MSI PS63 Modern 8SC เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความโดดเด่นออกมาจากผลิตภัณฑ์ Gaming Notebook แบบปกติของ MSI ด้วยความบาง 15.9 มม. และน้ำหนักที่เบาเพียง 1.6 กิโลกรัม รูปแบบโน๊ตบุ๊คบางเบาเรียกได้ว่าถือมือเดียวได้สบายๆ พกพาไปใช้งานนอกบ้านได้อย่างสะดวก มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i7-8565U ที่แม้จะเป็นตระกูล U แต่ก็แรงไม่แพ้กัน กราฟิกการ์ดรุ่นใหม่อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q (4GB GDDR 5) แรม 16GB พร้อม SSD NVMe ความจุ 512GB ได้ Windows 10 ในราคาเพียง 46,900 บาท
มีความแปลกใหม่จากเดิมคือ ดีไซน์การออกแบบที่ดูทันสมัยและแตกต่างจาก MSI แบบเดิมๆ พร้อม Finger Scan ที่จะช่วยให้โน๊ตบุ๊คของเรามีความปลอดภัย ที่สำคัญขอบหน้าจอก็มีความบางมากๆ แทบจะไร้ขอบทีเดียว ทำให้จอ 15.6″ แต่ตัวเครื่องเทียบเท่า 14″ อีกทั้งด้วยที่เป็นพาเนล IPS ช่วยให้มุมมองในการมองเห็นเพิ่มมากยิ่งขึ้น พร้อมขอบเขตสีที่กว้างกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เรียกได้ว่าทั้งสเปก ฟีเจอร์ วัสดุ เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาหลายๆ ค่ายในราคาที่ถูกกว่าด้วย
Specification
สเปกภายในของตัว MSI PS63 Modern 8SC ที่แอดมินโป้งได้รับมารีวิวคือตัวขายจริง โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 170 องศา ด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-8565U ความเร็ว 1.8GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 3.6GHz
โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 8 (Whiskey Lake) รุ่นล่าสุด กราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q (GDDR5 4GB) ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ โดยมีการปลดปล่อยความร้อนที่น้อยกว่ารุ่นปกติ
สเปกที่แตกต่างกันจะเป็นในส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 16GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน สำหรับฮาร์ดดิสก์ความเร็วสูงแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานแบบสุดๆ แทบไม่ต้องอัพเกรดอะไรเลย ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC และ Bluetooth 5.0 ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น !!!
นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call ติดตั้งไว้ใต้หน้าจอ เพราะขอบจอบางมากๆ รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้มาใช้งานได้ทันทีในการเปิดเครื่องครั้งแรก พร้อมซอฟต์แวร์ Ceadtor Center ช่วยปรับแต่งการทำงาน สนนราคา MSI PS63 Modern 8SC อยู่ที่ 46,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ MSI
Hardware / Design
สำหรับ MSI PS63 Modern 8SC ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงแต่บางเบาขนาดหน้าจอ 15.6″ รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่งที่ครบเครื่อง ถูกต่อยอดมาจาก MSI Prestige รุ่นก่อนๆ ในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบา พกพาได้สะดวก โดยยังรักษาความเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม ทำให้ถือมือเดียวได้สบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันพรีเมียมด้วยวัสดุอะลูมิเนียม ตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมตัดขอบเพชรเพิ่มความหรูหรา
โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการเลือกใช้ให้มีความเข้ากันอย่างที่สุด กับพื้นผิวส่วนของฝาหลังและตัวเครื่องเป็นลักษณะแบบด้าน พร้อมกับใช้สีน้ำเงิน Galaxy Blue กับตัวเครื่องด้านนอกและสีเทากับตัวเครื่องด้านในตลอดทั้งตัวเครื่อง ตั้งแต่โลโก้ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วเป็นการเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมๆ ที่โน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพต้องดูดำๆ ดีไซน์โบราณ ให้กลายเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดูน้อยแต่เรียบหรูแทนนั่นเอง
ด้านฐานล่างตัวเครื่องจากรุ่นก่อนใช้วัสดุผ้าอะลูมิเนียมชิ้นเดียวตลอดทั้งชิ้น ลักษณะเป็นอะลูมิเนียมเรียบๆ แตกต่างจากฝาหลังและตัวเครื่องด้านใน พร้อมมียางรองจำนวน 5 จุด ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ทาง MSI ใส่ใจเป็นพิเศษอยู่แล้วไม่แพ้ฝั่ง Gaming Notebook เลย
ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ตรงกลางเหนือชุดคีย์บอร์ด พร้อมบริเวณรอบๆ ก็เป็นช่องระบายความร้อนที่ที่ถูกซ่อนเอาไว้อย่างเรียบเนียน ทีสำคัญ MSI PS63 Modern 8SC ใช้เทคโนโลยี Cooler Boost แบบพัดลม 2 ตัวอยู่ทางด้านหลังของตัวเครื่อง ยิงเป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 1 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 3 เส้น โดยแยกฝั่ง CPU และ GPU ออกจากกัน ในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 5.6 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ซึ่งการใช้งานจริงมุมมองมันก็จะดู เป็นปกติกว่าโน๊ตบุ๊คบางรุ่นที่ย้ายไปติดตั้งที่อื่น ส่วนความบางตัวเครื่องอยู่ที่ 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่า MSI นำเสนอโน๊ตบุ๊คที่ทั้งเบามากๆ แถมยังบางสุดๆ ท้าชนกับแบรนด์อื่นๆ ได้อย่างสบายๆ เลยครับ สำหรับการเปิดปิดฝาของหน้าจอก็ทำได้ง่ายเพราะขอบตัวเครื่องด้านหน้าได้มีการเว้นร่องเว้าเอาไว้สวยงาม
ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่าโน๊ตบุ๊คทำงานหน้าจอ 15.6″ ทั่วไป ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI PS63 Modern 8SC ไม่ใช่แค่บางเบาและสเปกดีแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คสายบางเบาเน้นพกพา แต่มาพร้อมการ์ดจอระดับ GTX 1650 Max-Q สเปกอื่นๆ ก็จัดเต็ม ช่วงงบประมาณ 4x,xxx บาทก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาอาจจะสูงกว่าพวก Gaming Notebook แต่ได้น้ำหนักที่เบาและตัวเครื่องที่ดูหรูมาแทน
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI PS63 Modern 8SC เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คเล่นเกมรุ่นอื่นๆ ของทาง MSI แบบสิ้นเชิง ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด ด้วยการที่รูปแบบปุ่มมีขนาดที่ใหญ่โตกว่าคีย์บอร์ด MSI แบบเดิมๆ ที่สำคัญด้วยไฟ LED สีขาวสวยงาม เข้ากับตัวปุ่มสีเงินเทาเป็นอย่างดี ดูแล้วสะอาดตา พรีเมียมสุดๆ แน่นอนว่าไม่มีชุด Numpad อยู่แล้ว จากการที่ตัวเครื่องมีมิติที่ลงนั่นเอง
ทัชแพดมีขนาดใหญ่มากๆ ลักษณะเป็นฝืนผ้ายาว โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด วัสดุที่ใช้ทำจากกระจกคุณภาพดี ทำให้การใช้งานมีความเรียบลื่น พร้อมกับพื้นที่ในการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น 35% รองรับการใช้งานแบบมัลติทัช การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับทัชแพดรุ่นก่อนๆ มีการตัดขอบด้านบนดูโค้งมน เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม พร้อมมีฟีเจอร์อย่างสแกนลายนิ้วมือ Finger Print ไว้ให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อที่จะเข้าใช้งานตัวเครื่องเพื่อความปลอดภัยแบบไม่ต้องใส่รหัสไปมาทุกครั้งอีกด้วย ส่วนการใช้งานก็ตอบสนองได้รวดเร็วไม่แพ้มือถือในปัจจุบันเลยล่ะ
Screen / Speaker
MSI PS63 Modern 8SC ได้ติดตั้งหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่ค่อนข้างน่าประทับใจ โดยการใช้หน้า Desktop ปกติที่ตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ มีความเรียบเนียนตาทำให้ใช้งานได้สะดวก ขอบจอจะเป็นพลาสติกสีดำบางฉียบเพียง 5.6 มิลลิเมตรเท่านั้น
เรียกได้ว่ากำลังพอดีทีเดียว และด้วยความที่จอเป็นแบบด้านที่ให้เรื่องสีสันสดใส แต่ในการใช้งานไม่ควรหันจอไปทางแหล่งกำเนิดแสงหรือในที่ที่สว่างมากๆ เพราะอาจจะรบกวนการทำงานของเราได้ เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นพร้อมกางได้ถึง 145 องศา
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอเครื่องมือ Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 96% / AdobeRGB ที่ 71% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าทั่วไปมากๆ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องบนซ้ายเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องล่างขวาเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 11% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 จากคะแนนเต็ม 5 ถือว่าน่าประทับใจ
ลำโพงยังจัดวางมาในตำแหน่งส่วนของขอบตัวเครื่องด้านหน้าในส่วนด้านใต้เครื่อง แบบขนาด 2W x 2 คุณภาพเสียงเบสให้แน่นลึกยิ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เพราะชุดลำโพงข้างในขยับได้เมื่อต้องการเสียงทุ่ม สำหรับคุณภาพเสียงการใช้งานต่าง ๆ สามารถทำออกมาได้ดี น่าประทับใจให้เสียงที่ดังพอตัว เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแน่นอน
Connector / Thin And Weight
MSI PS63 Modern 8SC จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานบางเบาหน้าจอ 15.6″ ซึ่งมีไซส์และมิติโดยรวมเล็กกระทัดรัดกว่าปกติ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.1 Type-A (ด้านซ้ายรองรับเทคโนโลยี Quick Change 3.0) , USB 3.1 Type-C, 1x HDMI 1.4, micro-SD Card Reader และ Mic-in/Headphone-out อย่างไรก็ตาม พอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ อาจจะดูไม่มากมายเท่าพวกโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ แต่ในการใช้งานจริงก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะ อีกทั้งมีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac พร้อมใช้งานตามมาตรฐานโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ปี 2019
ส่วนของการพกพาของ MSI PS63 Modern ก็ถือว่าทำได้เยี่ยมยอดเมื่อเทียบกับสเปก ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น ดีกว่าตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คค่ายอื่นๆ ที่ใช้สเปกนี้มาก ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 90 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบากว่าปกติ (แต่สายไฟดูหนาและยาวไป ถ้าให้ดีเป็นหัวพลิกออกมาเลยน่าจะดีกว่า) ทำให้การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากๆ น้ำหนักโดยรวมแล้วไม่เกิน 1.8 กิโลกรัมแน่นอน นับว่า MSI PS63 Modern 8SC เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังที่เหมาะกับการใช้งานตามร้านกาแฟ ออฟฟิศ มหาวิทยาลัยมากๆ เครื่องหนึ่ง
Performance / Software
MSI PS63 Modern 8SC เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8565U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.6 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ
ทียบกับรุ่นก่อนเรียกได้ว่าแรงขึ้นพอตัวเพราะ Core เยอะขึ้น แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้กพวก Core i7 ตัวซีรีย์ H ไม่ได้ตรงๆ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบาย
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 620 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่ามาทดแทนในส่วนของการ์ดจอรุ่นเก่าอย่าง GTX 1050Ti Max-Q ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมเดียวกับ RTX Series ที่เหนือกว่าในเรื่องของความแรงและความร้อนที่ปลอดปล่อยออกมาน้อนลง ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติได้ดี โดยปลดปล่อยความร้อนและประหยัดพลังงานมากกว่า ซึ่งเดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ของ Toshiba ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1603MB/s และเขียนที่ 876MB/s นับว่ามีความเร็วที่ค่อนข้างสูง
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,515 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ สมกับที่เป็นโน๊ตบุ๊คการ์ดจอแยกระดับ GTX 1650 ซึ่มีคะแนนมากกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาการ์ดจออนบอร์ดทั่วไป
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1650 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว แม้จะไม่รองรับฟีเจอร์ DLSS / Ray Tracing อย่าง RTX Series ก็ให้ภาพสวยงามไม่แพ้กัน แถมไม่กินทรัพยากรเครื่องเพิ่มเติมด้วย เรียกได้ว่าการ์ดจอ GTX 1650 มาทดแทน GTX 1050Ti ได้อย่างสวยงาม
ต่อด้วยเกมที่คนส่วนมากนิยมเล่นกัน ซึ่งโดยส่วนตัวก็เล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2, Overwatch, PUBG ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ Native 1920 x 1080 พิกเซล สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าปรับสุดทุกอย่างเลยผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับที่น่าประทับใจ เล่นได้สบายๆ ภาพก็สวยงามพอตัว ส่วนเกมอื่นๆ ที่ไม่เกินทรัพยากรเท่าอย่าง CS:GO หรือ Point Blank รวมไปถึงเกมออนไลน์อื่นๆ ก็น่าจะเล่นได้ลื่นๆ อย่างแน่นอน
MSI Creator Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่รับมาจาก MSI DRAGON CENTER ถูกมาปรับใช้ใน MSI PS63 Modern 8SC นี้ด้วย จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- Creator Mode : ศูนย์รวมทางลัดโปรแกรมเพื่อใช้งานได้รวดเร็ว
- System Monitoring : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Notebook
- Battery Master : ปรับแต่งการตั้งค่าแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ดีที่สุด
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
หรือจะย่อเป็นหน้าต่างโปรแกรมเล็กๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ สะดวกใช้งานด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI PS63 Modern 8SC เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 8:30 ชั่วโมงโดยประมาณ ถือว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ไม่ยาวนานอย่างที่เคลมเอาไว้ว่าที่ 16 ชั่วโมง แต่โดยส่วนตัวก็ถือว่ายอมรับได้ (ใช้ได้นานมากแล้ว) จากการที่นำหนักเบาตัวเครื่องบาง พกพาอแดปเตอร์ไปอีกตัวก็พอไหวอยู่
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 35 – 43 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU อยู่ที่ไม่เกิน 100 องศาเซลเซียส (MSI ควบคุมเอาไว้ โดยจะลดความเร็วของ CPU เอง) แต่สำหรับการ์ดจอ GPU นั้นเย็นมากๆ ร้อนสุดๆ เพียง 56 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่มีฟีเจอร์ Cooler Boots กรณีที่ใช้งานหนักๆ แต่ถ้าใช้งานทั่วไป พัดลมแทบไม่มีเสียงเลย
Conclusion / Award
เราเริ่มได้เห็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพจากทาง MSI ออกมาใหม่เรื่อง ที่ปกติเราจะเห็นแต่สาย Gaming ถึงเวลาที่ MSI จะต้องออกผลิตภัณฑ์ตระกูล Prestige ตัวใหม่ จึงนำมาประยุกต์เข้ากับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และตัวเองถนัด อย่างการนำข้อดีต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ตระกูล Gaming มาทำให้มีความเป็นมืออาชีพ เหมาะสำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาพ และงานกราฟฟิกต่าง ๆ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คไว้ใช้ทำงานเป็นหลัก แล้วก็อาจจะไปนำเล่นเกมได้บ้าง
MSI PS63 Modern 8SC โน๊ตบุ๊คสำหรับมืออาชีพหน้าจอ 15.6 นิ้ว สุดบางเฉียบ ดีไซน์ภายนอกคล้ายๆ กับ MSI GS65 ที่มีจุดเด่นเรื่องความบางเบา และมีประสิทธิภาพเยี่ยม ทำให้มันกลายมาเป็น Ultrabook ที่มีขนาดกระทัดรัด ดีไซน์ภายนอกจะเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเงิน เพื่อให้มีความเรียบหรูมากขึ้น และมาพร้อมกับไฟคีย์บอร์ดสีขาว ทัชแพดก็มีขนาดที่ใหญ่โตมากๆ มีที่สแกนลายนิ้วมือด้วย โดยที่วัสดุตัวเครื่องจะทำมาจากอะลูมิเนียม และมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม เบามาก!! ถือมือเดียวได้สบายๆ
ส่วนสเปคด้านในอย่าง Intel Core i7-8565U + GTX 1650 Max-Q ก็ถือว่าแรงพอตัว ประสิทธิภาพการทำงานดีกว่ารุ่นก่อนๆ มาก เมื่อดูจากรายละเอียดโดยรวมแล้วจะพบว่ามันเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่มีความบางเบาและแรงพอตีว เน้นความประหยัดพลังงาน แต่ก็ใช้เล่นเกมได้ดีเยี่ยม เหมาะกับคนที่เน้นทำงาน เล่นเกมบ้าง และต้องการความบางเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเกือบ 9 ชั่วโมง โดยรวมแล้วสำหรับการใช้งานรอบด้าน หลากหลายน่าประทับใจ หาไม่ได้ในพวก Gaming Notebook ช่วงราคานี้แน่นอน
