ที่ผ่านมา Notebook สายทำงานจริงจังหน้าจอ 15.6″ จะมีตัวเครื่องที่ใหญ่หนาหนัก ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวเครื่องนั้นใช้สเปกภายในที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งในส่วนของชิปประมวลผลและการ์ดจอ ทำให้จำเป็นต้องใช้ชุดระบายความร้อนที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ตัวเครื่องนั้น ใหญ่ หนา หนัก เป็นธรรมดา แต่ล่าสุด MSI P65 Creator ได้นำเสนอ Notebook สายทำงานที่โดดเด่นต่างออกไป โดยในบทความนี้ เราจะมานำเสนอ 5 สิ่งที่ให้ MSI P65 Creator เป็น Notebook สายทำงานตัดต่อวีดีโอแต่งภาพระดับมืออาชีพ เล่นเกมได้ลื่น ราคาคุ้ม
สำหรับ 5 สิ่งของ MSI P65 Creator ประกอบไปด้วย 1. สเปกภายในที่จัดเต็มอย่าง Gaming Notebook ระดับสูงทำให้ทำงานหนักๆ ได้ลื่นไหลแน่นอน 2. ต่อมาเป็นในส่วนของดีไซน์ที่สวยงามบางเบากว่า Notebook ทั่วไป 3. อีกทั้งหน้าจอก็เป็นแบบคุณภาพสูงดีที่สุดทั้งทำงานและเล่นเกมพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครัน 4. และจากสเปกที่แรงส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมทำงานได้เยี่ยมยอด 5. รวมถึงแบตเตอรี่ก็ยังใช้งานได้ยาวนานอีกด้วย ครบเครื่อง Notebook สายทำงานตัดต่อวีดีโอแต่งภาพระดับมืออาชีพจริงๆ
Specification
MSI P65 Creator ถูกแบ่งออกเป็น 2 รุ่นด้วยกัน โดยต่างกันทั้งสีสันและสเปกภายใน ซึ่งที่เราได้รับมารีวิวในครั้งนี้จะเป็น MSI P65 Creator Limited Edition ตัวเครื่องจะเป็นสีขาวสะอาดพร้อมแซมด้วยสีทอง มาพร้อมสเปก Intel Core i7- 8750H และการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 Max-Q ได้แรมมาเป็น 16GB DDR4 (8GB x 2) ที่สำคัญคือหน้าจอจะเป็นแบบ IPS Full HD รองรับ 144Hz เรียกได้ว่าสุดทางไปเลย สนนราคาปัจจุบันถูกสุดอยู่ที่ 45,900 บาท ที่สำคัญยังมาพร้อมกับหีบห่อแบบกล่องไม้ที่ดูสวยงามเป็นพิเศษ
ส่วนอีกรุ่นจะเป็น MSI P65 Creator สีเงินสวยงามราคาถูกสุดอยู่ที่ 40,900 บาท ที่สีสันจะเป็นสีเงิน Silver ตลอดทั้งตัวเครื่อง ใช้ชิปประมวลผลเหมือนกันคือเป็น Intel Core i7- 8750H (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ ได้การ์ดจอที่แรงไม่แพ้กันเท่าไรอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 Max-Q (6GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 แบบ 1 แถว
ส่วนจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ของ MSI P65 Creator Limited Edition มีความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS โดยเหนือชั้นกว่าเพราะรองรับที่ 144Hz (MSI P65 Creator เป็น 60Hz) พร้อมเทคโนโลยี MSI True Color Technology ปรับโปรไฟล์สีให้ตรงกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ และตัวเครื่องยังมีซอฟแวร์ MSI DRAGON CENTER Version 2 ช่วยปรับแต่งการทำงาน มาพร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที รับประกันมาตรฐาน MSI ระยะเวลา 2 ปีเต็ม ที่บอกเลยว่าเทียบสเปกต่อราคานั้นถือว่ามีความคุ้มค่ามากๆ
- MSI P65 8RF : i7 + GTX 1070 Max-Q + RAM 16GB + SSD 512GB + Full HD 144Hz ราคา 45,900 บาท
- MSI P65 8RE : i7 + GTX 1060 Max-Q + RAM 8GB + SSD 512GB + Full HD ราคา 40,900 บาท
Hardware / Design
สำหรับ MSI P65 Creator ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานสเปกแรงที่เน้นความบางเบารุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่ง ที่พิเศษกว่า MSI P65 Creator Limited Edition ในเรื่องของสีสันที่เป็นสีขาวสะอาดตาพร้อมแซมด้วยสีทองดูหรูหรา ส่วนรุ่นปกติจะเป็นสีเงิน Silver แบบด้านกับพื้นผิวเรียบๆ โดยเน้นความบางเบาเช่นกัน ในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบา พกพาได้สะดวก ด้วยความบางของตัวเครื่องเพียง 17.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 1.88 กิโลกรัม ทำให้พกพาไปใช้งานได้สบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
โดยการออกแบบและดีไซน์ทั้งหมดมีการใช้สีสันเป็นสีขาว (หรือเงิน) แบบด้านกับพื้นผิวเรียบๆ ตั้งแต่ตัวเครื่องด้านนอกด้านใน พร้อมโลโก้ที่เป็นแบบฝังเรียบมากับฝาหลัง ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ก็จะเป็นสีทองที่เป็นวัสดุอะลูเนียมเกือบทั้งหมด (บางส่วนมีแซมด้วยพลาสติกบ้าง เช่น ขอบจอด้านใน) ซึ่งดูแล้วเป็นการเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมๆ ที่ต้องโน๊ตบุ๊คนั้นส่วนมากเป็นสีดำ ที่ดูแล้วสีทองที่ใช้ดูมีความทันสมัย ความสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจกับคนรุ่นใหม่มากกว่า
