Acer Swift 5 SF515 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่เบาที่สุด เพียง 999 กรัม จากการที่ทาง Acer ได้พัฒนาในส่วนของโน๊ตบุ๊คที่เน้นการพกพามาโดยตลอด จาก Acer Swift 5 รุ่นก่อนหน้าจะเป็นหน้าจอ 14″ ที่เบาเพียง 970 กรัม จากการที่เมื่อหลายปีก่อน Acer ยังเป็นแบรนด์แรกๆ ที่นำเสนอโน๊ตบุ๊ครูปแบบใหม่อย่าง Ultrabook มาสู่ท้องตลาดอีกด้วย กับ Acer Aspire S3 จนมาถึงซีรีส์ของ Swift รุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 3, 5, 7 อีกด้วย
ในบทความนี้จะเป็นรีวิว Acer Swift 5 SF515 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดรุ่นหนึ่งในโลก โดยมีน้ำหนักแค่เพียง 999 กรัมเท่านั้น กับมาตรฐานหน้าจอขนาด 15.6″ ใช้พาเนลแบบ IPS เรียกได้ว่าเป็น Ultrabook รุ่นใหม่ที่น่าสนใจจริงๆ มาพร้อมชิปประมวลผล Intel สถาปัตยกรรม Whiskey Lake รุ่นใหม่ล่าสุด อีกทั้งยังมาพร้อมกับลำโพงที่มีเทคโนโลยี Dolby Audio แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง สนนราคาเริ่มต้นเพียง 30,990 บาทเท่านั้น
Unbox Preview
VDO Review
NBS x mininuiizz
แอดมินโป้ง NBS ร่วมรีวิว Acer Swift 5 / Acer Swift 3 กับน้องนุ้ย Youtuber สาวสวยสาย Beauty & Life Style ที่เป็นเจ้าของร้านกาแฟสุดเก๋แถวสัตหีบ – ระยองอย่าง MISAHOUSE ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำรีวิวด้วย รวมไปถึงติดตามช่องทางต่างๆ ของ mininuiizz ได้ตามนี้เลย
Specification
สเปกของ Acer Swift 5 SF515 ถูกแบ่งออกเป็น 2 รุ่นด้วยกัน กับราคา 30,990 บาท ที่เป็นรุ่นเริ่มต้น และ 40,990 บาท ที่เป็นรุ่นท็อป โดยรุ่นเริ่มต้นจะเป็น Intel Core i5-8265U ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด แรม 8GB การ์ดจอเป็นออนบอร์ด UHD 620 ตัวแรง พอเล่นเกมออนไลน์ 3 มิติได้ พร้อมฮาร์ดดสก์แบบ SSD ความจุ 256 GB หน้าจอ 14″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS และระบบสัมผัสทัชสกรีน ที่สำคัญได้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 พร้อมใช้งาน
อีกรุ่นที่ราคาสูงกว่าจะเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8565U เพิ่ม SSD เป็นความจุ 512GB พร้อมแรมขนาด 16GB เหลือเฟือในเรื่องความเร็วและความจุในการใช้งานทั่วไปมากๆ เรียกได้ว่าสเปกนั้นใช้งานทั่วไปได้อย่างลื่นไหลไร้สะดุดแน่นอน จากชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดตัวแรง ที่ตอบสนองในทุกๆ การใช้งานทั่วไป หรือใช้งานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอก็พอรองรับได้
สนนราคา 40,990 บาทสำหรับรุ่น Core i7 ที่เป็นตัวท็อปสุด ประกันจะเป็นแบบ 3 ปี (On-site ปีแรก) ซ่อมฟรีถึงบ้าน ซึ่งยังมีรุ่น Core i5 ในราคาที่ถูกลงเพียง 30,990 บาท ประกันจะเป็นแบบ 2 ปี โดยทั้ง 2 สเปกมีบริการซ่อมรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมงเหมือนกัน ชมหน้าสเปกเต็มๆ ของ Acer Swift 5 โดยแอดมินโป้งได้รับรีวิวมาเป็นตัวท็อป Core i7 นะครับ
- i5 / RAM 8GB / SSD 256GB / Windows 10 ราคา 30,990 บาท ประกัน 2 ปี
- i7 / RAM 16GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 40,990 บาท ประกัน 3 ปี (On-site ปีแรก)
Hardware / Design
Acer Swift 5 SF515 เป็นโน๊ตบุ๊คที่เบามากๆ โดยมีน้ำหนักแค่ 999 กรัมออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบโน๊ตบุ๊ครูปทรงกะทัดรัด พกพาง่าย ทำจากวัสดุที่แข็งแกร่งทนทาน เรียกได้ว่าถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่เบาที่สุดในตลาดประเทศไทย ส่วนความบางอาจจะไม่มาก โดยอยู่ที่ 15.9 มิลลิเมตร ขอบหน้าจอก็บางเฉียบเพียง 5.87 มิลลิเมตร ทำให้มิติตัวเครื่องโดยรวมเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คหนาจอ 14″ แบบรุ่นก่อนๆ ได้เลย แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานโน๊ตบุ๊คพกพาอยู่ดี
บ่งบอกถึงสไตล์ผู้ใช้งานด้วยตัวเครื่องAcer Swift 5 SF515 มีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กิโลกรัม แน่นอนว่าง่ายต่อการพกพา อีกทั้ง Acer Swift 5 ยังผลิตจากวัสดุอุปกรณ์ที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ตัวฐาน บริเวณที่วางมือ และฝาครอบทำจากอะลูมิเมียนผสมแม็กนีเซียมอัลลอยด์ให้น้ำหนักเบาเป็นพิเศษแต่ก็ยังแข็งแรงและทนทาน กับสีสัน Pure Silver และ Charcoal Blue (สีที่รีวิว)ให้เลือกซื้อ
ซึ่งนอกเหนือจากทำให้เรามั่นใจในการใช้งานที่ดูแล้วไม่แตกหักง่ายๆ ยังเสริมภาพลักษณ์ที่ดูสวยงาม หรูหรา ทั้งๆ ที่ราคาไม่แพงจนเกินไปด้วย ตามมาตรฐาน Acer ที่ปกติแล้วดีไซน์จะสวยงามแบบเรียบๆ พร้อมความทนทานที่ให้ได้มากกว่ากับตระกูล Ultrabook ระดับสูง ส่วนอแดปเตอร์แทบไม่ต้องพกติดไปด้วย เพราะใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานประมาณ 10 ชั่วโมง นับได้ว่าเป็นการเปลี่ยนความรู้สึกแบบแต่ก่อน ที่เราต้องคอยพกพาโน๊ตบุ๊คน้ำหนักกิโลกว่า หรือถ้ารวมอแดปเตอร์ด้วยก็อาจจะปาเข้าไปเป็น 2 กิโลกรัมได้เลย เพราะเบากว่าเดิมมากๆ ถือมือเดียวสบาย
ด้านล่างของตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่าย ด้านข้างทั้งสองด้านฝั่งผู้ใช้จะเป็นในส่วนของลำโพง ขึ้นไปที่เป็นตะแกงแถบยาวเป็นส่วนช่องดูดอากาศเย็นเข้าไปหมุนเวียนเพื่อทำความเย็นให้กับตัวเครื่องเพื่อระบายออกทางด้านหลังแทน เรียกได้ว่า Acer Swift 5 SF515 เครื่องนี้ได้รับการใส่ใจในการออกแบบเป็นดี สำหรับตัวเครื่องฮาร์ดแวร์และดีไซน์นั้นมีความน่าประทับใจในทุกมิติจริงๆ เพราะดูแล้ว Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับ Ultrabook รุ่นล่าสุด ที่ราคาไม่แพงแต่ภาพลักษณ์โดยรวมนั้นทำได้เป็นอย่างดี
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ด Acer Swift 5 SF515 ที่ติดตั้งมาให้เป็นแบบ Chiclet Keyboard ซึ่งมาพร้อมไฟ Backlit สีขาวให้ความรู้สึกหรูหรา พร้อมสกรีนตัวอักษรเป็นสีทองเข้ากับตัวเครื่องเป็นอย่างดี ซึ่งระยะเว้นระหว่างปุ่มพิมพ์ทำออกมาได้พอดีไม่ชิดกันมากเกินไปและระยะยุบตัวของปุ่มพิมพ์นั้นค่อนข้างดี ผิวสัมผัสของปุ่มแต่ละปุ่มนั้นให้ความรู้สึกที่ติดนิ้ว
ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งแม้ว่าเราจะไปเผลอกดระหว่างการใช้งานก็ไม่ได้ทำให้เครื่องปิดแต่อย่างใด (ต้องกดค้างซัก 3 วินาทีถึงจะมีเมนูของ Acer ขึ้นมา) แน่นอนว่ายังมี Finger Print ติดตั้งมาให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello ให้พร้อมเข้าใช้งาน
ทัชแพดถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่กำลังดีอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทำให้เวลาพิมพ์งานมือจะไม่เผลอไปสัมผัสกับทัชแพด โดยจะซ่อนปุ่มคลิกซ้ายและคลิกขวาเอาไว้ทำให้ดูเรียบง่ายหรูหรา จากการทดสอบแล้วทัดแพชนี้รองรับ Gesture Control ได้ดีและมีการตอบสนองที่รวดเร็วซึ่งเป็นข้อดีของการใช้งานนอกสถานที่ที่ส่วนใหญ่ต้องใช้ทัชแพดมากกว่าการใช้เม้าส์อยู่แล้ว
Screen / Speaker
Acer Swift 5 SF515 ได้หน้าจอเป็นแบบกระจก รองรับการทัชสกรีนด้วยนิ้วมือปกติ 10 จุด ขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่เหมาะกับการทำงานหรือความบันเทิงแบบสุดๆ ด้วยสีสันที่สมจริงเรียบเนียมและมุมมองที่กว่า 178 องศา อีกทั้งยังมี Acer Color Intelligence เทคโนโลยีนี้จะปรับแกมม่าและความอิ่มตัวสีแบบเรียลไทม์ ช่วยปรับสี ความสว่าง และความอิ่มตัวสี โดยไม่มีภาพขาดและความอิ่มตัวของสีเกิน
เรื่องการรองรับการทัชสกรีนช่วยในการเรื่องการนำเสนอได้อย่างลงตัว ไม่ต้องละมือไปจับทัชแพดไปมา อีกทั้งดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การรับชมอย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนข้อเกตมีเล็กน้อย ตรงที่เป็นจอกระจกซึ่งอาจจะสะท้อนกับแสงบ้าง ต้องเลือกมุมใช้งานดีๆ
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Swift 5 SF515 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 92% และ AdobeRGB ที่ 71% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของขอบเขตสีสันอยู่ในระดับเกณฑ์ที่ดีมากเมื่อเทียบกับค่าตัวเครื่อง ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 270 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลักได้สบายๆ
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องขวาแถวกลางหน้าจอมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านช่องมุมล่างซ้ายที่ลดลงไปที่ระดับ 11% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี ดีกว่ามาตราฐานทั่วไป เหมาะสำหรับคนเอามาดูหนังฟังเพลง เล่นเกม หรือตกตแ่งภาพ ตัดต่อวีดีโอ
ในส่วนของลำโพงที่ติดตั้งมาเป็นแบบสเตอริโอ มาพร้อมระบบเสียง Dolby Audio และ Acer TrueHarmony โดยเป็นลำโพงขนาดเล็กอยู่ทางด้านล่างฝั่งผู้ใช้มุมซ้ายและขวาของตัวเครื่องอัดลงพื้นให้สะท้อนขึ้น จากการทดสอบลำโพงพบว่าเสียงที่ออกมาค่อนข้างดีน่าประทับใจ แยกรายละเอียดได้ในระดับหนึ่ง ถือได้ว่ามีเสียงที่ดังชัดเจน โดยเน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเสียงที่ค่อนข้างดังกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอีกด้วย
Connector / Thin And Weight
