สำหรับใครที่กำลังมองหา Notebook หน้าจอใหญ่ฟังก์ชั่นการทำงานครบครัน แถมดีไซน์การออกแบบและวัสดุที่ใช้งานให้ดูพรีเมี่ยม ที่สำคัญเน้นการทำงานเป็นหลัก แต่ก็อยากเล่นเกมหน่อยๆ ในวันนี้ผมมี Notebook มาแนะนำที่พร้อมจะตอบโจทย์ทุกข้อที่ผมได้กล่าวมาช่วงต้นกับนี้เลย HP EliteBook 1050 G1 ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตการทำงานตัวตระกูลล่าสุดของ Intel อย่าง Intel Core i5-8300H
บวกกับตัวช่วยในการทำงานให้รวดเร็วขึ้นอย่าง SSD แบบ M2. NVMe ขนาด 256 GB แบบเพรียวๆที่จะมาตอบโจทย์ในเรื่องของความเร็วการใช้งานโปรแกรมต่างๆ พร้อมแรมที่ให้มา 8 GB แบบ DDR4 ที่สามารถเพิ่มได้สูงสุดที่ 32 GB ด้วยหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว เรื่องน้ำหนักอาจจะไม่ได้น้อยเท่าไหร่นัก แต่ทางตัวเครื่องก็มีความสามารถในการกระจายน้ำหนักออกมาได้ดี ราคาไม่ได้เปิดเผยออกมาแต่จากการประมาณแล้วน่าจะอยู่ที่ 53,900 บาท มาไล่ดูกันเลย
Specification
มาเริ่มกันที่สเปคของเจ้า HP Elitebook 1050 G1 กันเลยดีกว่า โดยสเปคภายในจะประกอบไปด้วย CPU Intel Core i5-8300H ที่มีความเร็วพื้นฐานที่ 2.30 GHz และสามารถเร่งขึ้นไปได้สูงสุดที่ 4.00 GHz โดยมี L3 Cache มาให้ที่ 8 MB ถัดมาในส่วนของแรมและความจุภายใน แรมมีมาให้ทั้งหมด 8 GB Bus 2666 MHz ให้มาเพียงตัวเดียวแต่สามารถใส่แรมเพิ่มได้แบบสองช่องสูงสุดที่ 32 GB ความจุให้มา 256 GB แบบ SSD M.2 NVMe
สำหรับเครื่องนี้ไม่ได้มีการ์ดจอแยกแต่อย่างใดโดยจะเป็นชิปกราฟฟิคแบบออนบอร์ดคือ Intel UHD Graphics 630 ที่ฟังดูอาจไม่ถูกใจใครแต่แท้จริงแล้วมันสามารถทำอะไรได้เยอะเลย ถัดมาเป็นเรื่องของหน้าจอที่มีขนาด 15.6 นิ้ว พาเนลแบบ IPS ให้สีที่สดและมองได้กว้างขึ้น ความละเอียดจอ 1920 x 1080 พิกเซล Refresh rate ให้มาถึง 120 Hz sRGB 100% ทำให้สีที่ได้รับครบถ้วนและไม่เพี้ยน
ในส่วนของกล้องที่ให้มาเป็นแบบ HD 720p พอร์ตการเชื่อมต่อครบครันไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-C ที่ร้องรับ Thunderbolt 2 ช่อง USB 3.0 อีก 2 ช่อง ส่วนช่องสำหรับหูฟังจะเป็นแบบ Audio Combo Jack ที่สำคัญยังมีที่ไว้สำหรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคการเข้าใชงานได้อีกด้วย
สามารถเข้าไปดูสเปคแบบเต็มๆของ HP Elitebook 1050 G1 ที่นี้ <<< *** ภายในจะเป็นสเปคที่มีการ์ดจอแยกอย่าง GTX 1050 แต่ตัวที่ได้มาทดสอบจะไม่มีในส่วนนั้น นอกนั้นเป็นแบบเดียวกันครับ
Hardware / Design
ในส่วนของการออกแบบของ HP Elitebook 1050 G1 ได้ถูกออกแบบมาให้หน้าตาคล้ายๆกับรุ่นพี่ตระกูล Elitebook อื่นๆ โดยวัสดุภายนอกที่ใช้งานจะเป็นแบบอลูมิเนียมอัลลอย โดยสีรอบตัวเครื่องจะเป็นสีเงินและด้าน ซึ่งการที่เลือกใช้งานวัสดุและสีแบบนี้เมื่อเรามองภายนอกจะได้รับความรู้สึกถึงความพรีเมี่ยมและดูสวยน่าเข้าไปลองจับและใช้งาน น้ำหนักของเครื่องอยู่ที่ 2.06 กิโลกรัม พร้อมกับความบางที่ 18.9 มิลลิเมตร
ถัดมาเป็นเรื่องของรูปทรงของตัวเครื่องโดยมุมด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นลักษณะของการตัดมุมเข้าไป ส่วนด้านล่างจะเป็นมุมแบบปกติ ฝาหลังจะมีโลโก้ HP สไตล์มินิมอลอยู่ ในส่วนของด้านหน้าก็จะมีกล้องแบบ 720p HD ที่สามารถเลื่อนฝาปิดได้ ส่วนของคีย์บอร์ดที่ใส่มาจะเป็นแบบมาตรฐานทั่วไปที่ใช้งานกันบน Notebook ถัดลงมาอีกจะเป็นช่องสี่แหลี่ยมสำหรับใช้งานสแกนลายนิ้วมือเพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยส่วนของ Touchpad ก็จะมีการฝั่ง NFC เอาไว้ในส่วนบนขวาของ Touchpad
ในส่วนของช่องสำหรับให้ระบายอากาศและอุณหภูมิภายในของตัวเครื่องจะประกอบด้วยกันทั้งหมด 3 จุด คือส่วนของฝั่งขวา ซ้าย และด้านล่างของตัวเครื่อง ซึ่งจากที่ได้ลองทดสอบเมื่อใช้งานสักระยะ ก็ถือว่าจัดการกับอุณหภูมิภายในตัวเครื่องออกมาได้ดี ถึงแม้จะมีบางช่วงที่พัดลมอาจจะทำงานแรงและดังมาก แต่มันก็แปรผันกับงานที่ใช้นั้นแหละครับ โดยรวมถือว่าออกแบบมาได้ดูเข้าท่าและน่าใช้งานเลยทีเดียว
Keyboard / Touchpad
ในส่วนของคีย์บอร์ดของตัว HP Elitebook 1050 G1 จะมีการออกแบบมาให้ใช้งานรูปทรงแบบมาตรฐานที่ Notebook ใช้กัน โดยจะมีการเว้นระยะระหว่างปุ่มแต่ละตัวได้ดี ทำให้ไม่เกิดการเบิ้ลของปุ่มในแต่ละครั้งที่กดไปได้ ที่พิเศษของตัวนี้คือด้านล่างของแต่ละปุ่มจะมีการติดตั้งแผงไฟ LED Backlit ที่จะช่วยในการส่องสว่างยามที่เราต้องใช้งานในที่ๆมีแสงจำกัด แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบก็สามารถปิดหรือปรับระดับของไฟได้เช่นกันครับ โดยเพียงแค่คุณกดไปที่ปุ่ม F9 ก็จะสามารถควบคุมในส่วนนี้ได้แล้ว
ทางฟากของ Touchpad ของตัว HP Elitebook 1050 G1 จะถูกใส่มาแบบเป็นวัสดุเพียงชิ้นเดียวไม่มีการแบ่งซ้ายขวาเหมือน Notebook รุ่นเก่าๆ โดยสำหรับการใช้งานของ Touchpad ก็เป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหาแต่อย่างใด โดยสัมผัสเมื่อกดลงไปจะให้ความรู้สึกแน่นๆ Gesture ต่างๆก็สามารถทำออกมาได้ตามคำแนะนำอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ส่วนพิเศษอีกอย่างของ Touchpad คือเป็นที่ใช้งานควบคู่ของ NFC สำหรับใครที่ต้องการเชื่อมต่อกับมือถือเพื่อจัดการข้อมูลต่างๆก็ทำได้สะดวก
Screen / Speaker
สำหรับหน้าจอของตัว HP EliteBook 1050 G1 จะใช้งานหน้าจอแบบด้าน Anti-Glare พาเนลจอที่ใช้งานเป็นแบบ IPS ทำให้มุมมองของภาพที่ได้กว้างและชัดเจน การแสดงผลของสีเป็นแบบ sRGB 100% ทำให้สีที่ได้ออกมาอยู่ในระดับที่ดี ในเรื่องของกล้องจะอยู่ที่ด้านบนของจอที่ความละเอียด HD 720p พร้อมกับมีไมค์ตัดเสียงในตัว
ในการทดสอบประสิทธิภาพของจอแบบจริงจังขึ้นมากับตัว HP EliteBook 1050 G1 ด้วยโปรแกรมอย่าง Spyder 5 Elite โดยตัวโปรแกรมจะทำการคาลิเบรตหน้าจอให้ได้สีที่ถูกต้อง ส่วนอีกด้านจะเป็นการทดสอบในเรื่องของ Display Analysis ที่จะใช้สำหรับการบอกค่าต่างๆที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการช่วย
สำหรับขอบเขตความกว้างของสีจะอยู่ที่ sRGB 85 % ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆสามารถใช้งานได้ ส่วนในเรื่องของความสว่างหน้าจอสูงสุดจะอยู่ที่ 400 cd/m2 ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระดับทที่สามารถนำไปใช้งานในที่มีแสงจัดๆได้ แบบไม่ต้องหาอะไรมาบัง ในส่วนของการทดสอบเรื่องของการแสดงผลของแสงว่ามีความผิดเพี้ยนมากน้อยเพียงใด จะมีอยู่ 11 % ทางด้านซ้ายของจอที่จะแสดงออกมาเพี้ยนเล็กน้อย ส่วนจุดอื่นๆก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่ได้เพี้ยนมาก สำหรับคะแนนโดยรวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 3.5 เต็ม 5 นั้นเอง
ในส่วนของลำโพงจากการที่ได้ Bang & Olufsen มาช่วยในการดูแลส่วนนี้ทำให้เสียงที่ได้อยู่ในระดับที่ดีสามารถเก็บรายละเอียดของเสียงออกมาได้ชัดเจน โดยจะมีลำโพงอยู่ทั้งหมด 2 จุดคือด้านบนเนื่องคีย์บอร์ดและด้านล่างของตัวเครื่องทั้งซ้ายและขวา โทนเสียงที่ให้ออกมาจะออกทุ้มๆอยู่หน่อยๆ การฟังเพลงและดูวิดีโอต่างๆอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึ่งพอใจเป็นอย่างมาก
Connector / Thin And Weight
ในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆของตัว HP EliteBook 1050 G1 ด้านซ้ายจะมาพร้อมกับพอร์ต USB 3.0 จำนวน 2 ช่อง ส่วนด้านขวาส่วนแรกจะเป็นพอร์ต AC สำหรับชาร์จไฟ ส่วนต่อมาคือ USB 3.1 Type-C แบบ Thunderbolt จำนวน 2 ช่อง พอร์ต HDMI 1 ช่อง รูแบบ 3.5 มม. ที่จะเป็นแบบ Audio Combo Jack ส่วนสุดท้ายคือช่องสำหรับใส่ SD card นั้นเอง
ในส่วนของความบางและน้ำหนักของตัวเครื่องถือว่าอยู่ในระดับปกติคือความบางอยู่ที่ 18.9 มิลลิเมตร น้ำหนักอยู่ที่ 2.06 กิโลกรัม ต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่ใช่ Ultrabook ทำให้น้ำหนักอาจจะดูโดดๆไปหน่อย แต่เมื่อได้ลองใช้งานจริงจะพบว่าในส่วนของการกระจายน้ำหนักเวลายกขึ้นมาก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี
Performance / Software
ในส่วนของเครื่อง HP EliteBook 1050 G1 จะมาพร้อมกับ CPU Intel Core i5-8300H ที่ความเร็ว 2.30 GHz สูงสุดที่ 4.00 GHz ในเรื่องของจำนวนคอร์ในการทำงานอยู่ที่ 4 Core 8 Threads ทำให้การทำงานหลายๆอย่างดูลื่นไหล พร้อมกับแรมขนาด 8 GB Bus 2666 MHz ทำให้ในส่วนของการทำงานภาพรวมออกมาในระดับที่น่าพอใจ
ถัดมาเป็นการทดสอบโปรแกรมอย่าง Cinebench R15 ที่จะทดสอบไปทั้งในส่วนของการทำงานในเรื่องของการประมวลผล และการทดสอบในส่วนของกราฟฟิคซึ่งถือว่าตัวของ Intel Core i5-8300H และ Intel UHD Graphics 630 รวมมือกันทำออกมาได้อยู่ในระดับที่ไม่เลวเลย
ต่อมาเป็นเรื่องของการทดสอบความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูล ซึ่งสำหรับ HP EliteBook 1050 G1 ที่มาพร้อมกับ SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 256 GB ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวเพราะสามารถทำอัตราความเร็วในการอ่านข้อมูลได้ที่ 3450.2 MB/s และอัตราความเร็วในการเขียนข้อมูลอยู่ที่ 1207.3 MB/s ซึ่งหากเอามาเทียบกับ SSD ปกติที่เชื่อมต่อแบบ SATA 3 ก็จะพบได้ถึงความต่างที่ชัดเจน
ส่วนของการทดสอบการใช้งานทั่วๆไปไม่ว่าจะเป็นการเปิดโปรแกรม ใช้งานเอกสาร ตัดต่อรูป เปิดโปรแกรม เมื่อทำการทดสอบด้วยโปรแกรม PCMark 10 ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ถือว่าเหมาะอย่างมากที่จะนำไปทำงาน
ในส่วนของการทดสอบเล่นเกมซึ่งจริงๆแล้วตัว HP EliteBook 1050 G1 รุ่นที่ได้มาทดสอบ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อใช้งานในการเล่นเกมอยู่แล้วแต่พอได้นำมาทดสอบเล่นๆ กลับพบว่ามันก็สามารถเล่นได้เช่นเดียวกัน โดยทดสอบเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Dota 2 และ Overwatch ก็ถือว่าทำออกมาได้น่าพอใจ เพียงพอที่จะเล่นได้สำหรับคนที่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องภาพเท่าไหร่
สำหรับใครที่ใช้งาน Notebook ของทาง HP เขาก็มีตัว Software ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้เข้าถึงข้อมูลต่างๆได้อย่างง่ายดายและไม่ต้องวุ่นวายหาโปรแกรมอะไรมาตรวจสอบมากอย่าง HP Support Assistant ที่จะรวบรวมข้อมูลหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทไดรเวอร์ การแก้ไขปัญหาต่างๆ สเปคของตัวเครื่อง รวมไปถึงระยะเวลาของประกัน เรียกได้ว่าเข้ามาที่เดียวก็ครบเกือบหมดแล้ว
