ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของโปรเจคเตอร์คือเรื่องของการพกพาไปใช้งานในที่ต่างๆ เพราะทั้งมีขนาดใหญ่อีกทั้งยังต้องต่อสายไฟตลอดเวลา บางท่านอาจจะบอกว่าก็ไม่เห็นจำเป็นต้องพกพา เพราะใช้งานในออฟฟิตเป็นหลัก แต่สำหรับบางครั้งเราเองก็อยากจะออกไปประชุมนอกสถานที่ อยากเอาออกไปดูหนังฟังเพลงนอกบ้านบ้าง ถ้าจะใช้จอมอนิเตอร์ก็เล็กเกินไปไม่สะดวก
โปรเจคเตอร์จึงเป็นคำตอบมากกว่าสำหรับการใช้งานบางประเภทโดยเฉพาะการชมภาพยนต์กับเพื่อนๆหรือญาติพี่น้อง เพราะเพียงมีกำแพงสีขาวและห้องมืดสักหน่อยหรือตอนค่ำๆ ก็สามารถใช้งานได้แล้ว อย่างโปรเจคเตอร์ที่ทีมงานอยากแนะนำในวันนี้มาในขนาดกะทัดรัดสามารถพกพาได้มีแบตเตอรี่ในตัว อีกทั้งยังมีฟังค์ชั่นการใช้งานครบครันอีกด้วยใน รีวิว Viewsonic M1 วันนี้
Viewsonic M1 เป็นโปรเจ็คเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการพกพาด้วยขนาดที่เล็กกว่าเครื่องทั่วไปครึ่งต่อครึ่ง แต่ก็ยังให้ฟังค์ชั่นการใช้งานที่ไม่แพ้โปรเจ็คเตอร์ตัวไปทำให้สามารถพกพาได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ในตัวทำให้สามารถใช้งานนอกบ้านได้ เหมาะแก่การจัดกิจกรรมภายนอก Outing ในที่ต่างๆ พร้อมการออกแบบที่ไม่เหมือนใครด้วยขาตั้งที่สามารถปรับได้ 360 องศา จัดวางได้ตามต้องการ
โดยนอกจากสามารถต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ต HDMI ตามมาตรฐานแล้ว ยังสามารถเลือกเชื่อมต่อผ่านพอร์ตอื่นไม่ว่าจะเป็น USB Type-C สำหรับสมาร์ทโฟนและโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ,Micro SD ,USB 2.0 และในตัว Viewsonic M1 ยังมีหน่วยความจำภายใน 16GB และอีกหนึ่งจุดเด่นคือมาพร้อมลำโพง Harman Kardon ทำให้ไม่จำเป็นต้องต่อลำโพงภายนอกเพิ่มเติมและบอกเลยว่าลำโพงเสียงดีและดังมากเลยทีเดียว
กล่องขนาดกะทัดรัดแต่มาพร้อมอุปกรณ์พื้นฐานครบครันไม่ว่าจะเป็น Adapter ,สาย USB Type C to C ,รีโมท และถุงผ้าสำหรับใส่เพื่อการพกพา
Viewsonic M1 มาในขนาดที่ใหญ่กว่าฝ่ามือนิดนึง ซึ่งอยู่ในขนาดที่สามารถพกพาใส่กระเป๋าเป้หรือกระเป๋าสะพายได้อย่างสะดวก การออกแบบมีความโค้งมนไม่มีมุมคม วัสดุผสมผสานระหว่างโลหะกับพลาสติกได้อย่างลงตัว โดยจะเห็นขาตั้งโลหะขนาดใหญ่สามารถหมุนได้ 360 องศา และยังทำหน้าที่เป็นสวิตซ์ปิดเปิดตัวโปรเช็คเตอร์ไปจนถึงปิดป้องกันหลอดไปพร้อมกัน ตรงโลโก้ ViewSonic เป็นยางกันลื่น จัดวางเป็นขาตั้งได้อย่างแข็งแรงมั่นคง
วัสดุส่วนอื่นจะเป็นโลหะที่ขึ้นรูปเป็นรังผึ่งเพื่อช่วยระบายความร้อน และช่วยให้จับได้กระชับมือ ด้านหน้านอกจากหลอดโปรเจ็คเตอร์จะมีเซนเซอร์ตรวจวัดระยะและ เซนเซอร์สำหรับทำหน้าที่ปิดเปิดหลอดโปรเจ็คเตอร์ IR Remote Sensor ด้านข้างหลอดจะเอาไว้ปรับโฟกัส เลยเยื้องๆมาหน่อยก็จะเป็นช่องปิดพอร์ตใช้งานต่างๆ