Acer Swift 5 SF515 ที่ทั้งบางและเบามากๆ สาวๆ สามารถถือมือเดียวได้สบายๆ เรียกได้ว่าต้องตื่นเต้นในการจับถือครั้งแรกอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ตการเชื่อมต่อครบครับระดับนึง แต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 (2 ช่อง) และ HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน ที่สำคัญยังให้พอร์ตที่ทันสมัยอย่าง USB 3.1 Type-C อีกด้วย โดยรวมแล้วต้องบอกว่าพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไปทีเดียว สำหรับโน๊ตบุ๊คที่เน้นการใช้งานนอกสถานที่
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกระทัดรัดมากๆ ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 999 กรัมเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่านอกจากตัวเครื่องที่บางเบาแล้ว ในส่วนของอแดปเตอร์เองก็มีขนาดที่เล็กและเบามากๆ เทียบได้ก็พอๆ กับอแดปเตอร์ของสมาร์ทโฟนเท่านั้นเองเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ไซส์เล็กเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไม่ถึง 1.2 กิโลกรัม แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ พกพาไปร้านกาแฟ มหาวิทยาลับ ออฟฟิศต่างๆ สบายๆ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คที่บางเบาที่สุด
Performance / Software
Acer Swift 5 SF515 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8565U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.6 GHz ที่ต้องบอกว่าแรงมากๆ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ
เทียบกับรุ่นก่อนเรียกได้ว่าแรงขึ้นพอตัวเพราะ Core เยอะขึ้น แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้กพวก Core i5 ตัวซีรีย์ H ไม่ได้ตรงๆ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 และ SSD ความจุ 512GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้ รองรับการสำรองไฟล์ต่างๆ ได้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 620 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD แบบ M.2 NVMe ที่ความจุ 512GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ กับความเร็วระดับ Read: 1615 MB/s – Write: 874 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,837 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ ที่แม้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คการ์ดจอแยกแต่อย่างใด แต่ก็ให้ผลคะแนนโดยรวมที่น่าประทับใจ ยืนยันว่าใช้งานทั่วไปลื่นไหล และพอที่จะใช้งานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอก็พอได้บ้าง
นอกจากนี้ทาง Acer เองเองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาพร้อมใช้งานทันที) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Acer Swift 5 SF515 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ความจุ 4200mAh โดยสามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ 10 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร ส่วนช่องระบายความร้อนของ Acer Swift 5 SF515 จะอยู่ด้านบนของฐานเครื่องบริเวณขาพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย
อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 97 องศาเซลเซียส นับว่าระบบระบายความร้อนของ Acer Swift 5 SF515 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดี แม้ชิปประมวลผลจะดูว่าร้อน แต่ก็สามารถจัดการระบบระบายความร้อนออกมาอย่างน่าประทับใจไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการใช้งาน ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก Acer ที่ดี แต่ก็มีข้องสังเกตว่าความเร็วการทำงานจะลดลงเกือบครึ่งเหมือนความร้อนไปแตะในระดับที่สูงจนเกินไป ยังไงตรงนี้ก็เป็นเรื่องของระบบการประหยัดพลังงานของชิปประมวลผลด้วย
Conclusion / Award
สรุปรีวิว Acer Swift 5 SF515 สำหรับราคาเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ถือว่าไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ความเบา งานประกอบ วัสดุ สเปก และฟีเจอร์อื่นๆ สนนราคาเริ่มต้นที่ 30,990 บาท และ 40,990 บาท ที่จะว่ากันตามจริง ซื้อเพียงรุ่นเริ่มต้นก็เหลือๆ ในการใช้งานทั่วไปแล้วล่ะ อย่างเล่นเน็ต ดูหนังฟังเพลง ทำงานเอกสาร โดยเมื่อเทียบกับหลายๆ แบรนด์โน๊ตบุ๊คในรุ่นที่ใกล้เคียงกันนับว่าคุ้มค่ามากๆ
จะเห็นว่า Acer Swift 5 SF515 ได้อะไรที่เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นด้วยกัน ทั้งความเบาอย่างที่สุด ราคาที่คุ้มค่า และประกันที่ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน สูงสุดถึง 3 ปีด้วยกันในรุ่นท็อป ส่วนรุ่นเริ่มต้นจะเป็นแบบ 2 ปี On-site Service ทำให้กรณีที่เครื่องมีปัญหา แค่โทรไปก็จะมีเจ้าหน้าที่ Acer มาจัดการให้ถึงหน้าบ้านทีเดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปเคลมแบบเดิมๆ อีกต่อไป
ที่สำคัญ Acer Swift 5 SF515 ได้นำเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อมรองรับ MU-MIMO มาติดตั้ง ส่งผลให้เรานั้นจะได้สัมผัสกับความสามารถของระบบไร้สายในระดับที่แรงอย่างจริงจัง ที่มาพร้อมความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 866 Mbps เลยทีเดียว พูดๆ ง่ายคือแรงกว่าเดิมถึง 2 เท่า ซึ่งช่วยให้เราได้สัมผัสการใช้งาน Wi-Fi ดีกว่าที่เคย และไม่พลาดทุกการเชื่อมต่ออย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นอินเตอร์เน็ต การเล่นเกม การสตรีมข้อมูล รวมถึงการดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ
Acer Swift 5 SF515 มีระบบปฏิบัติการ Windwos 10 ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานทันที สนนราคาต่อสเปกต่อสิ่งที่ได้ทั้งหมดแล้วก็ถือว่าราคาไม่แพงเลย เหมาะสำหรับคนทำงานพนักงานออฟฟิศหรือนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คบางเบาที่สุด ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ แต่ประสิทธิภาพก็คงจะสู้โน๊ตบุ๊คที่เน้นความคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพอย่าง Acer Nitro 5 ไม่ได้ในราคาที่ใกล้เคียงกัน
ปิดท้ายว่าแล้วจะซื้อ Acer Swift 5 SF515 รุ่นไหนดีล่ะ ราคาห่างกันที่ 10,000 บาท ส่วนอื่นๆ ที่แตกต่างกันก็คือ ชิปประมวลผล Core i5 / Core i7 และ RAM 8GB / 16GB รวมถึง SSD ความจุ 256GB / 512GB สุดท้ายกับประกันที่ 2 ปี / 3 ปี ก็บอกได้เลยว่า งบถึงตัวไหนซื้อตัวนั้น เพราะจริงๆ แล้วรุ่น Core i5 ก็ถือว่าให้ความคุ้มค่าที่ดีพอตัวแล้ว ใช้งานได้ลื่นไหลแน่นอน แต่ถ้าเพิ่มอีก 10,000 บาท ได้เป็นรุ่น Core i7 ก็ถือว่าเป็นการซื้อความแรงความจุและประกัน ที่มีความคุ้มค่าไม่แพ้กันเช่นกัน
จุดเด่น
- เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่เบาที่สุดในตลาด ขอบจอบาง ตัวเครื่องเทียบเท่ารุ่น 14″
- มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Swift 5 มีความหรูหราสมราคา
- วัสดุทำจากอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- น้ำหนักเบา 999 กรัม พกพาสะดวกเหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- สเปกโดยรวมให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหลรวดเร็ว
- ฮาร์ดดิสก์ SSD M.2 NVMe มีความรวดเร็วในการใช้งานมาก
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS สีสันสวยงามเนียนตา พร้อมทัชสกรีน
- ติดตั้ง Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อมรองรับ MIMO
- ติดตั้ง USB 3.1 Type-C กับพอร์ตมาตรฐานใหม่
- มีสแกนลายนิ้วมือ Finger Print ใช้งานร่วมกับ Windows Hello
- มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 ติดตั้งมาให้ทันที
- แบตเตอรี่อยู่ได้นานสามารถใช้งานติดต่อกันได้สูงสุด 10 ชั่วโมง
- ประกัน 2 – 3 ปี (On-site ปีแรก) ส่งศูนย์ซ่อมไวใน 3 ชั่วโมง
ข้อสังเกต
- อัพเกรดอุปกรณ์ได้เพียง SSD เพราะแรมฝั่งบอร์ดมาแล้ว
- น่าจะมีอแดปเตอร์แปลงเป็นพอร์ตอื่นๆ มาให้ด้วย
Award
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Acer Swift 5 SF515 ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบมที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง Acer ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
Best Value
ถึงแม้ Acer Swift 5 SF515 จะไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่มีสเปคที่ดีที่สุด แต่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานราคาสามหมื่นบาท ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 30,990 บาท ที่มาพร้อมสเปคอย่าง Core i5 – Core i7 Gen 8 รวมถึงมีแรม 8GB – 16GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความจุ 256GB แถมมีสแกนลายนิ้วมือ พร้อมดีไซน์แบบฉบับโน๊ตบุ๊คบางเบา เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นพกพาแบบสุดๆ เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ที่สำคัญประกันยังมีระยะถึง 2 – 3 ปี แบบ On-stie Service เราจึงมอบรางวัล Best Value ไปให้เลยอย่างไม่ต้องสงสัย
Best Mobility
สำหรับ cer Swift 5 SF515 ที่มีความบางเพียง 15.9 มิลลิเมตร และมีความหนักเพียง 999 กรัม นั้น จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีน้ำหนักเบามากๆ แน่นอนว่าจะไม่เป็นภาระในการนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ และความบางของตัวเครื่องก็ยังมีความบางเฉียบ เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คในกลุ่มขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกันในหลายๆ ตัว และสำหรับระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่ก็ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจที่สูงสุด 10 ชั่วโมง จึงได้รางวัลไปอย่างสมบูรณ์แบบ
Unbox Preview
VDO Review
NBS x mininuiizz
แอดมินโป้ง NBS ร่วมรีวิว Acer Swift 5 / Acer Swift 3 กับน้องนุ้ย Youtuber สาวสวยสาย Beauty & Life Style ที่เป็นเจ้าของร้านกาแฟสุดเก๋แถวสัตหีบ – ระยองอย่าง MISAHOUSE ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำรีวิวด้วย รวมไปถึงติดตามช่องทางต่างๆ ของ mininuiizz ได้ตามนี้เลย
Specification
สเปกของ Acer Swift 5 SF515 ถูกแบ่งออกเป็น 2 รุ่นด้วยกัน กับราคา 30,990 บาท ที่เป็นรุ่นเริ่มต้น และ 40,990 บาท ที่เป็นรุ่นท็อป โดยรุ่นเริ่มต้นจะเป็น Intel Core i5-8265U ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด แรม 8GB การ์ดจอเป็นออนบอร์ด UHD 620 ตัวแรง พอเล่นเกมออนไลน์ 3 มิติได้ พร้อมฮาร์ดดสก์แบบ SSD ความจุ 256 GB หน้าจอ 14″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS และระบบสัมผัสทัชสกรีน ที่สำคัญได้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 พร้อมใช้งาน
อีกรุ่นที่ราคาสูงกว่าจะเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8565U เพิ่ม SSD เป็นความจุ 512GB พร้อมแรมขนาด 16GB เหลือเฟือในเรื่องความเร็วและความจุในการใช้งานทั่วไปมากๆ เรียกได้ว่าสเปกนั้นใช้งานทั่วไปได้อย่างลื่นไหลไร้สะดุดแน่นอน จากชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดตัวแรง ที่ตอบสนองในทุกๆ การใช้งานทั่วไป หรือใช้งานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอก็พอรองรับได้
สนนราคา 40,990 บาทสำหรับรุ่น Core i7 ที่เป็นตัวท็อปสุด ประกันจะเป็นแบบ 3 ปี (On-site ปีแรก) ซ่อมฟรีถึงบ้าน ซึ่งยังมีรุ่น Core i5 ในราคาที่ถูกลงเพียง 30,990 บาท ประกันจะเป็นแบบ 2 ปี โดยทั้ง 2 สเปกมีบริการซ่อมรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมงเหมือนกัน ชมหน้าสเปกเต็มๆ ของ Acer Swift 5 โดยแอดมินโป้งได้รับรีวิวมาเป็นตัวท็อป Core i7 นะครับ
- i5 / RAM 8GB / SSD 256GB / Windows 10 ราคา 30,990 บาท ประกัน 2 ปี
- i7 / RAM 16GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 40,990 บาท ประกัน 3 ปี (On-site ปีแรก)
Hardware / Design
Acer Swift 5 SF515 เป็นโน๊ตบุ๊คที่เบามากๆ โดยมีน้ำหนักแค่ 999 กรัมออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบโน๊ตบุ๊ครูปทรงกะทัดรัด พกพาง่าย ทำจากวัสดุที่แข็งแกร่งทนทาน เรียกได้ว่าถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่เบาที่สุดในตลาดประเทศไทย ส่วนความบางอาจจะไม่มาก โดยอยู่ที่ 15.9 มิลลิเมตร ขอบหน้าจอก็บางเฉียบเพียง 5.87 มิลลิเมตร ทำให้มิติตัวเครื่องโดยรวมเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คหนาจอ 14″ แบบรุ่นก่อนๆ ได้เลย แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานโน๊ตบุ๊คพกพาอยู่ดี
บ่งบอกถึงสไตล์ผู้ใช้งานด้วยตัวเครื่องAcer Swift 5 SF515 มีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กิโลกรัม แน่นอนว่าง่ายต่อการพกพา อีกทั้ง Acer Swift 5 ยังผลิตจากวัสดุอุปกรณ์ที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ตัวฐาน บริเวณที่วางมือ และฝาครอบทำจากอะลูมิเมียนผสมแม็กนีเซียมอัลลอยด์ให้น้ำหนักเบาเป็นพิเศษแต่ก็ยังแข็งแรงและทนทาน กับสีสัน Pure Silver และ Charcoal Blue (สีที่รีวิว)ให้เลือกซื้อ
ซึ่งนอกเหนือจากทำให้เรามั่นใจในการใช้งานที่ดูแล้วไม่แตกหักง่ายๆ ยังเสริมภาพลักษณ์ที่ดูสวยงาม หรูหรา ทั้งๆ ที่ราคาไม่แพงจนเกินไปด้วย ตามมาตรฐาน Acer ที่ปกติแล้วดีไซน์จะสวยงามแบบเรียบๆ พร้อมความทนทานที่ให้ได้มากกว่ากับตระกูล Ultrabook ระดับสูง ส่วนอแดปเตอร์แทบไม่ต้องพกติดไปด้วย เพราะใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานประมาณ 10 ชั่วโมง นับได้ว่าเป็นการเปลี่ยนความรู้สึกแบบแต่ก่อน ที่เราต้องคอยพกพาโน๊ตบุ๊คน้ำหนักกิโลกว่า หรือถ้ารวมอแดปเตอร์ด้วยก็อาจจะปาเข้าไปเป็น 2 กิโลกรัมได้เลย เพราะเบากว่าเดิมมากๆ ถือมือเดียวสบาย
ด้านล่างของตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่าย ด้านข้างทั้งสองด้านฝั่งผู้ใช้จะเป็นในส่วนของลำโพง ขึ้นไปที่เป็นตะแกงแถบยาวเป็นส่วนช่องดูดอากาศเย็นเข้าไปหมุนเวียนเพื่อทำความเย็นให้กับตัวเครื่องเพื่อระบายออกทางด้านหลังแทน เรียกได้ว่า Acer Swift 5 SF515 เครื่องนี้ได้รับการใส่ใจในการออกแบบเป็นดี สำหรับตัวเครื่องฮาร์ดแวร์และดีไซน์นั้นมีความน่าประทับใจในทุกมิติจริงๆ เพราะดูแล้ว Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับ Ultrabook รุ่นล่าสุด ที่ราคาไม่แพงแต่ภาพลักษณ์โดยรวมนั้นทำได้เป็นอย่างดี
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ด Acer Swift 5 SF515 ที่ติดตั้งมาให้เป็นแบบ Chiclet Keyboard ซึ่งมาพร้อมไฟ Backlit สีขาวให้ความรู้สึกหรูหรา พร้อมสกรีนตัวอักษรเป็นสีทองเข้ากับตัวเครื่องเป็นอย่างดี ซึ่งระยะเว้นระหว่างปุ่มพิมพ์ทำออกมาได้พอดีไม่ชิดกันมากเกินไปและระยะยุบตัวของปุ่มพิมพ์นั้นค่อนข้างดี ผิวสัมผัสของปุ่มแต่ละปุ่มนั้นให้ความรู้สึกที่ติดนิ้ว
ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งแม้ว่าเราจะไปเผลอกดระหว่างการใช้งานก็ไม่ได้ทำให้เครื่องปิดแต่อย่างใด (ต้องกดค้างซัก 3 วินาทีถึงจะมีเมนูของ Acer ขึ้นมา) แน่นอนว่ายังมี Finger Print ติดตั้งมาให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello ให้พร้อมเข้าใช้งาน
ทัชแพดถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่กำลังดีอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทำให้เวลาพิมพ์งานมือจะไม่เผลอไปสัมผัสกับทัชแพด โดยจะซ่อนปุ่มคลิกซ้ายและคลิกขวาเอาไว้ทำให้ดูเรียบง่ายหรูหรา จากการทดสอบแล้วทัดแพชนี้รองรับ Gesture Control ได้ดีและมีการตอบสนองที่รวดเร็วซึ่งเป็นข้อดีของการใช้งานนอกสถานที่ที่ส่วนใหญ่ต้องใช้ทัชแพดมากกว่าการใช้เม้าส์อยู่แล้ว
Screen / Speaker
Acer Swift 5 SF515 ได้หน้าจอเป็นแบบกระจก รองรับการทัชสกรีนด้วยนิ้วมือปกติ 10 จุด ขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่เหมาะกับการทำงานหรือความบันเทิงแบบสุดๆ ด้วยสีสันที่สมจริงเรียบเนียมและมุมมองที่กว่า 178 องศา อีกทั้งยังมี Acer Color Intelligence เทคโนโลยีนี้จะปรับแกมม่าและความอิ่มตัวสีแบบเรียลไทม์ ช่วยปรับสี ความสว่าง และความอิ่มตัวสี โดยไม่มีภาพขาดและความอิ่มตัวของสีเกิน
เรื่องการรองรับการทัชสกรีนช่วยในการเรื่องการนำเสนอได้อย่างลงตัว ไม่ต้องละมือไปจับทัชแพดไปมา อีกทั้งดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การรับชมอย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนข้อเกตมีเล็กน้อย ตรงที่เป็นจอกระจกซึ่งอาจจะสะท้อนกับแสงบ้าง ต้องเลือกมุมใช้งานดีๆ
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Swift 5 SF515 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 92% และ AdobeRGB ที่ 71% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของขอบเขตสีสันอยู่ในระดับเกณฑ์ที่ดีมากเมื่อเทียบกับค่าตัวเครื่อง ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 270 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลักได้สบายๆ
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องขวาแถวกลางหน้าจอมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านช่องมุมล่างซ้ายที่ลดลงไปที่ระดับ 11% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี ดีกว่ามาตราฐานทั่วไป เหมาะสำหรับคนเอามาดูหนังฟังเพลง เล่นเกม หรือตกตแ่งภาพ ตัดต่อวีดีโอ
ในส่วนของลำโพงที่ติดตั้งมาเป็นแบบสเตอริโอ มาพร้อมระบบเสียง Dolby Audio และ Acer TrueHarmony โดยเป็นลำโพงขนาดเล็กอยู่ทางด้านล่างฝั่งผู้ใช้มุมซ้ายและขวาของตัวเครื่องอัดลงพื้นให้สะท้อนขึ้น จากการทดสอบลำโพงพบว่าเสียงที่ออกมาค่อนข้างดีน่าประทับใจ แยกรายละเอียดได้ในระดับหนึ่ง ถือได้ว่ามีเสียงที่ดังชัดเจน โดยเน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเสียงที่ค่อนข้างดังกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอีกด้วย
Connector / Thin And Weight
Acer Swift 5 SF515 ที่ทั้งบางและเบามากๆ สาวๆ สามารถถือมือเดียวได้สบายๆ เรียกได้ว่าต้องตื่นเต้นในการจับถือครั้งแรกอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ตการเชื่อมต่อครบครับระดับนึง แต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 (2 ช่อง) และ HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน ที่สำคัญยังให้พอร์ตที่ทันสมัยอย่าง USB 3.1 Type-C อีกด้วย โดยรวมแล้วต้องบอกว่าพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไปทีเดียว สำหรับโน๊ตบุ๊คที่เน้นการใช้งานนอกสถานที่
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกระทัดรัดมากๆ ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 999 กรัมเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่านอกจากตัวเครื่องที่บางเบาแล้ว ในส่วนของอแดปเตอร์เองก็มีขนาดที่เล็กและเบามากๆ เทียบได้ก็พอๆ กับอแดปเตอร์ของสมาร์ทโฟนเท่านั้นเองเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ไซส์เล็กเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไม่ถึง 1.2 กิโลกรัม แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ พกพาไปร้านกาแฟ มหาวิทยาลับ ออฟฟิศต่างๆ สบายๆ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คที่บางเบาที่สุด
Performance / Software
Acer Swift 5 SF515 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8565U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.6 GHz ที่ต้องบอกว่าแรงมากๆ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ
เทียบกับรุ่นก่อนเรียกได้ว่าแรงขึ้นพอตัวเพราะ Core เยอะขึ้น แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้กพวก Core i5 ตัวซีรีย์ H ไม่ได้ตรงๆ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 และ SSD ความจุ 512GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้ รองรับการสำรองไฟล์ต่างๆ ได้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 620 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD แบบ M.2 NVMe ที่ความจุ 512GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ กับความเร็วระดับ Read: 1615 MB/s – Write: 874 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,837 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ ที่แม้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คการ์ดจอแยกแต่อย่างใด แต่ก็ให้ผลคะแนนโดยรวมที่น่าประทับใจ ยืนยันว่าใช้งานทั่วไปลื่นไหล และพอที่จะใช้งานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอก็พอได้บ้าง
นอกจากนี้ทาง Acer เองเองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาพร้อมใช้งานทันที) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Acer Swift 5 SF515 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ความจุ 4200mAh โดยสามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ 10 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร ส่วนช่องระบายความร้อนของ Acer Swift 5 SF515 จะอยู่ด้านบนของฐานเครื่องบริเวณขาพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย
อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 97 องศาเซลเซียส นับว่าระบบระบายความร้อนของ Acer Swift 5 SF515 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดี แม้ชิปประมวลผลจะดูว่าร้อน แต่ก็สามารถจัดการระบบระบายความร้อนออกมาอย่างน่าประทับใจไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการใช้งาน ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก Acer ที่ดี แต่ก็มีข้องสังเกตว่าความเร็วการทำงานจะลดลงเกือบครึ่งเหมือนความร้อนไปแตะในระดับที่สูงจนเกินไป ยังไงตรงนี้ก็เป็นเรื่องของระบบการประหยัดพลังงานของชิปประมวลผลด้วย
Conclusion / Award
สรุปรีวิว Acer Swift 5 SF515 สำหรับราคาเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ถือว่าไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ความเบา งานประกอบ วัสดุ สเปก และฟีเจอร์อื่นๆ สนนราคาเริ่มต้นที่ 30,990 บาท และ 40,990 บาท ที่จะว่ากันตามจริง ซื้อเพียงรุ่นเริ่มต้นก็เหลือๆ ในการใช้งานทั่วไปแล้วล่ะ อย่างเล่นเน็ต ดูหนังฟังเพลง ทำงานเอกสาร โดยเมื่อเทียบกับหลายๆ แบรนด์โน๊ตบุ๊คในรุ่นที่ใกล้เคียงกันนับว่าคุ้มค่ามากๆ
จะเห็นว่า Acer Swift 5 SF515 ได้อะไรที่เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นด้วยกัน ทั้งความเบาอย่างที่สุด ราคาที่คุ้มค่า และประกันที่ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน สูงสุดถึง 3 ปีด้วยกันในรุ่นท็อป ส่วนรุ่นเริ่มต้นจะเป็นแบบ 2 ปี On-site Service ทำให้กรณีที่เครื่องมีปัญหา แค่โทรไปก็จะมีเจ้าหน้าที่ Acer มาจัดการให้ถึงหน้าบ้านทีเดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปเคลมแบบเดิมๆ อีกต่อไป
