Review – HP EliteBook x360 1030 G3 ตอบสนองทุกๆ ไลฟ์สไตล์การใช้งานด้วยโน้ตบุ้ค 2-in-1

สำหรับใครที่กำลังมองหาโน้ตบุ้คที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการทำงานและความบันเทิง คงต้องมองหาโน้ตบุ้คที่มาในรูปแแบบของ 2-in-1 ที่สามารถปรับไปใช้งานได้ทั้งโหมดโน้ตบุ้คและโหมดแท็บเล็ต แต่หากจะหารุ่นดีๆ ราคาก็ย่อมสูงตามไปแถมไม่รู้ว่าซื้อมาแล้วจะเข้ากับตัวเองไหม วันนี้ผมจะมาแนะนำ HP EliteBook x360 1030 G3 ที่เป็นโน้ตบุ้คแบบ 2-in-1 เหมาะกับทุกการใช้งาน

โดยสำหรับจุดเด่นของตัวนี้จะเป็นในเรื่องของโหมดการทำงานที่สามารถปรับได้แบบ 2-in-1 แถมสเปคที่มาภายในก็เป็น Intel Gen 8 อย่าง Core i5-8250U ที่จะรองรับการใช้งานแบบเหลือๆสำหรับทั้งสองโหมดการทำงาน อีกทั้งยังมีแรมมาให้ 8 GB รวมถึง SSD แบบ M.2 NVMe ที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงทุกการใช้งานอย่างรวดเร็ว เอาละมาดูกันเลยดีกว่า

Specification

ในเรื่องของสเปคของตัว HP EliteBook x360 1030 G3 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ที่มีอิสระในการปรับองศาได้ 360 องศา สามารถพับเพื่อใช้งานได้อย่างเต็มที่ มาพร้อมกับหน้าขอความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full-HD โดยสำหรับอัตราส่วนของหน้าจอจะเป็นแบบ 16:9 ในเรื่องของพาเนลของจอจะใช้งานเป็น IPS ที่จะช่วยให้ได้รับสีที่สดและชัดเจนในทุกๆมุมมอง

สเปคภายในที่ให้มากับตัวเครื่องจะใช้งานเป็น Intel Core i5-8250U ที่จะสามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 3.40 GHz โดยมีจำนวนคอร์ที่ใช้งานทั้งหมด 4 Core 8 Threads สำหรับ L3 จะให้มาที่ 6 MB ในเรื่องของชิปกราฟฟิคจะเป็นแบบออนบอร์ด Intel UHD Graphics 620 ส่วนแรมจะให้มา 8 GB ข้างละ 4 GB แบบ LPDDR3 Bus 2133 MHz ความจุภายในเป็นแบบ SSD M.2 NVMe ขนาด 256 GB

สำหรับส่วนอื่นๆอย่างกล้องที่ติดมาจะมีความละเอียดแบบ 1920 x 1080 พิกเซล มีจุดสำหรับให้ใช้งานในการสแกนลายนิ้วมือ มี NFC ไว้สำหรับถ่ายโอนข้อมูลกับมือถือที่รองรับได้ พอร์ตการใช้งานคล้อยตามกับกระแสปัจจับนคือ USB Type-C แบบ Thunderbolt ให้มา 2 ช่อง USB 3.1 ให้มา 1 ช่อง รูสำหรับ Audio Jack Combo 1 ช่อง HDMI 1.4 มา 1 ช่อง พร้อมกับ Windows 10 Pro พร้อมใช้งาน

หน้าสเปคของ HP EliteBook x360 1030 G3 <<<

Hardware / Design

ในด้านการดีไซน์ของตัว HP EliteBook x360 1030 G3 ถือว่าถูกออกแบบมาให้ใช้งานในหลายๆด้านโดยเน้นไปที่ด้านเชิงธุรกิจและพาณิชย์เป็นหลัก เพราะด้วยความบางที่ 15.8 มิลลิเมตร กับน้ำหนักเพียง 1.25 กิโลกรัม ทำให้ง่ายต่อการพกพาไปในที่ต่างๆ โดยตัวเครื่องจะใช้งานเป็นสีเงินแบบด้านที่จะช่วยให้ดูมีความพรีเมี่ยมและหรูหราแตกต่างจากเครื่องอื่นๆ

โดยสำหรับตัวเครื่องหากจะให้พูดถือว่าถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้เหมาะมากในรูปแบบของ 2-in-1 ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในโหมดใดก็ตามก็สามารถทำออกมาได้อยู่ในระดับที่ดี สามารถนำไปเทียบกับ Ultrabook หลายๆรุ่นได้เลยก็ว่าได้ เพราะจุดเด่นในเรื่อง 2-in-1 และการประหยัดพื้นที่ จุดสำคัญจริงๆน่าจะเป็นเรื่องของความเบาที่ใครๆก็พกพาไปได้

สำหรับหน้าจอของตัวเครื่องที่มีขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full-HD ก็ให้สีสันที่สวยงามและคมชัดใช้ได้เลย โดยกระจกที่เลือกนำมาใช้งานบนเครื่องนี้จะเป็น Corning Gorilla ที่จะช่วยในเรื่องของการป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน ส่วนในเรื่องของการสะท้อนของแสงก็ถือว่ายังมีอยู่บ้างแต่ไม่ได้มากเท่าตัวอื่นๆ โดยปุ่ม Power ก็ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับ 2-in-1 ด้วยการย้ายไปอยู่ขอบซ้ายของตัวเครื่อง ก็เหมือนกับการที่เราใช้งานสมาร์ทโฟนที่ปุ่ม Power จะไปอยู่ด้านข้างตัวเครื่องนั้นเอง

