อ้างอิงข้อมูลยอดจำหน่ายของโน๊ตบุ๊คล่าสุดจากทาง TrendForce นั้นพบว่ายอดการจำหน่ายของโน๊ตบุ๊คทั่วโลกประจำไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมานั้นมียอดการจำหน่ายอยู่ที่ 42.68 ล้านเครื่องซึ่งหากเทียบแล้วนั้นจะพบว่าสูงขึ้น 3.9 % เมื่อเทียบแบบไตรมาสต่อไตรมาสครับ อย่างไรก็ตามแต่ถึงแม้ว่ายอดการจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นนั้นทว่ามันก็ต่ำกว่าที่บริษัทสำรวจตลาดหลายๆ บริษัทที่คาดการไว้ราวๆ 5 – 6 % ด้วยกันครับ
อย่างไรก็ตามครับดูเหมือนว่าการคาดการล่าสุดของทาง TrendForce นั้นได้บอกเอาไว้ว่ายอดการจำหน่ายโน๊ตบุ๊คประจำไตรมาสที่ 4 นี้นั้นจะลดลงถึง 1.9% ด้วยสาเหตุที่น่าแปลกใจอย่างการหยุดการผลิตโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ของบริษัทผู้ผลิตต่างๆ อันเนื่องมากจากทาง Intel นั้นเจอปัญหาเรื่องกระบวนการผลิตหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ที่ยังคงไม่สามารถเปิดตัวหน่วยประมวลผลที่มาพร้อมกับกระบวนการผลิตที่ระดับ 10 nm ได้ตามที่ได้มีการกำหนดการเอาไว้ก่อนหน้านี้ครับ แถมทางคุณ Kou-Han Tseng จาก TrendForce ยังได้บอกอีกด้วยครับว่าการลดลงของยอดการจำหน่ายโน๊ตบุ๊คนี้นั้นจะยังคงเป็นไปเรื่อยๆ ไปอย่างน้อยก็อีก 2 ไตรมาสแรกของปี 2019 ครับ
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทางคุณ Tseng ได้ให้เอาไว้นั้นก็คือเรื่องของการที่สหรัฐอเมริกาและประเทศจีนเริ่มต้นทำสงครามการซื้อขายด้วยการขึ้นภาษีสินค้าซึ่งโน๊ตบุ๊คนั้นก็จะเป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่โดนผลกระทบนี้โดยตรง ซึ่งต้องไม่ลืมครับว่าประเทศจีนนั้นเป็นตลาดที่ใหญ่มากเมื่อเจอนโยบายภาษีใหม่ไปนั้นยอดการซื้อโน๊ตบุ๊คของชาวจีนนั้นก็น่าจะลดลงตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ทว่าบริษัทผู้ผลิตที่ไม่น่าจะโดนผลกระทบดังกล่าวนี้นั้นก็จะเป็นบริษัทผู้ผลิตที่เป็นของประเทศจีนโดยตรงอย่างเช่น Lenovo, Xiaomi และ Huawei ครับ
ที่มา : notebookcheck