โดยเฉพาะในแง่ของการดีไซน์ MSI PS63 Modern 8SC มีเอกลักษณ์แต่ทันสมัยและแต่ต่างจากรุ่นก่อนหน้า ด้วยโลหะวัสดุอลูมิเนียมและสีสันน้ำเงิน Galaxy Blue และยังมาพร้อมความบาง เบาพกพาง่ายมาก แต่แฝงไปด้วยสเปคทรงประสิทธิภาพเล่นเกมออนไลน์ปี 2019 ลื่นเกินราคา ซึ่งถ้าเทียบกับคู่แข่งแล้ว ทั้งราคาและสเปกภายในถือว่ามีความคุ้มค่ามากๆ ได้ทั้งการ์ดจอและ SSD ที่แรงกว่า ยังไงใครต้องการโน๊ตบุ๊คพกพาเน้นทำงานเป็นหลักเล่นเกมบ้าง MSI PS63 Modern 8SC ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว นักเรียนนักศึกษาคนทำงานจัดได้หมด หนุ่มๆ น่าจะชอบ หรือสาวๆ ก็จะดูเท่ไปอีกแบบ
ปิดท้ายด้วยการแกะงัดเพื่อจะอัปเกรดหรือทำความสะอาดตัวเครื่องด้านในของ MSI PS63 Modern 8SC ถือว่าพอทำเองได้ แต่ต้องระวังในแกะ ด้วยการไขน๊อตออกประมาณ 10 ด้านใต้ตัวเครื่อง จากนั้นค่อยดึงทีละส่วนทีละด้านออกจากสลัก ถ้าแรงกดไปตัวเครื่องอาจบิดงอได้ โดยเมื่อเปิดฝาล่างขึ้นมาก็จะพบกับ เมนบอร์ดด้านหลัง พร้อมพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่พอตัวเมื่อเทียบกับเครื่อง ที่สำคัญคือลำโพงรุ่นใหม่ที่สามารถขยับได้ โดยรองรับแรมที่ 2 ช่อง แนะนำตรงนี้เลยว่าแนะนำให้ช่างชำนาญทำจะดีกว่า ทำเองถ้าเสียหายไปอาจจะไม่คุ้มได้ ส่วนอแดปเตอร์อย่างที่บอกไปแล้ว ว่ามีขนาดเล็กแต่สายไฟใหญ่ยาวไปหน่อย
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู
- ตัวเครื่องบางเฉียบ เล็กกระชับกว่าเดิม โดยมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น
- สเปคแรง Core i7-8565U และการ์ดจอ GTX 1650 ประสิทธิภาพดี
- หน้าจอแสดงผลขอบจอบางเฉียบขนาด 15.6″ ขอบเขตสี sRGB 96%
- ติดตั้ง SSD แบบ NVMe M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูง
- อแดปเตอร์จ่ายไฟ มีขนาดที่เล็กเบา เป็นภาระน้อยลงไปชัดเจน
- มี Windows 10 ใช้งานได้ทันที และซอฟต์แวร์ MSI Creator Center ใช้งานได้ดี
- มีเทคโนโลยี Quick Change 3.0 ช่วยชาร์จมือถือได้รวดเร็ว
- ประสิทธิภาพดีทั้งการทำงานและการเล่นเกม
- ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสเปกและฟีเจอร์
- อแดปเตอร์มีขนาดที่เล็กและเบา
ข้อสังเกต
- การแกะงัดทำได้ไม่ง่าย ไม่แนะนำให้ทำเองเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาด
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเกือบ 9 ชั่วโมง ไม่เหมือนที่เคลมไว้ 16 ชั่วโมง แต่ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว
- สายไฟอแดปเตอร์ใหญ่ไปหน่อย
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ด้วยกัน ซึ่ง MSI PS63 Modern 8SC ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
ชิปประมวลผลเป็น Inte Core i7-8565U ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q ที่ทั้ง 2 อย่างนี้แรงเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไป มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI PS63 Modern 8SC อยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบาเพียง 1.6 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 1.8 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ แม้แบตอาจจะใช้งานได้ไม่ถึง 16 ชั่วโมงจริงๆ ตามที่เคลมไว้ก็ตาม แต่ 11 ชั่วโมงก็ถือว่าใช้งานแบตได้นานมากแล้ว
Best Design
รูปลักษณ์หน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ MSI มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน MSI PS63 Modern 8SC ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวในมิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวพรีเมียมและเรียบหรูมากยิ่งขึ้นพ ร้อมกับใช้สีน้ำเงิน Galaxy Blue กับตัวเครื่องด้านนอกและสีเทากับตัวเครื่องด้านในตลอดทั้งตัวเครื่อง การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันพรีเมียมด้วยวัสดุอะลูมิเนียม ตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมตัดขอบเพชรเพิ่มความหรูหราซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คนส่วนมากต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
Specification
สเปกภายในของตัว MSI PS63 Modern 8SC ที่แอดมินโป้งได้รับมารีวิวคือตัวขายจริง โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 170 องศา ด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-8565U ความเร็ว 1.8GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 3.6GHz
โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 8 (Whiskey Lake) รุ่นล่าสุด กราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q (GDDR5 4GB) ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ โดยมีการปลดปล่อยความร้อนที่น้อยกว่ารุ่นปกติ
สเปกที่แตกต่างกันจะเป็นในส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 16GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน สำหรับฮาร์ดดิสก์ความเร็วสูงแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานแบบสุดๆ แทบไม่ต้องอัพเกรดอะไรเลย ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC และ Bluetooth 5.0 ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น !!!
นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call ติดตั้งไว้ใต้หน้าจอ เพราะขอบจอบางมากๆ รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้มาใช้งานได้ทันทีในการเปิดเครื่องครั้งแรก พร้อมซอฟต์แวร์ Ceadtor Center ช่วยปรับแต่งการทำงาน สนนราคา MSI PS63 Modern 8SC อยู่ที่ 46,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ MSI
Hardware / Design
สำหรับ MSI PS63 Modern 8SC ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงแต่บางเบาขนาดหน้าจอ 15.6″ รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่งที่ครบเครื่อง ถูกต่อยอดมาจาก MSI Prestige รุ่นก่อนๆ ในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบา พกพาได้สะดวก โดยยังรักษาความเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม ทำให้ถือมือเดียวได้สบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันพรีเมียมด้วยวัสดุอะลูมิเนียม ตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมตัดขอบเพชรเพิ่มความหรูหรา
โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการเลือกใช้ให้มีความเข้ากันอย่างที่สุด กับพื้นผิวส่วนของฝาหลังและตัวเครื่องเป็นลักษณะแบบด้าน พร้อมกับใช้สีน้ำเงิน Galaxy Blue กับตัวเครื่องด้านนอกและสีเทากับตัวเครื่องด้านในตลอดทั้งตัวเครื่อง ตั้งแต่โลโก้ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วเป็นการเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมๆ ที่โน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพต้องดูดำๆ ดีไซน์โบราณ ให้กลายเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดูน้อยแต่เรียบหรูแทนนั่นเอง
ด้านฐานล่างตัวเครื่องจากรุ่นก่อนใช้วัสดุผ้าอะลูมิเนียมชิ้นเดียวตลอดทั้งชิ้น ลักษณะเป็นอะลูมิเนียมเรียบๆ แตกต่างจากฝาหลังและตัวเครื่องด้านใน พร้อมมียางรองจำนวน 5 จุด ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ทาง MSI ใส่ใจเป็นพิเศษอยู่แล้วไม่แพ้ฝั่ง Gaming Notebook เลย
ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ตรงกลางเหนือชุดคีย์บอร์ด พร้อมบริเวณรอบๆ ก็เป็นช่องระบายความร้อนที่ที่ถูกซ่อนเอาไว้อย่างเรียบเนียน ทีสำคัญ MSI PS63 Modern 8SC ใช้เทคโนโลยี Cooler Boost แบบพัดลม 2 ตัวอยู่ทางด้านหลังของตัวเครื่อง ยิงเป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 1 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 3 เส้น โดยแยกฝั่ง CPU และ GPU ออกจากกัน ในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 5.6 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ซึ่งการใช้งานจริงมุมมองมันก็จะดู เป็นปกติกว่าโน๊ตบุ๊คบางรุ่นที่ย้ายไปติดตั้งที่อื่น ส่วนความบางตัวเครื่องอยู่ที่ 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่า MSI นำเสนอโน๊ตบุ๊คที่ทั้งเบามากๆ แถมยังบางสุดๆ ท้าชนกับแบรนด์อื่นๆ ได้อย่างสบายๆ เลยครับ สำหรับการเปิดปิดฝาของหน้าจอก็ทำได้ง่ายเพราะขอบตัวเครื่องด้านหน้าได้มีการเว้นร่องเว้าเอาไว้สวยงาม
ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่าโน๊ตบุ๊คทำงานหน้าจอ 15.6″ ทั่วไป ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI PS63 Modern 8SC ไม่ใช่แค่บางเบาและสเปกดีแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คสายบางเบาเน้นพกพา แต่มาพร้อมการ์ดจอระดับ GTX 1650 Max-Q สเปกอื่นๆ ก็จัดเต็ม ช่วงงบประมาณ 4x,xxx บาทก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาอาจจะสูงกว่าพวก Gaming Notebook แต่ได้น้ำหนักที่เบาและตัวเครื่องที่ดูหรูมาแทน
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI PS63 Modern 8SC เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คเล่นเกมรุ่นอื่นๆ ของทาง MSI แบบสิ้นเชิง ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด ด้วยการที่รูปแบบปุ่มมีขนาดที่ใหญ่โตกว่าคีย์บอร์ด MSI แบบเดิมๆ ที่สำคัญด้วยไฟ LED สีขาวสวยงาม เข้ากับตัวปุ่มสีเงินเทาเป็นอย่างดี ดูแล้วสะอาดตา พรีเมียมสุดๆ แน่นอนว่าไม่มีชุด Numpad อยู่แล้ว จากการที่ตัวเครื่องมีมิติที่ลงนั่นเอง
ทัชแพดมีขนาดใหญ่มากๆ ลักษณะเป็นฝืนผ้ายาว โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด วัสดุที่ใช้ทำจากกระจกคุณภาพดี ทำให้การใช้งานมีความเรียบลื่น พร้อมกับพื้นที่ในการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น 35% รองรับการใช้งานแบบมัลติทัช การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับทัชแพดรุ่นก่อนๆ มีการตัดขอบด้านบนดูโค้งมน เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม พร้อมมีฟีเจอร์อย่างสแกนลายนิ้วมือ Finger Print ไว้ให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อที่จะเข้าใช้งานตัวเครื่องเพื่อความปลอดภัยแบบไม่ต้องใส่รหัสไปมาทุกครั้งอีกด้วย ส่วนการใช้งานก็ตอบสนองได้รวดเร็วไม่แพ้มือถือในปัจจุบันเลยล่ะ
