รีพับลิคออฟเกมเมอส์เปิดตัว Zephyrus S (GX531)
ASUS ROG Zephyrus S มาพร้อมขุมพลัง Intel Core i7-8750H CPU และ NVIDIA GeForce GTX 1070 Max-Q GPU ที่มีขนาดตัวเครื่องบางที่สุดในโลก พร้อมหน้าจอแบบ 144Hz และ Windows 10 Pro
KEY POINTS
- เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่บางที่สุดในโลก:95~15.75 มม. พร้อม Intel Core i7-8750H CPU และ NVIDIA GeForce GTX 1070 Max-Q หรือ GTX 1060 GPU
- การแสดงผลภาพอันทรงพลังบนหน้าจอที่มีขอบบางเป็นพิเศษ: ด้วยรีเฟรชเรทสูง 144Hz และอัตราการตอบสนองการแสดงผลภาพเร็วสูง 3ms ให้ภาพกราฟิกสำหรับการเล่นเกมที่ลื่นไหลไร้อาการเบลอ
- ระบบ Active Aerodynamic System (AAS) ของ ROG ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร: ระบบระบายความร้อนที่เหมาะสม ด้วยนวัตกรรมการถ่ายเทความร้อน และพัดลมแบบ 83 ใบพัดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดบนดีไซน์บางเฉียบ
กรุงไทเป, ประเทศไต้หวัน, 16 สิงหาคม 2018 — รีพับลิคออฟเกมเมอส์ (ROG) ประกาศเปิดตัว Zephyrus S (GX531), รุ่นใหม่ล่าสุดในซีรีย์ ROG Zephyrus ซึ่งนับเป็นความสำเร็จครั้งใหม่สำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเป็นพิเศษ
ASUS ROG Zephyrus S มีระดับความบางเพียง 14.95~15.75 มม. ทำให้ Zephyrus S นั้นบางกว่า Zephyrus รุ่นแรก (GX501) ถึงกว่า 12% ตัวเครื่องถูกติดตั้งมาด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุด Intel® Core™ i7-8750H และกราฟิกการ์ด NVIDIA® GeForce® GTX 1070 Max-Q สมบูรณ์แบบทั้งสำหรับการทำงานและการเล่นเกม หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมรีเฟรชเรทสูง 144Hz, อัตราการตอบสนองการแสดงผลเร็วสูง 3ms ในกรอบจอบางเฉียบทำให้ได้ตัวเครื่องขนาดเทียบเท่า 14.2 นิ้ว
วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งหมดทำให้มีความแข็งแรงทนทานถึงระดับมาตรฐานทางการทหาร (military-grade) โดยยังคงไว้ซึ่งการออกแบบที่สวยงาม ด้วยเส้นสายที่ทันสมัยและการตกแต่งเสริมความพรีเมียม ระบบระบายความร้อนที่มีความล้ำหน้าทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมของทุกชิ้นส่วน จากคุณสมบัติที่รวมอยู่ใน Active Aerodynamic System (AAS) — การออกแบบและวิศวกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพของ Zephyrus series
ตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งหมดรวมทั้งการดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ยอดเยี่ยม
หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดในการรังสรรค์เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มีความบางเช่นนี้คือการทำให้มั่นใจว่าตัวเครื่องนั้นจะมีความสมดุลทั้งในด้านของความแข็งแรงและน้ำหนัก: Zephyrus S ใช้วัสดุโลหะผสมระหว่างอลูมิเนียมและแม็กนีเซียมในตัวโครงสร้างเพื่อให้ได้มาซึ่งความสมดุลดังกล่าว ชิ้นส่วนประกบทั้งด้านบนและล่างถูกขึ้นรูปอย่างบรรจงจากอลูมิเนียมที่มีความแข็งแกร่ง กระบวนการ CNC-milling อันละเอียดอ่อนนี้ใช้เครื่องเครื่องมือในการขัดเกลาถึงห้าขั้นตอนเป็นเวลาเกือบ 72 นาที
เพื่อรังสรรค์รายละเอียดอันปราณีตและขนาดที่สมบูรณ์แบบ ได้มาซึ่งฝาประกบที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อแต่ยังคงไว้ซึ่งความบาง อีกทั้งยังช่วยทำให้ตัวเครื่อง Zephyrus S มีความทนทาน: โดยเครื่องต้นแบบสำหรับการทดสอบได้ผ่านมาตรฐานความทนทานระดับทางการทหารต่อแรงสั่นสะเทือนและการกระแทก
