ASUS ROG Strix GL704 Scar II หนึ่งใน Gaming Notebook ระดับไฮเอนด์ใช้การ์ดจอรุ่นใหม่ GeForce RTX 2070 ที่มีคนรอคอยมากที่สุดจาก ROG เป็นการต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง ASUS ROG Strix GL704 Scar II ที่ใช้การ์ดจอเป็น GeForce GTX 1060 ด้วยดีไซน์ที่สวยงามและความคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพ แรงเทียบเท่า Gaming Desktop แต่พกพาสะดวกสบายกว่าเยอะ ฝาหลังอะลูมิเนียมเรียบหรู พร้อมทั้งมี Light Bar RGB เสริมความสวยงาม ส่วนโลโก้ด้านหลัง ROG ก็สามารถเปลี่ยนสีไฟ RGB ได้ด้วย อีกทั้งปุ่ม WASD มีความใสขาวสว่างแสดงไฟชัดขึ้น
สเปก ASUS ROG Strix GL704 Scar II เป็น Gaming Notebook ที่โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาด 17.3″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่รองรับการแสดงผลที่ 144Hz ขอบจอบางเฉียบ ทำให้ตัวเครื่องเทียบเท่ากับรุ่นหน้าจอ 15.6″ ส่วนสเปกอื่นๆ ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กันด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H + RTX 2070 นอกจากนี้ยังได้ SSD มาเป็นมาตรฐาน และ Windows 10 แท้ ใช้งานได้ทันที
VDO Review
Specification
ASUS ROG Strix GL704 Scar II รุ่นใหม่ใช้การ์ดจอ GeForce RTX 2070ใช้ชิปประมวลผลตัวแรงเป็น Intel Core i7-8750H (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 (8GB GDDR6) พร้อม SSD แบบ NVMe ความจุ 512GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 หนึ่งแถว อัพเกรดได้อีก 16GB ทันที (อัพได้สูงสุด 32GB) ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก
หน้าจอที่นำมาติดตั้งเป็นหน้าจอที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ โดยขอบจอบางเฉียบ กับความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่ 144Hz Response Time 3ms (G2G) โดยมีค่าขอบเขตสีใกล้เคียง 100% แบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.1 Type-C, mini DisplayPort, HDMI, 4 x USB 3.1, Kensington lock slot , SD Card Reader, RJ-45 , Headset
พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 ac พร้อมเทคโนโลยี RangeBoost เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นแรกของโลกที่ใช้ตัวรับสัญญาน Wifi แบบ Multi-antenna บนมาตรฐาน Wave 2 (2×2 + 2×2) ให้ระยะการรับสัญญานที่ไกลขึ้นถึง 30% พร้อมอัตราการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น
สนนราคาA SUS ROG Strix GL704 Scar II อยู่ที่ 64,990 บาท ส่วนการรับประกันแน่นอนว่าเป็น เวลา 2 ปี พร้อมประกันอุบัติเหตุอีก 1 ปี จากทาง ASUS Thailand ที่เราสามารถส่งได้ตามศูนย์บริการ หรือใครจะสะดวกฝากส่งเคลมตามร้าน 7-11 ทั่วประเทศก็สามารถทำได้เช่นกัน
- i7-8750H / RTX 2070 / RAM 8GB / SSD 512GB ราคา 64,990 บาท (ตัวขายจริง)
Hardware / Design
ASUS ROG Strix GL704 Scar II เป็นการต่อยอดจากรุ่นเล็กอย่าง ASUS ROG Strix GL504 Scar II ที่เป็นรุ่นหน้าจอ 15.6″ ทั้งดีไซน์ที่สวยงามและความคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพ โดดเด่นกว่าตรงที่ดีไซน์สวยงามดูดุดันและทนทาน ฝาหลังอะลูมิเนียมเรียบหรูออกแบบเป็นแนวทะแยงในโทนดำตัดกับสีเทาเข้ม ลักษณะลวดลายแบบปัดเสี้ยน ซึ่งมีแนวคิดเป็นเหมือนพื้นผิวอาวุธปืน ส่วนด้านในเป็นลายกราฟิกสไตล์ทหาร Camo แบบ 3D Printing 8 เลเยอร์ ที่นอกจากสวยงามแล้วยังทนทานรอยขีดข่วนด้วย
ที่แม้จะเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 17.3″ แต่เทียบเท่าจริงๆ เหมือน 15.6″ เท่านั้น จากการที่ขอบจอบางเฉียบเพียง 77 มิลลิเมตร ทั้งขอบด้านข้างและด้านบน ทำให้ต้องย้ายกล้องเว็บแคมไปด้านล่างแทน กับความบางเพียง 24.9 มิลลิเมตร และเบาเพียง 2.9 กิโลกรัมเท่านั้น ตัวเครื่องดูโดยรวมแล้วมิติเล็กลงทั้งหมด พร้อมทั้งมี Light Bar RGB เสริมความสวยงาม ส่วนโลโก้ด้านหลัง ROG ก็สามารถเปลี่ยนสีไฟ RGB ได้ด้วย อีกทั้งปุ่ม WASD มีความใสขาวสว่างแสดงไฟชัดขึ้น จากการที่เป็นรุ่น Scar II ทั้งหมดนี้สามารถปรับเปลี่ยนสีไฟผ่านระบบ Aura Sync ได้
วัสดุโดยรวมทั้งหมดให้สัมผัสที่ดีพรีเมียม จับติดมือ ไม่ลื่น และรู้สึกดีกว่าพลาสติกแบบธรรมดาทั่วไป ส่วนหน้าจอของ ASUS ROG Strix GL704 Scar II จะเป็นแบบบานพับเดียวดูแล้วแข็งทนทานกางหน้าจอได้ประมาณนึง พร้อมเว้นขอบเอาไว้โชว์ไฟแสดงไฟ LED การทำงานต่างๆ อีกทั้งด้วยระบบระบายความร้อนใหม่ที่ดีที่สุดเท่าที่มีมาบน Gaming Notebook ROG Strix
ติดตั้งด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ 3 ช่อง 2 สองพัดลมขนาดใหญ่ ความเร็วสูงแบบ 12V (เพิ่มอัตราการไหลเวียนอากาศได้ดีขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับพัดลมแบบ 5V ปกติ) พร้อมปรับรอบพัดลมได้ 3 แบบ ทั้งแบบเงียบ ปกติ และ Overboots ครีบฟินที่แดงเน้นเรียบๆ โดยสามารถทำหน้าที่ช่วยลดความอุณหภูมิจากชิปประมวลผลและกราฟิการ์ดได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมช่องไล่ฝุ่น Anti-Dust Cooling ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสมขึ้นในอนาคต
ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องวัสดุพลาสติกผสมโพลิเมอร์ที่แข็งแกร่งกว่าปกติ พร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นอีก 3 ช่องด้านล่างใต้เครื่อง อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตไม่กี่ตัวจากนั้นค่อยๆ ดึงขึ้น (รองรับการอัพเกรดแรมได้ 1 แถว, SSD M.2 และฮาร์ดดิสก์) รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย
สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ ASUS ROG ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ กับมาตรฐานใหม่ของ Gaming Notebook ช่วงต้นปี 2019 ที่ไม่ใช่แค่แรง แต่ขอบจอต้องบางเฉียบด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ ASUS ROG Strix GL704 Scar II จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของตระกูล ROG ที่เน้นสายเกมเมอร์เป็นหลักด้วยการ์ดจอ GeForce RTX 2070 ที่ทรงประสิทธิภาพ แต่ใครจะเอาไปทำงานเบาๆ หรือทำงานหนักๆ อะไรก็แล้วแต่เลย เพราะสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด ทั้งจากฟีเจอร์ ดีไซน์และสเปกแรงล้ำกว่า GTX 10 Series ที่เคยมีมาทั้งหมด รวมไปถึงหน้าจอก็ใหญ่กว่ารุ่น ASUS ROG Strix GL504 Scar II ทำให้ใช้งานได้เต็มตามากขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับน้ำหนักที่มากขึ้นประมาณ 400 กรัมเช่นกัน
ส่วนตัวแล้วถ้าให้แนะนำ กรณีที่สามารถรับกับน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.9 กิโลกรัมไหว ก็ดูเป็น ASUS ROG Strix GL704 Scar II ซึ่งเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 17.3″ ได้ เพราะเอาเข้าจริงการใช้งานหน้าจอที่ใหญ่กว่า 15.6″ ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่าแบบรู้สึกได้ ทั้งงานเอกสาร ดูหนัง ที่สำคัญคือเล่นเกม มันเต็มอารมณ์กว่าเยอะทีเดียว
Keyboard / Touchpad
ASUS ROG Strix GL704 Scar II เป็นคีย์บอร์ดมีไฟหลากสีด้วยเทคโนโลยี AuraRGB ของทาง ROG แบ่งเป็น 4 โซน ที่สามารถปรับแต่งเองได้ด้วยซอฟต์แวร์ภายใน ให้ความสะดวกด้วยคีย์หลัก QWER ตามสไตล์ MOBA โดยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร แต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปสุดๆ
พร้อมเทคโนโลยี OverStroke เพื่อการกดรัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยปุ่ม N-key rollover & anti-ghosting และอายุคีย์บอร์ดที่สามารถกดได้ 20 ล้านครั้ง รวมถึงสามารถมีฟังก์ชั่นเพิ่มลดเสียง เปิดปิดไมค์ และ Gaming Center ซึ่งตัวปุ่มต่างๆ ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์
ทัชแพดเองขนาดใหญ่แบบปุ่มแยกออกจากกัน ซึ่งการใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย ปุ่มนุ่มกดง่าย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี ฟีเจอร์ Multi-touch หรือ Smart Gesture ที่สามารถใช้งานควบคู่กับ Windows 10 ได้เป็นอย่างดี โดยรวมแล้วเป็นคี
Screen / Speaker
ASUS ROG Strix GL704 Scar II มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบ ทั้งขอบด้านข้างและด้านบน ขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ 144Hz และResponse Time 3ms (G2G) ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไปที่แค่ 60Hz รวมๆ แล้ว ถือว่าดีกว่ามาตรฐานหน้าจอ Gaming Notebook ปี 2019 ไปแล้ว
สำหรับขอบหน้าจอที่บางลงทั้งด้านข้างซ้ายและขวารวมไปถึงด้านนั้น ส่งผลโดยตรงให้ทาง ASUS จำเป็นต้องย้ายกล้องเว็บแคมไปไว้อยู่ขอบหน้าจอด้านล่างแทน โดยขอบหน้าจอด้านล่างนี้จะมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ นั่นก็เป็นเพราะว่าจะช่วยยกมุมมองของหน้าจอเวลาใช้งานจริงให้สูงขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามการที่ย้ายกล้องเว็บแคมมาไว้ตรงนี้ก็ทำให้มุมมองของกล้องเวลาใช้งานก็จะแปลกๆ ออกจะเป็นแนวเสยซะเยอะทีเดียว จำเป็นต้องนั่งไกลๆ จากตัวเครื่องหน่อยถึงจะดูปกติ (ไม่ดูอ้วนเกินจริง) ต่างจากโน๊ตบุ๊คทั้งไปมักจะอยู่ขอบจอด้านบนกันที่เป็นมุมมองมาตรฐาน
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS ROG Strix GL704 Scar II ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูง จึงได้ทำการทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 92% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าแถงบนกลางจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่ 300 cd/m2 แต่สำหรับช่องแถวบนและล่างด้านขวาเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 7% เท่านั้น ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่อยู่ขอบตัวเครื่องข้างๆ ซ้ายขวา คุณภาพสูง พร้อม Smart Amp เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ระบบเสียงชั้นยอดอีกด้วย ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ให้ขอบเขตเสียงที่กว้าง จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะมีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ก็ตาม เรื่องของความดังของเสียงถือว่ามากกว่า 2 เท่า ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีมากๆ ทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง ซึ่งหากว่าเพื่อนๆ เป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS ROG Strix GL704 Scar II นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ทมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 จำนวน 4 พอร์ต, และ USB 3.1 Type-C อีกจำนวน 1 พอร์ตมาให้ด้วย พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, SD Card Reader ขนาดมาตรฐาน, พอร์ท LAN ตัวเต็ม และ HDMI, Mini DisplayPort ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 ac พร้อมเทคโนโลยี RangeBoost แบบ Multi-antenna บนมาตรฐาน Wave 2 (2×2 + 2×2) ให้ระยะการรับสัญญานที่ไกลขึ้นถึง 30% พร้อมอัตราการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น
ส่วนการพกพาเองก็ถือว่า ASUS ROG Strix GL704 Scar II มีน้ำหนักตัวค่อนข้างเบาที่ 2.9 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วตัวอื่นๆ แต่ที่โดดเด่นกว่าก็คือมิติตัวเครื่องเล็กลงมาก อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมในเรื่องการพกพาไปไหนมาไหน แม้ว่าถ้ารวมอแดปเตอร์ 230 Watt แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 3.4 กิโลกรัม ก็พอที่จะใส่กระเป๋าและเอาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ไม่ยากเย็นอะไร
