คราวนี้มาดูฝั่งโน๊ตบุ๊คสาย Business กันบ้างที่ทีมงาน NBS ได้มีโอกาสสัมผัสกับสุดยอดโน๊ตบุ๊คระดับมืออาชีพเพื่อใช้งานองค์กรของแบรนด์ HP ในซีรีส์ EliteBook ที่นับว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วที่มีความสวยงามหรูหรา และงานประกอบที่โดดเด่นที่สุด ซึ่งคราวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 Pro ตัวล่าสุดประสิทธิภาพใช้ได้ อีกทั้งตัวเครื่องยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่แน่นหนากว่าโน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไปรวมไปถึงความแข็งแรงทนทานด้วยวัสดุอะลูมิเนียมทั้งตัวเครื่อง กับความบางที่ 18.3 มิลลิเมตร และเบาเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น
สเปค ภายในของ HP EliteBook 755 G5 ที่ทีมงานได้รับมารีวิวจะมาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 Pro 2700U ที่มีการ์ดจอออนบอร์ดเป็น VEGA 10 รุ่นใหม่ ขับเคลื่อนด้วย Ram ขนาด 8GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์ความเร็วสูง SSD m.2 256 GB พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro อีกด้วย ส่วนการประกันให้ถึง 2 ปีแบบ On-site Service เรียกได้ว่าเหมาะงานภาคธุรกิจที่เน้นใช้งานจริงจังแบบสุดๆ สนนราคาเริ่มต้นที่ 29,990 บาทถึง 36,900 บาท ส่วนประสิทธิการใช้งานและรีวิวจะเป็นไงบ้างไปดูด้านล่างกันได้เลยครับ
Specification
สเปคภายในของตัว HP EliteBook 755 G5 ตัวนี้ถือว่าแปลกเพราะคราวนี้มาพร้อมกับ CPU ของทางฝั่ง AMD Ryzen ซึ่งข้อดีก็คือกินไฟต่ำและทำให้ราคาโน๊ตบุ๊คถูกลงไปเยอะ ซึ่งปกติแล้วซีรีส์ EliteBook มักจะมีราคาที่ 40,000 บาทขึ้นไป โดยตัวเครื่องนี้เลือกใช้ CPU AMD Ryzen 7 Pro 2700U (2.20 GHz up to 3.80 GHz) ตัวประหยัดพลังงานแบบ 4 Core/ 8 Thread การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ด AMD Radeon RX Vega 10 ส่วน Ram ก็ให้มา 8 GB DDR4 Bus 2400 (รองรับสูงสุด 32 GB ตัวเครื่องมี Ram 2 Slot) หน่วยความจำหลักเลือกใช้ SSD m.2 256 GB SATA 3
ส่วนหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว พาเนลจอเป็น IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล(Full HD) แถมตัวคีย์บอร์ดยัง trackpoint สำหรับใช้งานเป็นเคอเซอร์เมาส์มาให้อีกด้วยให้กับเป็นโน๊ตบุ๊คซีรีส์ Business จริงๆ ที่สำคัญตัวเครื่องน้ำหนักเบากว่าโน๊ตบุ๊คจอ 15.6 นิ้วทั่วไป ซึ่งหนักเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้นพกพาไปไหนมาไหนสบายๆ
พอร์ตการเชื่อมต่อมีมาตามนี้คือ 2 x USB 3.1 Gen 1 (1 charging), USB Type-C, Lan RJ-45, รูหูฟังแบบ Headset, HDMI 2.0, docking connector นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีกล้องไว้สแกนใบหน้าใช้งานกับ Windows Hello ได้อีกด้วย แถมในบางรุ่นจะสามารถใส่ external SIM เพิ่มเติมได้อีก ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็น Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi มาตรฐานใหม่ 802.11 a/b/g/n/ac การรับประกัน Onsite Service 2 ปีเต็ม เสียมีปัญหาซ่อมให้ถึงที่
- HP Elitebook 755 G5 504TU Ryzen 5 + SSD m.2 256 GB ราคา 29,900 บาท
- HP Elitebook 755 G5 534TU Ryzen 7 + SSD m.2 256 GB ราคา 32,900 บาท **รุ่นที่รีวิว
- HP Elitebook 755 G5 507TU Ryzen 5 + SSD m.2 512 GB ราคา 36,900 บาท
Hardware / Design
