สำหรับวัย 30++ หรือเกือบๆ 30 ผมเชื่อว่าต้องเคยใฝ่ฝันอยากซื้อหรืออยากเล่นเครื่องเล่นเกมคอนโซลต้นตำหรับอย่าง Sony PlayStation เครื่องเล่นเกมที่เข้ามาปฏิวัติวงการในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ตั้งแต่กราฟิกที่ล้ำหน้าที่สุดในสมัยนั้น ระบบการเล่นที่หลากหลาย และจอยที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
แต่ด้วยหลายๆ ท่านยังเป็นวัยเรียนอาจจะไม่มีปัญญาซื้อจนต้องเดินเข้าร้านเกมเล่นกันเป็นชั่วโมงเพื่อให้เคลียสักเกม ผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เข้าร้านเกมเพื่อเล่น Sony PlayStation 1 จนหลายเดือนก่อน Sony ได้ประกาศเปิดตัว Sony PlayStation Classic
ที่เรียกได้ว่ายก Sony PlayStation 1 มาวางจำหน่ายใหม่ ในรูปทรงหน้าตาที่เหมือนเดิมแตกต่างที่ขนาดเล็กลง และยังมาพร้อมเกม 20 เกม ยอดฮิตติดตั้งมาให้เล่นเลย โดยแบ่งเป็น 2 เวอร์ชั่น คือเวอร์ชั่นญี่ปุ่น และเวอร์ชั่นอินเตอร์ ซึ่งจะแต่างต่างในส่วนของเกมที่แถมมาให้
ก่อนอื่นสำหรับท่านที่อาจจะเกิดยุดหลังและไม่รูว่า Sony PlayStation 1 นั้นเป็นอย่างไร ผมขอพาทุกท่านไปรู้จักเจ้าเครื่องเล่นเกมตัวนี้กันก่อนเเพื่อความินมากยิ่งขึ้นไปอีก
- เพลย์สเตชัน (อังกฤษ: PlayStation ญี่ปุ่น: プレイステーション) เป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกม ระบบ 32 บิต ผลิตโดยโซนี่คอมพิวเตอร์เอนเตอร์เทนเมนท์ โดยได้มีออกมาหลายรุ่นในลักษณะหลักเดียวกันในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 หลังจากที่ประสบความสำเร็จทางโซนี่ได้ออกเครื่องเล่นเกมในรุ่นต่อมาซึ่งได้แก่ เพลย์สเตชัน 2 จนมาถึงปัจจุบันเพลย์สเตชัน 4
หากไม่มีวิกฤติก็อาจจะไม่มี เพลย์สเตชัน
- เดิมบริษัทนินเทนโดมีความสนใจในตัวสื่อบันทึกรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า CD-ROM ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทโซนี่และฟิลิป ทางนินเทนโดจึงติดต่อกับทางโซนี่ ในข้อเสนอร่วมกันผลิตอุปกรณ์เสริมแบบใหม่ให้กับเครื่องSFC โดยอุปกรณ์เสริมที่ว่าจะทำให้เครื่องเกมSFCสามารถเล่นเกมจากแผ่น CD-ROM ได้ โดยใช้ชื่อว่า SNES-CD และได้มีการประกาศต่อสาธารณชนครั้งแรกในงานแสดงสิค้าอิเล็กทรอนิกส์ Consumer Electronics Show (CES) ปี 1991 แต่เหตุการณ์พลิกผัน เมื่อประธานบริษัทนินเทนโดในขณะนั้นเกิดไม่พอใจในเนื้อหาของข้อตกลงในสัญญาฉบับเก่าที่ทำกับโซนี่ เนื่องจากเห็นว่าทางโซนี่จะได้สิทธิในเกมทุกเกมที่ผลิตออกมาในรูปแบบ CD-ROM ทางนินเทนโดจึงได้ยกเลิกข้อตกลงการพัฒนาร่วมกับโซนี่ทั้งหมดกลางงาน CES และได้เปลี่ยนไปเซ็นสัญญากับทางฟิลิปแทน ซึ่งการถูกยกเลิกสัญญากะทันหันแบบตั้งตัวไม่ทันนี้ สร้างความลำบากให้กับทางโซนี่ ผลงานวิจัยและพัฒนาถูกยกเลิกกลางอากาศ ทางบริษัทโซนี่จึงตัดสินใจนำสิ่งที่เหลือจากโครงการที่ยุบไปแล้วมาพัฒนาต่อเป็นเครื่องเกมคอนโซลแบบเดี่ยว ทางนินเทนโดได้ฟ้องร้องขอให้ศาลสั่งให้โซนี่ระงับการพัฒนา แต่ศาลไม่รับฟ้อง ในที่สุดในปี 1991 เครื่องเพลย์สเตชันรุ่นต้นแบบก็ถูกผลิตออกมา
เป็นเครื่องเล่นเกมคอนโซลที่มีสายการผลิตยาวนานที่สุด
- เพลย์สเตชันเปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 3 ธันวาคม 1994 เปิดตัวครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 9 กันยายน 1995 เปิดตัวครั้งแรกในยุโรปในวันที่ 29 กันยายน 1995 โดยราคาเปิดตัวครั้งแรกในอเมริกาอยู่ที่ 299 ดอลลาร์สหรัฐต่อเครื่อง หรือประมาณ 7,500 บาท (ในยุคนั้น 1 ดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 25 บาท ) และมีการผลิตเครื่องเพลย์สเตชันนั้นยาวนานต่อเนื่องถึง 11 ปี เป็นเครื่องเกมคอนโซล จนเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ปี2006 ทางโซนี่ประกาศยุติสายการผลิต
ยอดขายมหาศาล
- เพลย์สเตชัน สามารถทำยอดขายได้มากถึง 102 ล้านเครื่อง ซึ่งถือว่าเยอะมากในยุคนั้น
ที่มา : https://th.wikipedia.org/
Sony PlayStation Classic มีข่าวครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปีนี้ และกำหนดให้วางจำหน่ายวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมาพร้อมกันทั่วโลก ซึ่งสร้างความฮือฮาได้เป็นอย่างมาก เพราะเหมือนเติมเต็มความฝันวัยเยาว์ให้หลายๆท่าน ที่อาจจะเคยเล่น เคยเป็นเจ้าของ หรืออีกหลายๆท่านที่ทำได้เพียงแค่เข้าไปเล่นในร้านเกม ด้วยการพัฒนาขึ้นมาใหม่ด้วยรูปทรงเดิมของ Sony PlayStation 1 แต่ปรับให้มีขนาดเล็กลงเหลือ 1 ใน 4 ของเครื่องรุ่นเดิม และปรับมาใช้หน่วยความจำภายในแทนแผ่นซีดี แถมจอยมาให้ 2 จอย เลยไม่ต้องซื้อเพิ่ม และได้ติดตั้งเกมมาให้เลย 20 เกม โดยจะแบ่งเป็น 2 โซนคือเวอร์ชั่นอินเตอร์ และเวอร์ชั่นญี่ปุน
โดยเกมที่จะมีเหมือนกันทั้ง 2 เวอร์ชั่น
- Battle Arena Toshinden
- Final Fantasy VII
- Intelligent Qube
- Jumping Flash!
