เกม Rainbow Six: Siege ใน Steam จะแบ่งเป็นเซ็ตแยกย่อยเยอะมากตามความต้องการของคนเล่นเช่นแบบ Standard กับ Gold ซึ่งสิ่งที่ได้รับก็จะแตกต่างกันชัดเจนแต่ถ้าสังเกตดี ๆ มันจะมีเซ็ตเกมที่ชื่อ Starter Edition อยู่ด้วยแต่ความแตกต่างกับเซ็ต Standard กับราคาของมันก็ทำให้หลายคนลังเลว่าจะซื้อแบบไหนดี
ดังนั้นแล้วในวันนี้เราก็จะมาแยกความแตกต่างของเกมทั้งสองเซ็ตกันว่ามันมีอะไรให้ผู้เล่นบ้างและราคาที่จัดว่าต่างกันพอควรขนาดนี้ควรซื้อแบบไหนกันดีเพราะ Standard ราคาก็อยู่ที่ 1,200 ขณะที่ Starter Edition มีราคาแค่ 349 บาทเท่านั้น
ความแตกต่าง
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าสิ่งที่ทั้งสองเซ็ตมีเหมือนกันก็คือ แผนที่ , โหมดการเล่น , Operators พื้นฐาน และ DLC แต่สิ่งที่ต่างกันนอกจากราคาก็คือใน Rainbow Six: Siege Standard จะปลดล็อคได้ 20 Operator ดั้งเดิมได้จากการใช้ Renown ค่าเงินในเกมและใช้เพียง 5,000 ก็ได้ Operator 4 ตัว
ถ้าเป็น Starter Edition จะปลดล็อคได้ 20 ตัวแต่ต้องใช้ Renown ถึง 12,500 ถึงจะปลดล็อคเพิ่มได้และต้องใช้ค่าเงิน 50,000 ถึงจะปลดล็อคได้ 4 ตัวแต่ว่าเราจะได้สุ่ม Operator มาให้ 6 ตัวจาก Operator ยอดนิยมได้แก่
- Attackers: Ash , Thermite , Thatcher , Fuze , Sledge
- Defenders: Rook , Mute , Smoke , Jager , Kapkan
นอกจากนี้ใน Starter Edition ก็ยังแถม R6 Credits ให้อีก 600 หน่วยด้วยซึ่งเงินตัวนี้ก็เหมือนเงินแคชที่ต้องใช้เงินจริงซื้อมาแต่ตัวเกมแถมมาให้เลยซึ่งเราสามารถเอาไปซื้อ Operator เพิ่มเติมได้อีก 2 ตัว (300 หน่วย/ตัว)
สองเซ็ตเกมเหมาะกับใคร
เมื่อดูข้อแตกต่างกันแล้วก็จะพบว่าในพาร์ทของเนื้อหาเกมทั้งสองเซ็ตเข้าถึงได้เหมือนกันแต่ต่างกันที่การปลดล็อค Operator ที่อาจจะกินเวลาเยอะสำหรับ Starter Edition แต่ก็มีเงินแคชแถมมาให้ปลดล็อคตัวเพิ่ม 2 ตัว โดยที่เกม Standard ไม่มีแถมให้แม้ว่าจะใช้ค่า Renown ปลดล็อคน้อยกว่าก็ตาม
ดังนั้นแล้วถ้าหากว่าใครที่ไม่อยากจะปลดล็อค Operator เพิ่มทั้งหมดหรือชอบเล่นตัวละครยอดนิยมกันอยู่แล้วล่ะก็การซื้อ Starter Edition จะประหยัดเงินกว่ามาก
อย่างไรก็ตามสิทธิ์การตัดสินใจซื้อเกมก็ขึ้นอยู่กับตัวของคุณเองแล้วจะจัด Starter ก็ได้ราคาที่คุ้มค่าหรือเอาชุด Standard จบ ๆ ไปเลยก็ได้และสามารถเข้าไปซื้อเกมได้ ที่นี่
ที่มา: pcgamesn