Screen / Speaker
MSI PS63 Modern 8SC ได้ติดตั้งหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่ค่อนข้างน่าประทับใจ โดยการใช้หน้า Desktop ปกติที่ตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ มีความเรียบเนียนตาทำให้ใช้งานได้สะดวก ขอบจอจะเป็นพลาสติกสีดำบางฉียบเพียง 5.6 มิลลิเมตรเท่านั้น
เรียกได้ว่ากำลังพอดีทีเดียว และด้วยความที่จอเป็นแบบด้านที่ให้เรื่องสีสันสดใส แต่ในการใช้งานไม่ควรหันจอไปทางแหล่งกำเนิดแสงหรือในที่ที่สว่างมากๆ เพราะอาจจะรบกวนการทำงานของเราได้ เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นพร้อมกางได้ถึง 145 องศา
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอเครื่องมือ Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 96% / AdobeRGB ที่ 71% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าทั่วไปมากๆ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องบนซ้ายเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องล่างขวาเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 11% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 จากคะแนนเต็ม 5 ถือว่าน่าประทับใจ
ลำโพงยังจัดวางมาในตำแหน่งส่วนของขอบตัวเครื่องด้านหน้าในส่วนด้านใต้เครื่อง แบบขนาด 2W x 2 คุณภาพเสียงเบสให้แน่นลึกยิ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เพราะชุดลำโพงข้างในขยับได้เมื่อต้องการเสียงทุ่ม สำหรับคุณภาพเสียงการใช้งานต่าง ๆ สามารถทำออกมาได้ดี น่าประทับใจให้เสียงที่ดังพอตัว เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแน่นอน
Connector / Thin And Weight
MSI PS63 Modern 8SC จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานบางเบาหน้าจอ 15.6″ ซึ่งมีไซส์และมิติโดยรวมเล็กกระทัดรัดกว่าปกติ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.1 Type-A (ด้านซ้ายรองรับเทคโนโลยี Quick Change 3.0) , USB 3.1 Type-C, 1x HDMI 1.4, micro-SD Card Reader และ Mic-in/Headphone-out อย่างไรก็ตาม พอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ อาจจะดูไม่มากมายเท่าพวกโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ แต่ในการใช้งานจริงก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะ อีกทั้งมีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac พร้อมใช้งานตามมาตรฐานโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ปี 2019
ส่วนของการพกพาของ MSI PS63 Modern ก็ถือว่าทำได้เยี่ยมยอดเมื่อเทียบกับสเปก ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น ดีกว่าตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คค่ายอื่นๆ ที่ใช้สเปกนี้มาก ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 90 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบากว่าปกติ (แต่สายไฟดูหนาและยาวไป ถ้าให้ดีเป็นหัวพลิกออกมาเลยน่าจะดีกว่า) ทำให้การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากๆ น้ำหนักโดยรวมแล้วไม่เกิน 1.8 กิโลกรัมแน่นอน นับว่า MSI PS63 Modern 8SC เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังที่เหมาะกับการใช้งานตามร้านกาแฟ ออฟฟิศ มหาวิทยาลัยมากๆ เครื่องหนึ่ง
Performance / Software
MSI PS63 Modern 8SC เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8565U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.6 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ
ทียบกับรุ่นก่อนเรียกได้ว่าแรงขึ้นพอตัวเพราะ Core เยอะขึ้น แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้กพวก Core i7 ตัวซีรีย์ H ไม่ได้ตรงๆ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบาย
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 620 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่ามาทดแทนในส่วนของการ์ดจอรุ่นเก่าอย่าง GTX 1050Ti Max-Q ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมเดียวกับ RTX Series ที่เหนือกว่าในเรื่องของความแรงและความร้อนที่ปลอดปล่อยออกมาน้อนลง ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติได้ดี โดยปลดปล่อยความร้อนและประหยัดพลังงานมากกว่า ซึ่งเดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ของ Toshiba ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1603MB/s และเขียนที่ 876MB/s นับว่ามีความเร็วที่ค่อนข้างสูง
