เป็นอีกเรื่องที่มีคน Inbox และเกมเมอร์หลายคนสงสัยกันเป็นจำนวนมากว่า เวลาตั้งค่า Setting ในเกมควรติ๊กถูกใช้งาน V-Sync ไหม บางคนก็บอกว่าดีมันช่วยล็อคเฟรมเรทให้คงที่ บางคนก็บอกว่าเอ้ยมันล็อคเฟรมเรทที่ 60 ทำให้เล่นเกมได้ไม่ลื่น ซึ่งในบทความนี้ทีมงาน NBS จะมาอธิบายกันอย่างละเอียดว่าแบบไหนต้องเปิด แบบไหนต้องปิดไปดูกันเลยครับ
V-Sync คืออะไร
ก่อนอื่นเรามารู้จักกันก่อนว่า V Sync ย่อมาจาก Vertical Synchronization เป็นซอฟต์แวร์ที่คอยควบคุมกระบวนการ Refresh Rate ของการ์ดจอเวลาเล่นเกมให้เท่ากับ Hz ของหน้าจอที่เราใช้งาน
ตัวอย่าง สมมติว่าการ์ดจอของเราสามารถขับเกม PUBG ได้สูงระดับ 100 FPS แต่จอคอมเราเป็นแบบ 60 Hz ธรรมดา ทำให้การเปิด V Sync จะช่วยให้เฟรมเรทจาก 100 FPS เหลือแค่ 60 FPS เท่ากับหน้าจอเรา 60 Hz (วิ่งมากกว่า 60 FPS ไปก็ไม่เกิดประโยชน์) ซึ่งการเปิด V Sync นั้นมันช่วยคอยแก้ปัญหาภาพเหลือม ภาพฉีก หรืออาการ Tearing ของภาพนั่งเอง
แล้วควรเปิด-ปิด ตอนไหน
- เปิด V Sync ก็ต่อเมื่อการ์ดจอสามารถขับเกมได้เฟรม FPS มากกว่า Hz ของหน้าจอ เช่นการ์ดจอ GTX 1080 ขับเกม PUBG ได้ 160 FPS และจอที่ใช้เป็นแบบ 120 Hz เพื่อไม่ให้การ์ดจอทำงานหนักเกินความจำเป็นและประหยัดไฟ
- ปิด V Sync เมื่อการ์ดจอสามารถขับเกมได้เฟรม FPS น้อยกว่า Hz ของหน้าจอ เช่นการ์ดจอ GTX 1050 ขับเกม PUBG ได้ 50 FPS และจอที่ใช้เป็นแบบ 120 Hz ซึ่งถ้าเปิด V Sync จะเป็นการเร่งให้การ์ดจอทำงานหนักเพื่อให้วิ่งถึง 120 Hz กล่าวคือ ถ้าไม่เปิด V Sync ปกติ FPS จะวิ่งที่ 35-50 FPS แต่ถ้าเปิดจะวิ่งที่ 45-50 FPS ทำให้การ์ดจอกินไฟเยอะกว่าเดิมและทำงาน 100% ตลอดเวลา
ตัวอย่างเปิด V-Sync แล้วช่วยประหยัดไฟ
รวมโน๊ตบุ๊คจอมากกว่า 60 Hz มีรุ่นอะไรน่าซื้อบ้างดูได้ : ที่นี่