ด้านฐานล่างตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมเรียบๆ พร้อมมียางรองขนาดใหญ่ 2 จุด ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องถูกติดตั้งอยู่เหนือชุดแป้นคีย์บอร์ด พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน พร้อมการติดตั้งช่องลมโปร่งขนาดใหญ่เพื่อให้ช่วยระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม ส่วนมุมซ้ายล่างคีย์บอร์ดจะเป็นโลโก้ Prestige ที่บ่งบอกถึงซีรีส์
MSI P65 Creator ยังใช้เทคโนโลยี Cooler Boost Trinity เหมือนกับ MSI GS65 ที่เป็นชุดระบายความร้อนแบบพัดลม 3 ตัว ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 5 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 2 ตัว)
ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 4 เส้น ที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อนๆ ถึง 45% หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม จากการที่สเปกตัวเครื่องแรงมากเหมือนเทียบกับความบาง ตรงนี้เลยเป็นเรื่องที่สำคัญ
ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมเช่นกัน แต่ก็มีข้อสังเกตเล็กน้อยอย่างเมื่อเราออกแรงกดลงไปแรงๆ จะมีอาการยุบเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการใช้งาน มองข้ามไปได้อยู่ แต่ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 4.9 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ดูได้จากกล้องเว็บแคมถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บางมากๆ
ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่าโน๊ตบุ๊คทำงานหน้าจอ 15.6″ ทั่วไป ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI P65 Creator ไม่ใช่แค่แรงด้วยประสิทธิภาพ แต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คทำงานจริงจังสายบางเบาช่วงงบประมาณ 40,900 – 45,900 บาทก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาดูสูงแต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ
Screen / Connector
MSI P65 Creator Limited Edition มีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 144Hz ที่ไม่ว่าจะทำงานหรือเล่นเกมก็สมบูรณ์แบบ (ส่วน MSI P65 Creator มีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 60Hz ตามมาตรฐานทั่วไป) มาพร้อมความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล มาตรฐาน Full HD ที่เหมาะสมในการใช้งานทำงานรวมไปถึงเล่นเกม โดยตัว Windows เองจะมีการปรับสเกลขึ้นมาเป็น 125% เพื่อสัดส่วนที่ลงตัว
พาเนลเป็น IPS ที่ให้สีสันและมุมมองที่กว้าง ขอบเขตสีที่ใกล้เคียง sRGB 100% เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นพร้อมกางได้ถึง 180 องศา ส่วนขอบหน้าจอก็บางเฉียบส่งผลโดยตรงให้ตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัด แต่ก็ยังสามารถติดตั้งกล้องเว็บแคมพร้อมไมโครโฟนไว้ขอบหน้าจอด้านบนได้ปกติอยู่
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอเครื่องมือที่ระดับมืออาชีพอย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 94% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 350 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเหลือเฟือกับการใช้งานทั่วไปมากๆ แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ยังไงก็ตามถ้างานจริจังมากๆ ก็ควรทำการคาลิเบรตอยู่เป็นประจำ
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวล่างเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องซ้ายกลางจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 11% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
MSI P65 Creator จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คทำงานหน้าจอ 15.6″ มิติตัวเครื่องที่กระทัดรัด โดยยังให้พอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 3x USB 3.1 Type-C, 1x USB Type-C, 1x HDMI 1.4, 1x mini DisplayPort 1.2, RJ45 (Killer E2400 Gigabit Ethernet with Killer Shield) และ Mic-in/Headphone-out อย่างไรก็ตามพอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้ และมีเชื่อมต่อไร้สายเป็นแบบ Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac ระบบเน็ตเวิร์คที่ทันสมัยที่สุด ทำให้ไม่ว่าจะเป็นไร้สายก็เชื่อมต่อได้ดีและรวดเร็ว
