ถือว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันไปเสียแล้วสำหรับ 2-in-1 Notebook แบบ Detachable ที่จะให้อิสระแก่การใช้งานของผู้ใช้มากกว่าที่เป็นแบบ Convertible เนื่องจากความสามารถในการแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิงได้ ทำให้เหมาะแก่การใช้งานในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการถอดคีย์บอร์ดออกแล้วนำไปใช้ควบคู่การเรียน หรือใช้คู่กับคีย์บอร์ดแล้วนำมาพิมพ์งานก็ล้วนทำได้ และในวันนี้ผมก็มีอีกหนึ่งตัวเลือกมาแนะนำกับ HP Elite x2 1030 G3
โดย HP Elite x2 1030 G3 สำหรับเครื่องนี้จะมาพร้อมกับสเปคการใช้งานที่คล้ายคลึงกับแบบ 2-in-1 Notebook Convertible ของทาง HP คือสเปคเป็น Intel Core i5-8250U พร้อมกับหน้าจอที่มีความละเอียด 3000 x 2000 พิกเซล ทำให้ได้รับประสบการณ์ในการรับชมที่คมชัดยิ่งกว่าเดิม มาพร้อมกับปากกา HP Active Pen ที่จะช่วยให้การจดบันทึกหรือวาดทำได้แม่นยำและง่ายขึ้น
Specification
สำหรับสเปคของตัว HP Elite x2 1030 G3 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13 นิ้ว โดยความละเอียดของหน้าจอจะอยู่ที่ 3000 x 2000 พิกเซล ซึ่งทาง HP ได้เคลมมาตรฐานของจอแบบนี้ว่า 3Kx2K โดยสำหรับหน้าจอจะใช้งานพาเนลเป็นแบบ IPS ทำให้ได้รับภาพที่ถูกต้องและชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนกระจกของจอใช้งานเป็น Corning Gorilla ที่จะช่วยทำให้การใช้งานสามารถสบายใจได้เมื่อต้องทำอะไรลงไปบนหน้าจอ
ส่วนสเปคภายในนั้นจะชับเคลื่อนด้วย Intel Core i5-8250U ซึ่งความเร็วจะอยู่ที่ 1.60 GHz และสามารถทำขึ้นไปได้สูงสุดที่ 3.40 GHz โดยจำนวนคอร์ที่มีอยู่ที่ 4 Core 8 Threads ส่วนในเรื่องของแรมจะเป็นแบบขนาด 8 GB ข้างละ 4 GB โดยเป็นแบบ LPDDR3 Bus 2133 MHz ส่วนความจุภายในจะให้มาทั้งหมด 256 GB ซึ่งจะเป็นแบบ SSD M.2 NVMe ทำให้การเข้าถึงสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนอื่นๆจะเป็นในเรื่องของกล้องที่มีขนาด 5 ล้านพิกเซลสำหรับกล้องหน้า ส่วนกล้องหลังจะมีขนาด 8 ล้านพิกเซล โดยจะรองรับการใช้งานแบบจดจำใบหน้าด้วยโปรแกรม Windows Hello ได้ ส่วนพอร์ตการใช้งานจะเป็นแบบ USB Type-C ทั้งหมดใครที่อยากใช้งาน USB 3.0 ธรรมดาคงต้องหาตัวแปลงมาต่อแยกนั้นเอง
สเปคแบบเต็มๆของ HP Elite x2 1030 G3 <<<
Hardware / Design
ในเรื่องของการออกแบบของตัว HP Elite x2 1030 G3 ต้องเรียกว่าน่าประทับใจเลยทีเดียวด้วยน้ำหนักของตัวเครื่องเมื่อรวมคีย์บอร์ดแล้วอยู่ที่ 1.17 กิโลกรัมทำให้ไม่หนักมาก และด้วยความบางที่ 7.9 มืลลืเมตรเมื่อไม่ได้ต่อกับคีย์บอร์ดก็ต้องถือว่าบางใช้ได้เลย สำหรับสีจะเลือกใช้งานเป็นสีเงินด้านทำให้ดูภายนอกหรูหราและพรีเมี่ยมขึ้นมา ซึงรอยต่อต่างๆก็ถือว่าอยู่ในระดับที่เก็บงานได้ดี
สำหรับขาที่ใช้งานในการตั้งเพื่อให้เครื่องใช้งานได้นั้นก็ถือว่าทำออกมาได้แข็งแรงและเลื่อนด้วยตัวเองได้แน่ๆ สำหรับการตั้งก็สามารถปรับมุมให้เหมาะและเข้ากับสายตาได้ โดยองศาที่ปรับได้สูงสุดที่ 150 องศา ในของการทดสอบที่ทาง HP ได้ใช้ทดสอบจะเป็น Military Standard ที่ทำให้เรามั่นใจได้เลยในเรื่องของความทนทานและการป้องกันฝุ่นและน้ำ
สำหรับการใช้งานในในเรื่องของการเชื่อมต่อต่างๆก็นับว่าทำออกมาได้ตอบโจทย์กับยุคสมัยนี้ที่เน้นการใช้งานบนพอร์ต USB Type-C ทำให้ทาง HP ได้นำมาใส่ในเครื่องนี้ด้วยกันถึง 3 พอร์ตเลยทีเดียว แต่อาจจะไม่ถูกใจสำหรับใครที่ต้องการใช้งาน USB แบบธรรมดาทั่วๆไปเพราะตัวเครื่องนี้ได้ตัดทิ้งไปทั้งหมด โดยพอร์ต USB Type-C ที่ให้มาจะรองรับการทำงาน Thunderbolt ด้วย
ในส่วนอื่นๆอย่างพวก Fingerprint ที่สินค้าระดับสูงๆของทาง HP จะใส่มาให้อยู่แล้วเนื่องจากทาง HP ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นอย่างสูง ส่วนการใช้งานต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการถอดคีย์บอร์ดออกแล้วใช้เป็นแท็บเล็ตเพรียวๆ หรือต่อคีย์บอร์ดแล้วใช้งานเป็นโน้ตบุ้คก็นับว่าทำออกมาได้ดีและตอบสนองได้ตรง
ส่วนเรื่องกล้องที่ติดมากับเครื่องก็อยู่ในระดับที่ใช้งานได้เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลอาจจะดูน้อยไปหากเอาไปเทียบกับอุปกรณ์อื่นๆแต่นี้คือโน้ตบุ้คทำให้ความละเอียดขนาดนี้ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานไม่ว่าจะเป็น Video Conference หรือถ่ายขำๆก็พอจะถูไถกันไปได้ ส่วนกล้องหลังก็ถือว่าทำออกมาได้ไม่แย่และไม่ได้เด่นมากครับ
Keyboard / Touchpad
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของตัวเครื่อง HP Elite x2 1030 G3 เลยก็ว่าได้กับคีย์บอร์ดที่สามารถถอดแยกออกจากตัวเครื่องได้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งประสบการณ์ใช้งานได้ดีเลยทีเดียว ส่วนตัวของคีย์บอร์ดก็ถือว่าเป็นรูปแบบเดียวกันกับที่ใช้งานบนเครื่องของ HP เลย ไม่ว่าจะเป็นไฟ LED Backlit ภายใต้ตัวของคีย์บอร์ด หรือจะเป็นปุ่มฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆก็มีมาให้ครบครัน
ส่วนในเรื่องของ Touchpad จากที่ใช้งานต้องบอกว่าจะตอบสนองช้ากว่าความรู้สึกจริงไปเล็กน้อยแต่ไม่ได้เป็นทุกๆการใช้งาน จะมีบางช่วงที่รู้สึกว่ามันช้ากว่าการกระทำไปเล็กน้อย ส่วนในเรื่องของการใช้งานก็ต้องบอกว่าเป็นในทิศทางเดียวกันกับ Touchpad ที่ใช้งานบนเครื่อง HP คือให้ความรู้สึกที่แน่นเมื่อกดไปและไม่มีการแบ่งแยกซ้ายชวาให้เราได้เห็น
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอที่นำมาใช้บนเครื่องนี้จะมีขนาด 13 นิ้ว ที่ความละเอียด 3000 x 2000 พิกเซล โดยสำหรับพาเนลจอจะใช้งานเป็นแบบ IPS ทำให้ได้สีที่สดและชัดทุกมุม ส่วนกระจกที่นำมาใช้งานบนจอนี้ก็จะเป็น Corning Gorilla ที่จะช่วยป้องกันในเรื่องของรอยขีดข่วนที่อาจจะเกิดขึ้นบนหน้าจอได้ สำหรับอัตราส่วนของจอจะเป็นแบบ 3:2 ทำให้ได้พื้นที่ในการใช้งานเต็มๆ
สำหรับการใช้งานบนหน้าจอด้วยการทัชสกรีนก็สามารถทำได้ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยรองรับการใช้งานพร้อมกันทั้งหมด 10 จุดในเวลาเดียวกัน ทำให้ใครที่ต้องการใช้งานในการเล่นเกมที่ต้องมีการใช้หลายๆจุด หมดห่วงในเรื่องนี้ไปได้เลย ส่วนการตอบสนองต่อการใช้งานเมื่อทัชลงไปก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ในส่วนของกล้องที่ติดมากับตัวเครื่องจะมีความละเอียด ของกล้องหน้าอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล ซึ่งในการใช้งานจริงก็สามารถนำไปใช้ในการคุย Video Conference ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร ส่วนในเรื่องของภาพถ่ายในกล้องหน้าก็อยู่ในระดับกลางๆไม่ได้แย่หรือดีอะไร สามารถใช้ปลดล็อคด้วย Windows Hello ได้ ส่วนกล้องหลังที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลก็ถือว่าพอต่อการใช้งาน
ในส่วนของลำโพงของตัวเครื่องจะมีอยู่สองจุดด้วยกัน โดยจะอยู่ที่ส่วนของขอบจอด้านบนทั้งสองข้าง ซึ่งการที่ทาง HP เลือกที่จะติดลำโพงเอาไว้ตรงสองจุดนนี้ก็ทำให้เราได้รับเสียงที่ชัดเจนและไม่มีอะไรมากั้น แถมยังสามารถรับรู้ถึงรายละเอียดของเสียงที่มาได้ว่ามาจากซ้ายหรือขวาอย่างชัดเจน ซึ่งจุดนี้ก็คงต้องยกความดีให้กับทาง Bang & Olufsen ที่จัดการออกมาได้อย่างดี
Connector / Thin And Weight
สำหรับพอร์ตการเชื่อมต่อที่มีมาบนเครื่อง HP Elite x2 1030 G3 จะมาพร้อมกัยพอร์ตที่นิยมใช้กันในปัจจุบันอย่าง USB Type-C ทั้งหมด โดยจะประกอบด้วย USB Type-C ที่รองรับ Thunderbolt จำนวน 2 พอร์ต USB Type-C ที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ช่อง ช่องสำหรับ Audio Jack Combo 1 ช่อง และช่องสำหรับใช้งานซิมที่เป็นแบบ Nano Sim อีก 1 ช่อง ซึ่งจากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าเครื่องนี้เหมาะกับคนที่ไม่ได้ต้องการใช้งานอุปกรณ์เสริมแยกที่เป็นแบบเก่าเท่าไหร่นัก ถ้าหากอยากใช้คงต้องหาตัวแปลงมาเสริมนั้นเอง
ในเรื่องของน้ำหนักและความบางของตัวเครื่องเนื่องจากเป็นโน้ตบุ้คแบบ 2-in-1 ที่สามารถถอดออกจากกันได้ทำให้ในเรื่องของน้ำหนักเมื่อไม่ได้ต่อกับคีย์บอร์ดจะอยู่ที่ 0.82 กิโลกรัม ส่วนหากต่อกับคีย์บอร์ดน้ำหนักจะขึ้นไปอยู่ที่ 1.17 กิโลกรัม ในเรื่องของความบางก็เช่นเดียวกันโดยความบางเมื่อไม่ได้ต่อกับคีย์บอร์ดจะอยู่ที่ 7.9 มิลลิเมตร ถ้าต่อกับคีย์บอร์ดจะเป็น 13.3 มิลลิเมตร ซึ่งก็ถือว่าทำออกมาได้น่าพอใจ
HP Active Pen
สำหรับปากกา HP Active Pen เป็นความร่วมมือกันระหว่างทาง HP และผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้อย่าง Wacom โดยจะมีความคล้ายคลึงกันกับตัวของ Suface Pro 4 โดยความสามารถหลายๆอย่างก็จะมีบน HP Active Pen เช่นเดียวกัน สำหรับปุ่มที่ใช้งานจะแบ่งออกเป็นสองจุดคือด้านข้างและด้านบน ซึ่งสำหรับปุ่มด้านบนจะเอาไว้เรียกใช้งานโปรแกรมอย่าง Windows Ink Workspace ที่ติดมากับเครื่องได้
ในส่วนของสเปคอื่นๆของตัวปากกาสำหรับตัวนี้จะรองรับแรงกดมากถึง 2,048 ระดับ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับระดับได้ในทุกๆการใช้งานเฉกเช่นเดียวกับปากกาของจริง ในส่วนบนของตัว HP Active Pen ยังสามารถใช้งานเป็นยางลบได้ด้วย โดยสำหรับแหล่งพลังงานจะเป็นถ่าน AAAA หนึ่งก้อนที่สามารถใช้ได้นานมากกว่า 8 เดือนเลย เรียกว่าใช้ก้อนเดียวก็สามารถใช้ได้ยาวๆ
Performance / Software
สำหรับตัวของ HP Elite x2 1030 G3 จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Intel Core i5-8250U ที่จะมีความเร็วยืนพื้นที่ 1.60 GHz ขึ้นไปสุดได้ที่ 3.40 GHz มีคอร์ทั้งหมด 4 Core 8 Threadsพร้อมกับชิปออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในความบันเทิง แรม 8 GB ข้างละ 4 GB ประเภท LPDDR3 Bus 2133 MHz
ต่อมาเป็นการทดสอบด้วยโปรแกรม Cinebench R15 ซึ่งจะเป็นการทดสอบทั้งในส่วนของการประมวลผลและกราฟฟิคซึ่งสำหรับเครื่องนี้ที่ให้สเปคมาก็อยู่ในระดับที่ไม่ได้สูงมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเป็นโน้ตบุ้คแบบ 2-in-1 ที่เน้นไปที่การใช้งานทั่วๆไปเสียมากกว่า
ต่อมาเป็นการทดสอบในเรื่องของความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวเนื่องจาก อุปกรณ์ที่นำมาใช้งานเป็น SSD ขนาด 256 GB แบบ M.2 NVMe โดยค่า Read ทำได้ 1782.3 MB/s และค่า Write ทำได้ 814.6 MB/s
ถัดมาเป็นส่วนของการทดสอบการใช้งานทั่วๆไปที่เราๆทุกคนต้องใช้กัน โดยโปรแกรมที่ใช้ในการทดสอบคือ PCMark 10 ที่จะเป็นตัวทดสอบแทนเรา ซึ่งคะแนนที่ได้ออกมาก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเอาเรื่องเลย
