Review – ASUS Zen AiO 27 ที่สุดของ AiO สุดหรู จอ 27″ 4K Ultra HD เก่งทั้งทำงานและเล่นเกมในเครื่องเดียว

ASUS Zen AiO 27 Z272SD ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับนักสร้างคอนเทนต์และมืออาชีพด้านกราฟิก มีดีไซน์ใหม่ที่รวมเอาส่วนประกอบต่างๆทั้งหมดไว้ที่ฐานของตัวเครื่องแทนที่จะเป็นด้านหลังของจอ: วิธีการนี้จะช่วยให้การระบายความร้อนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น, การอัพเกรดทำได้โดยง่ายและตัวจอมีความบางยิ่งขึ้น สเปคมีความทรงพลังยิ่งขึ้นจากชิปประมวลผล Intel Corei7-8700T และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce GTX 1050

ที่น่าสนใจ ASUS Zen AiO 27 Z272SD ยังคงติดตั้งมาพร้อมกับระบบชาร์จไร้สาย Qi ที่บริเวณฐานของตัวเครื่องสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์พกพาได้อย่างรวดเร็ว โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาด 27 นิ้ว 4K UHD NanoEdge PANTONE Validated พร้อมการแสดงช่วงสีที่กว้างระดับ 100% sRGB และค่าความแม่นยำสี Delta-E ที่ต่ำกว่า 3.0 เรียกได้ว่าเป็น All-in-One PC ที่ครบเครื่องจริงๆ สนนราคาที่ 52,990 บาท

Unbox Preview

Specification

ASUS Zen AiO 27 Z272SD มาพร้อมกับชิปประมวลผลระดับ Desktop อย่าง Intel Core i7-8700T ทำงานความเร็ว 2.4 – 4.0 GHz แบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ที่สำคัญยังติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 (DDR5 4GB) ให้ความแรงที่เหลือเฟือในการเล่นเกมทุกเกมบนโลกแบบลื่นไหล ส่วนของแรมมีขนาด 16GB DDR4 Bus 2400MHz (8GB x 2) มีที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 256GB และฮาร์ดดิสก์อีก 1TB หน้าจอขนาด 27 นิ้ว 4K Ultra HD ที่ 3840×2160 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูง IPS ทำงานทั่วไป ทำงานมืออาชีพ ตอบสนองความบันเทิงได้ดี

มิติของตัวเครื่องอยู่ที่ 62.7 x 52.3 x 1.99 เซนติเมตร โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 11 กิโลกรัม แต่มาพร้อมหน้าจอที่บางเฉียบ เพราะฮาร์ดแวร์ต่างๆ ติดตั้งอยู่ที่ตัวฐาน ที่สำคัญขอบจอยังบางด้วยเทคโนโลยี NanoEdge ของทาง ASUS โดยพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB 3.1, USB Type-C, HDMI, LAN พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 ac (Wi-Fi 5) แน่นอนว่ามีระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้งานได้ทันที สนนราคา ASUS Zen AiO 27 Z272SD อยู่ที่ 52,990 บาท ประกัน 3 ปี แบบ On-site Service

Hardware / Design

ตัวเครื่อง ASUS Zen AiO 27 Z272SD เป็นเครื่อง All-in-One PC ซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่ น้ำหนัก 11 กิโลถือว่าหนักประมาณนึง แต่ก็พอที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนภายในบ้านได้ โดดเด่นด้วยขอบบางแบบ NanoEdge เรียกได้ว่าแม้จะเป็น AiO หน้าจอขนาด 27″ แต่ก็มีความเล็กกระทัดรัดกว่า AiO รุ่นก่อนๆ แบบเห็นได้ชัด การเริ่มต้นใช้งานก็ง่ายๆ แค่แกะจากกล่องมาเสียบอแดปเตอร์พร้อมต่อเมาส์คีย์บอร์ดไร้สาย กดเปิดเครื่องก็พร้อมใช้งานทันที

ลักษณะภายนอกตัวเครื่องจะเป็นสีดำและสีน้ำเงิน Deep Drive Blue เน้นความคมเข้มพร้อมแซมเข้ากับสีทอง เข้าชุดกับเมาส์คีย์บอร์ดเป็นอย่างดี งานประกอบแน่นเนี้ยบแข็งแรง ก้านจอมั่นคง ปรับสูงต่ำได้ 85 มิลลิเมตร ปรับก้มเงยได้ -5 ~ +15 องศา พร้อมกับหันซ้ายขวาได้ด้านละ 45 องศา เรียกได้ว่ายืดหยุ่นตามการใช้งานได้ดีจริงๆ โดยรวมแล้วก็มีมิติที่บางเฉียบกว่า AiO ทั่วไป เพราะมีการใช้ฐานเป็นที่อยู่ของฮาร์ดแวร์ภายในแทนด้านหลังของหน้าจอ

ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ จะอยู่ที่ฐานด้านหลังกับด้านขวามือตัวเครื่อง ปุ่มเปิดปิดจะอยู่ที่ขอบตัวฐานด้านหลัง พิเศษตัวเครื่องนี้จะมีปุ่มฟังก์ชั่นสลับการใช้งาน HDMI Out / HDMI In ได้ ก็คือ ASUS Zen AiO 27 Z272SD สามารถใช้เป็นจอมอนิเตอร์หรือไปต่อจอแยกเพิ่มก็ทำได้เช่นเดียวกัน แบบว่าซื้อ AiO ไปเครื่องเดียว เหมือนได้หน้าจอเทพๆ 4K Ultra HD แถมไปด้วยเลย

ในส่วนของกล้อง Webcam ความละเอียด 1 ล้านพิกเซลและไมโครโฟนได้มีการติดตั้งอยู่บริเวณขอบหน้าจอด้านล่าง เพื่อโชว์ถึงดีไซน์ขอบจอบาง 3 ด้าน ที่สำคัญคือพร้อมติดตั้ง IR Camera ที่ไว้สำหรับแสกนใบหน้าใช้กับระบบรักษาความปลอดภัย โดยผ่านทาง Windows Hello บน Windows 10 อีกด้วย ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกของเรากว่าการที่ต้องมานั่งกรอกรหัสแบบเดิมๆ

โดยฝาครอบของฐานสามารถเปิดปิดได้เพื่อเปิดเข้าถึงส่วนประกอบภายใน เพื่อการอัปเกรดหรือทำความสะอาดอุปกรณ์เก็บข้อมูลและหน่วยความจำได้อย่างง่ายดาย แม้ตัวเครื่องจะมีขนาดกะทัดรัด แต่พื้นที่กว้างขวางภายในตัวเครื่องมีเหลือเฟือเพื่อให้ความมั่นใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นจะได้รับการระบายความร้อนเป็นอย่างดี เพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุด  ที่สำคัญมาพร้อมกับ Wireless charging แท่นชาร์จแบบไร้สายที่ได้รับการรับรอง Qi ไว้ที่ฐาน ซึ่งเราสามารถใช้มันชาร์จมือถือขได้โดยอัตโนมัติทันทีที่วางตัวเครื่องมือถือ (แต่ต้องวางให้ตรงจุด และรุ่นมือถือต้องรองรับนะ มาตรฐาน Qi ด้วยนะ)

รายละเอียดอื่นๆ ของ ASUS Zen AiO 27 Z272SD ก็จะมีเรื่องของช่องระบายความร้อนอยู่ฐานมุมซ้ายหลังของตัวเครื่อง ส่วนของลำโพงจะถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของตัวเครื่อง โดยเป็นลำโพง Harman Kardon จำนวน 4 ตัว มีการออกแบบเพื่อสะท้อนเสียงเบสขั้นสูงที่โดยทั่วไปพบได้เฉพาะในระบบเครื่องเสียงแบบไฮเอนด์เท่านั้น จะให้เสียงเบสที่นุ่มนวล ทรงพลัง ให้เสียงที่ชัดเจน เต็มช่วงเสียง

เรียกได้ว่า ASUS Zen AiO 27 Z272SDเป็น AiO ที่ดีไซน์สวยมากรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว ที่ไม่ใช่แค่สวยแต่ฟีเจอร์ยังครบครันอีกด้วย ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Zen Series ที่หลักๆ แล้วเราจะเห็นกันชัดๆ ที่ ZenBook โน๊ตบุ๊คพรีเมียมที่มีหลากหลายรุ่น และ ZenFone มือถือดีไซน์สวยราคาคุ้มค่า แน่นอนว่า Zen AiO ก็ทำได้น่าประทับใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว

Screen / Speaker

ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบ ทั้งขอบด้านข้างและด้านบน NanoEdge ขนาด 27″ ที่ถือว่ามีขนาดใหญ่มากๆ เมื่อเทียบกับรุ่น AiO ขนาด 23.8″ หรือ 21.5″ บนความละเอียด 4K UHD ที่ 3840×2160 พิกเซล พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานกราฟิกหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ เชื่อมั่นได้จากมี PANTONE Validated ด้วยทำให้การแสดงผลต่างๆ มีความเสถียรภาพ ซึ่งนับได้ว่าเป็น AiO ที่มีหน้าจอดีสุดรุ่นนึง ทั้งสีสัน ความเรียบเนียนตา

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูง เราใช้เครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 96% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอทั่วไป คือ พอสู้แสงที่สาดเข้ามาจากหน้าต่างในห้องได้สบายๆ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าแถวกลางล่างของจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่สุด แต่สำหรับช่องแถวบนมุมซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 14% เท่านั้น ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite

ตัวเครื่องมีช่องลำโพง 4 อยู่ด้านหลังของตัวจอพร้อมยิงเสียงคุณภาพสูงมากระทบกับผนังห้องที่จัดวาง ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ระบบเสียงชั้นยอดอีกด้วย ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ให้ขอบเขตเสียงที่กว้าง จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดีด้วยลำโพงขนาด 10 Watt สองตัว ส่วนทุ้มมีออกมาชัดเจน ด้วยลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ขนาด 5 Watt อีกสองตัว เรื่องของความดังของเสียงถือว่ามาก ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าประทับใจทีเดียว

Keyboard / Mouse

สำหรับชุดเมาส์และคีย์บอร์ดที่ติดมากับ ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 ตัวที่เรารีวิวนี้ ก็จัดได้ว่าใช้งานได้ดี โดยเป็นแบบชุดไร้สายอาศัยการเชื่อมต่อกับตัวรับ USB (ตัวเดียวใช้ทั้งเมา์และคีย์บอร์ด) ที่เราต้องนำไปเสียบกับพอร์ต USB ของตัวเครื่องอีกที ซึ่งดีไซน์การออกแบบของชุดเมาส์และคีย์บอร์ดก็ดูสวยงามเข้ากับตัวเครื่องอย่างตัว ด้วยสีสันน้ำเงินพร้อมแซมด้วยสีทองในบางจุด ตัวแป้นคีย์บอร์ดเองก็กดง่ายสะดวกเด้งรับกับนิ้วอย่างนุ่มนวล ซึ่งด้วยความที่เป็น Full Size ตามสไตล์ของคีย์บอร์ด Rubber Dome แบบเครื่อง Desktop PC ปกติ ทำให้มีปุ่มการใช้งานต่างๆ ครบครันตามมาตรฐาน รวมไปถึงมี Numpad ให้ใช้งานแป้นตัวเลขได้สะดวก

ส่วนตัวเมาส์ก็ใช้งานได้ตามปกติมาตรฐานเช่นเดียวกัน การคลิกซ้ายคลิกขวาก็ตอบสนองได้อย่างทันใจ รวมไปถึงการ Scroll ปุ่มกลางด็ทำได้อย่างลื่นไหล แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าการเคลื่อนที่ไปมาเร็วๆ ของเมาส์ก็อาจจะมีจังหวะที่ขยับตามมือเราไม่ทัน นั่นก็เป็นเพราะเป็นเมาส์แบบไร้สายปกติ ยังไงถ้าให้ดีกรณีจะเล่นเกมอาจจะแนะนำให้ใช้เมาส์มีสายแทนที่น่าจะดีกว่า

Connector / Heat

ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 จัดว่าเป็น AiO ขนาดหน้าจอ 27″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันในระดับนึง โดยติดตั้งฐานด้านหลังและขอบของตัวเครื่องเป็นหลักไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 4 ช่อง, USB 3.1 Type-C จำนวน 1 ช่อง และพอร์ต HDMI 1.4 ทั้งแบบ HDMI Out และ HDMI In ไว้ต่อจอแสดงผลแยกภายนอก หรือจะใช้ตัวมันเองเป็นหน้าจอมอนิเตอร์ก็สามารถทำได้ สลับไปมาได้ด้วยการกดปุ่มบริเวณข้างๆ เท่านั้น ส่วนช่อง Mic-in/Headphone-out ก็มีมาให้ปกติ รวมถึงมี SD Card Reader และ LAN ตัวเต็มอีกด้วย

เรียกได้ว่าค่อนข้างให้มาเยอะทีเดียว ส่วนอีกช่องก็จะเป็นที่เสียบอแดปเตอร์ โดยเป็นอแดปเตอร์ขนาดใหญ่ เพราะมีการใช้ไฟของตัวเครื่องที่เยอะ แน่นอนว่ามีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac 2 x 2 (Wi-Fi 5) ที่มาตรฐานล่าสุดและดีที่สุด

ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ  40 – 45 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 45 – 48 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด

ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 90 – 98 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 80 – 86 องศาเซลเซียสโดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นดีประมาณนึง ด้วยชุดระบายความร้อนแบบ 3 ฮีตไปป์ ทำงานรวมกับ 1 พัดลมขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า AiO ทั่วไป ที่ไม่ได้ติดตั้งสเปกระดับสูงขนาดนี้

ทั้งตัวชิปประมวลผล Intel Core i7-8700T ที่ยกมาจาก Desktop PC ปกติ และการ์ดจอเล่นเกมอย่าง GTX 1050 ซึ่งก็มีความแรงของประสิทธิภาพที่พอตัว สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง ส่วนสรุปคือถามว่าร้อนไหมก็ต้องบอกว่าร้อน แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ไม่ได้ส่งผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด

 

Performance / Software

โดย ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 8 ระดับ Desktop PC อย่าง Intel Core i7-8700T ที่ปกติแล้วถ้าเราจัดสเปกด้วยตนเองจะไม่สามารถไปหาซื้อได้ โดดเด่นด้วยความเร็วที่ต่ำเน้นการคลายความร้อนที่น้อยกว่า แต่ก็เป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกมได้ดี มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.4 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.0 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads

ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงใกล้เคียงกับตัว Desktop PC อย่าง Intel Core i7-8700 สบายๆ เลย มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 แบบ 2 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 630 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา

และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอระดับ Gaming Notebook อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ GTX 1050 ตัวปกติของ Desktop PC ที่เป็นการ์ดแยกชัดเจนเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติได้ดี โดยปลดปล่อยความร้อนและประหยัดพลังงานมากกว่า ซึ่งเดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลฝั่ง Gaming Notebook อย่าง Intel Core i7-8750H ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB ของทาง Intel แบบ M.2 NVMe โดยตัวเครื่องไม่มีฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนเลย (แต่มีช่องใส่อัพเกรดได้ปกติ) เห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 485MB/s และเขียนที่ 462MB/s ที่พอเพียงต่อการใช้งานในทุกๆ ด้าน

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ที่เป็นไดร์ฟรองความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 5400 ที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่เป็น 52.9 MB/s และสูงสุดที่ 141.0 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 107.1 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 19.5 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว ยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับ SSD M.2 แล้ว การใช้งานโดยรวมก็ลื่นไหลน่าประทับใจมากๆ

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,554 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่า AiO ทั่วไปมาก

การทดสอบเกมจะเป็นเกมที่ไม่หนักมาก แต่เป็นเกมที่คนส่วนมากนิยมเล่นกัน ซึ่งโดยส่วนตัวก็เล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2 และ Overwatch ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล (การเล่นด้วยความละเอียด 4K UHD ทำไม่ได้แน่ๆ หรือทำได้แต่ไม่ลื่นไหล) สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าปรับสุดทุกอย่างเลยสำหรับ DOTA 2 ส่วน Overwatch จะเป็นปรับแบบ High โดย Rendering 100% ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับที่น่าประทับใจ

ส่วนเกมอย่าง PUBG ที่นับว่าเป็นอีกเกมที่กินทรัพยากรเครื่องหนัก ก็มาทดสอบด้วยการปรับเป็น Medium โดยเฟรมเรทที่ได้มานั้นถือว่าผ่านเลย เล่นได้สบายๆ ภาพก็สวยงามพอตัวไม่ได้แย่อะไร พูดตรงๆ ก็คือพอจะเล่นได้สำหรับเกมออนไลน์แนวนี้ ส่วนเกมอื่นๆ ที่ไม่เกินทรัพยากรเท่าอย่าง CS:GO หรือ Point Blank รวมไปถึงเกมออนไลน์อื่นๆ ก็น่าจะเล่นได้ลื่นๆ อย่างแน่นอน

Conclusion / Award

ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 ดูน่าจะมองเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่พื้นที่จำกัด ไม่ชอบอะไรที่เกะกะและอยากได้เครื่องที่วางแล้วสบายตา รวมไปถึงมีดีไซน์ที่สวยงามล้ำสมัย ดีไซน์บางเฉียบทั้งมิติตัวเครื่องและขอบจอที่บางกว่า AiO ทั่วไป การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ ยังคงสมบูรณ์เหมือนเดิม ตามมาตรฐานของ Zen Series จากทาง ASUS

ที่สำคัญเป็น AiO ที่เน้นสเปคที่ต้องแรงไว้ก่อนเท่าที่งบจะซื้อได้ ด้วย Core i7-8700T และ GTX 1050 ซึ่งเพียงต่อการใช้งานเบาๆ หนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวมไปถึงการเล่นเกมก็สามารถทำได้เป็นอย่างประมาณนึง  AiO เครื่องนี้มาพร้อมกับเมาส์และคีย์บอร์ดแบบ Wireless บันเดิลมาให้เสร็จสรรพในกล่อง  รายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจก็จะเป็นหน้าจอเทพและลำโพง 4 ตัว และฐานจอมีระบบการชาร์จไร้สายตอบโจทย์คนใช้งานมือถือ

ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 เป็น AiO จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานที่เน้นเล่นเกมเป็นหลักด้วยดีไซน์การออกแบบที่หรูหราและใช้งานหนักๆ ได้ด้วย หรือผู้ที่รักความบันเทิงและมัลติมีเดีย ส่วนทำงานทั่วๆ ไปนั้นสบายๆ อยู่แล้วแถมยังให้การรับประกันถึง 3 ปี แบบ On-site Service คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย อันนี้เจ๋งกว่าแบบเหนือชั้นจริงๆ ยังไงก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเลยถ้างบไม่เกี่ยงที่ 52,990 บาท

