ASUS VivoBook S14/S15 ปี 2019 เรียกได้ว่าโน๊ตบุ๊คกำลังจะเข้าสู่โมเดลที่เป็น Thin & Light อย่างแท้จริง ที่จะเน้นเรื่องของความบางเบาเป็นหลัก พร้อมปรับเปลี่ยนดูหรูหรายิ่งขึ้น โดยเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สายทำงาน สเปคคุ้มๆที่จะมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่และสีสันใหม่ นำมาเปิดตัวในงาน Computex 2019 เป็นครั้งแรก มีทั้งจอ 14 และ 15.6 นิ้ว ที่สำคัญยังมาพร้อมกับ ScreenPad และ NumberPad สุดล้ำ อย่างที่เคยมีมาแล้วใน ZenBook S รุ่นพี่ปีก่อน ซึ่งในบทความนี้แอดมินโป้งจะพาไปชมพรีวิว ASUS VivoBook S14/S15 กันก่อน ราคาเริ่มต้นคาดประมาณสองหมื่นบาทเท่านั้น
สเปกภายในของตัว ASUS VivoBook S14/S15 ที่ได้รับมารีวิวจะเป็นรุ่น Core i5 / Core i7 Gen 8 ตระกูล U โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 14นิ้ว / 15.6 นิ้ว ขอบหน้าจอบางพิเศษ NanoEdge ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce MX250 2GB GDDR5 รุ่นใหม่ที่ดีกว่า MX150 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ
ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB – 16GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน สำหรับหน่วยจำสำรองเป็น SSD M.2 ความจุ 128GB – 512GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi ac ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาตัวเครื่องบาง นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้
ASUS VivoBook S14/S15 ปี 2019 ด้วยสีสันรวมถึงการออกแบบทำมาได้สวยมาก ตัวเครื่องฝาหลังและตัวเครื่องด้านในจะเป็นอลูมิเนียมตามสีของตัวเครื่อง ซึ่งพิเศษตรงที่ ASUS VivoBook S15 จะได้ขอบหน้าจอด้านข้างสีที่โดดเด่นด้วย (แยกหน้าจอ 14 และ 15.6 ได้ชัดเจน) ประกอบกับชินส่วนใต้ตัวเครื่องเป็นวัสดุพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดูดีเกินราคา ซึ่งอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็คือ บานพับ ErgoLift Hinge พร้อมกับเวลากางหน้าจอ ตัวเครื่องจะยกสูงขึ้น
เพื่อให้เราสามารถวางข้อมือพิมพ์งานได้ถนัดรวมถึงช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนอีกด้วย พร้อมกางจอได้สูงสุดที่ 145 องศา จากการที่มีบานพับแบบพิเศษช่วยยกตัวเครื่องสูงขึ้จากพื้น โดยขอบตัวเครื่องด้านหลังจะมียางรองพร้อมทำหน้าที่เป็นฐานรองด้านหลัง ขอบจอตัวเครื่องก็บางมากๆ ดูแล้วลดขนาดตัวเครื่องลงไปได้เยอะเลยทีเดียว
ซึ่งการทำมุมองศาที่ว่านี้นั้นทาง ASUS ได้ทำการวิจัยออกมาเป็นอย่างดี ว่ามันจะช่วยให้เราใช้งานโน๊ตบุ๊คนั้นสามารถที่จะพิมพ์ได้อย่างสบาย แถมเวลาที่กางบานพับออกมานั้นมันจะทำให้ส่วนของฐานคีย์บอร์ดมีระยะห่างกับฐานตั้งมากกว่าโน้คบุ๊ตทั่วไปที่เป็นแนวระนาบปกติ ซึ่งทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นในส่วนของตัวเครื่องนั้นมีการดูดลมเย็นเข้าไปช่วย พร้อมกันนั้นยังให้เสียงที่ดีขึ้นด้วย เรียกได้ว่าเป็นการยกฟีเจอร์เทพๆ มาจาก ASUS ZenBook S ที่เป็นพี่ใหญ่มาก็ว่าได้
ตัวเครื่อง ASUS VivoBook S14/S15 ปี 2019 จะเป็นอลูมิเนียมเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนของสวนของฝาหน้าจอที่เป็นอลูมิเนียมอัลลอยที่ดูแข็งแรงและสวยงามพร้อมลายแบบปัดเสี้ยน แน่นอนว่ามโลโก้ ASUS แต่ถูกขยับไปทางขวา ส่วนตัวด้านในก็จะเป็นอลูมิเนียนเช่นกัน ทำให้ตัวเครื่องน้ำหนักที่เบา อีกทั้งส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางบนคีย์บอร์ดจะรู้สึกการสัมผัสที่ดูเหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป แถมเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างยากอีกด้วย
สำหรับช่องระบายความร้อนถูกซ่อนอยู่ใต้หน้าจอบริเวณบานพับ โดยเป็นการใช้งานพัดลมระบาย 1 ตัว ช่วยนำพาความร้อนชิปประมวลผลและการ์ดจอ ซึ่งการใช้งานโดยรวมถือว่าเอาอยู่ ที่มีช่องดูดลมเย็นด้านล่างตัวเครื่องทำหน้าที่ร่วมกันเป็นอย่างดี ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ทำให้ไม่รบกวนการทำงานของเราขณะใช้งานเลย
