 PCIe Gen 3
- มาพร้อม Windows 10
- USB-C 3.2 Gen 2
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5
- ระบบเสียงจาก Dynaudio พร้อมซับวูฟเฟอร์
- คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมไฟ RGB แบบปรับแต่งแยกได้รายปุ่ม
- Killer Gigabit Ethernet และ Killer Wi-Fi 6
- มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่
- ซอฟต์แวร์ MSI App Player สำหรับการเล่นเกมมือถือบนเครื่องได้อย่างไหลลื่นมากขึ้น สูงสุดที่ 240Hz ตามจอ
ในแง่ของสเปคนั้น MSI GE65 Raider จะด้อยกว่า GT76 Titan อยู่พอสมควรครับ แต่มีจุดแข็งที่ไม่มีใครเหมือนก็คือหน้าจอที่มีรีเฟรชเรตสูงสุดถึง 240 Hz ในขณะที่ GT76 Titan จะมีตัวเลือกจอสูงสุดเพียง 144 Hz เท่านั้น
ส่วนรุ่นที่ทางเราได้พรีวิวจะเป็น MSI GE65 Raider 9SF ที่มาพร้อม Intel Core i7-9750H การ์ดจอ RTX 2070 และแรม 32 GB ครับ
น้ำหนักของ MSI GE65 Raider อยู่ที่ 2.27 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อดูจากสเปคแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าทำมาได้เบาเกินคาดมาก ๆ ประกอบกับการใช้หน้าจอที่ขอบบาง ทำให้ตัวเครื่องไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป สะดวกต่อการพกพามากยิ่งขึ้น พกไปเล่นเกมนอกสถานที่ได้สบาย
คีย์บอร์ดของ MSI GE65 Raider ก็ยังให้ความรู้สึกเดียวกับที่สัมผัสใน GT76 Titan เลยครับ ฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ก็เหมือนกันด้วย คือสามารถปรับสีสันแยกปุ่มได้ตามต้องการ
มุมขวาบนของคีย์บอร์ดก็จะมีปุ่มเปิด/ปิดระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 อยู่ตรงปุ่มซ้ายสุดด้วยเช่นกันครับ เมื่อกดแล้ว ระบบก็จะเร่งความเร็วรอบพัดลมระบายอากาศให้ทันที
พอร์ตเชื่อมต่อด้านข้างของ MSI GE65 Raider ก็จะให้มาค่อนข้างลงตัวกับการใช้งาน อย่างฝั่งขวาก็จะมีเพียงช่อง USB ช่องอ่าน SD card และช่องเสียบสายชาร์จด้วย แต่ที่น่าสนใจก็คือพอร์ต USB ทั้งสองช่องจะมีไฟสีแดงอยู่ภายในด้วย ซึ่งจุดประสงค์ก็คือช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้เมื่อต้องใช้ในยามกลางคืน หรือที่มีแสงน้อย ให้สามารถมองเห็นช่อง USB ได้ง่ายยิ่งขึ้น
อีกฝั่งไล่มาก็จะมีช่อง Kensington ช่องระบายความร้อน ถัดเข้ามาก็เป็นพอร์ตแลน, HDMI, DisplayPort, USB ที่มีไฟด้วยเช่นกัน รวมถึงยังมี USB-C 3.2 ช่องเสียบขนาด 3.5 มม.สำหรับแจ็คหูฟังและไมค์แยกกัน
ด้านหลังก็จะมีเพียงโลโก้ Raider เท่ๆ บ่งบอกถึงความเป็นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง
ด้านหน้ามีเพียงไฟบอกสถานะเครื่องเช่นกันครับ
พลิกมาดูด้านล่างก็จะพบว่าดีไซน์ฝาใต้เครื่องก็เป็นแบบเดียวกับใน MSI GT76 Titan เลย คือใช้ตะแกรงขนาดใหญ่เพื่อช่วยในการดูดลมเย็นเข้าไปในเครื่อง
ฝาหลังของ MSI GE65 Raider จะเป็นสีเทาของอลูมิเนียม พร้อมแถบเส้นเพื่อเพิ่มความเป็นเกมมิ่ง ส่วนโลโก้ MSI ก็จะเป็นตราปิดลงไปบนฝาหลัง ต่างจากใน GT76 Titan ที่จะดูพรีเมียมกว่าเล็กน้อย
ส่วนอะแดปเตอร์ของ MSI GE65 Raider ก็จะใช้เพียงแค่อันเดียวครับ แต่จะเป็นรุ่นที่จ่ายไฟได้ถึง 280W สมกับสเปคของตัวเครื่อง
MSI GE65 Raider ก็จะมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่ด้วยเช่นกัน
เมื่อวาง MSI GE65 Raider เทียบกับ MSI GT76 Titan ก็จะเห็นถึงความแตกต่างทั้งในด้านของรูปแบบการออกแบบที่ GT76 Titan จะดูเรียบหรูกว่า แต่ไปเน้นการเพิ่มไฟที่ใต้ตัวเครื่อง เสมือนรถแต่งในแนวสปอร์ต ส่วน GE65 Raider จะเน้นบ่งบอกความเป็นเกมมิ่งมากกว่าเล็กน้อยด้วยลายเส้น สีสันในจุดต่าง ๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับโน๊ตบุ๊คใหม่จาก MSI ทั้ง MSI GT76 Titan และ MSI GE65 Raider ที่อัดมาพร้อมกับสเปคระดับท็อป ระบบระบายความร้อนชั้นยอด และซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่ สำหรับใครที่สนใจก็เตรียมตัวเตรียมเงินในกระเป๋าไว้ให้ดีได้เลยครับ เพราะเท่าที่สอบถามกับทาง MSI มา ทั้งสองรุ่นนี้เข้าไทยค่อนข้างแน่นอน โดยจะเปิดให้พรีออเดอร์กันได้เร็ว ๆ นี้ ไม่เกินภายในเดือนสองเดือนแน่นอน ส่วนสเปคและราคา อดใจรอกันอีกนิดนึงครับ รับรองว่าน่าสนใจแน่นอน