พบกันอีกครั้งกับบทความรีวิวอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่หลากหลายคนอยากจะได้เห็นตัวจริงๆ ของอุปกรณ์ประเภทต่างๆ ที่เราได้สัมผัสด้วยมือของเรา แล้วก็เอาสิ่งที่เราสามารถรับรู้ได้มาบอกเล่าต่อกันให้ชาว NBS ได้ทราบ คราวนี้ก็วนกลับมากันที่ลำโพงอีกครั้ง แต่คราวนี้จะมีความพิเศษตรงที่เป็นลำโพงไร้สาย Bluetooth ที่ไม่จำเป็นต้องมีสายระเกะระกะให้รำคาญใจแต่อย่างใด ที่สำคัญสามารถใช้คำสั่งเสียงได้ด้วย
กับแบรนด์ดังที่อยู่ในกระแสตลอดเรื่องเรื่องอุปกรณ์เสริมด้านเสียงสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน อย่าง JBL ล่าสุดได้นำเสนอ JBL LINK Series ออกมาแล้ว โดดเด่นด้วย Google Assistant โดย JBL LINK 10 เป็นรุ่นน้องเล็กสุดราคาแค่ 4,990 บาท ซึ่งยังมีอีกหลากหลายรุ่น ซึ่งแตกต่างกันในเรื่องของขนาด รวมไปถึงฟีเจอร์ต่างๆ แต่แกนหลักๆ ก็จะเป็น Google Assistant ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ใช้งานแบบ Smart Home ล้ำๆ กันไปเลย
- JBL LINK 10 ลำโพงตัวเล็กที่สุดในตระกูล ใช้งานได้ 5 ชั่วโมง กำลังขับ 10 W 4,990 บาท
- JBL LINK 20 ลำโพงขนาดย่อม ตัวสูงกว่า LINK 10 ใช้งานได้ 10 ชั่วโมง กำลังขับ 20 W 6,990 บาท
- JBL LINK 300 ลำโพงขนาดกลางสำหรับตั้งในบ้าน (ไม่มีแบตเตอรี่ เสียบสายอย่างเดียว) กำลังขับ 50 W 9,990 บาท
- JBL LINK 500 ลำโพงขนาดใหญ่สำหรับตั้งในบ้าน (ไม่มีแบตเตอรี่ เสียบสายอย่างเดียว) กำลังขับ 60 W 13,900 บาท
ฟีเจอร์เด่นของลำโพง JBL Link 10
- รองรับการใช้งานร่วมกับ Google Assistant
- ระบบการสั่งงานด้วยเสียง
- ติดตั้งง่ายดายด้วยแอพลิเคชัน Google Home บนระบบ iOS และ Android
- Chromecast built-in
- คุณภาพเสียงทรงพลัง 24 bit/96kHz , powered by the cloud
- เล่นและเชื่อมต่อหลายห้อง ผ่านลำโพงที่มี Chromecast
- รองรับระบบการเชื่อมต่อ Wifi 2.4/5GHz
- รองรับระบบการเชื่อมต่อ Bluetooth®
- เล่นยาวนานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง
- กันน้ำระดับ IPX7
- วัสดุตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
ข้อมูลเฉพาะของลำโพง JBL Link 10
- Transducer : 2 x 45mm
- Output power : 2 x 8W
- Frequency response : 65Hz–20kHz
- Signal-to-noise ratio : >80dB
- Battery type : Lithium-ion Polymer (3.7V, 4000mAh)
- Battery charge time : 4 hours @5V 1A
- Music play time : up to 5 hours (varies by volume level and content)
- Wireless network : 802.11b/g/n/ac (2.4/5GHz)
- Bluetooth version : 4.2
- Supported audio formats : HE-AAC, LC-AAC, MP3, Vorbis, WAV (LPCM), FLAC, Opus
- Dimensions (Dia x H) : 86mm x 169mm
- Weight : 710g
