เบื่อไหมกับการที่ต้องพกพาโน๊ตบุ๊คเครื่องหนาๆ หนักๆ ไปทำงาน หรือไปไหนมาไหน สิ่งนี้จะช่วยชีวิตคุณให้ไม่ต้องแบกโน๊ตบุ๊คหนักๆ อีกต่อไปกับแท็บเล็ต Windows จากทาง Microsoft รุ่นล่าสุด Microsoft Surface GO ที่มีน้ำหนักเบาเพียง 522 กรัม เสมือนถือ iPad แต่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows แถมมีราคาเริ่มต้นเพียง 14,990 บาทเท่านั้น
เรียกได้ว่านี้เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ทาง Microsoft ออกตัวผลิตภัณฑ์เครื่อง Surface ที่มาราคาเริ่มต้นถูกขนาดนี้ ซึ่งดูจากสเปค ฟีเจอร์ต่างๆ ก็ถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว ทั้งหน้าจอสัมผัสมัลติทัช 10 จุด และรองรับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับเลยทีเดียว ถูกอกถูกใจเหล่านักวาดรูปที่ต้องการใช้แท็บเล็ตสักเครื่องไว้วาดภาพต่างๆ ส่วนรีวิวข้างในจะเป็นยังไงบ้างไปดูกันเลยครับ
Specification
ในเรื่องของสเปค Microsoft Surface GO จะมีด้วยกัน 2 สเปค โดยรุ่นที่ทีมงาน NBS ได้มาจะเป็นรุ่นท็อปที่ใช้สเปคเป็น Intel Pentium Gold Processor 4415Y (1.60 GHz) แบบ 2 Core/ 4 Thread พร้อมการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Intel HD Graphics 615 ประสิทธิภาพโอเค ใส่ Ram ก็ให้มา 8 GB DDR3 Bus 1866 เป็นแบบฝังติดบอร์ด ส่วนความจุตัวเครื่องเลือกใช้ SSD ขนาด 128 GB
หน้าจออแสดงผล PixelSense 10 นิ้ว ความละเอียด: ความละเอียด 1800 x 1200 (217 PPI) อัตรา 3:2 รองรับการสัมผัสมัลติทัชสูงสุด 10 จุด ซึ่งเป็นจอ Corning Gorilla Glass 3 รองรับกับปากกาสไตรัส Surface Pen ที่รับรู้แรงกดได้ถึง 4096 ระดับ และที่สำคัญระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ในตัวเครื่องเลย ตัวเครื่องมีกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล โฟกัสอัตโนมัติ พร้อมถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p ได้
พอร์ตเชื่อมต่อจะมีเพียงพอร์ตที่จำเป็นเท่านั้นคือ มี USB -C 1 ช่อง, แจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต Surface Connect 1 ช่องสำหรับชาร์จแบต, พอร์ต Type Cover ต่อคีย์บอร์ดแยก และ ตัวอ่านการ์ด Micro SDXC การเชื่อมต่อไร้สายก็รองรับทั้ง Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.1 นอกเหนือจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ต่างๆ อาทิ เซนเซอร์แสงที่ล้อมรอบ, มาตรวัดความเร่ง, ไจโรสโคป และมาตรวัดแม่เหล็กมาให้อีกด้วย สนนราคาอยู่ที่ 19,990 บาท ประกัน 1 ปีเต็ม
Microsoft Surface GO ก็ได้ผลิตออกมาทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่
- Intel Pentium Gold Processor 4415Y + Ram 4 GB + eMMC 64 GB ราคา 14,900 บาท
- Intel Pentium Gold Processor 4415Y + Ram 8 GB + SSD 128 GB ราคา 19,900 บาท
อุปกรณ์เสริม Microsoft Surface GO ในประเทศไทย
- Surface Pro Type Cover Thai/English หุ้มผ้า Alcantara ราคา 4,690 บาท
- Surface Pro Type Cover Thai/English ธรรมดา ราคา 3,590 บาท
- Surface Pen ราคา 3,900 บาท
[onlineicon type=”banana-icon-dark”]
Hardware / Design
Microsoft Surface GO ถือเป็นรุ่นน้องเล็กสุดประจำตระกูล Surface ซึ่งดีไซน์ต่างๆ ยังคงกับเอกลักษณ์เดิมเหมือนรุ่นพี่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมาก แน่นอนว่าตัวเครื่องวัสดุแมกนีเซียมทั้งชิ้น จับดูเลยว่าของดีระดับพรีเมียม สีตัวเครื่องจะเป็นสีเทาเงินมีสีเดียว ที่มาพร้อมกับจอขนาด 10 นิ้วที่เป็น Gorilla Glass 3 ที่ทนทานต่อรอยขีดขวดได้เป็นอย่างดี ถึงอย่างนั้นทีมงาน NBS ก็แนะนำว่าหากซื้อมาใช้งานควรติดฟิล์มกันรอยตั้งแต่ซื้อมาเลยจะดีกว่าครับ
ฝาหลังจะมีโลโก้ Windows แปะอยู่ที่ตรงขาตั้ง สามารถกางออกเพื่อใช้งานเป็นแบบโน๊ตบุ๊คได้ และที่สำคัญเลยคือสามารถตั้งได้หลายระดับ จะกางจอหงายขนาดไหนก็แล้วแต่เราต้องการเลย ส่วนปุ่มกดสำหรับ Microsoft Surface GO จะมีปุ่มกดอยู่ 3 ปุ่มคือ ปุ่มเปิดเครื่อง-ปิดหน้าจอ, ปุ่มเพิ่มเสียงและปุ่มลดเสียง
ส่วนกล้องตัวเครื่อง Microsoft Surface GO จะมีทั้งด้านหน้าและด้านหลังเหมือนแท็บเล็ตทั่วไป กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิเซล รองรับการใช้งานสแกนใบหน้าปลดล็อคหน้าจอร่วมกับ Windows Hello และกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทั้งสองกล้องรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Full HD และสามารถถ่ายรูปแบบ HDR ได้
Keyboard / Touchpad
Microsoft Surface GO ถ้าซื้อตัวเครื่องอย่างเดียวจะไม่มีคีย์บอร์ดกับทัชแพทมาให้นะ ต้องซื้อเอาเพิ่ม ซึ่งตัว Type Cover ของ Surface GO ทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว สามารถใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้เป็นอย่างนี้ แถมยังช่วยปกป้องริ้วรอยต่างๆ ได้อีกด้วย เวลาพกพาไปไหนก็มีความคล่องตัวที่สูง สามารถกางเปิดออกมาพิมพ์งานเหมือนโน๊ตบุ๊คธรรมดาได้ทันที แถมตัว Type Cover ยังมีไฟคีย์บอร์ด Backlit สีขาวปรับได้ 3 ระดับมาให้อีกด้วย
ส่วนประสบการณ์ใช้งานของ Type Cover ที่ทีมงาน NBS ได้มาจะเป็นรุ่นที่ใช้ผ้า Alcantara ซึ่งนิยมใช้ในเบาะรถยนต์ราคาแพง ตัว Type Cover ก็ดูแข็งแรง ทนทาน จับแล้วให้ความรู้สึกดีหรูหรา ประสบการใช้งานในการพิมพ์ก็ถือว่าโอเคเลย ปุ่มมีความนุ่มนวล ตอบสนองได้อย่างถูกใจ เรียกได้ว่าดีกว่าแป้นคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไปเสียอีก รวมไปถึงในส่วนของทัชแพดเองก็สัมผัสลื่นไหลทันใจ และรองรับการใข้งานหลายนิ้วพร้อมกันด้วย เรียกได้ว่าถ้าจะซื้อ Microsoft Surface GO ก็ต้องจัด Type Cover มาด้วยล่ะ ไม่งั้นเหมือนชีวิตจะขาดอะไรไปบางอย่าง
Screen / Speaker
ต้องยอมรับว่าเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจของ Microsoft Surface GO ทีเดียว กับในส่วนของหน้าจอแสดงผล ที่ต้องบอกว่ามีความสวยงามสมจริงแบบสุด ด้วยเทคโนโลยี PixelSense บนขนาดหน้าจอกระจก 10 นิ้ว ซึ่งจัดว่ามีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปบนความละเอียด 1800 x 1200 พิกเซล (217 PPI) ทำให้มีความเรียบเนียนตาอย่างที่สุด แทบจะไม่เห็นเม็ดพิกเซลบนหน้าจอเหมือนกับที่เราใช้บนสมาร์ทโฟนรุ่นท๊อป กับสัดส่วนที่ไม่เหมือนใครที่ 3:2 โดยเหมาะกับการทำงานมากๆ แน่นอนที่สุดกับหน้าจอทัชกรีนที่รองรับ 10 จุดพร้อมกัน ทำให้เราใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
ส่วนของลำโพงสองตัวสเตอริโอที่ติดตั้งอยู่บริเวณขอบหน้าจอทั้งซ้ายและขวาเป็นแบบ Dolby Audio™ Premium ให้คุณภาพและความดังที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับขนาดที่เล็ก จากการใช้งานไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลง ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งถึงแม้อาจจะไม่สุด เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คลำโพงเทพๆ แต่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า Ultrabook ที่มีราคาใกล้เคียงกันเลย
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Microsoft Surface GO ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอกระจกพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 89% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันดีมากเลยทีเดียว ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 375 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อข้างสว่างเลยทีเดียว เหมาะสำหรับใช้ในงานตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบบนมุมบนซ้าย 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านล่างกลางขวาและมุมขวาที่ลดลงไปถึงระดับ 10% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนนถือว่าได้ว่าค่อนข้างดีมากเลยทีเดียวครับ
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Microsoft Surface GO นี้จัดว่าเป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ให้มาแค่พอใช้ระดับหนึ่งเท่านั้น โดยมีพอร์ต USB-C 1 ช่อง, แจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต Surface Connect 1 ช่อง , พอร์ต Type Cover สำหรับ Surface และ Micro SDXC Reader อยู่ที่ใต้แกนฝาพับ ซึ่งแนะนำว่าควรมี Hub แปลง Type C to A เผื่อไว้สักอันสำหรับต่อ Flash Drive หรือ External Harddisk ก็จะดีครับ การเชื่อมต่อไร้สายก็รองรับทั้ง Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.1 นอกเหนือจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ต่างๆ อาทิ เซนเซอร์แสงที่ล้อมรอบ, มาตรวัดความเร่ง, ไจโรสโคป และมาตรวัดแม่เหล็กมาให้อีกด้วย
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของ Ultrabook ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร โดยมาขนาตัวเครื่องอยู่ที่ 245 มม. x 175 มม. x 8.3 มม ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้นอยู่ที่ กรัมเท่านั้น และเมื่อรวมกับตัวก้อนอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ ไม่เกิน 800 กรัม เรียกได้ว่าเหมาะแก่การพกพาออกไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นแท็บเล็ตที่สามารถแปลงร่างเป็นโน๊ตบุ๊คได้จริงๆ
Performance / Software
Microsoft Surface GO เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Pentium Gold Processor 4415Y ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.60 GHz เป็นซีพียูแบบ 2 Core/ 4 Thread ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป อีกทั้งตัวเครื่องมาพร้อม Ram ภายในขนาด 8 GB DDR3 Bus 1866 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 615 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าพอสมควร รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้นใช้ได้เลย
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD m.2 NVMe ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128 GB ประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงพบว่าทำงานได้ดีเลยทีเดีบง เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ โดยความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 1111.4 MB/s ส่วนความเร็วในการเขียนอยู่ที่ 129.6 MB/s
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 1,772 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานพีซีทั่วไปก็ถือว่าทำได้โอเค ทั้งงานเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง ส่วนถ้าเอามาตัดต่อหรือเล่นเกมอันนี้ไม่แนะนำครับ
ในส่วนถัดไปทีมงานจะมาทดสอบในการเล่นเกมกันบ้างกับเกมออนไลน์ยอดนิยมที่ไม่เกินสเปคมาก จะไปยังไงไปดูกันเลย
จากกราฟจะเห็นได้ว่าคะแนนเฟรมเรททำได้ค่อนข้างดีในบางเกม ซึ่งตัว Microsoft Surface GO เองก็ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเล่นเกม หากดูในกราฟที่ได้ทำการทดสอบ ทีมงานทดสอบด้วยความละเอียดหน้า 1800 x 1200 ตามค่า Native โดยเกม DOTA 2 และ Overwatch ได้ FPS เฉลี่ยถึง 30+ ก็ถือว่าพอเล่นได้เท่านั้น และภาพพก็ไม่สวยเท่าไรเพราะปรับต่ำสุดนั่นเอง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Microsoft Surface GO เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับแท็บเล็ตทั่วไป จากการทดสอบต่อ Wifi ดู YouTube เปิดความสว่างต่ำสุด เปิดเสียงดัง 50% ผ่านโปรแกรม Microsoft Edge สามารถใช้งานนานสูงถึง 6 ชั่วโมง 37 นาทีเลยทีเดียว ถือว่าใช้งานได้ยาวนานมาก
สำหรับ Microsoft Surface GO ในส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีมากเลยทีเดียว โดยมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 80 องศาเท่านั้นของตัว CPU และ SSD ก็อยู่ที่ 60 องศาเย็นเหลือๆ (ทีมงานทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 25 องศา)
Conclusion / Award
สรุปการทดสอบ Microsoft Surface GO จากการที่ได้จับครั้งแรกก็ถือว่าเป็นแท็บเล็ตโน๊ตบุ๊คที่โอเคมากๆ รุ่นหนึ่งเลย ขนาดกระทัดรัด พกพาง่าย สามารถเอาไปทำงานเอกสาร แต่งภาพ Photoshop Lightroom ก็ถือว่าทำได้ดี แถมขนาดหน้าจอเป็นแบบ 3:2 ทำให้พอดีกับรูปที่ถ่ายออกมาจากกล้อง DSLR ด้วย และตัวเครื่องก็ไม่ร้อนมากเมื่อใช้งานเป็นเวลานานๆ
ซึ่งถ้าจะซื้อจริงๆ แนะนำว่าให้ซื้อตัวที่เป็น Ram 8 GB + SSD 128 GB ราคา 19,990 บาท จะดีกว่ารุ่นธรรมดาพอสมควร เพราะถ้าใช้แค่ Ram 4 GB + eMMC 64 GB บอกเลยว่าไม่พอแน่นอน ในกรณีที่ใช้หลายๆ โปรแกรมหรือมีไฟล์เก็บเยอะๆ ส่วนการใช้งานปากกาและ Type Cover ของตัว Microsoft Surface GO รุ่นนี้ก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ ใช้งานได้ลื่นไหลแทบไม่ต่างจากโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไปเลยทีเดียว แถมยังได้กล้องหน้าหลังที่สามารถถ่ายวิดีโอ ถ่ายรูปได้ดีไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นปัจจุบันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม Microsoft Surface GO ก็คือว่าเป็นแท็บเล็กโน๊ตบุ๊คที่หาตัวเปรียบได้ยาก แต่มีข้อสังเกตอยู่เหมือนกันคือราคาค่อนข้างสูง และในกล่องไม่แถมอแดปเตอร์แปลงอะไรเลย รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ ต้องซื้อแยกทั้งหมด ทั้งแป้นพิมพ์ Type Cover, ปากกา, Hub USB เป็นต้น ทำให้เมื่อรวมราคาของตัวเครื่องรวมกับอุปกรณ์เสริมเข้าไปก็พอเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะครับ แต่อย่างว่าถ้าใครเงินถึง งบไม่ใช่ปัญหา ก็บอกเลยว่า Microsoft Surface GO ตอบโจทย์คุณอย่างที่ไม่มีแบรนด์ไหนให้คุณได้แน่นอน จัดไปของมันต้องมี
ข้อดี
- ตัวเครื่องแข็งแรงทนทาน ดูสสวยหรู ด้วยวัสดุที่เป็นแมกนีเซียม
- หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ 1800 x 1200 (217 PPI) พร้อมเทคโนโลยี PixelSense
- พาเนลหน้าจอ IPS มีคุณภาพสูงขอบเขตสีสูงถึง 89% sRGB
- Surface Pen รองรับแรงกดถึง 4096 ระดับ
- เลือกใช้ SSD m.2 NVMe ความเร็วระดับกลางๆ
- มาพร้อม Windows 10 Pro ลิขสิทธิ์ใช้งานได้ทันที
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 6 ชั่วโมง 37 นาที เมื่อเอามาต่อ Wifi ดู YouTube
- ตัวเครื่องมีฟีเจอร์ Windows Hello ใช้คู่กล้องอินฟาเรด ปลดล็อคหน้าจอได้
ข้อสังเกต
- ราคาสูงกว่า Ultrabook และแท็บเล็ต Windows 10 ทั่วไป
- อุปกรณ์เสริมต่างๆ ต้องซื้อแยกเองทั้งหมดทั้ง Surface Type Cover, Surface Pen
- ไม่มีพอร์ต USB Type A ต้องซื้ออแดปเตอร์มาแปลงเอา
Specification
ในเรื่องของสเปค Microsoft Surface GO จะมีด้วยกัน 2 สเปค โดยรุ่นที่ทีมงาน NBS ได้มาจะเป็นรุ่นท็อปที่ใช้สเปคเป็น Intel Pentium Gold Processor 4415Y (1.60 GHz) แบบ 2 Core/ 4 Thread พร้อมการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Intel HD Graphics 615 ประสิทธิภาพโอเค ใส่ Ram ก็ให้มา 8 GB DDR3 Bus 1866 เป็นแบบฝังติดบอร์ด ส่วนความจุตัวเครื่องเลือกใช้ SSD ขนาด 128 GB
หน้าจออแสดงผล PixelSense 10 นิ้ว ความละเอียด: ความละเอียด 1800 x 1200 (217 PPI) อัตรา 3:2 รองรับการสัมผัสมัลติทัชสูงสุด 10 จุด ซึ่งเป็นจอ Corning Gorilla Glass 3 รองรับกับปากกาสไตรัส Surface Pen ที่รับรู้แรงกดได้ถึง 4096 ระดับ และที่สำคัญระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ในตัวเครื่องเลย ตัวเครื่องมีกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล โฟกัสอัตโนมัติ พร้อมถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p ได้
พอร์ตเชื่อมต่อจะมีเพียงพอร์ตที่จำเป็นเท่านั้นคือ มี USB -C 1 ช่อง, แจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต Surface Connect 1 ช่องสำหรับชาร์จแบต, พอร์ต Type Cover ต่อคีย์บอร์ดแยก และ ตัวอ่านการ์ด Micro SDXC การเชื่อมต่อไร้สายก็รองรับทั้ง Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.1 นอกเหนือจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ต่างๆ อาทิ เซนเซอร์แสงที่ล้อมรอบ, มาตรวัดความเร่ง, ไจโรสโคป และมาตรวัดแม่เหล็กมาให้อีกด้วย สนนราคาอยู่ที่ 19,990 บาท ประกัน 1 ปีเต็ม
Microsoft Surface GO ก็ได้ผลิตออกมาทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่
- Intel Pentium Gold Processor 4415Y + Ram 4 GB + eMMC 64 GB ราคา 14,900 บาท
- Intel Pentium Gold Processor 4415Y + Ram 8 GB + SSD 128 GB ราคา 19,900 บาท
อุปกรณ์เสริม Microsoft Surface GO ในประเทศไทย
- Surface Pro Type Cover Thai/English หุ้มผ้า Alcantara ราคา 4,690 บาท
- Surface Pro Type Cover Thai/English ธรรมดา ราคา 3,590 บาท
- Surface Pen ราคา 3,900 บาท
[onlineicon type=”banana-icon-dark”]
Hardware / Design
Microsoft Surface GO ถือเป็นรุ่นน้องเล็กสุดประจำตระกูล Surface ซึ่งดีไซน์ต่างๆ ยังคงกับเอกลักษณ์เดิมเหมือนรุ่นพี่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมาก แน่นอนว่าตัวเครื่องวัสดุแมกนีเซียมทั้งชิ้น จับดูเลยว่าของดีระดับพรีเมียม สีตัวเครื่องจะเป็นสีเทาเงินมีสีเดียว ที่มาพร้อมกับจอขนาด 10 นิ้วที่เป็น Gorilla Glass 3 ที่ทนทานต่อรอยขีดขวดได้เป็นอย่างดี ถึงอย่างนั้นทีมงาน NBS ก็แนะนำว่าหากซื้อมาใช้งานควรติดฟิล์มกันรอยตั้งแต่ซื้อมาเลยจะดีกว่าครับ
ฝาหลังจะมีโลโก้ Windows แปะอยู่ที่ตรงขาตั้ง สามารถกางออกเพื่อใช้งานเป็นแบบโน๊ตบุ๊คได้ และที่สำคัญเลยคือสามารถตั้งได้หลายระดับ จะกางจอหงายขนาดไหนก็แล้วแต่เราต้องการเลย ส่วนปุ่มกดสำหรับ Microsoft Surface GO จะมีปุ่มกดอยู่ 3 ปุ่มคือ ปุ่มเปิดเครื่อง-ปิดหน้าจอ, ปุ่มเพิ่มเสียงและปุ่มลดเสียง
ส่วนกล้องตัวเครื่อง Microsoft Surface GO จะมีทั้งด้านหน้าและด้านหลังเหมือนแท็บเล็ตทั่วไป กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิเซล รองรับการใช้งานสแกนใบหน้าปลดล็อคหน้าจอร่วมกับ Windows Hello และกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทั้งสองกล้องรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Full HD และสามารถถ่ายรูปแบบ HDR ได้
Keyboard / Touchpad
Microsoft Surface GO ถ้าซื้อตัวเครื่องอย่างเดียวจะไม่มีคีย์บอร์ดกับทัชแพทมาให้นะ ต้องซื้อเอาเพิ่ม ซึ่งตัว Type Cover ของ Surface GO ทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว สามารถใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้เป็นอย่างนี้ แถมยังช่วยปกป้องริ้วรอยต่างๆ ได้อีกด้วย เวลาพกพาไปไหนก็มีความคล่องตัวที่สูง สามารถกางเปิดออกมาพิมพ์งานเหมือนโน๊ตบุ๊คธรรมดาได้ทันที แถมตัว Type Cover ยังมีไฟคีย์บอร์ด Backlit สีขาวปรับได้ 3 ระดับมาให้อีกด้วย
ส่วนประสบการณ์ใช้งานของ Type Cover ที่ทีมงาน NBS ได้มาจะเป็นรุ่นที่ใช้ผ้า Alcantara ซึ่งนิยมใช้ในเบาะรถยนต์ราคาแพง ตัว Type Cover ก็ดูแข็งแรง ทนทาน จับแล้วให้ความรู้สึกดีหรูหรา ประสบการใช้งานในการพิมพ์ก็ถือว่าโอเคเลย ปุ่มมีความนุ่มนวล ตอบสนองได้อย่างถูกใจ เรียกได้ว่าดีกว่าแป้นคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไปเสียอีก รวมไปถึงในส่วนของทัชแพดเองก็สัมผัสลื่นไหลทันใจ และรองรับการใข้งานหลายนิ้วพร้อมกันด้วย เรียกได้ว่าถ้าจะซื้อ Microsoft Surface GO ก็ต้องจัด Type Cover มาด้วยล่ะ ไม่งั้นเหมือนชีวิตจะขาดอะไรไปบางอย่าง
Screen / Speaker
ต้องยอมรับว่าเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจของ Microsoft Surface GO ทีเดียว กับในส่วนของหน้าจอแสดงผล ที่ต้องบอกว่ามีความสวยงามสมจริงแบบสุด ด้วยเทคโนโลยี PixelSense บนขนาดหน้าจอกระจก 10 นิ้ว ซึ่งจัดว่ามีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปบนความละเอียด 1800 x 1200 พิกเซล (217 PPI) ทำให้มีความเรียบเนียนตาอย่างที่สุด แทบจะไม่เห็นเม็ดพิกเซลบนหน้าจอเหมือนกับที่เราใช้บนสมาร์ทโฟนรุ่นท๊อป กับสัดส่วนที่ไม่เหมือนใครที่ 3:2 โดยเหมาะกับการทำงานมากๆ แน่นอนที่สุดกับหน้าจอทัชกรีนที่รองรับ 10 จุดพร้อมกัน ทำให้เราใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
ส่วนของลำโพงสองตัวสเตอริโอที่ติดตั้งอยู่บริเวณขอบหน้าจอทั้งซ้ายและขวาเป็นแบบ Dolby Audio™ Premium ให้คุณภาพและความดังที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับขนาดที่เล็ก จากการใช้งานไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลง ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งถึงแม้อาจจะไม่สุด เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คลำโพงเทพๆ แต่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า Ultrabook ที่มีราคาใกล้เคียงกันเลย
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Microsoft Surface GO ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอกระจกพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 89% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันดีมากเลยทีเดียว ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 375 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อข้างสว่างเลยทีเดียว เหมาะสำหรับใช้ในงานตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบบนมุมบนซ้าย 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านล่างกลางขวาและมุมขวาที่ลดลงไปถึงระดับ 10% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนนถือว่าได้ว่าค่อนข้างดีมากเลยทีเดียวครับ
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Microsoft Surface GO นี้จัดว่าเป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ให้มาแค่พอใช้ระดับหนึ่งเท่านั้น โดยมีพอร์ต USB-C 1 ช่อง, แจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต Surface Connect 1 ช่อง , พอร์ต Type Cover สำหรับ Surface และ Micro SDXC Reader อยู่ที่ใต้แกนฝาพับ ซึ่งแนะนำว่าควรมี Hub แปลง Type C to A เผื่อไว้สักอันสำหรับต่อ Flash Drive หรือ External Harddisk ก็จะดีครับ การเชื่อมต่อไร้สายก็รองรับทั้ง Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.1 นอกเหนือจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ต่างๆ อาทิ เซนเซอร์แสงที่ล้อมรอบ, มาตรวัดความเร่ง, ไจโรสโคป และมาตรวัดแม่เหล็กมาให้อีกด้วย
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของ Ultrabook ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร โดยมาขนาตัวเครื่องอยู่ที่ 245 มม. x 175 มม. x 8.3 มม ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้นอยู่ที่ กรัมเท่านั้น และเมื่อรวมกับตัวก้อนอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ ไม่เกิน 800 กรัม เรียกได้ว่าเหมาะแก่การพกพาออกไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นแท็บเล็ตที่สามารถแปลงร่างเป็นโน๊ตบุ๊คได้จริงๆ
Performance / Software
Microsoft Surface GO เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Pentium Gold Processor 4415Y ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.60 GHz เป็นซีพียูแบบ 2 Core/ 4 Thread ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป อีกทั้งตัวเครื่องมาพร้อม Ram ภายในขนาด 8 GB DDR3 Bus 1866 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 615 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าพอสมควร รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้นใช้ได้เลย
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD m.2 NVMe ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128 GB ประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงพบว่าทำงานได้ดีเลยทีเดีบง เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ โดยความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 1111.4 MB/s ส่วนความเร็วในการเขียนอยู่ที่ 129.6 MB/s
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 1,772 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานพีซีทั่วไปก็ถือว่าทำได้โอเค ทั้งงานเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง ส่วนถ้าเอามาตัดต่อหรือเล่นเกมอันนี้ไม่แนะนำครับ
ในส่วนถัดไปทีมงานจะมาทดสอบในการเล่นเกมกันบ้างกับเกมออนไลน์ยอดนิยมที่ไม่เกินสเปคมาก จะไปยังไงไปดูกันเลย