โดยการพกพานั้น MSI P65 Creator ถือว่าทำได้ดี ด้วยน้ำหนัก 1.88 กิโลกรัม ที่เบากว่าตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คสายทำงานสเปกนี้ความแรงแบบนี้ พร้อมความบางพิเศษ ส่วนอแดปเตอร์จัดว่ามีขนาดทั่วไป ที่พอพกพาไปไหนมาไหนได้อยู่ ทำให้การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากๆ กับอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังที่เหมาะกับการใช้งานตามร้านกาแฟเก๋ๆ ออฟฟิศลูกค้า มหาวิทยาลัยมากๆ เครื่องหนึ่ง
Performance / Software
โดย MSI P65 Creator Limited Edition และ MSI P65 Creator มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-8750H (ว่าที่รุ่นยอดนิยมประจำปี 2018) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads
ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-7700HQ พอตัว มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 แบบ 8GB x 2 (MSI P65 Creator เป็น 8GB x 1) ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
MSI P65 Creator ทั้ง 2 รุ่นมีกราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
MSI P65 Creator มีกราฟิกการ์ดจอแยกตัวแรงระดับกลางเน้นร้อนน้อยอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 Max-Q (6GB) ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 970M และแรงกว่า GTX 1050/1050Ti แบบรู้สึกได้ ที่สำคัญคือร้อนน้อยกว่า GTX 1060 ปกติ ทำงานลื่นเล่นเกมไหล
ส่วน MSI P65 Creator Limited Edition มีกราฟิกการ์ดจอแยกระดับบนเน้นร้อนน้อยอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 Max-Q (8GB) ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 980M และแรงกว่า GTX 1060 แบบรู้สึกได้ ที่สำคัญคือปลดปล่อยความร้อนน้อยกว่า GTX 1070 ปกติ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
MSI P65 Creator ให้คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 4 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1060 Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้ว
สำหรับ MSI P65 Creator Limited Edition ให้คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1070 Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Tomb Raider 3/ GTA V / FarCry 5 / PUBG ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว เกมออนไลน์เบาๆ อย่าง DOTA 2 / Overwatch ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 90 ขึ้นไปถึง 100+ ขึ้นไปตลอด
ที่สำคัญด้วยหน้าจอ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 144Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล สรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้เหนือชั้นเทียบเท่าพีซีประกอบแรงๆ เลย แถมหน้าจอยังเทพมากๆ อีกด้วย
MSI DRAGON CENTER Version 2 เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เป็นข้อดีของ Gaming MSI ก็ถูกมาปรับใช้ใน MSI P65 8RF Creator Limited Edition (ใช้รูปเดียวกับ MSI P65 8RE Creator) นี้ด้วย จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- System Monitoring : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Notebook
- Mobile Center : ทำการเชื่อมต่อกับมือถือ
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
หรือจะย่อเป็นหน้าต่างโปรแกรมเล็กๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ สะดวกใช้งานด้วย
นอกเหนือจากนี้ยังมีในส่วนของ MSI True Color ที่เราสามารถปรับโปรไฟล์สีสันได้ตามลักษณะการใช้งาน
แถมฟรี! ชุด Creator Software
ด้วยความร่วมมือระหว่าง MSIและ Intelผู้ใช้งานจะได้รับชุด Creator Softwareซึ่งเป็นชุดโปรแกรมสำหรับทำงานมูลค่ากว่า 13,000 บาท แบบฟรีๆ สำหรับผู้ที่ซื้อ MSI P65, PS42(8th Gen. Intel® Core™ i7 Processor) และ MSI GE Series (8th Gen. Intel® Core™ i7 Processor) เพื่อช่วยในการสร้างเสริมผลงานของคุณให้เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น!
