ทยอยกันออกมาเรื่อยๆ กับ ASUS ZenBook อัลตร้าบุ๊คที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัย นอกจากมีรูปร่างหน้าตาที่ชวนหลงใหลแล้ว ยังมาพร้อมกับหน้าจอขอบบาง บอดี้โลหะแข็งแรงทนทาน ขนาดเครื่องเล็ก น้ำหนักเบา แถมสเปค CPU ที่ได้ก็เป็นซีรีส์ใหม่ล่าสุดนั่นก็ถือตระกูล Whiskey Lake ของทางฝั่ง Intel นั่นเอง ซึ่งเป็นการเอา CPU ตระกูล Kaby Lake R มาพัฒนาเพิ่มสปีดให้แรงยิ่งขึ้นไปอีก และมีให้เลือกทั้งรุ่นที่เป็นจอ 13 นิ้ว 14 นิ้วหรือ 15 นิ้ว ครบทุกไซต์
โดนรุ่นที่ทีมงาน NBS ได้มารีวิวในบทความนี้จะเป็น ASUS ZenBook 15 UX533FD รหัส A9116T รุ่นท็อปที่ใช้ CPU เป็น Intel Core i7-8565U ผสานกับการ์ดจอ NVIDIA Geforce GTX 1050 Max-Q ประสิทธิภาพการใช้งานเล่นเกมได้สบายๆ ในราคา 45,900 บาท รีวิวข้างในจะเป็นยังไงบ้างไปดูกันเลยครับ
VDO Review
Specification
สเปคภายในของตัว ASUS ZenBook 15 UX533 รุ่นที่ทีมงาน NBS ได้มารีวิวจะเป็นตัวท็อปสุด โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 178 องศา ด้านประสิทธิภาพ CPU ภายในเลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-8565U ความเร็ว 1.8 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 4.6 GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 Core/8 Thread ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนานรุ่นล่าสุดประจำตระกูล Whiskey Lake
หน้าจอติดตั้งมาขนาด 14 นิ้ว Full HD พาเนล IPS 60 Hz ปกติ ขอบบางทั้งสี่ด้านแบบ NanoEdge ส่วน Ram ก็ติดตั้งมาให้ขนาด 16 GB DDR4 Bus 2400 On Board พอเพียงต่อการใช้งาน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce GTX 1050 Max-Q (2GB GDDR5) รุ่นใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ สำหรับความจุตัวเครื่องเลือกใช้ SSD m.2 PCIe ขนาด 512 GB ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็นแบบ Wi-Fi Dual-band 802.11ac gigabit-class และ Bluetooth 5.0 ล่าสุด
นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับกล้อง 3D IR HD camera ที่สามารถใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อปลดล็อคตัวเครื่องได้อีกด้วย น้ำหนักตัวเครื่องก็หนักเพียง 1.67 กิโลกรัม แถมมีไฟคีย์บอร์ด Backlit สีขาว พร้อมกับมี Windows 10 แท้ในตัว การรับประกัน 2 ปีเต็ม ราคา 45,990 บาท
- ASUS ZenBook 15 UX533 i5-8265U / MX150 / SSD 512 GB ราคา 29,990 บาท
- ASUS ZenBook 15 UX533 i7-8565U / MX150 / SSD 512 GB ราคา 35,990 บาท
- ASUS ZenBook 15 UX533 i7-8565U / GTX 1050 Max-Q/ SSD 512 GB ราคา 45,990 บาท
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบของ ASUS ZenBook 15 UX533 ถือว่าเปลี่ยนไปจากตัวเดิมรุ่นก่อนเยอะกว่าพอสมควร โดยตัวที่ทีมงาน NBS ได้มาเป็นรุ่นท็อปของไซต์ 15 นิ้วสี Icicle Sliver สีเทาเงินๆ ตัดกับสีทองด้านใน งานประกอบวัสดุทำออกมาได้อย่างพรีเมียมสมกับเป็นซีรีส์ ZenBook นั่นก็คือบอดี้เป็นโลหะทั้งหมด ให้ผิวสัมผัสดีหรูหรา แต่อาจจะเป็นรอยนิ้วมือง่ายไปสักนิด ฝาหลังก็จะมีโลโก้ ASUS อยู่ตรงกลางสีทอง และทำเป็นลายวงๆ เหมือนหม้อหุงข้าวปกติ ขนาดตัวเครื่องเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15 นิ้วอื่นๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยมีขอบจอที่บางมากเพียง 3 mm ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา เทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นขนาด 14 นิ้วปกติเลยทีเดียว
ด้านแกนฝาพับตัวเครื่องให้มาเป็นแบบแกนเดี่ยวแข็งแรงทนทาน ไม่มีอาการง่อนแง่นแต่อย่างใด กางได้มากสุด 141 องศา ด้านใต้ตัวเครื่องก็จะเรียบๆ ไม่มีอะไร แต่การแกะอัพเกรดอาจจะยากสักนิดหนึ่งที่ต้องใช้ไขควงดาวหกแฉกเฉพาะในการแกะ ส่วนด้านในแป้นพิมพ์ก็จะเป็นสีเทาเข้ากับตัวเครื่อง ด้านบนจอก็จะมีกล้อง 3D IR Camera พร้อมไมค์ตัดเสียง 2 ตัว โดยรวมแล้วการดีไซน์ถือว่าสอบผ่านสบายๆ สมป็นอัลตร้าบุ๊คเกรดพรีเมียมของทางฝั่ง ASUS แถมมีราคาเริ่มต้นเพียง 29,990 บาทเท่านั้น