จากกราฟจะเห็นได้ว่าคะแนนเฟรมเรททำได้ค่อนข้างดีในบางเกม ซึ่งตัว Microsoft Surface GO เองก็ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเล่นเกม หากดูในกราฟที่ได้ทำการทดสอบ ทีมงานทดสอบด้วยความละเอียดหน้า 1800 x 1200 ตามค่า Native โดยเกม DOTA 2 และ Overwatch ได้ FPS เฉลี่ยถึง 30+ ก็ถือว่าพอเล่นได้เท่านั้น และภาพพก็ไม่สวยเท่าไรเพราะปรับต่ำสุดนั่นเอง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Microsoft Surface GO เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับแท็บเล็ตทั่วไป จากการทดสอบต่อ Wifi ดู YouTube เปิดความสว่างต่ำสุด เปิดเสียงดัง 50% ผ่านโปรแกรม Microsoft Edge สามารถใช้งานนานสูงถึง 6 ชั่วโมง 37 นาทีเลยทีเดียว ถือว่าใช้งานได้ยาวนานมาก
สำหรับ Microsoft Surface GO ในส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีมากเลยทีเดียว โดยมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 80 องศาเท่านั้นของตัว CPU และ SSD ก็อยู่ที่ 60 องศาเย็นเหลือๆ (ทีมงานทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 25 องศา)
Conclusion / Award
สรุปการทดสอบ Microsoft Surface GO จากการที่ได้จับครั้งแรกก็ถือว่าเป็นแท็บเล็ตโน๊ตบุ๊คที่โอเคมากๆ รุ่นหนึ่งเลย ขนาดกระทัดรัด พกพาง่าย สามารถเอาไปทำงานเอกสาร แต่งภาพ Photoshop Lightroom ก็ถือว่าทำได้ดี แถมขนาดหน้าจอเป็นแบบ 3:2 ทำให้พอดีกับรูปที่ถ่ายออกมาจากกล้อง DSLR ด้วย และตัวเครื่องก็ไม่ร้อนมากเมื่อใช้งานเป็นเวลานานๆ
ซึ่งถ้าจะซื้อจริงๆ แนะนำว่าให้ซื้อตัวที่เป็น Ram 8 GB + SSD 128 GB ราคา 19,990 บาท จะดีกว่ารุ่นธรรมดาพอสมควร เพราะถ้าใช้แค่ Ram 4 GB + eMMC 64 GB บอกเลยว่าไม่พอแน่นอน ในกรณีที่ใช้หลายๆ โปรแกรมหรือมีไฟล์เก็บเยอะๆ ส่วนการใช้งานปากกาและ Type Cover ของตัว Microsoft Surface GO รุ่นนี้ก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ ใช้งานได้ลื่นไหลแทบไม่ต่างจากโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไปเลยทีเดียว แถมยังได้กล้องหน้าหลังที่สามารถถ่ายวิดีโอ ถ่ายรูปได้ดีไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นปัจจุบันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม Microsoft Surface GO ก็คือว่าเป็นแท็บเล็กโน๊ตบุ๊คที่หาตัวเปรียบได้ยาก แต่มีข้อสังเกตอยู่เหมือนกันคือราคาค่อนข้างสูง และในกล่องไม่แถมอแดปเตอร์แปลงอะไรเลย รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ ต้องซื้อแยกทั้งหมด ทั้งแป้นพิมพ์ Type Cover, ปากกา, Hub USB เป็นต้น ทำให้เมื่อรวมราคาของตัวเครื่องรวมกับอุปกรณ์เสริมเข้าไปก็พอเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะครับ แต่อย่างว่าถ้าใครเงินถึง งบไม่ใช่ปัญหา ก็บอกเลยว่า Microsoft Surface GO ตอบโจทย์คุณอย่างที่ไม่มีแบรนด์ไหนให้คุณได้แน่นอน จัดไปของมันต้องมี
ข้อดี
- ตัวเครื่องแข็งแรงทนทาน ดูสสวยหรู ด้วยวัสดุที่เป็นแมกนีเซียม
- หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ 1800 x 1200 (217 PPI) พร้อมเทคโนโลยี PixelSense
- พาเนลหน้าจอ IPS มีคุณภาพสูงขอบเขตสีสูงถึง 89% sRGB
- Surface Pen รองรับแรงกดถึง 4096 ระดับ
- เลือกใช้ SSD m.2 NVMe ความเร็วระดับกลางๆ
- มาพร้อม Windows 10 Pro ลิขสิทธิ์ใช้งานได้ทันที
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 6 ชั่วโมง 37 นาที เมื่อเอามาต่อ Wifi ดู YouTube
- ตัวเครื่องมีฟีเจอร์ Windows Hello ใช้คู่กล้องอินฟาเรด ปลดล็อคหน้าจอได้
ข้อสังเกต
- ราคาสูงกว่า Ultrabook และแท็บเล็ต Windows 10 ทั่วไป
- อุปกรณ์เสริมต่างๆ ต้องซื้อแยกเองทั้งหมดทั้ง Surface Type Cover, Surface Pen
- ไม่มีพอร์ต USB Type A ต้องซื้ออแดปเตอร์มาแปลงเอา