- Metal Gear Solid
- Mr. Driller
- R4: Ridge Racer Type 4
- Resident Evil: Director’s Cut
- Revelations: Persona
- Super Puzzle Fighter II Turbo
- Tekken 3
- Wild Arms
เกมที่จะมีเฉพาะเวอร์ชั่นอินเตอร์
- Cool Boarders 2
- Destruction Derby
- Grand Theft Auto
- Oddworld: Abe’s Oddysee
- Rayman
- Syphon Filter
- Tom Clancy’s Rainbow Six
- Twisted Metal
เกมที่มีเฉพาะเวอร์ชั่นญี่ปุ่น
- Arc the Lad
- Arc the Lad II
- Armored Core
- G-Darius
- Gradius Gaiden
- Parasite Eve
- SaGa Frontier
- XI [sái]
กล่องของ Sony PlayStation Classic จะมาพร้อมลวดลายและชื่อรุ่นย้อนยุด ขนาดไม่ใหญ่ พร้อมระบุข้อมูลชัดเจน โดยกล่องนอกจะแบ่งตามประเทศที่จำหน่าย ด้วยภาษาของแต่ละประเทศ และที่สำคัญในบ้านเราจัดจำหน่ายโดย Sony Thai เป็นเครื่องศูนย์รับประกัน 1 ปีเต็ม เสียมีปัญหาเคลมได้เหมือนเครื่อง PS4
ด้านหลังกล่องถือเป็นไฮไลท์ด้วยเกมที่ติดตั้งมาในเครื่อง 20 เกม โดยจะมีเกมดังๆที่ผมคุ้นเลยไม่ว่าจะเป็น Metal Gear Solid ,Resident Evil: Director’s Cut ,Tekken 3 ,Grand Theft Auto เกมสร้างชื่อและมีภาคต่อมาจนถึงปัจจุบันทั้งนั้น
อุปกรณ์ภายในกล่อง Sony PlayStation Classic จะมีตัวเครื่อง จอย 2 อัน คู่มือเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษและภาษาไทย สาย HDMI และสาย Micro USB ไม่มี Adapter แถมมาให้นะครับ แต่ใช้ไฟไม่เยอะต่อ Adapter USB ทั่วไปก็ใช้ได้
ตัวเครื่อง Sony PlayStation Classic มาในขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม เหลือเพียง 1 ใน 4 ขนาดประมาณฝ่ามือ ส่วนการออกแบบหน้าตา ปุ่มต่างๆเหมือน Sony PlayStation 1 ทุกประการ แม้กระทั่งช่องระบายความร้อนด้านข้าง และด้านล่างก็ตำแหน่งเดิมไม่มีผิดเพียน จะต่างแค่ปุ่ม Open กดแล้วฝาใส่แผ่นซีดีจะไม่เปิด แต่มีหน้าที่สำหรับเปลี่ยนแผ่นเกมซึ่งเป็นฟังค์ชั่นพิเศษสำหรับบางเกมที่ต้องเปลี่ยนแผ่น นอกนั้นก็จะมีไฟแสดงสถานะตรงปุ่ม Power สำหรับเปิดเครื่อง และปุ่ม RESAT สำหรับรีเซ็ตหรือออกเกมเข้าหน้าเมนูหลัก
ขอบเครื่องด้านหน้าจะเป็นพอร์ต USB สำหรับจอย 2 อัน แทนพอร์ตจอยแบบเก่า ส่วนช่อง MEMORY CARD ทำมาหลอกๆให้เหมือนรุ่นเก่าไม่ได้มีการใช้งานอะไร เพราะเดี๋ยวนี้เข้าไม่ต้องใช้กันแล้ว
ด้านหลังก็ยังทำได้ใกล้เคียงของเดิมโดยเฉพาะตัวช่องปิดพอร์ต Action Replay สำหรับต่ออุปกรณ์ขั้นเทพตั้งแต่สูตรช่วยโกง ไปจนถึงแปลงให้ Sony PlayStation 1 ดูหนังวีซีดีได้ แต่ใน Sony PlayStation Classic ช่องนี้เปิดไม่ได้ พอร์ตการแสดงผลเปลี่ยนมาใช้ HDMI และด้านข้าง Micro USB สำหรับจ่ายไฟ
ขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือนิดหน่อย พกพาสะดวกใส่กระเป๋ากางเกงยังได้
ถัดจากตัวเครื่องก็มาแนะนำจอยกันต่อ กับรูปทรงเหมือนเดิมไม่มีผิดเพียน ทั้งการออกแบบ ตำแหน่งปุ่มรวมไปถึงวัสดุก็เหมือนเดิมทุกประการ แต่ต่างจากรุ่นเก่าตรงที่จอยมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้เล็กเกินไปจนจับไม่ถนัดมือ