ลวดลายบนผิวฝาจอเป็นแบบคอนทราสต์เสริมความโดดเด่น: การอโนไดซ์แบบสองขั้นตอนทำให้ผิวสัมผัสมีความเรียบหรูและเสริมความโดดเด่นด้วยสีทองแดง ขณะที่เส้นตัดเฉียงทำหน้าที่แบ่งหน้าผิวสัมผัสที่โดดเด่นสองฝั่ง เช่นเดียวกับพื้นที่บริเวณเหนือคีย์บอร์ดที่มีการตกแต่งด้วยเส้นตัดทแยงในลักษณะเดียวกัน ทำให้ Zephyrus S มีสไตล์ที่โดดเด่น บานพับดีไซน์แบบขากรรไกรซ่อนความโดดเด่นของตัวเครื่องจนกว่าจะถูกเปิดขึ้น เผยให้เห็นถึงหน้าจอและช่องดูดลมเข้าอันเป็นเอกลักษณ์ของ Zephyrus
การแสดงผลภาพอันยอดเยี่ยมเป็นไปได้ด้วยหน้าจอแบบ super-narrow-bezel
ขอบหน้าจอแบบบางพิเศษทำให้หน้าจอขนาด 15.6 นิ้วสามารถติดตั้งอยู่บนตัวเครื่องขนาด 14.2 นิ้วได้ ทำให้ตัวเครื่อง Zephyrus S มีขนาดเล็กลงและสามารถใช้งานในพื้นที่ๆจำกัดยิ่งกว่ารุ่นก่อนหน้า นอกจากนั้นแล้วขอบจอที่บางพิเศษยังช่วยให้ได้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าอีกด้วย
ตั้งแต่การนำเสนอ Zephyrus รุ่นแรก ASUS ได้ทำงานร่วมกับ AUO ผู้ผลิตหน้าจอรายใหญ่อย่างใกล้ชิดเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คของ ROG จะใช้แต่หน้าจอที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมเท่านั้น โดยหน้าจอแบบ 120Hz ที่ติดตั้งบนเครื่องรุ่นแรกนั้นมีรีเฟรชเรทที่สูงกว่าหน้าจอแบบธรรมดาทั่วไปถึงกว่าเท่าตัว ขณะที่ Zephyrus S ให้รีเฟรชเรทที่สูงขึ้นไปอีกถึง 144Hz และยังลดอาการภาพเบลอและเงาภาพที่อาจเกิดขึ้นโดยการลดอัตราการตอบสนองในการแสดงผลไปที่ระดับ 3ms
ไม่ได้มีเพียงความรวดเร็วในการแสดงผลเท่านั้น หน้าจอแบบ IPS AHVA ยังสามารถแสดงผลภาพได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน โดยสามารถแสดงสีสันได้ครอบคลุม 100% ของมาตรฐานสีแบบ sRGB ให้ความมั่นใจได้ถึงสีสันที่สดใส และมุมมองที่กว้างสบายตาไม่มีอาการเพี้ยนของสีเมื่อมองจากมุมเฉียง
ระบบระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยมเพื่อประสิทธิภาพเต็มร้อย
ระบบระบายความร้อนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สำคัญที่สุดสำหรับ Zephyrus S เนื่องจากข้อจำกัดทางวิศวกรรมในการออกแบบให้ได้มาซึ่งความบางเป็นพิเศษ แต่ก็เป็นสิ่งที่เราไม่ลดละเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ด้วยเหตุนี้ทำให้วิศวกรด้านการระบายความร้อนของ ASUS และ ROG ได้พัฒนาระบบที่เป็นนวัตกรรมอย่าง Active Aerodynamic System (AAS) บน Zephyrus รุ่นแรก
โดยเมื่อยกหน้าจอของตัวเครื่องขึ้นก็จะเป็นการเปิดช่องลมพิเศษบริเวณด้านใต้ของตัวเครื่องเพื่อให้ดึงลมเย็นเข้าภายในได้มากขึ้น เช่นเดียวกันกับ AAS บน Zephyrus Sที่เปิดช่องลมให้มากขึ้นถึง 5มม. ตลอดทั้งแนวด้านหลังของตัวเครื่องเพื่อให้ได้ปริมาณไหลเวียนของอากาศที่มากขึ้นถึง 22% เมื่อเทียบกับการออกแบบเดิมๆ นอกจากนั้นแล้วยังมีลมไหลเวียนเข้าผ่านทางช่องคีย์บอร์ด และการวางตำแหน่งคีย์บอร์ดบริเวณด้านหน้าของตัวเครื่องยังช่วยให้มีพื้นที่ในการระบายความร้อนที่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ภายในตัวเครื่องของ Zephyrus S มีฮีทไปป์ทั้งหมดห้าเส้นทำหน้าที่ดึงความร้อนออกจาก CPU และ GPU พร้อมทั้งแผงวงจรไฟฟ้าแบบ VRM ที่จะทำหน้าที่จ่ายไฟให้กับระบบ โดย CPU และ GPU ได้ถูกเชื่อมต่อเข้ากับชุดฮีทซิ้งค์ทั้งที่ทำหน้าที่อย่างอิสระและใช้ร่วมกันเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการระบายความร้อนจะมีประสิทธิภาพสามารถรับมือกับการใช้งานทุกประเภท และชิ้นส่วนต่างๆที่มีการใช้พลังงานจะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 80°C เพื่อให้มีเสถียรภาพในการใช้งานในระยะยาว คลื่นความร้อนจะถูกนำออกผ่านทางฮีทไปป์ไปสู่ชุดฮีทซิ้งค์และช่องระบายลมร้อนทั้งหมดสี่ชุดที่มุมด้านหลังของตัวเครื่อง มากกว่าที่มีบน Zephyrus รุ่นแรกเป็นเท่าตัว
การทำให้ชุดฮีทซิ้งค์ปราศจากฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกนับเป็นเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพการระบายความร้อน เป็นเหตุผลที่ทีมวิศวกรได้เพิ่มพัดลมที่สามารถทำความสะอาดตัวเองได้โดยทำการไล่ฝุ่นละอองต่างๆออกจากระบบผ่านทางช่องระบายฝุ่น คุณสมบัติพิเศษนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมที่อาจเกิดขึ้นบนครีบระบายความร้อนเพื่อให้มั่นใจได้ถึงการระบายความร้อนที่มีเสถียรภาพในการใช้งานระยะยาวที่ดียิ่งขึ้น
ด้วย 83 ใบพัดบนพัดลมคู่แบบ AeroAccelerator ความแรง 12V มีจำนวนใบพัดมากกว่าพัดลมของ Zephyrusรุ่นแรกถึง 17% การไหลเวียนอากาศยังทำได้ดียิ่งขึ้นจากรูปทรงของใบพัดอลูมิเนียมซึ่งมีขอบใบพัดที่โค้งมนและยกปลายขอบเพื่อนำลมเข้าสู่บริเวณใบพัดได้มากยิ่งขึ้น ความเร็วในการหมุนถูกกำหนดด้วยชุดคำสั่งอัจริยะที่ถูกตั้งค่าเป็นโปรไฟล์สามรูปแบบ โดยปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดทำให้ผู้ใช้สามารถสลับเปลี่ยนโหมดการใช้งานระหว่าง Overboost mode สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับสูงสุด, Silent mode สำหรับเสียงรบกวนที่น้อยที่สุด, และ Balanced mode เพื่อความสมดุลในการใช้งาน
ปรับแต่งไฟ RGB ด้วย Aura Sync
ไฟ RGB ที่ถูกติดตั้งมาบน Zephyrus S จะทำให้เกมเมอส์สามารถปรับแต่งเอฟเฟคท์ต่างๆได้ตามต้องการ หรือจะปรับให้เข้ากับอารมณ์ของเกมที่กำลังเล่นอยู่ก็สามารถทำได้ ไฟเรืองแสงบนคีย์บอร์ดแยกอิสระสี่โซน และยังมีหลอดไฟ LEDs แสดงให้เห็นถึงการทำงานภายในช่องลมของระบบ AAS นอกจากนั้นแล้ว Aura Sync ยังเชื่อมโยงสีสันและเอฟเฟคท์ต่างๆของอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆที่รองรับเข้าไว้ด้วยกันเช่นชุดหูฟัง ROG Delta และเม้าส์ Gladius II Origin ทำให้การปรับแต่งตามความชอบของคุณเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง การปรับแต่งไฟบนแอพพลิเคชั่นของผู้พัฒนาอื่นๆก็สามารถทำได้ผ่านทาง Aura SDK โดย ROG กำลังทำงานร่วมกับนักพัฒนาทั้งหลายเพื่อการรองรับเกมและแอพพลิเคชั่นอื่นๆที่จะมีมากขึ้นในอนาคต
Armoury Crate — ศูนย์ควบคุมที่ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด
จากที่เคยเป็น ROG Game Center ตอนนี้ได้เปลี่ยนมาเป็น Armoury Crate ซึ่งรวบรวมเอาฮาร์ดแวร์ต่างๆของ ROG มาไว้บนยูทิลิตี้เดียว ทำให้สามารถเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่าต่างๆของระบบรวมไปถึงการปรับแต่งไฟด้วย Aura Sync นั้นทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว หรือผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆตามความชอบเป็นรูปแบบได้มากถึงสี่โปรไฟล์ — ซึ่งการตั้งค่าต่างๆจะถูกเรียกใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดเกมที่ได้เลือกไว้ Armoury Crate ยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริม Mobile Dashboard สำหรับ Android™ และ iOS รวมไปถึงความสามารถอื่นๆที่จะมีเพิ่มขึ้นจากการอัพเดทในอนาคต
