หากเพื่อนๆ จำกันได้ปกติแล้วอัลตร้าบุ๊คตระกูล ENVY นั้นถือเป็นอัลตร้าบุ๊คระดับ Hi-End ที่มีราคาสามหมื่นสี่หมื่นบาทขึ้นไป และนี่เป็นครั้งแรกที่ HP ได้ออกตัว ENVY x360 ที่เป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ในราคาเพียง 29,990 บาทเท่านั้น อีกทั้งยังแถมปากกา Stylus ใช้วาดรูปมาให้ในกล่องอีกด้วย ซึ่งบอกเลยครับว่าเป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่ขายดีที่สุดในงานคอมมาร์ทครั้งที่ผ่านมาก็ว่าได้
โดยรุ่นที่มีงานได้มารีวิวนั้นจะเป็นรุน HP ENVY x360 13 ที่ใช้สเปคเป็นค่ายแดง AMD Ryzen 5 2500U การ์ดจอออนบอร์ด VEGA 8 ประสิทธิภาพใช้ได้ ควบคู่กับ Ram 8 GB และ SSD m.2 256 GB PCIe NVMe ส่วนหน้าจอเป็นแบบจอกระจกสัมผัส 13.3 นิ้ว Full HD IPS 60 Hz พร้อมกับ Windows 10 แท้ในตัว ซึ่งมีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 29,900 บาท ประกัน 2 ปี On-Site รีวิวข้างในจะเป็นยังไงบ้างไปดูกันเลยครับ
Specification
HP ENVY x360 รุ่นที่ทีมงาน NBS ได้มารีวิวนั้นจะใช้ CPU เป็น AMD Ryzen 5 2500U (2.00 GHz up to 3.60 GHz) ตัวประหยัดพลังงานแบบ 4 Core/ 8 Thread การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ด AMD Radeon RX Vega 8 ส่วน Ram ก็ให้มา 8 GB DDR4 Bus 2400 หน่วยความจำหลักเลือกใช้ SSD m.2 256 GB PCIe NVMe
ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบมัลติทัชขนาด 13.3 นิ้ว รองรับสัมผัสมัลติทัชและปากกา Stylus รองรับแรงกดได้หลายระดับ พาเนลจอเป็น IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล(Full HD) แถมตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit สีขาวมาให้ด้วย ที่สำคัญตัวเครื่องยังบางเฉียบกว่าเดิม และมีน้ำหนักเบาเพียง 1.30 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมพับปรับได้ 360 องศา
พอร์ตการเชื่อมต่อมีมาตามนี้คือ 2 x USB 3.1, USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, Micro SD Card Reader และ Headset 3.5 mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi มาตรฐานใหม่ 802.11a/b/g/n/ac ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ในตัว ในราคาเพียง 29,990 บาทเท่านั้น ประกัน On-Site 2 ปีเต็ม พร้อมแถมปากกา Stylus มาให้เลยในกล่อง
Hardware / Design
HP ENVY x360 มาพร้อมกับดีไซน์พรีเมียม หรูหรา มองเผินๆ เหมือนเครื่องห้าหมื่นหกหมื่นบาท ซึ่ง HP ตั้งใจที่จะออกมาให้เป็รแบบนั้นจริงๆ สังเกตได้จากโลโก้ HP ที่เป็นตัวอักษรแบบใหม่เหมือนตัว Spectre รุ่นท็อป งานประกอบก็ถือว่าแข็งแรงสอบผ่านได้สบายๆ เรียกได้ว่าสาวๆ หลายคนเห็นแล้วคงชอบอยากได้เครื่องนี้ไว้ทำงานแน่นอน
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้บอดี้จะเป็น Aluminum ทั้งหมด สี Dark Ash Silver ดีไซน์แบบมินิมอลและพื้นผิวขัดลายเพิ่มความหรูหราอย่างมีระดับ พร้อมกับโลโก้ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ส่วนด้านในเครื่องบริเวณหน้าจอกระจกขอบบางเฉียบที่เป็น Corning Gorilla Glass ทั้งบาน ซึ่งเล่นสีกับขอบจอด้านในเป็นสีดำดูเข้ากันดี
ลำโพงจะอยู่ที่ด้านในเหนือคีย์บอร์ดและด้านใต้ตัวเครื่องแบบ Quad Speakers ซึ่งเป็นของ Bang & Olufsen ให้เสียงที่ดีมีมิติ ปุ่ม Power จะถูกออกแบบให้อยู่ที่ด้านซ้ายตัวเครื่อง พร้องช่องระบายความร้อนหนึ่งช่อง ส่วนด้านขวาจะมีปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงปกติ ทำให้สะดวกและคล่องตัวมากๆ รวมถึงตัวเครื่องสามารถพับได้ 360 องศาและมีความบางเพียง 14.9 มม และมีน้ำหนักเพียง 1.30 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งโดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของเรียกได้ว่า HP