การมาของ Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ ปี 2019 (Acer Nitro AN515-54)ได้สเปก Core i Gen 9 + GTX 1050 / GTX 1650 / GTX 1660 Ti ที่เล่นเกมลื่นขึ้นไปอีกระดับ พร้อมด้วยดีไซน์ใหม่ขอบจอบางเฉียบ การออกแบบก็สวยล้ำกว่าเดิม เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook ที่ราคาคุ้มค่าสเปกโดนใจ ที่น่าจับตามองมากๆ อย่างรุ่นก่อนปีที่แล้ว 2018 ก็ได้ Award จากทาง NBS ไปด้วย ปีนี้ดูทีท่าแล้วถ้ายังน่าซื้อ ประสิทธิภาพดีกว่าเดิมก็อาจจะเป็น Best Value Gaming Notebook ปี 2019 อีกก็เป็นได้
สำหรับ Acer Nitro 5 ปี 2019 มาพร้อมกับสเปกใหม่ล่าสุดด้วยชิปประมวลผลอย่าง Core i5-9300H และ i7-9750H ที่สำคัญได้การ์ดจอรุ่นใหม่มาเสริมทัพอัพเดทอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (3GB GDDR5 ) /GTX 1650 (4GB GDDR5) / GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) ที่เป็นรุ่นใหม่ของ GTX เน้นความแรงและคุ้มค่าเป็นหลัก สเปกอื่นๆ อย่างแรมเริ่มต้นที่ 8GB ส่วน SSD จะรองรับเป็นแบบ NVMe จำนวน 2 ช่อง พร้อม HDD 2.5″ ปกติก็ยังมีติดตั้งให้อยู่ สนนราคาเริ่มต้นที่ 23,990 บาท ได้ประกัน 3 ปี On-site Service เหมือนเดิม
Unbox Preview
VDO Review
Specification
Acer Nitro 5 ปี 2019 เพราะมาพร้อมกับสเปกใหม่ล่าสุดด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 อย่าง Core i5-9300H หรือ i7-9750H ที่สำคัญได้การ์ดจอรุ่นใหม่มาเสริมทัพอัพเดทอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti/1650 ที่เป็นรุ่นใหม่ของ GTX เน้นความแรงและคุ้มค่าเป็นหลัก รวมไปถึงยังมีการ์ดจอ GTX 1050 รุ่นใหม่แต่ปรับสเปกเป็น 3GB GDDR5 เป็นตัวเลือกอยู่ (เดิมเป็น 4GB GDDR5)
มีจำหน่ายด้วยกัน 5 รุ่นย่อย ซึ่งตัวที่ NotebookSPEC ได้มาทดสอบ เป็นตัวรุ่น Acer Nitro 5 สเปก i7-9750H + GTX 1050 ราคา 31,990 บาท ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-9750H (2.60 – 4.50 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพไว้ใจได้ แรงกว่า i7-8750H พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (3GB GDDR5) รุ่นใหม่ มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB 5400 รอบ พร้อมรองรับติดตั้ง SSD แบบ M.2 PCIe จำนวน 2 ช่องอีกด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8 GB แบบ DDR 4 Bus 2666 สามารถอัพเกรดได้สูงสุด 32 GB
นอกจากนี้ Acer Nitro 5 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6″ ที่ความละเอียด Full HD ความละเอียด 1920 x 1080 พาเนล IPS ให้สีสันที่สวยงามทุกมุมมอง และในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ 2.0 ให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจกว่ารุ่นเดิม ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง Wave MaxxAudio ทำให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขั้นไปอีก ส่วนน้ำหนักจะอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัมถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″
ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 2.0 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi Intel Dual Band MU-Mimo มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac แถมมีประกัน On-site Service ถึง 3 ปีเต็ม ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่คุ้มค่าที่สุด ณ เวลานี้อีกรุ่นเลยทีเดียว
- i5-9300H/GTX 1050/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 23,990 บาท
- i5-9300H/GTX 1650/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 25,990 บาท
- i7-9750H/GTX 1050/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 31,990 บาท (รุ่นที่รีวิว)
- i5-9300H/GTX 1660Ti/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 32,990 บาท
- i7-9750H/GTX 1650/RAM 8GB/SSD 128GB + HDD 1TB/Windows 10/144Hz ราคา 36,990 บาท
Hardware / Design
เรื่องของการดีไซน์ออกแบบ หลักๆ ยังมีทรงคล้ายๆ เดิมแต่มีการปรับให้ตัวเครื่องมีความเล็กกระชับขอบจอบาง ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความบางเบากว่าเดิมแน่นอน รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น อย่าง Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ (Acer Nitro AN515-54) หน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS ขอบจอบางเพียง 7.18 มิลลิเมตร พื้นที่สัดส่วนกว่า 80% ทำให้มีขนาดเครื่องพอๆ กับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ แบบก่อน โดยมีรุ่นหน้าจอ Refresh Rate ที่ 60Hz และ 144Hz ให้เลือกตามความต้องการ วัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกเกรดดี
สำหรับสีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีดำแซมด้วยสีแดงเอาไว้อยู่ อย่างโดดเด่นและสวยงาม ที่ต้องว่า Acer Nitro 5 ฝาหลังจะมีลักษณะลวดลายผิวไม่เรียบบริเวณด้านข้างซ้ายและขวา ฝาบนจะโลโก้คำว่า Acer สีดำคมเข้มไม่ธรรมดา ผิวฝาบนพื้นผิวเป็นพลาสติกมีสีดำด้านให้สัมผัสดีมีคุณภาพสูง พร้อมมีเกล็ดเล็กๆ แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรอยนิ้วมือง่ายนิดหนึ่ง ซึ่งคงต้องหมั่นคอยเช็ดทำความสะอาดสักหน่อย เวลามือมีเหงื่อออกแล้วไปจับ รวมไปถึงขอบตัวเครื่องบริเวณฝาพับ Acer Nitro 5 ปี 2019 จะเป็นสีแดงพร้อมกับมีคำว่า Nitro เอาไว้ โดยสามารถกางหน้าจอได้มากกว่า 145 องศาทีเดียว
ทางด้านหลังตัวเครื่องก็จะมีช่องระบายความร้อน 1 ช่องขนาดใหญ่ทางซ้ายเห็นเป็นลักษณะของฟินสีดำสนิท ส่วนช่องทางขวาจะเป็นช่องที่ดีไซน์คล้ายกันเป็นตะแกรงสีดำ แต่ไม่มีพัดลมติดตั้งอยู่ พร้อมแกนฝาพับจะเป็นสีแดง พร้อมมีตัวอักษรเขียนไว้ว่า Nitro แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ซึ่งดูสวยงามโดดเด่นมากเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนคู่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ (ตามที่ Acer เคลมไว้) พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย
ด้านในตัวเครื่องงานดีไซน์ก็เหมือนกับ Acer Nitro 5 รุ่นเก่าปี 2018 โดยมีพื้นผิวคล้ายกับด้านนอก ที่มีการติดตั้งปุ่ม Power ไว้มุมขวาบนสุดของชุดคีย์บอร์ด รวมไปถึงยังมีการติดตั้งปุ่ม NitroSense ไว้เหนือแป้นตัวเลขด้วย กดใช้งานได้สะดวกดี นอกจากนั้นก็เป็นสติกเกอร์ต่างๆ ติดเอาไว้ไม่ว่าจะเป็น
ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX รุ่นใหม่ รวมไปถึงมีการบอกถึงบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงตามสไตล์ของ Acer อีกด้วย อีกทั้งยังมีการแจกแจงถึงฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิเช่น Dual SSD M.2 + One HDD Slot / ขอบจอบาง / พาเนล IPS / NitroSense + CoolBoost / Network Optimize / HDMI Port เป็นต้น
