Asus ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ระดับสากลจากประเทศไต้หวันที่มีมูลค่ามากที่สุดในปี 2018 เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน จากการสำรวจแบรนด์จากไต้หวันที่เป็นระดับสากลของกระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน ซึ่ง Asus ถูกประเมินว่าเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงถึง 1.619พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯการสำรวจทั่วโลกประจำปีของไต้หวันถือเป็นดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพของแบรนด์ได้อย่างดี
Mr.Nick Wu ประธานฝ่ายการเงินของ ASUS กล่าวหลังจากได้รับรางวัลว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นแบรนด์ระดับสากลจากไต้หวันที่มีมูลค่ามากที่สุด การได้รับรางวัลครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้เป็นไปได้และเราจะยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆเพื่ออนาคตที่ดีขึ้นต่อไป”
Asus ประสบความสำเร็จมากมายในปี 2018และบริษัทยังคงได้รับรางวัลด้านการออกแบบและคำชมจากสื่อมวลชนระดับนานาชาติซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการออกแบบและนวัตกรรมระดับโลก เช่น Thomson Reuters ได้ขนานนาม Asus ว่าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอันดับต้น ๆ ของโลกในปี 2018, นิตยสาร Fortune ได้กล่าวว่า Asus เป็นบริษัทที่น่าชื่นชมมากที่สุดในโลก และนิตยสาร Forbes ได้จัดอันดับใน Global 2000 ว่า Asus เป็นTop RegardedCompanies เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์จาก Asus ยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติต่างๆ เช่น iF Design awards ถึง 18 รางวัล, Red Dot awards ถึง 16 รางวัล, Good Design awards ถึง 9 รางวัล และTaiwan Excellence awards ถึง 22 รางวัลรางวัลความสำเร็จเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันความมุ่งมั่นของASUS ในการออกแบบและความทุ่มเทในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เกินความคาดหมายของผู้ใช้
Asus เป็นองค์กรที่ทำงานในเชิงรุกในการพัฒนาการบริหารจัดการธุรกิจแบบ smart enterprise และมีการพัฒนาหน่วยธุรกิจใหม่ๆ เช่น AI, big data, cloud computing และ IoT ในปี 2018และ Asus ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมล้ำหน้าหลายๆตัว เช่น VivoWatch BP ซึ่งเป็นนาฬิกาตัวแรกของโลกที่สามารถวัดความดันโลหิตได้, RT-AX88U WiFi Router ที่รองรับเทคโนโลยี WiFi6(802.11ax) ตัวแรกของโลก, เมนบอร์ด Z390 ที่รองรับ 9th Generation Intel® processors ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI Overclocking ที่มาปฏิวัติการโอเวอร์คล๊อกแบบเดิม ๆ และที่สำคัญคือ Zenbo project หุ่นยนต์ที่จะมาเป็นผู้ช่วยสำหรับธุรกิจในอนาคต
ในขณะที่ ASUS Republic of Gamers (ROG) ก็ตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเกมของปี 2018 ได้อย่างดีโดยมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ROG Swift PG27UQ จอเกมระดับ 4K 144Hz ตัวแรกของโลก, การ์ดจอ GeForce® RTX 2080 and 2080 Ti ที่ทำงานร่วมกับ GPU จาก NVDIA นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดคือ ROG Thor power supply, ROG Ryuo, Ryujin AIO CPU coolersในส่วนของเมนบอร์ด ROG ก็ยังคงทำลายสถิติและได้รับรางวัลต่างๆมากมาย และยังคงรักษาความเป็น No.1 gaming brand ได้เป็นอย่างดี
ROG ยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการร่วมมือกันกับบริษัทผู้ผลิตเกมค่ายต่างๆตลอดทั้งปี 2018 และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับเกมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกับActivision และ Intel ในการเปิดตัวเกม Call of Duty®: Black Ops 4 และทำงานร่วมกับ TencentGames บริษัทเกมยักใหญ่จากจีนในการพัฒนาเกมArena of Valor
Asus ได้จัดตั้งโครงการ ASUS 2020 Sustainability Goals เพื่อเป็นการตั้งเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท ตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ(SDGs) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่ง Asus ได้ใช้เครื่องมือการประเมินเชิงปริมาณแบบใหม่เช่น การรายงานผลกำไรและขาดทุนจากสิ่งแวดล้อมซึ่งกำหนดมูลค่าทางการเงินให้กับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงของการผลิต, โครงการ“circular economy”ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยลดของเสียในระหว่างกระบวนการผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับการรีไซเคิล โครงการ circular economy ยังรวมถึงการพัฒนาการเรียนรู้และช่วยให้ชุมชนผู้ด้อยโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีและการศึกษาได้ง่ายขึ้น
Asus มุ่งมั่นที่จะพัฒนาประสบการณ์การใช้งานแบบดิจิตอลในขณะเดียวกันก็พัฒนาแนวทางปฏิบัติและการดำเนินธุรกิจขององค์กรเพื่อสร้างองค์กรแบบ smart enterpriseและยังคงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกต่อไป