HP OMEN 15 รุ่นใหม่ปี 2019 ถือว่าดีไซน์โดยรวมไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปเลย ในด้านแนวทางการออกแบบยังถือว่าอยู่ในรูปแบบเดิมๆ ซึ่งถ้าเทียบ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ รุ่นก่อนๆ คงเป็นเรื่องของมิติตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกระชับ ขอบจอบางกว่าเดิม ด้วยน้ำหนักเพียง 2.25 กิโลกรัม ตามเทคโนโลยีหน้าจอที่ให้ปัจจุบันทำได้แล้ว รวมไปถึงบานพับมีการยกหน้าจอให้สูงขึ้น ช่วยในเรื่องของมุมมองซึ่งดูแล้วก็สวยงามดี ส่วนสีสันก็เป็นดำแดงและลายคาร์บอน
ที่สำคัญคือในส่วนของคีย์บอร์ดได้มีการใช้ไฟแบบ RGB แล้ว ทำให้เราสามารถปรับสีไฟได้อย่างอิสระโดยแบ่งเป็น 3 โซนด้วยกัน (แยกปรับ WASD ได้) อีกทั้งหน้าจอยังได้รับกาอัพเกรดใหม่ ที่หน้าจอ 15.6″ ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล รีเฟรชเรต 144Hz กับระบบระบายความร้อนต้องดูว่าดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ ? ต้องดูกัน !!! โดยรุ่นสเปกที่ได้มาทดสอบรีวิวจะเป็น i7-8750H + RTX 2070 Max-Q + RAM 16GB + SSD 256GB + HDD 1TB + Win10 ราคา 55,990 บาท ประกัน On-site 2 ปี
Specification
สำหรับสเปก HP OMEN 15 ปี 2019 ก็มาพร้อมมาตรฐาน Gaming Notebook ตัวแรง ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H (ไม่มี Core i5 เป็นตัวเลือก) ส่วนการ์ดจอก็มีให้เลือกใช้งานตั้งแต่ GTX 1050Ti, GTX 1060, GTX 1070 Max-Q พร้อมด้วยการ์ดจอ RTX 2060, RTX 2070 Max-Q ด้วย แรมรองรับได้สูงสุดที่ 32GB DDR4 ฮาร์ดดิสก์รองรับทั้งแบบปกติและ SSD มาพร้อม Windows 10 แท้พร้อมใช้งานได้ทันที สนนราคาเริ่มต้นที่ 33,750 บาท ที่สำคัญเลยคือมาพร้อม Windows 10 ลิขสิทธิ์แท้ และประกัน 2 ปีแบบ On-site Service เหมือนเดิม
โดยรุ่นที่นำมาทดสอบเป็นสเปก หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่ Refresh Rate 144 Hz ลื่นไหลกว่า 60Hz ปกติจอเป็นแบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวใช้งาน Video Call ได้อย่างลื่นไหล
พอร์ตการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันทั้ง USB 3.1 Type A x 3, USB 3.1 Type C, HDMI, mini Display Port, Kensington lock slot, ช่องเสียบหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ และช่องเสียบไมค์แยกก็มีมาให้ด้วย ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 ac น้ำหนัก 2.25 กิโลกรัม ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก โดยสนนราคาถูกที่สุดที่ 55,990 บาท การรับประกัน 2 ปี Onsite Service จัดเต็ม
Hardware / Design
หน้าตาการออกแบบเอง HP OMEN 15 ปี 2019 รุ่นใหม่ ในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายในยังคงรูปลักษณ์ที่ดูดุดันพร้อมความพรีเมียมหรูหรา ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดีจากวัสดุที่เป็นพลาสติกเกรดสูงและโลหะอะลูมิเนียม โดดเด่นตามสไตล์ของ Gaming Notebook ระดับสูง ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน
แน่นอนว่า HP OMEN 15 ปี 2019 ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดงเช่นเดิม โดยฝาหลังของตัวเครื่องเป็นสัญลักษณ์รูปตัว X แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ที่มีโลโก้ OMEN เป็นเอกลักษณ์สีแดงสะดุดตาด้านบน ประกอบกับพื้นผิวลวยลายสีดำแบบเคฟล่าด้านซ้ายและขวาสากมือที่ให้ความรู้สึกเป็น Gaming ที่ดี ส่วนด้านล่างจะมีคำว่า OMEN อยู่ วัสดุส่วนนี้เป็นพลาสติกทั้งหมด
ส่วนดีไซน์อื่นๆ ของ HP OMEN 15 ปี 2019 ก็ถือว่าน่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดยด้านหลังได้มีการวางตำแหน่งช่องระบายความร้อนแบบคู่แยกซ้ายขวาออกจากกันที่มีฟินสีดำสนิทติดตั้งอยู่ชัดเจน ซึ่งมีการออกแบบที่ Gaming มากๆ
อีกทั้งใต้ตัวเครื่องก็มีการดีไซน์ใส่ใจรายละเอียดที่สวยงามไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ด้วยโลโก้ OMEN ช่องดูดลมเย็น รวมไปถึงยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ที่ดูแล้วมั่นคง รวมไปถึงฝาหลังสามารถถอดมาอัพเกรดหรือทำความสะอาดง่ายขึ้นอีกด้วย เพียงไขน๊อต 10 ตัวและค่อยๆ ดึงขึ้นเท่านั้น
ด้านในตัวเครื่องมาพร้อมสีสันที่โดดเด่นดำแดงดุดัน วัสดุจะเป็นอะลูมิเนียมแบบขัดลายสวยงามให้ความรู้สึกที่แข็งแรง ตัดด้วยไฟสี RGB สามโซนจากแป้นคีย์บอร์ด พร้อมแยกไฟปุ่ม WASD ได้ ที่ช่วยเสริมความสวยงามได้ดี อีกทั้งยังมีคำว่า OMEN อยู่เหนือแป้นคีย์บอร์ด ส่วนด้านซ้ายจะเป็นปุ่ม Power มีไฟเมื่อเปิดใช้งาน
ด้านขวาจะเป็น BANG & OLUFSEN การันตีด้านคุณภาพเสียง รวมถึงมีการใช้บานพับแบบแกนคู่ขนาดใหญ่ช่วยยกตัว ที่ดูแข็งแรงทนทานสวยงามเข้ากับเครื่องได้ดีมากๆ ที่เชื่อได้ว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องบานพับในระยะยาวของการใช้งานแต่อย่างใด พร้อมยกหน้าจอให้ระดับสูงกว่าเดิม ทำให้มุมมองการใช้งานดียิ่งขึ้น
สรุปเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ HP OMEN 15 ปี 2019 ต้องบอกว่าเป็น Gaming Notebook รูปลักษณ์สวยงามกว่ารุ่นทั่วๆ ไป เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ รวมไปถึงงานหนักๆ หรือจะเอาไปทำงานเล่นอินเตอร์เน็ตก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญดีไซน์การออกแบบยังก้าวล้ำด้วยความดุดันและจริงจัง Gaming ซึ่งน่าจะถูกใจคอ Gamer ไม่น้อยเลย
