Connect with us

Hi, what are you looking for?

Tips & Tricks

Windows Tips – ย้าย ที่ตั้ง Desktop ไว้ที่ Drive D เพื่อประหยัดพื้นที่

ย้ายตำแหน่ง ที่ตั้ง Desktop ให้ไปใช้พื้นที่ของ Drive C หรือ Drive อื่นๆ ในคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆ เพื่อลดปัญหาเนื้อที่ Drive C เหลือน้อย สำหรับคนที่มีฮารด์ดิสความจุไม่เยอะมาก เพราะผู้ใช้ส่วนมากมักจะวางไฟล์ต่างๆหรือดาว์นโหลดมาไว้ที่หน้า Desktop กันเป็นส่วนใหญ่

ย้ายตำแหน่ง ที่ตั้ง Desktop ให้ไปใช้พื้นที่ของ Drive C หรือ Drive อื่นๆ ในคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆ เพื่อลดปัญหาเนื้อที่ Drive C เหลือน้อย สำหรับคนที่มีฮารด์ดิสความจุไม่เยอะมาก เพราะผู้ใช้ส่วนมากมักจะวางไฟล์ต่างๆ หรือดาว์นโหลดมาไว้ที่หน้า Desktop กันเป็นส่วนใหญ่ วิธีแก้ไข คือ ย้าย Desktop ไปไว้ Drive อื่นๆ

ที่ตั้ง Desktop

Advertisement

ย้าย ที่ตั้ง Desktop ไปไว้ที่ Drive D

Desktop ปกติแล้วจะเก็บไว้ที่ Drive C:\Users\<Username>\Desktop คงมีหลายๆคนที่ชอบวางข้อมูลไว้ที่หน้า Desktop เพราะง่ายต่อการเปิดใช้งาน ไม่ต้องเข้า Folder หลายๆที่ให้ซับซ้อน หรือ Folder Downloads ที่จะอยู่ C:\Users\<Username>\Downloads ที่มีการโหลดไฟล์ต่าง และสะสมเป็นเวลานาน ก็เก็บไว้ใน Drive C ด้วยเช่นกัน

ปัญหาที่ทำให้ Drive C เต็มเร็ว

เนื่องจาก Drive C นั่นมีการใช้พื้นที่เยอะทั้งจากระบบของ Windows เอง ทำให้เป็นสาเหตุให้ Drive C นั่นเต็มเร็วกว่า Drive D นั่นเอง หากเคยเป็นในกรณีที่ Windows เสียหายจนไม่สามารถเข้าได้นั่น หากเราทำการย้าย Desktop ไปไว้ที่ Drive D นั่นจะทำให้ข้อมูลเรานั่นยังอยู่ครบ ไม่ต้องคอย Backup เก็บไว้อีกด้วย

ย้าย Desktop ให้ไปใช้พื้นที่ไดรฟ์ D

ทางทีมงานจึงมี วิธีการย้ายที่เก็บข้อมูลของ Desktop ไปเก็บไว้ที่ Drive D เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวมา ซึ่งสามารถใช้งานเหมือนเดิมเพียงแต่เปลี่ยนที่เก็บของข้อมูล และขั้นตอนนี้สามารถใช้ได้กับ \Downloads , \Music , \Pictures , \Videos, \Documents ได้อีกด้วย  โดยขั้นตอนนี้รองรับทั้ง Windows 7, Windows 8, Windows 8.1, Windows 10

ย้าย Desktop ให้ไปใช้ที่ Drive D เพื่อประหยัดเนื้อที่ ไดรฟ์ C

ก่อนอื่นให้เราทำการปิดโปรแกรมหรือไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ใน Desktop หรือ โฟลเดอร์ที่เราจะทำการย้ายไป

จากนั้นให้เราเข้าไปที่ Computer หรือ This PC หรือที่เราคุ้นหูกันว่า My Computer

001

ตามด้วยเข้าไปที่ Drive C

Screenshot 3

จากนั้นไปที่โฟลเดอร์ Users

Screenshot 2

เลือกชื่อ Username ของเราที่ใช้งานอยู่ (ในตัวอย่างนี้เลือก Username: Admin)

Screenshot 4

เมื่อเข้าไปที่ Folder Admin ก็จะเจอกับ Folder Desktop ที่ต้องการจะทำการย้าย ให้ทำการคลิกขวาที่ Folder Desktop จากนั้นให้เลือก Properties

Screenshot 5

จากนั้นคลิกที่แท็บ Location แล้วจะเห็น ที่ตั้ง Desktop ตามรูปตัวอย่างคือ C:\Users\Admin\Desktop

Screenshot 6

จากนั้นให้เรา ทำการแก้ที่ตั้ง Desktop ให้เป็นตามที่เราต้องการเช่น D:\Desktop เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยให้กด OK

Screenshot 5 1

จากนั้นจะมีข้อความแจ้งขึ้นมาว่า ไม่มี folder ที่จะย้ายไปให้ทำการสร้างใหม่ขึ้นมาเลยไหม คลิก Yes เพื่อทำต่อ

Screenshot 6 1

คลิก Yes ยืนยันการย้ายที่อยู่ของโฟลเดอร์ จากนั้นจะทำการ Move ข้อมูลทั้งหมดไปยังที่ใหม่ ให้เรารอจนกว่าจะย้ายเสร็จ

Screenshot 8

หลังจากย้ายเสร็จแล้วก้อจะมีข้อมูลใน Folder Desktop ที่ได้ทำการสร้างไว้ เหมือนข้อมูลที่ Desktop

Screenshot 9

คราวนี้เราก็ไม่ต้องกลัวข้อมูลจะหายกรณีที่ลงวินโด้ใหม่อีกแล้ว แถมวิธีนี้ยังสามารถใช้กับโฟลเดอร์อื่นๆ ได้อีก เช่น My Documents, Downloads, My Pictures, My Music, My Videos หรือ Folder อื่นๆที่อยู่ภายใต้ Folder Username ของเรา

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

CONTENT

10 Tips Microsoft Edge 2024 ช่วยทำงานไว ปรับแต่งง่าย ใช้งานสะดวกกว่าเดิมเยอะ Microsoft Edge อีกหนึ่งเว็บเบราว์เซอร์ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และยังไม่ต้องไปหาดาวน์โหลดเพิ่ม เพราะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแล่ว อย่างล่าสุด Windows 11 ก็พร้อมใช้งาน และยังมีฟีเจอร์อย่าง Microsoft Copilot เข้ามาเพิ่มความสามารถให้ใช้งาน AI ได้สะดวกยิ่งขึ้น...

How to

รวมไฟล์ word 2024 ลดขั้นตอนด้วยวิธีง่ายๆ เพิ่มความรวดเร็ว ทั้งออนไลน์และฟรีซอฟต์แวร์ คุณเคยสงสัยไหมว่าการรวมไฟล์ Word สามารถทำได้ง่ายแค่ไหน? ความจริงแล้วมีวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการจัดการกับงานนี้ ด้วยการใช้เครื่องมือและซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย คุณสามารถรวมไฟล์ Word ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะมีเอกสารกี่ไฟล์ ก็สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น. รวมไฟล์ word แบบง่ายๆ การเลือกใช้โปรแกรมที่เหมาะสม การรวมไฟล์ word ด้วย Microsoft...

How to

โลกในตอนนี้ไม่สามารถตัดขาดจากอินเทอร์เน็ตได้เลยไม่ว่าจะเรื่องงานหรือความบันเทิงก็ต้องใช้มันทั้งนั้น แต่อุปกรณ์ไอทีทุกชิ้นต่างต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ตบ้างให้อุปกรณ์ได้โหลดการตั้งค่ากลับมาใหม่อีกครั้งเป็นระยะๆ เพื่อให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการรีเซ็ตสัญญาณจะคล้ายกับวิธีการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ต่อ Wi-Fi ไม่ได้ แต่ในบทความนี้จะเน้นเรื่องลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาเน็ตบ้านหรือเน็ตออฟฟิศใช้งานไม่ได้ด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นก่อนติดต่อช่างให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในภายหลัง เมื่อไหร่ต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ต? ทำแล้วดีอย่างไร? การรีเซ็ตสัญญาณอินเทอร์เน็ตนอกจากการปิดเปิดเราเตอร์ ก็รวมถึงการรีเซ็ตในระบบปฏิบัติการด้วย ถ้าไดรเวอร์มีปัญหาสามารถกด Roll Back driver หรือโหลดมาติดตั้งใหม่จะช่วยแก้ปัญหาได้ ถ้ารีเซ็ตสัญญาณแล้วใช้งานไม่ได้ อาจเกิดปัญหาจาก Node กระจายสัญญาณของผู้ให้บริการก็ได้ เมื่อติดตั้งเน็ตบ้านเอาไว้แล้ว แนะนำให้ขอบัญชีและรหัสผ่านเอาไว้เข้าไปตั้งค่าเราเตอร์เผื่อไว้ด้วย 6 วิธีรีเซ็ตสัญญาณเน็ตด้วยตัวเอง...

How to

นอกจากรู้วิธีกดติดตั้ง, เปิดและปิดโปรแกรมแล้ว Windows 11 เองก็มีคีย์ลัดวินโดว์ 11 ให้ผู้ใช้ทำงานได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากคำสั่งพื้นๆ อย่าง Copy/Paste และ Cut แล้ว ในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ก็มีปุ่มลัดอื่นเสริมเข้ามาให้ใช้อีกมากมายกว่า 100 คำสั่ง ซึ่งหลายคนอาจรู้สึกว่ามันเยอะเกินไปจนไม่รู้จะใช้ยังไงให้ครบทุกอย่าง ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าทาง Microsoft เองใส่มาก็ไม่ใช่ว่าจะให้ผู้ใช้กดทุกคำสั่ง เพราะคีย์ลัดบางตัวก็อยู่กับโปรแกรมเฉพาะบางอย่างซึ่งเราอาจจะไม่ได้เปิดใช้บ่อยๆ และยังไม่รวมกับคำสั่งแยกเฉพาะของแต่ละโปรแกรมอีก ซึ่งเราเลือกจำเฉพาะคำสั่งใช้งานบ่อยก็เพียงพอแล้ว วิธีการกดคีย์ลัดวินโดว์...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก