หลังจากที่ตัว ASUS ROG Zephyrus ได้เปิดตัวไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ก็ได้คลอดโมเดลใหม่มาอีก 2 รุ่นได้แก่ โมเดล M และโมเดล S โดยรุ่นที่ทีมงาน NBS ได้มารีวิวคราวนี้จะเป็นตัวโมเดล M ตัวกลาง ซึ่งเป็นรุ่นที่วางจำหน่ายในตลาดมีน้อยมาก ใครที่ซื้อได้ทันเป็นเจ้าของถือว่าโชคดีสุดๆ เพราะในไทยไม่จำนวนไม่แค่กี่เครื่องเท่านั้น ไม่มีซ้ำใครแน่นอน
เบื้องต้นสเปคตัว ASUS ROG Zephyrus M รุ่นที่ทีมงาน NBS ได้มารีวิวจะใช้ CPU เป็น Intel Core i7-8750H + GTX 1060 หน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD IPS 144 Hz พร้อม G-Sync ในราคาเพียง 59,990 บาทเท่านั้น ส่วนประสิทธิภาพและผลการทดสอบจะเป็นยังไงบ้างไปดูด้านล่างกันได้เลยครับ
Specification
ASUS ROG Zephyrus M ในไทยจะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่น โดยรุ่นที่ทีมงาน NBS มาจะเป็นตัวรหัส GM501GM รุ่นเริ่มต้นที่ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-8750H (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/ 12 Thread ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) พร้อมฮาร์ดดิสก์ SSHD ความจุ 1 TB ที่ 5400 RPM และได้ติดตั้ง SSD m.2 NVMe ความจุ 256GB ไว้ด้วย ในส่วนของ Ram เองมีมาให้ 16 GB DDR4 Bus 2666
หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่ Refresh Rate 144 Hz Response Time 3ms จอเป็นแบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว
พอร์ตการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันทั้ง USB 3.1 Gen 2 Type A x 4, HDMI, Thunderbolt 3, Kensington lock slot และช่องเสียบหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 ac ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก ซึ่งสนนราคาอยู่ที่ 59,990 บาท การรับประกัน 2 ปี พร้อมประกันอุบัติเหตุอีก 1 ปีอีกด้วย (ต้องลงทะเบียน)
- ASUS ROG Zephyrus M GM501GM i7-8750H + GTX 1060 ราคา 59,900 บาท
- ASUS ROG Zephyrus M GM501GS i7-8750H + GTX 1070 ราคา 79,900 บาท
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ ASUS ROG Zephyrus M มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่นำตัว Zephyrus GX501 ตัวแรกมาต่อยอดพัฒนาออกไปให้สวยงามยิ่งขึ้น ในคอนเซ็ปต์ MIGHTY. MOBILE. MODERN. คือเน้นกระชัดโฉบเฉี่ยวลดขนาดให้เล็กลงพกพาถือไปไหนมาไหนได้ง่ายขึ้น แถมวัสดุตัวเครื่องเป็นอะลูเมียมโลหะทั้งชิ้นแข็งแรงทนทานแน่นอน
ฝาหลังตัวเครื่องดีไซน์เหมือนรุ่นเดิมคือทำเป็นลายบลัชปัดเสี้ยน แนวเฉียงกับแนวตั้ง ทำร่องอยู่ที่ขอบบนไว้สำหรับเวลาถือจับมือเดียวจะได้ไม่ลื่น พร้อมโลโก้ดวงตา ROG สีแดงมีไฟ ปรับสีไม่ได้ ขอบล่างตัดเป็นแนว V-Shape โชว์ไฟแสดงสถานะ 3 จุด พร้อมสกรีนตัวอักษร Republic of Gamers สีขาวสวยงาม
ด้านหลังตัวเครื่องมาพร้อมช่องระบายความร้อนสองช่อง ด้านข้างอีกหนึ่งช่อง พัดลมสองตัว ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ ACTIVE AERODYNAMIC SYSTEM (AAS) มีช่อง Anti-Dust Tunnel มาให้ด้วย ส่วนด้านใต้ตัวเครื่องเมื่อเปิดฝาหน้าก็จะเป็นการยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นเพื่อเป็นการช่วยให้การระบายอากาศเหมือนกับตัวรุ่นพี่อีกด้วย
