เหลือเวลาอีกไม่นานเท่าไรนักทาง AMD ก็จะทำการเปิดตัวหน่วยประมวลผลซีรีส์ Ryzen 3000 อย่างเป็นทางการแล้วครับ โดยจากช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้นทาง CEO ของ AMD เองก็ได้ออกมาเผยข้อมูลเอาไว้ว่าด้วยการเปลี่ยนจากกระบวนการผลิตที่ระดับ 12 nm ไปเป็น 7 nm นั้นจะช่วยให้ประสิทธิภาพของตัวหน่วยประมวลผลเพิ่มขึ้น 15 – 20 % เช่นเดียวกันกับประสิทธิภาพในการใช้พลังงานที่จะดีกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด(อย่างน้อยก็ตามทฤษฎี) ครับ
จากในอดีตที่ผ่านมานั้นการกระโดดจากกระบวนการผลิตที่ระดับ 14 nm ใน Ryzen 1000 มาเป็น 12 nm ใน Ryzen 2000 นั้นจะเห็นได้ว่าประสิทธิภาพโดยรวมทั้งหมดนั้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3 % ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่มากเท่าไรนักเพราะกระบวนการผลิตที่ระดับ 14 nm มาเป็น 12 nm นั้นก็ไม่ได้เป็นการกระโดดที่เห็นได้อย่างชัดเจนครับ
ทว่าจากการเปลี่ยนกระบวนการผลิตที่ระดับ 12 nm มาเป็น 7 nm นั้น ทาง “Bits and Chips” ได้บอกเอาไว้ว่าประสิทธิภาพโดยรวมนั้นอาจจะเพิ่มมากขึ้นถึง 13 % ในส่วนของงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทางด้านวิทยาศาสตร์ เนื่องด้วยทาง AMD นั้นจะมีพื้นที่มากกว่าเดิมถึง 5 เท่าในการพัฒนาชิปของ Ryzen 3000 ครับ
ถามว่าเนื้อที่ในชิปที่เพิ่มขึ้นมา 5 เท่านั้นจะสามารถทำอะไรได้บ้าง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือทาง AMD อาจจะเพิ่มปริมาณของแกนการประมวลผลเพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่อยู่ที่ 8 แกนการประมวลผล อาจจะกลายเป็น 10 – 12 แกนการประมวลผล ซึ่งแน่นอนครับว่าประสิทธิภาพนั้นย่อมเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าในครั้งนี้นั้นทาง AMD จะเริ่มแซงทาง Intel ไปได้พอสมควรเพราะทาง Intel เองนั้นก็ยังคงเชื่อมมั่นกับกระบวนการผลิตที่ระดับ 10 nm ที่ยังคงเป็นปัญหาอยู่ อย่างไรแล้วก็คงต้องคอยดูกันต่อไปครับ
ที่มา : notebookcheck