ได้ก้าวไปอีกขั้นกับโน๊ตบุ๊คราคานี้สเปคแบบนี้ครับ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดและทัชแพดของ HP ENVY x360 ก็เรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากรุ่นเดิม เพิ่มเติมคือเพิ่มฟังก์ชันบางอย่างเข้าไป ซึ่งปุ่มกดมีมีขนาดใหญ่และมีความเหมาะสมกับขนาดตัวเครื่อง ด้วยคีย์บอร์ดไซต์มาตรฐานแบบ island-style ซึ่งตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ที่สำคัญยังมีไฟคีย์บอร์ดส่องสว่าง ไว้ใช้งานในที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้เป็นอย่างดี หรือจะปิดไว้ก็สามารถทำได้ (เปิดปิดได้เท่านั้นปรับระดับไม่ได้)
ทัชแพดเป็นแบบซ่อนปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวามีขนาดที่พอดีเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง โดยวัสดุตรงนี้จะเป็นแผ่นอะลูมิเนียม ตัดขอบเงินเข้ากับตัวเครื่อง สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ สามารถตอบสนองการใข้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งในการใช้งานแบบปกติหรือใช้งานฟังก์ชันการทำงานแบบ Multi-Touch Gesture ใน Windows 10 อย่างเต็มที่
Screen / Speaker
จอภาพ HP ENVY x360 ถือเป็นอีกจุดขายก็ว่าได้ด้วยจอภาพขนาด 13.3 นิ้ว ที่มีขอบบางมาก ซึ่งเป็นแบบจอกระจก Corning Gorilla Glass อาจจะมีการสะท้อนภาพบ้างเวลาใช้งานกลางแจ้งหรือที่มีแสงจัดๆ โดยตัวจอรองรับการใช้งานทั้งนิ้วมือและปากกาแบบมัลติทัช ไม่แค่นั้นตัวเรื่องยังสามารถรองรับแรงกดได้หลายระดับ อีกทั้งยังสามารถพับปรับจอได้ 360 องศาอีกด้วย ตัวจอเป็นพาเนล IPS ทำให้สีสันคมชัดสมจริงไม่ว่ามองมุมไหน แถมมีความละเอียด 1920 x 1080 (Full HD) ซึ่งถือได้ว่าคมชัดเป็นอย่างมาก ที่สำคัญคือ HP ENVY x360 รองรับ HP Sure View ฟังก์ชันกันคนแอบมอง โดยกดปุ่ม F1 ซึ่งปกติจะมีเฉพาะรุ่นท็อปๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อซื้อเครื่องมาใหม่ๆ อย่าลืมติดฟิล์มกันรอยด้วยละกันนะครับ
ระบบเสียง HP ENVY x360 เลือกใช้ของ Bang & Olufsen ซึ่งวางส่วนของลำโพงไว้ด้านบนตัวเครื่อง 2 ตัว และด้านล่างอีก 2 ตัว แบบ Quad Speakers ทำให้เสียงที่ออกมากระจายกว้างไม่มีอะไรปิดกั้น ซึ่งให้เสียงที่ดีและดังพอสมควร จนไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องใช้งานในที่เสียงดัง สามารถตอบสนองเรื่องความบันเทิง การฟังเพลงสำหรับคนที่ชอบทำงานได้โอเคเลย ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้มีเสียงเบสมาก และเสียงจะค่อนไปทางเสียงกลาง เสียงแหลมมากกว่าก็ตาม แต่ก็จัดว่าดีกว่าอัลตร้าบุ๊คทั่วไปๆ แบบรู้สึกได้
มาต่อกันที่การคาลิเบทหน้าจอโดย HP ENVY x360 ให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB อยู่ที่ 85% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดงรูปด้านข้าง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับใช้งานได้เลย ซึ่งมีความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 200 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ตามมาตรฐานปกติของโน๊ตบุ๊คปกติจอ IPS ทั่วไป
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องล่างขวาเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องตรงกลางและช่องกลางซ้ายจะมีค่าแสงสว่างลดลงไป 16% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
Connector / Thin And Weight
HP ENVY x360 มาด้วยตัวเครื่องที่ค่อนข้างบาง แต่ก็มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครับระดับหนึ่งไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 จำนวน 2 พอร์ต, USB 3.1 type C จำนวน 1 พอร์ต, Micro SD Card-Reader และรูต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ซึ่งแนะนำว่าควรหาซื้อ HUB ไว้เพิ่มเผื่อต่อ USB อย่างอื่น, SD Card, Lan หรือ HDMI ไว้ต่อจอภาพจะดีมากครับ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายรองรับทั้ง Bluetooth 4.2 และ Wifi 802.11a/b/g/n/ac มาตราฐานใหม่
ขนาดของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 12.07 x 8.45 x 0.59 in เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 13.3 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ซึ่งมีน้ำหนักตัวเครื่องเปล่าเพียง 1.30 กิโลกรัมเท่านั้น แถมอแดปเตอร์ก็อันเล็กนิดเดียว และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วยก็จะมีไม่เกิน 1.50 กิโลกรัม จัดไดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เบามาก ตอบสนองทั้งการทำงานและการพกพาได้เป็นอย่างดีมากๆ รุ่นหนึ่งเลยทีเดียวครับ
Using Experience
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า HP ENVY x360 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู YouTube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
อย่างไรก็ตามสำหรับ HP ENVY x360 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง แข็งแรงสามารถหมุนเปิดปิดได้เป็นพันๆ หมื่นๆ ครั้ง อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน
ซึ่งบอกได้เลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาไม่แพง และมีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปคก็ถือว่าค่อนข้างโอเคมากๆ ได้ SSD m.2 PCIe แรงๆ การทำงานไม่ว่าจะเป็นในเรื่องงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ HP ENVY x360 ก็สามารถทำได้ดีและเป็นหนึ่งในโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่เป็นตัวเลือกน่าซื้ออันดับต้นๆ เลยทีเดียวครับ
Performance / Software
HP ENVY x360 ครื่องนี้มาพร้อมกับชิปประมวลที่เป็น AMD Ryzen 5 2500U รุ่นล่าสุดแบบประหยัดพลังงานโดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.00 – 3.60 GHz แบบ 4 Core/8 Thread ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมที่ไม่กินทรัพยากรเครื่องมากนัก และมาาพร้อม Ram ภายในขนาด 8 GB DDR4 Bus 2400
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon RX Vega 8 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ดีระดับหนึ่ง สามารถพอเอาไปเล่นเกมเบาๆ ได้บ้าง
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256 GB แบบ M.2 PCIe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2424 MB/s และเขียนที่ 1027 MB/s แรงใช้ได้เลย
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen 5 2500U รุ่นประหยัดพลังงานแบบ 4 Core/8 Thread พอใช้งานหนักๆ ก็พอได้อยู่
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,302 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานพีซีทั่วไปนั่นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอก็พอทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยครับ
ในส่วนถัดไปทีมงานจะมาทดสอบในการเล่นเกมกันบ้างกับเกมยอดนิยมทั้ง 2 เกมหลักๆ ที่ตัวเครื่อ HP ENVY x360 พอเล่นได้ จะเป็นอย่างไรกันบ้างไปดูกันเลยครับ
จากการทดสอบดูได้ในกราฟ โดย HP ENVY x360 สามารเล่นทั้ง 2 เกมนี้ที่ตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยูที่ 1920 x 1080 พิกเซล ได้ลื่นไหลในระดับหนึ่ง ซึ่งตัวเกม DOTA 2 และ Overwatch ปรับต่ำสุดเล่นได้ FPS เฉลี่ยอยู่ประมาณ 40+ ก็ถือว่าลื่นไหลพอเล่นได้บ้าง
Battery / Heat / Noise
สำหรับ HP ENVY x360 ในส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีมากเลยทีเดียว จากการทดสอบเอามาเล่นเกมเป็นเวลานานๆ จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิ CPU สูงสดอยู่ที่ 76 องศาเท่านั้น ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียว ซึ่งทีมงานทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 25 องศาปกติ (อุณหภูมิการ์ดจอออนบอร์ดก็คือตัวเดียวกับอุณหภูมิ CPU)