ส่วนอื่นๆของเครื่องอย่างด้านล่างก็จะมียางสำหรับรองเอาไว้เป็นแถบยาว ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะไปขีดกับอะไรด้านล่างได้เลย ส่วนของ Touchpad ก็จะมีจุดไว้สำหรับใช้งาน NFC เพื่อคนที่ต้องการใช้งานก็ไม่ต้องไปมองหาที่จุดอื่น ส่วนลำโพงจะอยู่ด้านข้างของคีย์บอร์ดทั้งสองข้าง ช่วยในเรื่องการได้ยินและตำแหน่งได้ดี โดยที่ใครจริงจังกับเรื่องความปลอดภัยในการเข้าใช้งานเครื่อง ทางตัว HP EliteBook x360 1030 G3 ก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วย โดยเขาได้ใส่จุดสำหรับไว้ใช้งานในการสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งานเครื่อง แน่นอนว่าการเข้าถึงเครื่องด้วยวิธีการแบบนี้ย่อมดีกว่าการกรอกรหัสผ่านเพื่อใช้งานเป็นไหนๆ

Keyboard / Touchpad

สำหรับคีย์บอร์ดของ HP EliteBook x360 1030 G3 จะมาในรูปแบบของมาตรฐานที่ใช้งานกันทั่วๆไปบนโน้ตบุ้ค โดยจะเป็นการตัด Numpad ออกนั้นเอง ในเรื่องของปุ่มและสัมผัสเมื่อกดลงไปจะให้ความรู้สึกแน่นๆ ยิ่งพิมพ์ยิ่งเข้ามือ โดยด้านล่างของปุ่มแต่ละปุ่มจะมีไฟ LED Backlit เพื่อใช้งานในที่ต่างๆได้มากขึ้นไปอีก โดยตำแหน่งการวาง Layout ของแต่ละปุ่มก็ทำออกมาได้เหมาะสมกับการใช้งาน มีการเว้นช่องไฟให้พอเหมาะทำให้ผิดพลาดในการพิมพ์

ลองมาดูกันในส่วนของ Touchpad โดยตัวนี้จะไม่มีการมาร์คตำแหน่งด้วยเส้นหรือปุ่มใดๆเลย จะเป็นแบบแผ่นเดียวติดตั้งมา สำหรับการใช้งานก็อยู่ในระดับที่สามารถใช้งานได้ สำหรับการใช้งาน Touchpad ตัวเครื่องจะมี Software ที่คอยบอกว่าเราใช้งานคีย์บอร์ดอยู่หรือเปล่า ก็ถือว่าจัดการออกมาได้เหมาะสม ในส่วนของการใช้งาน Gesture ต่างๆก็ทำออกมาได้ตามที่ระบุไว้ไม่ว่าจะเป็นการสลับเปลี่ยนโปรแกรมที่ใช้งานด้วยการใช้ 3 นิ้วปัด ก็ตอบสนองออกมาได้ไม่ผิดเพี้ยนจากที่กล่าวอ้าง

Screen / Speaker

หน้าจอของ HP EliteBook x360 1030 G3 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full-HD โดยสำหรับพาเนลของตัวจอจะใช้งานเป็นแบบ IPS ทำให้ภาพที่ได้มีความชัดเจนและสีที่น่าพอใจ ในส่วนของกระจกหน้าจอจะใช้งานเป็น Corning Gorilla ที่จะช่วยป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนได้ โดยการใช้งานบนหน้าจอ 13.3 นิ้ว

โดยในการใช้งานเนื่องจากเป็นโน้ตบุ้คแบบ 2-in-1 ทำให้ต้วหน้าจอรองรับการใช้งานแบบทัชสกรีน ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน โดยส่วนตัวแล้วเมื่อได้ลองใช้ก็จะพบว่าการที่มีหน้าจอที่สามารถทัชสกรีนได้ นับว่าช่วยได้ดีสำหรับคนที่ขี้เกียจใช้งาน Touchpad ในบางช่วงจังหวะของการทำงาน

ในการทดสอบด้วยโปรแกรมอย่าง Spyder 5 Elite ขอบเขตสีที่แสดงออกมาจะอยู่ที่ sRGB 84 % ซึ่งอยู่ในระดับที่สามารถใช้งานได้ ส่วนความสว่างของแสงจะอยู่ที่ 400 cd/m2 โดยสำหรับค่านี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยสำหรับการนำออกไปใช้งานนอกสถานที่

ในการแสดงผลของแสงผลออกมาว่าในส่วนที่ได้ 0 % จะเป็นในส่วนของขอบบนของหน้าจอที่สามารถแสดงผลออกมาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ส่วนในพื้นที่อื่นๆถือว่าเริ่มๆดร็อปลงมา โดยคะแนนสรุปทั้งหมดจากการทดสอบจะอยู่ที่ 4 คะแนน

ในเรื่องของลำโพงนั้นจะได้ Bang & Olufsen มาช่วยดูแลทำให้เสียงที่ได้อยู่ในระดับที่น้าพอใจกว่าตัวอื่นๆ โดยเครื่องนี้จะมาพร้อมกับลำโพงทั้งหมด 4 ตัวประกอบด้วยด้านซ้ายและขวาของคีย์บอร์ดอย่างละตัว และด้านล่างของตัวเครื่องฝั่งละ 2 ตัว ส่วนของรายละเอียดของเนื้อเสียงจะอยู่ในระดับกลางๆไม่ได้เด่นไปโทนใดโทนหนึ่ง

Using Experience

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า HP EliteBook x360 1030 G3 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร

Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ

Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน

Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้

Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้

สำหรับการใช้งานในการพับและกางตัวจอก็ต้องบอกว่าไม่ต้องกังวลว่าจอจะพังหรือไม่ เพราะตัวเครื่องมีการทดสอบออกมาเรียบร้อยแล้วไม่ว่าจะพับหรือกางก็จะให้ความรู้สึกเหมือนกับการลองทำครั้งแรก ทำให้ผู้ใช้งานหมดกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้ไปได้เลย โดยที่บานพับสแตนเลสนี้ผ่านบททดสอบสุดทรหดด้วยการเปิดปิดกว่า 25,000 ครั้ง และการหมุนรอบ 360 องศา อีกกว่า 7,000 ครั้ง

ส่วนใครที่มองหาโน้ตบุ้คในรูปแบบ 2-in-1 ก็ถือว่า HP EliteBook x360 1030 G3 สามารถตอบโจทย์การทำงานออกมาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความลื่นไหลจากหน่วยประมวลผลอย่าง Intel Core i5-8250U ที่จะคอยช่วยเหลือคุณไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเอกสาร ดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลง ก็ถือว่าตอบสนองได้เป็นอย่างดี ในเรื่องของการใช้งานรูปแบบโหมดต่างๆ ก็สามารถทำงานได้อย่างไม่มีติดขัด สำหรับการใช้งานโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro และการสลับไปใช้งานในโหมด Tablet ก็ถือว่าทำออกมาได้ลงตัวสามารถใช้งานสลับกันไปมาได้ง่าย

Connector / Thin And Weight

เรื่องของพอร์ตการเชื่อมต่อบน HP EliteBook x360 1030 G3 ถือว่าให้มาเพื่อรองรับการใช้งานในกระแสนิยมปัจจุบัน โดยจะมาพร้อมกับพอร์ต USB Type-C ที่รองรับ Thunderbolt จำนวน 2 พอร์ต USB 3.1 มีมาให้ใช้งานจำนวน 1 พอร์ต รู 3.5 มิลลิเมตร สำหรับการใช้งานแบบ Audio Jack Combo อีก 1 ช่อง พอร์ต HDMI 1.4 จำนวน 1 พอร์ต และช่องสำหรับใส่ซิมแบบ Nano Sim จำนวน 1 ช่อง โดยจุดที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่างคือมี Fingerprint สำหรับการใช้งานในการปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือเพื่อเข้าสู่ระบบ

สำหรับเรื่องของการเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายต่างๆก็รองรับ Wireless แบบ AC ส่วน Bluetooth จะรองรับมาตรฐาน 4.2 รวมไปถึงการใช้งาน NFC ด้วยเช่นเดียวกัน ในเรื่องของอัตราส่วนของเครื่องจะเป็น 30.58 x 20.5 x 1.58 cm โดยที่น้ำหนักจะหนักเพียง 1.25 กิโลกรัม ซึ่งก็ถือว่ามีขนาดกระทัดรัด เบา และตอบโจทย์ในการเชื่อมต่อ ทำให้ง่ายต่อการพกพาไปใช้งานในสถานที่ต่างๆได้อย่างไม่ยากเย็น หรือจะเป็นการใช้งานอยู่กับที่ก็ตอบโจทย์ได้เช่นเดียวกัน

Performance / Software

HP EliteBook x360 1030 G3 เครื่องนี้จะมาพร้อมกับชิปเซ็ตประมวลผลอย่าง Intel Core i5-8250U ที่ความเร็วพื้นฐาน 1.60 GHz และสามารถขึ้นไปได้สูงสุดที่ 3.40 GHz มีจำนวนคอร์ทั้งหมด 4 Core 8 Threads โดยแรมที่ให้มามีขนาด 8 GB ข้างละ 4 GB เป็นแบบ LPDDR3 Bus 2133 MHz ส่วนชิปกราฟฟิคจะเป็น Intel UHD Graphics 620 ซึ่งก็ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของการทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม Cinebench R15 ที่จะทดสอบทั้งการประมวลผลและกราฟฟิคก็ถือว่าทำออกมาได้กลางๆไม่ได้ดู โดดเด่นมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากซีพียูเป็นรุ่นประหยัดพลังงานจึงมีส่วนในเรื่องนี้ด้วย

ในเรื่องการทดสอบความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลของตัวเครื่อง ก็ถือว่าทำออกมาได้ในระดับที่น่าพึ่งพอใจด้วยค่า Read 808.6 MB/s และค่า Write 330.8 MB/s ทำให้การเข้าถึงไฟล์ข้อมูลต่างๆทำได้อย่างรวดเร็วกว่าทั่วๆไป

ในส่วนของการทดสอบด้วยโปรแกรม PCMark 10 ที่จะเป็นการทดสอบเพื่อให้ได้ค่าตัวเลขออกมาจากการประเมินการใช้งานทั่วๆไปอย่างเข้าเว็บ แต่งรูป งานเอกสาร และอื่นๆ ก็ถือว่าทำคะแนนออกมาได้อยู่ในระดับที่ใช้ได้เลยทีเดียว

มาดูในส่วนของการทดสอบการเล่นเกมโดยจะทดสอบไปที่การเล่นเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 และ Overwatch เป็นหลัก ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าการเล่นเกมอย่าง DOTA 2 สามารถทำออกมาได้อย่างไม่มีปัญหาแต่ Overwatch จะมีอาการกระตุกและเฟรมดร็อปในบางช่วง อาจจะต้องปรับความละเอียดลงไปอีกหากต้องการเล่นอย่างลื่นไหล

ต่อมาเป็นส่วนของชุด Software ที่ทาง HP ให้มากับทุกๆเครื่องของเขาอย่าง HP Support Assistant ที่จะช่วยในเราในเรื่องของการใช้งานพื้นฐานและข้อมูลต่างๆที่จำเป็นของเครื่องไม่ว่าจะเป็นการดูอัพเดทไดรเวอร์ต่างๆ หรือจะเป็นการตรวจสอบสเปคของเครื่องก็สามารถทำได้ อีกโปรแกรมที่น่าสนใจก็คือ HP PhoneWise ที่เราจะะสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของเราเพื่อที่จะใช้ในการรับส่งข้อความ การแจ้งเตือนหรือการรับและโทรศัพท์ได้

Battery / Heat / Noise

ในเรื่องของแบตเตอรี่ที่ให้มาบนเครื่อง HP EliteBook x360 1030 G3 ก็ถือว่าทำออกมาได้ให้เหมาะสมกับเครื่องแบบ 2-in-1 โดยเวลาที่สามารถใช้งานได้จะอยู่ที่ราวๆ 25 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะเปลี่ยนไปได้ตามความหนักของการใช้งานแล้วแต่ผู้ใช้แต่ละคนครับ

ถัดมาเป็นเรื่องของอุณหภูมิที่อยู่ในระดับที่ไม่ร้อนมากประกอบกับตำแหน่งของพัดลมระบายอากาศ ที่อยู่บริเวณของขอบเครื่องในส่วนข้อพับ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาในส่วนนี้ โดยความร้อนสูงสุดจะขึ้นไปอยู่ที่ 81 องศา ซึ่งโอกาสจะขึ้นไปถึงจุดนั้นก็ถือว่ายากมากหากเทียบกับจุดประสงค์ในการใช้งานของตัวเครื่อง

Conclusion / Award

สำหรับการใช้งาน HP EliteBook x360 1030 G3 ก็ต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งโน้ตบุ้คแบบ 2-in-1 ที่น่าสนใจเลยทีเดียว จากที่ได้ลองใช้งานดูก็พบว่าไม่มีปัญหาและลื่นไหลมากกว่าที่หัวคิดเอาไว้ตอนแรก ในส่วนของการใช้งานเป็นโน้ตบุ้คปกติก็ทำออกมาได้น่าพอใจ ส่วนยิ่งเมื่อแปลงร่างกลายมาเป็นแท็บเล็ตยิ่งน่าประทับใจเข้าไปอีก โดยการใช้งานดูหนังหรืออ่าน E-Book เป็นอะไรที่น่าสนใจและต้องชื่นชมเลย

สำหรับสเปคที่ใส่ลงมาในเครื่องหากเราคิดเล่นๆว่ามันเป็นเพียง Intel Core i5 ก็อาจจะต้องเปลี่ยนความคิดเพราะสำหรับเครื่องนี้ซีพียูตัวนี้เอาอยู่หมัดเลย ในส่วนของการใช้งานภาพรวมแล้วก็ถือว่าทำได้ตามที่สเปคที่ระบุไว้ การเล่นเกมอาจจะไม่ใช่สิ่งหลักที่คนที่เลือกซื้อโน้ตบุ้คแบบนี้ฝันหาเอาไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งสิ่งที่ให้มาก็ถือว่าเหมาะสมเพียงพอแล้ว

ส่วนจุดที่น่าคิดสำหรับเครื่องนี้จากที่ได้ใช้งานคงจะเป็นเรื่องของโหมด Tablet ที่หากเราจะใช้งานโดยถือแล้วใช้งาน อาจจะได้รับสัมผัสที่แปลกๆไปเสียหน่อยที่มือเราจะต้องไปโดนปุ่มคีย์บอร์ดในบางจุด ซึ่งจริงๆถือว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะเครื่องจะทำการล็อคคีย์บอร์ดเมื่อเราใช้งานในโหมดอื่นๆอยู่แล้ว ส่วนราคาของเครื่องนี้จะอยู่ที่ 58,590 บาท โดยหากใครสนใจก็สามารถหาซื้อได้แล้วที่ร้านหรือเว็บไซต์ของทาง HP นั้นเอง

ข้อดี

• โน้ตบุ้คแบบ 2-in-1 ทำให้รองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
• วัสดุที่ใช้ในการประกอบเครื่องอยู่ในระดับที่ดั
• หน้าจอ 13.3 นิ้ว รองรับการใช้งานทัชสกรีน
• ความละเอียดหน้าจอ Full-HD พาเนลที่ใช้เป็น IPS ทำให้ได้สีที่จริงยิ่งขึ้น
• รองรับการใช้งาน Fingerprint เพื่อปลดล็อค
• Intel Core i5 ดีกว่าที่คาดเอาไว้
• ใช้งานความจำภายในแบบ SSD ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่าตัวอื่นๆ
• รองรับ NFC สำหรับการใช้งานโอนถ่ายผ่านสมาร์โฟน
• มีปากกาแถมมาให้ด้วยสำหรับการใช้งานจดหรือวาด
• ซื้อแล้วใช้งานได้ทันทีด้วย Windows 10 Pro
• รับประกัน 3 ปี มีบริการ On-site services ถึงที่

ข้อสังเกต

• ราคาอาจจะสูงไปเล็กน้อยหากเทียบกับสเปค
• ไม่สามารถอัพเกรดอะไรได้ในภายหลัง

Specification

ในเรื่องของสเปคของตัว HP EliteBook x360 1030 G3 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ที่มีอิสระในการปรับองศาได้ 360 องศา สามารถพับเพื่อใช้งานได้อย่างเต็มที่ มาพร้อมกับหน้าขอความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full-HD โดยสำหรับอัตราส่วนของหน้าจอจะเป็นแบบ 16:9 ในเรื่องของพาเนลของจอจะใช้งานเป็น IPS ที่จะช่วยให้ได้รับสีที่สดและชัดเจนในทุกๆมุมมอง

สเปคภายในที่ให้มากับตัวเครื่องจะใช้งานเป็น Intel Core i5-8250U ที่จะสามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 3.40 GHz โดยมีจำนวนคอร์ที่ใช้งานทั้งหมด 4 Core 8 Threads สำหรับ L3 จะให้มาที่ 6 MB ในเรื่องของชิปกราฟฟิคจะเป็นแบบออนบอร์ด Intel UHD Graphics 620 ส่วนแรมจะให้มา 8 GB ข้างละ 4 GB แบบ LPDDR3 Bus 2133 MHz ความจุภายในเป็นแบบ SSD M.2 NVMe ขนาด 256 GB

สำหรับส่วนอื่นๆอย่างกล้องที่ติดมาจะมีความละเอียดแบบ 1920 x 1080 พิกเซล มีจุดสำหรับให้ใช้งานในการสแกนลายนิ้วมือ มี NFC ไว้สำหรับถ่ายโอนข้อมูลกับมือถือที่รองรับได้ พอร์ตการใช้งานคล้อยตามกับกระแสปัจจับนคือ USB Type-C แบบ Thunderbolt ให้มา 2 ช่อง USB 3.1 ให้มา 1 ช่อง รูสำหรับ Audio Jack Combo 1 ช่อง HDMI 1.4 มา 1 ช่อง พร้อมกับ Windows 10 Pro พร้อมใช้งาน

หน้าสเปคของ HP EliteBook x360 1030 G3 <<<

Hardware / Design

ในด้านการดีไซน์ของตัว HP EliteBook x360 1030 G3 ถือว่าถูกออกแบบมาให้ใช้งานในหลายๆด้านโดยเน้นไปที่ด้านเชิงธุรกิจและพาณิชย์เป็นหลัก เพราะด้วยความบางที่ 15.8 มิลลิเมตร กับน้ำหนักเพียง 1.25 กิโลกรัม ทำให้ง่ายต่อการพกพาไปในที่ต่างๆ โดยตัวเครื่องจะใช้งานเป็นสีเงินแบบด้านที่จะช่วยให้ดูมีความพรีเมี่ยมและหรูหราแตกต่างจากเครื่องอื่นๆ

โดยสำหรับตัวเครื่องหากจะให้พูดถือว่าถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้เหมาะมากในรูปแบบของ 2-in-1 ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในโหมดใดก็ตามก็สามารถทำออกมาได้อยู่ในระดับที่ดี สามารถนำไปเทียบกับ Ultrabook หลายๆรุ่นได้เลยก็ว่าได้ เพราะจุดเด่นในเรื่อง 2-in-1 และการประหยัดพื้นที่ จุดสำคัญจริงๆน่าจะเป็นเรื่องของความเบาที่ใครๆก็พกพาไปได้

สำหรับหน้าจอของตัวเครื่องที่มีขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full-HD ก็ให้สีสันที่สวยงามและคมชัดใช้ได้เลย โดยกระจกที่เลือกนำมาใช้งานบนเครื่องนี้จะเป็น Corning Gorilla ที่จะช่วยในเรื่องของการป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน ส่วนในเรื่องของการสะท้อนของแสงก็ถือว่ายังมีอยู่บ้างแต่ไม่ได้มากเท่าตัวอื่นๆ โดยปุ่ม Power ก็ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับ 2-in-1 ด้วยการย้ายไปอยู่ขอบซ้ายของตัวเครื่อง ก็เหมือนกับการที่เราใช้งานสมาร์ทโฟนที่ปุ่ม Power จะไปอยู่ด้านข้างตัวเครื่องนั้นเอง

ส่วนอื่นๆของเครื่องอย่างด้านล่างก็จะมียางสำหรับรองเอาไว้เป็นแถบยาว ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะไปขีดกับอะไรด้านล่างได้เลย ส่วนของ Touchpad ก็จะมีจุดไว้สำหรับใช้งาน NFC เพื่อคนที่ต้องการใช้งานก็ไม่ต้องไปมองหาที่จุดอื่น ส่วนลำโพงจะอยู่ด้านข้างของคีย์บอร์ดทั้งสองข้าง ช่วยในเรื่องการได้ยินและตำแหน่งได้ดี โดยที่ใครจริงจังกับเรื่องความปลอดภัยในการเข้าใช้งานเครื่อง ทางตัว HP EliteBook x360 1030 G3 ก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วย โดยเขาได้ใส่จุดสำหรับไว้ใช้งานในการสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งานเครื่อง แน่นอนว่าการเข้าถึงเครื่องด้วยวิธีการแบบนี้ย่อมดีกว่าการกรอกรหัสผ่านเพื่อใช้งานเป็นไหนๆ

Keyboard / Touchpad

สำหรับคีย์บอร์ดของ HP EliteBook x360 1030 G3 จะมาในรูปแบบของมาตรฐานที่ใช้งานกันทั่วๆไปบนโน้ตบุ้ค โดยจะเป็นการตัด Numpad ออกนั้นเอง ในเรื่องของปุ่มและสัมผัสเมื่อกดลงไปจะให้ความรู้สึกแน่นๆ ยิ่งพิมพ์ยิ่งเข้ามือ โดยด้านล่างของปุ่มแต่ละปุ่มจะมีไฟ LED Backlit เพื่อใช้งานในที่ต่างๆได้มากขึ้นไปอีก โดยตำแหน่งการวาง Layout ของแต่ละปุ่มก็ทำออกมาได้เหมาะสมกับการใช้งาน มีการเว้นช่องไฟให้พอเหมาะทำให้ผิดพลาดในการพิมพ์

ลองมาดูกันในส่วนของ Touchpad โดยตัวนี้จะไม่มีการมาร์คตำแหน่งด้วยเส้นหรือปุ่มใดๆเลย จะเป็นแบบแผ่นเดียวติดตั้งมา สำหรับการใช้งานก็อยู่ในระดับที่สามารถใช้งานได้ สำหรับการใช้งาน Touchpad ตัวเครื่องจะมี Software ที่คอยบอกว่าเราใช้งานคีย์บอร์ดอยู่หรือเปล่า ก็ถือว่าจัดการออกมาได้เหมาะสม ในส่วนของการใช้งาน Gesture ต่างๆก็ทำออกมาได้ตามที่ระบุไว้ไม่ว่าจะเป็นการสลับเปลี่ยนโปรแกรมที่ใช้งานด้วยการใช้ 3 นิ้วปัด ก็ตอบสนองออกมาได้ไม่ผิดเพี้ยนจากที่กล่าวอ้าง

Screen / Speaker

หน้าจอของ HP EliteBook x360 1030 G3 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full-HD โดยสำหรับพาเนลของตัวจอจะใช้งานเป็นแบบ IPS ทำให้ภาพที่ได้มีความชัดเจนและสีที่น่าพอใจ ในส่วนของกระจกหน้าจอจะใช้งานเป็น Corning Gorilla ที่จะช่วยป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนได้ โดยการใช้งานบนหน้าจอ 13.3 นิ้ว

โดยในการใช้งานเนื่องจากเป็นโน้ตบุ้คแบบ 2-in-1 ทำให้ต้วหน้าจอรองรับการใช้งานแบบทัชสกรีน ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน โดยส่วนตัวแล้วเมื่อได้ลองใช้ก็จะพบว่าการที่มีหน้าจอที่สามารถทัชสกรีนได้ นับว่าช่วยได้ดีสำหรับคนที่ขี้เกียจใช้งาน Touchpad ในบางช่วงจังหวะของการทำงาน

ในการทดสอบด้วยโปรแกรมอย่าง Spyder 5 Elite ขอบเขตสีที่แสดงออกมาจะอยู่ที่ sRGB 84 % ซึ่งอยู่ในระดับที่สามารถใช้งานได้ ส่วนความสว่างของแสงจะอยู่ที่ 400 cd/m2 โดยสำหรับค่านี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยสำหรับการนำออกไปใช้งานนอกสถานที่

ในการแสดงผลของแสงผลออกมาว่าในส่วนที่ได้ 0 % จะเป็นในส่วนของขอบบนของหน้าจอที่สามารถแสดงผลออกมาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ส่วนในพื้นที่อื่นๆถือว่าเริ่มๆดร็อปลงมา โดยคะแนนสรุปทั้งหมดจากการทดสอบจะอยู่ที่ 4 คะแนน

ในเรื่องของลำโพงนั้นจะได้ Bang & Olufsen มาช่วยดูแลทำให้เสียงที่ได้อยู่ในระดับที่น้าพอใจกว่าตัวอื่นๆ โดยเครื่องนี้จะมาพร้อมกับลำโพงทั้งหมด 4 ตัวประกอบด้วยด้านซ้ายและขวาของคีย์บอร์ดอย่างละตัว และด้านล่างของตัวเครื่องฝั่งละ 2 ตัว ส่วนของรายละเอียดของเนื้อเสียงจะอยู่ในระดับกลางๆไม่ได้เด่นไปโทนใดโทนหนึ่ง

Using Experience

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า HP EliteBook x360 1030 G3 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร

Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ

Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน

Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้

Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้

สำหรับการใช้งานในการพับและกางตัวจอก็ต้องบอกว่าไม่ต้องกังวลว่าจอจะพังหรือไม่ เพราะตัวเครื่องมีการทดสอบออกมาเรียบร้อยแล้วไม่ว่าจะพับหรือกางก็จะให้ความรู้สึกเหมือนกับการลองทำครั้งแรก ทำให้ผู้ใช้งานหมดกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้ไปได้เลย โดยที่บานพับสแตนเลสนี้ผ่านบททดสอบสุดทรหดด้วยการเปิดปิดกว่า 25,000 ครั้ง และการหมุนรอบ 360 องศา อีกกว่า 7,000 ครั้ง

ส่วนใครที่มองหาโน้ตบุ้คในรูปแบบ 2-in-1 ก็ถือว่า HP EliteBook x360 1030 G3 สามารถตอบโจทย์การทำงานออกมาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความลื่นไหลจากหน่วยประมวลผลอย่าง Intel Core i5-8250U ที่จะคอยช่วยเหลือคุณไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเอกสาร ดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลง ก็ถือว่าตอบสนองได้เป็นอย่างดี ในเรื่องของการใช้งานรูปแบบโหมดต่างๆ ก็สามารถทำงานได้อย่างไม่มีติดขัด สำหรับการใช้งานโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro และการสลับไปใช้งานในโหมด Tablet ก็ถือว่าทำออกมาได้ลงตัวสามารถใช้งานสลับกันไปมาได้ง่าย

Connector / Thin And Weight

เรื่องของพอร์ตการเชื่อมต่อบน HP EliteBook x360 1030 G3 ถือว่าให้มาเพื่อรองรับการใช้งานในกระแสนิยมปัจจุบัน โดยจะมาพร้อมกับพอร์ต USB Type-C ที่รองรับ Thunderbolt จำนวน 2 พอร์ต USB 3.1 มีมาให้ใช้งานจำนวน 1 พอร์ต รู 3.5 มิลลิเมตร สำหรับการใช้งานแบบ Audio Jack Combo อีก 1 ช่อง พอร์ต HDMI 1.4 จำนวน 1 พอร์ต และช่องสำหรับใส่ซิมแบบ Nano Sim จำนวน 1 ช่อง โดยจุดที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่างคือมี Fingerprint สำหรับการใช้งานในการปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือเพื่อเข้าสู่ระบบ

สำหรับเรื่องของการเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายต่างๆก็รองรับ Wireless แบบ AC ส่วน Bluetooth จะรองรับมาตรฐาน 4.2 รวมไปถึงการใช้งาน NFC ด้วยเช่นเดียวกัน ในเรื่องของอัตราส่วนของเครื่องจะเป็น 30.58 x 20.5 x 1.58 cm โดยที่น้ำหนักจะหนักเพียง 1.25 กิโลกรัม ซึ่งก็ถือว่ามีขนาดกระทัดรัด เบา และตอบโจทย์ในการเชื่อมต่อ ทำให้ง่ายต่อการพกพาไปใช้งานในสถานที่ต่างๆได้อย่างไม่ยากเย็น หรือจะเป็นการใช้งานอยู่กับที่ก็ตอบโจทย์ได้เช่นเดียวกัน

Performance / Software

HP EliteBook x360 1030 G3 เครื่องนี้จะมาพร้อมกับชิปเซ็ตประมวลผลอย่าง Intel Core i5-8250U ที่ความเร็วพื้นฐาน 1.60 GHz และสามารถขึ้นไปได้สูงสุดที่ 3.40 GHz มีจำนวนคอร์ทั้งหมด 4 Core 8 Threads โดยแรมที่ให้มามีขนาด 8 GB ข้างละ 4 GB เป็นแบบ LPDDR3 Bus 2133 MHz ส่วนชิปกราฟฟิคจะเป็น Intel UHD Graphics 620 ซึ่งก็ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของการทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม Cinebench R15 ที่จะทดสอบทั้งการประมวลผลและกราฟฟิคก็ถือว่าทำออกมาได้กลางๆไม่ได้ดู โดดเด่นมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากซีพียูเป็นรุ่นประหยัดพลังงานจึงมีส่วนในเรื่องนี้ด้วย

ในเรื่องการทดสอบความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลของตัวเครื่อง ก็ถือว่าทำออกมาได้ในระดับที่น่าพึ่งพอใจด้วยค่า Read 808.6 MB/s และค่า Write 330.8 MB/s ทำให้การเข้าถึงไฟล์ข้อมูลต่างๆทำได้อย่างรวดเร็วกว่าทั่วๆไป

ในส่วนของการทดสอบด้วยโปรแกรม PCMark 10 ที่จะเป็นการทดสอบเพื่อให้ได้ค่าตัวเลขออกมาจากการประเมินการใช้งานทั่วๆไปอย่างเข้าเว็บ แต่งรูป งานเอกสาร และอื่นๆ ก็ถือว่าทำคะแนนออกมาได้อยู่ในระดับที่ใช้ได้เลยทีเดียว

มาดูในส่วนของการทดสอบการเล่นเกมโดยจะทดสอบไปที่การเล่นเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 และ Overwatch เป็นหลัก ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าการเล่นเกมอย่าง DOTA 2 สามารถทำออกมาได้อย่างไม่มีปัญหาแต่ Overwatch จะมีอาการกระตุกและเฟรมดร็อปในบางช่วง อาจจะต้องปรับความละเอียดลงไปอีกหากต้องการเล่นอย่างลื่นไหล