Performance / Software
โดย ASUS ROG Strix GL704 Scar II มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-8750H (ว่าที่รุ่นยอดนิยมประจำปี 2018 – 2019) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads
ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-7700HQ พอตัว มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 แบบ 1 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ตามปกติที่ติดมากับ Core i7-8750H อยู่แล้ว
โดยมีกราฟิกการ์ดจอแยกตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 (8GB GDDR6) ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 1070 แบบรู้สึกได้ พร้อมกันนั้นยังมาเทคโนโลยี“ Ray Tracing” ที่สามารถแสดงผลการติดตามแสงของวัตถุ และสภาพแวดล้อมในแบบเรียลไทม์ ระหว่างกระบวนการเรนเดอร์กราฟิกสามารถคำนวณการสะท้อน และหักเหแสงได้อย่างถูกต้อง ครอบคลุมทั้งแสง และเงาทางกายภาพ ทำให้เกมนั้นสมจริงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว เหนือชั้นกว่าการ์ดจอ GTX 10 Series ก่อนหน้านี้ทีเดียว ที่ไม่ใช่แค่ลื่นไหลแต่สวยสมจริงด้วย
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB ของทาง Intel แบบ M.2 NVMe โดยตัวเครื่องไม่มีฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนเลย (แต่มีช่องใส่อัพเกรดได้ปกติ) เห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1734MB/s และเขียนที่ 986MB/s ที่พอเพียงต่อการใช้งานในทุกๆ ด้าน
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,299 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมาก
ต่อด้วยทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม 3DMark Port Royal จะเป็นครั้งแรกที่มี Real-Time Ray Tracing ในการทดสอบบนการ์ดจออย่าง RTX 20 Series ที่รองรับ Microsoft DirectX Raytracing ในการทดสอบนี้จะเป็นตัวอย่างของการทำงาน Real-Time Ray Tracing ให้เห็นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามในการทดสอบในครั้งนี้ยังไม่สมบูรณ์ เพราะไดร์เวอร์ที่รองรับการ์ดจอ RTX 2070 บนโน๊ตบุ๊คในขณะเวลาที่ทดสอบยังไม่มีเวอร์ชั้นออกมารองรับแต่อย่างใด ไว้มีโอกาสจะมาจะรีวิวเต็มๆ อีกครั้ง
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2070 ออกมาได้อย่างลื่นไหล ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง FarCry 5 / GTA V / PUBG ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ ส่วน Resident Evil 2 Remake ที่เป็นเกมใหม่ล่าสุด เลือกปรับแบบ Graphic Priority เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว
เกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 / Overwatch ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล
*แต่เดียวกันก็คือไดร์เวอร์ตัวใหม่ล่าสุดที่รองรับ RTX 2070 แบบเต็มๆ ยังไม่ออกมา คาดว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ยิ่งขึ้นไปอีก
ที่สำคัญด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 144Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่
นอกเหนือจากนี้ทาง ASUS ยังมีซอฟต์แวร์ ROG Armoury Crateโดยเป็นลักษณะของแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย ที่ช่วยเอื้ออำนวยในการปรับแต่งเพื่อการเล่นหรือทำงานโดยเฉพาะ อาทิเช่น ROG AURA Core ที่เราสามารถปรับแต่งไฟคีย์บอร์ดได้ 4 โซนในหลายๆ แบบ หลายๆ สไตล์ ตามพรีเซ็ทต่างๆ รวมไปถึงการปรับไฟโลโก้ ROG ที่ฝาหลัง และขอบตัวเครื่องด้านหน้า Light Bar อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อย่าง Fan Overboost ไว้ปรับรอบพัดลมได้ 3 แบบ, Game Visual ปรับโปรไฟล์สีหน้าจอ, GameFirst จัดการทรัพยากรอินเตอร์เน็ตให้ดีที่สุดสำหรับเล่นเกม และ Sonic Radar ที่สามารถบอกทิศทางของศัตรูในเกมได้ รวมไปตัวซอฟต์แวร์ยังสามารถสั่งปิดเปิดปุ่ม Windows, ROG และทัชแพดได้ขณะเล่นเกมด้วยอีกด้วย ทำให้เผลอไปกดโดนก็ไม่เป็นอะไรเรียกได้ว่าเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Gaming Notebook / Gaming PC ระดับสูงของทาง ASUS ROG เท่านั้น ที่ต้องบอกว่าใช้งานได้จริงและใช้งานได้ง่ายด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS ROG Strix GL704 Scar II เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 5 ชั่วโมงโดยประมาณ ทำให้เรียกได้ว่าจุเด่นในส่วนของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ก็ว่าได้ เพราะมีระยะการใช้งานที่ยาวนานกว่าเครื่องรุ่นอื่นๆ ในสเปกใกล้เคียงกัน ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการที่ต้องออกแบบตัวเครื่องด้วยความจุ 4200 mAh
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS ROG Strix GL704 Scar II เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 45 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 45 – 48 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมดพัดลม Overboots ผ่านทาง ROG Armoury Crate
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 90 – 97 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 70 – 82 องศาเซลเซียสโดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดีมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า Gaming Notebook ในสเปกเดียวกัน สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยซอฟต์แวร์จากปกติที่จะเป็นแบบ Balance ก็สามารถทำได้
Conclusion / Award
ASUS ROG Strix GL704 Scar II ที่ใช้การ์ดจอ RTX 2070 เหนือชั้นกว่า ASUS ROG Strix GL704 Scar II รุ่นก่อนหน้าที่ใช้ GTX 1060 รวมไปถึง ASUS ROG Strix GL504 Scar II ซึ่งมีขนาดหน้าจอที่เล็กกว่าทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า ASUS ทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า
ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ล้ำหน้า เน้นเล่นเกมแนว FPS งานประกอบและวัสดุที่เยี่ยมยอด ด้วย 3D Printing แบบ 8 เลเยอร์ ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น รวมไปถึงระบบระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น สเปคประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือได้หน้าจอพาเนล IPS 144Hz และมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานด้วย
รุ่นที่เราได้รับมารีวิวจะเป็นสเปกเ Core i7-8750H พร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce RTX 2070 และแรม DDR4 ขนาด 16GB อีกทั้งยังมี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB มาให้พร้อมใช้งาน ครบครันกับการใช้งาน สมกับเป็น Gaming Notebook มีความเป็น ROG ที่ไม่ใช่แค่สวยงามดุดัน แต่เน้นประสิทธิภาพด้วย อย่างไรก็ตามแม้ไม่มีชิป NVIDIA G-Sync คอยช่วยทำงาน แต่เราก็สามารถเปิด V-Sync แทนที่ได้ เพื่อทำงานร่วมกับจอ 144Hz แบบสบายๆ เพราะสเปกนั้นแรงอยู่แล้ว
เรื่องของการออกแบบที่ ASUS ROG Strix GL704 Scar II ทำได้ดีมาก ฉีกรูปแบบเดิมๆ ออกไป ด้วยดีไซน์สไตล์ ROG ที่เป็น Gaming Notebook ที่ดูดุดันจริงจังเกินราคา บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟแบบพิเศษ ด้วยปุ่ม QWER เป็นแบบโปร่งแสงโดดเด่น ระบบเสียง Smart Amp คุณภาพดี รวมถึงมี USB 3.1 Type-C ติดตั้งมาพร้อมใช้งานตามาตรฐานโน๊ตบุ๊คปี 2018
นอกเหนือจากนี้ยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ อย่าง คีย์บอร์ด โลโก้ และ Light Bar AuraRGB ตามสไตล์ของซีรีส์ ASUS ROG Strix GL704 Scar II ที่สำคัญเครื่องนี้มีระบบป้องกันฝุ่น Anti-Dust Cooling (ADC) พร้อมระบบระบายความร้อน HyperCool Pro เหมาะกับกับ Gamer สายพันธุ์ eSport ของแท้ เพื่อการใช้งานที่ยาวนานและต่อเนื่องระดับมืออาชีพ
โดยมีอุณหภูมิที่ดีกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ที่มีสเปกเหมือนกัน ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 5 ชั่วโมงทีเดียว ถือว่าทำได้ดีกว่ามาตรฐาน อย่างไรก็ตามใช่ว่า ASUS ROG Strix GL704 Scar II จะไม่มีข้อสังเกตเสียทีเดียว ให้พูดถึงคงเป็นเรื่องของการที่ไม่มีพอร์ต Thunderbolt 3 รวมไปถึงไม่มีชิป G-Sync รวทไปถึงไม่มีระบบ Finger Print หรือ IR Camera ซึ่งถ้ามองข้ามตรงจุดนี้และงบถึงก็ซื้อได้เลย ส่วนสำคัญเรื่องของอุณหภูมิก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ก็คือไม่รบกวนการทำงานและตัวเครื่องก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างปกติ
สรุปแล้ว ASUS ROG Strix GL704 Scar II ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ในช่วงราคานี้ เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงทั้งด้วยชิปประมวลผลและกราฟิกการ์ดที่แรงเพียงพอกับทุกเกมในตลาด พร้อมจอพาเนล IPS 144Hz ซึ่งเป็นหน้าจอที่ดีที่สุดของ Gaming Notebook ในตลาด ตัวเครื่องยังบางเบาลงกว่าพวก 17.3″ ทั่วไป ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง สมราคา 64,990 บาท เหมาะกับคนที่งบถึงเงินถึงและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ที่สเปกใกล้เคียงกัน
จุดเด่น
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Core i7-8750H และการ์ดจอ GTX 2070
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์พันธุ์ ROG งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ขอบจอบาง มิติตัวเครื่องเล็ก จอ 17.3″ แต่เครื่องเทียบรุ่นจอ 15.6″
- ติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB
- ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพดี พร้อมรองรับ 144Hz Response Time 3ms
- คีย์บอร์ดมีไฟหลากสี พร้อม Light Bar และโลโก้ด้วย ROG AURA RGB
- มีซอฟต์แวร์เฉพาะ ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
- ลำโพงคุณภาพเสียงดี เสียงดัง น่าประทับใจ
- ระบบระบายความร้อนดี ตัวเครื่องไม่ร้อนจนรบกวน
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 5 ชั่วโมง
- ประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม ประทับใจส่วนคีย์บอร์ดและทัชแพด
- ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 พร้อมประกันอุบัติเหตุปีแรก
ข้อสังเกต
- ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเล็กน้อยในสเปกใกล้เคียงกัน
- ไม่มีพอร์ต Thunderbolt 3 และชิป G-Sync
- กล้องเว็บแคมติดตั้งขอบจอล่างใช้งานมุมมองแปลกไปหน่อย
- น่ามีระบบ Finger Print หรือ IR Camera ด้วยก็จะดี
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 17.3 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ROG Strix GL704 Scar II ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Multimedia
ASUS ROG Strix GL704 Scar II เป็น Gaming Notebook ที่มีความสดใหม่และเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย อาทิเช่น หน้าจอ 144Hz พาเนล IPS ขอบจอบางเฉียบ ตัวเครื่องเป็น 3D Printing ระบบระบายความร้อนดีเยี่ยม HyperCook Pro ไฟ RGB AURA รอบตัว รวมไปถึงซอฟต์แวร์ Gaming Center ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง และอื่นๆ อีกมากมาย สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสำหรับคนงบเยอะ ถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาด Gaming Notebook ยิ่งเทียบในระดับเดียวกันยิ่งหาตัวจับยาก
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ASUS ROG โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS ROG Strix GL704 Scar II ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ขอบจบบางเฉียบ ทำให้มิติตัวเครื่องก็เล็กกว่ารุ่นหน้าจอ 17.3″ ทั่วไปอีกด้วย ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่แล้ว เรียกได้ว่าไม่เคยทำให้ผิดหวังสำหรับผลิตภัณฑ์จาก ROG