ส่วนการอัพเกรดแรมและ SSD ในอนาคตนั้น แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องถอดฝาล่างของตัวเครื่องออกมา โดยวัสดุของฝาหลังนี้ก็เป็นพลาสติกเกรดดี พื้นผิวเป็นแบบสากๆ ทำให้หยิบจำแล้วไม่ลื่นไหล พร้อมยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ 4 จุดด้วยกัน ซึ่งมีความมั่นคงดี ซึ่งเมื่อมองไปที่ช่องด้านล่างก็จะพบกับช่องดูดลมเย็นพร้อมกับพัดลม 2 ตัว ที่กรณีที่เราเปิดเครื่องก็จะเห็นไฟสีแดงจากคีย์บอร์ดติดอยู่ด้วย ดูแล้วก็สวยงามไปอีกแบบ ที่เดี๋ยวเราจะพาไปแกะชมข้างในกันอีกที
สรุปแล้วสำหรับเรื่องขนาดของ Acer Nitro 5 ปี 2019 รวมไปถึงดีไซน์การออกแบบ เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อน ซึ่งยังมีการทรงรูปลักษณ์เดิมไว้ เปลี่ยนไปเล็กน้อยเรื่องของลวดลายฝาหลัง รวมไปถึงมิติตัวเครื่องลดลง ทำให้พกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้เล็กมากจนเกินไปเหมือน Gaming Notebook บางรุ่นที่เน้นความบางเบา (จนบางครั้งก็บางเกิน ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดีนัก) กับน้ำหนักตัวเครื่อง 2.3 กิโลกรัม รวมกับอแดปเตอร์แล้วก็ถือว่าพกพาไปไหนมาได้อยู่ที่ประมาณ 2.6 กิโลกรัม แม้ดูแล้วอาจจะไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนอกจากมิติตัวเครื่องและน้ำหนักที่ลดลง แต่ก็คาดว่าน่าจะถูกใจใครหลายๆ คน กับการมาของ Acer Nitro 5 ปี 2019 รุ่นใหม่ไม่มากก็น้อย
Keyboard / Touchpad
Acer Nitro 5 ปี 2019 มีตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6 ”ขอบหน้าจอบางก็จริง แต่ก็ยังสามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ ที่มาพร้อมปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีแดง รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง รวมถึงปุ่ม NitroSense จะมีขอบเป็นสีแดงเด่นออกมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ Backlit สีแดง (ปรับแสงได้ 5 ระดับ) ที่ให้ความสว่างพอสมควรดูเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความนุ่มติดมือ รู้สึกได้เลยว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน
ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา มีขอบเป็นสีแดง ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
Screen / Speaker
Acer Nitro 5 ปี 2019 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.18 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง ซึ่งในรุ่นที่เรานำมาทดสอบนั้นจะเป็นรุ่นหน้าจอ Refresh Rate 60Hz แต่ในรุ่นรองท็อปจะเป็น 144Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก ซึ่งดูรวมๆ แล้งทั้งสีสันและความคมชัดจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Nitro 5 ปี 2019 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 61% และ Adobe RGB ที่ 46% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอ เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 230 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างกว่าหน้าจอเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว
สรุปสุดท้ายด้วยคะแนนรวมทั้งหมดโดยตัวเครื่อง Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ปี 2019 ก็ได้คะแนนไป 3.5 คะแนน ซึ่งเมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว เทียบกับ Acer Nitro 5 รุ่นเก่าปี 2018 ให้ค่าขอบเขตสีที่น้อยกว่า รวมไปถึงคะแนนรวมก็น้อยกกว่าด้วย แต่ในส่วนของการใช้งานทั่วไปไม่มีผลแต่อย่างใด
ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer Nitro 5 ปี 2019 นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Waves MaxxAudio ที่ผสานกับ Acer TrueHarmony เพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบส เสียงสนทนา และระดับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งและจากการใช้งานรู้สึกว่าดีกว่ารุ่นเก่าด้วย
Connector / Thin And Weight
Acer Nitro 5 ปี 2019 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.1 Type-A (เป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.1 Type-C, 1 x USB 2.0, HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2500 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน ทั้งในการโอนถ่ายไฟล์หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เทียบกับรุ่นก่อนก็ถือว่าดีกว่าหลายด้าน
ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 4.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac รูปแบบมาตราฐาน Gigabit Wi-Fi 5 ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครันและทางด้านการพกพา Acer Nitro 5 ปี 2019 ทำได้น่าพอใจในระดับที่ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม ด้วยมิติตัวเครื่องกระชับเทียบเท่าหน้าจอ 14″ แบบก่อนๆ รวมถึงน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.3 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.6 กิโลกรัม นับได้ว่าพกพาสะดวกอยู่เวลาใช้งานนอกสถานที่
Inside / Upgrade
การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer Nitro 5 ปี 2019 นั้นสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จะมีน็อตแค่ตัวเดียวที่มีสติกเกอร์แปะอยู่ เราสามารถเจาะทะลุไปได้เลย จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง โดยเวลาทำห้ามใจร้อนเด็ดขาด ไม่งั้นเกลียวใต้ฝาอาจจะหักได้ แล้วค่อยๆ แงะฝาขึ้นมาอีกที งานประกอบการจัดวางตำแหน่งคล้ายกับรุ่นเดิมมีฮีท์ไปป์สองเส้นพาดผ่าน CPU และ GPU โดยมีพัดลมสองตัวติดกัน ช่องระบายความร้อนแถวยาวช่องเดียว
ซึ่งแรมกับฮาร์ดดิสก์จะแยกส่วนกันอย่างชัดเจน ที่เห็นได้ถึงแรมสามารถติดตั้งได้ 2 แถว โดยติดตั้ง 8GB มาแล้ว 1 แถว สามารถอัพเกรดเพิ่มได้อีกแถวทันที โดยรองรับสูงสุดที่ 32GB ส่วน SSD M.2 NVMe รองรับการติดตั้ง 2 สล็อตด้วยกัน พร้อมมีน็อตมาให้ด้วย ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นฮาร์ดดิสก์แบบ 2.5″ ที่ให้มาอยู่แล้วเป็นมาตรฐาน อย่างไรก็ตามการแกะฝาล่างนั้นไม่ทำให้หลุดประกันแต่บริษัทจะไม่รับผิดชอบหากแกะเองแล้วเกิดความเสียหาย สรุปแล้วถือได้ว่า Acer ทำการบ้านมาได้ดีกว่าเดิม การแกะตัวเครื่องเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายและก็สะดวกทีเดียว
Performance / Software
โดย Acer Nitro 5 ปี 2019 รุ่นที่ได้รับมารีวิวมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-9750H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 8GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
.