ต่อมาเป็นส่วนของชุด Software ที่ทาง HP ให้มากับทุกๆเครื่องของเขาอย่าง HP Support Assistant ที่จะช่วยในเราในเรื่องของการใช้งานพื้นฐานและข้อมูลต่างๆที่จำเป็นของเครื่องไม่ว่าจะเป็นการดูอัพเดทไดรเวอร์ต่างๆ หรือจะเป็นการตรวจสอบสเปคของเครื่องก็สามารถทำได้ อีกโปรแกรมที่น่าสนใจก็คือ HP PhoneWise ที่เราจะะสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของเราเพื่อที่จะใช้ในการรับส่งข้อความ การแจ้งเตือนหรือการรับและโทรศัพท์ได้

Battery / Heat / Noise

ในเรื่องของแบตเตอรี่ที่ให้มาบนเครื่อง HP EliteBook x360 1030 G3 ก็ถือว่าทำออกมาได้ให้เหมาะสมกับเครื่องแบบ 2-in-1 โดยเวลาที่สามารถใช้งานได้จะอยู่ที่ราวๆ 25 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะเปลี่ยนไปได้ตามความหนักของการใช้งานแล้วแต่ผู้ใช้แต่ละคนครับ

ถัดมาเป็นเรื่องของอุณหภูมิที่อยู่ในระดับที่ไม่ร้อนมากประกอบกับตำแหน่งของพัดลมระบายอากาศ ที่อยู่บริเวณของขอบเครื่องในส่วนข้อพับ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาในส่วนนี้ โดยความร้อนสูงสุดจะขึ้นไปอยู่ที่ 81 องศา ซึ่งโอกาสจะขึ้นไปถึงจุดนั้นก็ถือว่ายากมากหากเทียบกับจุดประสงค์ในการใช้งานของตัวเครื่อง

Conclusion / Award

สำหรับการใช้งาน HP EliteBook x360 1030 G3 ก็ต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งโน้ตบุ้คแบบ 2-in-1 ที่น่าสนใจเลยทีเดียว จากที่ได้ลองใช้งานดูก็พบว่าไม่มีปัญหาและลื่นไหลมากกว่าที่หัวคิดเอาไว้ตอนแรก ในส่วนของการใช้งานเป็นโน้ตบุ้คปกติก็ทำออกมาได้น่าพอใจ ส่วนยิ่งเมื่อแปลงร่างกลายมาเป็นแท็บเล็ตยิ่งน่าประทับใจเข้าไปอีก โดยการใช้งานดูหนังหรืออ่าน E-Book เป็นอะไรที่น่าสนใจและต้องชื่นชมเลย

สำหรับสเปคที่ใส่ลงมาในเครื่องหากเราคิดเล่นๆว่ามันเป็นเพียง Intel Core i5 ก็อาจจะต้องเปลี่ยนความคิดเพราะสำหรับเครื่องนี้ซีพียูตัวนี้เอาอยู่หมัดเลย ในส่วนของการใช้งานภาพรวมแล้วก็ถือว่าทำได้ตามที่สเปคที่ระบุไว้ การเล่นเกมอาจจะไม่ใช่สิ่งหลักที่คนที่เลือกซื้อโน้ตบุ้คแบบนี้ฝันหาเอาไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งสิ่งที่ให้มาก็ถือว่าเหมาะสมเพียงพอแล้ว

ส่วนจุดที่น่าคิดสำหรับเครื่องนี้จากที่ได้ใช้งานคงจะเป็นเรื่องของโหมด Tablet ที่หากเราจะใช้งานโดยถือแล้วใช้งาน อาจจะได้รับสัมผัสที่แปลกๆไปเสียหน่อยที่มือเราจะต้องไปโดนปุ่มคีย์บอร์ดในบางจุด ซึ่งจริงๆถือว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะเครื่องจะทำการล็อคคีย์บอร์ดเมื่อเราใช้งานในโหมดอื่นๆอยู่แล้ว ส่วนราคาของเครื่องนี้จะอยู่ที่ 58,590 บาท โดยหากใครสนใจก็สามารถหาซื้อได้แล้วที่ร้านหรือเว็บไซต์ของทาง HP นั้นเอง

ข้อดี

• โน้ตบุ้คแบบ 2-in-1 ทำให้รองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
• วัสดุที่ใช้ในการประกอบเครื่องอยู่ในระดับที่ดั
• หน้าจอ 13.3 นิ้ว รองรับการใช้งานทัชสกรีน
• ความละเอียดหน้าจอ Full-HD พาเนลที่ใช้เป็น IPS ทำให้ได้สีที่จริงยิ่งขึ้น
• รองรับการใช้งาน Fingerprint เพื่อปลดล็อค
• Intel Core i5 ดีกว่าที่คาดเอาไว้
• ใช้งานความจำภายในแบบ SSD ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่าตัวอื่นๆ
• รองรับ NFC สำหรับการใช้งานโอนถ่ายผ่านสมาร์โฟน
• มีปากกาแถมมาให้ด้วยสำหรับการใช้งานจดหรือวาด
• ซื้อแล้วใช้งานได้ทันทีด้วย Windows 10 Pro
• รับประกัน 3 ปี มีบริการ On-site services ถึงที่

ข้อสังเกต

• ราคาอาจจะสูงไปเล็กน้อยหากเทียบกับสเปค
• ไม่สามารถอัพเกรดอะไรได้ในภายหลัง