Notebook บางเบารวมไปถึง Ultrabook ถือว่าเป็น Notebook ปี 2019 ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก เบาสุดที่ 1.1 กิโลกรัม โดยมาพร้อมกับสเปกที่แรงพอตัวด้วยชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด รวมไปถึงในส่วนของแรมก็ได้มาตรฐานมาเป็น 8GB และ SSD ความจุเริ่มต้นที่ 256GB ทีเดียว โดยมีตั้งแต่หน้าจอขนาด 13″ ไปจนถึง 15.6″ เลือกได้ตามการใช้งานเลย โดยในบทความนี้แอดมินโป้งจะมาแนะนำ 5 รุ่นเด็ดๆ ที่เพิ่งออกใหม่ไม่นาน รับรองว่าได้สเปกที่ดี ราคาคุ้มค่า ฟีเจอร์ครบครั้นแน่นอน ในราคาเริ่มต้น 23,990 – 29,990 บาทเท่านั้น
HP Pavilion 14 ce2008tx ราคา 23,990 บาท
ลักษณะการออกแบบ HP Pavilion 14 ce2008tx เป็นอะไรที่ดีมากๆ จากวัสดุที่ดีอย่างพลาสติกเกรดสูง งานประกอบก็มีความเรียบร้อยแบบสุดๆ โดยรวมถือว่าเรียบหรูไล่จากด้านนอกตัวเครื่องสี Ceramic White ที่ดูสวยงามโดดเด่น ตัดด้วยโลโก้ HP โครเมี่ยมด้านหลัง ส่วนใต้เครื่องจะเป็นสีเดียวกันกับด้านนอกที่ดูแล้วก็สวยงามดี ซึ่ง HP Pavilion 14 ปี 2019 เป็นโน๊ตบุ๊คสายบางเบาที่น่าสนใจมากๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คสายของจอบาง
ส่วนด้านในตัวเครื่องบริเวณที่พักข้อมือมาเป็นสีเดียวกับชุคคีย์บอร์ดรวมถึงตัดด้วยไฟสีขาวจากแป้นคีย์บอร์ดเสริมความสวยงามได้ดี และจุดเด่นที่สุดเลยก็คือบานพับใหม่ ที่ให้ลุคสวยแลดูแข็งแรงทนทานเข้ากับเครื่อง พร้อมยกเครื่องให้สูงเอียงรับกับมือมากยิ่งขึ้น ทำให้ภาพรวมการดีไซน์ HP Pavilion 14 ปี 2019 ทำออกมาได้น่าดึงดูด แถมยังบางเบาพกพาง่ายกว่าเดิมมาก ด้วยน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม และด้วยความบางของตัวเครื่องเพียงที่ 17.9 มิลลิเมตรเท่านั้น พร้อมด้วยระบบเสียงจาก B&O และ HP Audio Boost ช่วยเพิ่มพลังเสียง
ในส่วนของสเปค HP Pavilion 14 ce2008tx ใช้ชิปประมวลผลเป็นเลือกใช้ Intel Core i5-8265U ที่เป็นการทำงานแบบ 4 Core/8 Thread (ความเร็ว 1.60 GHz – 3.90 GHz) ส่วนกราฟิกภายในเป็น Intel UHD Graphics 620 พร้อมด้วยการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce MX250 ด้าน Ram ก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD M.2 ความจุ 256GB มาพร้อมกับ Windows 10 แท้อีกด้วย
หน้าจอแสดงผลขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้านลดแสงสะท้อน พาเนลจอ IPS ความคมชัดสูง มีกล้องเว็บแคม และมีไมค์ดิจิตอลในตัว สำหรับการเชื่อมต่อของจะมีทั้ง USB 3.1 จำนวน 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C, HDMI, Finger Print และพอร์ตหูฟังกับไมค์แบบคอมโบขนาด 3.5 มิลลิเมตรมารตรฐาน การเชื่อมต่อแบบไร้สายรองรับทั้ง 802.11 ac Wi-Fi + Bluetooth 4.2 ก็ครบครัน สนนราคาถูกสุดอยู่ที่ 23,900 บาท ประกัน Onsite 2 ปีเต็ม
Acer Swift 3 SF314-55G 575K ราคา 26,190 บาท
Acer Swift 3 SF314-55G 575K ได้ดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ พร้อมสเปกใหม่ล่าสุด ที่จัดได้ว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาที่ 1.35 กิโลกรัม พรีเมียมเกินราคาอีกทั้งยังมาพร้อมวัสดุคุณภาพสูง สำหรับสเปกก็ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Intel Core i เจอเนอเรชั่นรุ่นที่ 8 (Whisky Lake) โดยสเปกเป็นชิปประมวลผล i5-8265U การ์ดจอ MX150 ได้แรม 8GB และ SSD PCIe ความจุ 256GB ที่สำคัญหน้าจอเป็นพาเนล IPS ความละเอียด Full HD พร้อม Windows 10 แท้ ในราคาถูกสุดเพียง 26,190 บาทเท่านั้น พกพาดี ทำงานลื่น เล่นเกมพอได้
