ต้องยอมรับนะว่า Gaming Notebook จากทาง MSI ได้รับการตอบรับดีที่มากๆ ตลอดที่ผ่านมาทาง MSI จริงจังเกมโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมส์มากยิ่งขึ้น โดยการแบ่งซีรีส์ออกอย่างชัดเจน ล่าสุดอย่าง MSI GF75 9SC / MSI GP75 9SE ที่เป็น Gaming Notebook ขอบจอบางมาพร้อมประสิทธิภาพสูง หน้าจอใหญา 17.3″ คุณภาพเยี่ยม ตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างราบรื่น รวดเร็ว ออกแบบโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ให้มีความสวย ทันสมัยให้ความแข็งแรง ทนทาน เพิ่มความโดดเด่น ใช้งานง่ายและสะดวก ดีไซน์ใหม่ สวยล้ำกว่าเดิม บทความนี้เลยจะมาสรุป 5 สิ่ง ที่ทำให้ MSI GF75 9SC / MSI GP75 9SE เป็น Gaming Notebook ที่น่าซื้อที่สุด หลายคนจะได้ตัดสินใจซื้อกันง่ายเข้าไปอีก
บทความรีวิว MSI GF75 9SC
บทความรีวิว MSI GP75 9SE
1. สเปกดีใหม่ล่าสุดทั้ง CPU / GPU
Gaming Notebook รุ่นใหม่ใช้สเปก Core i Gen 9 + GTX 16 Series อย่าง MSI GF75 Thin 9SC มีหน้าจอขนาด 17.3″ ดีไซน์ขอบบางพิเศษ ทำให้มิติตัวเครื่องเทียบกับรุ่นหน้าจอ 15.6″ เท่านั้น ใหม่ล่าสุดด้วยสเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ที่ความเร็ว 2.6 – 4.5 GHz และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) ประสิทธิภาพแรงก่วารุ่นก่อนๆ แน่นอน
โดยการ์ดจอ GTX 1650 กราฟิกการ์ดตัวใหม่ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม Turing ที่ออกมาสานต่อความสำเร็จของกราฟิกการ์ดรุ่นก่อนหน้ากับสถาปัตยกรรม Pascal ซึ่ง GTX 1650 นั้นจะมาแทนที่ GTX 10 Series เดิม ที่แม้ว่าจะไม่ได้มาพร้อมกับ Tensor cores หรือรองรับกับเทคโนโลยี ray-tracing โดยตรงแต่ก็มาพร้อมกับความแรงที่เพิ่มมากขึ้นจากก่อน โดยประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ GTX 1060 แต่ร้อนน้อยกว่า
หน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว แบบด้าน ความละเอียด Full HD พาเนล IPS แถมตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.0 ชาแนลบนซอฟแวร์เสียง Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type จำนวน 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C หนึ่งช่อง, HDMI, SD(XC/HC) card reader, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45 การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 และ Wireless มาตรฐาน 802.11 แบบ ac มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม ประกัน 2 ปี มี Windows 10 แท้ โดยสนนราคาอยู่ที่ 42,900 บาท
Gaming Notebook รุ่นใหม่ใช้สเปก Core i Gen 9 + GTX 16 Series อย่าง MSI GP75 Leopard 9SD ก็พร้อมขายเป็นรุ่นแรกๆ โดยเป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 17.3″ ดีไซน์ขอบบางพิเศษ ทำให้มิติตัวเครื่องเทียบกับรุ่นหน้าจอ 15.6″ เท่านั้น ใหม่ล่าสุดด้วยสเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H และการ์ดจอ GTX 1660Ti ก็จะเป็น MSI GP75 เรียกได้ว่าตอบสนองการเล่นเกมได้เต็มที่เต็มอารมณ์กว่าสเปกเดิมๆ ที่เป็น Core i Gen 8 และ GTX 10 Series แบบเดิมๆ แน่นอน
โดยการ์ดจอ GTX 1660 Ti กราฟิกการ์ดตัวใหม่ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม Turing ที่ออกมาสานต่อความสำเร็จของกราฟิกการ์ดรุ่นก่อนหน้ากับสถาปัตยกรรม Pascal ซึ่ง GTX 1660 Ti นั้นจะมาแทนที่ GTX 1060 ที่แม้ว่าจะไม่ได้มาพร้อมกับ Tensor cores หรือรองรับกับเทคโนโลยี ray-tracing โดยตรงแต่ก็มาพร้อมกับความแรงที่เพิ่มมากขึ้นจากก่อน โดยประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ GTX 1070 แต่ร้อนน้อยกว่า