HP ENVY x360 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 4 cell ใหญ่กว่าเดิมซึ่งเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าทำออกมาได้ดีมาก โดยทีมงานใช้การทดสอบต่อ Wi-Fi ดู YouTube ปรับแสงต่ำสุด อยู่ได้ยาวนานประมาณ 6 ชั่วโมง 6 นาทีกันเลยทีเดียวทำได้ดีมากพกพาไปข้างนอกไม่ต้องกลัวแบตหมด
Conclusion / Award
HP ENVY x360 เป็นอีกโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่เหนือการคาดหมายเอาไว้มาก มองเห็นครั้งแรกคิดว่าจะราคาสักสี่หมื่นห้าหมื่นแต่ที่ไหนได้แค่ 29,990 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่า HP ทำราคาตัวนี้ออกมาได้ดีจริงๆ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่ขายดีที่สุดในงานคอมมาร์ทเดือน มิ.ย. 2018 ที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ จนในตอนนี้ของก็อาจจะหาซื้อยากหน่อย และมีขายเฉพาะบางร้านเท่านั้น
ด้วยสเปคที่โอเคไม่ต้องอัปเกรดอะไรเพิ่มแล้ว CPU AMD Ryzen 5 2500U + Ram 8 GB + SSD m.2 256 GB PCIe แรงๆ ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไปมากแล้ว อีกทั้งหน้าจอยังเป็นระบบสัมผัสที่รองรับการใช้งานมัลติทัชแถมลื่นเสมือนใช้สมาร์ทโฟนและยังรองรับการใช้ปากกา Stylus ที่ใช้สำหรับงานวาดรูป รองรับแรงกดได้หลายระดับเสมือนวาดบนกระดาษเลยจริงๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่ยี่ห้ออื่นไม่มีคือ HP Sure View ฟีเจอร์กันคนแอบมองจอ และลำโพงแบบ Quad Speakers ของ Bang & Olufen ที่หาได้ยากมากในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ ซึ่งถือได้ว่า HP ENVY x360 จัดมาเต็มจริงๆ ครับ
อย่างไรก็ตาม HP ENVY x360 ก็ยังมีพอสังเกตอยู่บ้างคือเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อที่อาจจะไม่เพียงพอเมื่อจำเป็นต้องใช้งานหนักๆ หรือจำเป็นต่อจอแยก ซึ่งก็สามารถแก้ไขปัญหาด้วยการซื้อ HUB มาเพิ่ม และการแกะอัปเกรดที่ทำได้ยาก และอัปได้เฉพาะ SSD m.2 เท่านั้นไม่สามารถแกะอัปเกรดเปลี่ยน Ram เป็น 16 GB ได้นั่นเองครับ แต่ตามจริงถ้าใช้งานทั่วๆ ไป Ram 8 GB ก็เพียงพอมากๆ แล้ว ซึ่งถ้าใครมองข้ามเรื่องพวกนี้ได้ใครงบถึงต้องจัดสักเครื่องละครับ
ข้อดี
- หน้าจอสัมผัสมัลติทัช รองรับแรงกดได้หลายระดับ พร้อม Stylus สามารถใช้วาดรูปได้ดี
- น้ำหนักเบาเพียง 1.30 กิโลกรัมพกพาง่าย
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง 6 นาที
- ตัวเครื่องสามารถใบหน้าใช้กับ Windows Hello รักษาความปลอดภัยได้ดี
- ลำโพง Quad Speakers ของ Bang & Olufsen ให้เสียงที่ดังมีมิติ
- มาพร้อมกับ SSD m.2 NVMe ความเร็วสูง
- มี Windows 10 แท้ในตัวเครื่องเลย
ข้อสังเกต
- การแกะอัปเกรดทำได้ยาก และอัปได้เฉพาะ SSD m.2
- จอกระจกทำให้เวลาใช้งานกลางแจ้งเจอแสงสะท้อน
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับกลุ่มโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ด้วยกัน ซึ่ง HP ENVY x360 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
หน้าตาของ HP ENVY x360 ถือได้ว่าออกแบบมาได้สวยงาม พรีเมียมเกินราคาค่าตัวของมันไปมาก ตัวเครื่องอะลูมิเนียมสุดทนทานมาพร้อมดีไซน์แบบมินิมอลและพื้นผิวขัดลายเพิ่มความหรูหราอย่างมีระดับ เรียกได้ว่ากินขาดในกลุ่มโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ทุกรุ่นที่ราคาระดับใกล้เคียงกัน
Best Technology
HP ENVY x360 มาพร้อมเทคโนโลยีหน้าจอสัมผัสที่ตอบสนองได้ดีลื่นไหลเทียบเท่ากับมือถือสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะมัลติทัชหรือใช้งานปกติ อีกทั้งยังมาพร้อมหน้าจอที่รองรับแรงกดได้หลายระดับ และสเปคฮาร์ดดิสก์แบบ SSD m. NVMe เรียกได้ว่าในราคาเท่านี้ถือว่าจัดเต็มหาคู่แข่งที่ราคาใกล้เคียงกันเทียบได้ยาก
Best Mobility
HP ENVY x360 ด้วยความบางเพียง 14.9 มม บางเป็นพิเศษที่ช่วยให้ถือจับพกพาไปใช้งานภายนอกได้อย่างสะดวก และมีน้ำหนักไม่ถึง 1.30 กิโลกรัม ไม่แปลกใจเลยที่จะได้รับรองรางวัล Mobility นี่ไปครอบครองอย่างง่ายดายครับ
Specification
HP ENVY x360 รุ่นที่ทีมงาน NBS ได้มารีวิวนั้นจะใช้ CPU เป็น AMD Ryzen 5 2500U (2.00 GHz up to 3.60 GHz) ตัวประหยัดพลังงานแบบ 4 Core/ 8 Thread การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ด AMD Radeon RX Vega 8 ส่วน Ram ก็ให้มา 8 GB DDR4 Bus 2400 หน่วยความจำหลักเลือกใช้ SSD m.2 256 GB PCIe NVMe
ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบมัลติทัชขนาด 13.3 นิ้ว รองรับสัมผัสมัลติทัชและปากกา Stylus รองรับแรงกดได้หลายระดับ พาเนลจอเป็น IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล(Full HD) แถมตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit สีขาวมาให้ด้วย ที่สำคัญตัวเครื่องยังบางเฉียบกว่าเดิม และมีน้ำหนักเบาเพียง 1.30 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมพับปรับได้ 360 องศา
พอร์ตการเชื่อมต่อมีมาตามนี้คือ 2 x USB 3.1, USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, Micro SD Card Reader และ Headset 3.5 mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi มาตรฐานใหม่ 802.11a/b/g/n/ac ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ในตัว ในราคาเพียง 29,990 บาทเท่านั้น ประกัน On-Site 2 ปีเต็ม พร้อมแถมปากกา Stylus มาให้เลยในกล่อง
Hardware / Design
HP ENVY x360 มาพร้อมกับดีไซน์พรีเมียม หรูหรา มองเผินๆ เหมือนเครื่องห้าหมื่นหกหมื่นบาท ซึ่ง HP ตั้งใจที่จะออกมาให้เป็รแบบนั้นจริงๆ สังเกตได้จากโลโก้ HP ที่เป็นตัวอักษรแบบใหม่เหมือนตัว Spectre รุ่นท็อป งานประกอบก็ถือว่าแข็งแรงสอบผ่านได้สบายๆ เรียกได้ว่าสาวๆ หลายคนเห็นแล้วคงชอบอยากได้เครื่องนี้ไว้ทำงานแน่นอน
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้บอดี้จะเป็น Aluminum ทั้งหมด สี Dark Ash Silver ดีไซน์แบบมินิมอลและพื้นผิวขัดลายเพิ่มความหรูหราอย่างมีระดับ พร้อมกับโลโก้ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ส่วนด้านในเครื่องบริเวณหน้าจอกระจกขอบบางเฉียบที่เป็น Corning Gorilla Glass ทั้งบาน ซึ่งเล่นสีกับขอบจอด้านในเป็นสีดำดูเข้ากันดี
ลำโพงจะอยู่ที่ด้านในเหนือคีย์บอร์ดและด้านใต้ตัวเครื่องแบบ Quad Speakers ซึ่งเป็นของ Bang & Olufsen ให้เสียงที่ดีมีมิติ ปุ่ม Power จะถูกออกแบบให้อยู่ที่ด้านซ้ายตัวเครื่อง พร้องช่องระบายความร้อนหนึ่งช่อง ส่วนด้านขวาจะมีปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงปกติ ทำให้สะดวกและคล่องตัวมากๆ รวมถึงตัวเครื่องสามารถพับได้ 360 องศาและมีความบางเพียง 14.9 มม และมีน้ำหนักเพียง 1.30 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งโดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของเรียกได้ว่า HP ได้ก้าวไปอีกขั้นกับโน๊ตบุ๊คราคานี้สเปคแบบนี้ครับ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดและทัชแพดของ HP ENVY x360 ก็เรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากรุ่นเดิม เพิ่มเติมคือเพิ่มฟังก์ชันบางอย่างเข้าไป ซึ่งปุ่มกดมีมีขนาดใหญ่และมีความเหมาะสมกับขนาดตัวเครื่อง ด้วยคีย์บอร์ดไซต์มาตรฐานแบบ island-style ซึ่งตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ที่สำคัญยังมีไฟคีย์บอร์ดส่องสว่าง ไว้ใช้งานในที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้เป็นอย่างดี หรือจะปิดไว้ก็สามารถทำได้ (เปิดปิดได้เท่านั้นปรับระดับไม่ได้)
ทัชแพดเป็นแบบซ่อนปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวามีขนาดที่พอดีเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง โดยวัสดุตรงนี้จะเป็นแผ่นอะลูมิเนียม ตัดขอบเงินเข้ากับตัวเครื่อง สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ สามารถตอบสนองการใข้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งในการใช้งานแบบปกติหรือใช้งานฟังก์ชันการทำงานแบบ Multi-Touch Gesture ใน Windows 10 อย่างเต็มที่
Screen / Speaker
จอภาพ HP ENVY x360 ถือเป็นอีกจุดขายก็ว่าได้ด้วยจอภาพขนาด 13.3 นิ้ว ที่มีขอบบางมาก ซึ่งเป็นแบบจอกระจก Corning Gorilla Glass อาจจะมีการสะท้อนภาพบ้างเวลาใช้งานกลางแจ้งหรือที่มีแสงจัดๆ โดยตัวจอรองรับการใช้งานทั้งนิ้วมือและปากกาแบบมัลติทัช ไม่แค่นั้นตัวเรื่องยังสามารถรองรับแรงกดได้หลายระดับ อีกทั้งยังสามารถพับปรับจอได้ 360 องศาอีกด้วย ตัวจอเป็นพาเนล IPS ทำให้สีสันคมชัดสมจริงไม่ว่ามองมุมไหน แถมมีความละเอียด 1920 x 1080 (Full HD) ซึ่งถือได้ว่าคมชัดเป็นอย่างมาก ที่สำคัญคือ HP ENVY x360 รองรับ HP Sure View ฟังก์ชันกันคนแอบมอง โดยกดปุ่ม F1 ซึ่งปกติจะมีเฉพาะรุ่นท็อปๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อซื้อเครื่องมาใหม่ๆ อย่าลืมติดฟิล์มกันรอยด้วยละกันนะครับ
ระบบเสียง HP ENVY x360 เลือกใช้ของ Bang & Olufsen ซึ่งวางส่วนของลำโพงไว้ด้านบนตัวเครื่อง 2 ตัว และด้านล่างอีก 2 ตัว แบบ Quad Speakers ทำให้เสียงที่ออกมากระจายกว้างไม่มีอะไรปิดกั้น ซึ่งให้เสียงที่ดีและดังพอสมควร จนไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องใช้งานในที่เสียงดัง สามารถตอบสนองเรื่องความบันเทิง การฟังเพลงสำหรับคนที่ชอบทำงานได้โอเคเลย ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้มีเสียงเบสมาก และเสียงจะค่อนไปทางเสียงกลาง เสียงแหลมมากกว่าก็ตาม แต่ก็จัดว่าดีกว่าอัลตร้าบุ๊คทั่วไปๆ แบบรู้สึกได้
มาต่อกันที่การคาลิเบทหน้าจอโดย HP ENVY x360 ให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB อยู่ที่ 85% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดงรูปด้านข้าง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับใช้งานได้เลย ซึ่งมีความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 200 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ตามมาตรฐานปกติของโน๊ตบุ๊คปกติจอ IPS ทั่วไป
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องล่างขวาเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องตรงกลางและช่องกลางซ้ายจะมีค่าแสงสว่างลดลงไป 16% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
Connector / Thin And Weight
HP ENVY x360 มาด้วยตัวเครื่องที่ค่อนข้างบาง แต่ก็มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครับระดับหนึ่งไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 จำนวน 2 พอร์ต, USB 3.1 type C จำนวน 1 พอร์ต, Micro SD Card-Reader และรูต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ซึ่งแนะนำว่าควรหาซื้อ HUB ไว้เพิ่มเผื่อต่อ USB อย่างอื่น, SD Card, Lan หรือ HDMI ไว้ต่อจอภาพจะดีมากครับ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายรองรับทั้ง Bluetooth 4.2 และ Wifi 802.11a/b/g/n/ac มาตราฐานใหม่
ขนาดของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 12.07 x 8.45 x 0.59 in เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 13.3 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ซึ่งมีน้ำหนักตัวเครื่องเปล่าเพียง 1.30 กิโลกรัมเท่านั้น แถมอแดปเตอร์ก็อันเล็กนิดเดียว และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วยก็จะมีไม่เกิน 1.50 กิโลกรัม จัดไดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เบามาก ตอบสนองทั้งการทำงานและการพกพาได้เป็นอย่างดีมากๆ รุ่นหนึ่งเลยทีเดียวครับ
Using Experience
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า HP ENVY x360 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู YouTube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
อย่างไรก็ตามสำหรับ HP ENVY x360 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง แข็งแรงสามารถหมุนเปิดปิดได้เป็นพันๆ หมื่นๆ ครั้ง อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน
ซึ่งบอกได้เลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาไม่แพง และมีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปคก็ถือว่าค่อนข้างโอเคมากๆ ได้ SSD m.2 PCIe แรงๆ การทำงานไม่ว่าจะเป็นในเรื่องงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ HP ENVY x360 ก็สามารถทำได้ดีและเป็นหนึ่งในโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่เป็นตัวเลือกน่าซื้ออันดับต้นๆ เลยทีเดียวครับ
Performance / Software
HP ENVY x360 ครื่องนี้มาพร้อมกับชิปประมวลที่เป็น AMD Ryzen 5 2500U รุ่นล่าสุดแบบประหยัดพลังงานโดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.00 – 3.60 GHz แบบ 4 Core/8 Thread ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมที่ไม่กินทรัพยากรเครื่องมากนัก และมาาพร้อม Ram ภายในขนาด 8 GB DDR4 Bus 2400
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon RX Vega 8 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ดีระดับหนึ่ง สามารถพอเอาไปเล่นเกมเบาๆ ได้บ้าง
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256 GB แบบ M.2 PCIe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2424 MB/s และเขียนที่ 1027 MB/s แรงใช้ได้เลย
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen 5 2500U รุ่นประหยัดพลังงานแบบ 4 Core/8 Thread พอใช้งานหนักๆ ก็พอได้อยู่
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,302 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานพีซีทั่วไปนั่นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอก็พอทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยครับ
ในส่วนถัดไปทีมงานจะมาทดสอบในการเล่นเกมกันบ้างกับเกมยอดนิยมทั้ง 2 เกมหลักๆ ที่ตัวเครื่อ HP ENVY x360 พอเล่นได้ จะเป็นอย่างไรกันบ้างไปดูกันเลยครับ
จากการทดสอบดูได้ในกราฟ โดย HP ENVY x360 สามารเล่นทั้ง 2 เกมนี้ที่ตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยูที่ 1920 x 1080 พิกเซล ได้ลื่นไหลในระดับหนึ่ง ซึ่งตัวเกม DOTA 2 และ Overwatch ปรับต่ำสุดเล่นได้ FPS เฉลี่ยอยู่ประมาณ 40+ ก็ถือว่าลื่นไหลพอเล่นได้บ้าง
Battery / Heat / Noise
สำหรับ HP ENVY x360 ในส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีมากเลยทีเดียว จากการทดสอบเอามาเล่นเกมเป็นเวลานานๆ จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิ CPU สูงสดอยู่ที่ 76 องศาเท่านั้น ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียว ซึ่งทีมงานทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 25 องศาปกติ (อุณหภูมิการ์ดจอออนบอร์ดก็คือตัวเดียวกับอุณหภูมิ CPU)
HP ENVY x360 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 4 cell ใหญ่กว่าเดิมซึ่งเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าทำออกมาได้ดีมาก โดยทีมงานใช้การทดสอบต่อ Wi-Fi ดู YouTube ปรับแสงต่ำสุด อยู่ได้ยาวนานประมาณ 6 ชั่วโมง 6 นาทีกันเลยทีเดียวทำได้ดีมากพกพาไปข้างนอกไม่ต้องกลัวแบตหมด