JBL LINK 10 เป็นลำโพงไร้สายขนาดกระทัดรัด อาศัยการเชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth เป็นหลัก แต่มันดีกว่าลำโพงไร้สายรุ่นอื่นๆ ก็คือ มันยังสามารถเชื่อต่อผ่านทา Wi-Fi ได้ โดยเฉพาะบริการที่รองรับ Chromecast Audio อย่าง Spotify ตัวลำโพงเอง จะสามารถดึงเพลงจาก Server ได้ตรงๆ โดยไม่จำเป็นต้องดึงผ่านมือถือเหมือนลำโพงทั่วไป ส่งผลให้คุณภาพเสียงดีกว่าเพราะไม่มีการบีบอัดเสียงซ้ำเพื่อส่งต่อไปมา ที่สำคัญเลยก็คือ พวกเสียงเตือน Notification ต่างๆ เช่น Facebook, Line หรือเสียงรบกวนของมือถือจะไม่ไปดังที่ลำโพงให้รำคาญใจ ซึ่งมันจะดังแค่ที่มือถืออย่างเดียวเท่านั้น
ซึ่งการมาของ JBL LINK Series มาจากการที่ Smart Home นั้นเติบโต โดยเฉพาะในกลุ่มลำโพงอัจฉริยะ เมื่อ Google เปิดตัว Google Assistant ก็แย่งส่วนแบ่ง Amazon ที่ทำ Alexa มาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าในไทยจะยังไม่สามารถใช้ Google Assistant บนอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยคำสั่งเสียงภาษาไทยได้ (ส่วนบนมือถือใช้ภาษาไทยได้แล้ว) แต่เราก็สามารถใช้ภาษาอังกฤษสำเนียงไทยๆ ของเรานี่แหละเพื่อสั่งงานต่างๆ ได้ เช่นพูดว่า Good Morning เพื่อให้มันเปิดไฟ ปิดแอร์ เล่าข่าวตอนเช้าให้ฟัง หรือพูด Broadcast เพื่อกระจายเสียงของเราไปทั่วบ้านผ่านทุกลำโพงที่เชื่อม Google Assistant อยู่
ซึ่งที่ผ่านมาอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับ Google Assistant ได้นั้นมีหลากหลายมาก เช่นหลอดไฟ Phlips Hue ก็เชื่อมเพื่อเปลี่ยนสีสันหรือควมคุมระดับแสงไฟในห้องได้ หรือกล้องวงจรปิดจาก Nest ก็เชื่อมเพื่อส่งภาพมาดูในทีวีได้ หรือการควบคุมแอร์หรืออุปกรณ์ที่ใช้รีโมทก็จะมีตัวสั่งงานโดยการยิงแสง IR เข้าไปที่แอร์เพื่อควบคุมระยะเวลาการปิด-เปิดได้ ลองดูในวิดีโอสาธิตการใช้ Google Assistant ร่วมกับ JBL LINK 10 นี้น่าจะเข้าใจมากขึ้น
เมื่อเปิดกล่องออกมาเราก็จะพบกับอุปกรณ์ภายในกล่อง ประกอบด้วย ลำโพง JBL LINK 10, สาย microUSB สีส้มสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ตามสไตล์ของ JBL และคู่มือการใช้งาน
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ JBL LINK 10 นั้น เป็นลำโพง Bluetooth ไร้สายมีขนาดกะทัดรัดสีดำด้าน ประมาณแก้วกาแฟขนาดใหญ่ แต่ก็สามารถพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างสะดวก วัสดุโครงสร้างหลักๆ เป็นพลาสติกคุณภาพดี ซึ่งมิติตัวเครื่องของ JBL LINK 10 เป็นรูปทรงกระบอกเหมือนกับลำโพงรุ่นอื่นๆ ของทาง JBL อย่าง Flip Series และ Pulse Series มีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 169 x 86 x 86 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 710 กรัม ถือว่ามีน้ำหนักประมาณนึง แต่ก็ไม่ลำบากในการถือไปไหนมาไหนแต่อย่างใด