Best Performance
ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ตัวแรง ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB แบบ DDR4 และรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 รวมไปถึง SSD NVMe ความเร็วสูงก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสเปกโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผลคะแนนที่ออกมานั้นทำได้อยู่ในช่วงเดียวกัน หรือบางจุดก็มากกว่าซะด้วย
VDO Review
Specification
ASUS ROG Strix GL704 Scar II รุ่นใหม่ใช้การ์ดจอ GeForce RTX 2070ใช้ชิปประมวลผลตัวแรงเป็น Intel Core i7-8750H (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 (8GB GDDR6) พร้อม SSD แบบ NVMe ความจุ 512GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 หนึ่งแถว อัพเกรดได้อีก 16GB ทันที (อัพได้สูงสุด 32GB) ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก
หน้าจอที่นำมาติดตั้งเป็นหน้าจอที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ โดยขอบจอบางเฉียบ กับความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่ 144Hz Response Time 3ms (G2G) โดยมีค่าขอบเขตสีใกล้เคียง 100% แบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.1 Type-C, mini DisplayPort, HDMI, 4 x USB 3.1, Kensington lock slot , SD Card Reader, RJ-45 , Headset
พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 ac พร้อมเทคโนโลยี RangeBoost เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นแรกของโลกที่ใช้ตัวรับสัญญาน Wifi แบบ Multi-antenna บนมาตรฐาน Wave 2 (2×2 + 2×2) ให้ระยะการรับสัญญานที่ไกลขึ้นถึง 30% พร้อมอัตราการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น
สนนราคาA SUS ROG Strix GL704 Scar II อยู่ที่ 64,990 บาท ส่วนการรับประกันแน่นอนว่าเป็น เวลา 2 ปี พร้อมประกันอุบัติเหตุอีก 1 ปี จากทาง ASUS Thailand ที่เราสามารถส่งได้ตามศูนย์บริการ หรือใครจะสะดวกฝากส่งเคลมตามร้าน 7-11 ทั่วประเทศก็สามารถทำได้เช่นกัน
- i7-8750H / RTX 2070 / RAM 8GB / SSD 512GB ราคา 64,990 บาท (ตัวขายจริง)
Hardware / Design
ASUS ROG Strix GL704 Scar II เป็นการต่อยอดจากรุ่นเล็กอย่าง ASUS ROG Strix GL504 Scar II ที่เป็นรุ่นหน้าจอ 15.6″ ทั้งดีไซน์ที่สวยงามและความคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพ โดดเด่นกว่าตรงที่ดีไซน์สวยงามดูดุดันและทนทาน ฝาหลังอะลูมิเนียมเรียบหรูออกแบบเป็นแนวทะแยงในโทนดำตัดกับสีเทาเข้ม ลักษณะลวดลายแบบปัดเสี้ยน ซึ่งมีแนวคิดเป็นเหมือนพื้นผิวอาวุธปืน ส่วนด้านในเป็นลายกราฟิกสไตล์ทหาร Camo แบบ 3D Printing 8 เลเยอร์ ที่นอกจากสวยงามแล้วยังทนทานรอยขีดข่วนด้วย
ที่แม้จะเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 17.3″ แต่เทียบเท่าจริงๆ เหมือน 15.6″ เท่านั้น จากการที่ขอบจอบางเฉียบเพียง 77 มิลลิเมตร ทั้งขอบด้านข้างและด้านบน ทำให้ต้องย้ายกล้องเว็บแคมไปด้านล่างแทน กับความบางเพียง 24.9 มิลลิเมตร และเบาเพียง 2.9 กิโลกรัมเท่านั้น ตัวเครื่องดูโดยรวมแล้วมิติเล็กลงทั้งหมด พร้อมทั้งมี Light Bar RGB เสริมความสวยงาม ส่วนโลโก้ด้านหลัง ROG ก็สามารถเปลี่ยนสีไฟ RGB ได้ด้วย อีกทั้งปุ่ม WASD มีความใสขาวสว่างแสดงไฟชัดขึ้น จากการที่เป็นรุ่น Scar II ทั้งหมดนี้สามารถปรับเปลี่ยนสีไฟผ่านระบบ Aura Sync ได้
วัสดุโดยรวมทั้งหมดให้สัมผัสที่ดีพรีเมียม จับติดมือ ไม่ลื่น และรู้สึกดีกว่าพลาสติกแบบธรรมดาทั่วไป ส่วนหน้าจอของ ASUS ROG Strix GL704 Scar II จะเป็นแบบบานพับเดียวดูแล้วแข็งทนทานกางหน้าจอได้ประมาณนึง พร้อมเว้นขอบเอาไว้โชว์ไฟแสดงไฟ LED การทำงานต่างๆ อีกทั้งด้วยระบบระบายความร้อนใหม่ที่ดีที่สุดเท่าที่มีมาบน Gaming Notebook ROG Strix
ติดตั้งด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ 3 ช่อง 2 สองพัดลมขนาดใหญ่ ความเร็วสูงแบบ 12V (เพิ่มอัตราการไหลเวียนอากาศได้ดีขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับพัดลมแบบ 5V ปกติ) พร้อมปรับรอบพัดลมได้ 3 แบบ ทั้งแบบเงียบ ปกติ และ Overboots ครีบฟินที่แดงเน้นเรียบๆ โดยสามารถทำหน้าที่ช่วยลดความอุณหภูมิจากชิปประมวลผลและกราฟิการ์ดได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมช่องไล่ฝุ่น Anti-Dust Cooling ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสมขึ้นในอนาคต
ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องวัสดุพลาสติกผสมโพลิเมอร์ที่แข็งแกร่งกว่าปกติ พร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นอีก 3 ช่องด้านล่างใต้เครื่อง อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตไม่กี่ตัวจากนั้นค่อยๆ ดึงขึ้น (รองรับการอัพเกรดแรมได้ 1 แถว, SSD M.2 และฮาร์ดดิสก์) รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย
สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ ASUS ROG ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ กับมาตรฐานใหม่ของ Gaming Notebook ช่วงต้นปี 2019 ที่ไม่ใช่แค่แรง แต่ขอบจอต้องบางเฉียบด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ ASUS ROG Strix GL704 Scar II จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของตระกูล ROG ที่เน้นสายเกมเมอร์เป็นหลักด้วยการ์ดจอ GeForce RTX 2070 ที่ทรงประสิทธิภาพ แต่ใครจะเอาไปทำงานเบาๆ หรือทำงานหนักๆ อะไรก็แล้วแต่เลย เพราะสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด ทั้งจากฟีเจอร์ ดีไซน์และสเปกแรงล้ำกว่า GTX 10 Series ที่เคยมีมาทั้งหมด รวมไปถึงหน้าจอก็ใหญ่กว่ารุ่น ASUS ROG Strix GL504 Scar II ทำให้ใช้งานได้เต็มตามากขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับน้ำหนักที่มากขึ้นประมาณ 400 กรัมเช่นกัน
ส่วนตัวแล้วถ้าให้แนะนำ กรณีที่สามารถรับกับน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.9 กิโลกรัมไหว ก็ดูเป็น ASUS ROG Strix GL704 Scar II ซึ่งเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 17.3″ ได้ เพราะเอาเข้าจริงการใช้งานหน้าจอที่ใหญ่กว่า 15.6″ ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่าแบบรู้สึกได้ ทั้งงานเอกสาร ดูหนัง ที่สำคัญคือเล่นเกม มันเต็มอารมณ์กว่าเยอะทีเดียว
Keyboard / Touchpad
ASUS ROG Strix GL704 Scar II เป็นคีย์บอร์ดมีไฟหลากสีด้วยเทคโนโลยี AuraRGB ของทาง ROG แบ่งเป็น 4 โซน ที่สามารถปรับแต่งเองได้ด้วยซอฟต์แวร์ภายใน ให้ความสะดวกด้วยคีย์หลัก QWER ตามสไตล์ MOBA โดยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร แต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปสุดๆ
พร้อมเทคโนโลยี OverStroke เพื่อการกดรัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยปุ่ม N-key rollover & anti-ghosting และอายุคีย์บอร์ดที่สามารถกดได้ 20 ล้านครั้ง รวมถึงสามารถมีฟังก์ชั่นเพิ่มลดเสียง เปิดปิดไมค์ และ Gaming Center ซึ่งตัวปุ่มต่างๆ ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์
ทัชแพดเองขนาดใหญ่แบบปุ่มแยกออกจากกัน ซึ่งการใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย ปุ่มนุ่มกดง่าย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี ฟีเจอร์ Multi-touch หรือ Smart Gesture ที่สามารถใช้งานควบคู่กับ Windows 10 ได้เป็นอย่างดี โดยรวมแล้วเป็นคี
Screen / Speaker
ASUS ROG Strix GL704 Scar II มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบ ทั้งขอบด้านข้างและด้านบน ขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ 144Hz และResponse Time 3ms (G2G) ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไปที่แค่ 60Hz รวมๆ แล้ว ถือว่าดีกว่ามาตรฐานหน้าจอ Gaming Notebook ปี 2019 ไปแล้ว
สำหรับขอบหน้าจอที่บางลงทั้งด้านข้างซ้ายและขวารวมไปถึงด้านนั้น ส่งผลโดยตรงให้ทาง ASUS จำเป็นต้องย้ายกล้องเว็บแคมไปไว้อยู่ขอบหน้าจอด้านล่างแทน โดยขอบหน้าจอด้านล่างนี้จะมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ นั่นก็เป็นเพราะว่าจะช่วยยกมุมมองของหน้าจอเวลาใช้งานจริงให้สูงขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามการที่ย้ายกล้องเว็บแคมมาไว้ตรงนี้ก็ทำให้มุมมองของกล้องเวลาใช้งานก็จะแปลกๆ ออกจะเป็นแนวเสยซะเยอะทีเดียว จำเป็นต้องนั่งไกลๆ จากตัวเครื่องหน่อยถึงจะดูปกติ (ไม่ดูอ้วนเกินจริง) ต่างจากโน๊ตบุ๊คทั้งไปมักจะอยู่ขอบจอด้านบนกันที่เป็นมุมมองมาตรฐาน
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS ROG Strix GL704 Scar II ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูง จึงได้ทำการทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 92% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าแถงบนกลางจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่ 300 cd/m2 แต่สำหรับช่องแถวบนและล่างด้านขวาเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 7% เท่านั้น ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่อยู่ขอบตัวเครื่องข้างๆ ซ้ายขวา คุณภาพสูง พร้อม Smart Amp เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ระบบเสียงชั้นยอดอีกด้วย ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ให้ขอบเขตเสียงที่กว้าง จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะมีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ก็ตาม เรื่องของความดังของเสียงถือว่ามากกว่า 2 เท่า ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีมากๆ ทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง ซึ่งหากว่าเพื่อนๆ เป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS ROG Strix GL704 Scar II นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ทมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 จำนวน 4 พอร์ต, และ USB 3.1 Type-C อีกจำนวน 1 พอร์ตมาให้ด้วย พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, SD Card Reader ขนาดมาตรฐาน, พอร์ท LAN ตัวเต็ม และ HDMI, Mini DisplayPort ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 ac พร้อมเทคโนโลยี RangeBoost แบบ Multi-antenna บนมาตรฐาน Wave 2 (2×2 + 2×2) ให้ระยะการรับสัญญานที่ไกลขึ้นถึง 30% พร้อมอัตราการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น
ส่วนการพกพาเองก็ถือว่า ASUS ROG Strix GL704 Scar II มีน้ำหนักตัวค่อนข้างเบาที่ 2.9 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วตัวอื่นๆ แต่ที่โดดเด่นกว่าก็คือมิติตัวเครื่องเล็กลงมาก อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมในเรื่องการพกพาไปไหนมาไหน แม้ว่าถ้ารวมอแดปเตอร์ 230 Watt แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 3.4 กิโลกรัม ก็พอที่จะใส่กระเป๋าและเอาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ไม่ยากเย็นอะไร
Performance / Software
โดย ASUS ROG Strix GL704 Scar II มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-8750H (ว่าที่รุ่นยอดนิยมประจำปี 2018 – 2019) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads
ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-7700HQ พอตัว มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 แบบ 1 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ตามปกติที่ติดมากับ Core i7-8750H อยู่แล้ว