และสำหรับใครที่ต้องการใช้งานควบคู่ไปกับมือถือที่ใช้งานอยู่แล้วด้วยทาง HP ก็มี Software ในการช่วยในการเข้าถึงและจัดการ Notebook ของคุณอย่าง HP WorkWise ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและจัดการเครื่องของเราได้โดยสามารถดูได้ว่ามีใครพยายามจะเข้าเครื่องของเราหรือเปล่า การเปิดโหมดการทำงานเฉพาะ รวมไปถึงการสั่งปริ้นก็สามารถทำได้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Software ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Battery / Heat / Noise
ในส่วนของการใช้งานแบตเตอรี่ของตัว HP EliteBook 1050 G1 ในรุ่นที่ได้รับมาทดสอบนี้ สามารถทำงานได้สูงถึง 16 ชั่วโมง โดยอาจจะสูงกว่านี้หรือต่ำกว่านี้ก็แปรผันตามการใช้งานของผู้ใช้ว่าขณะนั้นเปิดโปรแกรมอะไรบ้าง และใช้งานโปรแกรมต่อเนื่องเพียงใด โดยเราสามารถควบคุมประสิทธิภาพของการทำงานของแบตเตอรี่ได้ด้วยเช่นกัน
ในเรื่องของอุณหภูมิของ HP EliteBook 1050 G1 หากไม่ได้ทำงานอะไรเลยจะอยู่ที่ราวๆ 33 องศาเซลเซียส แต่หากมีการทำงานอะไรที่หนักๆขึ้นก็จะขึ้นไปประมาณ 70 – 85 องศาเซลเซียส ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจากการที่เครื่องไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีจุดหมายในการเล่นเกมหรือทำอะไรหนักๆอยู่แล้ว เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ได้เลยครับ แต่สำหรับใครที่ต้องการใช้งานจริงๆการระบายความร้อนของเครื่องก็ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างที่จะเร็วเลย
Conclusion / Award
จากการทดสอบและลองใช้งานจึงพอจะสรุปได้ว่า HP EliteBook 1050 G1 ตัวนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในเชิงธุรกิจและการศึกษาเป็นหลัก โดยสำหรับใครที่ต้องการ Notebook ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่พร้อมกับการเข้าถึงข้อมูลและโปรแกรมอย่างรวดเร็วก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว เพราะด้วยสเปคที่ให้มาถือว่าตอบโจทย์ในงานจำพวกนี้เลย
ในส่วนของการออกแบบของตัวเครื่องก็นับว่าเป็นโทนสีที่แสดงให้เห็นถึงความหรูหราดูพรีเมี่ยมจากการเลือกใช้อลูมิเนียมอัลลอยสีเทาเงา ในส่วนของหน้าจอที่เลือกใช้งานแบบ IPS ก็ทำให้ภาพที่ได้ออกมาชัดเจนและเหมาะสมกับขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ด้วยความละเอียด 1920 x 1080 ก็ไม่ทำให้รู้สึกหรือสังเกตเห็นถึงเม็ดพิกเซลแต่อย่างใด โดยจอตัวนี้มีเทคโนโลยี Flicker Free ทำให้เวลาใช้งานสามารถใช้ได้ในระยะเวลานานๆโดยที่ไม่ปวดตา
ในส่วนของ Software ที่ทาง HP มีมาให้นั้นก็ถือว่าเหมาะสมและไม่ต้องอาศัยความเข้าใจใดๆเลยก็สามารถทำตามและใช้งานได้อย่างๆ เพราะทุกอย่างแทบจะมีวิธีและขั้นตอนสอนเอาไว้หมดเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงการที่เครื่องนี้แถม Windows 10 Pro มาให้ใช้งานฟรีๆ จึงถือว่าในเรื่อง Software ครบครันในการใช้งาน เพียงแค่เปิดเครื่องก็ใช้งานได้เลยจริงๆ สำหรับใครที่สนใจโน้ตบุ้ครุ่นนี้ก็สามารถติดต่อสอบถามไปได้ที่ HP โดยตรงเลย หรือ Line ID: hpbiz
จุดเด่น
- หน้าจอใหญ่ 15.6 นิ้ว Full-HD พาเนลแบบ IPS สีสดจัดเต็ม
- ระบบป้องกันแบบครบสูตรทั้งสแกนลายนิ้วมือและจดจำใบหน้า
- ใช้งาน SSD M2.NVMe แบบครบวงจรทำให้หมดปัญหาการเข้าถึงที่ช้า
- แรม 8 GB พร้อมรองรับการอัพเกรดเพิ่มสูงถึง 32 GB
- คีย์บอร์ดมาพร้อมไฟ LED Backlit ช่วยส่องสว่างในยามที่มืดมิด
- พร้อมการใช้งานที่ครบครันจุดสำคัญคือ Thunderbolt
- รองรับ WiFi แบบ AC และ Bluetooth 5
- ใช้งานได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง
- Software ภายในของ HP ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น
- Windows 10 Pro แท้ให้ใช้งาน
- ประกัน 3 ปี มี On-site services บริการถึงที่
ข้อสังเกต
- ตัดพอร์ต Lan ออกไป
- เสียงของพัดลมระบายอากาศค่อนข้างดังเมื่อทำงานเต็มที่
- ยังไม่ได้มีราคาออกมาชัดเจนแต่น่าจะอยู่ที่ราวๆ 53,900 บาท
Specification
มาเริ่มกันที่สเปคของเจ้า HP Elitebook 1050 G1 กันเลยดีกว่า โดยสเปคภายในจะประกอบไปด้วย CPU Intel Core i5-8300H ที่มีความเร็วพื้นฐานที่ 2.30 GHz และสามารถเร่งขึ้นไปได้สูงสุดที่ 4.00 GHz โดยมี L3 Cache มาให้ที่ 8 MB ถัดมาในส่วนของแรมและความจุภายใน แรมมีมาให้ทั้งหมด 8 GB Bus 2666 MHz ให้มาเพียงตัวเดียวแต่สามารถใส่แรมเพิ่มได้แบบสองช่องสูงสุดที่ 32 GB ความจุให้มา 256 GB แบบ SSD M.2 NVMe
สำหรับเครื่องนี้ไม่ได้มีการ์ดจอแยกแต่อย่างใดโดยจะเป็นชิปกราฟฟิคแบบออนบอร์ดคือ Intel UHD Graphics 630 ที่ฟังดูอาจไม่ถูกใจใครแต่แท้จริงแล้วมันสามารถทำอะไรได้เยอะเลย ถัดมาเป็นเรื่องของหน้าจอที่มีขนาด 15.6 นิ้ว พาเนลแบบ IPS ให้สีที่สดและมองได้กว้างขึ้น ความละเอียดจอ 1920 x 1080 พิกเซล Refresh rate ให้มาถึง 120 Hz sRGB 100% ทำให้สีที่ได้รับครบถ้วนและไม่เพี้ยน
ในส่วนของกล้องที่ให้มาเป็นแบบ HD 720p พอร์ตการเชื่อมต่อครบครันไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-C ที่ร้องรับ Thunderbolt 2 ช่อง USB 3.0 อีก 2 ช่อง ส่วนช่องสำหรับหูฟังจะเป็นแบบ Audio Combo Jack ที่สำคัญยังมีที่ไว้สำหรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคการเข้าใชงานได้อีกด้วย
สามารถเข้าไปดูสเปคแบบเต็มๆของ HP Elitebook 1050 G1 ที่นี้ <<< *** ภายในจะเป็นสเปคที่มีการ์ดจอแยกอย่าง GTX 1050 แต่ตัวที่ได้มาทดสอบจะไม่มีในส่วนนั้น นอกนั้นเป็นแบบเดียวกันครับ
Hardware / Design
ในส่วนของการออกแบบของ HP Elitebook 1050 G1 ได้ถูกออกแบบมาให้หน้าตาคล้ายๆกับรุ่นพี่ตระกูล Elitebook อื่นๆ โดยวัสดุภายนอกที่ใช้งานจะเป็นแบบอลูมิเนียมอัลลอย โดยสีรอบตัวเครื่องจะเป็นสีเงินและด้าน ซึ่งการที่เลือกใช้งานวัสดุและสีแบบนี้เมื่อเรามองภายนอกจะได้รับความรู้สึกถึงความพรีเมี่ยมและดูสวยน่าเข้าไปลองจับและใช้งาน น้ำหนักของเครื่องอยู่ที่ 2.06 กิโลกรัม พร้อมกับความบางที่ 18.9 มิลลิเมตร
ถัดมาเป็นเรื่องของรูปทรงของตัวเครื่องโดยมุมด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นลักษณะของการตัดมุมเข้าไป ส่วนด้านล่างจะเป็นมุมแบบปกติ ฝาหลังจะมีโลโก้ HP สไตล์มินิมอลอยู่ ในส่วนของด้านหน้าก็จะมีกล้องแบบ 720p HD ที่สามารถเลื่อนฝาปิดได้ ส่วนของคีย์บอร์ดที่ใส่มาจะเป็นแบบมาตรฐานทั่วไปที่ใช้งานกันบน Notebook ถัดลงมาอีกจะเป็นช่องสี่แหลี่ยมสำหรับใช้งานสแกนลายนิ้วมือเพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยส่วนของ Touchpad ก็จะมีการฝั่ง NFC เอาไว้ในส่วนบนขวาของ Touchpad
ในส่วนของช่องสำหรับให้ระบายอากาศและอุณหภูมิภายในของตัวเครื่องจะประกอบด้วยกันทั้งหมด 3 จุด คือส่วนของฝั่งขวา ซ้าย และด้านล่างของตัวเครื่อง ซึ่งจากที่ได้ลองทดสอบเมื่อใช้งานสักระยะ ก็ถือว่าจัดการกับอุณหภูมิภายในตัวเครื่องออกมาได้ดี ถึงแม้จะมีบางช่วงที่พัดลมอาจจะทำงานแรงและดังมาก แต่มันก็แปรผันกับงานที่ใช้นั้นแหละครับ โดยรวมถือว่าออกแบบมาได้ดูเข้าท่าและน่าใช้งานเลยทีเดียว