Keyboard / Touchpad
ลักษณะคีย์บอร์ดของ ASUS ZenBook 15 UX533 จะมาพร้อมกับปุ่มสีเทาเงิน ฟอนต์สีเทาเข้ม ขนาด Full Size มาตรฐานมี Numpad มาให้ ซึ่งการออกแบบให้ปุ่มกดมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น แถมเมื่อกางหน้าจอออกมาคีย์บอร์ดก็ยังกางให้สูงจากพื้นที่อีก 3 องศารองรับกับสรีระข้อมือพอดี มี Key Travel อยู่ที่ 1.4 mm ช่องว่างระหว่างแป้นก็ทำได้ รวมถึงทดลองกดแรงๆ แป้นก็ไม่มีอาการยวบยาบให้เห็นแต่อย่างใด แถมมีไฟ Backlit สีขาว สามารถปรับได้ 3 ระดับ ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด ซึ่งต้องระมัดเผลออาจจะไปกดโดนได้
ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กไปนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาเป็นแบบซ่อนปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวา พร้อมตัดขอบอะลูมิเนียมสวยงาม การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ลื่นไหลไม่มีติดขัด ส่วนตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชสองนิ้วสามนิ้วได้อย่างไม่มีปัญหาครับ
Screen / Speaker
ทางด้านหน้าจอของ ASUS ZenBook 15 UX533 ได้ติดจอตั้งขนาด 15.6 นิ้ว มีขอบที่บางมากแบบ Frameless four-sided NanoEdge บางเพียง 3 มิลลิเมตรเท่านั้น ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD Panel IPS เป็นจอกระจก การแสดงผลของสีเป็นแบบ 95% sRGB และมีมุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมาก เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 15.6 นิ้วที่ให้สีที่สวยที่สุด สมจริงที่สุดรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว และการที่ใส่ยางขอบจอแบบติดเนียนตามตลอดแนวขอบจอเลย ทำให้ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ถือว่าในส่วนของหน้าจอของเจ้าตัวนี้ทำการบ้านได้มาดีมากครับ
ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง Harman/ Kardon ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนัก ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS ZenBook 15 UX533 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 95% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่ามีความสว่างในระดับกลางๆ ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว
สรุปสุดท้ายด้วยคะแนนรวมทั้งหมดโดยตัวเครื่อง ASUS ZenBook 15 UX533 รุ่นใหม่ล็อตใหม่ก็ได้คะแนนไป 4.0 คะแนน ซึ่งเมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยที่เดียวใช้งานแต่งภาพสบายๆ
Connector / Thin And Weight
มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อของ ASUS ZenBook 15 UX533 กันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Type A จำนวนหนึ่งพอร์ต, พอร์ต USB 3.0 Type A อีกหนึ่งพอร์ท และมีพอร์ต USB 3.1 Type C ที่สามารถใช้งานต่อจอแยกเป็น Display Port มาให้อีกหนึ่งพอร์ต รวมถึวมีพอร์ตการเชื่อมต่อหน้าจอจะมีพอร์ต HDMI มาให้อีกด้วย นอกเหนือจากนี้ในกล่องยังมีอะแดปเตอร์ USB to Lan มาให้ไว้เชื่อมต่อ Internet ผ่านสาย Lan ส่วนรูเชื่อมต่อหูฟังจะเป็นแบบ Combo 1 ช่อง และมีช่องอ่าน SD Card มาให้อยู่ด้านขวาตัวเครื่องครับ
ขนาดของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อยข้างเล็กและบางเบา 35.4 cm x 22 cm x 1.79 cm (กว้าง x ยาว x สูง) น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.67 กิโลกรัม และตัวอะแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ ไม่เกิน 1.8 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียวพกพาสะดวกสุดๆ แถมยังมีซองผ้าสีดำไว้สำหรับใส่ตัวเครื่องมาให้อีกด้วย กันไม่ให้ตัวเครื่องเป็นริ้วรอยเวลาพกพาไปไหนมาไหน
Performance / Software
ASUS ZenBook 15 UX533 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8565U ซึ่งเป็นชิปประมวลแบบประหยัดพลังงาน มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.6 GHz นะครับ เป็น CPU แบบ 4 Core 8 Thread เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ มาพร้อม Ram ภายในขนาด 16 GB Bus 2400 DDR4 (เป็นแบบฝังบอร์ดไม่สามารถอัพเกรดได้)
ด้านของการ์ดจอที่ติดตั้งมาให้จะมีสองตัวด้วยกัน คือการ์ดจอออนบอร์ดและการ์ดจอแยกจาก NVIDIA ซึ่งการ์ดจอออนบอร์ดจะเป็น Intel UHD Graphic 620 สำหรับประมวลผลทั่วไปเช่นดูหนังหรือฟังเพลง ส่วนการ์ดจอแยกจาก NVIDIA GeForce GTX 1050 Max-Q ขนาด 2 GB DDR5 สามารถรองรับการประมวลผลกราฟิกระดับสูงไม่ว่าจะตัดต่อหนังหรือจะเล่นเกมได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่แรงมากเทียบเท่าพวก GTX 1050 ที่อยู่ในรุ่นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คโดยเฉพาะ
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงใช้ได้เลยทีเดียว เรียกได้ว่าตัว i7-8565U ประสิทธิภาพทำได้แรงกว่า i7-3770 เลยทีเดียว สามารถนำมาทำงานหนักๆ หรือเล่นเกมก็ได้สบายๆ ในระดับหนึ่ง
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD m.2 PCIe ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512 GB ใช้งานได้จริง 476 GB เมื่อนำมาทอสอบความเร็วระดับการอ่านที่จะอยู่ที่ 1743.5 MB/s และเขียนที่ 1451.8 MB/s ถือได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับกลางๆ ของ SSD PCIe ครับ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,385 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานพีซีทั่วไปนั่นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอก็ทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยครับ
ในส่วนถัดไปทีมงานจะมาทดสอบในการเล่นเกมกันบ้างกับเกมยอดนิยมทั้ง 4 เกมหลักๆ จะเป็นอย่างไรกันบ้างกับ ไปดูกันเลยครับ
จากกราฟจะเห็นได้ว่าคะแนนเฟรมเรททำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวโดยเฉพาะเกม DOTA 2 และ Overwatch ที่ปรับกราฟิคระดับ Medium มีค่าเฉลี่ยประมาณ 50 FPS ขึ้นไป ส่วนเกมหนักๆ อย่าง PUBG และ GTA V ปรับ Normal ก็ได้ค่า FPS เฉลี่ยที่ 48 กับ 88 ตามลำดับ ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีเช่นกัน (GTA V ปรับได้แค่ Normal เพราะ VRAM การ์ดจอไม่พอให้ปรับ High)
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ ASUS ZenBook 15 UX533 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 73Wh 4-cell ประมาณ 4,600 mAH สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ถึง 10 ชั่วโมง 6 นาทีต่อเนื่องในการใช้งานแบบดู YouTube ผ่าน Wifi ถือได้ว่าเป็นอัลตร้าบุ๊ค 15 นิ้ว อีกรุ่นหนึ่งเลยที่มีแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานมากสมราคาจริงๆ ครับ
ทางด้านอุณหภูมิ CPU ปกติของเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 52 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 93 องศาเซลเซียส ส่วน GPU เมื่อเอามาเล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานาน จะมีอุณหภูมิสงสุดอยู่ไม่เกิน 80 องศา นับว่าเรื่องระบบระบายความร้อนของ ASUS ZenBook 15 UX533 เครื่องนี้ทำได้อยู่ในระดับกลางๆ สามารถใช้งานหนักๆ นานๆ พอได้อยู่ เพราะมีช่องระบายความร้อนเพิ่มขึ้นมาที่ด้านซ้ายตัวเครื่อง
Conclusion / Award