สำหรับในทุกๆเครื่องของทาง HP จะมีชุดโปรแกรมที่ทาง HP ได้ติดตั้งมาให้แล้วมากมายอย่างเช่น HP Support Assistant ที่จะให้ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูลของเครื่องได้เปรียบเสมือนศูนย์กลางในการเข้าถึงข้อมูล หรือจะเป็น HP PhoneWise ที่สามารถแปลงเครื่องให้สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ และอื่นๆ
ในส่วนสุดท้ายนี้จะขอเล่าเป็นประสบการณ์การใช้งานดีกว่า เนื่องจากว่าตัวเครื่องเป็นแบบ 2-in-1 ที่สามารถถอดออกจากกันได้ ทำให้การที่ใครจะเอาไปใช้งานเล่นเกมที่ต้องต่อเม้าส์หรือคีย์บอร์ดแยกคงลืมไปได้เลย เพราะคุณจะต้องใช้ตัวแปลงมาช่วยซึ่งคงจะหมดอารมณ์กันไป แต่สำหรับใครที่ไม่ได้สนใจส่วนนั้นแล้วใช้ในการทำงานทั่วๆไป ดูคลิปจาก YouTube หรือ Facebook ก็สามารถทำได้ดีเลยทีเดียว
Battery / Heat / Noise
สำหรับแบตเตอรี่ที่มีมาให้ใช้งานหมดตัว HP Elite x2 1030 G3 ก็ถือว่าทำออกมาได้นานพอสมควรเลยโดยสำหรับระยะเวลาจะอยู่ที่ราวๆ 10 ชั่วโมงและจะแปรเปลี่ยนไปตามการใช้งานของผู้ใช้นั้นเอง
ในส่วนของอุณหภูมิของตัวเครื่องก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเนื่องจากการที่เป็นโน้ตบุ้คที่สามารถถอดออกได้ทำให้เวลาใช้งานคู่กับคีย์บอร์ดจะไม่ได้รับรู้ถึงอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปเลย ส่วนการใช้งานหนักๆทดสอบอุณหภูมิจะขึ้นไปสูงสุดที่ 87 องศา
Conclusion / Award
สำหรับ HP Elite x2 1030 G3 ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโน้ตบุ้ค 2-in-1 แบบ Detachable ที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกับตัวของผู้ใช้ได้อย่างเหมาะสม ด้วยหน้าจอที่มีขนาด 13 นิ้ว ทำให้การพกพาไปที่ใดก็สะดวกพร้อมกับหน้าจอที่มาบนความละเอียด 3000 x 2000 พิกเซลก็ช่วยให้เราได้รับภาพที่คมและชัดขึ้รกว่า Full-HD ยิ่งมาคู่กับพาเนล IPS ยิ่งได้รับความชัดในทุกๆมุมมอง โดยหน้าจอสามารถรองรับการทัชได้มากถึง 10 จุด และมี HP Active Pen ให้ใช้งาน
ในส่วนของการใช้งานทั้งในโหมดโน้ตบุ้คและแท็บเล็ต ก็ถือว่าทำออกมาให้ใช้งานได้อย่างดี เนื่องจากขาตั้งที่อยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง มีความแข็งแรงและได้รับการการันตีจากทาง HP มาแล้วว่าจะกางกี่ครั้งก็จะได้ความรู้สึกเหมือนกับการกางครั้งแรก ซึ่งเมื่อได้ลองใช้งานก็พบว่าเป็นเรื่องจริง ในส่วนของระดับการปรับของขาตั้งก็จะอยู่ที่ 150 องศาซึ่งถือว่าเพียงพอแล้วต่อการใช้งานในทุกๆรูปแบบ
สำหรับใครที่เบื่อความยุ่งยากทาง HP ก็มีชุด Software ที่จะมาคอยช่วยเหลือให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง ในส่วนต่างๆของเครื่องได้อย่างไม่ยากเย็นโดยสำหรับ ตัวเครื่อง HP Elite x2 1030 G3 ก็จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ที่จะรองรับทุกๆการใช้งานของผู้ใช้ได้ตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมกับความปลอดภัยด้วยการปลดล็อคได้ทั้งจากการใช้งาน Fingerprint หรือจะผ่าน Windows Hello ก็ได้เช่นเดียวกัน
จุดเด่น
- เป็นโน้ตบุ้คแบบ 2-in-1 ที่เหมาะกับการใช้งานในทุกๆสถานการณ์
- จอความละเอียด 3000 x 2000 พิกเซลทำให้ได้รับภาพที่คมชัดยิ่งกว่าเดิม
- เลือกใช้งานพาเนลจอแบบ IPS ทำให้ได้รับภาพชัดในทุกๆมุม
- Intel Core i5 เอาอยู่ในทุกๆโหมดการทำงาน
- ใช้งาน SSD ทำให้เข้าถึงทุกๆไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว
- มาพร้อมกับปากกาก HP Active Pen
- เปิดเครื่องแล้วพร้อมใช้งานด้วย Windows 10 Pro
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่า 10 ชั่วโมง
- หมดห่วงเรื่องความปลอดภัยด้วย Fingerprint และอื่นๆ
- ประกัน 3 ปี มี On-site Service ถึงที่
ข้อสังเกต
- มีราคาที่ค่อนข้างสูกว่าตัวอื่นๆในตลาดเมื่อเทียบในตลาด Ultrabook และ Tablet
Specification
สำหรับสเปคของตัว HP Elite x2 1030 G3 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13 นิ้ว โดยความละเอียดของหน้าจอจะอยู่ที่ 3000 x 2000 พิกเซล ซึ่งทาง HP ได้เคลมมาตรฐานของจอแบบนี้ว่า 3Kx2K โดยสำหรับหน้าจอจะใช้งานพาเนลเป็นแบบ IPS ทำให้ได้รับภาพที่ถูกต้องและชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนกระจกของจอใช้งานเป็น Corning Gorilla ที่จะช่วยทำให้การใช้งานสามารถสบายใจได้เมื่อต้องทำอะไรลงไปบนหน้าจอ
ส่วนสเปคภายในนั้นจะชับเคลื่อนด้วย Intel Core i5-8250U ซึ่งความเร็วจะอยู่ที่ 1.60 GHz และสามารถทำขึ้นไปได้สูงสุดที่ 3.40 GHz โดยจำนวนคอร์ที่มีอยู่ที่ 4 Core 8 Threads ส่วนในเรื่องของแรมจะเป็นแบบขนาด 8 GB ข้างละ 4 GB โดยเป็นแบบ LPDDR3 Bus 2133 MHz ส่วนความจุภายในจะให้มาทั้งหมด 256 GB ซึ่งจะเป็นแบบ SSD M.2 NVMe ทำให้การเข้าถึงสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนอื่นๆจะเป็นในเรื่องของกล้องที่มีขนาด 5 ล้านพิกเซลสำหรับกล้องหน้า ส่วนกล้องหลังจะมีขนาด 8 ล้านพิกเซล โดยจะรองรับการใช้งานแบบจดจำใบหน้าด้วยโปรแกรม Windows Hello ได้ ส่วนพอร์ตการใช้งานจะเป็นแบบ USB Type-C ทั้งหมดใครที่อยากใช้งาน USB 3.0 ธรรมดาคงต้องหาตัวแปลงมาต่อแยกนั้นเอง
สเปคแบบเต็มๆของ HP Elite x2 1030 G3 <<<
Hardware / Design
ในเรื่องของการออกแบบของตัว HP Elite x2 1030 G3 ต้องเรียกว่าน่าประทับใจเลยทีเดียวด้วยน้ำหนักของตัวเครื่องเมื่อรวมคีย์บอร์ดแล้วอยู่ที่ 1.17 กิโลกรัมทำให้ไม่หนักมาก และด้วยความบางที่ 7.9 มืลลืเมตรเมื่อไม่ได้ต่อกับคีย์บอร์ดก็ต้องถือว่าบางใช้ได้เลย สำหรับสีจะเลือกใช้งานเป็นสีเงินด้านทำให้ดูภายนอกหรูหราและพรีเมี่ยมขึ้นมา ซึงรอยต่อต่างๆก็ถือว่าอยู่ในระดับที่เก็บงานได้ดี
สำหรับขาที่ใช้งานในการตั้งเพื่อให้เครื่องใช้งานได้นั้นก็ถือว่าทำออกมาได้แข็งแรงและเลื่อนด้วยตัวเองได้แน่ๆ สำหรับการตั้งก็สามารถปรับมุมให้เหมาะและเข้ากับสายตาได้ โดยองศาที่ปรับได้สูงสุดที่ 150 องศา ในของการทดสอบที่ทาง HP ได้ใช้ทดสอบจะเป็น Military Standard ที่ทำให้เรามั่นใจได้เลยในเรื่องของความทนทานและการป้องกันฝุ่นและน้ำ
สำหรับการใช้งานในในเรื่องของการเชื่อมต่อต่างๆก็นับว่าทำออกมาได้ตอบโจทย์กับยุคสมัยนี้ที่เน้นการใช้งานบนพอร์ต USB Type-C ทำให้ทาง HP ได้นำมาใส่ในเครื่องนี้ด้วยกันถึง 3 พอร์ตเลยทีเดียว แต่อาจจะไม่ถูกใจสำหรับใครที่ต้องการใช้งาน USB แบบธรรมดาทั่วๆไปเพราะตัวเครื่องนี้ได้ตัดทิ้งไปทั้งหมด โดยพอร์ต USB Type-C ที่ให้มาจะรองรับการทำงาน Thunderbolt ด้วย
ในส่วนอื่นๆอย่างพวก Fingerprint ที่สินค้าระดับสูงๆของทาง HP จะใส่มาให้อยู่แล้วเนื่องจากทาง HP ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นอย่างสูง ส่วนการใช้งานต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการถอดคีย์บอร์ดออกแล้วใช้เป็นแท็บเล็ตเพรียวๆ หรือต่อคีย์บอร์ดแล้วใช้งานเป็นโน้ตบุ้คก็นับว่าทำออกมาได้ดีและตอบสนองได้ตรง