โดยมีกราฟิกการ์ดจอแยกตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 (8GB GDDR6) ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 1070 แบบรู้สึกได้ พร้อมกันนั้นยังมาเทคโนโลยี“ Ray Tracing” ที่สามารถแสดงผลการติดตามแสงของวัตถุ และสภาพแวดล้อมในแบบเรียลไทม์ ระหว่างกระบวนการเรนเดอร์กราฟิกสามารถคำนวณการสะท้อน และหักเหแสงได้อย่างถูกต้อง ครอบคลุมทั้งแสง และเงาทางกายภาพ ทำให้เกมนั้นสมจริงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว เหนือชั้นกว่าการ์ดจอ GTX 10 Series ก่อนหน้านี้ทีเดียว ที่ไม่ใช่แค่ลื่นไหลแต่สวยสมจริงด้วย
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB ของทาง Intel แบบ M.2 NVMe โดยตัวเครื่องไม่มีฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนเลย (แต่มีช่องใส่อัพเกรดได้ปกติ) เห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1734MB/s และเขียนที่ 986MB/s ที่พอเพียงต่อการใช้งานในทุกๆ ด้าน
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,299 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมาก
ต่อด้วยทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม 3DMark Port Royal จะเป็นครั้งแรกที่มี Real-Time Ray Tracing ในการทดสอบบนการ์ดจออย่าง RTX 20 Series ที่รองรับ Microsoft DirectX Raytracing ในการทดสอบนี้จะเป็นตัวอย่างของการทำงาน Real-Time Ray Tracing ให้เห็นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามในการทดสอบในครั้งนี้ยังไม่สมบูรณ์ เพราะไดร์เวอร์ที่รองรับการ์ดจอ RTX 2070 บนโน๊ตบุ๊คในขณะเวลาที่ทดสอบยังไม่มีเวอร์ชั้นออกมารองรับแต่อย่างใด ไว้มีโอกาสจะมาจะรีวิวเต็มๆ อีกครั้ง
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2070 ออกมาได้อย่างลื่นไหล ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง FarCry 5 / GTA V / PUBG ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ ส่วน Resident Evil 2 Remake ที่เป็นเกมใหม่ล่าสุด เลือกปรับแบบ Graphic Priority เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว
เกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 / Overwatch ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล
*แต่เดียวกันก็คือไดร์เวอร์ตัวใหม่ล่าสุดที่รองรับ RTX 2070 แบบเต็มๆ ยังไม่ออกมา คาดว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ยิ่งขึ้นไปอีก
ที่สำคัญด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 144Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่
นอกเหนือจากนี้ทาง ASUS ยังมีซอฟต์แวร์ ROG Armoury Crateโดยเป็นลักษณะของแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย ที่ช่วยเอื้ออำนวยในการปรับแต่งเพื่อการเล่นหรือทำงานโดยเฉพาะ อาทิเช่น ROG AURA Core ที่เราสามารถปรับแต่งไฟคีย์บอร์ดได้ 4 โซนในหลายๆ แบบ หลายๆ สไตล์ ตามพรีเซ็ทต่างๆ รวมไปถึงการปรับไฟโลโก้ ROG ที่ฝาหลัง และขอบตัวเครื่องด้านหน้า Light Bar อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อย่าง Fan Overboost ไว้ปรับรอบพัดลมได้ 3 แบบ, Game Visual ปรับโปรไฟล์สีหน้าจอ, GameFirst จัดการทรัพยากรอินเตอร์เน็ตให้ดีที่สุดสำหรับเล่นเกม และ Sonic Radar ที่สามารถบอกทิศทางของศัตรูในเกมได้ รวมไปตัวซอฟต์แวร์ยังสามารถสั่งปิดเปิดปุ่ม Windows, ROG และทัชแพดได้ขณะเล่นเกมด้วยอีกด้วย ทำให้เผลอไปกดโดนก็ไม่เป็นอะไรเรียกได้ว่าเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Gaming Notebook / Gaming PC ระดับสูงของทาง ASUS ROG เท่านั้น ที่ต้องบอกว่าใช้งานได้จริงและใช้งานได้ง่ายด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS ROG Strix GL704 Scar II เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 5 ชั่วโมงโดยประมาณ ทำให้เรียกได้ว่าจุเด่นในส่วนของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ก็ว่าได้ เพราะมีระยะการใช้งานที่ยาวนานกว่าเครื่องรุ่นอื่นๆ ในสเปกใกล้เคียงกัน ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการที่ต้องออกแบบตัวเครื่องด้วยความจุ 4200 mAh
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS ROG Strix GL704 Scar II เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 45 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 45 – 48 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมดพัดลม Overboots ผ่านทาง ROG Armoury Crate
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 90 – 97 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 70 – 82 องศาเซลเซียสโดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดีมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า Gaming Notebook ในสเปกเดียวกัน สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยซอฟต์แวร์จากปกติที่จะเป็นแบบ Balance ก็สามารถทำได้
Conclusion / Award
ASUS ROG Strix GL704 Scar II ที่ใช้การ์ดจอ RTX 2070 เหนือชั้นกว่า ASUS ROG Strix GL704 Scar II รุ่นก่อนหน้าที่ใช้ GTX 1060 รวมไปถึง ASUS ROG Strix GL504 Scar II ซึ่งมีขนาดหน้าจอที่เล็กกว่าทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า ASUS ทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า
ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ล้ำหน้า เน้นเล่นเกมแนว FPS งานประกอบและวัสดุที่เยี่ยมยอด ด้วย 3D Printing แบบ 8 เลเยอร์ ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น รวมไปถึงระบบระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น สเปคประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือได้หน้าจอพาเนล IPS 144Hz และมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานด้วย