การออกแบบพอร์ตเชื่อมต่อมาในรูปทรงเดิม แต่เปลี่ยนมาเป็นพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB ทำให้สามารถใช้กับพีซีได้ด้วยนะครับ หรือจะเอาจอยอื่นมาต่อก็สามารถใช้งานได้เหมือนกัน
แม้จอยจะมีขนาดเล็กลงมาบ้าง แต่การใช้งานก็ยังสามารถจับได้กระชับมือ กดปุ่มสั่งงานได้เหมือนจอยในวันวาน
สายจอยยาวอยู่ พอลองต่อแล้วดูจอยใหญ่พอๆกับตัวเครื่องอีกนะนี่ 555
โลโก้ที่คุ้นเคยตอนเปิดเครื่อง
หน้าตาของเมนูหลัก โดยจะมี 20 เกม ให้เลือกเล่นได้ โดยจะมีชื่อเกม ค่ายที่ผลิต และปีที่วางจำหน่ายโชว์อยู่ กดเลือกซ้านขวา และ X สำหรับเลือกเกมที่ต้องการ โดยการเซฟนอกจากเซฟในเกมตามระบบเดิมแล้ว ตัวเครื่องยังเก็บข้อมูลล่าสุดที่เล่นเอาไว้ด้วย กล่าวคือถ้าออกเกมกลางคันโดยที่ยังไม่ได้เซฟ ตัวเครื่องจะเก็บตำแหน่งที่ออกไว้เหมือนเกมสมัยใหม่
เมนูตั้งค่าต่างๆไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้มากนัก พร้อมเมนูแนะนำการใช้งานเบื่องต้น
หลังจากเลือกเกมแล้วก็จะเป็นหน้าจอที่เราต้องลุ้นกันก่อนเข้าเกมว่าจะผ่านไหม พร้อมเสียงที่เราคุ้นเคย
ภาพของเกมต่างๆต้องบอกว่ายกมาจาก Sony PlayStation 1 เลย ไม่ได้มีการปรับเพิ่มกราฟิก ปรับอัตราส่วนใดๆ ภาพ 4:3 และเป็นภาพแบบ 32 บิต เหลี่ยมๆเหมือนเดิม จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า เมื่อก่อนเราเล่นเกมภาพแบบนี้ได้อย่างไร ในเมื่อปัจจุบันภาพกราฟิกพัฒนาไปสมจริงอย่างมาก แต่ถ้ามองไปเมื่อก่อนภาพแบบนี้ถือว่าคมชัดสมจริงมากแล้ว และที่สำคัญคือระบบการเล่นเกที่ยังเหมือนเดิม บางเกมล้ำยุคมากในสมัยนั้น แต่ก็เอาไว้เล่นคลายเครียด ย้อนวันวานได้อยู่ โดยเฉพาะท่านที่เคยเล่นเกมนั้นๆมาก่อนแล้ว
Sony PlayStation Classic อาจจะไม่ใช่เครื่องเล่นเกมที่ดีที่สุด ที่แรงที่สุด บางท่านอาจจะมองว่าไปโหลดอีมูเลเตอร์ PSX หรืออะไรก็ตามเล่นบนพีซีก็ได้ทำไมจะต้องเสียเงินซื้อ Sony PlayStation Classic แต่สำหรับบางท่านมันคือความทรงจำในวัยเยาว์ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายปีก่อน ได้เล่น ได้สัมผัสเหมือนเล่นบนเครื่อง Sony PlayStation 1 ทั้งเกม และระบบการเล่นไปจนถึงสัมผัสของจอยที่ต่อให้ PSX ก็ไม่สามารถเข้ามาแทนได้
อย่างผมก็เล่นจริงๆจังเหมือนเล่นเกมในสมัยก่อน กว่าจะผ่านแต่ละด่านมันช่างยากเย็น เหมือนย้อนเวลากลับไปวัยเด็กเลยก็ว่าได้ แต่ก็อย่าคาดหวังว่าภาพกราฟิกมันจะดีขึ้น จะปรับปรุงเหมือนพวก Remaster นะครับ เพราะมันคือคุณภาพแบบเดิมที่อาจจะต้องทำใจหน่อย
Sony PlayStation Classic จึงเหมือนของสะสม ที่เหมาะกับแฟน Sony PlayStation โดยเฉพาะ ที่ไม่ได้แค่ของสะสมแต่ยังเล่นหรือใช้งานจริงได้ด้วย เกมที่มีแค่ 20 เกม ในอนาคตน่าจะสามารถเพิ่มได้อีก ไม่น่ามีแค่นี้แน่นอนกับราคาค่าตัวที่ 3,590 บาท ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป เมื่อเทียบกับความทรงจำในวัยเยาว์
จุดเด่น
- ความทรงจำในวัยเยาว์เหมาะกับเป็นของสะสม
- ให้ความรู้สึกเหมือน Sony PlayStation 1 เกือบทุกประการ
ข้อสังเกตุ
- เกมน้อยไปหน่อย
- ไม่แถม adapter มาให้