พึ่งจะวางจำหน่ายไปได้ไม่นานเท่าไรผู้ใช้ก็พบปัญหาของ MacBook Pro 2018 เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ โดยปัญหาดังกล่าวนี้นั้นถูกค้นพบโดยคุณ Dave Lee ซึ่งเป็น Youtuber ที่ได้ทำการซื้อ MacBook Pro 2018 รุ่นท๊อปสุดที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Core i9 โดยปัญหาที่เขาพบนั้นเรียกได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่เลยครับเนื่องจากว่าประสิทธิภาพของตัวเครื่อง(ราคาแสนกว่าเกือบจะ 2 แสน) ต่ำกว่าที่คาดไว้โดยมันต่ำจนถึงขั้นที่ว่าประสิทธิภาพของมันนั้นต่ำกว่า MacBook Pro 2017 อีกครับ
แน่นอนครับเมื่อเขาได้พบกับปัญหาเข้าแบบนี้คุณ Dave Lee ก็ได้ทำคลิปเพื่อบอกถึงปัญหาดังกล่าวขึ้นมาซึ่งแน่นอนว่าในยุคสัมยที่ข่าวใน Social นั้นกระจายได้เร็วเอามากๆ และก็ไปเข้าหูของทางฝั่ง Apple อย่างจัง งานนี้นั้นก็ต้องมีการแก้ไขกันบ้างละครับ โดยทาง Apple ได้บอกเอาไว้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดมาจากข้อผิดพลาดของตัวฮาร์ดแวร์อต่เป็นในส่วนของซอฟต์แวร์(macOS) ที่มีปัญหาไม่เข้ากับหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ งานนี้ทาง Apple ก็เลยต้องจัดอัพเดทระบบปฎิบัติการ macOS Sierra ในเวอร์ชัน 10.13.6 ปล่อยออกมาครับ
หลังจากที่ทำการแก้ไขแล้วนั้นคุณ Dave Lee ก็ได้ทำการทดสอบอีกรอบซ฿่งพบว่าในคราวนี้นั้น MacBook Pro 2018 ที่มาพร้อมกับ Core i9 นั้นมีประสิทธิภาพโดยรวมสูงขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับรุ่นท๊อปของ MacBook Pro 2017 ที่ใช้ Core i7 ซึ่งหากจะพูดกันไปตามตรงแล้วนั้นมันก็ยังไม่ค่อยจะน่าประทับใจมากนักเนื่องจากตามคำโฆษณาของทาง Apple นั้นบอกว่า MacBook Pro 2018 รุ่นที่มาพร้อมกับ Core i9 นั้นจะมีประสิทธิภภาพสูงกว่ารุ่น 2017 ที่ใช้ Core i7 อย่างน้อยก็ 50% ครับ
จริงๆ แล้วหากเราจะลองมาคิดกันดูดีๆ แล้วนั้นปัญหาดังกล่าวอาจจะไม่ได้มาจากซอฟต์แวร์เพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นเนื่องจากว่า MacBook Pro 2018 นั้นยังคงใช้ดีไซน์ตัวเครื่องรูปแบบเดิมกับในปี 2017 อยู่ ซึ่งแน่นอนว่าระบบระบายความร้อนนั้นย่อมเหมือนกันอยู่แต่อัตรการคายความร้อนของ Core i9 นั้นมากกว่า Core i7 อยู่พอสมควร ดังนั้นประสิทธิภาพของมันก็คงจะไม่สามารถดึงมาใช้งานได้อย่างเต็มที่เนื่องจากว่าความร้อนสะสมในเครื่องย่อมมากกว่ารุ่น Core i7 อยู่พอสมควร ซึ่งนี่อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมาครับ
ที่มา : wccftech