ข้อดี

• ดีไซน์งสวยงาม โดดเด่น ตามสไตล์ของ Zen Series จากทาง ASUS
• ออกแบบมิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดขอบจอบาง ปรับจอได้หลากหลายมุม
• ระบบเสียงเยี่ยมด้วย Harman Kardon จำนวน 4 ตัว ให้เสียงคุณภาพดีมาก
• หน้า 27″ ความละเอียด 4K UHD พาเนล IPS คุณภาพสูง
• ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Core i7-8700T และการ์ดจอ GTX 1050
• มาพร้อมกับระบบชาร์จไร้สาย Qi ที่บริเวณฐาน
• การรับประกัน 3 ปีเต็ม On-site Service
• มีเมาส์กับคีย์บอร์ด Wireless มาให้ด้วยในกล่อง
• ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 Home
• ถอดอัปเกรดทำความสะอาดได้ง่าย

ข้อสังเกต

• SSD M.2 NVMe ให้มาความเร็วต่ำไปหน่อย
• เมาส์กับคีย์บอร์ด Wireless ธรรมดาไปหน่อย
• เวลาทำงานหนักความร้อนค่อนข้างสูง

Unbox Preview

Specification

ASUS Zen AiO 27 Z272SD มาพร้อมกับชิปประมวลผลระดับ Desktop อย่าง Intel Core i7-8700T ทำงานความเร็ว 2.4 – 4.0 GHz แบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ที่สำคัญยังติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 (DDR5 4GB) ให้ความแรงที่เหลือเฟือในการเล่นเกมทุกเกมบนโลกแบบลื่นไหล ส่วนของแรมมีขนาด 16GB DDR4 Bus 2400MHz (8GB x 2) มีที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 256GB และฮาร์ดดิสก์อีก 1TB หน้าจอขนาด 27 นิ้ว 4K Ultra HD ที่ 3840×2160 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูง IPS ทำงานทั่วไป ทำงานมืออาชีพ ตอบสนองความบันเทิงได้ดี

มิติของตัวเครื่องอยู่ที่ 62.7 x 52.3 x 1.99 เซนติเมตร โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 11 กิโลกรัม แต่มาพร้อมหน้าจอที่บางเฉียบ เพราะฮาร์ดแวร์ต่างๆ ติดตั้งอยู่ที่ตัวฐาน ที่สำคัญขอบจอยังบางด้วยเทคโนโลยี NanoEdge ของทาง ASUS โดยพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB 3.1, USB Type-C, HDMI, LAN พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 ac (Wi-Fi 5) แน่นอนว่ามีระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้งานได้ทันที สนนราคา ASUS Zen AiO 27 Z272SD อยู่ที่ 52,990 บาท ประกัน 3 ปี แบบ On-site Service

Hardware / Design

ตัวเครื่อง ASUS Zen AiO 27 Z272SD เป็นเครื่อง All-in-One PC ซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่ น้ำหนัก 11 กิโลถือว่าหนักประมาณนึง แต่ก็พอที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนภายในบ้านได้ โดดเด่นด้วยขอบบางแบบ NanoEdge เรียกได้ว่าแม้จะเป็น AiO หน้าจอขนาด 27″ แต่ก็มีความเล็กกระทัดรัดกว่า AiO รุ่นก่อนๆ แบบเห็นได้ชัด การเริ่มต้นใช้งานก็ง่ายๆ แค่แกะจากกล่องมาเสียบอแดปเตอร์พร้อมต่อเมาส์คีย์บอร์ดไร้สาย กดเปิดเครื่องก็พร้อมใช้งานทันที

ลักษณะภายนอกตัวเครื่องจะเป็นสีดำและสีน้ำเงิน Deep Drive Blue เน้นความคมเข้มพร้อมแซมเข้ากับสีทอง เข้าชุดกับเมาส์คีย์บอร์ดเป็นอย่างดี งานประกอบแน่นเนี้ยบแข็งแรง ก้านจอมั่นคง ปรับสูงต่ำได้ 85 มิลลิเมตร ปรับก้มเงยได้ -5 ~ +15 องศา พร้อมกับหันซ้ายขวาได้ด้านละ 45 องศา เรียกได้ว่ายืดหยุ่นตามการใช้งานได้ดีจริงๆ โดยรวมแล้วก็มีมิติที่บางเฉียบกว่า AiO ทั่วไป เพราะมีการใช้ฐานเป็นที่อยู่ของฮาร์ดแวร์ภายในแทนด้านหลังของหน้าจอ

ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ จะอยู่ที่ฐานด้านหลังกับด้านขวามือตัวเครื่อง ปุ่มเปิดปิดจะอยู่ที่ขอบตัวฐานด้านหลัง พิเศษตัวเครื่องนี้จะมีปุ่มฟังก์ชั่นสลับการใช้งาน HDMI Out / HDMI In ได้ ก็คือ ASUS Zen AiO 27 Z272SD สามารถใช้เป็นจอมอนิเตอร์หรือไปต่อจอแยกเพิ่มก็ทำได้เช่นเดียวกัน แบบว่าซื้อ AiO ไปเครื่องเดียว เหมือนได้หน้าจอเทพๆ 4K Ultra HD แถมไปด้วยเลย