สำหรับอัลตร้าบุ๊คประเดิมศักราชใหม่ปี 2019 แบรนด์ ASUS ก็ถือว่าเปิดตัวมายิ่งใหญ่ก่อนใครเขากับ ZenBook ซีรีส์ใหม่ UX333/ UX433 / UX533 ขิงแบรนด์อื่นด้วยการใช้ storage ที่เป็น SSD m.2 PCIe ขนาด 512 GB มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นที่ราคา 29,990 บาทจัดเต็มจริงๆ โดยรุ่นที่ทีมงานได้มาเป็นตัวท็อปในซีรีส์ ZenBook 15 UX533 จัด Ram 16 GB มาเต็มๆ ซึ่งการใช้งานโดยรวมถือว่าทำได้ดีมากๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ ที่อัพเกรดขึ้นไปอีกขั้นอีกระดับของซีรีส์ ZenBook แถมมีให้เลือกกันทั้งหมดสามสี คือสีน้ำเงิน สีเทา และสีแดง (สีแดงจะเป็นรุ่นพิเศษ) รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งานถือว่าทำได้อย่างลงตัว ทั้ง CPU ที่เป็น Intel Whiskey Lake ตัวใหม่ มีการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 Max-Q มาให้ ทำให้การทำงานลื่นไหลกว่าเดิมแถมเล่นเกมหนักๆ กินทรัพยากรเยอะๆ พอได้บ้าง และที่สำคัญเลยคือแบตเตอรี่ใช้งานได้จริงถึง 10 ชั่วโมง+ ถือว่าเยอะมากๆ
ส่วนจุดเด่นของ ASUS ZenBook 15 UX533 ที่เห็นได้ชัดเลยคือขนาดตัวเครื่องเล็กมากๆ จอแทบจะฟิตเท่ากับตัวเครื่องเพราะเป็นแบบขอบบางสี่ด้าน Frameless four-sided NanoEdge และน้ำหนักตัวเครื่องเบาเพียง 1.67 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ในกล่องยังแถมอะแดปเตอร์แปลง USB to Lan กับซองผ้าใส่โน๊ตบุ๊คมาให้ในตัวไม่ต้องไปหาซื้อแยก และผ้าไมโครไฟเบอร์อีกหนึ่งผืน บอกเลยว่าโคตรคุ้มกับราคาที่เริ่มต้นเพียง 29,990 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีราคา ASUS ZenBook 15 UX533 ก็ยังคงมีข้อสังเกตอยู่บ้างซึ่งก็คือเรื่องของไดร์เวอร์การ์ดจอที่ ณ วันที่รีวิวทาง NVIDIA ยังไม่ออกไดร์เวอร์เวอร์ชันใหม่มา ทำให้การทำงานของการ์ดจอแยกทำงานได้เสถียรนัก ซึ่งคาดว่าไดร์เวอร์ตัวใหม่จะออกภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ กับ VRAM การ์ดจอน่าจะให้มาเป็นขนาด 4 GB จะกลายเป็นอัลตร้าบุ๊คที่เพอเฟคมากๆ เครื่องหนึ่งเลยทีเดียวนั่นเองครับ
ข้อดี
- สเปคใหม่สุด i7-8565U + GTX 1050 Max-Q ประสิทธิภาพแรง เล่นเกมหนักๆ พอได้
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว ขอบบางมากแทบไร้ขอบ ทำให้ขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 14 นิ้ว
- แบตเตอรี่ใช้งานจริงได้ยาวนานเกิน 10 ชั่วโมง
- หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD IPS ให้สีสันที่สวยสด งดงามมาก
- ขอบเขตสีหน้าจอสูงถึง 95% sRGB สีค่อนข้างเที่ยงตรงไม่ผิดเพี้ยน
- ตัวเครื่องเลือกใช้ SSD m.2 PCIe ความจุสูงถึง 512 GB ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น
- คีย์บอร์ดมีไฟ Backlit สีขาวปรับได้ 3 ระดับ
- มีกล้อง 3D IR Camera สแกนใบหน้าปลดล็อคหน้าจอใช้งานร่วมกับ Windows Hello
- บอดี้วัสดุเป็นโลหะทั้งหมด แข็งแรงทนทาน ระดับ Military Grade
- น้ำหนักเบาเพียง 1.67กิโลกรัม และอะแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาดเล็ก
- มี Windows 10 แท้ในตัว
- ในกล่องมีซองผ้า, ผ้าไมโครไฟเบอร์ และอะแดปเตอร์แปลงพอร์ต USB to Lan แถมมาให้ในกล่อง
ข้อสังเกต
- ไดร์เวอร์การ์ดจอแยกยังทำงานได้ไม่เสถียร ต้องรอทาง NVIDIA อัพเดตไดร์เวอร์ตัวใหม่
- VRAM การ์ดจอ GTX 1050 Max-Q ให้มาเป็นขนาด 2 GB ถ้าให้มา 4 GB จะดีมากๆ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ZenBook 15 UX533 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
ดีไซน์ ASUS ZenBook 15 UX533 ถือว่าออกแบบมาใหม่หมดจด มีการพัฒนาจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในส่วนของขนาดตัวเครื่องที่เล็กลงแต่หน้าจอเท่าเดิม ตัวเครื่องยกคีย์บอร์ดให้สูงขึ้นเมื่อกางหน้าจอ โดยรวมแล้วการดีไซน์ถือว่าทำได้ดีมากๆ ครับ ซึ่งถ้าใครได้เห็นตัวเครื่องที่เป็นสีแดง Burgundy Red ต้องชอบแน่นอน
Best Mobility
ASUS ZenBook 15 UX533 ด้านความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของอัลตร้าบุ๊ค 15 นิ้ว ทั้งในความบางเพียง 17.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.67 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อะแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดพอๆ กับอะแดปเตอร์มือถือ พกพาสะดวกทำงานนอกสถานที่สบายๆ ครับ
Best Battery Life
ASUS ZenBook 15 UX533 ถือว่าเป็นอัลตร้าบุ๊คจอ 15.6 นิ้วที่มีแบตเตอรี่ใช้งานได้จริงมากกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งหาได้ยากและมีน้อยมากในตลาดปัจจุบัน และส่วนใหญ่มักมีราคา 50,000 บาท ขึ้นไปทั้งนั้น ด้วยแบตที่ให้มาขนาดใหญ่จัดเต็ม 73Wh 4-cell ขนาดประมาณ 4,600 mAh ไม่แปลกที่ ZenBook เครื่องนี้จะได้รางวัลนี้ไปอย่างไรข้อกังขาครับ
VDO Review
Specification
สเปคภายในของตัว ASUS ZenBook 15 UX533 รุ่นที่ทีมงาน NBS ได้มารีวิวจะเป็นตัวท็อปสุด โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 178 องศา ด้านประสิทธิภาพ CPU ภายในเลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-8565U ความเร็ว 1.8 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 4.6 GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 Core/8 Thread ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนานรุ่นล่าสุดประจำตระกูล Whiskey Lake
หน้าจอติดตั้งมาขนาด 14 นิ้ว Full HD พาเนล IPS 60 Hz ปกติ ขอบบางทั้งสี่ด้านแบบ NanoEdge ส่วน Ram ก็ติดตั้งมาให้ขนาด 16 GB DDR4 Bus 2400 On Board พอเพียงต่อการใช้งาน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce GTX 1050 Max-Q (2GB GDDR5) รุ่นใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ สำหรับความจุตัวเครื่องเลือกใช้ SSD m.2 PCIe ขนาด 512 GB ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็นแบบ Wi-Fi Dual-band 802.11ac gigabit-class และ Bluetooth 5.0 ล่าสุด
นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับกล้อง 3D IR HD camera ที่สามารถใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อปลดล็อคตัวเครื่องได้อีกด้วย น้ำหนักตัวเครื่องก็หนักเพียง 1.67 กิโลกรัม แถมมีไฟคีย์บอร์ด Backlit สีขาว พร้อมกับมี Windows 10 แท้ในตัว การรับประกัน 2 ปีเต็ม ราคา 45,990 บาท
- ASUS ZenBook 15 UX533 i5-8265U / MX150 / SSD 512 GB ราคา 29,990 บาท
- ASUS ZenBook 15 UX533 i7-8565U / MX150 / SSD 512 GB ราคา 35,990 บาท
- ASUS ZenBook 15 UX533 i7-8565U / GTX 1050 Max-Q/ SSD 512 GB ราคา 45,990 บาท
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบของ ASUS ZenBook 15 UX533 ถือว่าเปลี่ยนไปจากตัวเดิมรุ่นก่อนเยอะกว่าพอสมควร โดยตัวที่ทีมงาน NBS ได้มาเป็นรุ่นท็อปของไซต์ 15 นิ้วสี Icicle Sliver สีเทาเงินๆ ตัดกับสีทองด้านใน งานประกอบวัสดุทำออกมาได้อย่างพรีเมียมสมกับเป็นซีรีส์ ZenBook นั่นก็คือบอดี้เป็นโลหะทั้งหมด ให้ผิวสัมผัสดีหรูหรา แต่อาจจะเป็นรอยนิ้วมือง่ายไปสักนิด ฝาหลังก็จะมีโลโก้ ASUS อยู่ตรงกลางสีทอง และทำเป็นลายวงๆ เหมือนหม้อหุงข้าวปกติ ขนาดตัวเครื่องเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15 นิ้วอื่นๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยมีขอบจอที่บางมากเพียง 3 mm ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา เทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นขนาด 14 นิ้วปกติเลยทีเดียว
ด้านแกนฝาพับตัวเครื่องให้มาเป็นแบบแกนเดี่ยวแข็งแรงทนทาน ไม่มีอาการง่อนแง่นแต่อย่างใด กางได้มากสุด 141 องศา ด้านใต้ตัวเครื่องก็จะเรียบๆ ไม่มีอะไร แต่การแกะอัพเกรดอาจจะยากสักนิดหนึ่งที่ต้องใช้ไขควงดาวหกแฉกเฉพาะในการแกะ ส่วนด้านในแป้นพิมพ์ก็จะเป็นสีเทาเข้ากับตัวเครื่อง ด้านบนจอก็จะมีกล้อง 3D IR Camera พร้อมไมค์ตัดเสียง 2 ตัว โดยรวมแล้วการดีไซน์ถือว่าสอบผ่านสบายๆ สมป็นอัลตร้าบุ๊คเกรดพรีเมียมของทางฝั่ง ASUS แถมมีราคาเริ่มต้นเพียง 29,990 บาทเท่านั้น
Keyboard / Touchpad
