ในขณะที่บ้านเรานั้นถึงจะมีบัตรประชาชนแบบ smart card ทว่าก็ยังคงไม่สามารถที่จะใช้งานได้ทุกหน่วยงานเวลาไปติดต่อราชการครับ เรื่องดังกล่าวนี้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับประชากรชาวสวีเดนที่ ณ เวลานี้นั้นได้ก้าวข้ามการใช้บัตรประชาชนไปเป็นการฝังชิปวงจรเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อใช้งานแทนบัตรประชาชนเรียนร้อยแล้ว โดย ณ เวลานี้ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของการใช้งานชิปวงจรนั้นก็ได้มีประชากรชาวสวีเดนทำการติดตั้งชิปดังกล่าวลงไปใต้ผิวหนังกว่าสามพันรายเลยทีเดียวครับ
ชิปวงจรดังกล่าวนั้นมีขนาดเล็กมากครับ คือจะมีขนาดใกล้เคียงกับเมล็ดข้าวเท่านั้น ซึ่งผู้ที่ได้รับการติดตั้งชิปวงจรดังกล่าวนี้นั้นได้เริ่มทยอยติดตั้งมาตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อนหน้านี้แล้ว(ในปี 2015) และมีการใช้งานมากอย่างต่อเนื่อง ตัวชิปวงจรนั้นไม่เพียงแค่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนบัตรประชาชนเท่านั้นทว่ามันยังสามารถใช้งานแทนบัตรสมาชิกของสถานที่ต่างๆ อย่างเช่นบัตรสมารชิกสถานออกกำลังกาย, ใช้งานเป็นคีย์การ์ดสำหรับเข้าทำงาน ฯลฯ ซึ่งการใช้งานนั้นก็ง่ายมากๆ เพียงแค่โบกมือตรงส่วนที่มีการฝังชิปเอาไว้ไปยังจุดแสกนก็เป็นอันเสร็จสิ้นครับ
นอกเหนือไปจากนั้นแล้วยังมีตัวอย่างการใช้งานที่น่าสนใจอย่างในคลิปช่วงนาทีที่ 2.24 นั้นจะเห็นได้ว่าพนักงานรถไฟทำการแสกนชิปเพื่อใช้เป็นข้อมูลแทนตั๋วรถไฟด้วยครับ อย่างไรก็ตามครับยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังไม่มีใครกล้าที่จะลองใช้ชิปวงจรดังกล่าวในการทำงาน ซึ่งสิ่งที่ว่านั้นก็คือการใช้งานเป็นที่เก็บข้อมูลของบัตรเครดิตที่ในความเป็นจริงนั้นตัวชิปสามารถทำได้แต่ก็ยังคงไม่มีการทดลองอย่างเป็นจริงเป็นจังซึ่งเหตุผลนั้นคาดว่าน่าจะมาจากเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งานครับ
ตัวชิปนั้นจะถูกติดตั้งไว้ใต้ผิวหนังบริเวรมือ ทว่าในการติดตั้งนั้นก็ยังคงมีปัญหาอยู่บ้างเนื่องจากต้องใช้วิธียัดเข้าไปใต้ผิวหนังซึ่งอาจจะทำให้ผู้ที่ทำการติดตั้งนั้นเกิดอาการติดเชื้อในภายหลังขึ้นได้ นอกไปจากนั้นแล้วยังอาจจะเกิดอาการปฏิกิริยาในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดปกติได้อีกต่างหากทำให้การติดตั้งนั้นต้องทำการคัดสรรผู้ติดตั้งเป็นพิเศษ ทว่าทาง MAX IV Laboratory ซึ่งเป็นผู้ทำการทดสอบและติดตั้งชิปดังกล่าวนี้ก็ได้ออกมาบอกเอาไว้ครับว่าตอนนี้พวกเขากำลังหาทางแก้ไขอยู่ครับ
ถึงแม้ว่าจะยังคงอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาและทดลอง ทว่าผลการใช้งานนั้นก็เป็นที่น่าพอใจทั้งในส่วนของผู้ออกแบบและผู้ทดสอบที่ได้รับการติดตั้งชิปวงจรเข้าไปครับ เชื่อว่าในอนาคตนั้นเราๆ ท่านๆ คงจะได้ใช้งานชิปวงจรแสดงตัวตนแบบนี้กันแต่คงต้องรอให้การใช้งานบัตรประชาชนแบบ smart card นั้นสามารถใช้งานร่วมกันได้ทุกที่ก่อนนะครับ
ที่มา : businessinsider