ในส่วนของกล้อง Webcam ความละเอียด 1 ล้านพิกเซลและไมโครโฟนได้มีการติดตั้งอยู่บริเวณขอบหน้าจอด้านล่าง เพื่อโชว์ถึงดีไซน์ขอบจอบาง 3 ด้าน ที่สำคัญคือพร้อมติดตั้ง IR Camera ที่ไว้สำหรับแสกนใบหน้าใช้กับระบบรักษาความปลอดภัย โดยผ่านทาง Windows Hello บน Windows 10 อีกด้วย ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกของเรากว่าการที่ต้องมานั่งกรอกรหัสแบบเดิมๆ

โดยฝาครอบของฐานสามารถเปิดปิดได้เพื่อเปิดเข้าถึงส่วนประกอบภายใน เพื่อการอัปเกรดหรือทำความสะอาดอุปกรณ์เก็บข้อมูลและหน่วยความจำได้อย่างง่ายดาย แม้ตัวเครื่องจะมีขนาดกะทัดรัด แต่พื้นที่กว้างขวางภายในตัวเครื่องมีเหลือเฟือเพื่อให้ความมั่นใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นจะได้รับการระบายความร้อนเป็นอย่างดี เพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุด  ที่สำคัญมาพร้อมกับ Wireless charging แท่นชาร์จแบบไร้สายที่ได้รับการรับรอง Qi ไว้ที่ฐาน ซึ่งเราสามารถใช้มันชาร์จมือถือขได้โดยอัตโนมัติทันทีที่วางตัวเครื่องมือถือ (แต่ต้องวางให้ตรงจุด และรุ่นมือถือต้องรองรับนะ มาตรฐาน Qi ด้วยนะ)

รายละเอียดอื่นๆ ของ ASUS Zen AiO 27 Z272SD ก็จะมีเรื่องของช่องระบายความร้อนอยู่ฐานมุมซ้ายหลังของตัวเครื่อง ส่วนของลำโพงจะถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของตัวเครื่อง โดยเป็นลำโพง Harman Kardon จำนวน 4 ตัว มีการออกแบบเพื่อสะท้อนเสียงเบสขั้นสูงที่โดยทั่วไปพบได้เฉพาะในระบบเครื่องเสียงแบบไฮเอนด์เท่านั้น จะให้เสียงเบสที่นุ่มนวล ทรงพลัง ให้เสียงที่ชัดเจน เต็มช่วงเสียง

เรียกได้ว่า ASUS Zen AiO 27 Z272SDเป็น AiO ที่ดีไซน์สวยมากรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว ที่ไม่ใช่แค่สวยแต่ฟีเจอร์ยังครบครันอีกด้วย ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Zen Series ที่หลักๆ แล้วเราจะเห็นกันชัดๆ ที่ ZenBook โน๊ตบุ๊คพรีเมียมที่มีหลากหลายรุ่น และ ZenFone มือถือดีไซน์สวยราคาคุ้มค่า แน่นอนว่า Zen AiO ก็ทำได้น่าประทับใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว

Screen / Speaker

ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบ ทั้งขอบด้านข้างและด้านบน NanoEdge ขนาด 27″ ที่ถือว่ามีขนาดใหญ่มากๆ เมื่อเทียบกับรุ่น AiO ขนาด 23.8″ หรือ 21.5″ บนความละเอียด 4K UHD ที่ 3840×2160 พิกเซล พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานกราฟิกหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ เชื่อมั่นได้จากมี PANTONE Validated ด้วยทำให้การแสดงผลต่างๆ มีความเสถียรภาพ ซึ่งนับได้ว่าเป็น AiO ที่มีหน้าจอดีสุดรุ่นนึง ทั้งสีสัน ความเรียบเนียนตา

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูง เราใช้เครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 96% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอทั่วไป คือ พอสู้แสงที่สาดเข้ามาจากหน้าต่างในห้องได้สบายๆ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าแถวกลางล่างของจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่สุด แต่สำหรับช่องแถวบนมุมซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 14% เท่านั้น ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite

ตัวเครื่องมีช่องลำโพง 4 อยู่ด้านหลังของตัวจอพร้อมยิงเสียงคุณภาพสูงมากระทบกับผนังห้องที่จัดวาง ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ระบบเสียงชั้นยอดอีกด้วย ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ให้ขอบเขตเสียงที่กว้าง จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดีด้วยลำโพงขนาด 10 Watt สองตัว ส่วนทุ้มมีออกมาชัดเจน ด้วยลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ขนาด 5 Watt อีกสองตัว เรื่องของความดังของเสียงถือว่ามาก ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าประทับใจทีเดียว

Keyboard / Mouse

สำหรับชุดเมาส์และคีย์บอร์ดที่ติดมากับ ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 ตัวที่เรารีวิวนี้ ก็จัดได้ว่าใช้งานได้ดี โดยเป็นแบบชุดไร้สายอาศัยการเชื่อมต่อกับตัวรับ USB (ตัวเดียวใช้ทั้งเมา์และคีย์บอร์ด) ที่เราต้องนำไปเสียบกับพอร์ต USB ของตัวเครื่องอีกที ซึ่งดีไซน์การออกแบบของชุดเมาส์และคีย์บอร์ดก็ดูสวยงามเข้ากับตัวเครื่องอย่างตัว ด้วยสีสันน้ำเงินพร้อมแซมด้วยสีทองในบางจุด ตัวแป้นคีย์บอร์ดเองก็กดง่ายสะดวกเด้งรับกับนิ้วอย่างนุ่มนวล ซึ่งด้วยความที่เป็น Full Size ตามสไตล์ของคีย์บอร์ด Rubber Dome แบบเครื่อง Desktop PC ปกติ ทำให้มีปุ่มการใช้งานต่างๆ ครบครันตามมาตรฐาน รวมไปถึงมี Numpad ให้ใช้งานแป้นตัวเลขได้สะดวก

ส่วนตัวเมาส์ก็ใช้งานได้ตามปกติมาตรฐานเช่นเดียวกัน การคลิกซ้ายคลิกขวาก็ตอบสนองได้อย่างทันใจ รวมไปถึงการ Scroll ปุ่มกลางด็ทำได้อย่างลื่นไหล แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าการเคลื่อนที่ไปมาเร็วๆ ของเมาส์ก็อาจจะมีจังหวะที่ขยับตามมือเราไม่ทัน นั่นก็เป็นเพราะเป็นเมาส์แบบไร้สายปกติ ยังไงถ้าให้ดีกรณีจะเล่นเกมอาจจะแนะนำให้ใช้เมาส์มีสายแทนที่น่าจะดีกว่า

Connector / Heat

ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 จัดว่าเป็น AiO ขนาดหน้าจอ 27″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันในระดับนึง โดยติดตั้งฐานด้านหลังและขอบของตัวเครื่องเป็นหลักไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 4 ช่อง, USB 3.1 Type-C จำนวน 1 ช่อง และพอร์ต HDMI 1.4 ทั้งแบบ HDMI Out และ HDMI In ไว้ต่อจอแสดงผลแยกภายนอก หรือจะใช้ตัวมันเองเป็นหน้าจอมอนิเตอร์ก็สามารถทำได้ สลับไปมาได้ด้วยการกดปุ่มบริเวณข้างๆ เท่านั้น ส่วนช่อง Mic-in/Headphone-out ก็มีมาให้ปกติ รวมถึงมี SD Card Reader และ LAN ตัวเต็มอีกด้วย

เรียกได้ว่าค่อนข้างให้มาเยอะทีเดียว ส่วนอีกช่องก็จะเป็นที่เสียบอแดปเตอร์ โดยเป็นอแดปเตอร์ขนาดใหญ่ เพราะมีการใช้ไฟของตัวเครื่องที่เยอะ แน่นอนว่ามีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac 2 x 2 (Wi-Fi 5) ที่มาตรฐานล่าสุดและดีที่สุด

ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ  40 – 45 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 45 – 48 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด

ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 90 – 98 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 80 – 86 องศาเซลเซียสโดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นดีประมาณนึง ด้วยชุดระบายความร้อนแบบ 3 ฮีตไปป์ ทำงานรวมกับ 1 พัดลมขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า AiO ทั่วไป ที่ไม่ได้ติดตั้งสเปกระดับสูงขนาดนี้

ทั้งตัวชิปประมวลผล Intel Core i7-8700T ที่ยกมาจาก Desktop PC ปกติ และการ์ดจอเล่นเกมอย่าง GTX 1050 ซึ่งก็มีความแรงของประสิทธิภาพที่พอตัว สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง ส่วนสรุปคือถามว่าร้อนไหมก็ต้องบอกว่าร้อน แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ไม่ได้ส่งผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด

 

Performance / Software

โดย ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 8 ระดับ Desktop PC อย่าง Intel Core i7-8700T ที่ปกติแล้วถ้าเราจัดสเปกด้วยตนเองจะไม่สามารถไปหาซื้อได้ โดดเด่นด้วยความเร็วที่ต่ำเน้นการคลายความร้อนที่น้อยกว่า แต่ก็เป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกมได้ดี มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.4 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.0 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads

ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงใกล้เคียงกับตัว Desktop PC อย่าง Intel Core i7-8700 สบายๆ เลย มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 แบบ 2 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 630 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา

และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอระดับ Gaming Notebook อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ GTX 1050 ตัวปกติของ Desktop PC ที่เป็นการ์ดแยกชัดเจนเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติได้ดี โดยปลดปล่อยความร้อนและประหยัดพลังงานมากกว่า ซึ่งเดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลฝั่ง Gaming Notebook อย่าง Intel Core i7-8750H ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB ของทาง Intel แบบ M.2 NVMe โดยตัวเครื่องไม่มีฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนเลย (แต่มีช่องใส่อัพเกรดได้ปกติ) เห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 485MB/s และเขียนที่ 462MB/s ที่พอเพียงต่อการใช้งานในทุกๆ ด้าน

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ที่เป็นไดร์ฟรองความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 5400 ที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่เป็น 52.9 MB/s และสูงสุดที่ 141.0 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 107.1 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 19.5 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว ยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับ SSD M.2 แล้ว การใช้งานโดยรวมก็ลื่นไหลน่าประทับใจมากๆ

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,554 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่า AiO ทั่วไปมาก

การทดสอบเกมจะเป็นเกมที่ไม่หนักมาก แต่เป็นเกมที่คนส่วนมากนิยมเล่นกัน ซึ่งโดยส่วนตัวก็เล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2 และ Overwatch ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล (การเล่นด้วยความละเอียด 4K UHD ทำไม่ได้แน่ๆ หรือทำได้แต่ไม่ลื่นไหล) สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าปรับสุดทุกอย่างเลยสำหรับ DOTA 2 ส่วน Overwatch จะเป็นปรับแบบ High โดย Rendering 100% ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับที่น่าประทับใจ

ส่วนเกมอย่าง PUBG ที่นับว่าเป็นอีกเกมที่กินทรัพยากรเครื่องหนัก ก็มาทดสอบด้วยการปรับเป็น Medium โดยเฟรมเรทที่ได้มานั้นถือว่าผ่านเลย เล่นได้สบายๆ ภาพก็สวยงามพอตัวไม่ได้แย่อะไร พูดตรงๆ ก็คือพอจะเล่นได้สำหรับเกมออนไลน์แนวนี้ ส่วนเกมอื่นๆ ที่ไม่เกินทรัพยากรเท่าอย่าง CS:GO หรือ Point Blank รวมไปถึงเกมออนไลน์อื่นๆ ก็น่าจะเล่นได้ลื่นๆ อย่างแน่นอน

Conclusion / Award

ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 ดูน่าจะมองเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่พื้นที่จำกัด ไม่ชอบอะไรที่เกะกะและอยากได้เครื่องที่วางแล้วสบายตา รวมไปถึงมีดีไซน์ที่สวยงามล้ำสมัย ดีไซน์บางเฉียบทั้งมิติตัวเครื่องและขอบจอที่บางกว่า AiO ทั่วไป การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ ยังคงสมบูรณ์เหมือนเดิม ตามมาตรฐานของ Zen Series จากทาง ASUS

ที่สำคัญเป็น AiO ที่เน้นสเปคที่ต้องแรงไว้ก่อนเท่าที่งบจะซื้อได้ ด้วย Core i7-8700T และ GTX 1050 ซึ่งเพียงต่อการใช้งานเบาๆ หนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวมไปถึงการเล่นเกมก็สามารถทำได้เป็นอย่างประมาณนึง  AiO เครื่องนี้มาพร้อมกับเมาส์และคีย์บอร์ดแบบ Wireless บันเดิลมาให้เสร็จสรรพในกล่อง  รายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจก็จะเป็นหน้าจอเทพและลำโพง 4 ตัว และฐานจอมีระบบการชาร์จไร้สายตอบโจทย์คนใช้งานมือถือ

ASUS Zen AiO 27 Z272SD1 เป็น AiO จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานที่เน้นเล่นเกมเป็นหลักด้วยดีไซน์การออกแบบที่หรูหราและใช้งานหนักๆ ได้ด้วย หรือผู้ที่รักความบันเทิงและมัลติมีเดีย ส่วนทำงานทั่วๆ ไปนั้นสบายๆ อยู่แล้วแถมยังให้การรับประกันถึง 3 ปี แบบ On-site Service คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย อันนี้เจ๋งกว่าแบบเหนือชั้นจริงๆ ยังไงก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเลยถ้างบไม่เกี่ยงที่ 52,990 บาท

ข้อดี

• ดีไซน์งสวยงาม โดดเด่น ตามสไตล์ของ Zen Series จากทาง ASUS
• ออกแบบมิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดขอบจอบาง ปรับจอได้หลากหลายมุม
• ระบบเสียงเยี่ยมด้วย Harman Kardon จำนวน 4 ตัว ให้เสียงคุณภาพดีมาก
• หน้า 27″ ความละเอียด 4K UHD พาเนล IPS คุณภาพสูง
• ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Core i7-8700T และการ์ดจอ GTX 1050
• มาพร้อมกับระบบชาร์จไร้สาย Qi ที่บริเวณฐาน
• การรับประกัน 3 ปีเต็ม On-site Service
• มีเมาส์กับคีย์บอร์ด Wireless มาให้ด้วยในกล่อง
• ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 Home
• ถอดอัปเกรดทำความสะอาดได้ง่าย

ข้อสังเกต

• SSD M.2 NVMe ให้มาความเร็วต่ำไปหน่อย
• เมาส์กับคีย์บอร์ด Wireless ธรรมดาไปหน่อย
• เวลาทำงานหนักความร้อนค่อนข้างสูง