PowerPoint นั้นอยู่กับเรามานานแสนนานแล้วครับ เชื่อว่าหลายๆ ท่านน่าจะผ่านประสบการณ์การใช้ PowerPoint มากันแล้วไม่มากก็น้อยครับ ทว่าผลวิจัยล่าสุดที่ได้มีการเปิดเผยออกมานั้นดูเหมือนกับว่าการใช้งาน PowerPoint นั้นดูจะไม่ได้มีผลดีสักเท่าไรนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการใช้ PowerPoint ในการเรียนการสอนในทุกระดับชั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วนั้นกับการเรียนการสอนในระดับมหาลัยที่ผลวิจัยนั้นสรุปออกมาครับว่าการใช้ PowerPoint นั้นไม่ได้ทำให้นักเรียนนักศึกษาฉลาดขึ้น แถมมันยังทำให้อาจารย์ผู้สอนนั้นดูน่าเบื่อไปโดยปริยายครับ
ตามงานวิจัยที่มีชื่อว่า The effects of problem-based learning during medical school on physician competency: a systematic review นั้นได้สรุปผลของการทำงวิจัยซึ่งพบว่า PowerPoint นั้นเป็นยาพิษต่อการศึกษาเอาไว้ 3 ประการดังจต่อไปนี้ครับ
- สไลด์เป็นการกีดกันการสร้างความคิดแบบซับซ้อน โดยบนสไลด์นั้นจะใช้รูปแบบการนำเสนอหัวข้อที่ซับซ้อนผ่านการใช้สัญลักษณ์เพื่อที่จะแสดงหัวข้อย่อย, ตัวเลขแบบนามธรรมและตารางที่มีขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถที่จะทำการเผยเนื้อหาให้ได้ครบทุกจุด ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้นั้นไม่สนับสนุนให้เกิดการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับสถานะการที่ซับซ้อนและคลุมเครือเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่นักเรียนนักศึกษาจะได้รับนั้นก็จะไม่เกิดความชัดเจนและแน่นอนว่าในท้ายที่สุดนักเรียนนักศึกษาจะไม่เข้าใจเนื้อหานั้นอย่างถ่องแท้และลึกซึ้งจนไม่สามารถนำเอาไปต่อยอดได้ครับ
- สไลด์นั้นทำให้นักเรียนนักศึกษาเข้าใจผิดว่าการใช้สไดล์เพื่อการเรียนการสอนนั้นเป็นขั้นตอนการเรียนการสอนที่ถูกต้อง ในทางกลับกันแล้วนั้นสำหรับการเรียนการสอนที่เน้นเรื่องของความซับซ้อนตามความจริงและการพยายามสร้างสถานการณ์ที่คลุมเครือเพื่อให้นักเรียนนักศึกษาได้มีกระบวนการคิดเพื่อไปต่อยอดเองนั้นจะกลายเป็นว่าอาจาร์ยท่านนี้สอนไม่ดีไม่เข้าใจไปซะอย่างนั้น
- สไลด์ไม่ได้มาพร้อมกับข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดอย่างที่นักเรียนนักศึกษาคาดหวัง การใช้สไลด์ในการเรียนการสอนนั้นจะทำให้นักเรียนนักศึกษาเข้าใจว่าทุกอย่างที่อยู่บนสไลด์นั้นเป็นข้อมูลที่ครบถ้วนจบบริบูรณ์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเหตุผลดังกล่าวนี้เองทำให้นักเรียนนักศึกษาจะไม่ไปอ่านหนังสือเพิ่มเติมที่อาจารย์ได้บอกให้ไปอ่านเอาไว้ รวมทั้งยังทำให้เรียนนักศึกษาคิดว่าอ่านเพียงแค่สไลด์นั้นก็เพียงพอแล้ว แน่นอนครับเมื่อมีการสอบวัดผลมานั้นนักเรียนนักศึกษาที่คิดเช่นนี้ก็จะไม่สามารถทำข้อสอบที่ต้องมีการต่อยอดความคิดได้เลย ซึ่งผลลัพธ์ดังกล่าวนั้นยังยืนยาวไปถึงการทำงานในช่วงแรกด้วยเช่นเดียวกัน
ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้การใช้สไลด์ PowerPoint นั้นถึงได้เป็นที่นิยมมากถึงขนาดนี้ก็ต้องไปโทษวิธีการวัดที่ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษา, ที่ทำงานหรือแม้กระทั่งรัฐบาลที่ใช้วิธีการวัดจากสิ่งที่อยู่เฉพาะในสไลด์นี่ล่ะครับ ดังนั้นแล้วการจะเปลี่ยนเรื่องดังกล่าวนี้ได้นั้นก็เราควรจะใช้สไลด์เป็นแค่ส่วนประกอบเท่านั้น ทว่าการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่อยู่มากับเราเกินกว่า 20 ปีแบบนี้ได้นั้นก็คงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรครับ
ที่มา : businessinsider