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ด HP OMEN 15 ปี 2019 นั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นสีขาวพร้อมฟอนต์ที่ดูเข้ากับตัวเครื่อง ขนาด Full Size มาตรฐานปกติมี Numpad มาให้ด้านขวา พร้อมกับสีไฟคีย์บอร์ดที่เป็นแบบ RGB ปรับได้ 3 โซนสวยงาม โดยปุ่ม WASD มีการทำไฮไลน์เป็นขอบสีขาวพร้อมสามารถปรับไฟแยกได้ต่างหากด้วย นอกจากนี้ยังมี Hotkey เรียกซอฟต์แวร์ OMEN เพื่อปรับแต่งไฟหรือประสิทธิภาพเพิ่มเติมได้ โดยปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านบนซ้ายมีไฟสีแดงแสดงสถานะสวยงามชัดเจนดี
ทัชแพดมีขนาดที่กลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งการสัมผัสจะมีความหนืดเล็กน้อย ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบปุ่มแยกซ้ายขวา ทำให้ความรู้สึกในการกดดีกว่าแบบซ่อนปุ่ม ที่สามารถเด้งรับกับนิ้วเป็นอย่างดี การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ใช้งานมัลติทัชลื่ไหน แถมมีตัวซอฟต์แวร์ควบคุมที่ช่วยจัดการได้ดี โดยเมื่อมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ จะช่วยให้เคอร์เซอร์เมาส์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำข้อมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
หน้าจอ HP OMEN 15 ปี 2019 จะใช้ขนาด 15.6 นิ้ว ผิวจอด้านแบบ Anti-Glare ความละเอียด 1920 x 1080 Pixel Full HD มีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 144Hz ที่แสดงผลได้ลื่นไหล ตามาตรฐานของ Gaming Notebook ที่ดีปี 2019 พาเนลเป็นแบบ IPS เกรดดี เรื่องของมุมมองที่สามารถมองได้ชัดเจนทุกมุมมอง ซึ่งสีสันที่ได้ก็สวยงามตามท้องเรื่อง ที่สำคัญตัวเครื่องให้ยางรองหน้าจอเป็นแบบเต็มพื้นที่เหมือนอัลตร้าบุ๊คแรงๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้าจอเป็นรอยเป็นเวลาพับเก็บ ส่วนกล้อง Webcam ตัวเครื่องให้มาเป็นแบบความละเอียด HD พร้อมกับไมค์ตัดเสียงสองตัวใช้งาน Video Call สบายๆ
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ HP OMEN 15 ปี 2019 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 93% และ AdobeRGB ที่ 70% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่กว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook ทั่วไป ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงสีมากๆ แล้ว อันนี้ไม่แนะนำเท่าไรนัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องตรงกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องจอตรงด้านมุมขวาล่างจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 24% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง BANG & OLUFSEN ทำให้มีเสียงมีน้ำหนักหนักแน่นกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นๆ ซึ่งถือได้ว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีเลยทีเดียวครับ อีกทั้งยังให้เสียงดังพอสมควร โดยช่องลำโพงถูกออกแบบมาอยู่ด้านใต้ตัวเครื่องซ้ายขวาทำให้การกระจายเสียงได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง HP OMEN 15 ปี 2019 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่มีความครบครับอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีมิติเล็กลงและน้ำหนักเบา แต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากเยอะกว่า Gaming แบรนด์อื่นๆ พอสมควรเลย ติดตั้งไว้ทั้งขอบตัวเครื่องซ้ายขวาละด้านหลัง ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type A จำนวน 3 พอร์ต, Thunderbolt 3 (USB 3.1 Type C), Mini Display Port, HDMI, ช่องต่อรูฟังกับไมค์ Headset และที่สำคัญคือมีช่องต่อไมค์แยกมาให้ด้วย นอกจากนี้ตัวเครื่องยังไม่ลืมที่จะให้ SD Card Reader กับ LAN ตัวเต็มมาให้อีกด้วยครบครันสุดๆ ไปเลย
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้ว ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 2.25 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้ระดับ 200Watt เข้าไปด้วย ก็จะมีน้ำหนักที่ประมาณ 2.60 กิโลกรัม ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไปนัก ตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างดีเลยทีเดียว
Inside / Upgrade
การเปิดตัวเครื่องจากฝาด้านล่างของ HP OMEN 15 ปี 2019 เพื่อที่จะทำการอัพเกรดหรือทำความสะอาดภายในตัวเครื่องนั้นถือว่าสามารถทำได้ค่อนข้างง่ายกว่า HP OMEN 15 รุ่นก่อนหน้ามากๆ การแกะฝาใต้ตัวเครื่องสามารถทำได้ไม่ยากเพียงคายน็อตจำนวน 10 ตัว ซึ่งจะมีอยู่ 2 ตัวน็อตจะอยู่ยึดไว้กับตัวเครื่องไม่หลุดออกมา จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงตัวล็อคฝาจากบริเวณบานพับโดยการใช้การ์ดพลาสติกบางๆ ช่วยรูด ไล่มาจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายก็ได้ (แต่ก็ต้องทำด้วยความระมัดระวังนะ เดี๋ยวเขี้ยวล็อคจะหักเอา)
โดยเมื่อแกะฝาครอบด้านหลังเครื่องออกแล้วเราก็จะเห็นฮาร์ดแวร์ต่างๆ กระจายตัวกันไป พร้อมแผ่นพลาสติกบางๆ กั้นเอาไว้ ซึ่งในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่เราสามารถทำการอัพเกรดได้เองนั้นก็จะมีหน่วยความจำแรม ที่ใส่มาแล้วขนาด 16GB จำนวน 1 แถว สามารถใส่เพิ่มได้อีกแถวทันที สูงสุดรองรับที่ 32GB รวมไปถึงเห็นแหล่งเก็บข้อมูลทั้งฮาร์ดดิสก์ SATA 2.5 ที่ให้มาแล้วความจุ 1TB และ SSD M.2 NVMe ที่ใส่มาแล้วความจุ 256GB นอกเหนือจากนี้ก็จะเห็นในส่วนของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 4550 mAh และชุดระบายความร้อนด้วยพัดลมสองตัวพร้อมฮีต์ไปป์สีดำพาดผ่าน CPU/GPU อยู่อย่างชัดเจน
Performance / Software
โดย HP OMEN 15 ปี 2019 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-8750HQ (ยังไม่มีรุ่นที่เป็น Core i Gen 9) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads
ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-7700HQ พอตัว มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 16GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
HP OMEN 15 ปี 2019 ตัดการใช้งานการ์ดจอบน CPU ออกไปเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้เพียงการ์ดจอแยกตัวเดียว เป็นระดับรองท็อปอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q เน้นปล่อยความร้อนที่น้อยกว่า ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่าพวก GTX 10 / 16 Series แบบรู้สึกได้จากการที่สามารถขับเฟรมเรทได้ลื่นไหล โดยเป็นรอง RTX 2070 ตัวปกติ และไม่มีฟีเจอร์อย่างที่ใน RTX Series มี แต่ก็ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB แบบ M.2 แบบ NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2424MB/s และเขียนที่ 344MB/s ซึ่งถือว่าแปลกใจไปหน่อย น้อยไปสำหรับความเร็วในการเขียนเมื่อเทียบกับการอ่าน แต่ในการใช้งานทั่วไปก็ดีกว่าฮาร์ดดิสป์ปกติมากแล้ว
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ที่มีแฟลชเมโมรี่ช่วยทำงานความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 5400 ที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่เป็น 146.4 MB/s เข้าใจว่าด้วยความเป็นไฮบริดฮาร์ดดิสก์ และสูงสุดที่ 222.2MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 209.4MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 2.00 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว ยิ่งถ้าได้ SSD SATA 3 การใช้งานโดยรวมก็น่าลื่นไหลน่าประทับใจมากๆ ขึ้นไปอีก
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,572คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยกอย่าง RTX 2070 Max-Q แต่ถ้าเทียบจริงๆ จะเห็นถึงคะแนนที่ดีกว่า Gaming Notebook ในสเปกที่ใกล้เคียงกัน
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว โดย Battlefield V เปิดฟีเจอร์เต็มที่ทั้ง DX12 / DLSS / Ray Tracing ทำให้ภาพสวยงามแบบสุดๆ ไปเลย แต่ก็กินทรัพยากรเครื่องพอตัวอยู่
เกมออนไลน์กินสเปกเบาๆ หน่อยอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แต่ถ้าเทียบกับ Gaming Notebook รุ่นอื่นที่สเปกใกล้เคียงกัน ถือว่าประสิทธิภาพการเล่นที่ได้ดีกว่า
ที่สำคัญด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 144Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่ หรือถ้าอยากให้วิ่ง 144Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมากลางๆ หน่อย
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP OMEN 15 ปี 2019 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
นอกเหนือจากนั้นยังมีโปรแกรม OMEN Command Center ที่ช่วยแจ้งสถานะการทำงานของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของชิปประมวลผลและการ์ดจอ รวมไปถึงแรมว่าใช้งานขณะนี้ใช้ไปกี่เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญคือบอกส่วนของอุณหภูมิเครื่องด้วยว่าร้อนเย็นแค่ไหน โดยอีกส่วนจะเป็นการแจ้งสถานะการเชื่อมต่อต่อินเตอร์เน็ต และตัว Network Booster ที่ช่วยในการดาวน์โหลดอัพโหลดแต่ละโปรแกรมดยิ่งขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวดูแล้วเหมือนกับว่าซอฟต์แวร์ตัวนี้อาจจะยังทำไม่เสร็จ 100% คาดว่าในอนาคตน่าจะมีการอัพเดทเพิ่มเติมฟีเจอร์ขึ้นมาอีก
Battery / Heat / Noise
HP OMEN 15 ปี 2019 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4,550 mAh โดยเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าโอเคเลย (ปรับเป็นโหมด Power Saver) โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บหรือชมวีดีโอ Youtube ได้ยาวนานประมาณ 2:30 ชั่วโมง ซึ่งเทียบแล้วสามารถที่จะทำเวลาได้น้อยกว่า Gaming Notebook ทั่วไป จากการที่ตัวเครื่องใช้เพียงการ์ดจอแยกอย่าง RTX 2070 Max-Q เท่านั้น (BIOS เดิมๆ บังคับปิดการ์ดจอออน CPU ไป)
ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้นชิปประมวลผลและการ์ดจอเข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาแบบรู้สึกได้ แต่จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่บริเวณขอบตัวเครื่องด้านบนตรงคำว่า OMEN (เหนือแป้นคีย์บอร์ด) ซึ่งติดตั้งชุดระบายความร้อนอยู่
ส่วนของอุณหภูมิภายในของ HP OMEN 15 ปี 2019 อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 41 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 99 – 100 องศาเซลเซียส สำหรับชิปประมวล ส่วนการ์ดจอสูงสุดอยู่ที่ 83 องศาเซลเซียส ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง ยังไงกรณีนี้ก็ไม่แนะนำให้ใช้เป็นเวลานานๆ หรือจำเป็นจริงๆ ก็ควรมี Cooling Pad คอยช่วยซะหน่อย การะบบระบายความร้อนของ HP OMEN 15 ปี 2019 เครื่องนี้จัดว่ามีความร้อนค่อนข้างสูงกว่า Gaming N0tebook ที่สเปกใกล้เคียงกันอยู่ประมาณนึง
ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย งานนี้ทาง HP ทำการบ้านมาดีมาก ทำงานได้ค่อนข้างเบาและเงียบทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อไรก็ตามที่เราต้องใช้การทำงานหนัก อย่างการเล่นเกมหรือเรนเดอร์ไฟล์ เรื่องของเสียงนั้นจะเปลี่ยนไปเพราะพัดลมนั้นจะดังขึ้นมา ทว่ามันก็จะเกิดขึ้นเพียงแค่เฉพาะตอนใช้งานหนักๆ เท่านั้น ถ้าเลิกใช้งานเมื่อไรแป๊บเดียวก็หายไปเแล้ว ซึ่งเหมือนเร่งเครื่องพัดลมให้ทำเครื่องได้ระบายความร้อนอย่างเต็มที่เท่านั้น
Conclusion / Award
สรุปจาการที่สัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ HP OMEN 15 ปี 2019 ทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า HP ทำออกมาได้ดีทีเดียว ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น การอัพเกรดที่ง่าย รวมไปถึงประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงาน กับราคา 55,990 บาท เราจะได้ Gamimg Notebook ที่มีสเปคประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือได้หน้าจอพาเนล IPS และมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานด้วย (แม้แรมอาจจะให้มาน้อยไปหน่อยในการเล่นเกม แต่ก็อัพเกรดได้ไม่ยาก)
เน้นเลยก็คือสเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H พร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce RTX 2070 Max-Q (GDDR6 8GB) และแรม DDR4 ที่ 16GB อีกทั้งยังติดตั้งแหล่งเกมข้อมูลแบบ SSD แบบ M.2 NVMe และฮาร์ดดิสก์ปกติมาให้ นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแสดงผล 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS แบบ 144Hz ที่ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง ครบครันกับการใช้งาน สมกับเป็น Gaming Notebook ที่หลายคนให้ความสนใจ
บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟ RGB แบบ 3 โซน โดยWASD แยกต่างหากอีก ระบบเสียง Bang & Olufsen คุณภาพดี รวมไปถึงพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน มี Thunderbolt มาให้เป็นมาตรฐาน และการรับประกันอย่าง HP Onsite Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง , เช็คเครื่องฟรี 2 ครั้ง และ Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมง และอื่นๆ ยิ่งชี้ตอกย้ำความคุ้มค่าของ HP OMEN 15 ปี 2019 เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อสังเกตก็มีในส่วนของชุดระบายความร้อน ที่ยังไม่สามารถจัดการความร้อนที่ปลดปล่อยออกมาได้ดีนัก เพราะที่ 99 – 100 องศาเซลเซียส ถือว่ามีอุณหภูมิที่สูงกว่า Gaming Notebook ในสเปกใกล้เคียงกัน ทั้งในส่วนของชิปประมวลผล CPU และการ์ดจอ GPU ด้วย ซึ่งถ้าใช้ไปนานๆ อาจจะมีผลให้อายุของเครื่องสั้นได้ โดยตัวเครื่องเองก็มีความร้อนที่บริเวณเหนือชุดแป้นคีย์บอร์ดเป็นสำคัญ ส่วนแบตเตอรี่ก็น้อยไปหน่อย นั่นคงเป็นเพราะตัดการใช้งานการ์ดจอบน CPU ออกไป เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง ยังไงใครรับกับข้อสังเกตนี้ได้ ก็ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่น่าสนใจรุ่นนึงกับสเปก i7-8750H + RTX 2070
ข้อดี
- ดีไซน์สวยดุดัน วัสดุดี สวยงามตามาสไตล์ OMEN by HP
- งานประกอบดีเรียบร้อย ถอดฝาหลังอัพเกรดและทำความสะอาดได้ง่าย
- สเปคสูงด้วย Intel Core i7-8750H + NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับที่ 144Hz สวยงามลื่นไหล
- คีย์บอร์ดใช้งานดีมีไฟ RGB 3 โซน ส่วนของ WASD เป็นไฟ RGB ที่ปรับแยกต่างหากได้
- ระบบเสียงดีทีเดียวอย่าง BANG & OLUFSEN
- มีพอร์ต Thunderbolt (USB 3.1 Type-C) มาให้พร้อมใช้งาน
- ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ มาพร้อมใช้งานทันที
- มีซอฟต์แวร์ OMEN COMMAND CENTER ใช้ปรับแต่งตั้งค่าต่างๆ ของตัวเครื่องได้
- HP On site Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องค่อนข้างร้อนตรงบริเวณเหนือคีย์บอร์ดเวลาใช้งานหนักๆ เป็นเวลานาน
- อุณหภูมิของชิปประมวลผลและการ์ดจอค่อนข้างสูง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้น้อยไปหน่อย
- ไม่มีรุ่นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 ให้เลือก
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง HP OMEN 15 ปี 2019 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ OMEN by HP มาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ แล้ว ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน HP OMEN 15 ปี 2019 จากการที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ยิ่งกว่าเดิม ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คเกมเมอร์รุ่นใหม่ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Multimedia
ระบบเสียง BANG & OLUFSEN อีกกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปบนหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD IPS 144Hz แถมมาพร้อมด้วยสเปคของระบบที่สดใหม่และเร็วแรง สามารถตอบสนองความบันเทิงได้ในทุกๆ รูปแบบไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็ทำได้เป็นอย่างจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ HP OMEN 15 ปี 2019 จะได้รางวัลนี้ไป