Acer Swift 3 SF314-55G 575K ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-8265U (Whisky Lake) ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.6 GHz และเร่งความเร็วด้วย TurboBoost ได้เป็น 3.9 GHz ส่วนการ์ดจอก็แน่นอนว่าต้องเป็น Intel UHD Graphics 620 ที่ติดมาในซีพียูจาก Intel พร้อมการ์ดจอแยก MX250 ที่แรงระดับ GTX 950M ทำให้พอเล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ
แรมให้มาขนาด 8GB DDR4 เป็นแบบฝังติดบอร์ดมาเช่นเดียวกับ Ultrabook ปกติ ส่วน SSD PCIe มีมาให้ขนาด 256GB มาพร้อมความเร็วสูง มาตรฐาน M.2 NVMe นอกจากนี้ยังมีเรื่องจอที่ได้กล่าวไปแล้วว่าใช้จอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูง IPS แบบจอด้าน มุมมองกว้าง พร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบ เช่น USB 3.1 Type-C, USB 3.0, USB 2.0 HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก และ Card Reader มาให้ด้วย ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อมรองรับ MIMO ส่งผลให้เรานั้นจะได้สัมผัสกับความสามารถของระบบไร้สายในระดับที่แรงอย่างจริงจัง ง่ายๆ คือแรงกว่าเดิมถึง 2 เท่า ช่วยให้เราได้สัมผัสการใช้งาน Wi-Fi ดีกว่าที่เคย
Huawei MateBook 13 W19B ราคา 29,990 บาท
MateBook 13 เป็นรุ่นรองของ MateBook X Pro (จอ 13.9″) แต่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ดูสวยงามพรีเมียม ซึ่งเป็นหน้าจอขนาด 13″ รองรับความละเอียดที่ระดับ 2160 x 1440 พิกเซล ที่มีอัตราส่วน 3 : 2 น้ำหนักตัวเครื่องก็จะอยู่ที่ 1.28 กิโลกรัม มีความบางเพียง 14.9 มิลลิเมตร ได้สเปกเป็น Core i Gen 8 ทั้ง Core i5-8265U พร้อมมีการ์ดจอแยก MX150 ที่พอจะเล่นเกมได้ลื่นไหลทีเดียว มีราคาที่ 29,990 บาท
สเปกภายในของตัว Huawei MateBook 13 มาพร้อมขนาดหน้าจอ 13″ ขอบหน้าจอบาง ความละเอียด 2160 x 1440 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูง IPS ให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้าง ขอบเขตสี sRGB ใกล้เคียง 100% ด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Core i5-8265U โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 8 (Coffee Lake-R)
ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR3Lซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดรุ่นเริ่มต้นจะมีเพียงการ์ดจอออนบอร์ด Intel Graphic UHD620 แต่ถ้าเป็นตัวบนจะได้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX150 2GB GDDR5 มาด้วย ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ ระดับเทียบเท่า GTX 950M เรียกได้ว่าพอที่จะเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างลื่นไหลทีเดียว สำหรับฮาร์ดดิสก์ความเร็วสูงแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 256GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi AC และ Bluetooth 5.0
รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ ที่สำคัญมีการติดตั้งปุ่มเปิด/ปิดเครื่องแบบ One-Touch ของ Huawei MateBook 13 และ BIOS ที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ ช่วยให้เราเปิดเครื่องและล็อกอินเข้าใช้งานได้ทันที ทั้งปลอดภัย รวดเร็ว และใช้งานง่าย
Asus ZenBook 13 UX333FN A4170T ราคา 29,990 บาท
Asus ZenBook 13 UX333FN A4170T เป็นโน๊ตบุ๊คที่เน้นความกะทัดรัด พกพาสะดวก นอกเหนือจากจะทำเครื่องให้บางเบาแล้ว การลดขนาดตัวเครื่องด้วยการใช้จอขอบบางก็เริ่มได้รับความนิยมเช่นกัน ด้วยจุดเด่นในด้านความกะทัดรัด จากการใช้จอ 13.3″ ขอบบางแบบ NanoEdge ซึ่งทำให้ ZenBook รุ่นนี้กลายเป็นโน๊ตบุ๊คขนาด 13.3″ ที่เล็กที่สุดในโลก โดยมีขนาดเล็กกว่ากระดาษ A4 อีกด้วย เบาสุดเพียงแค่ 1.1 กิโลกรัมเท่านั้น
