หลังจากที่ต้องผ่านมรสุมข่าวลือต่างๆ มากมาย ในที่สุดทาง Samsung ก็ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงประจำครึ่งปีหลังอย่าง Galaxy Note 9 ออกมาอย่างเป็นทางการครับ งานนี้นั้นเรียกได้ว่านักวิเคราะห์ที่ออกมาคาดการก่อนหน้านี้นั้นก็มีทั้งผู้ที่ขาหักและผู้ที่คาดการได้ถูกต้องอยู่ไม่น้อย แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเชื่อเหลือเกินครับว่า Galaxy Note 9 นั้นจะต้องถูกใจหลายๆ คนอย่างแน่นอน ว่าแล้วก็ไปดูรายละเอียดของ Galaxy Note 9 กันดีกว่าครับว่าจะเป็นเช่นไรบ้าง
เริ่มต้นกันที่ส่วนของสเปคตัวเครื่องก่อนเลยครับ โดยสเปคของตัวเครื่องนั้นก็ไม่ได้มีอะไรผิดไปจากความคาดหมายมากนัก Note 9 จะมาพร้อมกับชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 845 ตัวแรงประจำปี 2018 นี้ โดยจะมีการแบ่งเป็น 2 โมเดลตามหน่วยความจำคือที่ขนาด 6 GB และที่ขนาด 8 GB(สำหรับรุ่นที่มาพร้อมกับแหล่งเก็บข้อมูลความจุ 512 GB) แหล่งเก็บข้อมูลนั้นจะมีให้เลือกตั้งแต่ 128 GB, 256 GB และ 512 GB อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถที่จะเพิ่มแหล่งเก็บข้อมูลแบบ MicroSD Card ได้มากสุดอีก 512 GB อีกต่างหากครับ
ตัวเครื่องนั้นจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูงมากถึง 4,000 mAh ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวันได้อย่างสบายๆ ภายในตัวเครื่องยังมาพร้อมกับระบบระบายความร้อนที่เรียกว่า water-carbon cooling system และ smart performance adjuster ซึ่งทำให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าถึงแม้จะใช้งานตัวเครื่องอย่างหนักหน่วงเครื่องก็ไม่ร้อนกวนใจมือคุณอย่างแน่นอน
สำหรับด้านกล้องนั้น Samsung เองก็จัดเต็มมาเช่นเดียวกันครับ โดยกล้องหลังนั้นจะเป็นระบบกล้องคู่แบบ 12+12 MP โดยเลนซ์หนึ่งจะมาพร้อมกับรูรับแสง f/2.4 และขนาดพิกเซลอยู่ที่ 1 µm มีระบบ AutoFocus และระบบกันสั่น OIS ส่วนอีกเลนซ์นั้นจะมาพร้อมกับรูปรับแสงที่สามารถปรับได้ระหว่าง f/1.5 – f/2.4 มาพร้อมฟีเจอร์ Phase Detection AutoFocus(ที่จะช่วยทำให้ภาพคมชัดมากขึ้น) แถมด้วยระบบกันสั่น OIS อีก ทำให้ผู้ใช้สามารถที่จะถ่ายภาพแบบ Super Slo-Mo ได้แบบสบายๆ
ส่วนกล้องทางด้านหน้านั้นถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นระบบเลนซ์คู่เหมือนคู่แข่งแต่ฟีเจอร์ความแรงก็ไม่แพ้กัน โดยตัวกล้องหน้านั้นจะมีความละเอียดอยู่ที่ 8 MP รูรับแสงขนาด f/1.7 พร้อมด้วย AutoFocus นอกจากนั้นทาง Samsung ยังได้เพิ่มเทคโนโลยีที่จะช่วยแสดงจุดบกพร่องของการถ่ายภาพก่อนที่คุณจะทำการถ่ายทำให้คุณสามารถแก้ไขได้ก่อนการถ่ายภาพจริงอีกทั้งยังมีเทคโนโลยี ‘Scene Optimized Mode’ ที่จะช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพ selfie ได้อย่างเหนือกว่าด้วยการวิเคราะห์ฉากหลัง 20 ฉากที่แตกต่างกันก่อนจะเลือกมาเป็นภาพที่คุณถ่ายที่แจ่มที่สุดครับ
กลับมาที่ในส่วนของตัวเครื่องที่อาจจะไม่ได้แตกต่างมากไปกว่ารุ่นพี่อย่าง Note 8 มากเท่าไรนัก แต่จุดเด่นที่เห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนไปก็คือตำแหน่งระบบสแกนลายนิ้วมือที่ในครั้งนี้ย้ายมาอยู่ทางด้านล่างของตัวกล้องแล้วทำให้เหมาะกับทั้งผู้ที่ถนัดมือซ้ายและขวา รอบๆ ตัวเครื่องนั้นจะประกอบไปด้วยพอร์ตและปุ่มต่างๆ โดยทางด้านล่างจัมาพร้อมกับพอร์มเชื่อมต่อมาตรฐาน, ช่องลำโพง, ช่องเสียบหูฟังและเสาอากาศ ด้านข้างซ้ายตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยปุ่มเพิ่มและลดเสียงกับปุ่มเปิดปิดเครื่อง ส่วนปุ่มเรียกใช้งาน Bixby จะอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง ปิดท้ายด้วยทางด้านบนที่จะมาพร้อมกับช่องใส่ Sim และ MicroSD card ครับ
มากันที่หน้าจอของตัวเครื่องที่เป็นจุดเด่นของ Samsung เลยก็ว่าได้กับหน้าจอขนาด 6.4 นิ้วใช้พาเนลแบบ Super AMOLED รองรับความละเอียดที่ระดับ QHD+ โดยมีความหนาแน่นของจุด pixel อยู่ที่ 516 ppi ส่วนขอบทางด้านบนของตัวเครื่องนั้นจะกินพื้นที่ตัวเครื่องน้อยลงกว่า Note 8 ทั้งนี้ Galaxy Note 9 จะมีตัวเลือกสีให้เลือกถึง 4 สีได้แก่ Ocean Blue, Lavender Purple, Metallic Copper และ Midnight Black ครับ
ยังครับ ยังจบไม่ได้เพราะยังขาดอุปกรณ์หลักของซีรีย์ Note อย่าง S-Pen ที่คราวนี้นี่นทาง Samsung ได้อัพเกรดการใช้งาน S-Pen ให้มากขึ้นกว่าเดิมโดยมันสามารถที่จะทำหน้าที่เป็นรีโมทให้กับตัวเครื่อง Note 9 ได้อย่างเช่นสามารถที่จะใช้สั่งถ่ายรูปได้จากระยะไกลถึง 10 เมตร เป็นต้น โดยบนเจ้า S-Pen รุ่นใหม่นี้นั้นจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จแบบไร้สายได้โดยตรงจากตัวเครื่องโดยใช้เวลาชาร์จให้เต็มเพียงแค่ 40 วินาทีก็สามารถที่จะใช้งานได้ยาวนานถึง 30 นาทีเลยครับ
จริงๆ แล้วความสามารถของ Galaxy Note 9 ยังมีอีกหลายอย่างที่น่าสนใจครับ อย่างไรก็ตามแต่ ณ เวลานั้นในเมืองไทยเราทาง Samsung ก็ได้เปิดให้จองเครื่องแล้วโดยราคาค่าตัวเครื่องนั้นจะเริ่มต้นที่ 33,900 บาทแล้วก็ยังจะมีของแถมพิเศษให้กับผู้ที่จองภายในวันที่ 21 สิงหาคมนี้อีกด้วย งานนี้สาวก Samsung ไม่น่าพลาดเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
ที่มา : wccftech