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Creator Software Pack: https://msi.gm/2Q2uVev
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI P65 Creator ทั้ง 2 รุ่นเป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้วโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 6 – 7 ชั่วโมงโดยประมาณ ถือว่าสามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่พกพาไปใช้งานได้เกือบตลอดทั้งวัน อาจจะไม่นานเท่าพวก Ultrabook ระดับ 8 ชั่วโมง แต่ก็ถือว่ายาวนานมากแล้วสำหรับ Notebook สเปกแบบนี้
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 36 – 43 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 82 – 93 องศาเซลเซียส
ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่เปิดฟีเจอร์ Cooler Boots Trinity เพิ่มรอบพัดลมเป็น 6,xxx รอบต่อวินาที จากการที่มีพัดลม 3 ตัว แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้อย่างไม่น่าเป็นห่วง แม้จะดูอุณหภูมิสูงกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่สเปกใกล้เคียง
Conclusion / Award
โน๊ตบุ๊คทำงานจริงจังที่มาพร้อมน้ำหนักเบาถือเป็นสิ่งหนึ่งที่หลายคนต้องการจับจองเป็นเจ้าของ ซึ่งปกติแล้วโน๊ตบุ๊คแรงๆ แต่ละรุ่นมักจะมีน้ำหนักที่เยอะ พกพาลำบาก เวลาใส่กระเป๋าแบกไปไหนมาไหนปวดหลังปวดไหล่กันสุดๆ หรือว่าถ้าเน้นโน๊ตบุ๊คที่มีความบางเบา ก็จะมีประสิทธิภาพที่ไม่สูงมาก เวลาทำงานหนักๆ อย่างโปรเซสภาพด้วย Lightroom ทำกราฟิกด้วย Photoshop รวมไปถึงตัดต่อวีดีโอด้วย Premier Pro
แต่ว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ MSI P65 Creator แน่นอน เพราะด้วยตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 1.88 กิโลกรัมเท่านั้น แถมได้สเปคสุดแรง Intel Core i Gen 8 ล่าสุดกับ i7-8750H + GTX 1060 Max-Q หรือ GTX 1070 Max-Q บอกเลยครับว่า Work & Play ครบจบในเครื่องเดียว มาพร้อมความแรงหล่อด้วยสีขาวหรือเงินกับราคา 40,900 – 45,900 บาท บอกเลยว่าสุดทางไปเลย หรือถ้าให้เทียบกับ MacBook Pro ก็ต้องยอมรับเหนือชั้นกว่าหลายสุด อาทิ สเปกที่แรงเล่นเกมสบายๆ และราคาที่ถูกกว่ามาก
ดีไซน์ตัวเครื่อง MSI P65 Creator ออกแบบมาใหม่โดยมี DNA มาจาก MSI GS65 วัสดุเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยด์สีเงิน Silver หรือสีขาว ซึ่งไปในทิศทางเดียวกับรุ่นน้องอย่าง MSI Prestige PS42 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานขนาดหน้าจอ 14″ แต่ MSI P65 Creator มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6″ Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีทดลองจริงที่ 94% sRGB ถือว่าใกล้เคียง 100% ที่จริงจังมากกว่าด้วยสเปกชิปประมวลผลและการ์ดจอที่แรงกว่าเยอะ
การระบายความร้อนตัวเครื่องเป็นแบบ Cooler Boost Trinity ที่มีพัดลม 3 ตัว ฮีทไปป์ 4 เส้น ขนาดใหญ่ ช่องระบายความร้อน 4 ช่องหมดห่วงเรื่องตัวเครื่องร้อน ส่วนแรมตัวเครื่องให้มา 8 – 16GB DDR4 ความจุ SSD 512GB m.2 NVMe ตัวแรง แถมตัวเครื่องยังสามารถใส่ SSD m.2 ได้เพิ่มอีกหนึ่งช่อง (มี m.2 จำนวน 2 ช่อง) แบตเตอรี่ก็ทำการอัพเกรดมาใหม่ทำให้ใช้งานทั่วไปได้สูงสุดถึง 7 ชั่วโมง จากการทดสอบจริง นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ Windows 10 แท้พร้อมใช้งานอีกด้วย
เทียบกับสเปค ฟีเจอร์ และการออกแบบสไตล์โน๊ตบุ๊คสายทำงาน กับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คแรงๆ เบาๆ ซักเครื่อง หรือเล่นเกมในยามว่าง สำหรับหลายๆ คนที่มีงบประมาณในการซื้อที่สูงซักหน่อย เพราะเอาเข้าจริงในสเปกที่ใกล้เคียงกันบางแบรนด์สามารถทำได้ราคาได้ดีกว่า แต่ก็นั่นแหละ ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติต่างๆ ก็คงไม่ครบครันขนาดนี้ หรือใครจะเอางบขนาดนี้ไปแยกซื้อโน๊ตบุ๊คกับคอมประกอบก็ไม่ว่ากันนะ
สรุป 5 สิ่งที่ให้ MSI P65 Creator เป็น Notebook สายทำงานตัดต่อวีดีโอแต่งภาพระดับมืออาชีพ เล่นเกมได้ลื่น ราคาคุ้ม