ส่วนดีไซน์ด้านขอบหน้าจอยังคงเป็นแบบหนาอยู่ วัสดุตรงกรอบเป็นพลาสติกผิวด้าน คีย์บอร์ดให้มาแบบ Full Size มาตรฐานพร้อมไฟ RGB สวยงาม ปุ่มเปิดปิดเครื่องอยู่ที่มุมบนขวา พร้อมมีปุ่มฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเสียง ลดเสียง ปิดไมค์ และเข้าโปรแกรม ROG อยู่ที่มุมบนซ้ายด้วย
ด้านใต้ตัวเครื่องงานประกอบโอเค การแกะอัปเกรดทำได้ง่าย พร้อมกับทำลวดลาย ROG ใต้เครื่องดูพรีเมียมสุดๆ ลำโพงสองตัวก็อยู่ด้านใต้ตัวเครื่องสองตัวซ้ายขวา และขอบตัวเครื่องตัดขอบมนสีทองสวยงามหรูหราสมกับเป็นซีรีส์ Zephyrus เลยทีเดียวครับ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ ASUS ROG Zephyrus M คอนเซ็ปตฺ์ก็ยังคงในลักษณะของคีย์บอร์ดที่แฝงไว้ด้วยคาแร็คเตอร์เหมือนรุ่นก่อนขนาด Full Size มาตรฐานแบบ Chiclet Switches ด้านบนจะเจาะช่องเป็นรูเล็กๆ ไว้สำหรับระบายความร้อน ปุ่ม WASD ทำไฮไลท์เป็นสีขาวโดดเด่นสวยงาม และมาพร้อมกับไฟ RGB ที่สามารถปรับได้ 4 โซน ผ่านโปรแกรม Aura Sync รองรับ N-key Rollover และกดได้สูงสุดถึง 20 ล้านครั้ง กดกันจนมือกุดกันเลยทีเดียว ด้านบนซ้ายก็จะมีปุ่มพิเศษที่ไว้ใช้สำหรับเพิ่มเสียง ลดเสียง ปิดไมค์ และปุ่มเข้าโปรแกรม Aura Sync มาให้ด้วยเลย ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ที่มุมบนขวาครับ
ส่วนของ Touch Pad ที่มีขนาดพอเหมาะพอดีกับตัวเครื่อง ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบซ่อนปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวาเพื่อความสวยงาม และทำไฮไลท์เส้นเป็นสีเทาเรียบเข้ากับตัวเครื่องอย่างดี พื้นผิวมีลักษณะเรียบลื่น กดแล้วไม่ยวบยาบงานประกอบแน่น แต่อาจจจะเป็นคราบรอยนิ้วมือง่ายสักหน่อย การใช้งานถือว่าทำได้ลื่นไหลทั้งแบบมัลติทัชและการใช้งานปกติครับ
Screen / Speaker
หน้าจอ ASUS ROG Zephyrus M ถือได้ว่าเป็นจอเกมมิ่งตัวเทพอีกรุ่นหนึ่งเลยที่ใช้หน้าจอขนาด 15.6 นิ้วแบบด้าน มีความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ที่สำคัญเป็นพาเนล IPS คุณภาพสูงเรื่องของมุมมองที่สามารถมองได้จากหลายมุม การให้สีสันนั้นถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีมาก โดยมีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 144 Hz และ Respond Time อยู่ที่ 3 Ms แถมยังติดตั้งชิปประมวลผลภาพ NVIDIA G-SYNC มาให้อีกด้วย ทำให้ในการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงเล่นเกมนั้นมีความลื่นไหลกว่าหน้าจอโน๊ตบุ๊คทั่วไปสมบูณร์แบบสุดหาตัวจับยากมากในราคาเพียงเท่านี้ครับ
ส่วนระบบเสียงเลือกใช้ของ SONIC STUDIO III ซึ่งเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ 2.0 ติดตั้งมาที่ด้านใต้ตัวเครื่อง ให้คุณภาพเสียงที่ดีมาก การกระจายแยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจน พร้อมตั้งค่าเสียง Equalizer ได้หลายรูปแบบ แถมติดตั้ง SMART-AMPLIFIER TECHNOLOGY มาให้ในตัวด้วย ทำให้เพิ่มให้ดังกว่าลำโพงโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไปกว่า 250% เสียงดังสะใจไม่มีเสียงแตก
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS ROG Zephyrus M ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 92% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยทีเดียว เพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป สามารถเอาไปทำงานกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้สบายๆ ครับ
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านบนกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอตรงด้านขวากลางจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 11% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite ครับ
Connector / Thin And Weight
ASUS ROG Zephyrus M จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันในระดับหนึ่ง โดยติดตั้งทั้งด้านซ้ายด้านขวาของตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 จำนวน 4 ช่อง, Thunderbolt 3 (USB Type-C) หนึ่งช่อง, HDMI 2.0, Kensington และ ช่องรูฟังกับไมค์แบบคอมโบ พอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็ใช้ Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac Wave 2×2 มาตรฐานใหม่ใช้งานได้ไม่มีสะดุด แต่ข้อสังเกตนิดหน่อยคือตัวเครื่องจะไม่มีพอร์ต Lan มาให้เพราะมันทำให้ตัวเครื่องหนาขึ้น กับไม่มี SD Card Reader
มิติขนาดของตัวเครื่องขะอยู่ที่ 38.4 x 26.2 x 1.75 – 1.99 ซม. โดยมีน้ำหนัก 2.45 กิโลกรัมไม่หนักไม่เบาจนเกินไป โดยเมื่อรวมกับอะแดปเตอร์ชาร์จเข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.80 กิโลกรัม การจับถือถือว่าทำได้สะดวก โดยหากจะพกพาไปไหนมาไหนก็ถือว่าทำได้สบายๆ แต่แนะนำว่าให้สะพายเป้กระเป๋าแบบสองข้างจะดีที่สุดนะครับ
Performance / Software
ASUS ROG Zephyrus M มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8750H รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core/ 12 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงเท่าชิปประมวลผล Desktop ก็ว่าได้ มาพร้อม Ram 16 GB DDR4 Bus 2666 1 แถว (ตัวเครื่องใส่ Ram ได้ 2 แถว อัปเกรดได้สูงสุด 32 GB)
ในส่วนของกราฟิกการ์ดตัวนี้จะใช้การ์ดจอออนบอร์ดเป็นตัว Intel UHD 630 ปกติ และมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี สามารถตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผลคะแนนที่ได้ตามประสิทธิภาพเป็นที่น่าประทับใจพอสมควรเลยทีเดียวครับ
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 39.5 MB/s และสูงสุดที่ 135.6 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 102.5 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 19.3 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ได้ออกมาอยู่นเกณฑ์กลางๆ ครับ
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256 GB แบบ m.2 NVMe โดยมีความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3055.1 MB/s และเขียนที่ 1496.0 MB/s ถือว่าความเร็วอยู่ในระดับสูงเลยทีเดียวครับ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,812 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
ในส่วนนี้เราจะทดสอบ ASUS ROG Zephyrus M ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 5 เกมยอดนิยมในตอนนี้ไปดูเลยกราฟกันเลยดีกว่าครับประสิทธิภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 40 FPS ขึ้นไปทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเกมใหม่ๆ อย่าง Shadow of the Tomb Rider หรือ COD : Black Ops 4 ปรับสุดเล่นได้สบายๆ จากการที่สเปคภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ผสานกับ NVIDIA GeForce GTX 1060 6GB ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับ Ram 16 GB และรวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 5400 RPM ด้วย (ใช้ติดตั้งเกม)
Battery / Heat / Noise