ในส่วนดีไซน์ HP EliteBook 755 G5 ได้ถูกออกแบบมาให้หน้าตาคล้ายๆ กับรุ่นพี่ตระกูล EliteBook อื่นๆ โดยวัสดุภายนอกที่ใช้งานจะเป็นแบบอะลูมิเนียมอัลลอย โดยสีรอบตัวเครื่องจะเป็นสีเงิน ผิวสัมผัสแบบด้าน ซึ่งการที่เลือกใช้งานวัสดุและสีแบบนี้เมื่อเรามองภายนอกจะได้รับความรู้สึกถึงความพรีเมี่ยม สวยงามน่าเข้าไปลองจับไปใช้งานและที่สำคัญเลยคือไม่เป็นลอยนิ้วมือง่าย จุดเด่นเลยคือน้ำหนักของเครื่องอยู่ที่ 1.86 กิโลกรัม พร้อมกับความบางเพียง 18.3 มิลลิเมตรเท่านั้น
ถัดมาเป็นเรื่องของรูปทรงของตัวเครื่อง มิติตัวเครื่องจะเป็นสี่เหลี่ยมแข็งๆ พร้อมกับลบมุมที่ขอบเครื่องรับรองว่าไม่มีบาดมือบาดมือแน่นอนเวลาสัมผัส แกนฝาพับเป็นแบบแกนเดี่ยวแข็งแรงพร้อมสกรีนคำว่า EliteBook โชว์ความเป็นซีรีส์ Business ได้อย่างสวยงาม
โดยฝาหลังจะมีโลโก้ HP แบบ High-End ติดอยู่ตรงกลางในส่วนของด้านหน้าก็จะมีกล้องแบบ 720p HD ที่สามารถเลื่อนฝาปิดได้ แถมรองรับการสแกนใบหน้าเพื่อใช้งานร่วมกับ Windows Hello อีกด้วย ในส่วนของคีย์บอร์ดที่ใส่มาจะเป็นแบบมาตรฐานทั่วไปที่ใช้งานกันบน โน๊ตบุ๊คถัดลงมาอีกจะเป็นช่องสี่แหลี่ยมสำหรับใช้งานสแกนลายนิ้วมือเพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และโดยส่วนของคีย์บอร์ดจะมี trackpoint ไว้ใช้งานมาให้อีกเช่นกัน
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ HP EliteBook 755 G5 ได้มีความแตกต่างจากคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นอื่นๆ เพราะเป็น Premium Keyboard ที่ให้ประสบการใณืใช้งานที่เยี่ยมยอด ให้ความนุ่มนวลเด้งรับกับการพิมพ์อย่างลงตัว แต่ติดนิดหนึ่งที่ไม่มีไฟคีย์บอร์ดมาให้ ซึ่งการตอบสนองสามารถทำได้ดีกว่าคีย์บอร์ดทั่วไปแบบรู้สึกได้แถมยังสวยงามหรูหรา ส่วน Layout คีย์บอร์ดยังคงเป็น 4 แถวขนาด Full Size พร้อม Numpad ซึ่งในด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำ ที่สำคัญยังมีส่วนของ Conferencing Keys ติดตั้งมาให้ด้วย เพื่อให้ใช้งาน Skype โทรเข้าโทรออกได้อย่างสะดวกที่สุด
ทัชแพทก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่คลิกซ้ายคลิกขวาเป็นแบบซ่อนปุ่ม การใช้งานลื่นไหลอยู่ในระดับที่น่าพอใจ พร้อมมีตัวช่วยซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ สามารถลากนิ้วได้ลื่นไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ ทั้งในการใช้งานแบบปกติหรือใช้งานฟังก์ชันการทำงานแบบ Multi-Touch Gesture ใน Windows 10 อย่างเต็มที่ที่สำคัญคือมีปุ่ม trackpoint อยู่ที่ตรงกลางคีย์บอร์ดมาให้ใช้งานอีกด้วยครับ
Screen / Speaker
หน้าจอ HP EliteBook 755 G5 จะใช้ขนาด 15.6 นิ้ว ผิวจอด้านแบบ Anti-Glare ความละเอียด 1920 x 1080 Pixel Full HD มีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 60 Hz ธรรมดา ส่วน Panel จอเป็นแบบ IPS มาตรฐาน เรื่องของมุมมองที่สามารถมองได้ชัดเจนทุกมุมมอง ซึ่งสีสันที่ได้ก็สวยงามตามท้องเรื่อง ที่สำคัญตัวเครื่องให้ยางรองหน้าจอเป็นแบบเต็มพื้นที่ ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้าจอเป็นรอยเป็นเวลาพับเก็บ ส่วนกล้อง Webcam ตัวเครื่องให้มาเป็นแบบความละเอียด HD พร้อมกับรองรับการสแกนใบหน้าร่วมกับ Windows Hello ได้อย่างลื่นไหล