Best Performance
HP OMEN 15 ปี 2019 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-8750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q พร้อมแรมขนาด 16GB รองรับการอัพเกรดอีก 1 แถว และ SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 256GB และฮาร์ดดิสก์ 1TB แบบมีแฟลชเมโมรี่เป็นตัวช่วย ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Specification
สำหรับสเปก HP OMEN 15 ปี 2019 ก็มาพร้อมมาตรฐาน Gaming Notebook ตัวแรง ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H (ไม่มี Core i5 เป็นตัวเลือก) ส่วนการ์ดจอก็มีให้เลือกใช้งานตั้งแต่ GTX 1050Ti, GTX 1060, GTX 1070 Max-Q พร้อมด้วยการ์ดจอ RTX 2060, RTX 2070 Max-Q ด้วย แรมรองรับได้สูงสุดที่ 32GB DDR4 ฮาร์ดดิสก์รองรับทั้งแบบปกติและ SSD มาพร้อม Windows 10 แท้พร้อมใช้งานได้ทันที สนนราคาเริ่มต้นที่ 33,750 บาท ที่สำคัญเลยคือมาพร้อม Windows 10 ลิขสิทธิ์แท้ และประกัน 2 ปีแบบ On-site Service เหมือนเดิม
โดยรุ่นที่นำมาทดสอบเป็นสเปก หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่ Refresh Rate 144 Hz ลื่นไหลกว่า 60Hz ปกติจอเป็นแบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวใช้งาน Video Call ได้อย่างลื่นไหล
พอร์ตการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันทั้ง USB 3.1 Type A x 3, USB 3.1 Type C, HDMI, mini Display Port, Kensington lock slot, ช่องเสียบหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ และช่องเสียบไมค์แยกก็มีมาให้ด้วย ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 ac น้ำหนัก 2.25 กิโลกรัม ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก โดยสนนราคาถูกที่สุดที่ 55,990 บาท การรับประกัน 2 ปี Onsite Service จัดเต็ม
Hardware / Design
หน้าตาการออกแบบเอง HP OMEN 15 ปี 2019 รุ่นใหม่ ในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายในยังคงรูปลักษณ์ที่ดูดุดันพร้อมความพรีเมียมหรูหรา ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดีจากวัสดุที่เป็นพลาสติกเกรดสูงและโลหะอะลูมิเนียม โดดเด่นตามสไตล์ของ Gaming Notebook ระดับสูง ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน
แน่นอนว่า HP OMEN 15 ปี 2019 ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดงเช่นเดิม โดยฝาหลังของตัวเครื่องเป็นสัญลักษณ์รูปตัว X แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ที่มีโลโก้ OMEN เป็นเอกลักษณ์สีแดงสะดุดตาด้านบน ประกอบกับพื้นผิวลวยลายสีดำแบบเคฟล่าด้านซ้ายและขวาสากมือที่ให้ความรู้สึกเป็น Gaming ที่ดี ส่วนด้านล่างจะมีคำว่า OMEN อยู่ วัสดุส่วนนี้เป็นพลาสติกทั้งหมด
ส่วนดีไซน์อื่นๆ ของ HP OMEN 15 ปี 2019 ก็ถือว่าน่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดยด้านหลังได้มีการวางตำแหน่งช่องระบายความร้อนแบบคู่แยกซ้ายขวาออกจากกันที่มีฟินสีดำสนิทติดตั้งอยู่ชัดเจน ซึ่งมีการออกแบบที่ Gaming มากๆ
อีกทั้งใต้ตัวเครื่องก็มีการดีไซน์ใส่ใจรายละเอียดที่สวยงามไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ด้วยโลโก้ OMEN ช่องดูดลมเย็น รวมไปถึงยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ที่ดูแล้วมั่นคง รวมไปถึงฝาหลังสามารถถอดมาอัพเกรดหรือทำความสะอาดง่ายขึ้นอีกด้วย เพียงไขน๊อต 10 ตัวและค่อยๆ ดึงขึ้นเท่านั้น
ด้านในตัวเครื่องมาพร้อมสีสันที่โดดเด่นดำแดงดุดัน วัสดุจะเป็นอะลูมิเนียมแบบขัดลายสวยงามให้ความรู้สึกที่แข็งแรง ตัดด้วยไฟสี RGB สามโซนจากแป้นคีย์บอร์ด พร้อมแยกไฟปุ่ม WASD ได้ ที่ช่วยเสริมความสวยงามได้ดี อีกทั้งยังมีคำว่า OMEN อยู่เหนือแป้นคีย์บอร์ด ส่วนด้านซ้ายจะเป็นปุ่ม Power มีไฟเมื่อเปิดใช้งาน
ด้านขวาจะเป็น BANG & OLUFSEN การันตีด้านคุณภาพเสียง รวมถึงมีการใช้บานพับแบบแกนคู่ขนาดใหญ่ช่วยยกตัว ที่ดูแข็งแรงทนทานสวยงามเข้ากับเครื่องได้ดีมากๆ ที่เชื่อได้ว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องบานพับในระยะยาวของการใช้งานแต่อย่างใด พร้อมยกหน้าจอให้ระดับสูงกว่าเดิม ทำให้มุมมองการใช้งานดียิ่งขึ้น
สรุปเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ HP OMEN 15 ปี 2019 ต้องบอกว่าเป็น Gaming Notebook รูปลักษณ์สวยงามกว่ารุ่นทั่วๆ ไป เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ รวมไปถึงงานหนักๆ หรือจะเอาไปทำงานเล่นอินเตอร์เน็ตก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญดีไซน์การออกแบบยังก้าวล้ำด้วยความดุดันและจริงจัง Gaming ซึ่งน่าจะถูกใจคอ Gamer ไม่น้อยเลย
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ด HP OMEN 15 ปี 2019 นั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นสีขาวพร้อมฟอนต์ที่ดูเข้ากับตัวเครื่อง ขนาด Full Size มาตรฐานปกติมี Numpad มาให้ด้านขวา พร้อมกับสีไฟคีย์บอร์ดที่เป็นแบบ RGB ปรับได้ 3 โซนสวยงาม โดยปุ่ม WASD มีการทำไฮไลน์เป็นขอบสีขาวพร้อมสามารถปรับไฟแยกได้ต่างหากด้วย นอกจากนี้ยังมี Hotkey เรียกซอฟต์แวร์ OMEN เพื่อปรับแต่งไฟหรือประสิทธิภาพเพิ่มเติมได้ โดยปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านบนซ้ายมีไฟสีแดงแสดงสถานะสวยงามชัดเจนดี