ด้านหลังของ Viewsonic M1 จะเป็นปุ่ม Menu Controls ไม่ว่าจะเป็นเข้าเมนู เปิดปิดโปรเจ็คเตอร์ เผื่อว่าไม่อยากให้เปิดปิดพร้อมขาตั้ง ปุ่มเพิ่มลดเสียง หรือเลื่อนเมนู และปุ่ม Back หรือย้อนกลับ ด้านล่างจะมีไฟ led สี่จุดเพื่อแสดงสถานะแบเตอรี่ ด้านข้างนั้นจะเป็นตำแหน่งของลำโพง Harman Kardon
ส่วนด้านขวาฝั่งแกนหมุนขาตั้ง จะแบ่งช่องเป็น 2 ส่วนคือด้านขวาเป็นช่องระบายความร้อน ส่วนด้านซ้ายจะเป็นลำโพง Harman Kardon อีกตัวหนึ่ง
ด้านบนจะมีช่องระบายความร้อน พร้อมโลโก้ Harman Kardon ด้านล่าง
ด้านล่างจะมีข้อมูลรหัสสินค้าของ Viewsonic M1 และรูน๊อตสำหรับติดตั้งกับขาตั้ง
พอร์ตการใช้งานของ Viewsonic M1 จะถูกปิดอยู่ใต้ฝาอีกทีหนึ่ง ครบครันสำหรับการใช้งานไม่ว่าจะเป็น
- Micro SD
- DC In
- USB Type C
- HDMI 1.4
- 3.5mm Audio Out
- USB Type A
ขนาดของ Viewsonic M1 อยู่ในระดับที่สามารถจับถือได้มือเดียวอย่างสะดวก และไม่หนักจนเกินไป
เมนูการใช้งานง่ายๆไม่ซับซ้อนเช่นการปรับความสว่าง คอนทรานซ์ รูปแบบเสียงหรือภาพ และที่สำคัญคือมีเมนูภาษาไทยให้ใช้งานได้ด้วย ไม่ต้องกลัวอ่านเมนูไม่ออกกัน
การทดสอบใช้งาน Viewsonic M1 เริ่มต้นใช้งานก็ต้องบอกว่าใช้งานง่ายมาก แค่หมุนขาตั้งโปรเจ็คเตอร์ก็เปิดขึ้นมาให้ใช้งานได้เลย ขาตั้งหมุนได้ 360 องศา ทำให้สามารถจัดวางได้ตามต้องการแม้ไม่มีขาตั้งแยก ไม่ว่าจะแสดงผลข้างฝาที่อยู่ตั้งฉากกับโปรเจ็คเตอร์ หรือจะให้แสดงผลบนเพดานไว้นอนดูก็สามารถทำได้ อีกทั้งตัวโปรเจ็คเตอร์ยังมีออโต้โฟกัสทำให้แทบไม่ต้องหมุนปรับโฟกัสเองให้ยุ่งยาก เซนเซอร์แสดงผลจัดว่าฉลาดระดับหนึ่งที่ถ้าฉายภาพในมุมทะเแยกซึ่งปรกติภาพที่ฉายออกมาจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูซึ่งในโปรเจ็คเตอร์ทั่วไปต้องปรับเอง แต่ Viewsonic M1 จะมีฟังค์ชั่นออโต้ที่จะฉายภาพเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ามาตรฐานโดยอัตโนมัติ
ภาพที่ฉายออกมาจัดว่าสว่างตามมาตรฐานโปรเจ็คเตอร์ทั่วไป ไม่ได้ถึงกับสว่างมาก ทำให้พื้นที่ใช้งานนั้นต้องมืดระดับหนึ่งจึงจะสามารถเห็นภาพได้ถนัด หรือถ้าจะให้ชัดสุดห้องต้องมืดเกือบสนิท หรือใช้งานยามค่ำคืนไปเลย และพื้นหลังที่ฉายต้องเป็นพื้นขวาหรือออกโทนสว่างไม่มีลวดลายจึงจะเห็นภาพได้ชัดเจนตามมาตรฐานโปรเจ็คเตอร์ทั่วไป ส่วนหนึ่งมาจากขนาดหลอดที่ไม่ได้ใหญ่มากเพื่อการพกพาและใช้พลังงานน้อยกว่า ทำให้ไม่ได้ฉายภาพที่สว่างมาก แต่ก็อยู่ในรับที่รับชมได้ชัดเจนอยู่ในระดับหนึ่ง