ตำแหน่งคีย์บอร์ดบริเวณด้านหน้าของตัวเครื่อง
นอกจากวัตถุประสงค์หลักในการวางตำแหน่งคีย์บอร์ดไว้ที่บริเวณด้านหน้าของ Zephyrus S ที่จะช่วยเอื้อต่อการระบายความร้อนแล้ว มันยังทำให้ผู้ใช้สามารถวางมือได้อย่างสะดวกสบายเหมือนกับการใช้งานเครื่องแบบเดสก์ท็อปอีกด้วย เทคโนโลยี Overstroke ทำให้ผู้ใช้สามารถกดได้เร็วยิ่งขึ้นและมีอัตราการตอบสนองที่ดียิ่งกว่า นอกจากนั้นแล้ว ระยะการกดที่ 1.2มม. ยังให้ความรู้สึกในการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ตัวปุ่มมีความทนทานต่อการกดได้มากถึง 20 ล้านครั้งเพื่อรับมือกับการใช้งานที่หนักหน่วง และฟังค์ชั่น N-key rollover ยังช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าการกดแต่ละครั้งจะทำงานได้อย่างแม่นยำไม่ว่าจะกดพร้อมๆกันกี่ปุ่มก็ตาม
ระบบเสียงรอบทิศทางที่ดีขึ้นอีกระดับ
Zephyrus S ถูกติดตั้งมาพร้อมกับระบบเสียงที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ลำโพงคู่แบบ front-facing ติดตั้งอยู่บริเวณข้อพับจอทำหน้าที่ขับกำลังเสียงจากเทคโนโลยี smart-amplifier ที่จะควบคุมดอกลำโพงให้อยู่ในภาวะการทำงานที่เหมาะสม ทำให้สามารถเร่งระดับเสียงได้ดังยิ่งขึ้นโดยปราศจากอาการเสียงเพี้ยนหรืออาการลำโพงแตก Sonic Studio III เพิ่มการจำลองเสียงรอบทิศทาง เพื่อให้ได้เสียงที่โอบล้อมยิ่งขึ้นผ่านทางชุดหูฟัง และยังสามารถใช้งานระบบ APO injection ที่จะช่วยจำลองเสียงแบบรอบทิศทางได้บนอุปกรณ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชุดหูฟังแบบอนาล็อครวมไปถึงชุดหูฟังแบบ USB, DAC แบบต่อแยกภายนอก, และอุปกรณ์ VR
หน่วยจัดเก็บข้อมูลและการเชื่อมต่อ
Intel Core i7-8750H CPU ใน Zephyrus S นั้นได้รับการสนับสนุนการทำงานจากแรมความเร็วสูงแบบ DDR4 2666MHz และสตอเรจแบบ NVMe® ขณะที่ Wi-Fi แบบ 802.11ac Wave 2 จะทำหน้าที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายที่รองรับที่ระดับความเร็วสูงกว่าระดับความเร็วแบบกิกกะบิท[1] USB 3.1 Gen 2 Type-C™ (USB-C™) และพอร์ท HDMI 2.0 ports รองรับการต่อหน้าจอแยกภายนอกและ TV ขนาดใหญ่ ให้ผู้ใช้สามารถต่อหน้าจอแยกได้ถึงสองจอพร้อมๆกัน นอกจากนั้นยังมีพอร์ท USB อีกหลายพอร์ทรวมไปถึง USB 3.1 Gen 2 Type-A เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับการเล่นเกมรวมไปถึงสตอเรจแบบพกพาอีกด้วย
ความทรงพลังอันสมบูรณ์แบบสำหรับทั้งการทำงานและการเล่นเกม
Zephyrus S สามารถรับมือกับการทำงานอันหนักหน่วงได้เช่นเดียวกับการเล่นเกมสุดโหด ด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุดเจนเนอเรชั่นที่ 8 Intel Core i7-8750H ที่มีหกคอร์และ 12 เธรดที่จะให้พลังในการประมวลผลแบบคู่ขนานที่สามารถรับมือกับการทำงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลระดับสูงไม่ว่าจะเป็นการคอมไพล์, งานเรนเดอร์, และการสร้างคอนเทนท์ โดยคอร์ประมวลผลที่เพิ่มมากขึ้นยังสามารถรับมือกับการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมและสตรีมมิ่ง, บันทึกวิดิโอ, และทำอย่างอื่นไปพร้อมๆกันได้ กราฟิกการ์ดGeForce 10-series — สูงสุดถึง GTX 1070 with Max-Q Design — ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของแอพพลิเคชั่นที่รองรับให้สูงยิ่งขึ้น ที่สำคัญไปกว่านั้นคือกราฟิกการ์ดดังกล่าวสามารถให้เฟรมเรทหลักร้อยบนเกมที่ได้รับความนิยมหลากหลายเกม ให้หน้าจอที่ถูกติดตั้งมาได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
SPECIFICATIONS[2]
ASUS ROG Zephyrus S (GX531)
GX531GS | GX531GM | |
Operating System | Windows 10 Home
Windows 10 Pro – ASUS recommends Windows 10 Pro |
|
Processor | Intel® Core™ i7-8750H | |
Graphics | NVIDIA® GeForce® GTX 1070 (Max-Q) | NVIDIA® GeForce® GTX 1060 |
8GB GDDR5 VRAM | 6GB GDDR5 VRAM | |
Memory | DDR4 2666MHz SDRAM
Up to 24GB (8GB onboard memory) |
|
SSD | M.2 NVMe PCIE 3.0 x2 512GB SSD
M.2 NVMe PCIE 3.0 x4 256GB / 512GB / 1TB SSD |
|
Display | 15.6-inch FHD (1920×1080) IPS-level panel, 144Hz, 3ms, 100% sRGB | |
VR Ready | Yes | |
Keyboard | Backlit Chiclet Keyboard
Marked WASD keys N-key rollover RGB 4 zones Aura Sync 1.2mm key travel |
|
Audio | 2x 2W speakers with smart-amplifier technology Array microphone |
|
Software | Armoury Crate
GameFirst V Splendid Sonic Studio Aura Core XSplit Gamecaster (Free) |
|
I/O Ports | 1 x USB 3.1 Gen 2 Type-C™ (USB-C™)
1 x USB 3.1 Gen 1 Type-C™ (USB-C™) 1 x USB 3.1 Gen 2 Type-A 2 x USB 2.0 Type-A 1 x HDMI 2.0 1 x 3.5mm headphone and microphone combo jack 1 x Kensington Lock |
|
Power | 230W Power adaptor | 180W Power adaptor |
Wi-Fi / Bluetooth | 802.11ac 2×2 Wave 2 Wi-Fi
Bluetooth® 5.0 |
|
Dimensions | 360 x 268 x 14.95~15.75mm | |
Weight | 2.1kg |
###
เกี่ยวกับ ROG
รีพับลิคออฟเกมเมอส์ (ROG) นับเป็นแบรนด์ย่อยของเอซุสที่มุ่งเน้นในการสร้างเกมมิ่งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ที่ดีที่สุดในโลก ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 2006 ROG ได้นำเสนอสินค้าที่มีความหลากหลายครบครัน เป็นที่รู้จักในแง่ของประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดี อาทิเมนบอร์ด, กราฟิกการ์ด, แล็ปท็อป, เดสก์ท็อป, หน้าจอแสดงผล, อุปกรณ์เครื่องเสียง, เราท์เตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ ROG เข้าร่วมและสนับสนุนรายการแข่งขันเกมระดับนานาชาติมากมาย อุปกรณ์ต่างๆของ ROG ได้ถูกใช้เพื่อสร้างสถิติในการโอเวอร์คล็อกมาแล้วมากมายและยังคงเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆสำหรับเกมเมอส์และผู้ที่ต้องการความเป็นที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ the choice of champions ได้ที่ http://rog.asus.com.
[1] Unless otherwise stated, claimed Wi-Fi speeds are based on theoretical performance. Actual performance may vary in real-world situations.
[2] Specifications, content and product availability are all subject to change without notice and may differ from country to country. Actual performance may vary depending on applications, usage, environment and other factors. Full specifications are available at http://www.asus.com