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,515 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ สมกับที่เป็นโน๊ตบุ๊คการ์ดจอแยกระดับ GTX 1650 ซึ่มีคะแนนมากกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาการ์ดจออนบอร์ดทั่วไป
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1650 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว แม้จะไม่รองรับฟีเจอร์ DLSS / Ray Tracing อย่าง RTX Series ก็ให้ภาพสวยงามไม่แพ้กัน แถมไม่กินทรัพยากรเครื่องเพิ่มเติมด้วย เรียกได้ว่าการ์ดจอ GTX 1650 มาทดแทน GTX 1050Ti ได้อย่างสวยงาม
ต่อด้วยเกมที่คนส่วนมากนิยมเล่นกัน ซึ่งโดยส่วนตัวก็เล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2, Overwatch, PUBG ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ Native 1920 x 1080 พิกเซล สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าปรับสุดทุกอย่างเลยผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับที่น่าประทับใจ เล่นได้สบายๆ ภาพก็สวยงามพอตัว ส่วนเกมอื่นๆ ที่ไม่เกินทรัพยากรเท่าอย่าง CS:GO หรือ Point Blank รวมไปถึงเกมออนไลน์อื่นๆ ก็น่าจะเล่นได้ลื่นๆ อย่างแน่นอน
MSI Creator Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่รับมาจาก MSI DRAGON CENTER ถูกมาปรับใช้ใน MSI PS63 Modern 8SC นี้ด้วย จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- Creator Mode : ศูนย์รวมทางลัดโปรแกรมเพื่อใช้งานได้รวดเร็ว
- System Monitoring : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Notebook
- Battery Master : ปรับแต่งการตั้งค่าแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ดีที่สุด
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
หรือจะย่อเป็นหน้าต่างโปรแกรมเล็กๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ สะดวกใช้งานด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI PS63 Modern 8SC เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 8:30 ชั่วโมงโดยประมาณ ถือว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ไม่ยาวนานอย่างที่เคลมเอาไว้ว่าที่ 16 ชั่วโมง แต่โดยส่วนตัวก็ถือว่ายอมรับได้ (ใช้ได้นานมากแล้ว) จากการที่นำหนักเบาตัวเครื่องบาง พกพาอแดปเตอร์ไปอีกตัวก็พอไหวอยู่
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 35 – 43 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU อยู่ที่ไม่เกิน 100 องศาเซลเซียส (MSI ควบคุมเอาไว้ โดยจะลดความเร็วของ CPU เอง) แต่สำหรับการ์ดจอ GPU นั้นเย็นมากๆ ร้อนสุดๆ เพียง 56 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่มีฟีเจอร์ Cooler Boots กรณีที่ใช้งานหนักๆ แต่ถ้าใช้งานทั่วไป พัดลมแทบไม่มีเสียงเลย
Conclusion / Award
เราเริ่มได้เห็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพจากทาง MSI ออกมาใหม่เรื่อง ที่ปกติเราจะเห็นแต่สาย Gaming ถึงเวลาที่ MSI จะต้องออกผลิตภัณฑ์ตระกูล Prestige ตัวใหม่ จึงนำมาประยุกต์เข้ากับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และตัวเองถนัด อย่างการนำข้อดีต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ตระกูล Gaming มาทำให้มีความเป็นมืออาชีพ เหมาะสำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาพ และงานกราฟฟิกต่าง ๆ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คไว้ใช้ทำงานเป็นหลัก แล้วก็อาจจะไปนำเล่นเกมได้บ้าง
MSI PS63 Modern 8SC โน๊ตบุ๊คสำหรับมืออาชีพหน้าจอ 15.6 นิ้ว สุดบางเฉียบ ดีไซน์ภายนอกคล้ายๆ กับ MSI GS65 ที่มีจุดเด่นเรื่องความบางเบา และมีประสิทธิภาพเยี่ยม ทำให้มันกลายมาเป็น Ultrabook ที่มีขนาดกระทัดรัด ดีไซน์ภายนอกจะเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเงิน เพื่อให้มีความเรียบหรูมากขึ้น และมาพร้อมกับไฟคีย์บอร์ดสีขาว ทัชแพดก็มีขนาดที่ใหญ่โตมากๆ มีที่สแกนลายนิ้วมือด้วย โดยที่วัสดุตัวเครื่องจะทำมาจากอะลูมิเนียม และมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม เบามาก!! ถือมือเดียวได้สบายๆ
