เรียกได้ว่าหายไปนานเลยทีเดียวสำหรับ MacBook Air จนตอนแรกคิดว่าน่าจะไม่ทำต่อแล้ว แต่ในวันนี้ Apple ได้ออกมาเปิดตัว MacBook Air 2018 รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ สเปคใหม่ และอื่นๆ อีกมากมายที่เราจะพาไปทำความรู้จักกันวันนี้ บอกเลยว่าเบา แต่โดนใจอย่างแรงเลยนิ
สเปค และรายละเอียดของ Macbook Air
- หน้าจอ Retina LED IPS ขนาด
13.3 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 ที่ 227 ppi อัตราส่วนภาพ 16:10 -
ขนาดแ 1.56 x 30.41 x 21.24 ซม. น้ำหนัก: 1.25 กก.
- CPU Intel Core i5 Gen 8 Dual Core ความเร็ว 1.6GHz ที่มี Turbo Boost สูงสุด 3.6GHz พร้อมแคช L3 ขนาด 4MB
- อัพแรมได้สูงสุดถึง 16 GB
- SSD สูงสุด 1.5 TB
- การ์ดจอ Intel UHD Graphics 617 รองรับกราฟิกโปรเซสเซอร์ภายนอกที่ใช้ Thunderbolt 3
- มีฟีเจอร์ Touch ID แสกนนิ้วมือเพื่อปลดล็อกได้
- ใช้การออกแบบ Keyboard แบบใหม่ และ Track Pad แบบ Force Touch
- มีพอร์ต Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต
- แบตเตอรี่ลิเธียมพอลิเมอร์ภายในตัวเครื่อง
50.3 วัตต์ต่อชั่วโมง ท่องเว็บผ่านระบบไร้สายนานสูงสุด 12 ชั่วโมง - กล้อง FaceTime HD
ความละเอียด 720p - Wi-Fi 802.11 b/g/n/ac Bluetooth 4.2
- macOS
- อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาด
30 วัตต์, พอร์ตจ่ายไฟ USB-C - สีที่วางจำหน่าย ได้แก่ สี Space Gary ,Silver ,Gold
- ความจุ 128 GB ราคา 42,900
- ความจุ 256 GB ราคา 49,900
หากพูดถึงงานออกแบบดีไซน์ของ Macbook Air จะพบว่าคล้ายของเดิม คือ บางเฉียบ โดยบางลงกว่าเดิม 10% มีความบางแค่ 15.6 มิลลิเมตร หน้าจอ Retina Display ที่มีความดีงามเหมือนกับใน Macbook Pro
Keyboard Butterfly 3 ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม แทร็คแพด Force Touch ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 20% รองรับการทำงานที่เหมือนกับใน Macbook Pro ที่หลายคนคุ้นเคย วัสดุผลิตจากอะลูมิเนียม
ในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน Macbook Air มาพร้อมกับ CPU Core i5 Gen 8 รุ่นพิเศษเฉพาะ Apple ซึ่งคตาดว่าน่าจะเป็นตระกูล U ผมจึงคิดว่าน่าจะพอเปรียบเทียบได้กับ Core i5-8250U ที่มีความแรงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ดังนั้น Macbook Air ก็น่าจะมีความแรงที่ใช้งานทั่วไปได้ดีเลยทีเดียว
ในเรื่องของความปลอดภัย Macbook Air มาพร้อมกับ Touch ID และชิพ Apple T2 Security ช่วยป้องเครื่องในกันระดับ Hardware ในตอนเปิดเครื่องเลย
สำหรับพอร์ตการเชื่อมต่อของ Macbook Air จะมาพร้อมกับพอร์ต USB Type-C Thunderbolt 3 จำนวน 2 ช่อง และช่องหูฟัง 3.5 ซึ่งถือว่าให้มากำลังดี ก็ดีกว่า Macbook รุ่นก่อนหน้านี้ที่ให้มาเพียงช่องเดียวละกัน สำหรับความสามารถของพอร์ต Thunderbolt 3 หลายคนคงจะรับรู้แล้วว่าทรงพลังขนาดไหน ขนาดที่ต่อการ์ดจอแยกได้เลย ดังนั้นมันสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม เช่น Hub เทพๆ ได้พร้อมกันอย่างไม่มีปัญหาแน่นอน
Macbook Air ปี 2018 ที่ออกมาใหม่นี้ถูกออกแบบมาให้มีตัวเครื่องบางเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน เน้นพกพา และมีประสิทธิภาพที่เพียงพอที่จะใช้งานทั่วไป แต่หากจะนำไปใช้งานหนักๆ โหดๆ คงจะต้องขยับไปเล่นรุ่น Macbook Pro น่าจะเหมาะสมกว่า
เรียกได้ว่า Macbook Pro รุ่นเริ่มต้นในตอนนี้ได้ตกที่นั่งลำบากเลยก็ว่าได้ เนื่องจาก Macbook Air ปี 2018 ที่ออกมาใหม่นี้มีสเปค และฟีเจอร์การใช้งานที่คล้ายๆ กัน แต่ได้เครื่องบางกว่า เบากว่า CPU ใหม่กว่า และมี Touch ID พูดง่ายๆ คือได้เปรียบกว่า
งานนี้ถ้าใครจะซื้อ Macbook Pro รุ่นเริ่มต้นละก็ซื้อ Macbook Air ปี 2018 แล้วอาจจะดูคุ้มกว่าก็ได้ ส่วน Macbook Pro ถ้าจะให้รู้สึกว่าต่างจาก Macbook Air ปี 2018 คงจะต้องเป็นรุ่นที่มี Touch Bar ถึงจะรู้สึกว่าต่างจริงๆ เพื่อนๆ ละครับมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างลองคอมเม้นบอกกันได้นะครับ
ที่มา apple