ลำโพง Harman Kardon ถือเป็นไฮไลด์อีกจุดของ Viewsonic M1 เพราะไม่ใช่แค่เอาลำโพง Harman Kardon มาติดชื่อเก่ๆเท่านั้น แกต่ลำโพง Harman Kardon สามารถทำงานได้ดีเหลือเชื่อ ทีมงานไม่ได้คาดหวังถึงคุณภาพเสียงหรือความดังเท่าไรเนื่องจากเป็นโปรเจ็คเตอร์สำหรับการพกพา แต่เมื่อได้ลองใช้งานลำโพง Harman Kardon ให้เสียงที่ดังมาก แค่ครึ่งนึงของระดับเสียงก็ให้เสียงที่ดังมากใช้ในห้องประชุมขนาดกลางๆได้สบายๆ ให้เสียงที่มีมิติระดับหนึ่ง มีความคมชัด มีโหมดเสียงให้เลือกเช่นฟังเพลงหรือชมภาพยนตร์ที่จะให้มิติเสียงต่างกันไป จึงไม่จำเป็นต้องต่อลำโพงแยกเลย พกพาไปปาร์ตี้ข้างบ้านได้สบายๆ
แบตเตอรี่ตามสเปคระบุไว้ว่าสามารถใช้งานได้ราวๆ 4-6 ชั่วโมง แต่จากการใช้งานของทีมงาน เปิดชมภาพยนตร์ที่ความสว่างภาพ 80% ลำโพงดังครึ่งนึง ต่อเนื่องโดยไม่ได้พัก สามารถใช้งานได้ราวๆ 2 ชั่วโมง หรือประมาณภาพยนต์ 1 เรื่องพอดี วึ่งก็เพียงพอสำหรับการจัดกิจกรรมหรือประชุม ซึ่งถ้าอยากใช้งานได้นานขึ้นอาจจะลดระดับเสียงและความสว่างลง
ลองเทสฉายขึ้นเพดาน เผื่อนอนดูก็โอเคอยู่นะ
สรุปส่งท้ายรีวิว Viewsonic M1 อาจจะไม่ใช่โปรเจ็คเตอร์ที่สว่างมากมายนักซึ่งถือเป็นข้อด้อยหลัก แต่ก็แลกมาด้วยขนาดที่กะทัดรัดสามารถพกพาได้อย่างสะดวกแตกต่างจากโปรเจ็คเตอร์ทั่วไปที่มีขนาดใหญ่เทอะทะและยังต้องต่อไฟตลอดเวลา แต่ Viewsonic M1 ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ในตัวทำให้ทลายข้อจำกัดของโปรเจ็คเตอร์ทั่วไป พกพาไปใช้งานที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องง้อปลั๊กไฟ
นอกจากนั้นยังออกแบบขาตั้งให้สามารถหมุดรอบตัวได้ 360 องศา จัดวางแสดงผลได้ตามต้องการ พอร์ตการเชื่อมต่อที่ทันสมัยและครบครัน สุดท้ายคือลำโพง Harman Kardon ที่ไม่ได้เป็นแค่เสือกระดาษ แต่ให้เสียงที่ดีและดังมาก ดังกว่าลำโพงต่อปลั๊กบางตัวอีก
Viewsonic M1 มาในราคา 11,900 บาท เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการโปรเจ็คเตอร์สักตัวสำหรับใช้งานที่มากกว่าแค่ในออฟฟิต ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ,co working space หรือแม้กระทั่งงานปาร์ตี้นอกบ้านก็ลงตัวทั้งการแสดงผล รองรับการเชื่อมต่อหลากหลายไม่จำกัดแค่ต่อคอมเท่านั้น ไปจนถึงลำโพง Harman Kardon ที่เสียงดีและดังมาก เพิ่มสีสันให้การประชุมหรืองานปาร์ตี้ไปอีกขั้น
จุดเด่น
- ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวกพร้อมแบตเตอรี่ในตัว
- ลำโพง Harman Kardon เสียงดังมากกกกก
- พอร์ตเชื่อมต่อที่หลากหลาย
- ปรับจัดวางได้ตามต้องการด้วยขาตั้งแบบ 360 องศา
- ปรับสเกลภาพได้อัตโนมัติ
ข้อสังเกตุ
- ไม่รองรับ Wi-Fi Direct
- ภาพที่ฉายไม่ได้สว่างมากมายนัก