มาถึงชั่วโมงนี้แล้ว nVIDIA วางขาย การ์ดจอ RTX 2080 และ RTX 2080 Ti น่าจะเป็นอีกกระแสหนึ่งที่ชาวเกมเมอร์อยากจะลิ้มลองและอยากเป็นเจ้าของกัน แม้ว่าราคาจะออกมาค่อนข้างแรง เริ่มตั้งแต่ 2 หมื่นปลายๆ สำหรับ 2080 และ 4 หมื่นกว่าบาท สำหรับ 2080 Ti แต่เมื่อมองถึงประสิทธิภาพและฟีเจอร์กับความสวยงามของภาพที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เชื่อว่าเกมเมอร์ตัวจริงไม่อยากพลาดอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับการ์ดจาก GIGABYTE ที่เรานำมาให้ชมในวันนี้
GIGABYTE RTX 2080 Gaming OC เป็น การ์ดจอ RTX 2080 ที่เรียกว่ารุ่นรองท็อปในตลาดเวลานี้ ที่ออกมาให้ได้ใช้งานกัน เป็นรุ่นที่ทาง GIGABYTE วางตำแหน่งในระดับไฮเอนด์ที่ราคาคุ้มค่า ไม่ได้เสริมฟีเจอร์มามากมาย แต่เน้นที่การเพิ่มความเร็วให้กับตัว GPU และ Memory ตามซีรีส์ OC นั่นเอง โดยความเร็วจะเพิ่มมาไม่น้อยทีเดียว เมื่อเทียบกับการ์ดรุ่น Reference ของทาง nVIDIA สูงสุด 1830 MHz ในโหมด OC โดยมีหน่วยความจำ GDDR6 6GB แบนด์วิทธ์ที่ 256-bit พอร์ตด้านหลังการ์ดมีให้เลือกทั้ง DP 3 port, HDMI 1 port และ USB Type-C
ลักษณะทางกายภาพของตัวการ์ดรุ่นนี้ ค่อนข้างดูกระทัดรัดขึ้น บนพื้นฐานของซิงก์และครีบระบายความร้อนขนาดใหญ่ มีพัดลมขนาด 82mm จำนวน 3 ชุดด้วยกัน ที่ทาง GIGABYTE ในรูปแบบของซีรีส์ WINDFORCE ซึ่งพัดลมด้านซ้ายและขวาจะหมุนทวนเข็มนาฬิกา ส่วนตัวกลาง จะหมุนตามเข็มนาฬิกา ส่วนหนึ่งเพื่อให้เกิดทิศทางลมไปปะทะกับซิงก์ได้มากขึ้น และลดการใช้รอบพัดลมที่สูงจนเกิดเสียงรบกวน ฮีตไปป์ด้านในใส่มาถึง 6 ชุดด้วยกัน รวมถึงเพลททองแดงที่เป็นหน้าสัมผัสกับ GPU โครงสร้างภายในมีถึง 5 ชั้นด้วยกัน ประกอบด้วยเพลทหลัง, แผงตัวการ์ด, ฮีตซิงก์สำหรับ VRAM และ MOSFET, ฮีตซิงก์ และชุดพัดลม ซึ่งรอบการทำงานจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิระหว่างที่ใช้ ขนาดของการ์ดจะใช้ประมาณ 2.5 สล็อต และความยาวการ์ดอยู่ที่ราวๆ 29cm เท่านั้น
Specification
- Graphics Processing: GeForce® RTX 2080
- Core Clock: 1830 MHz in OC mode
- 1815MHz in Gaming mode, (Reference Card: 1710 MHz)
- CUDA® Cores: 2944
- Memory Clock: 14000 MHz
- Memory Size: 8 GB
- Memory Type: GDDR6
- Memory Bus: 256 bit
- Memory Bandwidth (GB/sec): 448 GB/s
- Card Bus: PCI-E 3.0 x 16
- Digital max resolution: 7680×4320@60Hz
- Multi-view: 4