ASUS ROG Zephyrus M นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4-cell Li-ion โดยจากการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าอาจจะใช้งานได้น้อยไปสักหน่อย โดยสามารถใช้งานผ่าน Wi-Fi เล่นอินเตอร์เน็ตดู YouTube ได้ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง 28 นาทีครับ
ทางด้านอุณหภูมิสำหรับเครื่องนี้ที่พัดลมระบายความร้อน 2 ตัว เรียกได้ว่าระบายความได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เมื่อใช้เล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ จะมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 96 องศาสำหรับ CPU และ 76 องศาสำหรับ GPU ถือว่าทำได้ดีในระดับพอใช้ครับ (ทดสอบในอุณหภูมิห้องแอร์ 25 องศา)
Conclusion / Award
สำหรับ ASUS ROG Zephyrus M ก็ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ High-End ระดับกลางในทำให้เกมเมอร์จับต้องได้ง่ายขึ้น ซึ่งถ้าใครหลายคนจำได้ตัว Zephyrus ตัวแรกจะมีราคาอยู่ที่แสนกว่าๆ แต่สำหรับ Zephyrus M จะมีราคาลดลงกว่ามาครึ่งเหลือเริ่มต้นเพียง 59,900 บาทเท่านั้น ซึ่งยังคงกลิ่นอายที่ไม่ต่างจากตัวละแสนกว่าบาท คอนเซ็ปต์เปิดเครื่องยกตัวบอดี้ให้สูงขึ้นก็ยังคงใส่ให้มาด้วยเช่นกัน
ฟีเจอร์ที่ได้ก็ถือว่าจัดเต็มครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ IPS 144 Hz พร้อมเทคโนโลยี G-Sync รวมถึงมีพอร์ต Thunderbolt 3 มาให้ด้วย ส่วนสเปคก็ได้ทั้ง Intel Core i7-8750H + การ์ดจอ GTX 1060 + Ram 16 GB + SSD m.2 NVMe 256 GB เรียกได้ว่าฟูลออฟชั่นกันเลยทีเดียวไม่ต้องอัปเกรดอะไรเพิ่มล่ะ นอกจากนี้คีย์บอร์ดยังมาพร้อมกับไฟ RGB แบ่งได้ 4 โซน ตกแต่งได้ตามใจต้องการ
อย่างไรก็ตามใช่ว่า ASUS ROG Zephyrus M จะไม่มีข้อสังเกตเสียทีเดียว ด้วยความที่การออกแบบเน้นเรื่องของขนาดตัวเครื่องที่มีความบางมากขึ้นกว่าเดิมทำให้ตัวเครื่องถูกต้องพอร์ต Lan ทิ้งไปทำให้ใครที่จำเป็นต้องใช้ต้องไปซื้ออะแดปเตอร์มาเพิ่ม กับแบตเตอรี่นั้นอาจจะใช้งานได้น้อยไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในช่วงราคาสเปคใกล้เคียงกันครับ
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์พันธุ์ ROG งานประกอบแน่นวัสดุดี
- สเปคแรง Intel i7-8750H + GTX 1060 + Ram 16 GB
- หน้าจอ IPS พร้อม Refresh Rate 144 Hz พร้อมมีเทคโนโลยี NVIDIA G-SYNC
- ตัวเครื่องมีการยกตัวให้สูงขึ้นเพื่อช่วยเรื่องระบายความร้อน
- คีย์บอร์ด RGB ปรับไฟได้ 4 โซน
- มีพอร์ตความเร็วสูง Thunderbolt 3
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
ข้อสังเกต
- แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานเพียง 2 ชั่วโมงนิดๆ
- ไม่มีพอร์ต Lan ในการเชื่อมต่อ ต้องหาซื้ออะแดปเตอร์เพิ่มเอา
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ROG Zephyrus M ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
การดีไซน์ตัวเครื่อง ASUS ROG Zephyrus M ถือว่าทำออกมาได้สวยงามลงสมกับเป็นโน๊ตบุ๊คตระกูล Zephyrus ด้วยสีสันที่เป็นโทนสีดำแดง ตัดกับขอบสีทอง ทำให้ดูโดดเด่นกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่อยู่ในราคาระดับเดียวกัน แถมงานประกอบวัสดุเป็นโลหะแข็งแรงทนทานแน่นอนเลยทีเดียว
Best Gaming