วัสดุรอบๆ ตัวลำโพงของ JBL LINK 10 นั้น จะห่อหุ้มด้วยผ้าสีดำให้สัมผัสที่ดีมีคุณสมบัติทนต่อน้ำ ส่วนตัวเครื่องเองก็สามารถกันน้ำได้ที่ระดับ IPX7 ทำให้สามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่ ได้สะดวกมากๆ อย่างที่ไม่ต้องกังวลว่าโดนน้ำแล้วจะพัง อย่างเช่นโดนละอองน้ำ ฝนปรอยๆ หรือน้ำกระเด็นตามสระว่ายน้ำ (แต่ไม่แนะนำให้โดนน้ำทะเลนะ) ซึ่งเมื่อเปิดเครื่องขอบด้านบนจะมีไฟกลมสีขาวติดขึ้นมาทั้งหมด 4 จุด พร้อมเสียงดังขึ้น ส่วนด้านล่างจะเป็นไฟสัญลักษณ์ของการเชื่อมต่อ Wi-Fi (ถ้าหากเชื่อมต่อสำเร็จจะเป็นไฟสีขาวนิ่ง)
ส่วนของด้านบนของตัวเครื่อง JBL LINK 10 จะเป็นวัสดุประเภทยางให้สัมผัสที่กดลงไปแล้วให้ความนุ่มนวล โดยประกอบด้วย ปุ่มเชื่อมต่อ Bluetooth, ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเล่นเพลง-หยุดเล่นเพลง-รับสายโทรศัพท์-วางสายโทรศัพท์-ปิดนาฬิกาปลุก-หยุดเวลา ซึ่งตัวปุ่มแต่ละปุ่มแต่มีลักษณะแบนราบเป็นชิ้นเดียวกัน ส่วนปุ่มกลางเป็นปุ่มสำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant ซึ่งวัสดุจะเป็นพลาสติกเว้าลึกลงไป และ 2 จุดมุมซ้ายบนและขวาล่างคือ ไมโครโฟนเพื่อใช้กรณีคำสั่งเสียงหรือพูดคุยโทรศัพท์นั่นเอง
ด้านหลังตัวเครื่องของ JBL LINK 10 จะประกอบด้วย ปุ่มเปิด-ปิดตัวเครื่อง พร้อมไฟแสดงสถานะของแบตเตอรี่ และปุ่มเปิด-ปิดไมโครโฟน โดยวัสดุก็จะเป็นยางคล้ายกับตัวเครื่องด้านบน ซึ่งมีลักษณะเป็นปุ่มเว้าลึกลงไป ส่วนด้านล่างจะเป็นพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับเสียบชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมปุ่ม Reset เครื่อง ซึ่งส่วนนี้จะมีจุกยางปิดกันน้ำอีกชั้นหนึ่ง ที่สำคัญมากเรื่องของการป้องกันน้ำเข้า เพราะถ้าลืมปิดหรือปิดไม่สนิท ก็อาจจะทำให้น้ำเข้าไปแล้วตัวลำโพงก็จะเสียหายได้ แน่นอนว่าประกันหลุดแน่นอน
ปิดท้ายด้วยฐานของตัวเครื่องก็จะเป็นยางที่ให้ความมั่นคงในการวาง แต่ก็ต้องระวังเพราะพื้นผิวที่ลักษณะโค้งเว้า หากเราวางบนพื้นที่ไม่เสมอกันก็อาจจะทำให้ล้มได้ ฉะนั้นก่อนที่จะวางต้องดูดีๆ เสียก่อน ซึ่งถ้าพื้นวางนั้นเรียบแน่นอน ตัวลำโพงเองก็จะวางได้อย่างแนบแน่นทีเดียว
สำหรับการเชื่อมต่อลำโพงไร้สาย JBL LINK 10 กับมือถือนั้น ก็เหมือนกับการเชื่อมต่อลำโพง Bluetooth ของ JBL รุ่นอื่น ๆ ด้วยการกดปุ่ม Power เพื่อเปิดเครื่อง จากนั้นก็กดปุ่ม Bluetooth อีก 1 ครั้งเพื่อค้นหาสัญญาณ จากนั้นมาที่สมาร์ทโฟน ให้เข้าไปที่ Settings > Bluetooth แล้วเลือก JBL LINK 10 เพื่อทำการเชื่อมต่อ เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย เราก็สามารถใช้งานลำโพงไร้สายเพื่อฟังเพลงแบบปกติได้ทันที
อย่างไรก็ตามหากเราต้องการใช้งาน Google Assistant เพื่อใช้งานสั่งการด้วยเสียง จะต้องเชื่อมต่อกับ Wi-Fi เสียก่อน โดยจะต้องใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Google Home ที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีทั้งบน Android และ iOS จากนั้นตั้งค่าตามที่กำหนด ด้วยการเชื่อมต่อ Wi-Fi โดยตรงระหว่างลำโพงกับมือถือเสียก่อน เพื่อให้ Google Assistant พร้อมใช้งาน
ซึ่ง Google Assistant ของลำโพง JBL LINK 10 เบื้องต้นรองรับการสั่งการด้วยภาษาอังกฤษเท่านั้น ยังไม่รองรับภาษาไทยในขณะนี้ (แต่อนาคตอาจจะมีการอัพเดทภาษาไทยให้ใช้งานได้อีกครั้ง) โดยเราสามารถเรียกใช้งาน Google Assistant ด้วยคำว่า Ok Google, Hey Google หรือกดปุ่ม Google Assistant ที่ด้านบนของตัวลำโพงก็ได้เช่นกัน
ในด้านการฟังเพลงนั้น ถ้าหากใช้งานแอปพลิเคชัน Spotify อยู่แล้ว จะถือว่าสะดวกมาก เพราะสามารถสั่งให้ Google Assistant เปิดเพลงด้วยการค้นหาชื่อเพลง, ชื่อศิลปิน หรือ Playlist ได้เลยโดยไม่ต้องปลดล็อกมือถือก่อน อีกทั้งในระหว่างฟังเพลง ก็สามารถถาม Google Assistant ได้เลยทันทีว่า เพลงที่กำลังฟังอยู่นั้นคือเพลงอะไร เรียกได้เลยว่าเป็นลำโพงไร้สายที่ล้ำจริงๆ เข้ากับยุคของ Smart Home มากๆ คือเป็นอะไรที่มากกว่าลำโพงที่ให้เสียงดังไปแล้ว
ส่วนคนที่ใช้แอปพลิเคชั่นฟังเพลงอื่นๆ อย่างเช่น Apple Music หรือ JOOX ก็สามารถฟังเพลงผ่านลำโพง JBL LINK 10 ได้ตามปกติผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth แต่ไม่สามารถสั่งให้ Google Assistant เปิดเพลงได้เหมือนกับแอปพลิเคชั่น Spotify ซึ่งตรงนี้ก็ไม่แน่ใจว่าทาง JBL จะไปเป็นพาร์ทเนอร์ด้วยหรือเปล่า ซึ่งก็อยากให้เข้าใจถึงข้อจำกัดตรงนี้ไว้ด้วยเป็นสำคัญ
สำหรับฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจบน JBL LINK 10 อีกอย่างก็คือ รองรับอุปกรณ์ Chromecast ในตัว รวมถึงรองรับระบบ Multi-Room ที่สามารถควบคุมการใช้งานลำโพง JBL LINK Series รุ่นอื่น ๆ ที่วางอยู่ตามห้องต่าง ๆ ที่ได้ตั้งค่าเอาไว้ รวมถึงอุปกรณ์ Smart Home ที่อยู่ภายในบ้าน ซึ่งการสั่งการผ่านทาง Google Assistant ไม่ได้จำกัดเฉพาะลำโพง JBL เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้ Google Assistant สั่งการอุปกรณ์ Smart Home รุ่นอื่น ๆ ได้ เช่น สั่งให้เปิด-ปิดไฟ เปิด-ปิดแอร์ เปิด-ปิดทีวี เป็นต้น เรียกได้ว่า ใครที่มีอุปกรณ์ Smart Home หลายชิ้น การสั่งการผ่าน Google Assistant ถือว่าสะดวกมากเลยทีเดียว
ทดสอบใช้งาน JBL LINK 10 สำหรับคุณภาพเสียงจากการใช้งานอยู่ราวๆ 1 สัปดาห์ เรื่องของคุณภาพเสียงนั้นจัดอยู่ในระดับค่อนข้างดีให้เสียงดังมาก เน้นโทนกลางๆ ไม่เด่นด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ เหมาะแก่การฟังเพลง หรือใช้งานทั่วๆไป เสียงเบสหรือเสียงทุ้มถือว่า มีความมีคุณภาพประมาณนึง ให้ความรู้สึกกระชับ ไม่รบกวนเสียงย่านอื่นจนเกินไปให้เสียอารมณ์ ซึ่งใครที่ชอบลำโพงเสียงเบสเด่นคงไม่ผิดหวังสำหรับรุ่นนี้ตามสไตล์ของ JBL น่าจะตอบโจทย์เป็นอย่างดี