- Card size: 286.5*114.5*50.2mm
- PCB Form: ATX
- DirectX: 12
- OpenGL: 4.5
- Recommended PSU: 650W ( With One 8-Pin and One 6-Pin EXTERNAL POWER CONNECTOR)
- I/O: DisplayPort 1.4 x3, HDMI 2.0b x1,
- USB Type-C ™ (support VirtualLinkTM) x1
- SLI support: 2-way NVIDIA NVLINKTM
รูปลักษณ์และการออกแบบ
หน้ากล่องมาในสไตล์เท่ๆ แต่ไม่ได้ต่างจาซีรีส์ GTX1080 มากนัก พร้อมบอกรายละเอียดฟีเจอร์เบื้องต้นมาให้ เช่น รองรับ RGB, OC edition, พัดลม Windforce และ การรับประกัน 4 ปี
ด้านหลังกล่องมาพร้อมรายละเอียดครบครัน ไม่ว่าจะเป็น พัดลมขนาด 82mm จำนวน 3 ตัวในแบบ Windforce โครงสร้างภายในเป็นเพลททองแดงหน้าสัมผัส และรองรับไฟ RGB พร้อมฟีเจอร์สำหรับการโอเวอร์คล็อกด้วยซอฟต์แวร์
เปิดกล่องด้านนอกออก จะมีกล่องด้านในสีดำอีกชั้นหนึ่ง มีโลโก้ GIGABYTE สวยๆ อุปกรณ์ที่บันเดิลมา หลักๆ ก็จะเป็นบรรดาคู่มือ แผ่นไดรเวอร์และแนะนำการใช้ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าที่เราได้มานี้เป็นตัวทดสอบ แพ็คเกจที่ขายจริงน่าจะมีครบถ้วน
โฉมหน้าตัวการ์ด GIGABYTE RTX2080 GAMING OC มาในสไตล์ที่ดูเท่ ดุดัน พัดลมขนาดใหญ่ 3 ตัว และเส้นสายที่ดูลงตัวไม่แพ้ FE เลยด้วยซ้ำ
ยิ่งดู การ์ดจอ RTX มุมนี้ยิ่งหล่อ พัดลมขนาด 82mm จำนวน 3 ตัว พัดลมซ้ายและขวา จะหมุนทวนเข็มนาฬิกา ส่วนพัดลมตรงกลางจะหมุนตามเข็มนาฬิกา
เป็นการ์ดที่ใช้สล็อตขนาด 2.5 ช่อง จะเห็นว่าส่วนที่เป็นพลาสติกจะยื่นออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
พอร์ตต่อพ่วงมีมากมาย ประกอบด้วย 1x HDMI, 3x DP และ 1x USB Type-C
คอนเน็คเตอร์จ่ายไฟ สำหรับการ์ด RTX2080 จะใช้อยู่ที่ราวๆ 255W หัวต่อจึงมีให้เพียง 6+8 pins เท่านั้น
ใบพัดของ GIGABYTE RTX2080 GAMING OC รุ่นนี้ใบเป็นแบบทั้งครีบและมีใบส่วนเว้าผสมกัน เพื่อให้การดันลมได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งลดเสียงรบกวนลง
สังเกตดูจากใบพัดลมที่ดูโดดเด่นลงตัวมากทีเดียว น่าเสียดายถ้ามีไฟสวยๆ เพิ่มเติมเข้าไปหน่อยจะดูดีมากขึ้น
ความหนาของตัวการ์ดก็เรียกว่าไม่ได้มากนัก อีกทั้ลสังเกตครีบระบายความร้อนที่ใส่มาแน่นเลยทีเดียว โครงสร้างดูจะไม่ซับซ้อนมากเหมือนกับ การ์ดจอ RTX 2080 Ti
พอร์ต 2-way NVIDIA NVLINK สำหรับการใช้งาน SLI ซึ่งถ้ามีโอกาส จะได้ลองมาทดสอบให้ดูกัน
ด้านหลังการ์ด มาพร้อมเพลทสีดำขนาดใหญ่ ปิดตัวการ์ดเกือบมิด โดยใส่ลายเส้นมาให้ดูเท่ๆ แทนที่จะเป็นเพลทเรียบๆ