ASUS VivoBook S14/S15 ปี 2019 ติดตั้งคีย์บอร์ดเป็นปุ่มพลาสติกสีตามตัวเครื่อง มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดี การตอบสนองทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วกันและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด พร้อมติดตั้งชุดแป้น Numpad ตามปกติของโน๊ตบุ๊คจอ 15.6 นิ้ว ในของวัสดุส่วนนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก แถมมีไฟ Backlit สีขาว สามารถปรับได้ 3 ระดับ ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด ส่วนถ้าเป็นรุ่น 14 นิ้ว ก็จะมี NumberPad สุดล้ำที่เป็นแป้นตัวเลข เรียกใช้งานได้มาแทนที่นั่นเอง
ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการแตะไอคอนตรงมุมขวาบนของทัชแพดค้างไว้ 1 วินาที เส้นไฟสำหรับแบ่งพื้นที่ของแต่ละปุ่มก็จะปรากฏขึ้นมาให้ใช้งานเป็น Numpad ได้ทันที ซึ่งแม้ว่าจะมีปุ่มขึ้นมาแล้ว ผู้ใช้ก็ยังสามารถใช้ทัชแพดในการเลื่อนเคอร์เซอร์ได้อยู่ แต่หากมีการจิ้มลงบนพื้นที่ของแต่ละปุ่มเพื่อคลิกซ้าย ก็จะเปรียบเสมือนการกดปุ่มตัวเลขด้วย
ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชได้ลื่นไหลพอสมควร รวมไปถึงมี ASUS VivoBook S 14/S15 ที่ติดตั้ง ScreenPad ทดแทนทัชแพดแบบเดิมๆ อีกด้วย
ถือว่าเป็นสิ่งใหม่จริงๆ โดย ASUS VivoBook S14/S15 จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่า แต่มี ScreenPad ซึ่งทำหน้าที่เป็นจอทัชสกรีน พร้อมชิปประมวลผลแยกภายใน ช่วยนำเสนอรูปแบบใหม่ในการทำงานร่วมกับโน๊ตบุ๊ค มีฟังก์ชั่นการใช้งานอันชาญฉลาดที่ปรับการทำงานตัวเองให้เข้ากับการทำงานของผู้ใช้ ช่วยการทำงานสะดวกและรวดเร็วขึ้น ส่งผลให้เปลี่ยนประสบการณ์ใช้งานโน๊ตบุ๊คแบบเดิมๆ ไปตลอดกาล
ทั้งนี้ยังสามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ด้วยการลากนิ้วจากขอบ ScreenPad ด้านบนลงมา ได้แก่ โหมดเครื่องคิดเลข, Music Player, NumKey เปลี่ยนการทำงานของสกรีนแพดเป็นคีย์แพดตัวเลข, แถบเมนูลัด (Launcher)ให้ผู้ใช้สามารถเปิดและเปลี่ยนการใช้งานแอพพลิเคชั่นบนเดสก์ทอปได้ และใช้งานฟีเจอร์เด็ดอย่าง ASUS Sync (หรือจะปิดหน้าจอให้เป็นสีดำแบบไม่ขึ้นโลโก้อะไรเพื่อใช้งานทัชแพดปกติก็ทำได้)
การทำงานของ ASUS Sync เพื่อการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน สามารถแชร์หน้าจอโทรศัพท์ไปยังหน้าจอหลักและ ScreenPad ช่วยแจ้งเตือนเมื่อได้รับข้อความใหม่และรับสายเข้าหรือโทรออกได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งนี้ เมื่อ ScreenPad อยู่ในโหมด Screen Extender ตัว ScreenPad จะทำหน้าที่เป็นจอที่สองของหน้าจอหลัก ช่วยในการมัลติทาสกิงและสร้างสรรค์งานร่วมกับโปรแกรม Microsoft Word, Excel และ PowerPoint และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ อีกมากมายที่จะตามมาในอนาคต
ScreenPad ยังทำงานร่วมกับเว็บบราวเซอร์อย่าง Chrome ในการเล่นเพลงบน Youtube โดยทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมวีดีโอ ผู้ใช้สามารถเลือกเลื่อนเพลงได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้ว ทั้งนี้สกรีนแพดจะถูกอัพเดทให้อยู่ในเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอ ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นใหม่ๆได้จาก Windows Store ซึ่งได้เปิดกว้างให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอพพลิเคชั่นใหม่ได้อย่างอิสระ นับว่า ASUS ได้นำเสนอออกมาใช้งานได้จริง เพิ่มประสบการณ์ที่ดีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ASUS VivoBook S14/S15ในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Type-A จำนวนหนึ่งพอร์ต (น่าจะให้มาสักสอง) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 อีกสองพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีพอร์ท USB 3.1 Type C มาให้อีกหนึ่งพอร์ต ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ท HDMI มาให้ รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนช่องอ่าน micro-SD Card จะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่อง
เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง ASUS VivoBook S14 / S15 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล VivoBook S รุ่นเดิมได้เป็นอย่างดีมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน สมกับเป็น Ultrabook ราคาคุ้มค่าไม่แพงของทาง ASUS ที่ทุกคนต่างในการยอมรับ ที่ไว้ยังไงมีโอกาสแอดมินโป้งจะนำ ASUS VivoBook S14 / S15 รุ่นปี 2019 มารีวิวเต็มๆ อย่างแน่นอน