ทัชแพดมีขนาดที่กลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งการสัมผัสจะมีความหนืดเล็กน้อย ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบปุ่มแยกซ้ายขวา ทำให้ความรู้สึกในการกดดีกว่าแบบซ่อนปุ่ม ที่สามารถเด้งรับกับนิ้วเป็นอย่างดี การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ใช้งานมัลติทัชลื่ไหน แถมมีตัวซอฟต์แวร์ควบคุมที่ช่วยจัดการได้ดี โดยเมื่อมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ จะช่วยให้เคอร์เซอร์เมาส์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำข้อมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
หน้าจอ HP OMEN 15 ปี 2019 จะใช้ขนาด 15.6 นิ้ว ผิวจอด้านแบบ Anti-Glare ความละเอียด 1920 x 1080 Pixel Full HD มีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 144Hz ที่แสดงผลได้ลื่นไหล ตามาตรฐานของ Gaming Notebook ที่ดีปี 2019 พาเนลเป็นแบบ IPS เกรดดี เรื่องของมุมมองที่สามารถมองได้ชัดเจนทุกมุมมอง ซึ่งสีสันที่ได้ก็สวยงามตามท้องเรื่อง ที่สำคัญตัวเครื่องให้ยางรองหน้าจอเป็นแบบเต็มพื้นที่เหมือนอัลตร้าบุ๊คแรงๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้าจอเป็นรอยเป็นเวลาพับเก็บ ส่วนกล้อง Webcam ตัวเครื่องให้มาเป็นแบบความละเอียด HD พร้อมกับไมค์ตัดเสียงสองตัวใช้งาน Video Call สบายๆ
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ HP OMEN 15 ปี 2019 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 93% และ AdobeRGB ที่ 70% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่กว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook ทั่วไป ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงสีมากๆ แล้ว อันนี้ไม่แนะนำเท่าไรนัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องตรงกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องจอตรงด้านมุมขวาล่างจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 24% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง BANG & OLUFSEN ทำให้มีเสียงมีน้ำหนักหนักแน่นกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นๆ ซึ่งถือได้ว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีเลยทีเดียวครับ อีกทั้งยังให้เสียงดังพอสมควร โดยช่องลำโพงถูกออกแบบมาอยู่ด้านใต้ตัวเครื่องซ้ายขวาทำให้การกระจายเสียงได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง HP OMEN 15 ปี 2019 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่มีความครบครับอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีมิติเล็กลงและน้ำหนักเบา แต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากเยอะกว่า Gaming แบรนด์อื่นๆ พอสมควรเลย ติดตั้งไว้ทั้งขอบตัวเครื่องซ้ายขวาละด้านหลัง ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type A จำนวน 3 พอร์ต, Thunderbolt 3 (USB 3.1 Type C), Mini Display Port, HDMI, ช่องต่อรูฟังกับไมค์ Headset และที่สำคัญคือมีช่องต่อไมค์แยกมาให้ด้วย นอกจากนี้ตัวเครื่องยังไม่ลืมที่จะให้ SD Card Reader กับ LAN ตัวเต็มมาให้อีกด้วยครบครันสุดๆ ไปเลย
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้ว ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 2.25 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้ระดับ 200Watt เข้าไปด้วย ก็จะมีน้ำหนักที่ประมาณ 2.60 กิโลกรัม ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไปนัก ตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างดีเลยทีเดียว
Inside / Upgrade
การเปิดตัวเครื่องจากฝาด้านล่างของ HP OMEN 15 ปี 2019 เพื่อที่จะทำการอัพเกรดหรือทำความสะอาดภายในตัวเครื่องนั้นถือว่าสามารถทำได้ค่อนข้างง่ายกว่า HP OMEN 15 รุ่นก่อนหน้ามากๆ การแกะฝาใต้ตัวเครื่องสามารถทำได้ไม่ยากเพียงคายน็อตจำนวน 10 ตัว ซึ่งจะมีอยู่ 2 ตัวน็อตจะอยู่ยึดไว้กับตัวเครื่องไม่หลุดออกมา จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงตัวล็อคฝาจากบริเวณบานพับโดยการใช้การ์ดพลาสติกบางๆ ช่วยรูด ไล่มาจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายก็ได้ (แต่ก็ต้องทำด้วยความระมัดระวังนะ เดี๋ยวเขี้ยวล็อคจะหักเอา)
โดยเมื่อแกะฝาครอบด้านหลังเครื่องออกแล้วเราก็จะเห็นฮาร์ดแวร์ต่างๆ กระจายตัวกันไป พร้อมแผ่นพลาสติกบางๆ กั้นเอาไว้ ซึ่งในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่เราสามารถทำการอัพเกรดได้เองนั้นก็จะมีหน่วยความจำแรม ที่ใส่มาแล้วขนาด 16GB จำนวน 1 แถว สามารถใส่เพิ่มได้อีกแถวทันที สูงสุดรองรับที่ 32GB รวมไปถึงเห็นแหล่งเก็บข้อมูลทั้งฮาร์ดดิสก์ SATA 2.5 ที่ให้มาแล้วความจุ 1TB และ SSD M.2 NVMe ที่ใส่มาแล้วความจุ 256GB นอกเหนือจากนี้ก็จะเห็นในส่วนของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 4550 mAh และชุดระบายความร้อนด้วยพัดลมสองตัวพร้อมฮีต์ไปป์สีดำพาดผ่าน CPU/GPU อยู่อย่างชัดเจน
Performance / Software
โดย HP OMEN 15 ปี 2019 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-8750HQ (ยังไม่มีรุ่นที่เป็น Core i Gen 9) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads
ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-7700HQ พอตัว มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 16GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
HP OMEN 15 ปี 2019 ตัดการใช้งานการ์ดจอบน CPU ออกไปเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้เพียงการ์ดจอแยกตัวเดียว เป็นระดับรองท็อปอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q เน้นปล่อยความร้อนที่น้อยกว่า ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่าพวก GTX 10 / 16 Series แบบรู้สึกได้จากการที่สามารถขับเฟรมเรทได้ลื่นไหล โดยเป็นรอง RTX 2070 ตัวปกติ และไม่มีฟีเจอร์อย่างที่ใน RTX Series มี แต่ก็ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB แบบ M.2 แบบ NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2424MB/s และเขียนที่ 344MB/s ซึ่งถือว่าแปลกใจไปหน่อย น้อยไปสำหรับความเร็วในการเขียนเมื่อเทียบกับการอ่าน แต่ในการใช้งานทั่วไปก็ดีกว่าฮาร์ดดิสป์ปกติมากแล้ว
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ที่มีแฟลชเมโมรี่ช่วยทำงานความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 5400 ที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่เป็น 146.4 MB/s เข้าใจว่าด้วยความเป็นไฮบริดฮาร์ดดิสก์ และสูงสุดที่ 222.2MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 209.4MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 2.00 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว ยิ่งถ้าได้ SSD SATA 3 การใช้งานโดยรวมก็น่าลื่นไหลน่าประทับใจมากๆ ขึ้นไปอีก
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,572คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยกอย่าง RTX 2070 Max-Q แต่ถ้าเทียบจริงๆ จะเห็นถึงคะแนนที่ดีกว่า Gaming Notebook ในสเปกที่ใกล้เคียงกัน
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว โดย Battlefield V เปิดฟีเจอร์เต็มที่ทั้ง DX12 / DLSS / Ray Tracing ทำให้ภาพสวยงามแบบสุดๆ ไปเลย แต่ก็กินทรัพยากรเครื่องพอตัวอยู่
เกมออนไลน์กินสเปกเบาๆ หน่อยอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แต่ถ้าเทียบกับ Gaming Notebook รุ่นอื่นที่สเปกใกล้เคียงกัน ถือว่าประสิทธิภาพการเล่นที่ได้ดีกว่า
ที่สำคัญด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 144Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่ หรือถ้าอยากให้วิ่ง 144Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมากลางๆ หน่อย
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP OMEN 15 ปี 2019 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
นอกเหนือจากนั้นยังมีโปรแกรม OMEN Command Center ที่ช่วยแจ้งสถานะการทำงานของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของชิปประมวลผลและการ์ดจอ รวมไปถึงแรมว่าใช้งานขณะนี้ใช้ไปกี่เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญคือบอกส่วนของอุณหภูมิเครื่องด้วยว่าร้อนเย็นแค่ไหน โดยอีกส่วนจะเป็นการแจ้งสถานะการเชื่อมต่อต่อินเตอร์เน็ต และตัว Network Booster ที่ช่วยในการดาวน์โหลดอัพโหลดแต่ละโปรแกรมดยิ่งขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวดูแล้วเหมือนกับว่าซอฟต์แวร์ตัวนี้อาจจะยังทำไม่เสร็จ 100% คาดว่าในอนาคตน่าจะมีการอัพเดทเพิ่มเติมฟีเจอร์ขึ้นมาอีก
Battery / Heat / Noise
HP OMEN 15 ปี 2019 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4,550 mAh โดยเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าโอเคเลย (ปรับเป็นโหมด Power Saver) โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บหรือชมวีดีโอ Youtube ได้ยาวนานประมาณ 2:30 ชั่วโมง ซึ่งเทียบแล้วสามารถที่จะทำเวลาได้น้อยกว่า Gaming Notebook ทั่วไป จากการที่ตัวเครื่องใช้เพียงการ์ดจอแยกอย่าง RTX 2070 Max-Q เท่านั้น (BIOS เดิมๆ บังคับปิดการ์ดจอออน CPU ไป)
ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้นชิปประมวลผลและการ์ดจอเข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาแบบรู้สึกได้ แต่จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่บริเวณขอบตัวเครื่องด้านบนตรงคำว่า OMEN (เหนือแป้นคีย์บอร์ด) ซึ่งติดตั้งชุดระบายความร้อนอยู่
ส่วนของอุณหภูมิภายในของ HP OMEN 15 ปี 2019 อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 41 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 99 – 100 องศาเซลเซียส สำหรับชิปประมวล ส่วนการ์ดจอสูงสุดอยู่ที่ 83 องศาเซลเซียส ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง ยังไงกรณีนี้ก็ไม่แนะนำให้ใช้เป็นเวลานานๆ หรือจำเป็นจริงๆ ก็ควรมี Cooling Pad คอยช่วยซะหน่อย การะบบระบายความร้อนของ HP OMEN 15 ปี 2019 เครื่องนี้จัดว่ามีความร้อนค่อนข้างสูงกว่า Gaming N0tebook ที่สเปกใกล้เคียงกันอยู่ประมาณนึง
ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย งานนี้ทาง HP ทำการบ้านมาดีมาก ทำงานได้ค่อนข้างเบาและเงียบทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อไรก็ตามที่เราต้องใช้การทำงานหนัก อย่างการเล่นเกมหรือเรนเดอร์ไฟล์ เรื่องของเสียงนั้นจะเปลี่ยนไปเพราะพัดลมนั้นจะดังขึ้นมา ทว่ามันก็จะเกิดขึ้นเพียงแค่เฉพาะตอนใช้งานหนักๆ เท่านั้น ถ้าเลิกใช้งานเมื่อไรแป๊บเดียวก็หายไปเแล้ว ซึ่งเหมือนเร่งเครื่องพัดลมให้ทำเครื่องได้ระบายความร้อนอย่างเต็มที่เท่านั้น