มุมด้านท้ายของการ์ด มีฮีตไปป์ยื่นออกมา 4 ท่อด้วยกัน พร้อมพลาสติกที่เป็นโครงสร้างพัดลมยื่นออกมาครอบ
โลโก้ด้านบนเป็นเพียงจุดเดียวที่มีไฟ RGB ปรากฏขึ้น โดยใช้ร่วมกับ AORUS Engine ได้อีกด้วย
การทดสอบ
ชุดที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้
- Intel Core i7-8700k
- AMD B350
- GALAX DDR4 16GB 3600
- Kingston UV400 480GB
- Thermaltake ToughPower 850W
3DMark Fire Strike
GATV: Normal settings
GATV: Very High settings
PUBG: Ultra settings
Far Cry 5: Ultra settings
Far Cry 5: Normal settings
Conclusion
จัดได้ว่าเป็น การ์ดจอ RTX 2080 อีกหนึ่งรุ่นที่น่าใช้งานในตลาดเวลานี้ ซึ่งทะยอยเปิดตัวกันออกมาเกือบทุกค่ายกันแล้ว ด้วยสนนราคาที่เรียกว่าคุ้ม หากมองจากราคาถูกสุดในท้องตลาด GIGABYTE RTX 2080 Gaming OC รุ่นนี้ มาในราคาประมาณ 30,500 บาทเท่านั้น แต่ใส่ฟีเจอร์มาแบบจัดเต็มเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัว GPU ที่เพิ่มความเร็วมาจากโรงงาน ให้จี๊ดจ๊าดมากขึ้น บวกกับการดีไซน์ของชุดฮีตซิงก์และพัดลม WINDFORCE ที่มีการปรับปรุงการระบายความร้อนได้ดีทีเดียว สิ่งหนึ่งที่พอสังเกตได้คือ เสียงรบกวนที่น้อยมาก และเมื่อดูจากอุณหภูมิบนโปรแกรมในการทดสอบ จะเห็นว่าค่อนข้างสบายๆ เลยทีเดียว รวมไปถึงยังมีลูกเล่นที่เป็นไฟ RGB มาให้ปรับเล่นบนซอฟต์แวร์อีกด้วย
ในแง่ของประสิทธิภาพการ์ดจอรุ่นนี้ สามารถดันเฟรมเรตในเกมต่างๆ ได้เกิน 100fps++ อีกด้วย แม้จะเปิดเล่นในโหมดปรับสุด ไม่ว่าจะเป็น Very High หรือ Ultra ก็ตาม ตามที่เราได้เห็นไปในเกม PUBG, GTAV และ Far Cry ที่รีดเฟรมเรตได้แบบ 120-150fps หรือในบางขณะ ไปถึง 170fps อีกด้วย
ตรงนี้ถือว่าทำได้เยี่ยมเลยทีเดียว ก็คงต้องบอกว่า GIGABYTE RTX 2080 Gaming OC เป็นการ์ดอีกรุ่นหนึ่งที่น่าจะตอบโจทย์คอเกมได้เป็นอย่างดี และรีดเฟรมเรตให้กับเกมต่างๆ ได้ แต่ถ้าคุณอยากจะเห็นความสามารถของ Ray Tracing ก็อาจจะต้องรอกันอีกสักนิดหนึ่ง ปลายปีน่าจะเห็นกันอย่างแน่นอน
จุดเด่น
- ความเร็วอยู่ในระดับที่ดี ให้อัตราเฟรมเรตได้สูง เมื่อติดตั้งไดรเวอร์ใหม่ 411.70
- เสียงพัดลมเงียบถึงเงียบมาก ระบายความร้อนได้ดี
- ตัวการ์ดและชุดพัดลมใช้พื้นที่เพียง 2.5 สล็อตเท่านั้น
ข้อสังเกต
- ตัวเกม ยังไม่สามารถเรียกใช้ความสามารถของการ์ดได้อย่างเต็มที่
ราคา: ประมาณ 30,500 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: GIGABYTE RTX 2080 Gaming OC