อีกแค่ 2 เดือน ก็จะหมดไปอีกปีแล้วสำหรับปี 2018 เป็นอย่างไรกันบ้างเครื่องเพื่อนๆ ปีนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง ได้ซื้ออะไรกันบ้างไหม notebookspec เองก็ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านที่ติดตามชมกันมาตลอดปี เป็นปีที่ทีมงานเองก็ล้มลุกคลุกคลานไปไม่น้อยจากหลายๆเรื่อง เช่นเดียวกับแบรนด์โน๊ตบุ๊คเจ้าตลาดในบ้านเราทั้ง 5 แบรนด์ ที่มีทั้งรุ่ง ทั้งร่วม ทั้งเท และทั้งแบรนด์ที่ขายกันแบบไม่สนใจใคร แต่ละแบรนด์จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้นทีมงานสรุปภาพรวมมาให้แล้ว
ASUS – แบรนด์เด่นประจำปี
ปีนี้ทุกสำนักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ASUS เขามาแรงจริงๆ สินค้าใหม่ที่เข้ามามีทั้งรุ่นที่เน้นความคุ้มค่า สเปคแจ่มทั้งกลุ่มเกมมิ่ง และกลุ่มสินค้าทั่วไปที่เน้นบางเบาพกพาสะดวก ไปจนถึงเทคโนโลยีใหม่ๆที่ใส่เข้ามาทั้งขอบจอภาพที่บางมากๆ โน๊ตบุ๊ค 2 จอ ไปจนถึงสินค้ากลุ่มเกมมิ่งที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ การรับประกันที่เคยเป็นจุดบอดก็พัฒนาขึ้นมาก จนถึงขนาดที่ส่งเคลมตาม 7-11 ได้เลย การทำตลาดเองก็จัดจ้านมีรีวิวกันแทบทุกเว๊บทุกสื่อ และตามกรุ๊ปต่างๆก็พูดกันถึงอย่างต่อเนื่อง สินค้าเองก็ครบทุกตลาด ทุกระดับสินค้า จนขยับจากอันดับท้ายๆขึ้นมาเป็นแบรนด์อันดับ 2 ในบ้านเรา พร้อมตามจี้แบรนด์เบอร์ 1 แบบหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว
Acer – ขายดี แต่ยังไม่มากพอ
แบรนด์เบอร์ 1 ตลอดกาลในบ้านเรา ซึ่งในปี 2018 นี้ Acer ก็ยังเป็นแบรนด์ที่ขายดีอยู่เกือบทุกกลุ่มสินค้าตั้งแต่ตัวราคาย่อมเยาว์ ไปจนถึงเกมมิ่งสุดคุ้ม และแบรด์เกมมิ่งอย่างพรีเดเตอร์ โดยเฉพาะช่วงต้นปีเรียกได้ว่าขายดีมาก ไม่ว่าจะเป็น VX 5 จนถึง Nitro 5 และยังมีโน๊ตบุ๊ครุ่นพิเศษจากภาพยนตร์ the avengers ไปจนถึงการเป็นผู้นำเทคโนโลยีหลายๆด้านเช่นโน๊ตบุ๊คที่บางเบาที่สุด นอกจากความคุ้มค่าแล้วก็ยังมีการบริการ การรับประกันที่ดีที่สุดแบรนด์หนึ่งเลย ทั้งการซ่อม การบริการที่เชื่อถือได้ ขายดี แต่ก็ยังดีไม่พอ เพราะผู้ใช้หน้าใหม่มักไม่ค่อยเลือกแบรด์ Acer เท่าไรนัก และแบรนด์คู่แข่งก็ทำตลาดดีเหลือเกิน แม้จะยังเป็นเบอร์ 1 ในบ้านเราอยู่ แต่ก็โดนเบอร์ 2 จี้ขึ้นมาอย่าหนัก โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่ดูแผ่วๆไม่ค่อยมีสินค้าตัวใหม่ออกมาเท่าไร ขณะที่คู่แข่งมีรุ่นใหม่ออกมาและรุกอย่างหนักมาก
MSI – ฟื้นกลับมาจากความตาย