ส่วนสเปคด้านในอย่าง Intel Core i7-8565U + GTX 1650 Max-Q ก็ถือว่าแรงพอตัว ประสิทธิภาพการทำงานดีกว่ารุ่นก่อนๆ มาก เมื่อดูจากรายละเอียดโดยรวมแล้วจะพบว่ามันเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่มีความบางเบาและแรงพอตีว เน้นความประหยัดพลังงาน แต่ก็ใช้เล่นเกมได้ดีเยี่ยม เหมาะกับคนที่เน้นทำงาน เล่นเกมบ้าง และต้องการความบางเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเกือบ 9 ชั่วโมง โดยรวมแล้วสำหรับการใช้งานรอบด้าน หลากหลายน่าประทับใจ หาไม่ได้ในพวก Gaming Notebook ช่วงราคานี้แน่นอน
โดยเฉพาะในแง่ของการดีไซน์ MSI PS63 Modern 8SC มีเอกลักษณ์แต่ทันสมัยและแต่ต่างจากรุ่นก่อนหน้า ด้วยโลหะวัสดุอลูมิเนียมและสีสันน้ำเงิน Galaxy Blue และยังมาพร้อมความบาง เบาพกพาง่ายมาก แต่แฝงไปด้วยสเปคทรงประสิทธิภาพเล่นเกมออนไลน์ปี 2019 ลื่นเกินราคา ซึ่งถ้าเทียบกับคู่แข่งแล้ว ทั้งราคาและสเปกภายในถือว่ามีความคุ้มค่ามากๆ ได้ทั้งการ์ดจอและ SSD ที่แรงกว่า ยังไงใครต้องการโน๊ตบุ๊คพกพาเน้นทำงานเป็นหลักเล่นเกมบ้าง MSI PS63 Modern 8SC ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว นักเรียนนักศึกษาคนทำงานจัดได้หมด หนุ่มๆ น่าจะชอบ หรือสาวๆ ก็จะดูเท่ไปอีกแบบ
ปิดท้ายด้วยการแกะงัดเพื่อจะอัปเกรดหรือทำความสะอาดตัวเครื่องด้านในของ MSI PS63 Modern 8SC ถือว่าพอทำเองได้ แต่ต้องระวังในแกะ ด้วยการไขน๊อตออกประมาณ 10 ด้านใต้ตัวเครื่อง จากนั้นค่อยดึงทีละส่วนทีละด้านออกจากสลัก ถ้าแรงกดไปตัวเครื่องอาจบิดงอได้ โดยเมื่อเปิดฝาล่างขึ้นมาก็จะพบกับ เมนบอร์ดด้านหลัง พร้อมพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่พอตัวเมื่อเทียบกับเครื่อง ที่สำคัญคือลำโพงรุ่นใหม่ที่สามารถขยับได้ โดยรองรับแรมที่ 2 ช่อง แนะนำตรงนี้เลยว่าแนะนำให้ช่างชำนาญทำจะดีกว่า ทำเองถ้าเสียหายไปอาจจะไม่คุ้มได้ ส่วนอแดปเตอร์อย่างที่บอกไปแล้ว ว่ามีขนาดเล็กแต่สายไฟใหญ่ยาวไปหน่อย
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู
- ตัวเครื่องบางเฉียบ เล็กกระชับกว่าเดิม โดยมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น
- สเปคแรง Core i7-8565U และการ์ดจอ GTX 1650 ประสิทธิภาพดี
- หน้าจอแสดงผลขอบจอบางเฉียบขนาด 15.6″ ขอบเขตสี sRGB 96%
- ติดตั้ง SSD แบบ NVMe M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูง
- อแดปเตอร์จ่ายไฟ มีขนาดที่เล็กเบา เป็นภาระน้อยลงไปชัดเจน
- มี Windows 10 ใช้งานได้ทันที และซอฟต์แวร์ MSI Creator Center ใช้งานได้ดี
- มีเทคโนโลยี Quick Change 3.0 ช่วยชาร์จมือถือได้รวดเร็ว
- ประสิทธิภาพดีทั้งการทำงานและการเล่นเกม
- ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสเปกและฟีเจอร์
- อแดปเตอร์มีขนาดที่เล็กและเบา
ข้อสังเกต
- การแกะงัดทำได้ไม่ง่าย ไม่แนะนำให้ทำเองเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาด
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเกือบ 9 ชั่วโมง ไม่เหมือนที่เคลมไว้ 16 ชั่วโมง แต่ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว
- สายไฟอแดปเตอร์ใหญ่ไปหน่อย
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ด้วยกัน ซึ่ง MSI PS63 Modern 8SC ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
ชิปประมวลผลเป็น Inte Core i7-8565U ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q ที่ทั้ง 2 อย่างนี้แรงเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไป มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI PS63 Modern 8SC อยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบาเพียง 1.6 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 1.8 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ แม้แบตอาจจะใช้งานได้ไม่ถึง 16 ชั่วโมงจริงๆ ตามที่เคลมไว้ก็ตาม แต่ 11 ชั่วโมงก็ถือว่าใช้งานแบตได้นานมากแล้ว
Best Design
รูปลักษณ์หน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ MSI มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน MSI PS63 Modern 8SC ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวในมิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวพรีเมียมและเรียบหรูมากยิ่งขึ้นพ ร้อมกับใช้สีน้ำเงิน Galaxy Blue กับตัวเครื่องด้านนอกและสีเทากับตัวเครื่องด้านในตลอดทั้งตัวเครื่อง การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันพรีเมียมด้วยวัสดุอะลูมิเนียม ตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมตัดขอบเพชรเพิ่มความหรูหราซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คนส่วนมากต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน