AMD – เปิดตัว Radeon Pro WX 8200 กราฟิกระดับเวิร์กสเตชั่นที่ดีที่สุดในโลกในราคาต่ำกว่า 33,000 บาท

เอเอ็มดี (NASDAQ: AMD) เปิดตัวกราฟิกการ์ด AMD Radeon™ Pro WX 8200 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กราฟิกสำหรับเวิร์กสเตชั่น Radeon™ Pro WX มอบประสิทธิภาพกราฟิกระดับเวิร์กสเตชั่นที่ดีที่สุดในโลกด้วยระดับราคาที่ต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์[i] (ประมาณ 33,000 บาท) รองรับการแสดงภาพแบบเรียลไทม์, VR และการเรนเดอร์ภาพโฟโต้เรียลลิสติก (Photorealistic)  พร้อมกันนี้ เอเอ็มดีได้เผยโฉมอัพเดตสำคัญสำหรับ Radeon™ ProRender และความร่วมมือกับ Vancouver Film School ซึ่งจะช่วยให้ผู้สร้างคอนเทนต์รุ่นใหม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเทคโนโลยี VFX โดยอาศัยพลังของกราฟิก Radeon™ Pro

กราฟิกการ์ด AMD Radeon™ Pro WX 8200 ที่เปี่ยมประสิทธิภาพนี้ช่วยให้บุคลากรมืออาชีพสามารถออกแบบและเรนเดอร์ภาพได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากขึ้น  นับเป็นกราฟิกการ์ดในอุดมคติสำหรับเวิร์กโหลดงานออกแบบและการผลิต สื่อและความบันเทิง และสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการก่อสร้าง (AEC) ในทุกขั้นตอนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์

ออกี้ เบอร์คิก ผู้จัดการทั่วไปฝ่าย Radeon Pro ของเอเอ็มดี กล่าวว่า “บุคลากรจะสามารถปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยสถาปัตยกรรม ‘Vega’ⁱⁱ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกราฟิกการ์ด Radeon™ Pro WX 8200  กราฟิกการ์ดสำหรับเวิร์กสเตชั่นรุ่นใหม่นี้จะช่วยให้ผู้สร้างคอนเทนต์ปรับปรุงการประสานงานร่วมกับทีมงานที่อยู่ห่างไกลออกไปโดยใช้ VR และสร้างสรรค์ประสบการณ์ภาพยนตร์ที่แปลกใหม่ รวมทั้งแสดงภาพผลงานการสร้างสรรค์ได้อย่างง่ายดาย โดยทั้งหมดนี้เป็นจริงได้ด้วยกราฟิกการ์ดที่มีระดับราคาถูกกว่าอย่างไม่น่าเชื่อ”

กราฟิกการ์ด Radeon™ Pro WX 8200 ใช้สถาปัตยกรรม “Vega” GPU ที่ก้าวล้ำ ด้วยกระบวนการผลิต 14nm FinFET มอบสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับการขับเคลื่อนโมเดลขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ครอบคลุมกระบวนการแสดงผลงานออกแบบทั้งหมด  ด้วยการรับรองการใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นยอดนิยม เช่น Adobe® CC, Dassault Systemes® SOLIDWORKS®, Autodesk® 3ds Max®, Revit® และอื่นๆ กราฟิกการ์ด Radeon™ Pro WX 8200 จึงเหมาะสำหรับเวิร์กโหลดต่างๆ เช่น การแสดงภาพแบบเรียลไทม์ การเรนเดอร์ภาพที่จำลองจากโลกจริง และ Virtual Reality (VR)

ฟีเจอร์ที่ก้าวล้ำ

กราฟิกการ์ด Radeon™ Pro WX 8200 ประกอบด้วยฟีเจอร์และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ขับเคลื่อนการทำงานของบุคลากรมืออาชีพ เช่น:

• แคชคอนโทรลเลอร์แบนด์วิธสูง (High Bandwidth Cache Controller – HBCC): หน่วยความจำระบบที่เหนือชั้นของกราฟิกการ์ด Radeon™ Pro WX 8200 ขจัดข้อจำกัดเรื่องความจุของหน่วยความจำ GPU รุ่นเก่า ช่วยให้ผู้สร้างและนักออกแบบสามารถทำงานในแบบเรียลไทม์กับโมเดลและแอสเซ็ทที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีรายละเอียดมากกว่าเดิม
• เอนจิ้นพิกเซลที่ได้รับการปรับปรุง: เอนจิ้นพิกเซลรุ่นปรับปรุงในสถาปัตยกรรม “Vega” GPU ช่วยให้ผู้สร้างสามารถสร้างโลกที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อจำกัด GPU ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการจัดเก็บงานที่เกี่ยวข้องไว้ในแคชของ GPU เพื่อให้ประมวลผลในเวลาเดียวกัน  เทคโนโลยี “Shade Once” แบบใหม่จะทำให้มีการแรเงาเฉพาะพิกเซลที่ปรากฏให้เห็นในฉากสุดท้ายเท่านั้น
• หน่วยความจำ Error Correcting Code (ECC)ⁱⁱⁱ: รับรองความถูกต้องแม่นยำในการคำนวณ ด้วยการแก้ไขข้อผิดพลาดแบบหนึ่งบิตหรือสองบิต ซึ่งเป็นผลมาจาก background radiation ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

นอกจากนี้ กราฟิกการ์ด Radeon™ Pro WX 8200 ยังประกอบด้วย AMD Secure Processor^iv ซึ่งรองรับ “โลกที่ปลอดภัย” ในแบบเสมือนจริงใน GPU  งานที่มีความสำคัญในแง่ของทรัพย์สินทางปัญญาจะถูกรันบน AMD Secure Processor เพื่อปกป้องการประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูลสำคัญและแอพพลิเคชั่นที่ไว้ใจได้  นอกจากนี้ยังรักษาความครบถ้วนสมบูรณ์และความลับของทรัพยากรสำคัญๆ เช่น อินเทอร์เฟซผู้ใช้ และแอสเซ็ทของผู้ให้บริการ

กราฟิกการ์ด Radeon™ Pro WX 8200 จะเปิดให้สั่งซื้อแบบพรีออเดอร์ที่ Newegg ในวันที่ 13 สิงหาคม และคาดว่าจะวางจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไปในช่วงต้นเดือนกันยายน โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 999 ดอลลาร์สหรัฐฯ  กราฟิกการ์ด Radeon Pro WX Series มาพร้อมกับไดรเวอร์ Radeon™ Pro Software for Enterprise ซึ่ง QA Consultants ระบุว่าเป็น “ไดรเวอร์ที่มีความเสถียรมากที่สุดในอุตสาหกรรม”[ii] พร้อมการรับประกันแบบจำกัด 3 ปี และการรับประกันเสริมแบบจำกัด 7 ปี สำหรับรุ่นค้าปลีก  ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Radeon Pro™ Software for Enterprise 18.Q3 รุ่นล่าสุด สามารถเยี่ยมชมได้ที่นี่

Radeon™ ProRender

นอกจากนี้ เอเอ็มดีได้เปิดตัวปลั๊กอินใหม่ๆ สำหรับ Radeon™ ProRender ซึ่งเป็นเอนจิ้นประสิทธิภาพสูงของเอเอ็มดีสำหรับการเรนเดอร์ภาพที่จำลองจากโลกจริง ช่วยให้นักออกแบบ CAD และศิลปิน 3D สามารถสร้างภาพเรนเดอร์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยตอนนี้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ฟรีสำหรับปลั๊กอินใหม่ๆ สำหรับ:

• PTC Creo: ช่วยให้นักออกแบบและวิศวกรสามารถสร้างภาพผลิตภัณฑ์ที่เรนเดอร์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายกาย โดยปัจจุบันพร้อมใช้งานในรุ่นเบต้า
• วิวพอร์ต Pixar USD: สำหรับนักพัฒนาที่สร้างวิวพอร์ต USD Hydra สำหรับแอพพลิเคชั่นของตนเอง โดยปลั๊กอิน USD รุ่นใหม่นี้ ซึ่งพร้อมใช้งานบน GitHub จะเพิ่มการเรนเดอร์แบบ path-traced เพื่อการแสดงตัวอย่างวิวพอร์ตที่แม่นยำ

นอกจากนั้น มีการเพิ่มเติมฟีเจอร์และอัพเดตใหม่ๆ ให้กับปลั๊กอินที่มีอยู่ รวมถึงการรองรับ Autodesk® 3ds Max 2019, ภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวของกล้อง และอื่นๆ อีกมากมาย

การสนับสนุนผู้สร้างรุ่นใหม่ที่โรงเรียนภาพยนตร์แวนคูเวอร์

พร้อมกันนี้ เอเอ็มดีได้ประกาศความร่วมมือกับโรงเรียนภาพยนตร์แวนคูเวอร์ (Vancouver Film School – VFS) โดยได้จัดตั้งห้องปฏิบัติการใหม่สำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและศูนย์รวมสำหรับชุมชน VFX ระดับมืออาชีพในแวนคูเวอร์  ห้องปฏิบัติการ AMD Creators Lab นี้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Radeon™ Pro และ Ryzen™ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ชุมชนด้านเทคโนโลยีสำหรับงานครีเอทีฟ และพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยี VFX การออกแบบวิดีโอเกม และการพัฒนาเทคโนโลยี Virtual Reality และ Augmented Reality

ห้องปฏิบัติการแห่งใหม่นี้สร้างขึ้นภายในวิทยาเขตใจกลางเมืองของ VFS และอยู่ใกล้กับศูนย์กลางการผลิตและพัฒนางานดิจิตอลของเมืองแวนคูเวอร์ โดยจะทำหน้าที่จัดหาพื้นที่ทำงานแบบเปิดกว้างสำหรับนักศึกษา ศิลปิน และมืออาชีพด้านคอมพิวเตอร์กราฟิก ซึ่งจะมีโอกาสได้ค้นหาและสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคโนโลยีล่าสุดระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม  AMD Creators Lab ประกอบด้วยเครื่องเวิร์กสเตชั่นที่ใช้เทคโนโลยีของเอเอ็มดี เปี่ยมด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้น เพิ่มความรวดเร็วในการโหลดและเรนเดอร์ภาพ ช่วยให้นักศึกษาและบุคลากรสามารถสร้างสรรค์ผลงานตามจินตนาการที่ไร้ขอบเขตและไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเทคโนโลยี

จัดแสดงอนาคตของเทคโนโลยีกราฟิกที่งาน SIGGRAPH

พร้อมกับการเปิดตัว Radeon™ Pro ในวันนี้ ณ งาน SIGGRAPH เอเอ็มดีได้เผยโฉมเดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ Threadripper™ เจนเนอเรชั่น 2 สำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ระดับมืออาชีพ นักพัฒนา นักเล่นเกม และผู้ใช้ระดับสูงที่ชื่นชอบฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัย และเอเอ็มดียังได้จัดแสดงเดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ Threadripper™ เจนเนอเรชั่น 2 พร้อมการสาธิตหลากหลายเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในงาน SIGGRAPH ที่บูธ #1101 เช่น:

• AI Rendering: ระบบ Machine Learning ที่ใช้ ROCm และ Radeon™ Pro WX Series GPU ของเอเอ็มดี สามารถลดเวลาที่ใช้ในการเรนเดอร์ภาพได้อย่างมาก โดยไม่บั่นทอนคุณภาพ
• Viewport Raytracing แบบเรียลไทม์: เทคโนโลยีวิวพอร์ตรุ่นอนาคตสำหรับแอพพลิเคชั่น มอบคุณภาพของการตามรอยลำแสง (ray-tracing) ไปสู่หน้าต่างการแก้ไขของโปรแกรม DCC และ CAD โดยตรง
• Cloud ProRender: ผู้ใช้ AMD Radeon™ ProRender จะสามารถขยายพลังและขีดความสามารถในการเรนเดอร์ ด้วยการเรนเดอร์บนระบบคลาวด์
• PIX บน Windows จากไมโครซอฟท์: PIX เป็นเครื่องมือปรับแต่งประสิทธิภาพและแก้ไขจุดบกพร่องสำหรับนักพัฒนา รองรับการวิเคราะห์เกม DirectX® 12 บน Windows

นอกจากนั้น Blackmagic Design จะจัดแสดง eGPU ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ที่บูธ #1417  ทั้งนี้ Blackmagic eGPU ประกอบด้วยกราฟิกการ์ด AMD Radeon™ Pro 580 เป็นผลงานการออกแบบร่วมกับแอปเปิล สำหรับใช้งานในคอมพิวเตอร์ Apple® MacBook Pro® เหมาะสำหรับงานวิดีโอและกราฟิกระดับมืออาชีพ เช่น ที่ใช้ในซอฟต์แวร์ DaVinci Resolve, เกม 3 มิติ และแพ็คเกจ VR