Conclusion / Award
HP ENVY x360 เป็นอีกโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่เหนือการคาดหมายเอาไว้มาก มองเห็นครั้งแรกคิดว่าจะราคาสักสี่หมื่นห้าหมื่นแต่ที่ไหนได้แค่ 29,990 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่า HP ทำราคาตัวนี้ออกมาได้ดีจริงๆ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่ขายดีที่สุดในงานคอมมาร์ทเดือน มิ.ย. 2018 ที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ จนในตอนนี้ของก็อาจจะหาซื้อยากหน่อย และมีขายเฉพาะบางร้านเท่านั้น
ด้วยสเปคที่โอเคไม่ต้องอัปเกรดอะไรเพิ่มแล้ว CPU AMD Ryzen 5 2500U + Ram 8 GB + SSD m.2 256 GB PCIe แรงๆ ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไปมากแล้ว อีกทั้งหน้าจอยังเป็นระบบสัมผัสที่รองรับการใช้งานมัลติทัชแถมลื่นเสมือนใช้สมาร์ทโฟนและยังรองรับการใช้ปากกา Stylus ที่ใช้สำหรับงานวาดรูป รองรับแรงกดได้หลายระดับเสมือนวาดบนกระดาษเลยจริงๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่ยี่ห้ออื่นไม่มีคือ HP Sure View ฟีเจอร์กันคนแอบมองจอ และลำโพงแบบ Quad Speakers ของ Bang & Olufen ที่หาได้ยากมากในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ ซึ่งถือได้ว่า HP ENVY x360 จัดมาเต็มจริงๆ ครับ
อย่างไรก็ตาม HP ENVY x360 ก็ยังมีพอสังเกตอยู่บ้างคือเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อที่อาจจะไม่เพียงพอเมื่อจำเป็นต้องใช้งานหนักๆ หรือจำเป็นต่อจอแยก ซึ่งก็สามารถแก้ไขปัญหาด้วยการซื้อ HUB มาเพิ่ม และการแกะอัปเกรดที่ทำได้ยาก และอัปได้เฉพาะ SSD m.2 เท่านั้นไม่สามารถแกะอัปเกรดเปลี่ยน Ram เป็น 16 GB ได้นั่นเองครับ แต่ตามจริงถ้าใช้งานทั่วๆ ไป Ram 8 GB ก็เพียงพอมากๆ แล้ว ซึ่งถ้าใครมองข้ามเรื่องพวกนี้ได้ใครงบถึงต้องจัดสักเครื่องละครับ
ข้อดี
- หน้าจอสัมผัสมัลติทัช รองรับแรงกดได้หลายระดับ พร้อม Stylus สามารถใช้วาดรูปได้ดี
- น้ำหนักเบาเพียง 1.30 กิโลกรัมพกพาง่าย
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง 6 นาที
- ตัวเครื่องสามารถใบหน้าใช้กับ Windows Hello รักษาความปลอดภัยได้ดี
- ลำโพง Quad Speakers ของ Bang & Olufsen ให้เสียงที่ดังมีมิติ
- มาพร้อมกับ SSD m.2 NVMe ความเร็วสูง
- มี Windows 10 แท้ในตัวเครื่องเลย
ข้อสังเกต
- การแกะอัปเกรดทำได้ยาก และอัปได้เฉพาะ SSD m.2
- จอกระจกทำให้เวลาใช้งานกลางแจ้งเจอแสงสะท้อน
Awards
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับกลุ่มโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ด้วยกัน ซึ่ง HP ENVY x360 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
หน้าตาของ HP ENVY x360 ถือได้ว่าออกแบบมาได้สวยงาม พรีเมียมเกินราคาค่าตัวของมันไปมาก ตัวเครื่องอะลูมิเนียมสุดทนทานมาพร้อมดีไซน์แบบมินิมอลและพื้นผิวขัดลายเพิ่มความหรูหราอย่างมีระดับ เรียกได้ว่ากินขาดในกลุ่มโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ทุกรุ่นที่ราคาระดับใกล้เคียงกัน
Best Technology
HP ENVY x360 มาพร้อมเทคโนโลยีหน้าจอสัมผัสที่ตอบสนองได้ดีลื่นไหลเทียบเท่ากับมือถือสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะมัลติทัชหรือใช้งานปกติ อีกทั้งยังมาพร้อมหน้าจอที่รองรับแรงกดได้หลายระดับ และสเปคฮาร์ดดิสก์แบบ SSD m. NVMe เรียกได้ว่าในราคาเท่านี้ถือว่าจัดเต็มหาคู่แข่งที่ราคาใกล้เคียงกันเทียบได้ยาก
Best Mobility
HP ENVY x360 ด้วยความบางเพียง 14.9 มม บางเป็นพิเศษที่ช่วยให้ถือจับพกพาไปใช้งานภายนอกได้อย่างสะดวก และมีน้ำหนักไม่ถึง 1.30 กิโลกรัม ไม่แปลกใจเลยที่จะได้รับรองรางวัล Mobility นี่ไปครอบครองอย่างง่ายดายครับ