ลักษณะคีย์บอร์ดของ ASUS ZenBook 15 UX533 จะมาพร้อมกับปุ่มสีเทาเงิน ฟอนต์สีเทาเข้ม ขนาด Full Size มาตรฐานมี Numpad มาให้ ซึ่งการออกแบบให้ปุ่มกดมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น แถมเมื่อกางหน้าจอออกมาคีย์บอร์ดก็ยังกางให้สูงจากพื้นที่อีก 3 องศารองรับกับสรีระข้อมือพอดี มี Key Travel อยู่ที่ 1.4 mm ช่องว่างระหว่างแป้นก็ทำได้ รวมถึงทดลองกดแรงๆ แป้นก็ไม่มีอาการยวบยาบให้เห็นแต่อย่างใด แถมมีไฟ Backlit สีขาว สามารถปรับได้ 3 ระดับ ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด ซึ่งต้องระมัดเผลออาจจะไปกดโดนได้
ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กไปนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาเป็นแบบซ่อนปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวา พร้อมตัดขอบอะลูมิเนียมสวยงาม การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ลื่นไหลไม่มีติดขัด ส่วนตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชสองนิ้วสามนิ้วได้อย่างไม่มีปัญหาครับ
Screen / Speaker
ทางด้านหน้าจอของ ASUS ZenBook 15 UX533 ได้ติดจอตั้งขนาด 15.6 นิ้ว มีขอบที่บางมากแบบ Frameless four-sided NanoEdge บางเพียง 3 มิลลิเมตรเท่านั้น ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD Panel IPS เป็นจอกระจก การแสดงผลของสีเป็นแบบ 95% sRGB และมีมุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมาก เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 15.6 นิ้วที่ให้สีที่สวยที่สุด สมจริงที่สุดรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว และการที่ใส่ยางขอบจอแบบติดเนียนตามตลอดแนวขอบจอเลย ทำให้ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ถือว่าในส่วนของหน้าจอของเจ้าตัวนี้ทำการบ้านได้มาดีมากครับ
ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง Harman/ Kardon ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนัก ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS ZenBook 15 UX533 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 95% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่ามีความสว่างในระดับกลางๆ ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว
สรุปสุดท้ายด้วยคะแนนรวมทั้งหมดโดยตัวเครื่อง ASUS ZenBook 15 UX533 รุ่นใหม่ล็อตใหม่ก็ได้คะแนนไป 4.0 คะแนน ซึ่งเมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยที่เดียวใช้งานแต่งภาพสบายๆ
Connector / Thin And Weight
มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อของ ASUS ZenBook 15 UX533 กันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Type A จำนวนหนึ่งพอร์ต, พอร์ต USB 3.0 Type A อีกหนึ่งพอร์ท และมีพอร์ต USB 3.1 Type C ที่สามารถใช้งานต่อจอแยกเป็น Display Port มาให้อีกหนึ่งพอร์ต รวมถึวมีพอร์ตการเชื่อมต่อหน้าจอจะมีพอร์ต HDMI มาให้อีกด้วย นอกเหนือจากนี้ในกล่องยังมีอะแดปเตอร์ USB to Lan มาให้ไว้เชื่อมต่อ Internet ผ่านสาย Lan ส่วนรูเชื่อมต่อหูฟังจะเป็นแบบ Combo 1 ช่อง และมีช่องอ่าน SD Card มาให้อยู่ด้านขวาตัวเครื่องครับ
ขนาดของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อยข้างเล็กและบางเบา 35.4 cm x 22 cm x 1.79 cm (กว้าง x ยาว x สูง) น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.67 กิโลกรัม และตัวอะแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ ไม่เกิน 1.8 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียวพกพาสะดวกสุดๆ แถมยังมีซองผ้าสีดำไว้สำหรับใส่ตัวเครื่องมาให้อีกด้วย กันไม่ให้ตัวเครื่องเป็นริ้วรอยเวลาพกพาไปไหนมาไหน
Performance / Software
ASUS ZenBook 15 UX533 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8565U ซึ่งเป็นชิปประมวลแบบประหยัดพลังงาน มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.6 GHz นะครับ เป็น CPU แบบ 4 Core 8 Thread เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ มาพร้อม Ram ภายในขนาด 16 GB Bus 2400 DDR4 (เป็นแบบฝังบอร์ดไม่สามารถอัพเกรดได้)