Keyboard / Touchpad
ในส่วนของคีย์บอร์ดของตัว HP Elitebook 1050 G1 จะมีการออกแบบมาให้ใช้งานรูปทรงแบบมาตรฐานที่ Notebook ใช้กัน โดยจะมีการเว้นระยะระหว่างปุ่มแต่ละตัวได้ดี ทำให้ไม่เกิดการเบิ้ลของปุ่มในแต่ละครั้งที่กดไปได้ ที่พิเศษของตัวนี้คือด้านล่างของแต่ละปุ่มจะมีการติดตั้งแผงไฟ LED Backlit ที่จะช่วยในการส่องสว่างยามที่เราต้องใช้งานในที่ๆมีแสงจำกัด แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบก็สามารถปิดหรือปรับระดับของไฟได้เช่นกันครับ โดยเพียงแค่คุณกดไปที่ปุ่ม F9 ก็จะสามารถควบคุมในส่วนนี้ได้แล้ว
ทางฟากของ Touchpad ของตัว HP Elitebook 1050 G1 จะถูกใส่มาแบบเป็นวัสดุเพียงชิ้นเดียวไม่มีการแบ่งซ้ายขวาเหมือน Notebook รุ่นเก่าๆ โดยสำหรับการใช้งานของ Touchpad ก็เป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหาแต่อย่างใด โดยสัมผัสเมื่อกดลงไปจะให้ความรู้สึกแน่นๆ Gesture ต่างๆก็สามารถทำออกมาได้ตามคำแนะนำอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ส่วนพิเศษอีกอย่างของ Touchpad คือเป็นที่ใช้งานควบคู่ของ NFC สำหรับใครที่ต้องการเชื่อมต่อกับมือถือเพื่อจัดการข้อมูลต่างๆก็ทำได้สะดวก
Screen / Speaker
สำหรับหน้าจอของตัว HP EliteBook 1050 G1 จะใช้งานหน้าจอแบบด้าน Anti-Glare พาเนลจอที่ใช้งานเป็นแบบ IPS ทำให้มุมมองของภาพที่ได้กว้างและชัดเจน การแสดงผลของสีเป็นแบบ sRGB 100% ทำให้สีที่ได้ออกมาอยู่ในระดับที่ดี ในเรื่องของกล้องจะอยู่ที่ด้านบนของจอที่ความละเอียด HD 720p พร้อมกับมีไมค์ตัดเสียงในตัว
ในการทดสอบประสิทธิภาพของจอแบบจริงจังขึ้นมากับตัว HP EliteBook 1050 G1 ด้วยโปรแกรมอย่าง Spyder 5 Elite โดยตัวโปรแกรมจะทำการคาลิเบรตหน้าจอให้ได้สีที่ถูกต้อง ส่วนอีกด้านจะเป็นการทดสอบในเรื่องของ Display Analysis ที่จะใช้สำหรับการบอกค่าต่างๆที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการช่วย
สำหรับขอบเขตความกว้างของสีจะอยู่ที่ sRGB 85 % ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆสามารถใช้งานได้ ส่วนในเรื่องของความสว่างหน้าจอสูงสุดจะอยู่ที่ 400 cd/m2 ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระดับทที่สามารถนำไปใช้งานในที่มีแสงจัดๆได้ แบบไม่ต้องหาอะไรมาบัง ในส่วนของการทดสอบเรื่องของการแสดงผลของแสงว่ามีความผิดเพี้ยนมากน้อยเพียงใด จะมีอยู่ 11 % ทางด้านซ้ายของจอที่จะแสดงออกมาเพี้ยนเล็กน้อย ส่วนจุดอื่นๆก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่ได้เพี้ยนมาก สำหรับคะแนนโดยรวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 3.5 เต็ม 5 นั้นเอง
ในส่วนของลำโพงจากการที่ได้ Bang & Olufsen มาช่วยในการดูแลส่วนนี้ทำให้เสียงที่ได้อยู่ในระดับที่ดีสามารถเก็บรายละเอียดของเสียงออกมาได้ชัดเจน โดยจะมีลำโพงอยู่ทั้งหมด 2 จุดคือด้านบนเนื่องคีย์บอร์ดและด้านล่างของตัวเครื่องทั้งซ้ายและขวา โทนเสียงที่ให้ออกมาจะออกทุ้มๆอยู่หน่อยๆ การฟังเพลงและดูวิดีโอต่างๆอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึ่งพอใจเป็นอย่างมาก
Connector / Thin And Weight
ในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆของตัว HP EliteBook 1050 G1 ด้านซ้ายจะมาพร้อมกับพอร์ต USB 3.0 จำนวน 2 ช่อง ส่วนด้านขวาส่วนแรกจะเป็นพอร์ต AC สำหรับชาร์จไฟ ส่วนต่อมาคือ USB 3.1 Type-C แบบ Thunderbolt จำนวน 2 ช่อง พอร์ต HDMI 1 ช่อง รูแบบ 3.5 มม. ที่จะเป็นแบบ Audio Combo Jack ส่วนสุดท้ายคือช่องสำหรับใส่ SD card นั้นเอง