สำหรับ ASUS ROG Zephyrus M ก็ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตระกูล Hi-End ระดับที่ให้สเปคมาเกินค่าตัวพอสมควรในเรื่องของหน้าจอที่เป็น IPS 144 Hz พร้อม G-Sync ซึ่งปกติจะอยู่ในโน๊ตบุ๊คราคาระดับหมื่นปลายๆ หรือแสนอัพ กับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มี Thunderbolt 3 มาให้ด้วยครบครันเลยทีเดียว สเปคก็ถือว่าโอเคทั้ง i7-8750H + GTX 1060 + Ram 16 GB + SSD m.2 256 GB NVMe ซื้อทีเดียวใช้ยาวๆ ไม่ต้องอัปเกรดอะไรเพิ่มล่ะ
Specification
ASUS ROG Zephyrus M ในไทยจะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่น โดยรุ่นที่ทีมงาน NBS มาจะเป็นตัวรหัส GM501GM รุ่นเริ่มต้นที่ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-8750H (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/ 12 Thread ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) พร้อมฮาร์ดดิสก์ SSHD ความจุ 1 TB ที่ 5400 RPM และได้ติดตั้ง SSD m.2 NVMe ความจุ 256GB ไว้ด้วย ในส่วนของ Ram เองมีมาให้ 16 GB DDR4 Bus 2666
หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่ Refresh Rate 144 Hz Response Time 3ms จอเป็นแบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว
พอร์ตการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันทั้ง USB 3.1 Gen 2 Type A x 4, HDMI, Thunderbolt 3, Kensington lock slot และช่องเสียบหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 ac ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก ซึ่งสนนราคาอยู่ที่ 59,990 บาท การรับประกัน 2 ปี พร้อมประกันอุบัติเหตุอีก 1 ปีอีกด้วย (ต้องลงทะเบียน)
- ASUS ROG Zephyrus M GM501GM i7-8750H + GTX 1060 ราคา 59,900 บาท
- ASUS ROG Zephyrus M GM501GS i7-8750H + GTX 1070 ราคา 79,900 บาท
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ ASUS ROG Zephyrus M มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่นำตัว Zephyrus GX501 ตัวแรกมาต่อยอดพัฒนาออกไปให้สวยงามยิ่งขึ้น ในคอนเซ็ปต์ MIGHTY. MOBILE. MODERN. คือเน้นกระชัดโฉบเฉี่ยวลดขนาดให้เล็กลงพกพาถือไปไหนมาไหนได้ง่ายขึ้น แถมวัสดุตัวเครื่องเป็นอะลูเมียมโลหะทั้งชิ้นแข็งแรงทนทานแน่นอน
ฝาหลังตัวเครื่องดีไซน์เหมือนรุ่นเดิมคือทำเป็นลายบลัชปัดเสี้ยน แนวเฉียงกับแนวตั้ง ทำร่องอยู่ที่ขอบบนไว้สำหรับเวลาถือจับมือเดียวจะได้ไม่ลื่น พร้อมโลโก้ดวงตา ROG สีแดงมีไฟ ปรับสีไม่ได้ ขอบล่างตัดเป็นแนว V-Shape โชว์ไฟแสดงสถานะ 3 จุด พร้อมสกรีนตัวอักษร Republic of Gamers สีขาวสวยงาม
ด้านหลังตัวเครื่องมาพร้อมช่องระบายความร้อนสองช่อง ด้านข้างอีกหนึ่งช่อง พัดลมสองตัว ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ ACTIVE AERODYNAMIC SYSTEM (AAS) มีช่อง Anti-Dust Tunnel มาให้ด้วย ส่วนด้านใต้ตัวเครื่องเมื่อเปิดฝาหน้าก็จะเป็นการยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นเพื่อเป็นการช่วยให้การระบายอากาศเหมือนกับตัวรุ่นพี่อีกด้วย
ส่วนดีไซน์ด้านขอบหน้าจอยังคงเป็นแบบหนาอยู่ วัสดุตรงกรอบเป็นพลาสติกผิวด้าน คีย์บอร์ดให้มาแบบ Full Size มาตรฐานพร้อมไฟ RGB สวยงาม ปุ่มเปิดปิดเครื่องอยู่ที่มุมบนขวา พร้อมมีปุ่มฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเสียง ลดเสียง ปิดไมค์ และเข้าโปรแกรม ROG อยู่ที่มุมบนซ้ายด้วย