*CPU-Z เวอร์ชั่นล่าสุด ยังไม่สามารถแสดงว่าเป็น Core i7-9750H ได้
ยกระดับประสิทธิภาพ จากการที่ Acer Nitro 5 ปี 2019 มีการนำชิปประมวลผล หรือ CPU รุ่นล่าสุดจาก Intel Core i Gen 9 มาใส่ไว้ใน Gaming Notebook ตัวใหม่นี้ด้วย ทำให้การประมวลผลการทำงานหรือการเล่นเกมของ Gaming Notebook รุ่นใหม่นี้ ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยทำได้มาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 45% มีผลอย่างมากต่อการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลของ CPU หนักๆ เช่น การต่อต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์งาน 3D เป็นต้น
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 รุ่นใหม่มีแรมขนาด 3GB แบบ GDDR5 (รุ่นก่อนเป็น 4GB GDDR5) ที่ต้องบอกว่าทาง NVIDIA ตั้งใจเอามาแทนที่ของเดิม โดยรุ่นบนกว่านี้จะเป็น GTX 1650 4GB GDDR5 และ GTX 1660Ti 6GB GDDR6 ไปเลย
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าอย่าง Core i7-8750H ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงในระดับนึง เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับ GTX ที่เน้นการทำงานหรือเล่นเกมเป็นหลัก
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 5400 ที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่เป็น 8.7 MB/s และสูงสุดที่ 140.4 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 100.6 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 19.9 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นก็ถือว่าดีตามมาตรฐาน
แต่ในการใช้งานจริงๆ นั้น ให้ประสบการณ์ใช้งานที่น่าหงุดหงิดไม่น้อยเลย เพราะทั้งหน่วงและช้า ทำหลายๆ อย่างพร้อมกันไม่ได้ จะมีอากรค้างอยู่บ่อยๆ รวมไปถึงโหลดเกมโหลดฉากก็จะช้ากว่ารุ่นที่มี SSD มา (บางทีเฟรมร่วงหรือกระตุกไปเลย) อย่างไรก็ตามควรต้องอัพเกรด SSD M.2 NVMe หรือ SATA3 เพื่อให้การใช้งานโดยรวมลื่นไหลขึ้นไปอีก เพราะต่อให้สเปกดีแค่ไหน แต่ถ้าขาด SSD ถือว่าเป็นปัญหาเหมือนกัน
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,934 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจประมาณนึง โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 30 – 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 ออกมาได้อย่างเต็มที่ (จริงๆ รีดได้ถึงพวก RTX 2080 ได้เลยแหละ) ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 ก็ถือว่าพอได้อยู่ ติดอยู่ตรงที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ปกตินี่แหละ
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ แต่สำหรับ BF V ต้องยอมรับว่าจำเป็นต้องปรับเป็น Low เลย ไม่อย่างงั้นจะไม่สามารถเล่นได้เลย
เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 40 – 60 – 80 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง รวมไปถึงอาจจะมีอาการโหลดฉากช้าบ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นพอได้อยู่
Acer Nitro 5 ปี 2019 มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ NitroSense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า CoolBoots เร่งรอบพัดลมให้สุดที่ 6000 รอบทั้ง 2 ตัว ที่ใช้ระบายความร้อน CPU/GPU เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงการปรับโหมดการใช้งาน เช่นประหยัดพลังงานใช้แบตเตอรี่ก็ต้องเป็น Power Saver และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน NitroSense เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว
นอกจากนี้ทาง Acer Nitro 5 ปี 2019 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Acer Nitro 5 ปี 2019 ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 3750mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 7 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น Acer Nitro 5 ปี 2019 เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 35 – 45 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมดพัดลมระดับสูงสุดด้วยารปรับเป็น CoolBoots เพื่อให้พัดลมทำงาน 100%
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ไม่เกิน 90 – 95 องศาเซลเซียส นับว่าไม่ได้ร้อนจนเกินไปนัก ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 70 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมากับขนาดตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดพกพาง่ายกว่าเดิม สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยโหมด CoolBoots นั่นเอง
Conclusion / Award
สมการรอคอยสำหรับการมาของ Gaming Notebook อย่าง Acer Nitro 5 ปี 2019 กันไหม ด้วยการเปลี่ยนแปลงของดีไซน์ใหม่ ได้ขอบจอบางลงกว่ารุ่นก่อน มิติตัวเครื่องเล็กลงกว่ารุ่นก่อน และน้ำหนักก็เบาลงกว่ารุ่นก่อน การประกอบก็แน่นอนไว้ใจได้ ถอดอัพเกรดก็ง่ายขึ้น เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ น่าจะถูกใจกันไม่น้อย (รองรับการใส่ SSD M.2 NVMe แบบ 2 สล็อต) อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วก็เป็นการต่อยอดจากรุ่นเดิมอยู่ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบใหม่ทั้งหมดเสียทีเดียว
ส่วนสเปกก็ได้รับการอัพเกรดให้เป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ตัวแรง (หรือ i5-9300H ที่แรงไม่แพ้กัน) สำหรับการ์ดจอก็เป็นตัวใหม่ ไม่ว่าจะเป็น GTX 1050 3GB GDDR5 หรือ GTX 1650 / GTX 1660 Ti โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 23,990 บาท จนไปถึง 36,990 บาท ได้ประกัน On-site Service 3 ปีในทุกรุ่น แต่ก็มีข้อเกตที่ว่ามีเพียงรุ่นเดียวที่ให้ SSD M.2 ความจุ 128GB มา เพราะจริงๆ ทุกรุ่นควรมีมาให้อยู่แล้วเป็นมาตรฐาน เพราะถ้าไม่มี SSD ต่อให้สเปกแรงแค่ไหน ก็มีอาการค้าง ช้า หน่วงอยู่ดี ทั้งใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม
ผลทดสอบของหน้าจอก็จะเห็นว่ามีค่าขอบเขตสีที่ลดลงจากเดิม ซึ่งอาจจะไม่มีผลต่อการใช้งานทั่วไปใดๆ แต่คาดว่าคงเป็นหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อของเพื่อนๆ เหมือนกัน สำหรับคนที่เอาไปทำงานด้านสีที่จริงจัง ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็ครบครันกว่าเดิมด้วย USB 3.1 Type-C จำนวน 2 ช่อง แต่ก็ยังมี USB 2.0 Type-C อีกช่องอยู่ไว้เชื่อมต่อเมาส์เป็นหลัก พร้อมกับ LAN เป็น Killer Ethernet E2500 ทำให้เมื่อต่อสาย RJ45 ก็จะช่วยการเล่นเกมที่ลื่นไหลได้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็นมาตรฐานที่ดีมีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เหนือชั้นกว่า Gaming Notebook ทั่วไปที่ไม่มีตรงนี้
สำหรับการระบายความร้อนก็นับว่าทำได้ดีตามาตรฐานอยู่ คือ ไม่ได้ร้อนเกินไปนัก จนกระทบการำงานของเครื่อง เข้าใจว่าทาง Acer ออกแบบมาได้ดีขึ้น แต่ชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ก็แรงและร้อนขึ้นเช่นกัน ฉะนั้นถ้าดูจากผลทดสอบอุณหภูมิก็นับว่าทำได้ดีตามเกณฑ์แล้ว ส่วนการ์ดจอรุ่นที่ได้รับมาทดสอบก็เป็น GTX 1050 ที่เป็นรุ่นใหม่ก็จริง แต่ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพแรงขึ้นมาแต่อย่างใด กลับเป็นรุ่นใหม่ที่ลดแรมการ์ดจอเหลือ 3GB ด้วย สมกับการ์ดจอ Gaming ระดับเริ่มต้นที่ทาง NVIDIA วางไว้จริงๆ (แกมอยากให้เราซื้อ GTX 1650 ขึ้นไปมากกว่า)
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ เน้นให้ประสิทธิภาพต่อราคาคุ้มค่าล่ะก็ Acer Nitro 5 ปี 2019 น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว กับ 5 รุ่น 5 สเปกให้เลือก โดยรวมแล้วถือว่ามีความคุ้มค่าพอสมควร ด้วยไม้เด็ดก็คือ On-Site Service 3 ปี และส่งซ่อมศูนย์ด่วนแบบรับภายใน 3 ชั่วโมงจัดเต็มเหมือนเดิม เรียกได้ว่าครบครันเสร็จสรรพในเครื่องเดียวโคตรคุ้ม
แต่สุดท้ายอย่าลืมเผื่อเงินไว้อัพเกรด SSD m.2 ด้วยละสำหรับรุ่นที่ไม่มี มิฉะนั้นอาจจะใช้งานเครื่องได้ไม่ประสบการณ์สเปกแรง เสียดายที่ Acer Nitro 5 ปี 2019 เครื่องที่ได้รับมารีวิวใช้ i7-9750H + GTX 1050 แต่เปิดเครื่องนาน เจอ Disk 100% หรืออาการค้าง กระตุก เล่นเกมไม่ลื่นไหลอย่างที่ควรจะเป็น เดี๋ยวหาว่าไม่เตือน แนะนำเป็น SSD M.2 แบบ SATA 3 ก็เพียงพอแล้ว ถ้างบเยอะค่อยไป NVMe แล้วกัน
ปิดท้ายไว้มีโอกาสเราจะมารีวิว Acer Nitro 5 ปี 2019 รุ่นอื่นๆ กันอีก แต่ยังไงก็ขอเป็นรุ่นที่ให้ SSD มาด้วยเลย ก็จะดีมากๆ
- i5-9300H/GTX 1050/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 23,990 บาท
- i5-9300H/GTX 1650/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 25,990 บาท
- i7-9750H/GTX 1050/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 31,990 บาท (รุ่นที่รีวิว)
- i5-9300H/GTX 1660Ti/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 32,990 บาท
- i7-9750H/GTX 1650/RAM 8GB/SSD 128GB + HDD 1TB/Windows 10/144Hz ราคา 36,990 บาท
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบมาเล็กกระชับ น้ำหนักเบา งานประกอบแน่นหนา
- การแกะอัพเกรดทำได้ง่ายกว่าเดิม รองรับ SSD M.2 สองสล็อต
- แรมขนาด 8GB 1 แถว DDR4 เพียงพอต่อการใช้งาน อัพได้สูงสุด 32 GB
- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 แท้
- สเปคคุ้มราคาได้ทั้ง Core i7-9750H + GeForce GTX 1050 (3GB)
- มีโปรแกรม Nitrosense ปรับรอบพัดลมติดตั้งมาให้ในเครื่องเลย
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว IPS Full HD ขอบหน้าจอบางเฉียบ
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.0, USB 3.1 Type-C, HDMI
- LAN รองรับ Killer Ethernet E2500 ช่วยลด Ping เวลาเล่นเกมออนไลน์
- คีย์บอร์ดมีไฟ Backlit สีแดงตามสไตล์เกมมิ่ง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 7 ชั่วโมง
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
ข้อสังเกต
- ไม่มี SSD ติดตั้งมาให้ ทั้งๆ ที่ควรมีเป็นมาตรฐานแล้ว
- คุณภาพหน้าจอให้ค่าขอบเขตสีลดลงกว่ารุ่นก่อน
- ไม่ให้รุ่นหน้าจอ 120Hz เข้าใจว่า ขับไม่ไหวอยู่แล้ว
- ไม่มี SD(XC/HC) Card reader มาให้ในตัว
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Nitro 5 ปี 2019 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer Nitro โน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Acer Nitro 5 ปี 2019 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง แม้หน้าจอ 15.6″ ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แถมน้ำหนักเบาแค่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น
Best Value
Acer Nitro 5 ปี 2019 มีตัวเลือกสเปกมากมายไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผล i5-9300H / i7-9750H และการ์ดจอ GTX 1050 / 1650 / 1660Ti ราคาเริ่ม 23,990 บาท เรียกได้ว่าสมการรอคอยการมาของ Gaming Notebook อีกหนึ่งรุ่นที่ทุกคนให้ความสนใจ จากสเปกที่ดี ราคาคุ้มค่า ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 สเปกด้วยกัน กับช่วงราคา 23,990 – 36,990 บาท เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แบบนี้
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ Acer Nitro 5 ปี 2019 อยู่ในระดับที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบาเพียง 2.3 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมกลางๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ รวมถึงแบตอาจจะใช้งานได้ 7 ชั่วโมงจริงๆ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีของ Gaming Notebook จอ 15.6″
Unbox Preview
VDO Review
Specification
Acer Nitro 5 ปี 2019 เพราะมาพร้อมกับสเปกใหม่ล่าสุดด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 อย่าง Core i5-9300H หรือ i7-9750H ที่สำคัญได้การ์ดจอรุ่นใหม่มาเสริมทัพอัพเดทอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti/1650 ที่เป็นรุ่นใหม่ของ GTX เน้นความแรงและคุ้มค่าเป็นหลัก รวมไปถึงยังมีการ์ดจอ GTX 1050 รุ่นใหม่แต่ปรับสเปกเป็น 3GB GDDR5 เป็นตัวเลือกอยู่ (เดิมเป็น 4GB GDDR5)