ส่วนเสียงย่านกลางอย่างเสียงนักร้องมีความชัดเจน มวลเสียงอิ่มพอดี โดยแยกเสียงร้องกับเสียงเครื่องดนตรีได้อย่างชัดเจน ด้านเสียงแหลมมีความคมชัด ฟังง่าย เก็บรายละเอียดได้ดี แต่ไม่ถึงกับจัดจ้านจนเกินไป ที่สำคัญคือไม่บาดหู โดยรวมจัดว่าคุณภาพเสียงดีตามมาตรฐานของ JBL ซึ่งแฟนๆ น่าจะชอบกัน สำหรับแบตเตอรี่จัดว่าค่อนข้างอึดดีทีเดียว ใช้งานต่อเนื่องราวๆ 4-5 ชั่วโมงได้อยู่ แต่ไม่ได้ใช้เสียงที่ดังมากนัก ถ้าเร่งเสียงเต็มที่น่าจะใช้งานได้น้อยกว่านั้นไปอีก
สรุปรีวิว JBL LINK 10 เป็นลำโพงแบบพกพาที่เปิดใช้งานเสียงพร้อม Wi-Fi และ Bluetooth ที่ให้เสียงสเตอริโออันทรงพลัง โดยมีผู้ช่วย Google Assistant ในตัว เป็น Google ของเราเอง พร้อมเสมอที่จะช่วย เราสามารถถามคำถามได้ และบอกให้ทำสิ่งต่างๆ ยิ่งใช้ประโยชน์มากเท่าไรก็ยิ่งมีประโยชน์มากขึ้น เริ่มต้นด้วย “Ok Google” คำสั่งเสียงง่ายๆ กระตุ้นให้ JBL LINK 10 ของเราเล่นเพลงจากบริการเพลงสตรีมมิ่งอย่าง Spotify ได้ และการใช้งานอื่นๆ อย่างสอบถามสภาพอากาศ, ผลการแข่งขันกีฬา หรือสอบถามเวลา รวมไปถึงเป็นกลางสั่งอุปกรณ์ Smart Home ต่างๆ ที่เชื่อมต่อไว้ในวงอีกแล้ว
โดยลำโพงขนาดกะทัดรัดนี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จไฟขนาด 4000mAh ที่ให้เวลาในการเล่นเสียงสูงถึง 5 ชั่วโมง ทำให้เปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานลำโพงแบบเดิม ๆ โดยออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ด้วยขนาดที่กะทัดรัดโดดเด่นด้วยวัสดุผ้าที่มีความทนทานและกันน้ำที่ระดับ IPX7 รองรับการเชื่อมต่อไร้สายกับสมาร์ทโฟน ทั้ง iPhone และมือถือ Android ผ่านทาง Bluetooth เวอร์ชัน 4.2 ตอบโจทย์ยุคไร้สาย ส่วนคุณภาพเสียงถือว่าทำได้ดีตามสไตล์ของ JBL เหมาะสำหรับการฟังเพลงหลากหลายแนวทั้ง Pop, Pop-Rock, Hip-Hop, R&B หรือแม้แต่เพลง Rock
แต่ก็มีข้อสังเกตุอยู่ที่ขณะนี้ Google Assistant ยังไม่รองรับคำสั่งเสียงภาษาไทย รองรับแต่ภาษาอังกฤษเท่านั้น ฉะนั้นใครจะซื้อก็ต้องสามารถออกคำสั่งเสียงภาษาอังกฤษได้ด้วย รวมไปถึงในชุดบันเดิลของ JBL LINK 10 ก็ไม่มีกระเป๋าหรืออแดปเตอร์ชาร์จไฟมาให้ อันนี้เราคงต้องหามาใช้งานเองอีกที ถ้ารับตรงจุดนี้ได้ก็จัดไปได้เลยในราคา 4,990 บาท กับลำโพงไร้สายที่ทำได้มากกว่าลำโพงทั่วไปถือว่าน่าสนใจมากทีเดียว
จุดเด่น
- ระบบการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.2 พร้อม Wi-Fi ใช้งานสะดวก ไม่เกะกะ
- มี Google Assistant รองรับคำสั่งเสียงภาษาอังกฤษ เป็นตัวกลางของ Smart Home
- ดีไซน์การออกแบบสวยงาม และทนทานกันน้ำในระดับนึง
- คุณภาพเสียงดีสไตล์ JBL ที่หลายๆ คนชอบกัน
- มีปุ่มคำสั่งครบครัน และปุ่มปิดไมโครโฟนบนตัวหูฟังใช้งานได้ง่าย
- ราคาคุ้มค่า เมื่อเทียบกับแบรนด์ ฟีเจอร์ งานประกอบ
- แบตเตอรี่ได้ยาวนานสูงสุด 5 ชั่วโมง พอเพียงกับการใช้งาน
จุดสังเกต
- พอร์ตการเชื่อมต่อยังเป็น microUSB ถ้าเป็น USB-C น่าจะดีกว่านี้
- ไม่มีพอร์ต AUX ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อผ่านทางช่องหูฟัง 3.5 ม.ม. ได้
- ในกล่องบันเดิลไม่มรอแดปเตอร์ชาร์จไฟมาให้