Conclusion / Award
สรุปจาการที่สัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ HP OMEN 15 ปี 2019 ทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า HP ทำออกมาได้ดีทีเดียว ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น การอัพเกรดที่ง่าย รวมไปถึงประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงาน กับราคา 55,990 บาท เราจะได้ Gamimg Notebook ที่มีสเปคประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือได้หน้าจอพาเนล IPS และมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานด้วย (แม้แรมอาจจะให้มาน้อยไปหน่อยในการเล่นเกม แต่ก็อัพเกรดได้ไม่ยาก)
เน้นเลยก็คือสเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H พร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce RTX 2070 Max-Q (GDDR6 8GB) และแรม DDR4 ที่ 16GB อีกทั้งยังติดตั้งแหล่งเกมข้อมูลแบบ SSD แบบ M.2 NVMe และฮาร์ดดิสก์ปกติมาให้ นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแสดงผล 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS แบบ 144Hz ที่ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง ครบครันกับการใช้งาน สมกับเป็น Gaming Notebook ที่หลายคนให้ความสนใจ
บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟ RGB แบบ 3 โซน โดยWASD แยกต่างหากอีก ระบบเสียง Bang & Olufsen คุณภาพดี รวมไปถึงพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน มี Thunderbolt มาให้เป็นมาตรฐาน และการรับประกันอย่าง HP Onsite Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง , เช็คเครื่องฟรี 2 ครั้ง และ Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมง และอื่นๆ ยิ่งชี้ตอกย้ำความคุ้มค่าของ HP OMEN 15 ปี 2019 เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อสังเกตก็มีในส่วนของชุดระบายความร้อน ที่ยังไม่สามารถจัดการความร้อนที่ปลดปล่อยออกมาได้ดีนัก เพราะที่ 99 – 100 องศาเซลเซียส ถือว่ามีอุณหภูมิที่สูงกว่า Gaming Notebook ในสเปกใกล้เคียงกัน ทั้งในส่วนของชิปประมวลผล CPU และการ์ดจอ GPU ด้วย ซึ่งถ้าใช้ไปนานๆ อาจจะมีผลให้อายุของเครื่องสั้นได้ โดยตัวเครื่องเองก็มีความร้อนที่บริเวณเหนือชุดแป้นคีย์บอร์ดเป็นสำคัญ ส่วนแบตเตอรี่ก็น้อยไปหน่อย นั่นคงเป็นเพราะตัดการใช้งานการ์ดจอบน CPU ออกไป เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง ยังไงใครรับกับข้อสังเกตนี้ได้ ก็ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่น่าสนใจรุ่นนึงกับสเปก i7-8750H + RTX 2070
ข้อดี
- ดีไซน์สวยดุดัน วัสดุดี สวยงามตามาสไตล์ OMEN by HP
- งานประกอบดีเรียบร้อย ถอดฝาหลังอัพเกรดและทำความสะอาดได้ง่าย
- สเปคสูงด้วย Intel Core i7-8750H + NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับที่ 144Hz สวยงามลื่นไหล
- คีย์บอร์ดใช้งานดีมีไฟ RGB 3 โซน ส่วนของ WASD เป็นไฟ RGB ที่ปรับแยกต่างหากได้
- ระบบเสียงดีทีเดียวอย่าง BANG & OLUFSEN
- มีพอร์ต Thunderbolt (USB 3.1 Type-C) มาให้พร้อมใช้งาน
- ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ มาพร้อมใช้งานทันที
- มีซอฟต์แวร์ OMEN COMMAND CENTER ใช้ปรับแต่งตั้งค่าต่างๆ ของตัวเครื่องได้
- HP On site Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องค่อนข้างร้อนตรงบริเวณเหนือคีย์บอร์ดเวลาใช้งานหนักๆ เป็นเวลานาน
- อุณหภูมิของชิปประมวลผลและการ์ดจอค่อนข้างสูง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้น้อยไปหน่อย
- ไม่มีรุ่นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 ให้เลือก
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง HP OMEN 15 ปี 2019 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ OMEN by HP มาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ แล้ว ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน HP OMEN 15 ปี 2019 จากการที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ยิ่งกว่าเดิม ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คเกมเมอร์รุ่นใหม่ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Multimedia
ระบบเสียง BANG & OLUFSEN อีกกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปบนหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD IPS 144Hz แถมมาพร้อมด้วยสเปคของระบบที่สดใหม่และเร็วแรง สามารถตอบสนองความบันเทิงได้ในทุกๆ รูปแบบไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็ทำได้เป็นอย่างจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ HP OMEN 15 ปี 2019 จะได้รางวัลนี้ไป
Best Performance
HP OMEN 15 ปี 2019 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-8750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q พร้อมแรมขนาด 16GB รองรับการอัพเกรดอีก 1 แถว และ SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 256GB และฮาร์ดดิสก์ 1TB แบบมีแฟลชเมโมรี่เป็นตัวช่วย ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล