สำหรับ Apple MacBook Pro รุ่นขนาดหน้าจอ 13 นิ้วพร้อม Touch Bar ที่พึ่งเปิดตัวออกมาไม่นานนี้นั้น เชื่อเหลือเกินครับว่าหลายๆ ท่านกำลังตัดสินใจที่จะซื้อมันหรือไม่อยู่ เหตุผลหลักๆ เลยก็คือเรื่องของราคาที่แพงมหาโหดแถมด้วยดีไซน์ภายนอกของตัวเครื่องก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมไปเท่าไรนัก วันนี้เราขอเสนอ 5 เหตุผลที่คุณควรซื้อ MacBook Pro รุ่นขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ประจำปี 2018 และอีก 4 เหตุผลที่คุณควรจะมองข้ามมันไปครับ
คงต้องบอกก่อนครับว่ากับ MacBook Pro รุ่นขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ประจำปี 2018 นั้นทาง Apple สามารถที่จะพัฒนาขึ้นมาได้ดีกว่ารุ่นในปี 2017 เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพแถมยังมีการใส่ฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้าไปอีกมากมายซึ่งถือว่าน่าใช้งานเป็นอย่างมาก แต่ครับแต่ ราคาของมันนั้นก็แรงตามสเปคด้วย แน่นอนครับว่าเรื่องดังกล่าวนี้นั้นทำให้หลายต่อหลายคนต้องนั่งกุมขมับคิดแล้วคิดอีกว่าจะซื้อ MacBook Pro รุ่นขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ประจำปี 2018 ดีไหม … มาดูเหตุผลกันครับว่าทำไมคุณถึงควรจะซื้อ MacBook Pro รุ่นขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ประจำปี 2018 กันครับ
เร็วแรงแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนบน MacBook Pro
สำหรับในเรื่องของสเปคนั้นถือว่ามีส่วนสำคัญในการจะเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คหรือ PC สักเครื่องครับ และบน MacBook Pro รุ่นขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ประจำปี 2018 เองนั้นก็มาพร้อมกับสเปคที่แรงมากๆ อย่างตัวเลือกหน่วยประมวลผลทั้ง i5 และ ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับหน่วยความจำเริ่มต้นที่ 8GB แถมด้วยแหล่งเก็บข้อมูลแบบ SSD ที่มีความจุ 256 GB ทำให้โดยรวมนั้น MacBook Pro รุ่นขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ประจำปี 2018 สามารถทำคะแนนเอาชนะเครื่องโน๊ตบุ๊ค PC อย่าง Dell XPS ไปได้แบบสบายๆ เลยครับ
มาพร้อมกับคีย์บอร์ดที่มีความคงทนและไร้ซึ่งเสียงรบกวนเวลาใช้งาน
ถึงแม้ว่าทาง Apple เองนั้นจะไม่ได้โฆษณาในส่วนนี้สักเท่าไรนักทว่าในการใช้งานจริงนั้นคุณจะเห็นความแตกต่างของคีย์บอร์ดของ MacBook Pro 2018 กับคีย์บอร์ดรุ่นเก่าๆ ของ MacBook Pro รวมไปถึง MacBook รุ่นอื่นๆ ด้วยครับ ด้วยการใช้เทคนิคการพัฒนาคีย์บอร์ดอย่าง butterfly รุ่นที่ 3 ซึ่งมาพร้อมกับชั้นซิลิโคนอยู่ทางด้านใต้ของคีย์บอร์ดแบบแป้นต่อเป็น ดังนั้นแล้วเวลาที่เรากดลงไปนั้นเสียงที่เกิดขึ้นก็จะน้อยมากหรือแทบจะไม่ได้ยินเลย
หมายเหตุ – แต่ก็ไม่แน่นอนเสมอไปนะครับเพราะบางท่านอาจจะชอบคีย์บอร์ดที่มีการตอบกลับการกดในแต่ละแป้นและมีเสียงนิดหน่อยเกิดขึ้นมากกว่า ดังนั้นแล้วเรื่องดังกล่าวนี้ก็ถือว่าเป็นความชอบส่วนบุคคลด้วยครับ
หน้าจอแสดงผลเรื่องสีสันและให้ความสว่างมากขึ้นกว่าเดิม
MacBook Pro 2018 มาพร้อมกับหน้าจอใหม่ที่สว่างและให้การแสดงผลสีสันที่ดีกว่ารวมไปถึงความคมชัดที่ดีเมื่อเทียบกับหน้าจอของ MacBook รุ่นก่อนๆ ครับ นอกเหนือไปจากนั้นแล้วทาง Apple ยังได้เพิ่มการแสดงผลความละเอียดของหน้าจอขึ้นมาเป็น 2560 x 1600 pixels อีกด้วยครับ แต่เดี๋ยวก่อนครับยังไม่หมดแค่เพียงเท่านั้นเพราะ Apple ยังได้ใส่เทคโนโลยี True Tone เข้ามาอีกด้วยซึ่งมันจะช่วยในการถนอมสายตาของคุณในการมองหน้าจอซึ่งทาง Apple บอกไว้ครับว่าคุณสามารถทำงานหน้าจอ MacBook Pro 2018 ได้ยาวนานอย่างสบายๆ เลยครับ
T2 chip และ Hey Siri
บน MacBook Pro 2018 นั้นทาง Apple ได้มีการใส่ชิปพิเศษที่มีชื่อว่า T2 เพิ่มเข้ามาด้วยครับ โดยในส่วนของชิป T2 นั้นจะมีหน้าที่ในการทำงานหลายๆ อย่างเช่นเรื่องของการเข้ารหัสสำหรับข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในแหล่งเก็บข้อมูลแบบ SSD และ secure boot process ฟังดูแล้วเหมือนจะไม่ค่อยน่าสนใจสำหรับผู้ใช้ทั่วไปเท่าไรนักแต่ทว่าเจ้าชิป T2 นี้ยังทำหน้าที่ประมวลผลเสียงของคุณเพื่อที่จะสั่งการให้ Siri ทำงานต่างๆ ตามที่คุณต้องการได้ด้วยซึ่งความสามารถนี้นั้นจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน MacBook Pro ด้วยเสียงได้เป็นอย่างมากครับ
ลำโพงสุดแจ่ม
มาถึงสาเหตุสุดท้ายที่คุณควรจะซื้อ MacBook Pro 2018 แล้วครับ ว่าด้วยเรื่องของลำโพงที่จะว่าไปแล้วนั้นทาง Apple ไม่ค่อยจะให้ความสำคัญกับลำโพงบน MacBook สักเท่าไรครับ ทว่ากับ MacBook Pro 2018 นั้นมันไม่ได้เป็นแบบเดิมที่เคยผ่านมาครับ ด้วยลำโพงคู่ 2 ตัวที่ให้เสียงแบบ Stereo อยู่ทางด้านข้างของตัวเครื่องแต่ละด้าน ในการใช้งานที่เห็นได้ว่าลำโพงของ MacBook Pro 2018 ต่างไปจากเดิมนั้นก็คือเรื่องของการเปิดเสียงให้ดังมากที่สุดซึ่งพบว่าลำโพงของ MacBook Pro 2018 นั้นยังคงให้เสียงดีไม่มีเพี้ยนครับ
ผ่านไปแล้วกับ 5 เหตุผลที่คุณควรจะซื้อ MacBook Pro 2018 ทีนี้เราลองมาดูกันบ้างครับว่าเหตุผลอกี 4 เหตุผลที่คุณไม่ควรจะซื้อ MacBook Pro 2018 มาใช้งานจะมีอะไรบ้างครับ
อายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ในระดับกลางๆ
MacBook Pro 2018 รุ่นขนาดหน้าจอ 13 นิ้วนั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีขนาดเพิ่มขึ้นจากเดิม 54.5 Wh มาเป็น 58 Wh ซึ่งจริงๆ แล้วเมื่อมีแบตเตอรี่คามจุเพิ่มขึ้นแล้วนั้น อายุการใช้งานต่อเนื่องก็น่าจะมากกว่าเดิมแต่ทว่ากับ MacBook Pro 2018 ขนาดหน้าจอ 13 นิ้วนั้นไม่เป็นเช่นนั้นครับ จากการทดสอบของ Laptop Mag เองนั้นพบว่าเมื่อทำการท่องเว็บและเปิดความสว่างของหน้าจอไว้ที่ 150 nits จะสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง 23 นาทีเท่านั้น และเมื่อมีการอัพเดทปล่อยออกมาแล้วทาง Laptop Mag ก็ได้ทำการทดสอบอีกรอบซึ่งเวลาใช้งานต่อเนื่องนั้นดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยคืออยู่ที่ 8 ชั่วโมง 43 นาทีครับ
เมื่อเรามองดูโน๊ตบุ๊คในระดับพรีเมียมมาเปรียบเทียบกับ MacBook Pro 2018 ขนาดหน้าจอ 13 นิ้วแล้วนั้นพบว่า MacBook Pro 2018 ขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว จะสามารถใช้งานได้ยาวนานอยู่ในระดับกลางเท่านั้นเพราะจากการทดสอบโน๊ตบุ๊คยี่ห้ออื่นๆ นั้นมีเครื่องที่สามารถใช้งานได้ยาวนานมากกว่าอย่างเช่น Dell XPS 13 ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 12 ชั่วโมง 30 นาที หรือกระทั่ง Huawei MateBook X Pro เองนั้นก็สามารถที่จะใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องที่ 9 ชั่วโมง 55 นาทีเลยครับ
ประสิทธิภาพทางด้านกราฟิกก็แค่งั้นๆ
สำหรับกราฟิกแบบฝังในหน่วยประมวลผลอย่าง Intel Iris 655 Plus นั้นประสิทธิภาพของมันค่อนข้างจะถือว่าค่อนข้างจะอยู่ในเกณฑ์ธรรมดาที่ถ้าใช้แค่งานด้านตัดต่อภาพหรือวีดีโอแล้วนั้นมันก็สามารถที่จะใช้งานได้เป็นอย่างดีครับ ทว่าเมื่อเอามาใช้ในการเล่นเกมแล้วนั้นบอกได้เลยครับว่ามันไม่เหมาะสมเป็นอย่างมากเช่นเกม Dirt 3 จะสามารถเล่นเกมได้แค่ 46.9 FPS เท่านั้น แน่นอนครับว่างานนี้ MacBook Pro 2018 ขนาดหน้าจอ 13 นิ้วจะไม่สามารถสู้กับคู่แข่างได้เลยไม่ว่าจะเป็น Huawei MateBook X Pro หรือ Asus ZenBook 13 ที่มาพร้อมกับชิปกราฟิกแบบแยกอย่าง Nvidia GeForce MX150 ยังสามารถที่จะเล่นเกมเดียวกันได้ที่ 110 FPS ขึ้นไปครับ
ไร้ซึ่งพอร์ตการเชื่อมต่อที่ยังคงนิยมใช้กันมากในปัจจุบัน
สาเหตุเรื่องนี้นั้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากเลยทีเดียวครับกับผู้ใช้ที่ยังคงใช้งานอุปกรณ์เสริมที่เชื่อมต่อด้วยพอร์ตในปัจจุบันอย่างเช่น USB Type A เป็นต้น เนื่องจากว่า MacBook Pro 2018 ขนาดหน้าจอ 13 นิ้วนั้นได้ตัดพอร์ตการเชื่อมต่อเก่าๆ ออกไปหมด(แม้กระทั่ง SD card slot) แล้วใส่มาแค่พอร์ต Thunderbolt 3 จำนวน 4 พอร์ตเท่านั้นบนตัวเครื่อง แน่นอนคครับว่ามันทำให้การใช้งานกับอุปกรณ์เก่าๆ(และแม้กระทั่งอุปกรณ์ในปัจจุบัน) เป็นเรื่องยาก ถึงแม้ว่าทาง Apple จะบอกว่าสามารถหาซื้อ Dock มาใช้งานได้นั้นแต่ทว่า Dock ของ Apple เองนั้นก็ราคาแพงใช่เล่น แถมมันยังเพิ่มความลำบากในการพกพา MacBook Pro ไปไหนมาไหนอีกด้วยครับ
ราคาแพงเวอร์
ท้ายที่สุดที่ทุกท่านจะต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะซื้อเจ้า MacBook Pro 2018 มาใช้งานดีไหมนั้นก็คือเรื่องของราคาที่บอกได้คำเดียวครับว่า MacBook Pro 2018 นั้นมาพร้อมกับราคาที่แพงเอามากๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ในรุ่นเริ่มต้นเท่านั้นราคาก็ปาไปที่ประมาณ 59,020 บาทแล้ว แต่คู่แข่งนั้นจะมีราคาที่ถูกกว่าอย่างเช่น Huawei MateBook X Pro รุ่นท๊อปสุดก็มีราคาอยู่ที่ประมาณ 52,447 บาทเท่านั้น งานนี้คงต้องดูงบในกระเป๋าแล้วล่ะครับว่าจะพอหรือไม่
อย่างไรก็ตามแล้วนั้นใช่ว่า MacBook Pro 2018 นั้นจะไม่ดีนะครับ ด้วยแบรนด์ Apple ที่ไว้ใจได้ก็ทำให้ผู้ซื้อรู้สึกสบายใจไปในระดับหนึ่ง ทั้งนี้จะซื้อหรือไม่ซื้อก็ต้องเป็นคุณๆ แล้วครับว่าจะตัดสินใจซื้อ MacBook Pro 2018 มาใช้งานหรือไม่
ที่มา : laptopmag