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง BANG & OLUFSEN ทำให้มีเสียงมีน้ำหนักหนักแน่นนุ่มนวล ซึ่งไม่ว่าจะเอามาทำงานดูหนังฟังเพลงก็ทำได้ดีเลยทีเดียวครับ อีกทั้งยังให้เสียงดังพอสมควร โดยช่องลำโพงถูกออกแบบมาอยู่ด้านใต้ตัวเครื่องซ้ายขวาทำให้การกระจายเสียงได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ HP EliteBook 755 G5 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 62% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ 200 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงสีมากๆ แล้ว อันนี้ไม่แนะนำเท่าไรนัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านบนซ้ายมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอตรงด้านซ้ายล่างจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 13% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
Connector / Thin And Weight
HP EliteBook 755 G5 มีพอร์ตการเชื่อมต่อที่จัดว่าครบครันตามสไตล์ของ Ultrabook โดยติดตั้งมาพร้อมพอร์ตการเชื่อมต่ออย่างช่อง USB 3.1 Gen 1 Type A จำนวน 2 ช่อง , USB Type-C (ต่อจอแยกได้), Lan RJ-45, รูหูฟังแบบ Headset, HDMI 2.0, Docking Connector ไว้สำหรับต่อ HUB เฉพาะของทาง HP ซึ่งต้องซื้อเพิ่มเติม ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็น Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 a/b/g/n/ac ปกติ แอบเสียดายนิดหนึ่งที่ตัวเครื่องไม่มี SD Card Reader มาให้
นอกจากนี้ในบางรุ่นยังสามารถใช้ external SIM เพิ่มเติมได้อีกด้วยเป็นแบบ 4G LTE Modem แบบบิวท์อินเข้ามาเป็นออพชั่
Performance / Software
HP EliteBook 755 G5 เครื่องนี้มาพร้อมกับชิปประมวลที่เป็น AMD Ryzen 7 Pro 2700U รุ่นล่าสุดแบบประหยัดพลังงานโดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 – 3.80 GHz แบบ 4 Core/8 Thread ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมที่ไม่กินทรัพยากรเครื่องมากนัก และมาพร้อม Ram ภายในขนาด 8 GB DDR4 Bus 2400 มา 1 แถว (ใส่ Ram ได้ 2 แถว รองรับสูงสุด 32 GB)
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon RX Vega 10 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ดีระดับหนึ่ง สามารถพอเอาไปเล่นเกมเบาๆ เกมออนไลน์ได้บ้าง
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256 GB แบบ M.2 SATA 3 ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 452.4 MB/s และเขียนที่ 480.3 MB/s
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen 7 Pro 2700U รุ่นประหยัดพลังงานแบบ 4 Core/8 Thread พอใช้งานหนักๆ ก็พอได้อยู่
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,009 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานพีซีทั่วไปนั่นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอก็พอทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยครับ
ในส่วนถัดไปทีมงานจะมาทดสอบในการเล่นเกมกันบ้างกับเกมยอดนิยมทั้ง 2 เกมหลักๆ ที่ตัวเครื่อ HP EliteBook 755 G5 พอเล่นได้ จะเป็นอย่างไรกันบ้างไปดูกันเลยครับ
จากการทดสอบดูได้ในกราฟ โดย HP EliteBook 755 G5 สามารเล่นทั้ง 2 เกมนี้ที่ตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยูที่ 1920 x 1080 พิกเซล ได้ลื่นไหลในระดับหนึ่ง ซึ่งตัวเกม DOTA 2 และ Overwatch ปรับ Medium เล่นได้ค่า FPS เฉลี่ยอยู่ประมาณ 30+ ก็ถือว่าลื่นไหลพอเล่นได้บ้างครับ
นอกจากนี้ในส่วนของซอฟต์แวร์ทาง HP ก็มีตัวโปรแกรม Support Assistant ที่ไว้สำหรับเช็คเครื่อง อัปเดตไดร์เวอร์ให้อัตโนมัติม สะดวกสบายไม่ต้องไปหาเองให้ยุ่งยาก แถมมีบริการ Supprot เวลาเครื่องมีปัญหาให้อีกตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ถ้ดมายังมีโปรแกรม HP Sure Click Desktop Console ที่ไว้สำหรับป้องกันไวรัส มัลแวร์ เอกสิทธิ์เฉพาะตัวโน๊ตบุ๊ค Business เท่านั้นมาให้ด้วยในเครื่อง
Battery / Heat / Noise