Asus ZenBook 13 UX333FN A4170T มาพร้อมชิปประมวลผล Intel Core i5-8265U ทำงานร่วมกับแรม DDR3L ขนาด 8 GB ส่วนพลังกราฟิกก็มีทั้งส่วนของออนบอร์ด Intel UHD Graphics 620 สำหรับใช้งานทั่วไป ส่วนงานที่ต้องอาศัยพลังกราฟิกเช่นการเล่นเกม ก็จะมีชิปกราฟิกอย่าง NVIDIA GeForce MX150 ที่มีแรม GDDR5 ในตัวมาให้ใช้งาน 2 GB ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลก็ใช้เป็น SSD แบบ PCIe ความจุ 512 GB ทำให้สเปคโดยรวมนั้นลงตัวมาก ๆ สำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นเว็บ ทำเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมออนไลน์ได้สบาย ส่วนเกมออฟไลน์ใหม่ ๆ ก็ยังไหวเลย
อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือหน้าจอ โดย ASUS ZenBook UX333 Burgundy Red ใช้หน้าจอขนาด 13.3″ ความละเอียดระดับ Full HD (1920 x 1080) อัตราส่วน 16:9 ขอบจอบางแบบ NanoEdge พาเนลจอแบบ IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งจัดว่าเป็นสเปคจอที่เหมาะสำหรับการใช้งานแทบทุกรูปแบบ มาพร้อม Windows 10 และซอฟต์แวร์จากทาง ASUS อีกเล็กน้อย
พอร์ตเชื่อมต่อก็มาพร้อมพอร์ตจำเป็นค่อนข้างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-C, USB 3.1, USB 2.0 มีพอร์ตเชื่อมต่อจอ HDMI แบบเต็ม รวมถึงยังมีช่องอ่านการ์ด MicroSD มาให้อีก 1 ช่อง เนื่องด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กเกินกว่าจะใส่ช่องอ่านการ์ด SD เข้ามา นอกจากนี้ยังมีกล้อง IR สำหรับใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Windows Hello ของ Windows 10 เพื่อล็อกอินโดยใช้การสแกนใบหน้าได้อีกด้วย
Asus VivoBook S15 S530FN BQ101T ราคา 28,990 บาท
Asus VivoBook S15 S530FN BQ101T มีขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่นับว่าเป็นขนาดมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คที่เน้นจอใหญ่ แต่พกพาได้ยอดเยี่ยมเบาเพียง 1.8 กิโลกรัม ซึ่งดีไซน์ต้องบอกว่าสวยงาม ฉีกแนวโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน โดยมีความบางและเบาเป็นพิเศษ แน่นอนว่าราคาก็เบากว่าเช่นกัน (เมื่อเทียบสเปกต่อราคา) กับสเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 8 และการ์ดจอ GeForce MX150 มีประสิทธิภาพที่สูง เหมาะสำหรับการทำงานลื่นไหลและเล่นเกมได้ประมาณนึง
สเปกภายในของตัว Asus VivoBook S15 S530FN BQ101T มาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 178 องศา ด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i5-8250U ความเร็ว 1.6GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 3.4GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 8 (Coffee Lake) รุ่นล่าสุด
ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce MX150 2GB GDDR5 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ สำหรับฮาร์ดดิสก์ยังมีความจุ 1TB พร้อมด้วย SSD M.2 ความจุ 256GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Callรวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้
สนนราคา Asus VivoBook S15 S530FN BQ101T ถูกสุดอยู่ที่ 28,990 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ ASUS ที่สามารถส่งเคลมผ่านทาง 7-11 ได้ รวมถึงถ้าลงทะเบียน ในปีแรกจะมีประกันอุบัติเหตุมาให้ด้วย