- สเปกภายในที่จัดเต็มอย่าง Gaming Notebook ระดับสูงทำให้ทำงานหนักๆ ได้ลื่นไหล
- ดีไซน์ที่สวยงามโดดเด่น แตกต่าง บางเบากว่า Notebook ทั่วไป พกพาสะดวก
- หน้าจอก็เป็นแบบคุณภาพสูงดีที่สุดทั้งทำงานและเล่นเกม พอร์ตก็ครบครัน
- ประสิทธิภาพโดยรวมทำงานหนักๆ ตัดต่อวีดีโอหรือเล่นเกมได้เยี่ยมยอด
- แบตเตอรี่ก็ยังใช้งานได้ยาวนาน จัดการความร้อนที่เกิดขึ้นได้ไร้กังวล
Specification
MSI P65 Creator ถูกแบ่งออกเป็น 2 รุ่นด้วยกัน โดยต่างกันทั้งสีสันและสเปกภายใน ซึ่งที่เราได้รับมารีวิวในครั้งนี้จะเป็น MSI P65 Creator Limited Edition ตัวเครื่องจะเป็นสีขาวสะอาดพร้อมแซมด้วยสีทอง มาพร้อมสเปก Intel Core i7- 8750H และการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 Max-Q ได้แรมมาเป็น 16GB DDR4 (8GB x 2) ที่สำคัญคือหน้าจอจะเป็นแบบ IPS Full HD รองรับ 144Hz เรียกได้ว่าสุดทางไปเลย สนนราคาปัจจุบันถูกสุดอยู่ที่ 45,900 บาท ที่สำคัญยังมาพร้อมกับหีบห่อแบบกล่องไม้ที่ดูสวยงามเป็นพิเศษ
ส่วนอีกรุ่นจะเป็น MSI P65 Creator สีเงินสวยงามราคาถูกสุดอยู่ที่ 40,900 บาท ที่สีสันจะเป็นสีเงิน Silver ตลอดทั้งตัวเครื่อง ใช้ชิปประมวลผลเหมือนกันคือเป็น Intel Core i7- 8750H (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ ได้การ์ดจอที่แรงไม่แพ้กันเท่าไรอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 Max-Q (6GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 แบบ 1 แถว
ส่วนจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ของ MSI P65 Creator Limited Edition มีความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS โดยเหนือชั้นกว่าเพราะรองรับที่ 144Hz (MSI P65 Creator เป็น 60Hz) พร้อมเทคโนโลยี MSI True Color Technology ปรับโปรไฟล์สีให้ตรงกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ และตัวเครื่องยังมีซอฟแวร์ MSI DRAGON CENTER Version 2 ช่วยปรับแต่งการทำงาน มาพร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที รับประกันมาตรฐาน MSI ระยะเวลา 2 ปีเต็ม ที่บอกเลยว่าเทียบสเปกต่อราคานั้นถือว่ามีความคุ้มค่ามากๆ
- MSI P65 8RF : i7 + GTX 1070 Max-Q + RAM 16GB + SSD 512GB + Full HD 144Hz ราคา 45,900 บาท
- MSI P65 8RE : i7 + GTX 1060 Max-Q + RAM 8GB + SSD 512GB + Full HD ราคา 40,900 บาท
Hardware / Design
สำหรับ MSI P65 Creator ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานสเปกแรงที่เน้นความบางเบารุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่ง ที่พิเศษกว่า MSI P65 Creator Limited Edition ในเรื่องของสีสันที่เป็นสีขาวสะอาดตาพร้อมแซมด้วยสีทองดูหรูหรา ส่วนรุ่นปกติจะเป็นสีเงิน Silver แบบด้านกับพื้นผิวเรียบๆ โดยเน้นความบางเบาเช่นกัน ในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบา พกพาได้สะดวก ด้วยความบางของตัวเครื่องเพียง 17.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 1.88 กิโลกรัม ทำให้พกพาไปใช้งานได้สบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
โดยการออกแบบและดีไซน์ทั้งหมดมีการใช้สีสันเป็นสีขาว (หรือเงิน) แบบด้านกับพื้นผิวเรียบๆ ตั้งแต่ตัวเครื่องด้านนอกด้านใน พร้อมโลโก้ที่เป็นแบบฝังเรียบมากับฝาหลัง ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ก็จะเป็นสีทองที่เป็นวัสดุอะลูเนียมเกือบทั้งหมด (บางส่วนมีแซมด้วยพลาสติกบ้าง เช่น ขอบจอด้านใน) ซึ่งดูแล้วเป็นการเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมๆ ที่ต้องโน๊ตบุ๊คนั้นส่วนมากเป็นสีดำ ที่ดูแล้วสีทองที่ใช้ดูมีความทันสมัย ความสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจกับคนรุ่นใหม่มากกว่า
ด้านฐานล่างตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมเรียบๆ พร้อมมียางรองขนาดใหญ่ 2 จุด ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องถูกติดตั้งอยู่เหนือชุดแป้นคีย์บอร์ด พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน พร้อมการติดตั้งช่องลมโปร่งขนาดใหญ่เพื่อให้ช่วยระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม ส่วนมุมซ้ายล่างคีย์บอร์ดจะเป็นโลโก้ Prestige ที่บ่งบอกถึงซีรีส์
MSI P65 Creator ยังใช้เทคโนโลยี Cooler Boost Trinity เหมือนกับ MSI GS65 ที่เป็นชุดระบายความร้อนแบบพัดลม 3 ตัว ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 5 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 2 ตัว)
ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 4 เส้น ที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อนๆ ถึง 45% หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม จากการที่สเปกตัวเครื่องแรงมากเหมือนเทียบกับความบาง ตรงนี้เลยเป็นเรื่องที่สำคัญ
ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมเช่นกัน แต่ก็มีข้อสังเกตเล็กน้อยอย่างเมื่อเราออกแรงกดลงไปแรงๆ จะมีอาการยุบเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการใช้งาน มองข้ามไปได้อยู่ แต่ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 4.9 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ดูได้จากกล้องเว็บแคมถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บางมากๆ
ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่าโน๊ตบุ๊คทำงานหน้าจอ 15.6″ ทั่วไป ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI P65 Creator ไม่ใช่แค่แรงด้วยประสิทธิภาพ แต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คทำงานจริงจังสายบางเบาช่วงงบประมาณ 40,900 – 45,900 บาทก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาดูสูงแต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ
Screen / Connector
MSI P65 Creator Limited Edition มีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 144Hz ที่ไม่ว่าจะทำงานหรือเล่นเกมก็สมบูรณ์แบบ (ส่วน MSI P65 Creator มีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 60Hz ตามมาตรฐานทั่วไป) มาพร้อมความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล มาตรฐาน Full HD ที่เหมาะสมในการใช้งานทำงานรวมไปถึงเล่นเกม โดยตัว Windows เองจะมีการปรับสเกลขึ้นมาเป็น 125% เพื่อสัดส่วนที่ลงตัว
พาเนลเป็น IPS ที่ให้สีสันและมุมมองที่กว้าง ขอบเขตสีที่ใกล้เคียง sRGB 100% เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นพร้อมกางได้ถึง 180 องศา ส่วนขอบหน้าจอก็บางเฉียบส่งผลโดยตรงให้ตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัด แต่ก็ยังสามารถติดตั้งกล้องเว็บแคมพร้อมไมโครโฟนไว้ขอบหน้าจอด้านบนได้ปกติอยู่
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอเครื่องมือที่ระดับมืออาชีพอย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 94% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 350 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเหลือเฟือกับการใช้งานทั่วไปมากๆ แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ยังไงก็ตามถ้างานจริจังมากๆ ก็ควรทำการคาลิเบรตอยู่เป็นประจำ
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวล่างเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องซ้ายกลางจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 11% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
MSI P65 Creator จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คทำงานหน้าจอ 15.6″ มิติตัวเครื่องที่กระทัดรัด โดยยังให้พอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 3x USB 3.1 Type-C, 1x USB Type-C, 1x HDMI 1.4, 1x mini DisplayPort 1.2, RJ45 (Killer E2400 Gigabit Ethernet with Killer Shield) และ Mic-in/Headphone-out อย่างไรก็ตามพอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้ และมีเชื่อมต่อไร้สายเป็นแบบ Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac ระบบเน็ตเวิร์คที่ทันสมัยที่สุด ทำให้ไม่ว่าจะเป็นไร้สายก็เชื่อมต่อได้ดีและรวดเร็ว
โดยการพกพานั้น MSI P65 Creator ถือว่าทำได้ดี ด้วยน้ำหนัก 1.88 กิโลกรัม ที่เบากว่าตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คสายทำงานสเปกนี้ความแรงแบบนี้ พร้อมความบางพิเศษ ส่วนอแดปเตอร์จัดว่ามีขนาดทั่วไป ที่พอพกพาไปไหนมาไหนได้อยู่ ทำให้การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากๆ กับอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังที่เหมาะกับการใช้งานตามร้านกาแฟเก๋ๆ ออฟฟิศลูกค้า มหาวิทยาลัยมากๆ เครื่องหนึ่ง
Performance / Software
โดย MSI P65 Creator Limited Edition และ MSI P65 Creator มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-8750H (ว่าที่รุ่นยอดนิยมประจำปี 2018) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads
ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-7700HQ พอตัว มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 แบบ 8GB x 2 (MSI P65 Creator เป็น 8GB x 1) ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
MSI P65 Creator ทั้ง 2 รุ่นมีกราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
MSI P65 Creator มีกราฟิกการ์ดจอแยกตัวแรงระดับกลางเน้นร้อนน้อยอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 Max-Q (6GB) ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 970M และแรงกว่า GTX 1050/1050Ti แบบรู้สึกได้ ที่สำคัญคือร้อนน้อยกว่า GTX 1060 ปกติ ทำงานลื่นเล่นเกมไหล
ส่วน MSI P65 Creator Limited Edition มีกราฟิกการ์ดจอแยกระดับบนเน้นร้อนน้อยอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 Max-Q (8GB) ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 980M และแรงกว่า GTX 1060 แบบรู้สึกได้ ที่สำคัญคือปลดปล่อยความร้อนน้อยกว่า GTX 1070 ปกติ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
MSI P65 Creator ให้คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 4 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1060 Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้ว
สำหรับ MSI P65 Creator Limited Edition ให้คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1070 Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Tomb Raider 3/ GTA V / FarCry 5 / PUBG ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว เกมออนไลน์เบาๆ อย่าง DOTA 2 / Overwatch ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 90 ขึ้นไปถึง 100+ ขึ้นไปตลอด
ที่สำคัญด้วยหน้าจอ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 144Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล สรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้เหนือชั้นเทียบเท่าพีซีประกอบแรงๆ เลย แถมหน้าจอยังเทพมากๆ อีกด้วย
MSI DRAGON CENTER Version 2 เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เป็นข้อดีของ Gaming MSI ก็ถูกมาปรับใช้ใน MSI P65 8RF Creator Limited Edition (ใช้รูปเดียวกับ MSI P65 8RE Creator) นี้ด้วย จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- System Monitoring : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Notebook
- Mobile Center : ทำการเชื่อมต่อกับมือถือ
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
หรือจะย่อเป็นหน้าต่างโปรแกรมเล็กๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ สะดวกใช้งานด้วย
นอกเหนือจากนี้ยังมีในส่วนของ MSI True Color ที่เราสามารถปรับโปรไฟล์สีสันได้ตามลักษณะการใช้งาน
แถมฟรี! ชุด Creator Software
ด้วยความร่วมมือระหว่าง MSIและ Intelผู้ใช้งานจะได้รับชุด Creator Softwareซึ่งเป็นชุดโปรแกรมสำหรับทำงานมูลค่ากว่า 13,000 บาท แบบฟรีๆ สำหรับผู้ที่ซื้อ MSI P65, PS42(8th Gen. Intel® Core™ i7 Processor) และ MSI GE Series (8th Gen. Intel® Core™ i7 Processor) เพื่อช่วยในการสร้างเสริมผลงานของคุณให้เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น!