สำหรับ HP EliteBook 755 G5 ในส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีมากเลยทีเดียว จากการทดสอบเอามาเล่นเกมเป็นเวลานานๆ จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิ CPU สูงสดอยู่ที่ 79 องศาเท่านั้น ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียว ซึ่งทีมงานทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 25 องศาปกติ (อุณหภูมิการ์ดจอออนบอร์ดก็คือตัวเดียวกับอุณหภูมิ CPU)
HP EliteBook 755 G5 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 4 cell 4,500 mAh ขนาดใหญ่กว่าเดิม ซึ่งเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าทำออกมาได้ดีมาก โดยทีมงานใช้การทดสอบต่อ Wi-Fi ดู YouTube ปรับแสงต่ำสุด อยู่ได้ยาวนานประมาณ 7 ชั่วโมง 22 นาทีกันเลยทีเดียวครับ ถือว่าทำได้ดีมากพกพาไปข้างนอกไม่ต้องกลัวแบตหมด
Conclusion / Award
HP EliteBook 755 G5 ถือว่าเป็น Business Notebook ตัวจริงแถมมีราคาถูกกว่าใครเขา เริ่มต้นเพียง 29,900 บาทเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีแต่ 40,000 บาทขึ้นไป เหมาะสำหรับใช้งานภาคธุรกิจระดับองค์กรหรือระดับมืออาชีพต้องการความปลอดภัยระดับสูง ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งรองรับอนาคตได้อีกไกลแบบสบายๆ และระบบความปลอดภัยขั้นสุด ตั้งแต่ BIOS ยันความระบบสแกนหน้าสแกนนิ้ว สแกนใบหน้าโดยสเปคก็ถือว่าใช้ได้เลยแรงเหลือๆ กับการทำงานทั่วไปที่เป็น AMD Ryzen 7 Pro 2700U พร้อมการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น VEGA 10
นอกจากนี้ตัวเครื่องยังให้ Ram 8 GB แถมอัปเกรดเพิ่มได้อีกด้วย SSD m.2 ก็ให้มาขนาดพอใช้ 256 GB แบบ SATA 3 ซึ่งสามารถถอดอัปเกรดเพิ่มเติมได้ทีหลันง ในส่วนของการออกแบบของตัวเครื่องก็นับว่าเป็นโทนสีที่แสดงให้เห็นถึงความหรูหราดูพรีเมี่ยมจากการเลือกใช้อะลูมิเนียมอัลลอยสีเทาเง หน้าจอที่เลือกใช้งานแบบ IPS ก็ทำให้ภาพที่ได้ออกมาชัดเจนและเหมาะสมกับขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ด้วยความละเอียด 1920 x 1080 ก็ไม่ทำให้รู้สึกหรือสังเกตเห็นถึงเม็ดพิกเซลแต่อย่างใด โดยจอตัวนี้มีเทคโนโลยี Flicker Free ทำให้เวลาใช้งานสามารถใช้ได้ในระยะเวลานานๆ โดยที่ไม่ปวดตาอีกด้วย
ประกันก็ขั้นเทพ 2 ปี Onsite Service มีซอฟต์แวร์คอยสอบถามปัญหา 24 ชั่วโมง แถมตัวเครื่องน้ำหนักเบามากๆ เพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น อย่างไรก็ตาม HP EliteBook 755 G5 ก็ยังมีพอสังเกตอยู่บ้างคือเรื่องของ SSD m.2 ที่น่าจะให้เป็นแบบ NVMe เหมือนตัว Envy x360 ตัวก่อนหน้านี้ ซึ่งถ้าให้เป็นแบบ NVMe จะเป็นโน๊ตบุ๊ค Business ที่สมบูรณ์แบบมากๆ อีกตัวหนึ่งเลยครับ
ข้อดี
- งานประกอบยอดเยี่ยมหรูหรา วัสดุอะลูมิเนียมอัลลอย
- สเปครุ่นล่าสุด AMD Ryzen 7 Pro 2700U + Ram 8 GB + SSD m.2 256 GB
- จอ 15.6 นิ้ว แต่มีน้ำหนักเบาเพียง 1.86 กิโลกรัมพกพาสะดวกง่าย
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 7 ชั่วโมง 21 นาที
- ตัวเครื่องสามารถมีระบบสแกน + Finger Print ใช้ร่วมกับ Windows Hello รักษาความปลอดภัยได้ดี
- ลำโพง Bang & Olufsen ให้เสียงที่ดี มีน้ำหนัก ไม่แบนราบเหมือนโน๊ตบุ๊คทั่วไป
- มี Trackpoint ใช้งานได้ลื่นไหล
- ประกัน 2 ปี Onsite Service
- สามารถแกะอัปเกรด Ram และ SSD m.2 เพิ่มเติมได้ทีหลัง
- ซอฟต์แวร์ที่ตัวเครื่องให้มาทำงานได้ดีใช้ได้จริงทั้ง Support Assistant และ Sure Click
- มี Windows 10 Pro แท้ในตัวเครื่องเลย (เครื่องที่รีวิว)