มีจำหน่ายด้วยกัน 5 รุ่นย่อย ซึ่งตัวที่ NotebookSPEC ได้มาทดสอบ เป็นตัวรุ่น Acer Nitro 5 สเปก i7-9750H + GTX 1050 ราคา 31,990 บาท ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-9750H (2.60 – 4.50 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพไว้ใจได้ แรงกว่า i7-8750H พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (3GB GDDR5) รุ่นใหม่ มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB 5400 รอบ พร้อมรองรับติดตั้ง SSD แบบ M.2 PCIe จำนวน 2 ช่องอีกด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8 GB แบบ DDR 4 Bus 2666 สามารถอัพเกรดได้สูงสุด 32 GB
นอกจากนี้ Acer Nitro 5 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6″ ที่ความละเอียด Full HD ความละเอียด 1920 x 1080 พาเนล IPS ให้สีสันที่สวยงามทุกมุมมอง และในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ 2.0 ให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจกว่ารุ่นเดิม ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง Wave MaxxAudio ทำให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขั้นไปอีก ส่วนน้ำหนักจะอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัมถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″
ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 2.0 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi Intel Dual Band MU-Mimo มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac แถมมีประกัน On-site Service ถึง 3 ปีเต็ม ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่คุ้มค่าที่สุด ณ เวลานี้อีกรุ่นเลยทีเดียว
- i5-9300H/GTX 1050/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 23,990 บาท
- i5-9300H/GTX 1650/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 25,990 บาท
- i7-9750H/GTX 1050/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 31,990 บาท (รุ่นที่รีวิว)
- i5-9300H/GTX 1660Ti/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 32,990 บาท
- i7-9750H/GTX 1650/RAM 8GB/SSD 128GB + HDD 1TB/Windows 10/144Hz ราคา 36,990 บาท
Hardware / Design
เรื่องของการดีไซน์ออกแบบ หลักๆ ยังมีทรงคล้ายๆ เดิมแต่มีการปรับให้ตัวเครื่องมีความเล็กกระชับขอบจอบาง ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความบางเบากว่าเดิมแน่นอน รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น อย่าง Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ (Acer Nitro AN515-54) หน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS ขอบจอบางเพียง 7.18 มิลลิเมตร พื้นที่สัดส่วนกว่า 80% ทำให้มีขนาดเครื่องพอๆ กับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ แบบก่อน โดยมีรุ่นหน้าจอ Refresh Rate ที่ 60Hz และ 144Hz ให้เลือกตามความต้องการ วัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกเกรดดี
สำหรับสีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีดำแซมด้วยสีแดงเอาไว้อยู่ อย่างโดดเด่นและสวยงาม ที่ต้องว่า Acer Nitro 5 ฝาหลังจะมีลักษณะลวดลายผิวไม่เรียบบริเวณด้านข้างซ้ายและขวา ฝาบนจะโลโก้คำว่า Acer สีดำคมเข้มไม่ธรรมดา ผิวฝาบนพื้นผิวเป็นพลาสติกมีสีดำด้านให้สัมผัสดีมีคุณภาพสูง พร้อมมีเกล็ดเล็กๆ แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นรอยนิ้วมือง่ายนิดหนึ่ง ซึ่งคงต้องหมั่นคอยเช็ดทำความสะอาดสักหน่อย เวลามือมีเหงื่อออกแล้วไปจับ รวมไปถึงขอบตัวเครื่องบริเวณฝาพับ Acer Nitro 5 ปี 2019 จะเป็นสีแดงพร้อมกับมีคำว่า Nitro เอาไว้ โดยสามารถกางหน้าจอได้มากกว่า 145 องศาทีเดียว
ทางด้านหลังตัวเครื่องก็จะมีช่องระบายความร้อน 1 ช่องขนาดใหญ่ทางซ้ายเห็นเป็นลักษณะของฟินสีดำสนิท ส่วนช่องทางขวาจะเป็นช่องที่ดีไซน์คล้ายกันเป็นตะแกรงสีดำ แต่ไม่มีพัดลมติดตั้งอยู่ พร้อมแกนฝาพับจะเป็นสีแดง พร้อมมีตัวอักษรเขียนไว้ว่า Nitro แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ซึ่งดูสวยงามโดดเด่นมากเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนคู่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ (ตามที่ Acer เคลมไว้) พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย
ด้านในตัวเครื่องงานดีไซน์ก็เหมือนกับ Acer Nitro 5 รุ่นเก่าปี 2018 โดยมีพื้นผิวคล้ายกับด้านนอก ที่มีการติดตั้งปุ่ม Power ไว้มุมขวาบนสุดของชุดคีย์บอร์ด รวมไปถึงยังมีการติดตั้งปุ่ม NitroSense ไว้เหนือแป้นตัวเลขด้วย กดใช้งานได้สะดวกดี นอกจากนั้นก็เป็นสติกเกอร์ต่างๆ ติดเอาไว้ไม่ว่าจะเป็น
ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX รุ่นใหม่ รวมไปถึงมีการบอกถึงบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงตามสไตล์ของ Acer อีกด้วย อีกทั้งยังมีการแจกแจงถึงฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิเช่น Dual SSD M.2 + One HDD Slot / ขอบจอบาง / พาเนล IPS / NitroSense + CoolBoost / Network Optimize / HDMI Port เป็นต้น
ส่วนการอัพเกรดแรมและ SSD ในอนาคตนั้น แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องถอดฝาล่างของตัวเครื่องออกมา โดยวัสดุของฝาหลังนี้ก็เป็นพลาสติกเกรดดี พื้นผิวเป็นแบบสากๆ ทำให้หยิบจำแล้วไม่ลื่นไหล พร้อมยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ 4 จุดด้วยกัน ซึ่งมีความมั่นคงดี ซึ่งเมื่อมองไปที่ช่องด้านล่างก็จะพบกับช่องดูดลมเย็นพร้อมกับพัดลม 2 ตัว ที่กรณีที่เราเปิดเครื่องก็จะเห็นไฟสีแดงจากคีย์บอร์ดติดอยู่ด้วย ดูแล้วก็สวยงามไปอีกแบบ ที่เดี๋ยวเราจะพาไปแกะชมข้างในกันอีกที
สรุปแล้วสำหรับเรื่องขนาดของ Acer Nitro 5 ปี 2019 รวมไปถึงดีไซน์การออกแบบ เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อน ซึ่งยังมีการทรงรูปลักษณ์เดิมไว้ เปลี่ยนไปเล็กน้อยเรื่องของลวดลายฝาหลัง รวมไปถึงมิติตัวเครื่องลดลง ทำให้พกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้เล็กมากจนเกินไปเหมือน Gaming Notebook บางรุ่นที่เน้นความบางเบา (จนบางครั้งก็บางเกิน ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดีนัก) กับน้ำหนักตัวเครื่อง 2.3 กิโลกรัม รวมกับอแดปเตอร์แล้วก็ถือว่าพกพาไปไหนมาได้อยู่ที่ประมาณ 2.6 กิโลกรัม แม้ดูแล้วอาจจะไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนอกจากมิติตัวเครื่องและน้ำหนักที่ลดลง แต่ก็คาดว่าน่าจะถูกใจใครหลายๆ คน กับการมาของ Acer Nitro 5 ปี 2019 รุ่นใหม่ไม่มากก็น้อย
Keyboard / Touchpad
Acer Nitro 5 ปี 2019 มีตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6 ”ขอบหน้าจอบางก็จริง แต่ก็ยังสามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ ที่มาพร้อมปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีแดง รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง รวมถึงปุ่ม NitroSense จะมีขอบเป็นสีแดงเด่นออกมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ Backlit สีแดง (ปรับแสงได้ 5 ระดับ) ที่ให้ความสว่างพอสมควรดูเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความนุ่มติดมือ รู้สึกได้เลยว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน
ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา มีขอบเป็นสีแดง ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
Screen / Speaker
Acer Nitro 5 ปี 2019 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.18 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง ซึ่งในรุ่นที่เรานำมาทดสอบนั้นจะเป็นรุ่นหน้าจอ Refresh Rate 60Hz แต่ในรุ่นรองท็อปจะเป็น 144Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก ซึ่งดูรวมๆ แล้งทั้งสีสันและความคมชัดจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Nitro 5 ปี 2019 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 61% และ Adobe RGB ที่ 46% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอ เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 230 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างกว่าหน้าจอเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว
สรุปสุดท้ายด้วยคะแนนรวมทั้งหมดโดยตัวเครื่อง Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ปี 2019 ก็ได้คะแนนไป 3.5 คะแนน ซึ่งเมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว เทียบกับ Acer Nitro 5 รุ่นเก่าปี 2018 ให้ค่าขอบเขตสีที่น้อยกว่า รวมไปถึงคะแนนรวมก็น้อยกกว่าด้วย แต่ในส่วนของการใช้งานทั่วไปไม่มีผลแต่อย่างใด
ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer Nitro 5 ปี 2019 นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Waves MaxxAudio ที่ผสานกับ Acer TrueHarmony เพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบส เสียงสนทนา และระดับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งและจากการใช้งานรู้สึกว่าดีกว่ารุ่นเก่าด้วย
Connector / Thin And Weight
Acer Nitro 5 ปี 2019 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.1 Type-A (เป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.1 Type-C, 1 x USB 2.0, HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2500 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน ทั้งในการโอนถ่ายไฟล์หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เทียบกับรุ่นก่อนก็ถือว่าดีกว่าหลายด้าน
ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 4.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac รูปแบบมาตราฐาน Gigabit Wi-Fi 5 ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครันและทางด้านการพกพา Acer Nitro 5 ปี 2019 ทำได้น่าพอใจในระดับที่ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม ด้วยมิติตัวเครื่องกระชับเทียบเท่าหน้าจอ 14″ แบบก่อนๆ รวมถึงน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.3 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.6 กิโลกรัม นับได้ว่าพกพาสะดวกอยู่เวลาใช้งานนอกสถานที่
Inside / Upgrade
การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer Nitro 5 ปี 2019 นั้นสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จะมีน็อตแค่ตัวเดียวที่มีสติกเกอร์แปะอยู่ เราสามารถเจาะทะลุไปได้เลย จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง โดยเวลาทำห้ามใจร้อนเด็ดขาด ไม่งั้นเกลียวใต้ฝาอาจจะหักได้ แล้วค่อยๆ แงะฝาขึ้นมาอีกที งานประกอบการจัดวางตำแหน่งคล้ายกับรุ่นเดิมมีฮีท์ไปป์สองเส้นพาดผ่าน CPU และ GPU โดยมีพัดลมสองตัวติดกัน ช่องระบายความร้อนแถวยาวช่องเดียว
ซึ่งแรมกับฮาร์ดดิสก์จะแยกส่วนกันอย่างชัดเจน ที่เห็นได้ถึงแรมสามารถติดตั้งได้ 2 แถว โดยติดตั้ง 8GB มาแล้ว 1 แถว สามารถอัพเกรดเพิ่มได้อีกแถวทันที โดยรองรับสูงสุดที่ 32GB ส่วน SSD M.2 NVMe รองรับการติดตั้ง 2 สล็อตด้วยกัน พร้อมมีน็อตมาให้ด้วย ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นฮาร์ดดิสก์แบบ 2.5″ ที่ให้มาอยู่แล้วเป็นมาตรฐาน อย่างไรก็ตามการแกะฝาล่างนั้นไม่ทำให้หลุดประกันแต่บริษัทจะไม่รับผิดชอบหากแกะเองแล้วเกิดความเสียหาย สรุปแล้วถือได้ว่า Acer ทำการบ้านมาได้ดีกว่าเดิม การแกะตัวเครื่องเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายและก็สะดวกทีเดียว
Performance / Software
โดย Acer Nitro 5 ปี 2019 รุ่นที่ได้รับมารีวิวมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-9750H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 8GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
.
*CPU-Z เวอร์ชั่นล่าสุด ยังไม่สามารถแสดงว่าเป็น Core i7-9750H ได้
ยกระดับประสิทธิภาพ จากการที่ Acer Nitro 5 ปี 2019 มีการนำชิปประมวลผล หรือ CPU รุ่นล่าสุดจาก Intel Core i Gen 9 มาใส่ไว้ใน Gaming Notebook ตัวใหม่นี้ด้วย ทำให้การประมวลผลการทำงานหรือการเล่นเกมของ Gaming Notebook รุ่นใหม่นี้ ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยทำได้มาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 45% มีผลอย่างมากต่อการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลของ CPU หนักๆ เช่น การต่อต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์งาน 3D เป็นต้น
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 รุ่นใหม่มีแรมขนาด 3GB แบบ GDDR5 (รุ่นก่อนเป็น 4GB GDDR5) ที่ต้องบอกว่าทาง NVIDIA ตั้งใจเอามาแทนที่ของเดิม โดยรุ่นบนกว่านี้จะเป็น GTX 1650 4GB GDDR5 และ GTX 1660Ti 6GB GDDR6 ไปเลย
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าอย่าง Core i7-8750H ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงในระดับนึง เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับ GTX ที่เน้นการทำงานหรือเล่นเกมเป็นหลัก
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 5400 ที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่เป็น 8.7 MB/s และสูงสุดที่ 140.4 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 100.6 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 19.9 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นก็ถือว่าดีตามมาตรฐาน
แต่ในการใช้งานจริงๆ นั้น ให้ประสบการณ์ใช้งานที่น่าหงุดหงิดไม่น้อยเลย เพราะทั้งหน่วงและช้า ทำหลายๆ อย่างพร้อมกันไม่ได้ จะมีอากรค้างอยู่บ่อยๆ รวมไปถึงโหลดเกมโหลดฉากก็จะช้ากว่ารุ่นที่มี SSD มา (บางทีเฟรมร่วงหรือกระตุกไปเลย) อย่างไรก็ตามควรต้องอัพเกรด SSD M.2 NVMe หรือ SATA3 เพื่อให้การใช้งานโดยรวมลื่นไหลขึ้นไปอีก เพราะต่อให้สเปกดีแค่ไหน แต่ถ้าขาด SSD ถือว่าเป็นปัญหาเหมือนกัน
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,934 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจประมาณนึง โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 30 – 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 ออกมาได้อย่างเต็มที่ (จริงๆ รีดได้ถึงพวก RTX 2080 ได้เลยแหละ) ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 ก็ถือว่าพอได้อยู่ ติดอยู่ตรงที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ปกตินี่แหละ
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ แต่สำหรับ BF V ต้องยอมรับว่าจำเป็นต้องปรับเป็น Low เลย ไม่อย่างงั้นจะไม่สามารถเล่นได้เลย
เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 40 – 60 – 80 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง รวมไปถึงอาจจะมีอาการโหลดฉากช้าบ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นพอได้อยู่
Acer Nitro 5 ปี 2019 มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ NitroSense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า CoolBoots เร่งรอบพัดลมให้สุดที่ 6000 รอบทั้ง 2 ตัว ที่ใช้ระบายความร้อน CPU/GPU เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงการปรับโหมดการใช้งาน เช่นประหยัดพลังงานใช้แบตเตอรี่ก็ต้องเป็น Power Saver และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน NitroSense เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว
นอกจากนี้ทาง Acer Nitro 5 ปี 2019 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Acer Nitro 5 ปี 2019 ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 3750mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 7 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น Acer Nitro 5 ปี 2019 เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 35 – 45 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมดพัดลมระดับสูงสุดด้วยารปรับเป็น CoolBoots เพื่อให้พัดลมทำงาน 100%
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ไม่เกิน 90 – 95 องศาเซลเซียส นับว่าไม่ได้ร้อนจนเกินไปนัก ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 70 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมากับขนาดตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดพกพาง่ายกว่าเดิม สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยโหมด CoolBoots นั่นเอง
Conclusion / Award
สมการรอคอยสำหรับการมาของ Gaming Notebook อย่าง Acer Nitro 5 ปี 2019 กันไหม ด้วยการเปลี่ยนแปลงของดีไซน์ใหม่ ได้ขอบจอบางลงกว่ารุ่นก่อน มิติตัวเครื่องเล็กลงกว่ารุ่นก่อน และน้ำหนักก็เบาลงกว่ารุ่นก่อน การประกอบก็แน่นอนไว้ใจได้ ถอดอัพเกรดก็ง่ายขึ้น เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ น่าจะถูกใจกันไม่น้อย (รองรับการใส่ SSD M.2 NVMe แบบ 2 สล็อต) อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วก็เป็นการต่อยอดจากรุ่นเดิมอยู่ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบใหม่ทั้งหมดเสียทีเดียว
ส่วนสเปกก็ได้รับการอัพเกรดให้เป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ตัวแรง (หรือ i5-9300H ที่แรงไม่แพ้กัน) สำหรับการ์ดจอก็เป็นตัวใหม่ ไม่ว่าจะเป็น GTX 1050 3GB GDDR5 หรือ GTX 1650 / GTX 1660 Ti โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 23,990 บาท จนไปถึง 36,990 บาท ได้ประกัน On-site Service 3 ปีในทุกรุ่น แต่ก็มีข้อเกตที่ว่ามีเพียงรุ่นเดียวที่ให้ SSD M.2 ความจุ 128GB มา เพราะจริงๆ ทุกรุ่นควรมีมาให้อยู่แล้วเป็นมาตรฐาน เพราะถ้าไม่มี SSD ต่อให้สเปกแรงแค่ไหน ก็มีอาการค้าง ช้า หน่วงอยู่ดี ทั้งใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม
ผลทดสอบของหน้าจอก็จะเห็นว่ามีค่าขอบเขตสีที่ลดลงจากเดิม ซึ่งอาจจะไม่มีผลต่อการใช้งานทั่วไปใดๆ แต่คาดว่าคงเป็นหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อของเพื่อนๆ เหมือนกัน สำหรับคนที่เอาไปทำงานด้านสีที่จริงจัง ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็ครบครันกว่าเดิมด้วย USB 3.1 Type-C จำนวน 2 ช่อง แต่ก็ยังมี USB 2.0 Type-C อีกช่องอยู่ไว้เชื่อมต่อเมาส์เป็นหลัก พร้อมกับ LAN เป็น Killer Ethernet E2500 ทำให้เมื่อต่อสาย RJ45 ก็จะช่วยการเล่นเกมที่ลื่นไหลได้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็นมาตรฐานที่ดีมีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เหนือชั้นกว่า Gaming Notebook ทั่วไปที่ไม่มีตรงนี้
สำหรับการระบายความร้อนก็นับว่าทำได้ดีตามาตรฐานอยู่ คือ ไม่ได้ร้อนเกินไปนัก จนกระทบการำงานของเครื่อง เข้าใจว่าทาง Acer ออกแบบมาได้ดีขึ้น แต่ชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ก็แรงและร้อนขึ้นเช่นกัน ฉะนั้นถ้าดูจากผลทดสอบอุณหภูมิก็นับว่าทำได้ดีตามเกณฑ์แล้ว ส่วนการ์ดจอรุ่นที่ได้รับมาทดสอบก็เป็น GTX 1050 ที่เป็นรุ่นใหม่ก็จริง แต่ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพแรงขึ้นมาแต่อย่างใด กลับเป็นรุ่นใหม่ที่ลดแรมการ์ดจอเหลือ 3GB ด้วย สมกับการ์ดจอ Gaming ระดับเริ่มต้นที่ทาง NVIDIA วางไว้จริงๆ (แกมอยากให้เราซื้อ GTX 1650 ขึ้นไปมากกว่า)
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ เน้นให้ประสิทธิภาพต่อราคาคุ้มค่าล่ะก็ Acer Nitro 5 ปี 2019 น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว กับ 5 รุ่น 5 สเปกให้เลือก โดยรวมแล้วถือว่ามีความคุ้มค่าพอสมควร ด้วยไม้เด็ดก็คือ On-Site Service 3 ปี และส่งซ่อมศูนย์ด่วนแบบรับภายใน 3 ชั่วโมงจัดเต็มเหมือนเดิม เรียกได้ว่าครบครันเสร็จสรรพในเครื่องเดียวโคตรคุ้ม
แต่สุดท้ายอย่าลืมเผื่อเงินไว้อัพเกรด SSD m.2 ด้วยละสำหรับรุ่นที่ไม่มี มิฉะนั้นอาจจะใช้งานเครื่องได้ไม่ประสบการณ์สเปกแรง เสียดายที่ Acer Nitro 5 ปี 2019 เครื่องที่ได้รับมารีวิวใช้ i7-9750H + GTX 1050 แต่เปิดเครื่องนาน เจอ Disk 100% หรืออาการค้าง กระตุก เล่นเกมไม่ลื่นไหลอย่างที่ควรจะเป็น เดี๋ยวหาว่าไม่เตือน แนะนำเป็น SSD M.2 แบบ SATA 3 ก็เพียงพอแล้ว ถ้างบเยอะค่อยไป NVMe แล้วกัน
ปิดท้ายไว้มีโอกาสเราจะมารีวิว Acer Nitro 5 ปี 2019 รุ่นอื่นๆ กันอีก แต่ยังไงก็ขอเป็นรุ่นที่ให้ SSD มาด้วยเลย ก็จะดีมากๆ
- i5-9300H/GTX 1050/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 23,990 บาท
- i5-9300H/GTX 1650/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 25,990 บาท
- i7-9750H/GTX 1050/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 31,990 บาท (รุ่นที่รีวิว)
- i5-9300H/GTX 1660Ti/RAM 8GB/HDD 1TB/Windows 10 ราคา 32,990 บาท
- i7-9750H/GTX 1650/RAM 8GB/SSD 128GB + HDD 1TB/Windows 10/144Hz ราคา 36,990 บาท
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบมาเล็กกระชับ น้ำหนักเบา งานประกอบแน่นหนา
- การแกะอัพเกรดทำได้ง่ายกว่าเดิม รองรับ SSD M.2 สองสล็อต
- แรมขนาด 8GB 1 แถว DDR4 เพียงพอต่อการใช้งาน อัพได้สูงสุด 32 GB
- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 แท้
- สเปคคุ้มราคาได้ทั้ง Core i7-9750H + GeForce GTX 1050 (3GB)
- มีโปรแกรม Nitrosense ปรับรอบพัดลมติดตั้งมาให้ในเครื่องเลย
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว IPS Full HD ขอบหน้าจอบางเฉียบ
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.0, USB 3.1 Type-C, HDMI
- LAN รองรับ Killer Ethernet E2500 ช่วยลด Ping เวลาเล่นเกมออนไลน์
- คีย์บอร์ดมีไฟ Backlit สีแดงตามสไตล์เกมมิ่ง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 7 ชั่วโมง
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
ข้อสังเกต
- ไม่มี SSD ติดตั้งมาให้ ทั้งๆ ที่ควรมีเป็นมาตรฐานแล้ว
- คุณภาพหน้าจอให้ค่าขอบเขตสีลดลงกว่ารุ่นก่อน
- ไม่ให้รุ่นหน้าจอ 120Hz เข้าใจว่า ขับไม่ไหวอยู่แล้ว
- ไม่มี SD(XC/HC) Card reader มาให้ในตัว
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Nitro 5 ปี 2019 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer Nitro โน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Acer Nitro 5 ปี 2019 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง แม้หน้าจอ 15.6″ ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แถมน้ำหนักเบาแค่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น
Best Value
Acer Nitro 5 ปี 2019 มีตัวเลือกสเปกมากมายไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผล i5-9300H / i7-9750H และการ์ดจอ GTX 1050 / 1650 / 1660Ti ราคาเริ่ม 23,990 บาท เรียกได้ว่าสมการรอคอยการมาของ Gaming Notebook อีกหนึ่งรุ่นที่ทุกคนให้ความสนใจ จากสเปกที่ดี ราคาคุ้มค่า ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 สเปกด้วยกัน กับช่วงราคา 23,990 – 36,990 บาท เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แบบนี้
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ Acer Nitro 5 ปี 2019 อยู่ในระดับที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบาเพียง 2.3 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมกลางๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ รวมถึงแบตอาจจะใช้งานได้ 7 ชั่วโมงจริงๆ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีของ Gaming Notebook จอ 15.6″