ที่สำคัญ Acer Swift 5 SF515 ได้นำเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อมรองรับ MU-MIMO มาติดตั้ง ส่งผลให้เรานั้นจะได้สัมผัสกับความสามารถของระบบไร้สายในระดับที่แรงอย่างจริงจัง ที่มาพร้อมความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 866 Mbps เลยทีเดียว พูดๆ ง่ายคือแรงกว่าเดิมถึง 2 เท่า ซึ่งช่วยให้เราได้สัมผัสการใช้งาน Wi-Fi ดีกว่าที่เคย และไม่พลาดทุกการเชื่อมต่ออย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นอินเตอร์เน็ต การเล่นเกม การสตรีมข้อมูล รวมถึงการดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ
Acer Swift 5 SF515 มีระบบปฏิบัติการ Windwos 10 ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานทันที สนนราคาต่อสเปกต่อสิ่งที่ได้ทั้งหมดแล้วก็ถือว่าราคาไม่แพงเลย เหมาะสำหรับคนทำงานพนักงานออฟฟิศหรือนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คบางเบาที่สุด ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ แต่ประสิทธิภาพก็คงจะสู้โน๊ตบุ๊คที่เน้นความคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพอย่าง Acer Nitro 5 ไม่ได้ในราคาที่ใกล้เคียงกัน
ปิดท้ายว่าแล้วจะซื้อ Acer Swift 5 SF515 รุ่นไหนดีล่ะ ราคาห่างกันที่ 10,000 บาท ส่วนอื่นๆ ที่แตกต่างกันก็คือ ชิปประมวลผล Core i5 / Core i7 และ RAM 8GB / 16GB รวมถึง SSD ความจุ 256GB / 512GB สุดท้ายกับประกันที่ 2 ปี / 3 ปี ก็บอกได้เลยว่า งบถึงตัวไหนซื้อตัวนั้น เพราะจริงๆ แล้วรุ่น Core i5 ก็ถือว่าให้ความคุ้มค่าที่ดีพอตัวแล้ว ใช้งานได้ลื่นไหลแน่นอน แต่ถ้าเพิ่มอีก 10,000 บาท ได้เป็นรุ่น Core i7 ก็ถือว่าเป็นการซื้อความแรงความจุและประกัน ที่มีความคุ้มค่าไม่แพ้กันเช่นกัน
จุดเด่น
- เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่เบาที่สุดในตลาด ขอบจอบาง ตัวเครื่องเทียบเท่ารุ่น 14″
- มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Swift 5 มีความหรูหราสมราคา
- วัสดุทำจากอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- น้ำหนักเบา 999 กรัม พกพาสะดวกเหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- สเปกโดยรวมให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหลรวดเร็ว
- ฮาร์ดดิสก์ SSD M.2 NVMe มีความรวดเร็วในการใช้งานมาก
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS สีสันสวยงามเนียนตา พร้อมทัชสกรีน
- ติดตั้ง Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อมรองรับ MIMO
- ติดตั้ง USB 3.1 Type-C กับพอร์ตมาตรฐานใหม่
- มีสแกนลายนิ้วมือ Finger Print ใช้งานร่วมกับ Windows Hello
- มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 ติดตั้งมาให้ทันที
- แบตเตอรี่อยู่ได้นานสามารถใช้งานติดต่อกันได้สูงสุด 10 ชั่วโมง
- ประกัน 2 – 3 ปี (On-site ปีแรก) ส่งศูนย์ซ่อมไวใน 3 ชั่วโมง
ข้อสังเกต
- อัพเกรดอุปกรณ์ได้เพียง SSD เพราะแรมฝั่งบอร์ดมาแล้ว
- น่าจะมีอแดปเตอร์แปลงเป็นพอร์ตอื่นๆ มาให้ด้วย
Award
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Acer Swift 5 SF515 ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบมที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง Acer ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
Best Value
ถึงแม้ Acer Swift 5 SF515 จะไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่มีสเปคที่ดีที่สุด แต่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานราคาสามหมื่นบาท ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 30,990 บาท ที่มาพร้อมสเปคอย่าง Core i5 – Core i7 Gen 8 รวมถึงมีแรม 8GB – 16GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความจุ 256GB แถมมีสแกนลายนิ้วมือ พร้อมดีไซน์แบบฉบับโน๊ตบุ๊คบางเบา เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นพกพาแบบสุดๆ เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ที่สำคัญประกันยังมีระยะถึง 2 – 3 ปี แบบ On-stie Service เราจึงมอบรางวัล Best Value ไปให้เลยอย่างไม่ต้องสงสัย
Best Mobility
สำหรับ cer Swift 5 SF515 ที่มีความบางเพียง 15.9 มิลลิเมตร และมีความหนักเพียง 999 กรัม นั้น จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีน้ำหนักเบามากๆ แน่นอนว่าจะไม่เป็นภาระในการนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ และความบางของตัวเครื่องก็ยังมีความบางเฉียบ เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คในกลุ่มขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกันในหลายๆ ตัว และสำหรับระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่ก็ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจที่สูงสุด 10 ชั่วโมง จึงได้รางวัลไปอย่างสมบูรณ์แบบ