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องให้ SSD m.2 มาเป็แบบ SATA 3 ไม่ใช่ NVMe
- ใส่ Sim ได้เฉพาะบางเครื่อง บางรหัส เท่านั้น
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับกลุ่มโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ด้วยกัน ซึ่ง HP EliteBook 755 G5 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
หน้าตาของ HP EliteBook 755 G5 ถือได้ว่าออกแบบมาได้สวยงาม พรีเมียมเกินราคาค่าตัวของมันไปมาก ตัวเครื่องอะลูมิเนียมอัลลอยสุดทนทานมาพร้อมดีไซน์แบบมินิมอลและพื้นผิวขัดลายเพิ่มความหรูหราอย่างมีระดับ เรียกได้ว่ากินขาดในกลุ่มโน๊ตบุ๊ค Business ในช่วงราคา 30,000 บาทแบบสบายๆ
Specification
สเปคภายในของตัว HP EliteBook 755 G5 ตัวนี้ถือว่าแปลกเพราะคราวนี้มาพร้อมกับ CPU ของทางฝั่ง AMD Ryzen ซึ่งข้อดีก็คือกินไฟต่ำและทำให้ราคาโน๊ตบุ๊คถูกลงไปเยอะ ซึ่งปกติแล้วซีรีส์ EliteBook มักจะมีราคาที่ 40,000 บาทขึ้นไป โดยตัวเครื่องนี้เลือกใช้ CPU AMD Ryzen 7 Pro 2700U (2.20 GHz up to 3.80 GHz) ตัวประหยัดพลังงานแบบ 4 Core/ 8 Thread การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ด AMD Radeon RX Vega 10 ส่วน Ram ก็ให้มา 8 GB DDR4 Bus 2400 (รองรับสูงสุด 32 GB ตัวเครื่องมี Ram 2 Slot) หน่วยความจำหลักเลือกใช้ SSD m.2 256 GB SATA 3
ส่วนหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว พาเนลจอเป็น IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล(Full HD) แถมตัวคีย์บอร์ดยัง trackpoint สำหรับใช้งานเป็นเคอเซอร์เมาส์มาให้อีกด้วยให้กับเป็นโน๊ตบุ๊คซีรีส์ Business จริงๆ ที่สำคัญตัวเครื่องน้ำหนักเบากว่าโน๊ตบุ๊คจอ 15.6 นิ้วทั่วไป ซึ่งหนักเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้นพกพาไปไหนมาไหนสบายๆ
พอร์ตการเชื่อมต่อมีมาตามนี้คือ 2 x USB 3.1 Gen 1 (1 charging), USB Type-C, Lan RJ-45, รูหูฟังแบบ Headset, HDMI 2.0, docking connector นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีกล้องไว้สแกนใบหน้าใช้งานกับ Windows Hello ได้อีกด้วย แถมในบางรุ่นจะสามารถใส่ external SIM เพิ่มเติมได้อีก ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็น Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi มาตรฐานใหม่ 802.11 a/b/g/n/ac การรับประกัน Onsite Service 2 ปีเต็ม เสียมีปัญหาซ่อมให้ถึงที่
- HP Elitebook 755 G5 504TU Ryzen 5 + SSD m.2 256 GB ราคา 29,900 บาท
- HP Elitebook 755 G5 534TU Ryzen 7 + SSD m.2 256 GB ราคา 32,900 บาท **รุ่นที่รีวิว
- HP Elitebook 755 G5 507TU Ryzen 5 + SSD m.2 512 GB ราคา 36,900 บาท
Hardware / Design
ในส่วนดีไซน์ HP EliteBook 755 G5 ได้ถูกออกแบบมาให้หน้าตาคล้ายๆ กับรุ่นพี่ตระกูล EliteBook อื่นๆ โดยวัสดุภายนอกที่ใช้งานจะเป็นแบบอะลูมิเนียมอัลลอย โดยสีรอบตัวเครื่องจะเป็นสีเงิน ผิวสัมผัสแบบด้าน ซึ่งการที่เลือกใช้งานวัสดุและสีแบบนี้เมื่อเรามองภายนอกจะได้รับความรู้สึกถึงความพรีเมี่ยม สวยงามน่าเข้าไปลองจับไปใช้งานและที่สำคัญเลยคือไม่เป็นลอยนิ้วมือง่าย จุดเด่นเลยคือน้ำหนักของเครื่องอยู่ที่ 1.86 กิโลกรัม พร้อมกับความบางเพียง 18.3 มิลลิเมตรเท่านั้น
ถัดมาเป็นเรื่องของรูปทรงของตัวเครื่อง มิติตัวเครื่องจะเป็นสี่เหลี่ยมแข็งๆ พร้อมกับลบมุมที่ขอบเครื่องรับรองว่าไม่มีบาดมือบาดมือแน่นอนเวลาสัมผัส แกนฝาพับเป็นแบบแกนเดี่ยวแข็งแรงพร้อมสกรีนคำว่า EliteBook โชว์ความเป็นซีรีส์ Business ได้อย่างสวยงาม