รุ่นที่เราได้รับมารีวิวจะเป็นสเปกเ Core i7-8750H พร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce RTX 2070 และแรม DDR4 ขนาด 16GB อีกทั้งยังมี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB มาให้พร้อมใช้งาน ครบครันกับการใช้งาน สมกับเป็น Gaming Notebook มีความเป็น ROG ที่ไม่ใช่แค่สวยงามดุดัน แต่เน้นประสิทธิภาพด้วย อย่างไรก็ตามแม้ไม่มีชิป NVIDIA G-Sync คอยช่วยทำงาน แต่เราก็สามารถเปิด V-Sync แทนที่ได้ เพื่อทำงานร่วมกับจอ 144Hz แบบสบายๆ เพราะสเปกนั้นแรงอยู่แล้ว
เรื่องของการออกแบบที่ ASUS ROG Strix GL704 Scar II ทำได้ดีมาก ฉีกรูปแบบเดิมๆ ออกไป ด้วยดีไซน์สไตล์ ROG ที่เป็น Gaming Notebook ที่ดูดุดันจริงจังเกินราคา บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟแบบพิเศษ ด้วยปุ่ม QWER เป็นแบบโปร่งแสงโดดเด่น ระบบเสียง Smart Amp คุณภาพดี รวมถึงมี USB 3.1 Type-C ติดตั้งมาพร้อมใช้งานตามาตรฐานโน๊ตบุ๊คปี 2018
นอกเหนือจากนี้ยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ อย่าง คีย์บอร์ด โลโก้ และ Light Bar AuraRGB ตามสไตล์ของซีรีส์ ASUS ROG Strix GL704 Scar II ที่สำคัญเครื่องนี้มีระบบป้องกันฝุ่น Anti-Dust Cooling (ADC) พร้อมระบบระบายความร้อน HyperCool Pro เหมาะกับกับ Gamer สายพันธุ์ eSport ของแท้ เพื่อการใช้งานที่ยาวนานและต่อเนื่องระดับมืออาชีพ
โดยมีอุณหภูมิที่ดีกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ที่มีสเปกเหมือนกัน ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 5 ชั่วโมงทีเดียว ถือว่าทำได้ดีกว่ามาตรฐาน อย่างไรก็ตามใช่ว่า ASUS ROG Strix GL704 Scar II จะไม่มีข้อสังเกตเสียทีเดียว ให้พูดถึงคงเป็นเรื่องของการที่ไม่มีพอร์ต Thunderbolt 3 รวมไปถึงไม่มีชิป G-Sync รวทไปถึงไม่มีระบบ Finger Print หรือ IR Camera ซึ่งถ้ามองข้ามตรงจุดนี้และงบถึงก็ซื้อได้เลย ส่วนสำคัญเรื่องของอุณหภูมิก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ก็คือไม่รบกวนการทำงานและตัวเครื่องก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างปกติ
สรุปแล้ว ASUS ROG Strix GL704 Scar II ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ในช่วงราคานี้ เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงทั้งด้วยชิปประมวลผลและกราฟิกการ์ดที่แรงเพียงพอกับทุกเกมในตลาด พร้อมจอพาเนล IPS 144Hz ซึ่งเป็นหน้าจอที่ดีที่สุดของ Gaming Notebook ในตลาด ตัวเครื่องยังบางเบาลงกว่าพวก 17.3″ ทั่วไป ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง สมราคา 64,990 บาท เหมาะกับคนที่งบถึงเงินถึงและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ที่สเปกใกล้เคียงกัน
จุดเด่น
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Core i7-8750H และการ์ดจอ GTX 2070
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์พันธุ์ ROG งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ขอบจอบาง มิติตัวเครื่องเล็ก จอ 17.3″ แต่เครื่องเทียบรุ่นจอ 15.6″
- ติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB
- ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพดี พร้อมรองรับ 144Hz Response Time 3ms
- คีย์บอร์ดมีไฟหลากสี พร้อม Light Bar และโลโก้ด้วย ROG AURA RGB
- มีซอฟต์แวร์เฉพาะ ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
- ลำโพงคุณภาพเสียงดี เสียงดัง น่าประทับใจ
- ระบบระบายความร้อนดี ตัวเครื่องไม่ร้อนจนรบกวน
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 5 ชั่วโมง
- ประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม ประทับใจส่วนคีย์บอร์ดและทัชแพด
- ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 พร้อมประกันอุบัติเหตุปีแรก
ข้อสังเกต
- ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเล็กน้อยในสเปกใกล้เคียงกัน
- ไม่มีพอร์ต Thunderbolt 3 และชิป G-Sync
- กล้องเว็บแคมติดตั้งขอบจอล่างใช้งานมุมมองแปลกไปหน่อย
- น่ามีระบบ Finger Print หรือ IR Camera ด้วยก็จะดี
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 17.3 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ROG Strix GL704 Scar II ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Multimedia
ASUS ROG Strix GL704 Scar II เป็น Gaming Notebook ที่มีความสดใหม่และเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย อาทิเช่น หน้าจอ 144Hz พาเนล IPS ขอบจอบางเฉียบ ตัวเครื่องเป็น 3D Printing ระบบระบายความร้อนดีเยี่ยม HyperCook Pro ไฟ RGB AURA รอบตัว รวมไปถึงซอฟต์แวร์ Gaming Center ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง และอื่นๆ อีกมากมาย สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสำหรับคนงบเยอะ ถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาด Gaming Notebook ยิ่งเทียบในระดับเดียวกันยิ่งหาตัวจับยาก
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ASUS ROG โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS ROG Strix GL704 Scar II ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ขอบจบบางเฉียบ ทำให้มิติตัวเครื่องก็เล็กกว่ารุ่นหน้าจอ 17.3″ ทั่วไปอีกด้วย ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่แล้ว เรียกได้ว่าไม่เคยทำให้ผิดหวังสำหรับผลิตภัณฑ์จาก ROG
Best Performance
ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ตัวแรง ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB แบบ DDR4 และรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 รวมไปถึง SSD NVMe ความเร็วสูงก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสเปกโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผลคะแนนที่ออกมานั้นทำได้อยู่ในช่วงเดียวกัน หรือบางจุดก็มากกว่าซะด้วย