Creative นั้นถือว่าเป็นบริษัทผู้ผลิตการ์ดเสียงที่มีชื่อเสียงอยู่ในระดับต้นๆ ของตลาดมาอย่างยาวนานครับ โดยถึงแม้ว่าในปัจจุบันนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์จะมาพร้อมกับชิปเสียงที่สามารถใช้งานได้ทันทีอยู่แล้วทว่าในส่วนของคุณภาพเสียงที่ได้รับนั้นก็คงจะไม่สามารถปฎิเสธได้เลยครับว่าเมื่อนำไปเทียบกับการใช้งานผ่านการ์ดเสียงแยกแล้วนั้นคุณภาพเสียงที่ได้จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนแบบฟังได้ชัดๆ กับหูของท่านเลยทีเดียว และนี่ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทาง Creative นั้นสามารถที่จะยังคงอยู่ในตลาดมาได้อย่างยาวนาน
ล่าสุดนั้นทาง Creative ได้ออกมาเขย่าตลาดการ์ดเสียงอีกครั้งกับการเปิดตัว Sound Card รุ่น Sound BlasterX AE-9 ซึ่งมีคุณภาพเสียงที่ได้ในระดับเดียวกันกับ Audiophile-grade ซึ่งถือได้ว่าเป็นเสียงที่มีคุณภาพสูงและผู้ที่ทำงานทางด้านเสียงในระดับมืออาชีพต่างชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก Sound BlasterX AE-9 นั้นจะมาพร้อมกับชิปประมวลผลเสียงรุ่น 3D Sound Core ซึ่งทาง Creative ได้นำไปใช้กับการ์ดเสียงสำหรับการเล่นเกมอย่าง AE-5 และ AE-5 Pure สิ่งที่ทำให้ AE-9 นั้นแตกต่างไปจากรุ่นพี่ของมันก็คือการที่ทาง Creative ได้นำเอา DAC ไปไว้นอกตัวการ์ดเสียง AE-9 ซึ่งจะทำให้ digital noises และเสียงรบกวนไม่เข้ามาอยู่ในระบบของการประมวลผลเสียงครับ
ตัวการ์ด AE-9 นั้นจะมาพร้อมกับเครื่องขยายเสียงที่ถูกแยกออกมาจากตัวการ์ดเสียงซึ่งนั่นจะทำให้ผู้ใช้งานการ์ดเสียง AE-9 นั้นสามารถที่จำทำงานประมวลผลเสียงของเสียงต้นฉบับได้โดยตรงโดยที่ไม่มีเรื่องของเครื่องขยายเสียงมาก่อให้เกิดปัญหาทางด้านเสียงต่างๆ เรียกได้ว่าเสียงที่ได้รับการประมวลผลออกมานั้นก็จะเป็นเสียงจริงที่ไม่ผ่านการเติมแต่งของเครื่องขยายเสียงครับ ทาง Creative ได้ออกแบบเครื่องขยายเสียงให้มีขนาดไม่ใหญ่มากนักโดยจะเรียกว่าขนาดของมันนั้นอยู่ในระดับที่สามารถทำการพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสบาาย
สำหรับช่องเชื่อมต่อเพื่อนำเอาเสียงออกจากตัวการ์ด AE-9 นั้นก็จะประกอบไปด้วย Optical in และ out, 3.5 mm jack สำหรับลำโพงหลัง, กลางและ sub ครับ นอกจากนั้นแล้ว AE-9 ยังมาพร้อมกับ RCA stereo out ด้วยอีกต่างหาก ทว่าสิ่งที่น่าสนใจจริงๆ นั้นคงหนีไม่พ้นช่องเชื่อมต่อไฟแบบ 6-pin ที่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกมากที่มันมาอยู่บนการ์ดเสียงทว่านั่นก็ทำให้เราสามารถคิดในอีกมุมได้ครับว่าตัวการ์ด AE-9 นั้นมีความแรงในการประมวลผลเสียงมากจริงๆ จนถึงขั้นต้องต่อไฟเพิ่มเข้ามาช่วยอีกจุดครับ
Creative ได้บอกเอาไว้ครับว่าตัวการ์ด AE-9 นั้นมีอัตราส่วน signal-to-noise อยู่สูงถึง 129 dB เลยทีเดียว และด้วยการใช้ ESS Sabre 32 digital analog converter นั้นก็ทำให้สามารถรับรองได้เลยถึงเรื่องคุณภาพของเเสียงที่ได้ครับ นอกจากนั้น AE-9 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี XAMP ของทาง Creative เองซึ่งจะเข้ามาช่วยในการขยายเสียง stereo แต่ละช่องแยกออกจากกันสำหรับการใช้งานคู่กับหูฟัง
สำหรับตัวกล่องเครื่องขยายเสียงแบบแยกนั้นจะมาพร้อมกับ DAC ภายนอกของตัวเองซึ่งรองรับการใช้งานกับช่องเชื่อมต่อ TRS และ XLR สำหรับการเชื่อมต่อกับไมโครโฟนได้ด้วย ทั้งนี้เครื่องขยายเสียงภายนอกนี้นั้นจะมาพร้อมกับ 48-volt phantom power ตามมาด้วยสวิตซ์ที่เอาไว้ใช้เลือกโปรไฟล์เฉพาะสำหรับหูฟังที่มีสมรรถภาพสูง อีกทั้งตัวเครื่องขยายเสียงยังรองรับ SBX แบบปุ่มกายภาพซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตวามคุมเทคโนโลยีการจำลองเสียงแบบ 3 มิติได้ตามที่ตัวเองต้องการ สำหรับราคาของ Sound BlasterX AE-9 ก็ถือว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้ครับ โดยหากท่านใดสนใจก็เตรียมเงินไว้ที่ $300 หรือประมาณ 9,800 บาทแล้วรอเวลาที่มีการนำมาขายในเมืองไทยคุณภาพเสียงระดับสุดยอดของโลกก็จะอยู่ในมือคุณแล้วครับ
ที่มา : techpowerup