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Creator Software Pack: https://msi.gm/2Q2uVev
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI P65 Creator ทั้ง 2 รุ่นเป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้วโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 6 – 7 ชั่วโมงโดยประมาณ ถือว่าสามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่พกพาไปใช้งานได้เกือบตลอดทั้งวัน อาจจะไม่นานเท่าพวก Ultrabook ระดับ 8 ชั่วโมง แต่ก็ถือว่ายาวนานมากแล้วสำหรับ Notebook สเปกแบบนี้
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 36 – 43 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 82 – 93 องศาเซลเซียส
ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่เปิดฟีเจอร์ Cooler Boots Trinity เพิ่มรอบพัดลมเป็น 6,xxx รอบต่อวินาที จากการที่มีพัดลม 3 ตัว แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้อย่างไม่น่าเป็นห่วง แม้จะดูอุณหภูมิสูงกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่สเปกใกล้เคียง
Conclusion / Award
โน๊ตบุ๊คทำงานจริงจังที่มาพร้อมน้ำหนักเบาถือเป็นสิ่งหนึ่งที่หลายคนต้องการจับจองเป็นเจ้าของ ซึ่งปกติแล้วโน๊ตบุ๊คแรงๆ แต่ละรุ่นมักจะมีน้ำหนักที่เยอะ พกพาลำบาก เวลาใส่กระเป๋าแบกไปไหนมาไหนปวดหลังปวดไหล่กันสุดๆ หรือว่าถ้าเน้นโน๊ตบุ๊คที่มีความบางเบา ก็จะมีประสิทธิภาพที่ไม่สูงมาก เวลาทำงานหนักๆ อย่างโปรเซสภาพด้วย Lightroom ทำกราฟิกด้วย Photoshop รวมไปถึงตัดต่อวีดีโอด้วย Premier Pro
แต่ว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ MSI P65 Creator แน่นอน เพราะด้วยตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 1.88 กิโลกรัมเท่านั้น แถมได้สเปคสุดแรง Intel Core i Gen 8 ล่าสุดกับ i7-8750H + GTX 1060 Max-Q หรือ GTX 1070 Max-Q บอกเลยครับว่า Work & Play ครบจบในเครื่องเดียว มาพร้อมความแรงหล่อด้วยสีขาวหรือเงินกับราคา 40,900 – 45,900 บาท บอกเลยว่าสุดทางไปเลย หรือถ้าให้เทียบกับ MacBook Pro ก็ต้องยอมรับเหนือชั้นกว่าหลายสุด อาทิ สเปกที่แรงเล่นเกมสบายๆ และราคาที่ถูกกว่ามาก
ดีไซน์ตัวเครื่อง MSI P65 Creator ออกแบบมาใหม่โดยมี DNA มาจาก MSI GS65 วัสดุเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยด์สีเงิน Silver หรือสีขาว ซึ่งไปในทิศทางเดียวกับรุ่นน้องอย่าง MSI Prestige PS42 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานขนาดหน้าจอ 14″ แต่ MSI P65 Creator มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6″ Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีทดลองจริงที่ 94% sRGB ถือว่าใกล้เคียง 100% ที่จริงจังมากกว่าด้วยสเปกชิปประมวลผลและการ์ดจอที่แรงกว่าเยอะ
การระบายความร้อนตัวเครื่องเป็นแบบ Cooler Boost Trinity ที่มีพัดลม 3 ตัว ฮีทไปป์ 4 เส้น ขนาดใหญ่ ช่องระบายความร้อน 4 ช่องหมดห่วงเรื่องตัวเครื่องร้อน ส่วนแรมตัวเครื่องให้มา 8 – 16GB DDR4 ความจุ SSD 512GB m.2 NVMe ตัวแรง แถมตัวเครื่องยังสามารถใส่ SSD m.2 ได้เพิ่มอีกหนึ่งช่อง (มี m.2 จำนวน 2 ช่อง) แบตเตอรี่ก็ทำการอัพเกรดมาใหม่ทำให้ใช้งานทั่วไปได้สูงสุดถึง 7 ชั่วโมง จากการทดสอบจริง นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ Windows 10 แท้พร้อมใช้งานอีกด้วย
เทียบกับสเปค ฟีเจอร์ และการออกแบบสไตล์โน๊ตบุ๊คสายทำงาน กับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คแรงๆ เบาๆ ซักเครื่อง หรือเล่นเกมในยามว่าง สำหรับหลายๆ คนที่มีงบประมาณในการซื้อที่สูงซักหน่อย เพราะเอาเข้าจริงในสเปกที่ใกล้เคียงกันบางแบรนด์สามารถทำได้ราคาได้ดีกว่า แต่ก็นั่นแหละ ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติต่างๆ ก็คงไม่ครบครันขนาดนี้ หรือใครจะเอางบขนาดนี้ไปแยกซื้อโน๊ตบุ๊คกับคอมประกอบก็ไม่ว่ากันนะ
สรุป 5 สิ่งที่ให้ MSI P65 Creator เป็น Notebook สายทำงานตัดต่อวีดีโอแต่งภาพระดับมืออาชีพ เล่นเกมได้ลื่น ราคาคุ้ม
- สเปกภายในที่จัดเต็มอย่าง Gaming Notebook ระดับสูงทำให้ทำงานหนักๆ ได้ลื่นไหล
- ดีไซน์ที่สวยงามโดดเด่น แตกต่าง บางเบากว่า Notebook ทั่วไป พกพาสะดวก
- หน้าจอก็เป็นแบบคุณภาพสูงดีที่สุดทั้งทำงานและเล่นเกม พอร์ตก็ครบครัน
- ประสิทธิภาพโดยรวมทำงานหนักๆ ตัดต่อวีดีโอหรือเล่นเกมได้เยี่ยมยอด
- แบตเตอรี่ก็ยังใช้งานได้ยาวนาน จัดการความร้อนที่เกิดขึ้นได้ไร้กังวล