จากต้นปี MSI โดนแบรนด์อื่นตีขึ้นมาในตลาดเกมมิ่งขึ้นมาอย่างหนักหน่วง ปรกติขายน้อยอยู่แล้ว ยิ่งขายได้น้อยไปใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มตลาดเกมมิ่งที่เน้นความคุ้มค่านั้นโดน Acer ASUS ตีอย่างหนัก เซไม่เป็นท่า แต่ยังดีที่ตลาดบนนั้นยังขายได้เพราะไม่ค่อยมีแบรนด์อื่นเข้ามาแข่งเท่าไร และด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ เพราะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปเมื่อพูดถึงโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง ก็ยังมอง MSI เป็นอันดับแรก หลัง Computex เป็นต้นมา MSI ก็เหมือนจะหาทางเดินเจอเริ่มด้วยการขาย MSI GF62 เรียกแขกในคอมมาร์ทที่อัดฟังค์ชั่นมาเต็มที่สุดในราคาโคตรคุ้ม ขายจำกัดจำนวนทำให้หมดลงอย่างไว และเปิดตัว GF63 โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งจอไร้ขอบแบรนด์แรกๆ ที่ยกเครื่องการออกแบบใหม่ และหลังจากนั้นก็ตามมาอีกเพียบทั้งกลุ่มเกมมิ่ง และกลุ่มอื่นๆไม่ว่าจะเป็น P65 ,GS65 ,GS75 ที่ชูความบางเบาที่สุด แต่ยังมาพร้อมสเปคสำหรับการเล่นเกมหรือทำงาน และ PS42 ที่เน้นความบางเบาสุดๆที่มาพร้อมการ์ดจอแยก แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ในแบบ MSI ที่ไม่เหมือนใคร เหมือนกลับมาจากความตาย จากต้นปีที่ดูเหมือนจะแย่
Lenovo – เทตลาดเกมมิ่ง
เป็นแบรนด์ที่ยังรักษาสถานะภาพได้อย่างเสมอต้นเสมอปลายโดยเฉพาะตลาดโน๊ตบุ๊คบางเบาหลายรุ่นหลายสเปคทั้งคุ้ม ไปจนถึงแรงไม่ว่าจะเป็น 320S ,720S ,330s ,530s และโน๊ตบุ๊ค 2 in 1 ที่มีทั้ง YOGA และ MIIX ซึ่งเป็นแบรนด์ที่แข็งในตลาดนี้มาก อัพเดทรุ่นใหม่เรื่อย และจัดว่าขายดีและทำให้ Lenovo ยังรักษาสถานะภาพในตลาดเอาไว้ได้ แต่ค่อนข้างตรงกันข้ามกับตลาดเกมมิ่งที่ต้นปี Y520 สามารถขายได้ดีทีเดียว แต่หลังเปิดตัว Intel Gen 8 ก็ดูเหมือนจะช๊อตไปเลยเพราะรุ่นนใหม่อย่าง Y530 มาช้า และมาในราคาที่แพงมาก ถึงหลายๆท่านจะชอบดีไซน์ก็เถอะ แต่ราคาหนักแบบนี้ก็ไม่ไหว และคิดว่าที่ Lenovo ไม่เน้น Y530 มากนักคงเพราะ Y520 ติดอยู่หน้าร้านในปริมาณที่มากพอสมควร และสินค้ารุ่นใหม่ไม่ตอบโจทย์ตลาดในบ้านเรา เลยเลือกที่จะเทตลาดเกมมิ่งปีนี้ไปเลย และรอการมาของ GTX 20xx เพื่อที่จะกลับมาอีกครั้งปีหน้า
Dell – แบรนด์ที่ขายแบบไม่สนโลก แถมขึ้นราคาโน๊ตบุ๊คด้วย
แบรนด์ที่อินดี้ไม่สนโลกคงต้องยกให้เขาจริงๆ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ค่อยเน้นสเปคแรงราคาถูกอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าราคาจะแพงไปมากเท่าไร พอที่คนทั่วไปที่สนใจ Dell จะสู้ไหวอยู่ แต่สุดท้ายก็เพิ่มความอินดี้ส่งท้ายปีด้วยการขึ้นราคาโน๊ตบุ๊คหลายๆรุ่นอีก 1000 – 3000 บาท จัดเต็มกันไปเลย เพราะนอกจากปัญหาของสงครามการค้าแล้ว จากที่คุยกับคนในวงการก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าในเมื่อ Dell ไม่ได้ขายเยอะเท่าแบรนด์อื่น และคนซื้อ Dell คือคนที่ตั้งใจซื้อจริงๆ ไม่ได้สนแบรนด์อื่นหรือเป็นแฟน Dell โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะด้วยคุณภาพของสินค้าหรือการบริการก็ตาม เพราะฉะนั้น Dell เลยเลือกที่จะขึ้นราคาเพื่อเก็บกำไรมากกว่า ยังไงก็ขายแฟนกัน ราคาเท่าไรก็ขายได้ ราคาก็เลยขึ้นหน่อย ขายได้โดยไม่ต้องแข่งกับใครอยู่แล้วนิ
…
ปล.หลายท่านอาจจะเห็นว่าขาดไปแบรนด์นึง ขอไม่พูดถึงละกันนะ 555