โดยฝาหลังจะมีโลโก้ HP แบบ High-End ติดอยู่ตรงกลางในส่วนของด้านหน้าก็จะมีกล้องแบบ 720p HD ที่สามารถเลื่อนฝาปิดได้ แถมรองรับการสแกนใบหน้าเพื่อใช้งานร่วมกับ Windows Hello อีกด้วย ในส่วนของคีย์บอร์ดที่ใส่มาจะเป็นแบบมาตรฐานทั่วไปที่ใช้งานกันบน โน๊ตบุ๊คถัดลงมาอีกจะเป็นช่องสี่แหลี่ยมสำหรับใช้งานสแกนลายนิ้วมือเพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และโดยส่วนของคีย์บอร์ดจะมี trackpoint ไว้ใช้งานมาให้อีกเช่นกัน
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ HP EliteBook 755 G5 ได้มีความแตกต่างจากคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นอื่นๆ เพราะเป็น Premium Keyboard ที่ให้ประสบการใณืใช้งานที่เยี่ยมยอด ให้ความนุ่มนวลเด้งรับกับการพิมพ์อย่างลงตัว แต่ติดนิดหนึ่งที่ไม่มีไฟคีย์บอร์ดมาให้ ซึ่งการตอบสนองสามารถทำได้ดีกว่าคีย์บอร์ดทั่วไปแบบรู้สึกได้แถมยังสวยงามหรูหรา ส่วน Layout คีย์บอร์ดยังคงเป็น 4 แถวขนาด Full Size พร้อม Numpad ซึ่งในด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำ ที่สำคัญยังมีส่วนของ Conferencing Keys ติดตั้งมาให้ด้วย เพื่อให้ใช้งาน Skype โทรเข้าโทรออกได้อย่างสะดวกที่สุด
ทัชแพทก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่คลิกซ้ายคลิกขวาเป็นแบบซ่อนปุ่ม การใช้งานลื่นไหลอยู่ในระดับที่น่าพอใจ พร้อมมีตัวช่วยซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ สามารถลากนิ้วได้ลื่นไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ ทั้งในการใช้งานแบบปกติหรือใช้งานฟังก์ชันการทำงานแบบ Multi-Touch Gesture ใน Windows 10 อย่างเต็มที่ที่สำคัญคือมีปุ่ม trackpoint อยู่ที่ตรงกลางคีย์บอร์ดมาให้ใช้งานอีกด้วยครับ
Screen / Speaker
หน้าจอ HP EliteBook 755 G5 จะใช้ขนาด 15.6 นิ้ว ผิวจอด้านแบบ Anti-Glare ความละเอียด 1920 x 1080 Pixel Full HD มีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 60 Hz ธรรมดา ส่วน Panel จอเป็นแบบ IPS มาตรฐาน เรื่องของมุมมองที่สามารถมองได้ชัดเจนทุกมุมมอง ซึ่งสีสันที่ได้ก็สวยงามตามท้องเรื่อง ที่สำคัญตัวเครื่องให้ยางรองหน้าจอเป็นแบบเต็มพื้นที่ ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้าจอเป็นรอยเป็นเวลาพับเก็บ ส่วนกล้อง Webcam ตัวเครื่องให้มาเป็นแบบความละเอียด HD พร้อมกับรองรับการสแกนใบหน้าร่วมกับ Windows Hello ได้อย่างลื่นไหล
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง BANG & OLUFSEN ทำให้มีเสียงมีน้ำหนักหนักแน่นนุ่มนวล ซึ่งไม่ว่าจะเอามาทำงานดูหนังฟังเพลงก็ทำได้ดีเลยทีเดียวครับ อีกทั้งยังให้เสียงดังพอสมควร โดยช่องลำโพงถูกออกแบบมาอยู่ด้านใต้ตัวเครื่องซ้ายขวาทำให้การกระจายเสียงได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ HP EliteBook 755 G5 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 62% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ 200 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงสีมากๆ แล้ว อันนี้ไม่แนะนำเท่าไรนัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านบนซ้ายมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอตรงด้านซ้ายล่างจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 13% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
Connector / Thin And Weight
