Apple เปิดตัว iPad Pro 2018 ซึ่งถือเป็นรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ส่วนอย่างมาก ทั้งดีไซน์ที่มีการออกแบบใหม่ รวมไปถึงฟีเจอร์ที่ได้มีการเพิ่มเติมเข้ามา เราไปดูกันดีกว่าว่าจะเจ๋งขนาดไหนกัน
รายละเอียดสเปค iPad Pro (2018)
- หน้าจอ Liquid Retina LED IPS 12.9 นิ้ว ที่ความละเอียด 2048 x 2732 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 265 ppi
- หน้าจอ Liquid Retina LED IPS 11 นิ้ว ที่ความละเอียด 1668 x 2388 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 265 ppi
- หน้าจอรองรับ ProMotion
- ขนาดตัวเครื่อง 280.6 x 214.9 x 5.9 มม. หนัก 633 กรัม (12.9 นิ้ว)
- ขนาดตัวเครื่อง 247.6 x 178.5 x 5.9 มม. หนัก 468 กรัม (11 นิ้ว)
- ชิพประมวลผล Apple A12X Bionic CPU Octa-core และการ์ดจอ Apple GPU 7 core
- พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB / 256 GB / 512 GB และ 1 TB
- กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8 พร้อม Quad LED Flash Dual-Tone รองรับ Smart HDR แต่ไม่รองรับ Portrait Mode และ Depth Control
- กล้องหลัง สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60 fps ได้ และ Slo-mo 1080p ที่ 120 fps
- กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
- Wi-Fi 802.11ac, Bluetooth 5.0
- สำหรับรุ่น Cellular รองรับ Nano-SIM และ e-SIM
- ระบบสแกนใบหน้า Face ID สามารถปลดล็อกได้ไม่ว่าจะถือด้วยแนวตั้งหรือแนวนอน
- ลำโพง 4 ตัว และไมคโคโฟนรับเสียง 5 ตัว
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C สามารถชาร์จ iPhone ได้อีกด้วย
- สิ่งที่แถมมาให้ในกล่อง ได้แก่ สายชาร์จ USB-C และอะแดปเตอร์แบบ USB-C ขนาด 18W
- สีที่วางจำหน่าย สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์
iPad Pro 11 (2018)
- iPad Pro 11 (2018) Wi-Fi 64 GB ราคา 28,900 บาท
- iPad Pro 11 (2018) Wi-Fi 256 GB ราคา 33,900 บาท
- iPad Pro 11 (2018) Wi-Fi 512 GB ราคา 40,900 บาท
- iPad Pro 11 (2018) Wi-Fi 1 TB ราคา 54,900 บาท
- iPad Pro 11 (2018) Wi-Fi + Cellular 64 GB ราคา 33,900 บาท
- iPad Pro 11 (2018) Wi-Fi + Cellular 256 GB ราคา 38,900 บาท
- iPad Pro 11 (2018) Wi-Fi + Cellular 512 GB ราคา 45,900 บาท
- iPad Pro 11 (2018) Wi-Fi + Cellular 1 TB ราคา 59,900 บาท
iPad Pro 12.9 (2018)
- iPad Pro 12.9 (2018) Wi-Fi 64 GB ราคา 35,900 บาท
- iPad Pro 12.9 (2018) Wi-Fi 256 GB ราคา 40,900 บาท
- iPad Pro 12.9 (2018) Wi-Fi 512 GB ราคา 47,900 บาท
- iPad Pro 12.9 (2018) Wi-Fi 1 TB ราคา 61,900 บาท
- iPad Pro 12.9 (2018) Wi-Fi + Cellular 64 GB ราคา 40,900 บาท
- iPad Pro 12.9 (2018) Wi-Fi + Cellular 256 GB ราคา 45,900 บาท
- iPad Pro 12.9 (2018) Wi-Fi + Cellular 512 GB ราคา 52,900 บาท
- iPad Pro 12.9 (2018) Wi-Fi + Cellular 1 TB ราคา 66,900 บาท
สำหรับดีไซน์ของ iPad Pro (2018) จะเป็นการดีไซน์ใหม่หมดทั้งตัวเครื่องที่มีความเป็นเหลี่ยมมากขึ้นกว่าเดิม (เหมือน iPhone 4) และตัวเครื่องมีขนาดบางลงด้วย เพียง 5.9 มม.
ส่วนต่อมาเรียกได้ว่าเป็นส่วนที่เป็น Highlight เลยก็ว่าได้ หน้าจอแบบสุดขอบ Full View เหมือนใน iPhone XR พร้อม Face ID ที่ใช้ได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง และได้เปลี่ยนลักษณะการใช้งานเป็นแบบ iPhone X Series เรียบร้อย
สิ่งที่พิเศษหว่าหน้าจอ iPhone XR จะเป็นเรื่องของขอบเขตสีที่ได้มาตรฐาน P3 พร้อม True Tone ปรับตามสภาพแวดล้อม ส่วนความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 600 นิต และรองรับ 120 fps เนียนกริ๊บ
ส่วนถัดมาที่ต้องพูดถึงคือเรื่องของลำโพง 4 ตัว และช่องชาร์จแบบใหม่ USB Type-C ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยที่ Apple นำพอร์ต USB Type-C มาใช้กับอุปกรณ์ iOS เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น และในอีกความหมายนึงคือ ใช้สายชาร์จ iPhone ร่วมกันไม่ได้จ้า
ในเรื่องของความแรง iPad Pro (2018) มาพร้อมกับชิพประมวผล Apple A12X หรือรุ่นอัพเกรดของ Apple A12 ใน iPhone XS ซึ่ง Apple A12 ในตอนนี้ก็เป็นชิพประมวลผลที่แรงที่สุดในฝั่งของ Mobile แล้ว แต่ Apple A12X เป็นรุ่นที่แรงกว่าเดิมอีก ดังนั้นคาดหวังได้เลยว่ามันแรงทะลุโลกแน่นอน
สำหรับอุปกรณ์เสริมมีออกมาด้วยกันสองอย่างคือ Smart Keyboard และ Apple Pencil 2 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่มากมาย เช่น รองรับการชาร์จไร้สาย และสามารถเก็บได้ที่ตัวเครื่อง iPad เลย
ส่วนราคามีดังนี้
- Apple Pencil Gen 2 ราคา 4,490 บาท
- Smart Keyboard iPad Pro 11 (2018) ราคา 6,490 บาท
- Smart Keyboard iPad Pro 12.9 (2018) ราคา 7,290 บาท
เรียกได้ว่าถ้าซื้อครบชุดเอาแบบ Happy Meal (iPad Pro 11 (2018) 256gb + Apple pencil 2 + Smart Keyboard) ราคาน่าจะแตะ 45,000 บาท ได้เลย และยิ่งถ้าจัดเต็มรุ่นความจุ 1 TB ราคาน่าจะแตะ 80,000 บาท ซึ่งแพงมากสำหรับแท็บเล็ต
การเปิดตัว iPad Pro ครั้งนี้ Apple พยายามดัน iPad Pro รุ่นนี้ให้มีความใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คเลยก็ว่าได้ เพิ่มความเป็นมืออาชีพ และความหลากหลายในการใช้งาน คือถ้าลงไฟล์.exe ได้คงเลิกใช้โน๊ตบุ๊คเลย แต่ด้วยราคาที่ใกล้กับ Macbook Air ตัวใหม่ บางครั้งก็ทำให้เลือกยากอยู่เหมือนกัน (ไม่มีช่อง 3.5 นะ iPad Pro 2018)
ที่มา apple