ด้านใต้ตัวเครื่องงานประกอบโอเค การแกะอัปเกรดทำได้ง่าย พร้อมกับทำลวดลาย ROG ใต้เครื่องดูพรีเมียมสุดๆ ลำโพงสองตัวก็อยู่ด้านใต้ตัวเครื่องสองตัวซ้ายขวา และขอบตัวเครื่องตัดขอบมนสีทองสวยงามหรูหราสมกับเป็นซีรีส์ Zephyrus เลยทีเดียวครับ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ ASUS ROG Zephyrus M คอนเซ็ปตฺ์ก็ยังคงในลักษณะของคีย์บอร์ดที่แฝงไว้ด้วยคาแร็คเตอร์เหมือนรุ่นก่อนขนาด Full Size มาตรฐานแบบ Chiclet Switches ด้านบนจะเจาะช่องเป็นรูเล็กๆ ไว้สำหรับระบายความร้อน ปุ่ม WASD ทำไฮไลท์เป็นสีขาวโดดเด่นสวยงาม และมาพร้อมกับไฟ RGB ที่สามารถปรับได้ 4 โซน ผ่านโปรแกรม Aura Sync รองรับ N-key Rollover และกดได้สูงสุดถึง 20 ล้านครั้ง กดกันจนมือกุดกันเลยทีเดียว ด้านบนซ้ายก็จะมีปุ่มพิเศษที่ไว้ใช้สำหรับเพิ่มเสียง ลดเสียง ปิดไมค์ และปุ่มเข้าโปรแกรม Aura Sync มาให้ด้วยเลย ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ที่มุมบนขวาครับ
ส่วนของ Touch Pad ที่มีขนาดพอเหมาะพอดีกับตัวเครื่อง ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบซ่อนปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวาเพื่อความสวยงาม และทำไฮไลท์เส้นเป็นสีเทาเรียบเข้ากับตัวเครื่องอย่างดี พื้นผิวมีลักษณะเรียบลื่น กดแล้วไม่ยวบยาบงานประกอบแน่น แต่อาจจจะเป็นคราบรอยนิ้วมือง่ายสักหน่อย การใช้งานถือว่าทำได้ลื่นไหลทั้งแบบมัลติทัชและการใช้งานปกติครับ
Screen / Speaker
หน้าจอ ASUS ROG Zephyrus M ถือได้ว่าเป็นจอเกมมิ่งตัวเทพอีกรุ่นหนึ่งเลยที่ใช้หน้าจอขนาด 15.6 นิ้วแบบด้าน มีความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ที่สำคัญเป็นพาเนล IPS คุณภาพสูงเรื่องของมุมมองที่สามารถมองได้จากหลายมุม การให้สีสันนั้นถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีมาก โดยมีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 144 Hz และ Respond Time อยู่ที่ 3 Ms แถมยังติดตั้งชิปประมวลผลภาพ NVIDIA G-SYNC มาให้อีกด้วย ทำให้ในการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงเล่นเกมนั้นมีความลื่นไหลกว่าหน้าจอโน๊ตบุ๊คทั่วไปสมบูณร์แบบสุดหาตัวจับยากมากในราคาเพียงเท่านี้ครับ
ส่วนระบบเสียงเลือกใช้ของ SONIC STUDIO III ซึ่งเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ 2.0 ติดตั้งมาที่ด้านใต้ตัวเครื่อง ให้คุณภาพเสียงที่ดีมาก การกระจายแยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจน พร้อมตั้งค่าเสียง Equalizer ได้หลายรูปแบบ แถมติดตั้ง SMART-AMPLIFIER TECHNOLOGY มาให้ในตัวด้วย ทำให้เพิ่มให้ดังกว่าลำโพงโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไปกว่า 250% เสียงดังสะใจไม่มีเสียงแตก
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS ROG Zephyrus M ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 92% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยทีเดียว เพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป สามารถเอาไปทำงานกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้สบายๆ ครับ
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านบนกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอตรงด้านขวากลางจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 11% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite ครับ
Connector / Thin And Weight