HP EliteBook 755 G5 มีพอร์ตการเชื่อมต่อที่จัดว่าครบครันตามสไตล์ของ Ultrabook โดยติดตั้งมาพร้อมพอร์ตการเชื่อมต่ออย่างช่อง USB 3.1 Gen 1 Type A จำนวน 2 ช่อง , USB Type-C (ต่อจอแยกได้), Lan RJ-45, รูหูฟังแบบ Headset, HDMI 2.0, Docking Connector ไว้สำหรับต่อ HUB เฉพาะของทาง HP ซึ่งต้องซื้อเพิ่มเติม ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็น Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 a/b/g/n/ac ปกติ แอบเสียดายนิดหนึ่งที่ตัวเครื่องไม่มี SD Card Reader มาให้
นอกจากนี้ในบางรุ่นยังสามารถใช้ external SIM เพิ่มเติมได้อีกด้วยเป็นแบบ 4G LTE Modem แบบบิวท์อินเข้ามาเป็นออพชั่
Performance / Software
HP EliteBook 755 G5 เครื่องนี้มาพร้อมกับชิปประมวลที่เป็น AMD Ryzen 7 Pro 2700U รุ่นล่าสุดแบบประหยัดพลังงานโดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 – 3.80 GHz แบบ 4 Core/8 Thread ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมที่ไม่กินทรัพยากรเครื่องมากนัก และมาพร้อม Ram ภายในขนาด 8 GB DDR4 Bus 2400 มา 1 แถว (ใส่ Ram ได้ 2 แถว รองรับสูงสุด 32 GB)
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon RX Vega 10 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ดีระดับหนึ่ง สามารถพอเอาไปเล่นเกมเบาๆ เกมออนไลน์ได้บ้าง
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256 GB แบบ M.2 SATA 3 ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 452.4 MB/s และเขียนที่ 480.3 MB/s
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen 7 Pro 2700U รุ่นประหยัดพลังงานแบบ 4 Core/8 Thread พอใช้งานหนักๆ ก็พอได้อยู่
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,009 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานพีซีทั่วไปนั่นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอก็พอทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยครับ
ในส่วนถัดไปทีมงานจะมาทดสอบในการเล่นเกมกันบ้างกับเกมยอดนิยมทั้ง 2 เกมหลักๆ ที่ตัวเครื่อ HP EliteBook 755 G5 พอเล่นได้ จะเป็นอย่างไรกันบ้างไปดูกันเลยครับ
จากการทดสอบดูได้ในกราฟ โดย HP EliteBook 755 G5 สามารเล่นทั้ง 2 เกมนี้ที่ตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยูที่ 1920 x 1080 พิกเซล ได้ลื่นไหลในระดับหนึ่ง ซึ่งตัวเกม DOTA 2 และ Overwatch ปรับ Medium เล่นได้ค่า FPS เฉลี่ยอยู่ประมาณ 30+ ก็ถือว่าลื่นไหลพอเล่นได้บ้างครับ
นอกจากนี้ในส่วนของซอฟต์แวร์ทาง HP ก็มีตัวโปรแกรม Support Assistant ที่ไว้สำหรับเช็คเครื่อง อัปเดตไดร์เวอร์ให้อัตโนมัติม สะดวกสบายไม่ต้องไปหาเองให้ยุ่งยาก แถมมีบริการ Supprot เวลาเครื่องมีปัญหาให้อีกตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ถ้ดมายังมีโปรแกรม HP Sure Click Desktop Console ที่ไว้สำหรับป้องกันไวรัส มัลแวร์ เอกสิทธิ์เฉพาะตัวโน๊ตบุ๊ค Business เท่านั้นมาให้ด้วยในเครื่อง
Battery / Heat / Noise
สำหรับ HP EliteBook 755 G5 ในส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีมากเลยทีเดียว จากการทดสอบเอามาเล่นเกมเป็นเวลานานๆ จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิ CPU สูงสดอยู่ที่ 79 องศาเท่านั้น ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียว ซึ่งทีมงานทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 25 องศาปกติ (อุณหภูมิการ์ดจอออนบอร์ดก็คือตัวเดียวกับอุณหภูมิ CPU)
HP EliteBook 755 G5 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 4 cell 4,500 mAh ขนาดใหญ่กว่าเดิม ซึ่งเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าทำออกมาได้ดีมาก โดยทีมงานใช้การทดสอบต่อ Wi-Fi ดู YouTube ปรับแสงต่ำสุด อยู่ได้ยาวนานประมาณ 7 ชั่วโมง 22 นาทีกันเลยทีเดียวครับ ถือว่าทำได้ดีมากพกพาไปข้างนอกไม่ต้องกลัวแบตหมด
Conclusion / Award
HP EliteBook 755 G5 ถือว่าเป็น Business Notebook ตัวจริงแถมมีราคาถูกกว่าใครเขา เริ่มต้นเพียง 29,900 บาทเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีแต่ 40,000 บาทขึ้นไป เหมาะสำหรับใช้งานภาคธุรกิจระดับองค์กรหรือระดับมืออาชีพต้องการความปลอดภัยระดับสูง ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งรองรับอนาคตได้อีกไกลแบบสบายๆ และระบบความปลอดภัยขั้นสุด ตั้งแต่ BIOS ยันความระบบสแกนหน้าสแกนนิ้ว สแกนใบหน้าโดยสเปคก็ถือว่าใช้ได้เลยแรงเหลือๆ กับการทำงานทั่วไปที่เป็น AMD Ryzen 7 Pro 2700U พร้อมการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น VEGA 10
นอกจากนี้ตัวเครื่องยังให้ Ram 8 GB แถมอัปเกรดเพิ่มได้อีกด้วย SSD m.2 ก็ให้มาขนาดพอใช้ 256 GB แบบ SATA 3 ซึ่งสามารถถอดอัปเกรดเพิ่มเติมได้ทีหลันง ในส่วนของการออกแบบของตัวเครื่องก็นับว่าเป็นโทนสีที่แสดงให้เห็นถึงความหรูหราดูพรีเมี่ยมจากการเลือกใช้อะลูมิเนียมอัลลอยสีเทาเง หน้าจอที่เลือกใช้งานแบบ IPS ก็ทำให้ภาพที่ได้ออกมาชัดเจนและเหมาะสมกับขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ด้วยความละเอียด 1920 x 1080 ก็ไม่ทำให้รู้สึกหรือสังเกตเห็นถึงเม็ดพิกเซลแต่อย่างใด โดยจอตัวนี้มีเทคโนโลยี Flicker Free ทำให้เวลาใช้งานสามารถใช้ได้ในระยะเวลานานๆ โดยที่ไม่ปวดตาอีกด้วย
ประกันก็ขั้นเทพ 2 ปี Onsite Service มีซอฟต์แวร์คอยสอบถามปัญหา 24 ชั่วโมง แถมตัวเครื่องน้ำหนักเบามากๆ เพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น อย่างไรก็ตาม HP EliteBook 755 G5 ก็ยังมีพอสังเกตอยู่บ้างคือเรื่องของ SSD m.2 ที่น่าจะให้เป็นแบบ NVMe เหมือนตัว Envy x360 ตัวก่อนหน้านี้ ซึ่งถ้าให้เป็นแบบ NVMe จะเป็นโน๊ตบุ๊ค Business ที่สมบูรณ์แบบมากๆ อีกตัวหนึ่งเลยครับ
ข้อดี
- งานประกอบยอดเยี่ยมหรูหรา วัสดุอะลูมิเนียมอัลลอย
- สเปครุ่นล่าสุด AMD Ryzen 7 Pro 2700U + Ram 8 GB + SSD m.2 256 GB
- จอ 15.6 นิ้ว แต่มีน้ำหนักเบาเพียง 1.86 กิโลกรัมพกพาสะดวกง่าย
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 7 ชั่วโมง 21 นาที
- ตัวเครื่องสามารถมีระบบสแกน + Finger Print ใช้ร่วมกับ Windows Hello รักษาความปลอดภัยได้ดี
- ลำโพง Bang & Olufsen ให้เสียงที่ดี มีน้ำหนัก ไม่แบนราบเหมือนโน๊ตบุ๊คทั่วไป
- มี Trackpoint ใช้งานได้ลื่นไหล
- ประกัน 2 ปี Onsite Service
- สามารถแกะอัปเกรด Ram และ SSD m.2 เพิ่มเติมได้ทีหลัง
- ซอฟต์แวร์ที่ตัวเครื่องให้มาทำงานได้ดีใช้ได้จริงทั้ง Support Assistant และ Sure Click
- มี Windows 10 Pro แท้ในตัวเครื่องเลย (เครื่องที่รีวิว)
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องให้ SSD m.2 มาเป็แบบ SATA 3 ไม่ใช่ NVMe
- ใส่ Sim ได้เฉพาะบางเครื่อง บางรหัส เท่านั้น
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับกลุ่มโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ด้วยกัน ซึ่ง HP EliteBook 755 G5 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
หน้าตาของ HP EliteBook 755 G5 ถือได้ว่าออกแบบมาได้สวยงาม พรีเมียมเกินราคาค่าตัวของมันไปมาก ตัวเครื่องอะลูมิเนียมอัลลอยสุดทนทานมาพร้อมดีไซน์แบบมินิมอลและพื้นผิวขัดลายเพิ่มความหรูหราอย่างมีระดับ เรียกได้ว่ากินขาดในกลุ่มโน๊ตบุ๊ค Business ในช่วงราคา 30,000 บาทแบบสบายๆ