หน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว แบบด้าน ความละเอียด Full HD พาเนล IPS 144Hz แถมตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.0 ชาแนลแบบ Giant Speaker บนซอฟแวร์เสียง Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type จำนวน 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C หนึ่งช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, SD(XC/HC) card reader, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45 พร้อม KILLER SHIELD ที่ช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ให้มีเสถียรภาพและสมูทขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2. ประสิทธิภาพสูง เล่นเกมลื่นไหล
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ ใน MSI GF75 9SC / MSI GP75 9SE โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 – 80 – 100+ FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX1660 Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว แม้จะไม่รองรับฟีเจอร์ DLSS / Ray Tracing อย่าง RTX Series ก็ให้ภาพสวยงามไม่แพ้กัน แถมไม่กินทรัพยากรเครื่องเพิ่มเติมด้วย
เกมออนไลน์กินสเปกน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล เทียบกับการ์ดจอ RTX 2060 ถือว่าไม่ต่างกันมากนัก
ส่วน MSI GP75 9SE จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1650 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ความจุ 512GB จัดว่าเล่นเกมได้ลื่นไหลมากๆ ดูได้จากกราฟนี้เลย
ซึ่งด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 144Hz ในรุ่น MSI GP75 9SE ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 144Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล อาจจะปรับกราฟิกต่ำลงมาเท่าที่เราพอใจ หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่ หรือถ้าอยากให้วิ่ง 120Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมากลางๆ ก็ได้
3. ดีไซน์การออกแบบ ดุดัน บางเบา
หน้าตาการออกแบบเอง MSI GF75 9SC / MSI GP75 9SE รุ่นใหม่ ต้องบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ในมิติตัวเครื่องที่เล็กลง ด้วยความโดดเด่นที่สวยดุดันตามสไตล์ของ Gaming Notebook ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน โดย MSI GF75 9SC รุ่นใหม่ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดงเช่นเดิม ส่วน MSI GP75 9SE จะเป็นลักษณะทูโทนคือ มีการใช้สีเงินเข้ามาด้วย ทำให้เครื่องดูแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน
แม้เป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 17.3 นิ้วบอดี้ 15.6 นิ้ว ซึ่งขอบจอบางมาก จนคิดว่าจอ 14 นิ้วด้วยซ้ำ ใช้งานเต็มตาสุดๆ แกนฝาพับแข็งแรงพัฒนาขึ้นกว่าเดิมจากรุ่นก่อน ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นไซต์มาตรฐานพร้อมมี Numpad มาให้ปกติ ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือขึ้น ซึ่ง MSI GP75 9SE จะเป็นคีย์บอร์ดของ SteeSeries และมีไฟ RGB Per-key ด้วย ส่วน MSI GF75 9SC จะได้ Ergonomics View Design ที่ช่วยยกตัวให้สูงขึ้นจากพื้น ส่งผลให้พัดลมสามารถดูดลมเย็นเข้าไปได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งการเอียงของตัวเครื่องเล็กน้อยนั้น ก็ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง
ในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบาและพกพาได้สะดวก โดยยังคงรักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลัง ด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจคอเกมอย่างสุดๆ วัสดุอลูมิเนียมขัดเงาบรัชเป็นล่นเส้นๆ แนวตั้งดูโดดเด่นแบบเรียบง่าย พร้อม ด้วยโลโก้มังกรแดง Dragon Army มินิมอลสุดๆ
4. รองรับการอัพเกรดที่ง่ายและดี
การอัพเกรดไปสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับการใช้งานโน๊ตบุ๊คสำหรับเล่นเกม ซึ่งแน่นอนว่าถ้า Gaming Notebook เครื่องไหน ไม่มี SSD มาให้ ยังไงซะ เกมเมอร์อย่างเราๆ ก็คงต้องไปซื้อมาใช้กันอยู่ดี โดยส่วนใหญ่ที่ซื้อกันคงหนีไม่พ้นตัว SSD m.2 ที่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่รองรับกัน แต่ว่าจะรองรับมาตราฐานไหนก็อีกเรื่องหนึ่งนะ เช่น เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่หลายรุ่นจะรองรับแค่ SSD m.2 รองรับ SSD m.2 PCIe NVMe เลยทีเดียว
โดย MSI GP75 9SE จะรองรับการใส่ถึง 2 ตัว เดิมๆ คือใส่มาแล้ว 1 สล็อต พร้อมกับมีช่องฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ให้อัพเกรดเพิ่มได้ด้วย ส่วน MSI GF75 9SC จะรองรับ SSD m.2 แค่ช่องเดียว ซึ่งใส่มาแล้ว แต่ก็มีช่องฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ให้อัพเกรดเพิ่มได้เช่นกัน ซึ่งการแกะฝาล่างก็ต้องระมัดระวังกันด้วย เพราะถ้าเสียหายขึ้นมาอาจจะมีผลต่อการรับประกันได้ในอนาคต
5. ระบบระบายความร้อน ดีเยี่ยมเอาอยู่
เมื่อเล่นเกมหนักๆ ไปเวลานานๆ หลายคนเจอปัญหาเครื่องร้อน เครื่องดับไปเอง ทั้งๆ ที่เล่นเกมอยู่ทำให้หงุดหงิดไม่น้อย บางทีก็แก้ปัญหาด้วย Cooling Pad บ้าง ซื้ออแดปเตอร์เป่าแยกบ้าง ทาซิลิโคนใหม่บ้าง แต่ด้วยวิธีการเหล่านี้เป็นวิธีการที่แก้จากปลายเหตุไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุเท่าไร ต้นเหตุจริงๆ ก็คือ ระบบระยายความร้อนของตัวเครื่องต่างหาก โดย MSI GF75 9SC / MSI GP75 9SE มาพร้อมกับระบบ Cooler Boost 3 / 5 ที่มีฮีทท์ไปป์ 4-7 เส้น พัดลมระบายความร้อน 2 ตัว บอกเลยว่าหมดห่วงเรื่องระบายความร้อน
ปิดท้ายด้วย MSI GF75 9SC / MSI GP75 9SE มีซอฟต์แวร์ประจำตัวเครื่องมาให้อย่าง Dragaon Center ที่เป็นของแบรนด์ MSI ซึ่งทางแบรนด์ออกแบบมาเพื่อให้ใชกับเกมเมอร์โดยเฉพาะ ที่มีทั้ง SCM ไว้สำหรับควบคุมการเชื่อมต่อต่างๆ , MSI True Color ควบคุมสีหน้าจอให้ตรงตามการใช้งาน, Nahimic 2 ไว้สำหรับควบคุมระบบเสียง, Xsplit สำหรับแคสเกมโดยเฉพาะ
Killer Network ตั้งค่าการใช้งานอินเตอร์เน็ต, System Monitor ตรวจเช็คความร้อน รอบพัดลม การใช้งานภาพรวมของเครื่อง, LED Wizard ปรับแต่งสีไฟบนตัวเครื่อง, System Tuner ปรับแต่ง จูนอัพตัวเครื่อง, Mobile Center เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นผ่านสมาร์ทโฟนและใช้ควบคุมได้ทันที ,Tool & Help สำรองข้อมูล คืนค่าข้อมูล และอ่านคู่มือ พร้อมลงทะเบียนผลิตภัณฑ์
เอาว่าใครกำลังมองหา Gaming Notebook หน้าจอ 17.3″ แบบขอบจอบางสเปกใหม่ล่าสุด เล่นเกมได้ลื่นไหลล่ะก็ MSI GF75 9SC / MSI GP75 9SE ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นเดียวกัน กับช่วงราคา 42,900 – 52,900 บาท ลองเลือกกันดูเลย