ส่วนเรื่องกล้องที่ติดมากับเครื่องก็อยู่ในระดับที่ใช้งานได้เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลอาจจะดูน้อยไปหากเอาไปเทียบกับอุปกรณ์อื่นๆแต่นี้คือโน้ตบุ้คทำให้ความละเอียดขนาดนี้ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานไม่ว่าจะเป็น Video Conference หรือถ่ายขำๆก็พอจะถูไถกันไปได้ ส่วนกล้องหลังก็ถือว่าทำออกมาได้ไม่แย่และไม่ได้เด่นมากครับ
Keyboard / Touchpad
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของตัวเครื่อง HP Elite x2 1030 G3 เลยก็ว่าได้กับคีย์บอร์ดที่สามารถถอดแยกออกจากตัวเครื่องได้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งประสบการณ์ใช้งานได้ดีเลยทีเดียว ส่วนตัวของคีย์บอร์ดก็ถือว่าเป็นรูปแบบเดียวกันกับที่ใช้งานบนเครื่องของ HP เลย ไม่ว่าจะเป็นไฟ LED Backlit ภายใต้ตัวของคีย์บอร์ด หรือจะเป็นปุ่มฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆก็มีมาให้ครบครัน
ส่วนในเรื่องของ Touchpad จากที่ใช้งานต้องบอกว่าจะตอบสนองช้ากว่าความรู้สึกจริงไปเล็กน้อยแต่ไม่ได้เป็นทุกๆการใช้งาน จะมีบางช่วงที่รู้สึกว่ามันช้ากว่าการกระทำไปเล็กน้อย ส่วนในเรื่องของการใช้งานก็ต้องบอกว่าเป็นในทิศทางเดียวกันกับ Touchpad ที่ใช้งานบนเครื่อง HP คือให้ความรู้สึกที่แน่นเมื่อกดไปและไม่มีการแบ่งแยกซ้ายชวาให้เราได้เห็น
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอที่นำมาใช้บนเครื่องนี้จะมีขนาด 13 นิ้ว ที่ความละเอียด 3000 x 2000 พิกเซล โดยสำหรับพาเนลจอจะใช้งานเป็นแบบ IPS ทำให้ได้สีที่สดและชัดทุกมุม ส่วนกระจกที่นำมาใช้งานบนจอนี้ก็จะเป็น Corning Gorilla ที่จะช่วยป้องกันในเรื่องของรอยขีดข่วนที่อาจจะเกิดขึ้นบนหน้าจอได้ สำหรับอัตราส่วนของจอจะเป็นแบบ 3:2 ทำให้ได้พื้นที่ในการใช้งานเต็มๆ
สำหรับการใช้งานบนหน้าจอด้วยการทัชสกรีนก็สามารถทำได้ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยรองรับการใช้งานพร้อมกันทั้งหมด 10 จุดในเวลาเดียวกัน ทำให้ใครที่ต้องการใช้งานในการเล่นเกมที่ต้องมีการใช้หลายๆจุด หมดห่วงในเรื่องนี้ไปได้เลย ส่วนการตอบสนองต่อการใช้งานเมื่อทัชลงไปก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ในส่วนของกล้องที่ติดมากับตัวเครื่องจะมีความละเอียด ของกล้องหน้าอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล ซึ่งในการใช้งานจริงก็สามารถนำไปใช้ในการคุย Video Conference ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร ส่วนในเรื่องของภาพถ่ายในกล้องหน้าก็อยู่ในระดับกลางๆไม่ได้แย่หรือดีอะไร สามารถใช้ปลดล็อคด้วย Windows Hello ได้ ส่วนกล้องหลังที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลก็ถือว่าพอต่อการใช้งาน
ในส่วนของลำโพงของตัวเครื่องจะมีอยู่สองจุดด้วยกัน โดยจะอยู่ที่ส่วนของขอบจอด้านบนทั้งสองข้าง ซึ่งการที่ทาง HP เลือกที่จะติดลำโพงเอาไว้ตรงสองจุดนนี้ก็ทำให้เราได้รับเสียงที่ชัดเจนและไม่มีอะไรมากั้น แถมยังสามารถรับรู้ถึงรายละเอียดของเสียงที่มาได้ว่ามาจากซ้ายหรือขวาอย่างชัดเจน ซึ่งจุดนี้ก็คงต้องยกความดีให้กับทาง Bang & Olufsen ที่จัดการออกมาได้อย่างดี
Connector / Thin And Weight
