ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่บริษัทที่สามารถทำยอดจำหน่ายโน๊ตบุ๊คได้ในอันดับที่ 1 – 2 ทว่าทาง ASUS เองนั้นก็ไม่เคยหยุดพัฒนาโน๊ตบุ๊คของตัวเองให้ทันยุดทันสมัยอยู่ตลอดเวลาครับ ล่าสุดนั้นเพื่อเอาใจผู้ชอบใช้ Ultrabook สุดบางเบาทาง ASUS จึงได้เริ่มส่งโน๊ตบุคซีรีส์ ZenBook UX333/433/533 ลงตลาดอย่างเป็นทางการโดยจุดที่น่าสนใจมากที่สุดนั้นคงจะหนีไม่พ้นการออกแบบหน้าจอของตัวเครื่องที่มาพร้อมกับขอบแบบบางทั้ง 4 ด้านครับ
สำหรับโน๊ตบุคซีรีส์ ZenBook UX333/433/533 ทั้ง 3 รุ่นนั้นได้มีการเปิดตัวออกมาตั้งแต่ในช่วงงาน IFA 2018 ที่ผ่านมาครับ ตัวสเปคนั้นหากจะพูดไปแล้วก็ไม่ค่อยจะน่าสนใจเท่าไรเนื่องจากว่าไม่ได้แตกต่างอะไรจากยี่ห้ออื่นมากนัก ซึ่งในจุดใหญ่ๆ นั้นทาง ASUS ก็ได้มีการอัพเกรดในส่วนของหน่วยประมวลผลมาเป็นรุ่นที่ 8 ของทาง Intel ส่วนชิปกราฟิกนั้นก็ได้มีการเลือกใช้ฝยส่วนของชทั้งชิปกราฟิกแบบฝังในหน่วยประมวลผลและมีตัวเลือกกราฟิกแยกอย่าง GeForce MX 150 กับ GTX 1050 Max-Q มาให้ผู้ใช้ได้เลือกตามต้องการครับ
หมายเหตุ – ตัวเลือกกราฟิกการ์ดแบบแยะจะมีเฉพาะในรุ่น ZenBook UX533 เท่านั้น
ตามที่ได้บอกไปในตอนต้นครับว่าจุดที่ได้รับการพัฒนาและน่าจะเป็นส่วนที่ทำให้ผู้ใช้สนใจมากที่สุดก็คือเรื่องของดีไซน์ของตัวหน้าจอที่ทาง ASUS นั้นได้ดีไซน์ให้โน๊ตบุคซีรีส์ ZenBook UX333/433/533 ทั้ง 3 รุ่นนั้นมาพร้อมกับขอบหน้าจอที่บางเอามากๆ ซึ่งทาง ASUS นั้นได้เรียกดีไซน์นี้ว่า “NanoEdge” ซึ่งตัวขอบหน้าจอนั้นจะบางมากทั้ง 4 ด้านของหน้าจอ ทำให้หน้าจอนั้นมีพื้นที่อยู่บนตัวเครื่องอยู่ที่ 95% เลยครับ
และสำหรับผู้ใช้งานนั้นก็ไม่ต้องกลัวไปนะครับว่าทาง ASUS จะตัดกล้อง Webcam ออกไป เพราะในส่วนของตัวกล้อง Webcam ของโน๊ตบุคซีรีส์ ZenBook UX333/433/533 ทั้ง 3 รุ่นนั้น ยังคงมีอยู่และอยู่ในตำแหน่งทางขอบด้านบนของหน้าจอ ที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือตัวกล้องนั้นรองรับเทคโนโลยี HD IR ทำให้สามารถที่จะใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Windows Hello ของทาง Microsoft ได้อีกด้วยต่างหากเรียกได้ว่าเจ๋งจริงครับเพราะโน๊ตบุ๊คของยี่ห้ออื่นๆ นั้นบางรายก็เลือกนำกล้อง Webcam มาติดตั้งอยู่ที่ขอบส่วนล่างของหน้าจอซึ่งอาจจะทำให้การใช้งานนั้นไม่สะดวกเหมือนเดิมสักเท่าไรครับ
ที่น่าเสียดายนิดหน่อยนั้นก็คือในส่วนของหน่วยความจำที่ถึงแม้โน๊ตบุคซีรีส์ ZenBook UX333/433/533 ทั้ง 3 รุ่นนั้นจะมาพร้อมกับตัวเลือกขนาดของหน่วยความจำสูงสุดอยู่ที่ 16 GB ทว่าในส่วนของรุ่น UX333 และ UX433 นั้นเจ้าหน่วยความจำดังกล่าวนั้นจะใช้เป็น LPDDR3 ที่มีความเร็วอยู่ที่ 2133 MHz เท่านั้นในขณะที่รุ่นใหญ่สุดอย่าง UX533 นั้นจะใช้หน่วยความจำเป็นแบบ LPDDR4 ที่มีความเร็วอยู่ที่ 2400 MHz ครับ สเปคในแต่ละรุ่นจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลยครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้รองรับกับขนาดขอบหน้าจอที่บางเอามากๆ ก็คือบานพับของหน้าจอครับ เพราะด้วยความที่ตัวเครื่องนั้นมีความบางเป็นอย่างมากทำให้ไม่สามารถใช้งานร่วมกับบานพับแบบทั่วไปได้ ดังนั้นแล้วทาง ASUS เองจึงได้ใช้บานพับหน้าจอแบบใหม่ที่มีชื่อว่า “ErgoLift” ซึ่งเวลาใช้งานนั้นมันจะทำการยกในส่วนของฐานของตัวโน๊ตบุ๊คขึ้นมาเล็กน้อยทำให้เวลาที่ใช้งานนั้นจะสะดวกมากขึ้น ส่วนอีกจุดหนึ่งนั้นก็จะเป็นในส่วนของแป้นพิมพ์ตัวเลข(Numpad) ที่จะมีให้มาเฉพาะในรุ่น UX533 เท่านั้นครับ
ทั้งนี้ราคาวางจำหน่ายของโน๊ตบุ๊คทั้ง 3 รุ่นนั้นจะแตกต่างกันไปโดยในรุ่น UX333 ที่มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วนั้นจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $850 หรือประมาณ 28,130 บาท รุ่น UX433 ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 14 นิ้วนั้นจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $1,000 หรือประมาณ 33,100 บาทและรุ่น UX533 ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้วนั้นจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $1,400 หรือประมาณ 46,330 บาทครับ
ที่มา : notebookcheck