ด้านของการ์ดจอที่ติดตั้งมาให้จะมีสองตัวด้วยกัน คือการ์ดจอออนบอร์ดและการ์ดจอแยกจาก NVIDIA ซึ่งการ์ดจอออนบอร์ดจะเป็น Intel UHD Graphic 620 สำหรับประมวลผลทั่วไปเช่นดูหนังหรือฟังเพลง ส่วนการ์ดจอแยกจาก NVIDIA GeForce GTX 1050 Max-Q ขนาด 2 GB DDR5 สามารถรองรับการประมวลผลกราฟิกระดับสูงไม่ว่าจะตัดต่อหนังหรือจะเล่นเกมได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่แรงมากเทียบเท่าพวก GTX 1050 ที่อยู่ในรุ่นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คโดยเฉพาะ
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงใช้ได้เลยทีเดียว เรียกได้ว่าตัว i7-8565U ประสิทธิภาพทำได้แรงกว่า i7-3770 เลยทีเดียว สามารถนำมาทำงานหนักๆ หรือเล่นเกมก็ได้สบายๆ ในระดับหนึ่ง
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD m.2 PCIe ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512 GB ใช้งานได้จริง 476 GB เมื่อนำมาทอสอบความเร็วระดับการอ่านที่จะอยู่ที่ 1743.5 MB/s และเขียนที่ 1451.8 MB/s ถือได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับกลางๆ ของ SSD PCIe ครับ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,385 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานพีซีทั่วไปนั่นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอก็ทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยครับ
ในส่วนถัดไปทีมงานจะมาทดสอบในการเล่นเกมกันบ้างกับเกมยอดนิยมทั้ง 4 เกมหลักๆ จะเป็นอย่างไรกันบ้างกับ ไปดูกันเลยครับ
จากกราฟจะเห็นได้ว่าคะแนนเฟรมเรททำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวโดยเฉพาะเกม DOTA 2 และ Overwatch ที่ปรับกราฟิคระดับ Medium มีค่าเฉลี่ยประมาณ 50 FPS ขึ้นไป ส่วนเกมหนักๆ อย่าง PUBG และ GTA V ปรับ Normal ก็ได้ค่า FPS เฉลี่ยที่ 48 กับ 88 ตามลำดับ ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีเช่นกัน (GTA V ปรับได้แค่ Normal เพราะ VRAM การ์ดจอไม่พอให้ปรับ High)
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ ASUS ZenBook 15 UX533 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 73Wh 4-cell ประมาณ 4,600 mAH สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ถึง 10 ชั่วโมง 6 นาทีต่อเนื่องในการใช้งานแบบดู YouTube ผ่าน Wifi ถือได้ว่าเป็นอัลตร้าบุ๊ค 15 นิ้ว อีกรุ่นหนึ่งเลยที่มีแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานมากสมราคาจริงๆ ครับ
ทางด้านอุณหภูมิ CPU ปกติของเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 52 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 93 องศาเซลเซียส ส่วน GPU เมื่อเอามาเล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานาน จะมีอุณหภูมิสงสุดอยู่ไม่เกิน 80 องศา นับว่าเรื่องระบบระบายความร้อนของ ASUS ZenBook 15 UX533 เครื่องนี้ทำได้อยู่ในระดับกลางๆ สามารถใช้งานหนักๆ นานๆ พอได้อยู่ เพราะมีช่องระบายความร้อนเพิ่มขึ้นมาที่ด้านซ้ายตัวเครื่อง
Conclusion / Award
สำหรับอัลตร้าบุ๊คประเดิมศักราชใหม่ปี 2019 แบรนด์ ASUS ก็ถือว่าเปิดตัวมายิ่งใหญ่ก่อนใครเขากับ ZenBook ซีรีส์ใหม่ UX333/ UX433 / UX533 ขิงแบรนด์อื่นด้วยการใช้ storage ที่เป็น SSD m.2 PCIe ขนาด 512 GB มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นที่ราคา 29,990 บาทจัดเต็มจริงๆ โดยรุ่นที่ทีมงานได้มาเป็นตัวท็อปในซีรีส์ ZenBook 15 UX533 จัด Ram 16 GB มาเต็มๆ ซึ่งการใช้งานโดยรวมถือว่าทำได้ดีมากๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ ที่อัพเกรดขึ้นไปอีกขั้นอีกระดับของซีรีส์ ZenBook แถมมีให้เลือกกันทั้งหมดสามสี คือสีน้ำเงิน สีเทา และสีแดง (สีแดงจะเป็นรุ่นพิเศษ) รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งานถือว่าทำได้อย่างลงตัว ทั้ง CPU ที่เป็น Intel Whiskey Lake ตัวใหม่ มีการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 Max-Q มาให้ ทำให้การทำงานลื่นไหลกว่าเดิมแถมเล่นเกมหนักๆ กินทรัพยากรเยอะๆ พอได้บ้าง และที่สำคัญเลยคือแบตเตอรี่ใช้งานได้จริงถึง 10 ชั่วโมง+ ถือว่าเยอะมากๆ