สำหรับพอร์ตการเชื่อมต่อที่มีมาบนเครื่อง HP Elite x2 1030 G3 จะมาพร้อมกัยพอร์ตที่นิยมใช้กันในปัจจุบันอย่าง USB Type-C ทั้งหมด โดยจะประกอบด้วย USB Type-C ที่รองรับ Thunderbolt จำนวน 2 พอร์ต USB Type-C ที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ช่อง ช่องสำหรับ Audio Jack Combo 1 ช่อง และช่องสำหรับใช้งานซิมที่เป็นแบบ Nano Sim อีก 1 ช่อง ซึ่งจากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าเครื่องนี้เหมาะกับคนที่ไม่ได้ต้องการใช้งานอุปกรณ์เสริมแยกที่เป็นแบบเก่าเท่าไหร่นัก ถ้าหากอยากใช้คงต้องหาตัวแปลงมาเสริมนั้นเอง
ในเรื่องของน้ำหนักและความบางของตัวเครื่องเนื่องจากเป็นโน้ตบุ้คแบบ 2-in-1 ที่สามารถถอดออกจากกันได้ทำให้ในเรื่องของน้ำหนักเมื่อไม่ได้ต่อกับคีย์บอร์ดจะอยู่ที่ 0.82 กิโลกรัม ส่วนหากต่อกับคีย์บอร์ดน้ำหนักจะขึ้นไปอยู่ที่ 1.17 กิโลกรัม ในเรื่องของความบางก็เช่นเดียวกันโดยความบางเมื่อไม่ได้ต่อกับคีย์บอร์ดจะอยู่ที่ 7.9 มิลลิเมตร ถ้าต่อกับคีย์บอร์ดจะเป็น 13.3 มิลลิเมตร ซึ่งก็ถือว่าทำออกมาได้น่าพอใจ
HP Active Pen
สำหรับปากกา HP Active Pen เป็นความร่วมมือกันระหว่างทาง HP และผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้อย่าง Wacom โดยจะมีความคล้ายคลึงกันกับตัวของ Suface Pro 4 โดยความสามารถหลายๆอย่างก็จะมีบน HP Active Pen เช่นเดียวกัน สำหรับปุ่มที่ใช้งานจะแบ่งออกเป็นสองจุดคือด้านข้างและด้านบน ซึ่งสำหรับปุ่มด้านบนจะเอาไว้เรียกใช้งานโปรแกรมอย่าง Windows Ink Workspace ที่ติดมากับเครื่องได้
ในส่วนของสเปคอื่นๆของตัวปากกาสำหรับตัวนี้จะรองรับแรงกดมากถึง 2,048 ระดับ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับระดับได้ในทุกๆการใช้งานเฉกเช่นเดียวกับปากกาของจริง ในส่วนบนของตัว HP Active Pen ยังสามารถใช้งานเป็นยางลบได้ด้วย โดยสำหรับแหล่งพลังงานจะเป็นถ่าน AAAA หนึ่งก้อนที่สามารถใช้ได้นานมากกว่า 8 เดือนเลย เรียกว่าใช้ก้อนเดียวก็สามารถใช้ได้ยาวๆ
Performance / Software
สำหรับตัวของ HP Elite x2 1030 G3 จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Intel Core i5-8250U ที่จะมีความเร็วยืนพื้นที่ 1.60 GHz ขึ้นไปสุดได้ที่ 3.40 GHz มีคอร์ทั้งหมด 4 Core 8 Threadsพร้อมกับชิปออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในความบันเทิง แรม 8 GB ข้างละ 4 GB ประเภท LPDDR3 Bus 2133 MHz
ต่อมาเป็นการทดสอบด้วยโปรแกรม Cinebench R15 ซึ่งจะเป็นการทดสอบทั้งในส่วนของการประมวลผลและกราฟฟิคซึ่งสำหรับเครื่องนี้ที่ให้สเปคมาก็อยู่ในระดับที่ไม่ได้สูงมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเป็นโน้ตบุ้คแบบ 2-in-1 ที่เน้นไปที่การใช้งานทั่วๆไปเสียมากกว่า
ต่อมาเป็นการทดสอบในเรื่องของความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวเนื่องจาก อุปกรณ์ที่นำมาใช้งานเป็น SSD ขนาด 256 GB แบบ M.2 NVMe โดยค่า Read ทำได้ 1782.3 MB/s และค่า Write ทำได้ 814.6 MB/s
ถัดมาเป็นส่วนของการทดสอบการใช้งานทั่วๆไปที่เราๆทุกคนต้องใช้กัน โดยโปรแกรมที่ใช้ในการทดสอบคือ PCMark 10 ที่จะเป็นตัวทดสอบแทนเรา ซึ่งคะแนนที่ได้ออกมาก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเอาเรื่องเลย
สำหรับในทุกๆเครื่องของทาง HP จะมีชุดโปรแกรมที่ทาง HP ได้ติดตั้งมาให้แล้วมากมายอย่างเช่น HP Support Assistant ที่จะให้ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูลของเครื่องได้เปรียบเสมือนศูนย์กลางในการเข้าถึงข้อมูล หรือจะเป็น HP PhoneWise ที่สามารถแปลงเครื่องให้สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ และอื่นๆ
ในส่วนสุดท้ายนี้จะขอเล่าเป็นประสบการณ์การใช้งานดีกว่า เนื่องจากว่าตัวเครื่องเป็นแบบ 2-in-1 ที่สามารถถอดออกจากกันได้ ทำให้การที่ใครจะเอาไปใช้งานเล่นเกมที่ต้องต่อเม้าส์หรือคีย์บอร์ดแยกคงลืมไปได้เลย เพราะคุณจะต้องใช้ตัวแปลงมาช่วยซึ่งคงจะหมดอารมณ์กันไป แต่สำหรับใครที่ไม่ได้สนใจส่วนนั้นแล้วใช้ในการทำงานทั่วๆไป ดูคลิปจาก YouTube หรือ Facebook ก็สามารถทำได้ดีเลยทีเดียว
Battery / Heat / Noise
สำหรับแบตเตอรี่ที่มีมาให้ใช้งานหมดตัว HP Elite x2 1030 G3 ก็ถือว่าทำออกมาได้นานพอสมควรเลยโดยสำหรับระยะเวลาจะอยู่ที่ราวๆ 10 ชั่วโมงและจะแปรเปลี่ยนไปตามการใช้งานของผู้ใช้นั้นเอง
ในส่วนของอุณหภูมิของตัวเครื่องก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเนื่องจากการที่เป็นโน้ตบุ้คที่สามารถถอดออกได้ทำให้เวลาใช้งานคู่กับคีย์บอร์ดจะไม่ได้รับรู้ถึงอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปเลย ส่วนการใช้งานหนักๆทดสอบอุณหภูมิจะขึ้นไปสูงสุดที่ 87 องศา
Conclusion / Award
สำหรับ HP Elite x2 1030 G3 ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโน้ตบุ้ค 2-in-1 แบบ Detachable ที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกับตัวของผู้ใช้ได้อย่างเหมาะสม ด้วยหน้าจอที่มีขนาด 13 นิ้ว ทำให้การพกพาไปที่ใดก็สะดวกพร้อมกับหน้าจอที่มาบนความละเอียด 3000 x 2000 พิกเซลก็ช่วยให้เราได้รับภาพที่คมและชัดขึ้รกว่า Full-HD ยิ่งมาคู่กับพาเนล IPS ยิ่งได้รับความชัดในทุกๆมุมมอง โดยหน้าจอสามารถรองรับการทัชได้มากถึง 10 จุด และมี HP Active Pen ให้ใช้งาน
ในส่วนของการใช้งานทั้งในโหมดโน้ตบุ้คและแท็บเล็ต ก็ถือว่าทำออกมาให้ใช้งานได้อย่างดี เนื่องจากขาตั้งที่อยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง มีความแข็งแรงและได้รับการการันตีจากทาง HP มาแล้วว่าจะกางกี่ครั้งก็จะได้ความรู้สึกเหมือนกับการกางครั้งแรก ซึ่งเมื่อได้ลองใช้งานก็พบว่าเป็นเรื่องจริง ในส่วนของระดับการปรับของขาตั้งก็จะอยู่ที่ 150 องศาซึ่งถือว่าเพียงพอแล้วต่อการใช้งานในทุกๆรูปแบบ
สำหรับใครที่เบื่อความยุ่งยากทาง HP ก็มีชุด Software ที่จะมาคอยช่วยเหลือให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง ในส่วนต่างๆของเครื่องได้อย่างไม่ยากเย็นโดยสำหรับ ตัวเครื่อง HP Elite x2 1030 G3 ก็จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ที่จะรองรับทุกๆการใช้งานของผู้ใช้ได้ตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมกับความปลอดภัยด้วยการปลดล็อคได้ทั้งจากการใช้งาน Fingerprint หรือจะผ่าน Windows Hello ก็ได้เช่นเดียวกัน
จุดเด่น
- เป็นโน้ตบุ้คแบบ 2-in-1 ที่เหมาะกับการใช้งานในทุกๆสถานการณ์
- จอความละเอียด 3000 x 2000 พิกเซลทำให้ได้รับภาพที่คมชัดยิ่งกว่าเดิม
- เลือกใช้งานพาเนลจอแบบ IPS ทำให้ได้รับภาพชัดในทุกๆมุม
- Intel Core i5 เอาอยู่ในทุกๆโหมดการทำงาน
- ใช้งาน SSD ทำให้เข้าถึงทุกๆไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว
- มาพร้อมกับปากกาก HP Active Pen
- เปิดเครื่องแล้วพร้อมใช้งานด้วย Windows 10 Pro
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่า 10 ชั่วโมง
- หมดห่วงเรื่องความปลอดภัยด้วย Fingerprint และอื่นๆ
- ประกัน 3 ปี มี On-site Service ถึงที่
ข้อสังเกต
- มีราคาที่ค่อนข้างสูกว่าตัวอื่นๆในตลาดเมื่อเทียบในตลาด Ultrabook และ Tablet