ASUS ROG Zephyrus M จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันในระดับหนึ่ง โดยติดตั้งทั้งด้านซ้ายด้านขวาของตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 จำนวน 4 ช่อง, Thunderbolt 3 (USB Type-C) หนึ่งช่อง, HDMI 2.0, Kensington และ ช่องรูฟังกับไมค์แบบคอมโบ พอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็ใช้ Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac Wave 2×2 มาตรฐานใหม่ใช้งานได้ไม่มีสะดุด แต่ข้อสังเกตนิดหน่อยคือตัวเครื่องจะไม่มีพอร์ต Lan มาให้เพราะมันทำให้ตัวเครื่องหนาขึ้น กับไม่มี SD Card Reader
มิติขนาดของตัวเครื่องขะอยู่ที่ 38.4 x 26.2 x 1.75 – 1.99 ซม. โดยมีน้ำหนัก 2.45 กิโลกรัมไม่หนักไม่เบาจนเกินไป โดยเมื่อรวมกับอะแดปเตอร์ชาร์จเข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.80 กิโลกรัม การจับถือถือว่าทำได้สะดวก โดยหากจะพกพาไปไหนมาไหนก็ถือว่าทำได้สบายๆ แต่แนะนำว่าให้สะพายเป้กระเป๋าแบบสองข้างจะดีที่สุดนะครับ
Performance / Software
ASUS ROG Zephyrus M มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8750H รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core/ 12 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงเท่าชิปประมวลผล Desktop ก็ว่าได้ มาพร้อม Ram 16 GB DDR4 Bus 2666 1 แถว (ตัวเครื่องใส่ Ram ได้ 2 แถว อัปเกรดได้สูงสุด 32 GB)
ในส่วนของกราฟิกการ์ดตัวนี้จะใช้การ์ดจอออนบอร์ดเป็นตัว Intel UHD 630 ปกติ และมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี สามารถตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผลคะแนนที่ได้ตามประสิทธิภาพเป็นที่น่าประทับใจพอสมควรเลยทีเดียวครับ
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 39.5 MB/s และสูงสุดที่ 135.6 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 102.5 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 19.3 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ได้ออกมาอยู่นเกณฑ์กลางๆ ครับ
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256 GB แบบ m.2 NVMe โดยมีความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3055.1 MB/s และเขียนที่ 1496.0 MB/s ถือว่าความเร็วอยู่ในระดับสูงเลยทีเดียวครับ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,812 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
ในส่วนนี้เราจะทดสอบ ASUS ROG Zephyrus M ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 5 เกมยอดนิยมในตอนนี้ไปดูเลยกราฟกันเลยดีกว่าครับประสิทธิภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 40 FPS ขึ้นไปทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเกมใหม่ๆ อย่าง Shadow of the Tomb Rider หรือ COD : Black Ops 4 ปรับสุดเล่นได้สบายๆ จากการที่สเปคภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ผสานกับ NVIDIA GeForce GTX 1060 6GB ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับ Ram 16 GB และรวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 5400 RPM ด้วย (ใช้ติดตั้งเกม)
Battery / Heat / Noise
ASUS ROG Zephyrus M นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4-cell Li-ion โดยจากการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าอาจจะใช้งานได้น้อยไปสักหน่อย โดยสามารถใช้งานผ่าน Wi-Fi เล่นอินเตอร์เน็ตดู YouTube ได้ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง 28 นาทีครับ
ทางด้านอุณหภูมิสำหรับเครื่องนี้ที่พัดลมระบายความร้อน 2 ตัว เรียกได้ว่าระบายความได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เมื่อใช้เล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ จะมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 96 องศาสำหรับ CPU และ 76 องศาสำหรับ GPU ถือว่าทำได้ดีในระดับพอใช้ครับ (ทดสอบในอุณหภูมิห้องแอร์ 25 องศา)
Conclusion / Award
สำหรับ ASUS ROG Zephyrus M ก็ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ High-End ระดับกลางในทำให้เกมเมอร์จับต้องได้ง่ายขึ้น ซึ่งถ้าใครหลายคนจำได้ตัว Zephyrus ตัวแรกจะมีราคาอยู่ที่แสนกว่าๆ แต่สำหรับ Zephyrus M จะมีราคาลดลงกว่ามาครึ่งเหลือเริ่มต้นเพียง 59,900 บาทเท่านั้น ซึ่งยังคงกลิ่นอายที่ไม่ต่างจากตัวละแสนกว่าบาท คอนเซ็ปต์เปิดเครื่องยกตัวบอดี้ให้สูงขึ้นก็ยังคงใส่ให้มาด้วยเช่นกัน
ฟีเจอร์ที่ได้ก็ถือว่าจัดเต็มครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ IPS 144 Hz พร้อมเทคโนโลยี G-Sync รวมถึงมีพอร์ต Thunderbolt 3 มาให้ด้วย ส่วนสเปคก็ได้ทั้ง Intel Core i7-8750H + การ์ดจอ GTX 1060 + Ram 16 GB + SSD m.2 NVMe 256 GB เรียกได้ว่าฟูลออฟชั่นกันเลยทีเดียวไม่ต้องอัปเกรดอะไรเพิ่มล่ะ นอกจากนี้คีย์บอร์ดยังมาพร้อมกับไฟ RGB แบ่งได้ 4 โซน ตกแต่งได้ตามใจต้องการ
อย่างไรก็ตามใช่ว่า ASUS ROG Zephyrus M จะไม่มีข้อสังเกตเสียทีเดียว ด้วยความที่การออกแบบเน้นเรื่องของขนาดตัวเครื่องที่มีความบางมากขึ้นกว่าเดิมทำให้ตัวเครื่องถูกต้องพอร์ต Lan ทิ้งไปทำให้ใครที่จำเป็นต้องใช้ต้องไปซื้ออะแดปเตอร์มาเพิ่ม กับแบตเตอรี่นั้นอาจจะใช้งานได้น้อยไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในช่วงราคาสเปคใกล้เคียงกันครับ
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์พันธุ์ ROG งานประกอบแน่นวัสดุดี
- สเปคแรง Intel i7-8750H + GTX 1060 + Ram 16 GB
- หน้าจอ IPS พร้อม Refresh Rate 144 Hz พร้อมมีเทคโนโลยี NVIDIA G-SYNC
- ตัวเครื่องมีการยกตัวให้สูงขึ้นเพื่อช่วยเรื่องระบายความร้อน
- คีย์บอร์ด RGB ปรับไฟได้ 4 โซน
- มีพอร์ตความเร็วสูง Thunderbolt 3
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
ข้อสังเกต
- แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานเพียง 2 ชั่วโมงนิดๆ
- ไม่มีพอร์ต Lan ในการเชื่อมต่อ ต้องหาซื้ออะแดปเตอร์เพิ่มเอา
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ROG Zephyrus M ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
การดีไซน์ตัวเครื่อง ASUS ROG Zephyrus M ถือว่าทำออกมาได้สวยงามลงสมกับเป็นโน๊ตบุ๊คตระกูล Zephyrus ด้วยสีสันที่เป็นโทนสีดำแดง ตัดกับขอบสีทอง ทำให้ดูโดดเด่นกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่อยู่ในราคาระดับเดียวกัน แถมงานประกอบวัสดุเป็นโลหะแข็งแรงทนทานแน่นอนเลยทีเดียว
Best Gaming
สำหรับ ASUS ROG Zephyrus M ก็ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตระกูล Hi-End ระดับที่ให้สเปคมาเกินค่าตัวพอสมควรในเรื่องของหน้าจอที่เป็น IPS 144 Hz พร้อม G-Sync ซึ่งปกติจะอยู่ในโน๊ตบุ๊คราคาระดับหมื่นปลายๆ หรือแสนอัพ กับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มี Thunderbolt 3 มาให้ด้วยครบครันเลยทีเดียว สเปคก็ถือว่าโอเคทั้ง i7-8750H + GTX 1060 + Ram 16 GB + SSD m.2 256 GB NVMe ซื้อทีเดียวใช้ยาวๆ ไม่ต้องอัปเกรดอะไรเพิ่มล่ะ