ส่วนจุดเด่นของ ASUS ZenBook 15 UX533 ที่เห็นได้ชัดเลยคือขนาดตัวเครื่องเล็กมากๆ จอแทบจะฟิตเท่ากับตัวเครื่องเพราะเป็นแบบขอบบางสี่ด้าน Frameless four-sided NanoEdge และน้ำหนักตัวเครื่องเบาเพียง 1.67 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ในกล่องยังแถมอะแดปเตอร์แปลง USB to Lan กับซองผ้าใส่โน๊ตบุ๊คมาให้ในตัวไม่ต้องไปหาซื้อแยก และผ้าไมโครไฟเบอร์อีกหนึ่งผืน บอกเลยว่าโคตรคุ้มกับราคาที่เริ่มต้นเพียง 29,990 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีราคา ASUS ZenBook 15 UX533 ก็ยังคงมีข้อสังเกตอยู่บ้างซึ่งก็คือเรื่องของไดร์เวอร์การ์ดจอที่ ณ วันที่รีวิวทาง NVIDIA ยังไม่ออกไดร์เวอร์เวอร์ชันใหม่มา ทำให้การทำงานของการ์ดจอแยกทำงานได้เสถียรนัก ซึ่งคาดว่าไดร์เวอร์ตัวใหม่จะออกภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ กับ VRAM การ์ดจอน่าจะให้มาเป็นขนาด 4 GB จะกลายเป็นอัลตร้าบุ๊คที่เพอเฟคมากๆ เครื่องหนึ่งเลยทีเดียวนั่นเองครับ
ข้อดี
- สเปคใหม่สุด i7-8565U + GTX 1050 Max-Q ประสิทธิภาพแรง เล่นเกมหนักๆ พอได้
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว ขอบบางมากแทบไร้ขอบ ทำให้ขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 14 นิ้ว
- แบตเตอรี่ใช้งานจริงได้ยาวนานเกิน 10 ชั่วโมง
- หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD IPS ให้สีสันที่สวยสด งดงามมาก
- ขอบเขตสีหน้าจอสูงถึง 95% sRGB สีค่อนข้างเที่ยงตรงไม่ผิดเพี้ยน
- ตัวเครื่องเลือกใช้ SSD m.2 PCIe ความจุสูงถึง 512 GB ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น
- คีย์บอร์ดมีไฟ Backlit สีขาวปรับได้ 3 ระดับ
- มีกล้อง 3D IR Camera สแกนใบหน้าปลดล็อคหน้าจอใช้งานร่วมกับ Windows Hello
- บอดี้วัสดุเป็นโลหะทั้งหมด แข็งแรงทนทาน ระดับ Military Grade
- น้ำหนักเบาเพียง 1.67กิโลกรัม และอะแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาดเล็ก
- มี Windows 10 แท้ในตัว
- ในกล่องมีซองผ้า, ผ้าไมโครไฟเบอร์ และอะแดปเตอร์แปลงพอร์ต USB to Lan แถมมาให้ในกล่อง
ข้อสังเกต
- ไดร์เวอร์การ์ดจอแยกยังทำงานได้ไม่เสถียร ต้องรอทาง NVIDIA อัพเดตไดร์เวอร์ตัวใหม่
- VRAM การ์ดจอ GTX 1050 Max-Q ให้มาเป็นขนาด 2 GB ถ้าให้มา 4 GB จะดีมากๆ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ZenBook 15 UX533 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
ดีไซน์ ASUS ZenBook 15 UX533 ถือว่าออกแบบมาใหม่หมดจด มีการพัฒนาจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในส่วนของขนาดตัวเครื่องที่เล็กลงแต่หน้าจอเท่าเดิม ตัวเครื่องยกคีย์บอร์ดให้สูงขึ้นเมื่อกางหน้าจอ โดยรวมแล้วการดีไซน์ถือว่าทำได้ดีมากๆ ครับ ซึ่งถ้าใครได้เห็นตัวเครื่องที่เป็นสีแดง Burgundy Red ต้องชอบแน่นอน
Best Mobility
ASUS ZenBook 15 UX533 ด้านความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของอัลตร้าบุ๊ค 15 นิ้ว ทั้งในความบางเพียง 17.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.67 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อะแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดพอๆ กับอะแดปเตอร์มือถือ พกพาสะดวกทำงานนอกสถานที่สบายๆ ครับ
Best Battery Life
ASUS ZenBook 15 UX533 ถือว่าเป็นอัลตร้าบุ๊คจอ 15.6 นิ้วที่มีแบตเตอรี่ใช้งานได้จริงมากกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งหาได้ยากและมีน้อยมากในตลาดปัจจุบัน และส่วนใหญ่มักมีราคา 50,000 บาท ขึ้นไปทั้งนั้น ด้วยแบตที่ให้มาขนาดใหญ่จัดเต็ม 73Wh 4-cell ขนาดประมาณ 4,600 mAh ไม่แปลกที่ ZenBook เครื่องนี้จะได้รางวัลนี้ไปอย่างไรข้อกังขาครับ