ในส่วนของความบางและน้ำหนักของตัวเครื่องถือว่าอยู่ในระดับปกติคือความบางอยู่ที่ 18.9 มิลลิเมตร น้ำหนักอยู่ที่ 2.06 กิโลกรัม ต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่ใช่ Ultrabook ทำให้น้ำหนักอาจจะดูโดดๆไปหน่อย แต่เมื่อได้ลองใช้งานจริงจะพบว่าในส่วนของการกระจายน้ำหนักเวลายกขึ้นมาก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี
Performance / Software
ในส่วนของเครื่อง HP EliteBook 1050 G1 จะมาพร้อมกับ CPU Intel Core i5-8300H ที่ความเร็ว 2.30 GHz สูงสุดที่ 4.00 GHz ในเรื่องของจำนวนคอร์ในการทำงานอยู่ที่ 4 Core 8 Threads ทำให้การทำงานหลายๆอย่างดูลื่นไหล พร้อมกับแรมขนาด 8 GB Bus 2666 MHz ทำให้ในส่วนของการทำงานภาพรวมออกมาในระดับที่น่าพอใจ
ถัดมาเป็นการทดสอบโปรแกรมอย่าง Cinebench R15 ที่จะทดสอบไปทั้งในส่วนของการทำงานในเรื่องของการประมวลผล และการทดสอบในส่วนของกราฟฟิคซึ่งถือว่าตัวของ Intel Core i5-8300H และ Intel UHD Graphics 630 รวมมือกันทำออกมาได้อยู่ในระดับที่ไม่เลวเลย
ต่อมาเป็นเรื่องของการทดสอบความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูล ซึ่งสำหรับ HP EliteBook 1050 G1 ที่มาพร้อมกับ SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 256 GB ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวเพราะสามารถทำอัตราความเร็วในการอ่านข้อมูลได้ที่ 3450.2 MB/s และอัตราความเร็วในการเขียนข้อมูลอยู่ที่ 1207.3 MB/s ซึ่งหากเอามาเทียบกับ SSD ปกติที่เชื่อมต่อแบบ SATA 3 ก็จะพบได้ถึงความต่างที่ชัดเจน
ส่วนของการทดสอบการใช้งานทั่วๆไปไม่ว่าจะเป็นการเปิดโปรแกรม ใช้งานเอกสาร ตัดต่อรูป เปิดโปรแกรม เมื่อทำการทดสอบด้วยโปรแกรม PCMark 10 ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ถือว่าเหมาะอย่างมากที่จะนำไปทำงาน
ในส่วนของการทดสอบเล่นเกมซึ่งจริงๆแล้วตัว HP EliteBook 1050 G1 รุ่นที่ได้มาทดสอบ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อใช้งานในการเล่นเกมอยู่แล้วแต่พอได้นำมาทดสอบเล่นๆ กลับพบว่ามันก็สามารถเล่นได้เช่นเดียวกัน โดยทดสอบเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Dota 2 และ Overwatch ก็ถือว่าทำออกมาได้น่าพอใจ เพียงพอที่จะเล่นได้สำหรับคนที่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องภาพเท่าไหร่
สำหรับใครที่ใช้งาน Notebook ของทาง HP เขาก็มีตัว Software ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้เข้าถึงข้อมูลต่างๆได้อย่างง่ายดายและไม่ต้องวุ่นวายหาโปรแกรมอะไรมาตรวจสอบมากอย่าง HP Support Assistant ที่จะรวบรวมข้อมูลหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทไดรเวอร์ การแก้ไขปัญหาต่างๆ สเปคของตัวเครื่อง รวมไปถึงระยะเวลาของประกัน เรียกได้ว่าเข้ามาที่เดียวก็ครบเกือบหมดแล้ว
และสำหรับใครที่ต้องการใช้งานควบคู่ไปกับมือถือที่ใช้งานอยู่แล้วด้วยทาง HP ก็มี Software ในการช่วยในการเข้าถึงและจัดการ Notebook ของคุณอย่าง HP WorkWise ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและจัดการเครื่องของเราได้โดยสามารถดูได้ว่ามีใครพยายามจะเข้าเครื่องของเราหรือเปล่า การเปิดโหมดการทำงานเฉพาะ รวมไปถึงการสั่งปริ้นก็สามารถทำได้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Software ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Battery / Heat / Noise
ในส่วนของการใช้งานแบตเตอรี่ของตัว HP EliteBook 1050 G1 ในรุ่นที่ได้รับมาทดสอบนี้ สามารถทำงานได้สูงถึง 16 ชั่วโมง โดยอาจจะสูงกว่านี้หรือต่ำกว่านี้ก็แปรผันตามการใช้งานของผู้ใช้ว่าขณะนั้นเปิดโปรแกรมอะไรบ้าง และใช้งานโปรแกรมต่อเนื่องเพียงใด โดยเราสามารถควบคุมประสิทธิภาพของการทำงานของแบตเตอรี่ได้ด้วยเช่นกัน
ในเรื่องของอุณหภูมิของ HP EliteBook 1050 G1 หากไม่ได้ทำงานอะไรเลยจะอยู่ที่ราวๆ 33 องศาเซลเซียส แต่หากมีการทำงานอะไรที่หนักๆขึ้นก็จะขึ้นไปประมาณ 70 – 85 องศาเซลเซียส ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจากการที่เครื่องไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีจุดหมายในการเล่นเกมหรือทำอะไรหนักๆอยู่แล้ว เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ได้เลยครับ แต่สำหรับใครที่ต้องการใช้งานจริงๆการระบายความร้อนของเครื่องก็ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างที่จะเร็วเลย
Conclusion / Award
จากการทดสอบและลองใช้งานจึงพอจะสรุปได้ว่า HP EliteBook 1050 G1 ตัวนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในเชิงธุรกิจและการศึกษาเป็นหลัก โดยสำหรับใครที่ต้องการ Notebook ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่พร้อมกับการเข้าถึงข้อมูลและโปรแกรมอย่างรวดเร็วก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว เพราะด้วยสเปคที่ให้มาถือว่าตอบโจทย์ในงานจำพวกนี้เลย
ในส่วนของการออกแบบของตัวเครื่องก็นับว่าเป็นโทนสีที่แสดงให้เห็นถึงความหรูหราดูพรีเมี่ยมจากการเลือกใช้อลูมิเนียมอัลลอยสีเทาเงา ในส่วนของหน้าจอที่เลือกใช้งานแบบ IPS ก็ทำให้ภาพที่ได้ออกมาชัดเจนและเหมาะสมกับขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ด้วยความละเอียด 1920 x 1080 ก็ไม่ทำให้รู้สึกหรือสังเกตเห็นถึงเม็ดพิกเซลแต่อย่างใด โดยจอตัวนี้มีเทคโนโลยี Flicker Free ทำให้เวลาใช้งานสามารถใช้ได้ในระยะเวลานานๆโดยที่ไม่ปวดตา
ในส่วนของ Software ที่ทาง HP มีมาให้นั้นก็ถือว่าเหมาะสมและไม่ต้องอาศัยความเข้าใจใดๆเลยก็สามารถทำตามและใช้งานได้อย่างๆ เพราะทุกอย่างแทบจะมีวิธีและขั้นตอนสอนเอาไว้หมดเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงการที่เครื่องนี้แถม Windows 10 Pro มาให้ใช้งานฟรีๆ จึงถือว่าในเรื่อง Software ครบครันในการใช้งาน เพียงแค่เปิดเครื่องก็ใช้งานได้เลยจริงๆ สำหรับใครที่สนใจโน้ตบุ้ครุ่นนี้ก็สามารถติดต่อสอบถามไปได้ที่ HP โดยตรงเลย หรือ Line ID: hpbiz
จุดเด่น
- หน้าจอใหญ่ 15.6 นิ้ว Full-HD พาเนลแบบ IPS สีสดจัดเต็ม
- ระบบป้องกันแบบครบสูตรทั้งสแกนลายนิ้วมือและจดจำใบหน้า
- ใช้งาน SSD M2.NVMe แบบครบวงจรทำให้หมดปัญหาการเข้าถึงที่ช้า
- แรม 8 GB พร้อมรองรับการอัพเกรดเพิ่มสูงถึง 32 GB
- คีย์บอร์ดมาพร้อมไฟ LED Backlit ช่วยส่องสว่างในยามที่มืดมิด
- พร้อมการใช้งานที่ครบครันจุดสำคัญคือ Thunderbolt
- รองรับ WiFi แบบ AC และ Bluetooth 5
- ใช้งานได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง
- Software ภายในของ HP ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น
- Windows 10 Pro แท้ให้ใช้งาน
- ประกัน 3 ปี มี On-site services บริการถึงที่
ข้อสังเกต
- ตัดพอร์ต Lan ออกไป
- เสียงของพัดลมระบายอากาศค่อนข้างดังเมื่อทำงานเต็มที่
- ยังไม่ได้มีราคาออกมาชัดเจนแต่น่าจะอยู่ที่ราวๆ 53,900 บาท